หัวข้อ: กลอนกลบทสะบัดสะบิ้ง (คนละบทจ้ะ) เริ่มหัวข้อโดย: อริญชย์ ที่ 17 เมษายน 2012, 08:35:AM นกกระทุงริมคลอง "กระย่องกระแย่ง"
ยื่นปากแกว่งกวัดน้ำ "ระส่ำระสาย" ฝูงมัจฉาแตกพลัด"กระจัดกระจาย" ต่างแหวกว่ายกำสรด"ระทดระทม" อริญชย์ ๑๗/๔/๒๕๕๕ ปล. เชิญแต่งกลอนกลบทสะบัดสะบิ้ง คนละบทจ้ะ (หัดแต่งอะไรก็ได้) แต่ขอให้ลงสัมผัสกันรับกันกับบทที่ผ่านมา เหตุผล: เพื่อเป็นการหัดแต่งกลอนกลบท ซึ่งเป็นกลอนฝีมือชั้นครู (เราสำนวนนักเรียน ก็ลองผิดลองถูกค่อยเป็นค่อยไปก่อนก็จะเป็นประโยชน์มากมายเน๊าะ) ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ: จินตนาการของเรา อาจมีผู้นำไปคิดต่ออีกมากมาย จุดประสงค์: อนุรักษ์ภาษาไทย emo_107 emo_60 emo_84 emo_60 emo_107 ตัวอย่างเพิ่มเติมกลบทสะบัดสะบิ้ง อ.บอม ซอง ดุ๊ก http://www.klonthaiclub.com/index.php?topic=12227.0 (http://www.klonthaiclub.com/index.php?topic=12227.0) หัวข้อ: Re: กลอนกลบทสะบัดสะบิ้ง (คนละบทจ้ะ) เริ่มหัวข้อโดย: ปราชญ์ศรีกวีน้อย ♥ ที่ 17 เมษายน 2012, 08:40:AM เสร็จแล้ว!!!! แถมเบื้องหลังการถ่ายทำ 555
มาเขียนวน กลบท "สะบัดสะบิ้ง" ให้เพราะพริ้ง คำคละ สละสลวย ให้ดื่มด่ำ คำคุ้ม กระชุ่มกระชวย ให้ชอบด้วย คำอุ่น ละมุลละไม ก่อนจะเริ่ม ใจตก ระหกระเหี่ย หาคำใช้ ไม่รายเรี่ย ฉะนี้ฉไน ก็ท้อแท้ หมดสนิท กระจิตกระใจ แล้วเริ่มไล่ เรียงศัพท์ ประคับประคอง หลังรวมได้ ตัวฉัน ขมันขมี เรียงวลี ร้อยผล สนนสนอง แข่งเวลา แข่งประสงค์ ประลงประลอง เพราะใจร้อง อย่างเรียก ตะเกียกตะกาย "สะบิ้งสะบัด" ขัดกฎ จากบทเก่า สลักเสลา หน้างบ้าง ทางหลังหาย สติสตัง เริ่มรุด หลุดจากกาย กระจัดกระจาย จนพอ จึงขอลา~ ความรู้เพิ่มเติม ถ้าเล่นคำด้านหน้า เป็นกลบท"สะบิ้งสะบัด" ด้านหลังคือกลบท"สะบัดสะบิ้ง" ตรงกลางจะเป็นกลบท"สะบัดจริงสะบิ้งจัด" หน้าหลังจะเป็นกลบท"นานาสะบัดสารพัดสะบิ้ง" (http://a2.sphotos.ak.fbcdn.net/hphotos-ak-ash3/563128_3668179146776_1343743434_33623005_1183998291_n.jpg) หัวข้อ: Re: กลอนกลบทสะบัดสะบิ้ง (คนละบทจ้ะ) เริ่มหัวข้อโดย: รการตติ ที่ 17 เมษายน 2012, 09:55:AM นกกระทุงริมคลอง "กระย่องกระแย่ง" ยื่นปากแกว่งกวัดน้ำ "ระส่ำระสาย" ฝูงมัจฉาแตกพลัด"กระจัดกระจาย" ต่างแหวกว่ายกำสรด"ระทดระทม" อริญชย์ ๑๗/๔/๒๕๕๕ (http://uc.exteenblog.com/kengkadeng/images/Entry0901/love-tree-001.gif) ต้นรักสะบักสะบอม (http://www.whenifallinlove.net/diary/images_line/line8/12852_75753.gif) วาดสวนสวยอย่างดีกะวีกะวาด เหลือยังขาดคำหวานผสานผสม จึงพรวนดินกันจืดพะอืดพะอม เกือบจ่อมจมดินช่างกระด้างกระเดื่อง ฝนลมเทเฉไฉกระไอกระอัก เดินจมปลักเลยทุกข์กระตุกกระเตื้อง กลัวต้นรักบอบช้ำมะลำมะเลือง กลายเป็นเรื่องฉับพลันประพันธ์ประพนธ์ รักน่ะรักแม้เลอะกระเซอะกระเซิง พื้นว้างเวิ้งสรรแต่งทุกแห่งทุกหน แม้ใจนี้ร้าวรานพิการพิกล หวังสักหนเพาะชำดูดำดูดี แต่ต้นรักใบตวัดสะบัดสะบิ้ง คล้ายถูกสิงใจฝันขมันขมี ปลูกต้นรักยวนเย้ากระเซ้ากระซี้ เหมือนย่ำยีใครเขาพะเน้าพะนอ ดูยิ่งปลูกยิ่งกร่อนกระท่อนกระแท่น เหมือนไร้แผนเชยชิดประติดประต่อ ทั้งที่ใจอ่อนเพลียมาเคลียมาคลอ ยวนหยอกล้อคำนึงรำพึงรำพัน ไม่อยากพรวนดินขมผสมผเส ยามฝนเทปุ๋ยหกเลยผกเลยผัน สวนปลูกกลายวิเวกเอนกอนันต์ ไร้สีสันด้อยค่าพะว้าพะวัง จึงทำได้เพียงเพ้อเขย่อเขย่ง ด้นบทเพลงโง่โง่พิโถ่พิถัง กว่าฟื้นคืนสมาธิสติสตัง ก็ภินท์พังล้มพัดกระจัดกระจาย สวนสวยเลยเย็นเยียบระเบียบระบบ ใจสงบเคยพร่ำระส่ำระสาย วอนขอฝากรอยยิ้มประพิมประพาย แม้สุดท้ายต้นรักสะบักสะบอม.... (http://www.whenifallinlove.net/diary/images_line/line8/12852_75753.gif) รการตติ (http://uc.exteenblog.com/kengkadeng/images/Entry0901/love-tree-003-broke.gif) หัวข้อ: Re: กลอนกลบทสะบัดสะบิ้ง (คนละบทจ้ะ) เริ่มหัวข้อโดย: สมนึก นพ ที่ 17 เมษายน 2012, 10:40:AM นกกระทุงริมคลอง "กระย่องกระแย่ง" ยื่นปากแกว่งกวัดน้ำ "ระส่ำระสาย" ฝูงมัจฉาแตกพลัด"กระจัดกระจาย" ต่างแหวกว่ายกำสรด"ระทดระทม" อริญชย์ ๑๗/๔/๒๕๕๕ .................... มีตัวหนึ่งแยกมาปลาหมงปลาหมอ ดักเหยื่อรอจำเพาะเหมาะสงเหมาะสม ลูกปลาน้อยอึดโผล่โง่งงโง่งม โดนฟันคมกัดกดระทดระทวย. นพ 17 เม.ย.55 หัวข้อ: Re: กลอนกลบทสะบัดสะบิ้ง (คนละบทจ้ะ) เริ่มหัวข้อโดย: อริญชย์ ที่ 17 เมษายน 2012, 11:01:AM นกกระทุงริมคลอง "กระย่องกระแย่ง" ยื่นปากแกว่งกวัดน้ำ "ระส่ำระสาย" ฝูงมัจฉาแตกพลัด"กระจัดกระจาย" ต่างแหวกว่ายกำสรด"ระทดระทม" อริญชย์ ๑๗/๔/๒๕๕๕ .................... มีตัวหนึ่งแยกมาปลาหมงปลาหมอ ดักเหยื่อรอจำเพาะเหมาะสงเหมาะสม ลูกปลาน้อยอึดโผล่โง่งงโง่งม โดนฟันคมกัดกดระทดระทวย. นพ 17 เม.ย.55 ปูตัวน้อยอวดก้าม “ถลำถลา” รวมกันมาเป็นกลุ่ม “อะลุ่มอล่วย” ปลาเห็นปูเป็นกลุ่ม “กระชุ่มกระชวย” จึงเข้าด้วยกับปู “กระจู๋กระจี๋” อริญชย์ ๑๗/๔/๒๕๕๕ emo_107 emo_60 emo_107 http://www.youtube.com/watch?v=r6wsd5y8lNA หัวข้อ: Re: กลอนกลบทสะบัดสะบิ้ง (คนละบทจ้ะ) เริ่มหัวข้อโดย: เนิน จำราย ที่ 17 เมษายน 2012, 11:17:AM ค่อยใคร่ครวญแล้วหยิบกระปริบกระปรอย
คิดถึงนวลเนื้อกลอยเคยกระซิกกระซี้ เจ้ากลับกลายหายไปไม่พิไรพิรี้ ในใจพี่ตะลึงงันสพรั่นสพรึง เนิน จำราย หัวข้อ: Re: กลอนกลบทสะบัดสะบิ้ง (คนละบทจ้ะ) เริ่มหัวข้อโดย: สมนึก นพ ที่ 17 เมษายน 2012, 11:30:AM ปูตัวน้อยอวดก้าม “ถลำถลา” รวมกันมาเป็นกลุ่ม “อะลุ่มอล่วย” ปลาเห็นปูเป็นกลุ่ม “กระชุ่มกระชวย” จึงเข้าด้วยกับปู “กระจู๋กระจี๋” อริญชย์ ๑๗/๔/๒๕๕๕ ................ ปูวางแผนกลับกลอกหลอกหลงหลอกล่อ ด้วยเป็นต่อก้ามใหญ่ไม่หน่ายไม่หนี ยังหมายตาปลาล้วนอ้วนพงอ้วนพี หนีบทันทีแอบต่อกอบงกอบัว. นพ 17เม.ย.55 หัวข้อ: Re: กลอนกลบทสะบัดสะบิ้ง (คนละบทจ้ะ) เริ่มหัวข้อโดย: บ้านริมโขง ที่ 17 เมษายน 2012, 12:53:PM (http://img1.imagehousing.com/1/48c747adaa87a5a015b8f58a030e8ec5.jpg) (http://www.imagehousing.com/image/420793) emo_20 ท่านอริญชญ์ช่างสรร คำนั้นคำนี้ มาชวนชี้สู่ฝัน สุขสันต์สุขสม คนนั้นนิดคนนี้หน่อย ค่อยชื่นค่อยชม แสนภิรมย์สมสู่ ทุกผู้ทุกคน ด้วยใจด้วยจิต คิดด้วย เป็นมวยวัด อาจเซอาจซัด ตัดขาให้พาหม่น ไม่ซมไม่ซ้อม ยอมชก ตลกตน ถลุงถลน ป่นแน่ มาแพ้ทาง มองกองเชียร์เพลียใจ ให้เหงาให้หงอย มองน้องกลอยกลับเมิน เขาเหินเขาห่าง มองคู่ชกอกเด่น เกินเว้นเกินวาง มองช่วงล่าง อย่างเพลิน เกินว่างเกินเว้น กัดฟงกัดฟัน ขันสู้ เป็นคู่ชก จิ้งจักจิ้งจก ร้องทัก ไม่ยักเห็น ประหมกประหมัด ขัดศอกตอกกระเด็น เข้าคุมเข้าเค้น เห็นจังจัง..ต้องนั่งงง รูปมวยเขา กับฉัน เต้นตันเต้นตอด หมัดส่ายสอดกอดปล้ำ จะซ้ำจะส่ง ตีกรรเชียงเลี่ยงหาย ส่ายเอวส่ายองค์ ปล่อยหมัดส่งตรงเป้า จนเง้าจนงอน กรรมกงกรรมการ ลนลาน เข้ากางกั้น ตรงโน้นตรงนั้น มันฟาล์ว เขากล่าวสอน เอาหมงเอาหมัด ซัดเข้า เศร้าแน่นอน เจ้าหลงเจ้าหล่อน เป็นหญิง เลือกสิ่งควร.. emo_26 "บ้านริมโขง" ๑๗ เมษายน ๒๕๕๕ (http://img1.imagehousing.com/1/d0072d6ff641fe862d02d88c2f78eef8.gif) (http://www.imagehousing.com/image/380735) ขออำไพให้วางคนละบท ผมกลับกดลงไว้..ไปหนึ่งเรื่อง emo_45 หัวข้อ: Re: กลอนกลบทสะบัดสะบิ้ง (คนละบทจ้ะ) เริ่มหัวข้อโดย: กามนิต ที่ 17 เมษายน 2012, 02:25:PM "สะบิ้งสะบัด" ชัดชัด "สะบัดสะบิ้ง" เสียงกระดิ่งรรรรัวมิทั่วมิถ้วน หนูกลัวแล้วแมวคราวยะเย้ายะยวน กะผูกกระพรวนก็เกร็งเพราะเกรงเพราะกลัว (แหะๆ แหมะมาหนึ่งหยด emo_20) กามนิต - ๑๗ เม.ย.๕๕ หัวข้อ: Re: กลอนกลบทสะบัดสะบิ้ง (คนละบทจ้ะ) เริ่มหัวข้อโดย: ไร้นวล^^ ที่ 17 เมษายน 2012, 04:13:PM (http://www.qzub.com/bar_189.gif) (http://www.qzub.com) ประกวดประชันกันสะเด็ดสะเด่า อาจบรรเทาโศกให้สลายสลัว เฝ้าขีดเฝ้าเขียนกันระเริงระรัว ทั้งเย้าทั้งยั่วจนหัวโยกหัวคลอน ทะเล่อทะล่าแต่งคำกะป้ำกะเป๋อ หวังได้เจอได้ฟังคนสั่งคนสอน จะตกจะแต่งคำกาพย์คำกลอน ให้งามให้งอนไว้อ้อนไว้รัก emo_85 (http://www.qzub.com/bar_189.gif) (http://www.qzub.com) หัวข้อ: Re: กลอนกลบทสะบัดสะบิ้ง (คนละบทจ้ะ) เริ่มหัวข้อโดย: พี.พูนสุข ที่ 17 เมษายน 2012, 05:08:PM รักใสใส..วัยหวาน สะท้านสะทก
รักโกหก..กลับดึก กระอึกกระอัก รักกวนกวน.. ล้ำลึก กระชึกกระชัก รักอกหัก..ร้อนรน กระวนกระวาย. (http://image.ohozaa.com/i/9b1/jrsta.gif) (http://image.ohozaa.com/view2/7MZ) พี.พูนสุข หัวข้อ: Re: กลอนกลบทสะบัดสะบิ้ง (คนละบทจ้ะ) เริ่มหัวข้อโดย: เมฆสีรุ้ง ที่ 17 เมษายน 2012, 05:19:PM ยามรักเริ่ม เติมเต็ม จะเค็มจะหวาน ยามรักบาน ขานขับ ขยับขยาย ยามรักเบื่อ เยื่อรัก กระจัดกระจาย ยามรักตาย ลายเลิศ กระเจิดกระเจิง หัวข้อ: Re: กลอนกลบทสะบัดสะบิ้ง (คนละบทจ้ะ) เริ่มหัวข้อโดย: อริญชย์ ที่ 17 เมษายน 2012, 05:27:PM “สะบักสะบอม”
ยังแต่งไม่ค่อยถนัด “สะบัดสะบิ้ง” คำอ้อยอิ่งจึงลง “ตะกรงตะกร้า” มิตรอย่าพูดให้โศก “กะโหลกกะลา” เดี๋ยวถึงครูอังคณา “ประสาประสี” พอแต่งได้โดยอ้อม “กะล่อมกะแล่ม” เติมกลแต้มไม่ชัด “ถนัดถนี่” บทกลอนจึงได้ดู “กระบู้กระบี้” หลายท่านชี้คำผิด “กระบิดกระบวน” เป็นนักกลอนนอนกลุ้ม “กระบุ่มกระบ่าม” ร้อยกรองงามยากนัก “กระอักกระอ่วน” ยิ่งแต่งก็ยิ่งงง “สำนงสำนวน” อ่านทบทวนรู้สึก “กระยึกกระยือ” ฯ อริญชย์ ๑๗/๔/๒๕๕๕ emo_107 emo_60 emo_107 http://www.youtube.com/watch?v=rFwB0f8HhRI หัวข้อ: Re: กลอนกลบทสะบัดสะบิ้ง (คนละบทจ้ะ) เริ่มหัวข้อโดย: ไพร พนาวัลย์ ที่ 18 เมษายน 2012, 01:45:AM เห็นกลบทน่ามอง กระย่องกระแย่ง รีบปะแป้งแต่งองค์ กระสงกระสือ (โดนวางยา) emo_56 อักษรไหนไล่ยึด ตะพึดตะพือ นั่งตาปรือหงุบหงับ ประคับประคอง คุณอริญชย์จินต์สุข สนุกสนาน ร่ายกลอนกานท์วานเกลอ เสนอสนอง ดั่งลับมีดขีดสี กระบี่กระบอง ลับสมองลองปัญญา ประดาประดัง emo_19 กระเสือกกระสน ขนขัด สะบัดสะบิ้ง กระตุ้งกระติ้ง วิ่งหลบ กระทบกระทั่ง พะยักพะเยิด เจิดจ้า พะว้าพะวัง ระร้าระรัง จุ้นจ้าน สะท้านสะเทือน emo_15 อีหลักอีเหลื่อ เนื้อนุ่ม กระจุ๋มกระจิ๋ม ประพร้ายประพริม ยิ้มเก้อ เสมอเสมือน พะวักพะวง หลงปลื้ม มิลืมมิเลือน จะเยี่ยมจะเยือน เงื่อนงำ มะลำมะลอย emo_52 “ไพร พะวักพะวัลย์” emo_51 หัวข้อ: Re: กลอนกลบทสะบัดสะบิ้ง (คนละบทจ้ะ) เริ่มหัวข้อโดย: ปราชญ์ศรีกวีน้อย ♥ ที่ 19 เมษายน 2012, 06:22:AM จะกี่ดึก สะอึกสะอื้น ยืนมองฟ้า
ว่าจันทรา ประชดประชัน ฉันนั้นหรือ โอบอุ้มรัก ละเมียดละไม ในอุ่นมือ ดลรักดื้อ ตลบตะแลง เหมือนแกล้งกัน ประคับประคอง ข่มใจ ละไมละเมียด กระฟัดกระเฟียด ฮึดขยี้ ขมีขมัน สราญสรมณ์ แปลงบท ประชดประชัน ตะบี้ตะบัน จนรัก ทะลักทะลาย @ปราชญ์ศรีกวีน้อย emo_89 emo_89 ใครที่ยังแต่งไม่คล่องผมแนะนำว่าลองจดคำใส่สมุดไว้ก่อนเลยหาจากคนที่เคยแต่งกลบทพวกนี้ไว้นี่แหละครับ จะทำให้ครั้งต่อไปนึกอยากแต่งจะได้ง่ายขึ้นมากๆ สำหรับคนที่ลองแต่งแล้วผมยังเห็นบางคนเข้าใจกลบทนี้ผิดอยู่ โดยจะเขียนเป็นผังได้ดังนี้ (ตัวอย่าง กลบท"สะบัดสะบิ้ง") XXX XXX อะAอะA XXX XXX อะBอะB XXX XXX อะCอะC XXX XXX อะDอะD โดยคำที่ใช้จะต้องเป็นเสียง อะ(_)อะ(_) บางคนใช้คำเหมือนกันแทนคำอะเช่น ไม่รงไม่รู้ ไม่รู้ไม่ชี้ เป็นต้น อย่างนี้คือใช้ไม่ได้จะผิดหลักกลบทนี้ emo_126 ขอบคุณครับ emo_89 หัวข้อ: Re: กลอนกลบทสะบัดสะบิ้ง (คนละบทจ้ะ) เริ่มหัวข้อโดย: blackbear ที่ 19 เมษายน 2012, 08:10:AM จะกี่ดึก สะอึกสะอื้น ยืนมองฟ้า ว่าจันทรา ประชดประชัน ฉันนั้นหรือ โอบอุ้มรัก ละเมียดละไม ในอุ่นมือ ดลรักดื้อ ตลบตะแลง เหมือนแกล้งกัน ประคับประคอง ข่มใจ ละไมละเมียด กระฟัดกระเฟียด ฮึดขยี้ ขมีขมัน สราญสรมณ์ แปลงบท ประชดประชัน ตะบี้ตะบัน จนรัก ทะลักทะลาย @ปราชญ์ศรีกวีน้อย เพราะความรักแผลงฤทธิ์ตะขิดตะขวง เพราะลิ้นลวงไม่จริงสวิงสวาย เพราะคารมอ่อนหัดกระจัดกระจาย เพราะหญิงชายพูดจบตลบตะแลง ความรักเหมือนโรคาประดาประดั่ง มิระวังปะทะขยะแขยง ใครหลวมตัวมิหลบประจบประแจง ต้องลงแดงกำสรดระทดระทวย หัวข้อ: Re: กลอนกลบทสะบัดสะบิ้ง (คนละบทจ้ะ) เริ่มหัวข้อโดย: กามนิต ที่ 19 เมษายน 2012, 09:13:AM จะกี่ดึก สะอึกสะอื้น ยืนมองฟ้า ว่าจันทรา ประชดประชัน ฉันนั้นหรือ โอบอุ้มรัก ละเมียดละไม ในอุ่นมือ ดลรักดื้อ ตลบตะแลง เหมือนแกล้งกัน ประคับประคอง ข่มใจ ละไมละเมียด กระฟัดกระเฟียด ฮึดขยี้ ขมีขมัน สราญสรมณ์ แปลงบท ประชดประชัน ตะบี้ตะบัน จนรัก ทะลักทะลาย @ปราชญ์ศรีกวีน้อย emo_89 emo_89 ใครที่ยังแต่งไม่คล่องผมแนะนำว่าลองจดคำใส่สมุดไว้ก่อนเลยหาจากคนที่เคยแต่งกลบทพวกนี้ไว้นี่แหละครับ จะทำให้ครั้งต่อไปนึกอยากแต่งจะได้ง่ายขึ้นมากๆ สำหรับคนที่ลองแต่งแล้วผมยังเห็นบางคนเข้าใจกลบทนี้ผิดอยู่ โดยจะเขียนเป็นผังได้ดังนี้ (ตัวอย่าง กลบท"สะบัดสะบิ้ง") XXX XXX อะAอะA XXX XXX อะBอะB XXX XXX อะCอะC XXX XXX อะDอะD โดยคำที่ใช้จะต้องเป็นเสียง อะ(_)อะ(_) บางคนใช้คำเหมือนกันแทนคำอะเช่น ไม่รงไม่รู้ ไม่รู้ไม่ชี้ เป็นต้น อย่างนี้คือใช้ไม่ได้จะผิดหลักกลบทนี้ emo_126 ขอบคุณครับ emo_89 ต้องขออภัยคุณปราชญ์ศรีกวีน้อย ที่ต้องแย้งไว้ตรงนี้นะครับ ผมไม่ค่อยจะเห็นด้วยเท่าไหร่กับที่คุณบอกว่า "โดยคำที่ใช้จะต้องเป็นเสียง อะ(_)อะ(_) บางคนใช้คำเหมือนกันแทนคำอะเช่น ไม่รงไม่รู้ ไม่รู้ไม่ชี้ เป็นต้น อย่างนี้คือใช้ไม่ได้จะผิดหลักกลบทนี้" เหตุเพราะว่ากลบทสะบัดสะบิ้งนี้ มีต้นแบบมาจาก ศิริวิบุลกิตติ์ ของหลวงศรีปรีชา (เซ่ง) สมัยอยุธยา และกลอนตัวอย่างก็เห็นชัดว่าไม่ได้บังให้ให้เป็น อะ(_)อะ(_) อย่างที่คุณกล่าวมา ในครั้งนั้นเวไชยันต์ก็หวั่นก็หวาด สะท้านอาสน์เทวฤทธิ์สถิตสถิน ปาริชาติฉาดฉัดระบัดระบิน พิภพอินท์ก้องดังกะทั่งกะเทือน (อ้างอิงจากเว็บไซต์ราชบัณฑิตยสถาน <<คลิก>> (http://www.royin.go.th/th/knowledge/detail.php?ID=4145)) ในทำนองเดียวกัน ในกลบทสุภาษิต ของหลวงธรรมาภิมณฑ์ (ถึก จิตรกถึก) กวีสมัยรัตนโกสินทร์ ก็แต่งกลสะบัดสะบิ้ง อย่างกริยาสะบัดสะบิ้ง โดยมิได้ บังให้ให้เป็น อะ(_)อะ(_) แต่อย่างใด ดังตัวอย่าง เห็นท่านที่ มีทรัพย์ จะจับจะจ่าย ดูฟูมฟาย มิได้หน่วง จะห่วงจะหัว ทั้งเก็บได้ ใชพลัน ไม่พันไม่พัว อย่าเผลอตัว ตามท่าน ใช่การใช่กล (อ้างอิงจากเว็บไซต์บ้านจอมยุทธ <<คลิก>> (http://www.baanjomyut.com/library/thai_literature/kollabot/02.html)) โดยส่วนตัว ผมเห็นด้วยกับคุณบอม ซองดุ๊ก และคุณวฤก ที่ว่าคำซ้ำคู่อักษร XYXY นั้น หากไม่อยากให้คำยาวยืดยาด ก็จะใช้เสียงเบา (ลหุ) ที่ตำแหน่ง X (ไม่ได้บังคับ เป็นแต่เพียงข้อเสนอแนะ) เมื่ออ่านคำจะสะบัดสะบิ้งมากกว่าการใช้คำหนักทั้ง 4 คำ มิใช่ว่าต้องบังคับให้ X เป็นคำ "อะ" ไปเสียทั้งสิ้นนะครับ Oo..ขออณุญาต นำกลอนกลบทของอาจารย์วฤก มาลงเพื่อเป็นตัวอย่างที่ถูกต้องแก่เพื่อนๆครับ..oO ([url]http://drnui.com/poempix/chomnok.jpg[/url]) กลอนกลบทสะบัดสะบิ้ง กำหนดให้คำท้ายวรรคเปลี่ยนเป็นคำซ้ำอักษรสองคู่ ตัวอย่างเช่นกลอนแปดเดิมนิยมแบ่งคำเป็น 000 00 000 เมื่อจะเขียนแบบกลบทสะบัดสะบิ้งสามคำหลังจะต้องเปลี่ยนเป็นคำซ้ำอักษรสองคู่ดังนี้ 000 00 XYXY นั่นคือซ้ำอักษร X กับ Y เมื่อขยายสามคำหลังเป็นคำซ้ำสองคู่แล้ว สามคำนี้จะอ่านได้ 4 พยางค์ ซึ่งอาจทำให้เสียงของวรรคกลอนเยิ่นเย้อไปได้ ดังนั้นท่านจึงนิยมให้ X เป็นลหุ หรือคำเสียงสั้น ส่วน Y ให้เป็นคำเสียงหนัก เมื่อเขียนอย่างนี้แล้ว จังหวะการอ่านกลอนก็จะไม่ยืดยาดจนเกินไป ([url]http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_030.gif[/url]) ความเห็นยาวไปหน่อย ทนอ่านอีกนิดก็แล้วกันนะครับ การแสดงความเห็นออกหน้าไมค์ หากมีสิ่งใดระคายเคืองก็ต้องขออภัยเป็นอย่างยิ่ง มิได้มีเจตนาอวดหรืออย่างไร เพียงแต่ไม่อยากให้ไขว้เขวกันเลยเถิดไปจนหาหลักอ้างอิงมิได้ หากใครไม่เห็นด้วยก็แย้งได้นะครับ แต่อยากให้อ้างอิงหลักการและตำราที่ถูกต้อง จะได้เป็นประโยชน์ต่อคนรุ่นหลังที่จะได้มาอ่านในเว็บนี้นะครับ ขออภัยหากขัดสะบัดสะบิ้ง มิเพราะพริ้งแก่หูสหสหาย ที่เฝ้ายคอยคิดเห็นมิเว้นมิวาย เพียงเพื่อกลอนเพริศพรายพิลาศพิไล ด้วยจิตคารวะ กามนิต - ๑๙ เม.ย.๕๕ emo_126 หัวข้อ: Re: กลอนกลบทสะบัดสะบิ้ง (คนละบทจ้ะ) เริ่มหัวข้อโดย: blackbear ที่ 19 เมษายน 2012, 01:02:PM ขอชื่มชม"กามนิต"ประดิดประดอย
ร่วมเรียงร้อยฉันทลักษณ์สมัครสมาน ตามเยี่ยงบทสะกดคำบุร่ำบุราณ ให้เราท่านชื่นฉ่ำสำบัดสำนวน หัวข้อ: Re: กลอนกลบทสะบัดสะบิ้ง (คนละบทจ้ะ) เริ่มหัวข้อโดย: รการตติ ที่ 19 เมษายน 2012, 02:03:PM (http://threadsoffancy.com/wp-content/uploads/2011/11/IMG_2241.jpg) ขอบคุณภาพจาก Google ครับ มงกุฎดวงดาว (http://www.whenifallinlove.net/diary/images_line/line8/12852_75753.gif) เสียงน้ำไหลคืนเพ๊ญกระเส็นกระสาย ฟังคล้ายคคล้ายในฝันมิผันมิผวน มองดวงดาวเริงรื่นประเมินประมวล ก่อนจันทร์นวลลอยเฉียดละเมียดละไม เอาไมตรีเป็นฐานสมานสมัคร มาร้อยถักใช่เฉเถลไถล เติมรักมาประดับจับจิตจับใจ กับดอกไม้รายร้อยประดอยประดิด จะจุดเทียนแทนใจไสวสว่าง คงมีบ้างดาวน้อยกระจ้อยกระจิด แต่น้ำใจยังรอประต่อประติด มาเชยชิดคอยเตือนมิเลือนมิลา อย่ามัวแต่รอช้าพะว้าพะวัง คนอยู่หลังคนนี้ประสีประสา มอบมงกุฎมาให้ประไพประภา แทนดารางามปานประมาณประเมิน เพื่อบุหลันเด่นมาสพิลาสพิไล ขออย่าได้วิตกระหกระเหิน รักจึงมอบด้วยรักมาทักมาเทิน เป็นกลอนเพลินใจซึ้งคะนึงคะเน จะเคียงกันยามค่ำปรัมปรา ในคงคาน้ำล้นระหนระเห กอดพระจันทร์ใกล้ชิดสนิทเสน่ห์ จะกล่อมเห่ถึงรุ่งกระจุ๋งกระจิ๋ง (http://www.whenifallinlove.net/diary/images_line/line8/12852_75753.gif) รการตติ หัวข้อ: Re: กลอนกลบทสะบัดสะบิ้ง (คนละบทจ้ะ) เริ่มหัวข้อโดย: สะเลเต ที่ 19 เมษายน 2012, 03:52:PM ทะเล่อทะล่ารักเขาเราใฝ่ฝัน ตะบี้ตะบันปันใจไม่หยุดนิ่ง ทุลักทุเลเทจิตคิดแอบอิง กระหนุงกระหนิงเธอนั้นฝันมลาย เขามีใครใกล้ชิดสนิทสนม เราขื่นขมคืนค่ำระส่ำระสาย พิษไฟรักร้อนรนกระวนกระวาย ต้องเดียวดายใจช้ำลำบากลำบน ประคับประคอง คาดหวัง จะพลั้งจะพลาด อเนจอนาจ ทางเลือก กระเสือกกระสน สะบอมสะบัก รักสลาย ทุรายทุรน พิการพิกล จนจิต จะชิดจะเชย emo_29 emo_29 ---สะเลเต--- (http://www.qzub.com/bar_012.gif) (http://www.qzub.com) หัวข้อ: Re: กลอนกลบทสะบัดสะบิ้ง (คนละบทจ้ะ) เริ่มหัวข้อโดย: เนิน จำราย ที่ 19 เมษายน 2012, 09:54:PM อยากบอกรักกลัวเจ้ากระเง้ากระงอด
จะสวมกอดกลัวสลัดสะบัดสะบิ้ง อยากร่วมเรียงเคียงเจ้ากระหนุงกระหนิง กลัวอีกสิ่งพลัน...ปร่าปราง "ขนางเขนย" เนิน จำราย หัวข้อ: Re: กลอนกลบทสะบัดสะบิ้ง (คนละบทจ้ะ) เริ่มหัวข้อโดย: ปราชญ์ศรีกวีน้อย ♥ ที่ 20 เมษายน 2012, 06:15:AM อ้างถึง ความเห็นยาวไปหน่อย ทนอ่านอีกนิดก็แล้วกันนะครับ การแสดงความเห็นออกหน้าไมค์ หากมีสิ่งใดระคายเคืองก็ต้องขออภัยเป็นอย่างยิ่ง มิได้มีเจตนาอวดหรืออย่างไร เพียงแต่ไม่อยากให้ไขว้เขวกันเลยเถิดไปจนหาหลักอ้างอิงมิได้ หากใครไม่เห็นด้วยก็แย้งได้นะครับ แต่อยากให้อ้างอิงหลักการและตำราที่ถูกต้อง จะได้เป็นประโยชน์ต่อคนรุ่นหลังที่จะได้มาอ่านในเว็บนี้นะครับ ขออภัยหากขัดสะบัดสะบิ้ง มิเพราะพริ้งแก่หูสหสหาย ที่เฝ้ายคอยคิดเห็นมิเว้นมิวาย เพียงเพื่อกลอนเพริศพรายพิลาศพิไล ด้วยจิตคารวะ กามนิต - ๑๙ เม.ย.๕๕ emo_126 ๗๒."สบัดสบิ้ง" (XXX XXX ะAะA...XXX XXX ะBะB) กฏเกณฑ์บังคับ นิยมเขียนเป็น “กลอนเก้าหรือสิบ” โดยใช้จังหวะ ๓/ (๒)๓ /๔ ตอนท้ายของทุกๆบาท เน้นเสียง”สระอะ”ในพยางค์ที่ ๗ และ ๙ (กลอนกลบท สะบัดสะบิ้ง) ๐ เฉลิมพระชนม พรรษา เจริญจรัส พรพิพัฒน์ วัฒนา สง่าสยาม ประชาชน ล้นเกล้า จะจดจะจำ ขับลำนำ พร่ำพระพร สะท้อนสะเทือน ๐ เฉลิมพระเกียรติ ล้นเกล้า หะหรู หฤษฎ์ คำศักดิ์สิทธิ์ ฤทธา เสมอเสมือน เกริกเกรียงไกร บารมี มิลืมมิเลือน ธ ดั่งเหมือน พ่อหลวง บิดรบิดา (ประพันธ์โดย “เจ้าคุณอู๋”) กลบทที่ ๗๒."สบัดสบิ้ง" เป็นหนึ่งในเก้าสิบกลบทที่เจ้าคุณอู๋ ได้รวบรวมไว้โดยมีการอ้างอิง รวบรวมและจัดทำ ๙๐ กลบทไว้ ผมซึ่งศึกษาจากตรงนี้ทั้ง ๙๐ กลบท ไม่ได้ศึกษาจากที่อื่นเลยจริงๆ เลยทำให้มองกรอบไม่กว้าง ไม่ได้แย้งว่าผมไม่ผิดแต่ ผมไม่ได้มองจุดว่าใครผิด มองตรงเราจะสามารถสรุป อย่างไรดี ด้วยจิตคารวะ emo_126 emo_126 บรรณานุกรม/อ้างอิง รวบรวมและจัดทำ ๙๐ กลบท o ราชบัณฑิตยสถาน.(๒๕๔๖) พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.๒๕๔๒.กรุงเทพฯ.นานมีบุ๊คส์พับลิเคชั่นส์ o ราชบัณฑิตยสถาน.(๒๕๕๐) พจนานุกรมศัพท์วรรณกรรมไทย “ภาคฉันทลักษณ์” กรุงเทพฯ.สหมิตรพริ้นติ้งแอนด์พับลิสชิ่ง o กำชัย ทองหล่อ.(๒๕๕๒) หลักภาษาไทย.กรุงเทพฯ.อมรการพิมพ์ o พระยาอุปกิตศิลปสาร.(๒๕๑๔).ชุมนุมนิพนธ์ อ.น.ก.กรุงเทพฯ.โรงพิมพ์คุรุสภา o พระยาอนุมานราชธน.(๒๕๑๕).การศึกษาวรรณคดีในแง่วรรณศิลป์.กรุงเทพฯ.บรรณาคาร o วิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี.http://th.wikipedia.org/wiki/ (http://th.wikipedia.org/wiki/)ฉันทลักษณ์ o บ้านจอมยุทธ.http://www.baanjomyut.com/library/thai_literature/kollabot/index.html (http://www.baanjomyut.com/library/thai_literature/kollabot/index.html) หัวข้อ: Re: กลอนกลบทสะบัดสะบิ้ง (คนละบทจ้ะ) เริ่มหัวข้อโดย: blackbear ที่ 20 เมษายน 2012, 07:18:AM กลบทสบัดสบิ้งสิ่งใดแน่
ลงท้ายแลเช่นใดให้ฉงน ผมเห็นตาม "กามนิต" คิดด้วยคน ด้วยสืบค้นตาม "ราชบัณฑิต" มา อ้างชื่อครูสมัยก่อนเขียนกลอนไว้ เราจึงได้แบบอย่างทางศึกษา ที่คุณ "ปราชญ์" ลึกล้ำอ้างตำรา ก็เข้าท่าเสียง อะ น่ะเพราะดี เรื่องครูอู๋ผมนั้นไม่รู้จัก วิจารณ์หนักเกินไปก็ใช่ที่ ค้นกูเกิ้ลเฟซบุ๊คครูลองดูซี คนกดไลค์มากมีหลายพันคน หัวข้อ: Re: กลอนกลบทสะบัดสะบิ้ง (คนละบทจ้ะ) เริ่มหัวข้อโดย: ปราชญ์ศรีกวีน้อย ♥ ที่ 20 เมษายน 2012, 09:45:AM ผมบอกตรงๆ ว่าผมหัดแต่งกลอนได้ครึ่งปีกว่าๆ แต่ก็อ่านไม่น้อยกว่าคนที่แต่มาสองสามปี อันจะสรุปคนเดียวก็เลยไม่กล้า ผมเห็นด้วยกับท่านกามนิต ท่านบอม ซองดุ๊ก และท่านวฤก หากไม่อยากให้คำยาวยืดยาด ก็จะใช้เสียงเบา (ลหุ) ที่ตำแหน่งประเด็นผมว่าก็โอเค อยู่นะเพราะกลอนอ่านเพราะหรือไม่ ฉันทลักษณ์ไม่เกี่ยวตรงจุดนี้ เพียงแต่กลบทเป็นภูมิปัญญาครูที่สร้าง คิด วิเคราะห์มาให้เราๆ รู้จักหาคำมาแต่งเป็นการฝึกฝนไปในตัว ผมขอยืนยันการใช้เสียงเบา (ลหุ) ว่าโอเคกว่า ทั้งนี้การจะแต่ใช้คำว่ายึดตำราไหนดีกว่า เพราะอย่างคณิตศาสตร์ ชีวะวิทยา ฟิสิกส์(เคมี) เมื่อศึกษาให้ลึกแล้วก็ยังมีข้อถกเถียงกันมากมายขึ้นกับว่าจะยึดอันไหน(ใครสงสัยเรื่องวิชาการนอกรอบ อิอิว่าเขาเถียงอะไรกัน)
สรุปตัวผม"ไม่บอกว่าวิธีแบบไหนถูก แค่มีเพื่อนช่วยคิด ช่วยแย้ง ช่วยรักษ์กลอนผมก็พอใจแล้ว" ด้วยความเคารพ ขอบคุณครับ emo_126 emo_126 หัวข้อ: Re: กลอนกลบทสะบัดสะบิ้ง (คนละบทจ้ะ) เริ่มหัวข้อโดย: กามนิต ที่ 20 เมษายน 2012, 12:39:PM ผมอ่านที่คุณปราชญ์ศรีกวีน้อยคัดมาลงแล้ว คิดว่าคงพอเห็นประเด็นแล้วหละครับ
ย้อนกลับไปถึงความเห็นก่อนหน้านี้ คุณปราชญ์ฯ เขียนว่า "โดยคำที่ใช้จะต้องเป็นเสียง อะ(_)อะ(_) บางคนใช้คำเหมือนกันแทนคำอะเช่น ไม่รงไม่รู้ ไม่รู้ไม่ชี้ เป็นต้น อย่างนี้คือใช้ไม่ได้จะผิดหลักกลบทนี้" คุณปราชญ์ฟันธงไปแล้วว่า คำที่ไม่ใช่ "อะ" เช่น ไม่รงไม่รู้ นั้น ผิดหลักกลบท ตรงนี้ล่ะครับที่ผมแย้ง ! ตำราที่คุณคัดมานั้น ก็ไม่ได้ยืนยันอย่างที่คุณฟันธงไว้ ?! ลองพิจารณาดูให้ดี เครื่องหมาย "ะAะA" ไม่น่าจะหมายถึงบังคับให้ใช้ "สระอะ" อย่างเดียว เพราะตำราที่คุณปราชญ์ฯ อ้างระบุเพียงว่า ให้ เน้นเสียง”สระอะ”ในพยางค์ที่ ๗ และ ๙ อ่านชัด ๆ อีกทีนะครับ เน้นเสียง "สระอะ" (ไม่ใช่ ต้องใช้ "สระอะ" เท่านั้น) และตัวอย่างที่ยกมาก็เป็นเครื่องยืนยัน คือ ๐ เฉลิมพระเกียรติ ล้นเกล้า หะหรู หฤษฎ์ คำศักดิ์สิทธิ์ ฤทธา เสมอเสมือน เกริกเกรียงไกร บารมี มิลืมมิเลือน ธ ดั่งเหมือน พ่อหลวง บิดรบิดา (ประพันธ์โดย “เจ้าคุณอู๋”) เห็นอะไรไหมครับ? แม้แต่ "เจ้าคุณอู๋" ยังใช้ มิลืมมิเลือน , บิดรบิดา พอ ๆ กับ หะหรู หฤษฎ์ และเสมอเสมือน นั่นคือ "เจ้าคุณอู๋" ใช้คำเบา (ลหุ) ในตำแหน่ง ะ ของสี่คำสุดท้าย ะAะA นั่นคือ "เจ้าคุณอู๋" ไม่ได้บังคับว่าต้องใช้ "สระอะ" แต่ให้ "เน้น" เสียง "สระอะ" นั่นแสดงว่า "เจ้าคุณอู๋" ไม่ได้บอกว่าหากไม่ใช้ "สระอะ" แล้วจะ ผิดหลักกลบท อย่างที่คุณปราชญ์ฯ เขียนมาสักหน่อย ตำราคงไม่ได้ขัดแย้งกันหรอก ลองพิจารณาดูดี ๆ อีกทีนะครับ ขอบคุณที่ร่วมแสดงความคิดเห็น อยากเขียนกลอนอ้อนสาวก็หนาวก็เหน็บ ยากเกินเก็บลิขิตภาษิตภาษา รื้อตู้เก่าเข้าจับตำหรับตำรา ต้องสักหน้าได้กานท์สะท้านสะเทือน กามนิต - ๒๐ เม.ย.๕๕ หัวข้อ: Re: กลอนกลบทสะบัดสะบิ้ง (คนละบทจ้ะ) เริ่มหัวข้อโดย: ปราชญ์ศรีกวีน้อย ♥ ที่ 20 เมษายน 2012, 08:33:PM อย่างที่คุณกามนิตว่า ถูกแล้วครับ คือตัวอย่างที่คัดมาเอามา ให้เห็นว่าช่วงเค้าโครงกลบท เขียนว่า "๗๒."สบัดสบิ้ง" (XXX XXX ะAะA...XXX XXX ะBะB)" ซึ่งเป็นอะอย่างชัดเจน ซึ่งเป็นจุดที่ืท่านกามนิตยกมาแย้ง ผมได้ถามไปก่อนหน้าแล้วว่าจะสรุปอย่างไรดีเพราะไม่กล้าสรุป และเสริมว่า เป็นการเลือกใช้คำเบาจะเหมาะสม ถ้าเข้าใจผิดอย่างไรต้องขออภัยเป็นอย่างยิ่ง ขอบคุณที่แย้งอีกทีครับ ผมคงผิดเพราะจำรูปแบบที่เจาะจงเกินไป ไม่ได้มองภาพให้กว้างเอง ขอโทษมา ณ ที่นี้อีกทีครับ
ด้วยความเคารพครับ ขอบคุณครับ emo_126 emo_126 หัวข้อ: Re: กลอนกลบทสะบัดสะบิ้ง (คนละบทจ้ะ) เริ่มหัวข้อโดย: พี.พูนสุข ที่ 20 เมษายน 2012, 08:47:PM ทะเล่อทะล่ารักเขาเราใฝ่ฝัน ตะบี้ตะบันปันใจไม่หยุดนิ่ง ทุลักทุเลเทจิตคิดแอบอิง กระหนุงกระหนิงเธอนั้นฝันมลาย เขามีใครใกล้ชิดสนิทสนม เราขื่นขมคืนค่ำระส่ำระสาย พิษไฟรักร้อนรนกระวนกระวาย ต้องเดียวดายใจช้ำลำบากลำบน ประคับประคอง คาดหวัง จะพลั้งจะพลาด อเนจอนาจ ทางเลือก กระเสือกกระสน สะบอมสะบัก รักสลาย ทุรายทุรน พิการพิกล จนจิต จะชิดจะเชย emo_29 emo_29 ---สะเลเต--- ([url]http://www.qzub.com/bar_012.gif[/url]) ([url]http://www.qzub.com[/url]) แกงเขียวหวาน ออกรส กำสรดกำสรวล ไก่เนื้อนวล มันย่อง จะผ่องจะเผย ขนมจีน เส้นสาย ไม่ก่ายไม่เกย น้ำแกงเลย จืดจาง มล้างมลาย เป็นเชฟใหม่ มือสอง กระย่องกระแย่ง กระทะแกว่ง ตะหลิวจับ กระสับกระส่าย มาสมัคร รสมือ ระบือระบาย รับไว้ใช้ สักคน จะปรนจะเปรอ.. "รับผมเถอะนะคร้าบ... คุณแกงเขียวหวาน " (http://image.ohozaa.com/i/a40/BUWFca.jpg) (http://image.ohozaa.com/view2/w1BMTHOliiVTjoqs) พี.พูนสุข ฝึกแต่งมาหลายครั้ง แต่งตามความเข้าใจ วิจารณ์ได้นะคะ ยินดีรับฟังค่ะ emo_50 หัวข้อ: Re: กลอนกลบทสะบัดสะบิ้ง (คนละบทจ้ะ) เริ่มหัวข้อโดย: เนิน จำราย ที่ 21 เมษายน 2012, 10:52:AM ผมอ่านที่คุณปราชญ์ศรีกวีน้อยคัดมาลงแล้ว คิดว่าคงพอเห็นประเด็นแล้วหละครับ ย้อนกลับไปถึงความเห็นก่อนหน้านี้ คุณปราชญ์ฯ เขียนว่า "โดยคำที่ใช้จะต้องเป็นเสียง อะ(_)อะ(_) บางคนใช้คำเหมือนกันแทนคำอะเช่น ไม่รงไม่รู้ ไม่รู้ไม่ชี้ เป็นต้น อย่างนี้คือใช้ไม่ได้จะผิดหลักกลบทนี้" คุณปราชญ์ฟันธงไปแล้วว่า คำที่ไม่ใช่ "อะ" เช่น ไม่รงไม่รู้ นั้น ผิดหลักกลบท ตรงนี้ล่ะครับที่ผมแย้ง ! ตำราที่คุณคัดมานั้น ก็ไม่ได้ยืนยันอย่างที่คุณฟันธงไว้ ?! ลองพิจารณาดูให้ดี เครื่องหมาย "ะAะA" ไม่น่าจะหมายถึงบังคับให้ใช้ "สระอะ" อย่างเดียว เพราะตำราที่คุณปราชญ์ฯ อ้างระบุเพียงว่า ให้ เน้นเสียง”สระอะ”ในพยางค์ที่ ๗ และ ๙ อ่านชัด ๆ อีกทีนะครับ เน้นเสียง "สระอะ" (ไม่ใช่ ต้องใช้ "สระอะ" เท่านั้น) และตัวอย่างที่ยกมาก็เป็นเครื่องยืนยัน คือ ๐ เฉลิมพระเกียรติ ล้นเกล้า หะหรู หฤษฎ์ คำศักดิ์สิทธิ์ ฤทธา เสมอเสมือน เกริกเกรียงไกร บารมี มิลืมมิเลือน ธ ดั่งเหมือน พ่อหลวง บิดรบิดา (ประพันธ์โดย “เจ้าคุณอู๋”) เห็นอะไรไหมครับ? แม้แต่ "เจ้าคุณอู๋" ยังใช้ มิลืมมิเลือน , บิดรบิดา พอ ๆ กับ หะหรู หฤษฎ์ และเสมอเสมือน นั่นคือ "เจ้าคุณอู๋" ใช้คำเบา (ลหุ) ในตำแหน่ง ะ ของสี่คำสุดท้าย ะAะA นั่นคือ "เจ้าคุณอู๋" ไม่ได้บังคับว่าต้องใช้ "สระอะ" แต่ให้ "เน้น" เสียง "สระอะ" นั่นแสดงว่า "เจ้าคุณอู๋" ไม่ได้บอกว่าหากไม่ใช้ "สระอะ" แล้วจะ ผิดหลักกลบท อย่างที่คุณปราชญ์ฯ เขียนมาสักหน่อย ตำราคงไม่ได้ขัดแย้งกันหรอก ลองพิจารณาดูดี ๆ อีกทีนะครับ ขอบคุณที่ร่วมแสดงความคิดเห็น อยากเขียนกลอนอ้อนสาวก็หนาวก็เหน็บ ยากเกินเก็บลิขิตภาษิตภาษา รื้อตู้เก่าเข้าจับตำหรับตำรา ต้องสักหน้าได้กานท์สะท้านสะเทือน กามนิต - ๒๐ เม.ย. ๕๕ สุตตสดับแล้ว เก็บพจน์ จินตนามธุรส แต่งแต้ม ปุจฉาหากกำหนด พลาดผิด ลิขิตเอื้อนเอ่ยแย้ม ออกอ้างเป็นครู ขออนุญาตแทรกครับ ฝึกหัดแต่งโคลง ผิดพลาด ติ,เติม เนิน จำราย หัวข้อ: Re: กลอนกลบทสะบัดสะบิ้ง (คนละบทจ้ะ) เริ่มหัวข้อโดย: ดาว อาชาไนย ที่ 21 เมษายน 2012, 11:52:AM จะกี่ดึก สะอึกสะอื้น ยืนมองฟ้า [ว่าจันทรา ประชดประชัน ฉันนั้นหรือ โอบอุ้มรัก ละเมียดละไม ในอุ่นมือ ดลรักดื้อ ตลบตะแลง เหมือนแกล้งกัน ประคับประคอง ข่มใจ ละไมละเมียด กระฟัดกระเฟียด ฮึดขยี้ ขมีขมัน สราญสรมณ์ แปลงบท ประชดประชัน ตะบี้ตะบัน จนรัก ทะลักทะลาย @ปราชญ์ศรีกวีน้อย emo_89 emo_89 ใครที่ยังแต่งไม่คล่องผมแนะนำว่าลองจดคำใส่สมุดไว้ก่อนเลยหาจากคนที่เคยแต่งกลบทพวกนี้ไว้นี่แหละครับ จะทำให้ครั้งต่อไปนึกอยากแต่งจะได้ง่ายขึ้นมากๆ สำหรับคนที่ลองแต่งแล้วผมยังเห็นบางคนเข้าใจกลบทนี้ผิดอยู่ โดยจะเขียนเป็นผังได้ดังนี้ (ตัวอย่าง กลบท"สะบัดสะบิ้ง") XXX XXX อะAอะA XXX XXX อะBอะB XXX XXX อะCอะC XXX XXX อะDอะD โดยคำที่ใช้จะต้องเป็นเสียง อะ(_)อะ(_) บางคนใช้คำเหมือนกันแทนคำอะเช่น ไม่รงไม่รู้ ไม่รู้ไม่ชี้ เป็นต้น อย่างนี้คือใช้ไม่ได้จะผิดหลักกลบทนี้ emo_126 ขอบคุณครับ emo_89 font=Cordia New] มีผู้เข้าใจผิดในกลบทสะบัดสะบิ้งอยู่มาก คุณช่วยอธิบายได้เป็นอย่างดี กลอนของคุณบทที่ ๒ เปลี่ยนจากกลบทสะบัดสะบิ้ง เป็นกลบทวิสูตรสองไขแล้วครับ คือสะบัดสะบิ้งทั้งต้นวรรคและท้ายวรรค[/font] หัวข้อ: Re: กลอนกลบทสะบัดสะบิ้ง (คนละบทจ้ะ) เริ่มหัวข้อโดย: ดาว อาชาไนย ที่ 21 เมษายน 2012, 12:15:PM อ่านผู้วิจารณ์ต่อไปแล้ว ก็เข้าใจว่าคุณปราชญ์ศรีฯอธิบายอย่างนั้น ด้วยคิดว่าใครคงเข้าใจ แต่ก็มีผู้เข้าใจผิดว่าคุณเจาะจงให้ใช้แต่ สระอะอย่างเดียว ต้องทำความเข้าใจใหม่ว่าต้องเป็นคำลหุ และ ครุ สลับกันไปคือ ลหุครุลหุครุ มิใช่จำเพาะแต่สระอะ จะเป็นสระอิ สระอึ สระอุก็ได้ แต่มิใช่สระอู สระอา สระเอ สระโอ เป็นต้น ขอบคุณคุณปราชญ์ที่ช่วยแนะนำ ผมอ่านที่เขาอ้างว่าเป็นกลบทสะบัดสะบิ้ง แล้วรู้สึกเสียดายที่โบราณาจารย์ได้บัญญัติไว้อย่างดีแล้ว จะได้เขียนถูกต้อง[/size หัวข้อ: Re: กลอนกลบทสะบัดสะบิ้ง (คนละบทจ้ะ) เริ่มหัวข้อโดย: บ้านริมโขง ที่ 21 เมษายน 2012, 12:54:PM (http://img1.thaicomment.com/tc/069/003.gif) (http://www.thaicomment.com) ครูเลือกเล่นกลบท เพื่อปลดเพื่อปล่อย เพียงคำน้อยไม่มัด ว่าขัดว่าข้อง ด้วยรู้กันสรรสร้าง ทำนะทำนอง เป็นร้อยกรองผ่องถ่าย อาร้าอารมณ์ อาจเป็นเพียงเรียงคำ นำศัพท์นำเสียง ตามสำเนียงให้ชัด ไม่ขัดไม่ขม ชอบเล่นสร้อยอ่อยตาม ยามชื่นยามชม ไม่ห้วนขาดฝาดปม นิยมนิยาย มากคนเล่นเห็นต่าง ทุกทางทุกที่ ไม่ได้มีข้อห้าม ตามมุ่งตามหมาย คนรุ่นหลังนั่งตรึก นึกลงนึกลาย ก็เพียงคล้ายได้ชื่น ใช่อื่นใช่ไกล กลบทคืออารมณ์ ปมขีดปมเขียน นำคำเลียนคำเริ่ม มาเสริมมาใส่ มุ่งอารมณ์บรรเจิด วิเลิศวิไล แต่มั่นใน ฉันทลักษณ์ ..เป็นหลักเป็นเกณฑ์ ................... เมื่อทุกคำไม่ห้ามยาม “สะบัด” ไม่ควรขัดทุกคำยาม “สะบิ้ง” เสียงสั้นยาวอย่างไร..ใช่น่าอิง เพราะความจริง พี่ไทย..ไม่อินัง.. "บ้านริมโขง" emo_126 หัวข้อ: Re: กลอนกลบทสะบัดสะบิ้ง (คนละบทจ้ะ) เริ่มหัวข้อโดย: ดาว อาชาไนย ที่ 22 เมษายน 2012, 01:12:PM ว่า"ทำได้ตามใจคือไทยแท้" อย่ามัวแต่กังวลกฏหนหลัง เขียนไปเถิดตามใจอย่าไปฟัง ไม่รู้ตั้งกฏทำไมไว้อ้างอิง ถ้าไม่อ้างว่าเล่นเป็นกลบท ไม่กำหนดชื่อชัด"สะบัดสะบิ้ง" แล้วหน้าไหนใครกล้ามาท้วงติง จะโดนยิงให้พรุนกระสุนปลอม ดาว........ หัวข้อ: Re: กลอนกลบทสะบัดสะบิ้ง (คนละบทจ้ะ) เริ่มหัวข้อโดย: --ณัชชา-- ที่ 22 เมษายน 2012, 03:58:PM กระทู้กลอนบอกชัด สะบัดสะบิ้ง กลอนเพราะพริ้งคำละหุ ทนุถนอม ไม่เขียนตามบ่งชี้ประนีประนอม ยังหว่านล้อมด้วยบทประชดประชัน --ณชชา-- emo_126 หัวข้อ: Re: กลอนกลบทสะบัดสะบิ้ง (คนละบทจ้ะ) เริ่มหัวข้อโดย: ดาว อาชาไนย ที่ 22 เมษายน 2012, 08:52:PM อุปมาสร้างกระต๊อบกระยอบกระแยบ แล้วอ้างแบบบ้านนี้พิถีพิถัน คือบ้านทรงไทยวจีตะบี้ตะบัน คงถึงวันกลบทจะปลดจะปลง ดาว......... หัวข้อ: Re: กลอนกลบทสะบัดสะบิ้ง (คนละบทจ้ะ) เริ่มหัวข้อโดย: ไพร พนาวัลย์ ที่ 22 เมษายน 2012, 11:35:PM emo_126 emo_95 emo_60 คงไม่ถึงป่านนั้น อย่าหวั่นอย่าไหว ภาษาไทยไม่ยุ่ย เป็นผุยเป็นผง ช่วยกันรักษาไว้ ให้มั่นให้คง จะยืนจะยง อยู่ที่เรา ช่วยเกลาช่วยกลึง จะขีดจะเขียน เรียนไปหลายกลบท ประพันธ์ประพจน์ รจนา ขึ้นมาหนึ่ง มาพูนมาเพิ่ม เติมคำ ชวนรำพึง ให้สุดให้ซึ้ง ตรึงตรา ชั่วฟ้าดิน ให้ความสุข สนุกสนาน สถานทิพย์ บรรจงหยิบ ระยิบระยับ ประดับศิลป์ ร่วมถักทอ มิรอมิรา เป็นอาจินต์ ใครยลยิน ระรินระรวย ไปด้วยกัน กระซิบกระซาบ วาบไหว พิไรพิร่ำ เป็นกอบเป็นกำ นำสุข จะปลุกจะปั้น ให้เชี่ยวให้ชาญ หลานลูก มาผูกมาพัน ช่วยแบ่งช่วยปัน ฉันทลักษณ์ อย่าพักอย่าพอ “ไพร พนาวัลย์” emo_116 emo_116 emo_116 หัวข้อ: Re: กลอนกลบทสะบัดสะบิ้ง (คนละบทจ้ะ) เริ่มหัวข้อโดย: ปราชญ์ศรีกวีน้อย ♥ ที่ 23 เมษายน 2012, 01:02:AM เพื่อไม่เป็นการเข้าใจผิดว่าเอ๊ะ อย่างที่ผมพูดผิดไป และท่านเนินจำรายแย้งมามันอย่างไหนที่ถูก ผมขออนุญาต ลบสิ่งที่ผมแย้งผิดไปและรวบรวมทำใหม่ตรงนี้ดังนี้
มาเขียนวน กลบท "สะบัดสะบิ้ง" ให้เพราะพริ้ง คำคละ สละสลวย ให้ดื่มด่ำ คำคุ้ม กระชุ่มกระชวย ให้ชอบด้วย คำอุ่น ละมุลละไม ก่อนจะเริ่ม ใจตก ระหกระเหี่ย หาคำใช้ ไม่รายเรี่ย ฉะนี้ฉไน ก็ท้อแท้ หมดสนิท กระจิตกระใจ แล้วเริ่มไล่ เรียงศัพท์ ประคับประคอง หลังรวมได้ ตัวฉัน ขมันขมี เรียงวลี ร้อยผล สนนสนอง แข่งเวลา แข่งประสงค์ ประลงประลอง เพราะใจร้อง อย่างเรียก ตะเกียกตะกาย "สะบิ้งสะบัด" ขัดกฎ จากบทเก่า สลักเสลา หน้างบ้าง ทางหลังหาย สติสตัง เริ่มรุด หลุดจากกาย กระจัดกระจาย จนพอ จึงขอลา~ แถม จะกี่ดึก สะอึกสะอื้น ยืนมองฟ้า ว่าจันทรา ประชดประชัน ฉันนั้นหรือ โอบอุ้มรัก ละเมียดละไม ในอุ่นมือ ดลรักดื้อ ตลบตะแลง เหมือนแกล้งกัน ประคับประคอง ข่มใจ ละไมละเมียด กระฟัดกระเฟียด ฮึดขยี้ ขมีขมัน สราญสรมณ์ แปลงบท ประชดประชัน ตะบี้ตะบัน จนรัก ทะลักทะลาย @ปราชญ์ศรีกวีน้อย emo_89 emo_89 ความรู้เพิ่มเติม ถ้าเล่นคำ- ด้านหน้า เป็นกลบท"สะบิ้งสะบัด" - ด้านหลังคือกลบท"สะบัดสะบิ้ง" - ตรงกลางจะเป็นกลบท"สะบัดจริงสะบิ้งจัด" - หน้าหลังจะเป็นกลบท"นานาสะบัดสารพัดสะบิ้ง" ผังตัวอย่าง กลบท"สบัดสบิ้ง" (XXX XXX ะAะA...XXX XXX ะBะB) *หมายเหตุ -ะ คือสระเสียงสั้น กฏเกณฑ์บังคับ นิยมเขียนเป็น “กลอนเก้าหรือสิบ” โดยใช้จังหวะ ๓/ (๒)๓ /๔ ตอนท้ายของทุกๆบาท ใช้ ”สระเสียงสั้น”ในพยางค์ที่ ๗ และ ๙ ขอบคุณมานะที่นี้ขอบคุณครับ emo_126 หัวข้อ: Re: กลอนกลบทสะบัดสะบิ้ง (คนละบทจ้ะ) เริ่มหัวข้อโดย: Prapacarn ❀ ที่ 23 เมษายน 2012, 06:10:AM (http://pankillers.clan.su/_fr/5/73942979.jpg) ♥ อย่าเบียด ♥ ขอบคุณภาพจาก Internet ค่ะช่างขยันกันจริง..สะบิ้งสะบัด แซมเลยหัดเขียนเล่น..กระเส็นกระสาย หัวใจเฝ้าเกี่ยวกระหวัด..กระจัดกระจาย กลอนกลับกลายเขรอะขระ..ตะบิดตะบอย (http://upic.me/i/s6/792698x0hgfrn2281.gif) สะบัดสะบิ้ง..ยิ่งเขียนยิ่งเวียนหัว ตะบี้ตะบัน..จนฉันมั่วกลัวเธอหงอย ปะติดปะต่อ..พอเห็นเช่นสำออย กระหริบกระร่อย..ร้อยกานท์ประสานกล... (http://upic.me/i/s6/792698x0hgfrn2281.gif) แซมค่ะ emo_107 หัวข้อ: Re: กลอนกลบทสะบัดสะบิ้ง (คนละบทจ้ะ) เริ่มหัวข้อโดย: เมฆสีรุ้ง ที่ 23 เมษายน 2012, 09:04:PM ยามรักเริ่ม เติมเต็ม จะเค็มจะหวาน ยามรักบาน ขานขับ ขยับขยาย ยามรักเบื่อ เยื่อรัก กระจัดกระจาย ยามรักตาย ลายเลิศ กระเจิดกระเจิง รบกวนถามผู้รู้นิดนึงนะครับ "จะเค็มจะหวาน" อักษร ค กับ ว ไม่ซ้ำกัน ลักษณะนี้พออนุโลมได้หรือเปล่าครับ หรือว่าถือว่าผิดหลักกลบทนี้เลยครับ หัวข้อ: Re: กลอนกลบทสะบัดสะบิ้ง (คนละบทจ้ะ) เริ่มหัวข้อโดย: อริญชย์ ที่ 23 เมษายน 2012, 09:16:PM เชิญกดอ่านหาความรู้ตามเวบนี้ฮะ จะได้ความรู้อะไรดี ๆ เยอะ (มีกลอนกลบทให้อ่านหลายรูปแบบ)
http://www.oknation.net/blog/kondee007/2008/10/16/entry-1 (http://www.oknation.net/blog/kondee007/2008/10/16/entry-1) emo_107 emo_60 emo_107 หัวข้อ: Re: กลอนกลบทสะบัดสะบิ้ง (คนละบทจ้ะ) เริ่มหัวข้อโดย: Prapacarn ❀ ที่ 23 เมษายน 2012, 10:04:PM emo_126 emo_126 emo_126
♥ ขอบคุณพี่อริฯ สำหรับข่าวสารดีๆ ที่นำมาแบ่งปันเสมอนะคะ ♥ แซมค่ะ หัวข้อ: Re: กลอนกลบทสะบัดสะบิ้ง (คนละบทจ้ะ) เริ่มหัวข้อโดย: gratrypa ที่ 14 มิถุนายน 2012, 04:02:PM นกพิราบปวดท้อง "กระย่องกระแย่ง" ยื่นท้องแกว่งใกล้น้ำ "ระส่ำระสาย" หมู่มัจฉาว่ายปร๊าด "กระจัดกระจาย" ต่างแหวกว่าย หนีตด "ระทดระทม" คล้ายรักขม ตรมจัด "สะบัดตะปิ้ง" ไม่เพราะพริ้ง คลุ้งคละ "สละไม่สวย" อย่าไปซื้อ แม่ค้า "กะซุ่ม เราซวย" ถามกลับด้วย คำผุด "ละมุดเท่าไร" วาดรูปหวานอย่างดี "กวี ไม่วาด" ใครพิฆาตคำหวาน "ผสานไม่สม" พรวนดินเสร็จเตรียมเซ็ท "ไข่ทอดชะอม" "กระด้างกระเดื่อง" ไข่ขม เขวี้ยงจมดิน ปัทโธ่โว้ย เบื่อจริง ปิ้งปลาให้ แมวตัวใหญ่ ไม่กิน ดิ้นเสมอ ดังตัวเรา มัวเฝ้า ฝันละเมอ มัวแต่เพ้อ เฝ้าฝัน มันไม่จริง. กระต่ายป่า ข้างวัด ต้องขอ อภัยด้วย มือใหม่หน่วย ก้านไม่ให้ กฎกลอนฉัน ไม่เข้าใจ ขอมือใหม่ ใส่เต็มที่ มิลังเล |