หัวข้อ: ลาพักร้อน.. เริ่มหัวข้อโดย: baimai@sailom ที่ 31 มีนาคม 2012, 07:27:PM เป็นบอร์ดกลอน สอนสั่ง หวังทางไหน
อันจุดหมาย ร่ายวาง ทางประสงค์ วลีฉาย ถ่ายคำ เจตน์จำนงค์ เป็นกลอนลง บ่งเหตุ เจตนา มีบางอย่าง คลางใจ ให้สะท้อน จำกัดรอน กลอนกระจอก บอกเลยหนา ถึงบางอ้อ ท้อนิด ติดอุรา ที่เขาว่า พาจริง สิ่งนี้เอง มาเดี่ยวเดิน เอิ้นคิด มิตรภาพ หวังซึ้งซาบ อาบน้ำใจ ในบอร์ดเหวง ให้สะดุด หยุดพัก จำหนักเกรง ใช่กลอนเก่ง เปล่งจ้า กว่าผู้ใด ต้องเจียมตัว เจียมแด แม้อยากทัก อันมิตรรัก ต้องหักทอน งดกลอนไว้ เดี๋ยวไปดัน ยันกระทู้ ของผู้ใด ให้เลื่อนไป ไม่สม ติดลมบน กลัวถ้อยคำ นำทัก จักรกเขา จึงขอเบา เอาสำนึก ไปฝึกฝน มิยึดติด จะคิดกลอน เพื่อสอนตน อาจหมองหม่น แต่ทนได้ ใจยังมี ที่หายห่าง ว่างเก่า เข้าใจแล้ว เคยยินแว่ว แน่วมั่น ในวันนี้ ถึงบางอ้อ หนอคน ทุกหนมี ยังขาดที่ มีแต่คิด ติดอัตตา ใช่กลอนลา แต่ไปมา ต้องว่าแจ้ง ด้วยอ่อนแรง แล้งจิต พักนิดหนา มีกลอนดี ที่ถึงชั้น จะหันมา เคาะข้างฝา หาชิด มิตรบ้านกลอน emo_31 หัวข้อ: Re: ลาพักร้อน.. เริ่มหัวข้อโดย: กามนิต ที่ 01 เมษายน 2012, 12:34:AM พริ้วมาแล้วอย่าเลยระเหยหาย
สายลมสายหมอกใบไม้สลอน ผาดมาเพ็ญเย็นซึ้งอย่าพึ่งจร ยอดหญ้าอ่อนอ้อนหน่อยอย่าคล้อยคลา หากเหนื่อยนักพักผ่อนคลายร้อนหน่อย พักแล้วค่อยเคลื่อนขับกลับมาหา เป็นนักกลอนนอนเปล่าเปลืองเหล้ายา อักษรารอรักให้ถักทอ ลางเนื้อชอบลางยาเขาว่าไว้ จะถูกใจทุกปากยากเหลือขอ ควรพึงใจในงานกานท์ลออ อันชูช่อภายในหัวใจงาม กามนิต - ๓๑ มี.ค.๕๕ emo_106 หัวข้อ: Re: ลาพักร้อน.. เริ่มหัวข้อโดย: ปู่ริน ที่ 01 เมษายน 2012, 02:05:AM ชีวิตพี่เหมือนเดินทางอย่างโดดเดี่ยว emo_62ช่างเปล่าเปลี่ยวคับแค้นใจให้คนหาม บนเส้นทางดูแสนไกลไม่ได้ความ เมื่อถึงยามรักร้างร่างกายโทรม เม่อมองฟ้าเมฆครึ้มริมชายหาด น้ำซัดสาดซ่าซ่ายังถาโถม ลมพัดหวนม้วนครื่นเสียงโครมโครม มิเล้าโลมหาดทรายเช่นหลายวัน ฝนกระหน่ำฟ้าครวญครางเหมือนนางร้อง พี่นั่งมองคอยหานางดั่งความฝัน หนีพี่ไปน้องไม่เห็นความสำคัญ ผิดใจกันเหมือนฟ้าครางทะเลครวญ พี่นั่งนึกตรึกตรองจนถ้วนถี่ ร่างกายพี่ไฟเร้าร้อนเหมือนลมหวน ดินกระจายหมุนน้ำทำเสียกระบวน มาก่อกวนหัวใจให้ช้ำตรม ทำให้พี่ต้องหนีหน้าลาพักร้อน มาพักผ่อนหัวใจหายขื่นขม นั่งหนักใจไฟสุมอกทุกข์ระทม เมื่อคลื่นลมสงบ...จบกันที... ริน ดอนบูรพา ๑ เม.ย. ๕๕ หัวข้อ: Re: ลาพักร้อน.. เริ่มหัวข้อโดย: รัตนาวดี ที่ 01 เมษายน 2012, 03:15:AM เป็นบอร์ดกลอน สอนสั่ง หวังทางไหน
อันจุดหมาย ร่ายวาง ทางประสงค์ วลีฉาย ถ่ายคำ เจตน์จำนงค์ เป็นกลอนลง บ่งเหตุ เจตนา มีบางอย่าง คลางใจ ให้สะท้อน จำกัดรอน กลอนกระจอก บอกเลยหนา ถึงบางอ้อ ท้อนิด ติดอุรา ที่เขาว่า พาจริง สิ่งนี้เอง มาเดี่ยวเดิน เอิ้นคิด มิตรภาพ หวังซึ้งซาบ อาบน้ำใจ ในบอร์ดเหวง ให้สะดุด หยุดพัก จำหนักเกรง ใช่กลอนเก่ง เปล่งจ้า กว่าผู้ใด ต้องเจียมตัว เจียมแด แม้อยากทัก อันมิตรรัก ต้องหักทอน งดกลอนไว้ เดี๋ยวไปดัน ยันกระทู้ ของผู้ใด ให้เลื่อนไป ไม่สม ติดลมบน กลัวถ้อยคำ นำทัก จักรกเขา จึงขอเบา เอาสำนึก ไปฝึกฝน มิยึดติด จะคิดกลอน เพื่อสอนตน อาจหมองหม่น แต่ทนได้ ใจยังมี ที่หายห่าง ว่างเก่า เข้าใจแล้ว เคยยินแว่ว แน่วมั่น ในวันนี้ ถึงบางอ้อ หนอคน ทุกหนมี ยังขาดที่ มีแต่คิด ติดอัตตา ใช่กลอนลา แต่ไปมา ต้องว่าแจ้ง ด้วยอ่อนแรง แล้งจิต พักนิดหนา มีกลอนดี ที่ถึงชั้น จะหันมา เคาะข้างฝา หาชิด มิตรบ้านกลอน baimai@sailom emo_31 ...หมดอารมณ์ ผลิตฝัน อย่าพลันล้า ค่อยค่อยมา หากัน สรรเรื่องหลอน ปล่อยความรัก พักด้วย ช่วยก่อนนอน มิจำเป็น ต้องอ้อน ด้วยกลอนกานท์... หาเรื่องราว น่าสน มาบ่นบอก หรือเปลี่ยนหยอก เป็นเพลง บรรเลงสาน อาจต่อเนื่อง เรื่องเฝ้า เล่านิทาน มาเล่าผ่าน ก็ดี เปรมปรีกัน... ลาพักร้อน ต้องเพียร เวียนมาน๊ะ อย่ารีบละ เลยผ่าน นานเกินนั่น เข้ามายก นิ้วให้ ลุ้นใจหมั่น ก็สุขพลัน รักพี่ น้องดีเอย... รัตนาวดี emo_116 http://www.youtube.com/watch?v=6SoV83cV_Qo&feature=related หัวข้อ: Re: ลาพักร้อน.. เริ่มหัวข้อโดย: บูรพาท่าพระจันทร์ ที่ 01 เมษายน 2012, 09:09:AM emo_89 ยามเหนื่อยอ่อนนอนนิทราหลับตาฝัน emo_18 ส่งใจพลันชั้นสรวงดวงแก้วเอ๋ย ล้วนพิลาสนาฏอนงค์ให้หลงเชย สุดเอื้อนเอ่ยเฉลยคำสำอางองค์ ตะลึงแลแขไขพิไลลักษณ์ ล้วนวงพักตร์ปักฤทัยชวนใหลหลง ทั้งโอษฐ์คางปรางสองของอนงค์ ทั้งรูปทรงองค์อ่อนสะท้อนใจ ต่างรายล้อมน้อมนำซ้ำอิงแอบ บ้างก็แนบเนื้อนวลชวนหลงใหล กลิ่นจรุงฟุ้งหวานซ่านกระไร ย้อมฤทัยให้สวาทพิลาสครวญ เมื่อยามตื่นฟื้นกายสบายจิตต์ มาลิขิตกลอนระรื่นได้คืนหวน ยังฟุ้งกลิ่นประทิ่นตลบหอมอบอวล ตามยั่วยวนป่วนฤดีไม่หนีไกล emo_25.../ emo_126 emo_116 emo_126 บูรพาท่าพระจันทร์ หัวข้อ: Re: ลาพักร้อน.. เริ่มหัวข้อโดย: panthong.kh ที่ 01 เมษายน 2012, 09:38:AM เป็นบอร์ดกลอน สอนสั่ง หวังทางไหน อันจุดหมาย ร่ายวาง ทางประสงค์ วลีฉาย ถ่ายคำ เจตน์จำนงค์ เป็นกลอนลง บ่งเหตุ เจตนา มีบางอย่าง คลางใจ ให้สะท้อน จำกัดรอน กลอนกระจอก บอกเลยหนา ถึงบางอ้อ ท้อนิด ติดอุรา ที่เขาว่า พาจริง สิ่งนี้เอง มาเดี่ยวเดิน เอิ้นคิด มิตรภาพ หวังซึ้งซาบ อาบน้ำใจ ในบอร์ดเหวง ให้สะดุด หยุดพัก จำหนักเกรง ใช่กลอนเก่ง เปล่งจ้า กว่าผู้ใด ต้องเจียมตัว เจียมแด แม้อยากทัก อันมิตรรัก ต้องหักทอน งดกลอนไว้ เดี๋ยวไปดัน ยันกระทู้ ของผู้ใด ให้เลื่อนไป ไม่สม ติดลมบน กลัวถ้อยคำ นำทัก จักรกเขา จึงขอเบา เอาสำนึก ไปฝึกฝน มิยึดติด จะคิดกลอน เพื่อสอนตน อาจหมองหม่น แต่ทนได้ ใจยังมี ที่หายห่าง ว่างเก่า เข้าใจแล้ว เคยยินแว่ว แน่วมั่น ในวันนี้ ถึงบางอ้อ หนอคน ทุกหนมี ยังขาดที่ มีแต่คิด ติดอัตตา ใช่กลอนลา แต่ไปมา ต้องว่าแจ้ง ด้วยอ่อนแรง แล้งจิต พักนิดหนา มีกลอนดี ที่ถึงชั้น จะหันมา เคาะข้างฝา หาชิด มิตรบ้านกลอน [/quote] (http://www.qzub.com/bar_008.gif) (http://www.qzub.com) ใครใจดำ ทำเจ้า ให้เหงาจิต คะนึงหวน ชวนพิศ คิดทอดถอน กลับมาเถิด สายลมจ๋า อย่าลาจร พี่อาวรณ์ ถึงเจ้า ทุกเช้าแลง ใครหรือทำ ให้น้อง หมองใจแท้ เจ้าอย่าเชือน อย่าแช แม้หน่ายแหนง จงใคร่ครวญ ให้ดี อย่ามีแคลง หวาดระแวง เรื่องไร ช่วยไขที อันลมปาก ของคน บ่นไปเรื่อย เดี๋ยวเขาเมื่อย คงหยุด สุดวิถี อยู่ร่วมมาก มีชั่ว ย่อมมีดี เลือกเอาซี น้องรัก จักคบใคร เราก็หนึ่ง ในตองอู สู้สิน้อง เจ้ามาหมอง เมินหนี นี่ไฉน คนมีปาก พูดมาก ช่างประไร เรามีใจ รักกานท์ วานกลับมา พันทอง (http://www.qzub.com/bar_008.gif) (http://www.qzub.com) |