หัวข้อ: บทกลอนของข้าพเจ้า... เริ่มหัวข้อโดย: เพลิงคำ ที่ 22 กุมภาพันธ์ 2012, 09:30:PM ใจเสี้ยว ดูแปลกเปลี่ยนเพี้ยนไปใจทระนง สัมผัสถึงความมั่นคงไม่เหมือนเก่า รับรู้ได้ใจเริ่มจางและบางเบา รู้สึกเศร้าเหงาซึมอึมครึมไป ยืนงวยงงหลงคว้างกลางเมืองหลวง ดังถูกบ่วงรัดรึงตรึงหลงใหล หลากผู้คนล้นหลามตามแสงไฟ กลับเหงาได้มากและน้อย ร้อยเวลา เมื่อเมฆครึ้มฟ้าปิดอากาศเปลี่ยน หนาวจวนเจียนใจป่นทนฟันฝ่า ลมพัดผ่านพาลเพลียเสียน้ำตา เหนื่อยและล้าชอกช้ำลำพังตัว คนไร้คู่ชูชื่น ใจขื่นขม ปล่อยอารมณ์ลอยล่องท่องไปทั่ว หลับตาลงครั้งใดใจหม่นมัว รอยรักรั่วซ้ำซ้อน อ่อนในทรวง ณ คืนแรมแสนเศร้าเหงาคล้อยเคลื่อน แหงนมองเดือนเว้าแหว่งตกแต่งสรวง นั่งเปรียบจันทร์กับใจในเงาลวง โอ้ใจเสี้ยวเดี่ยวดวงรอโรยรา .......................... ความหวังหนึ่งในใจในคืนนี้ เหลือเพียงแสงริบหรี่ในเวหา หากใจเสี้ยวไม่สุดสิ้นแสงศรัทธา อาจกลับมาเติมต่อทอเต็มดวง ทัณฑฆาต "ค่ำคืนแรมแสนเศร้าเหงาคล้อยเคลื่อน แหงนมองเดือนเว้าแหว่งตกแต่งสรวง นั่งเปรียบใจกับจันทร์วันแรมลวง โอ้จันทร์เสี้ยวเดี่ยวดวงรอแสงรา..." หัวข้อ: Re: บทกลอนของข้าพเจ้า... เริ่มหัวข้อโดย: เมฆา... ที่ 10 เมษายน 2012, 07:19:PM (http://s18.postimage.org/e15sc3grt/1325429169.jpg) (http://postimage.org/) (http://www.qzub.com/bar_172.gif) (http://www.qzub.com) ๐ ทุกๆครั้ง..ที่ข้าพเจ้าเขียนกลอน มันคือการพักผ่อน...ของก้อนสมอง ที่..ไม่ต้องคร่ำเคร่งเร่งไว..หรือ..รีบไตร่ตรอง เพียงแค่การเหม่อมอง..มองไปเรื่อยๆ....และเอื่อยๆไป ๐ไม่เคยสน..เคยสับ..กับคนอื่น สนแต่เพียงมันจะกลมกลืน...กับเขาไหม จะวัด..หรือวา..หรือศอก..หรือคอกพนักใด ก็เดินได้...ดุ่มเดี่ยว...เที่ยวดอมดู ๐ จับคำนี้มาโยง..มาย่อต่อคำนั้น หยิบประโยค...เพ้อๆฝันๆมาปั่น..มาปัดมาขัดถู วางเรียงเรียง..เชื่อมเชื่อมแชะชัด..จัดละอองอณู พร้อมกระดาษทิชชูซับน้ำลาย..ตั้งหลายที ๐ อ่านไปหัวเราะไป..ยิ้ม..ก็ยิ้มไป ข้าพเจ้ามีความสุขในใจ..ก็ตรงนี้ สุขตรงที่ไม่ต้อง..แข่งขันตะบั้นตี เหมือนวิถีอาชีพ..ที่..จะต้องรีบ..รีบ..และก็รีบทำ ๐ถูกก็มี..ผิดก็มาก...กระดากก็บ่อย หลายๆถ้อย..อ่านทวน..ยังชอบหวนกลับมาขำ เฉพาะกลอนของตัวเองน่ะ..ที่กลับมาหัวเราะเป็นประจำ ส่วนกลอนของท่านอื่นนั้นเลิศล้ำ...ขอคำนับ ๐นี่แหละคือ...ความสุขของข้าพเจ้า ถึงไม่ได้กินน้ำลงน้ำเหล้า..แต่ก็มึน!!..เมากับ ศัพท์คารมต้มทอด...แกงยอดอร่อยเหลือคณานับ พร้อมพร้อมกับการหลับ..ตาหล่อๆแล้วเอนกาย..ด้วย..ตามสบายพัก! emo_32 (http://www.qzub.com/bar_211.gif) (http://www.qzub.com) (http://www.qzub.com/bar_173.gif) (http://www.qzub.com) หัวข้อ: Re: บทกลอนของข้าพเจ้า... เริ่มหัวข้อโดย: panthong.kh ที่ 10 เมษายน 2012, 07:47:PM (http://www.qzub.com/bar_086.gif) (http://www.qzub.com) เพราะมันเป็นเรื่องจริง.. จนต้องยอมรับ นับว่าใช่... อ่านบางทียังสงกะสัย....ว่าทำไม ถึงได้เป็นเช่นนั้น อ่านวกไปวนมา อ่านนานนาน อ่านซ้ำซ้ำ ....เฮ้อยิ่งปวดใจ เพราะว่ากลอนของเรา...นั้นเหลาเหย่ หมดความเก๋ ...ขาดอรรถรส..คตเคี้ยว..ว่าเขียนมาได้ยังไง อ่านของคนอื่น..แหมเขาเขียนได้ราบรื่น..ชื่นฤทัย อ่านทบทวน..ชวนตลก..ตกสัมผัส..อายบ้างไหม ความคิดเริ่มขัดแย้ง.... ถ้าเราหยุดเขียน..แล้วเปลี่ยนวิถีชีวิตใหม่ จะเป็นอย่างไร....จะทนได้เช่นนั้นหรือ..? พันทอง (http://www.qzub.com/bar_086.gif) (http://www.qzub.com) หัวข้อ: Re: บทกลอนของข้าพเจ้า... เริ่มหัวข้อโดย: สิงขร ที่ 10 เมษายน 2012, 08:21:PM emo_107 emo_107 emo_107 emo_107 emo_107 emo_107
ผมอยากเขียนเป็นกลอน แน่นอนเขียนไม่ได้ดั่งใจหมาย จึงยอมรับว่า ทุกคนย่อมมีพัฒนาการเชิงบวก ไม่มากก็น้อย ตามแต่ ใครจะขยัน เพราะเชื่อว่าเกิดจากท้องแม่มา ไม่มีใครเก่งทันที ดังนั้น บางครั้งทึ่งในเนื้อหาที่ พันทองนำมาเขียน พร้อมกับคำพจน์ เรื่องฉันทลักษณ์ ไม่ทราบเพราะมันลึกและละเอียดเกิน จงเขียนต่อไปเถิด จะออกแขกให้ เอ้า เต้ง เตง เต่ง เตง เต่ง เต้ง เตง เตง ห้าๆ สิงขร หัวข้อ: Re: บทกลอนของข้าพเจ้า... เริ่มหัวข้อโดย: เพลิงคำ ที่ 10 เมษายน 2012, 09:14:PM คิดถึงพจน์บทกลอนท่อนเคยกล่าว หลากเรื่องราวเฟื่องฝันในวันเก่า ณ ตอนนั้นฉันพร่ำคำว่า..เรา ด้วยความเหงาโดดเดี่ยวและเปลี่ยวดาย กลับมาเถิดทุกอย่าง หากห่างเหิน ร่วมออกเดินแนบเนา เหล่าสหาย บันทึกกลอนย้อนดูอยู่สบาย ความทรงจำมากมาย ยากลืมลง นั่น คำรักถักทอต่อกระทู้ ประจานผู้..เกี้ยวสาวคราวเคยหลง ตอนนี้เขา..โตแล้ว ออกแนวปลง ศรัทธาเพียงพุทธองค์มั่นคงดี นู้น ล่ะใครใจเหงาคอยเศร้าโศก อืม..กฎโลกโยกเอนเบนวิถี ธรรมดาของอารมณ์ บ่มกวี อ่านแล้วมีอรรถรส ดูงดงาม ทัณฑฆาต หัวข้อ: Re: บทกลอนของข้าพเจ้า... เริ่มหัวข้อโดย: รพีกาญจน์ ที่ 11 เมษายน 2012, 02:32:PM กลอนของฉัน... เขียนทุกวัน ตามใจ ได้มั่นหมาย บางทีคำ พริ้วพาน อ่านสบาย ประชดร้าย ด่าทอ รักก็มี เศร้าซึมเหงา ผิดหวัง ชังร้องไห้ แสร้งบ้าใบ้ จบลง นอนโรงศรี(ธัญญา) ประสบการณ์ ผ่านไป ในพงพี ทำหน้าที่ สอนเด็ก เล็กเป็นครู หวาดวิตก วอนฝัน ขันพิลึก สร้างรู้สึก อิงนิทาน ให้หลานรู้ ทำนาสวน ประสม งมปลาปู ค้าขายอยู่ ประจำ นำสังคม เอาพระวัด งัดธัมมะ มาขยาย เอาเลวร้าย ซาตาน รานถล่ม กล่าวเชิดชู คนดี ที่นิยม กล่าวชื่นชม ยายผัน ผู้พอเพียง โห่เฮฮา ลามก จกเปรต เสาะสาเหตุ ให้เขา เอาขึ้นเขียง เขียนเปื่อยเปื่อย เรื่อยเรื่อย มาเรียงเรียง อกเอนเอียง น้องเพื่อน ถูกเฉือนตอน กลอนของฉัน... ไม่ประกวด ประขัน ประขอน ออกสะเปะ สะปะ สะปอน แน่นอน เพ้อพล่าม ตามอารมณ์ emo_81 รพีกาญจน์ 59 หัวข้อ: Re: บทกลอนของข้าพเจ้า... เริ่มหัวข้อโดย: panthong.kh ที่ 11 เมษายน 2012, 03:55:PM (http://www.qzub.com/bar_176.gif) (http://www.qzub.com) กลอนของฉัน เขียนทุกวัน ยังหวั่นหวาด เขียนครั้งพลาด อัษรา ว่าไม่สม เราก็เน้น เขียนดี มีรสนิยม แต่ไหงขม ข่มฤทัย ไม่เข้าที บางวันเขียน กลอนเศร้า เหงายิ่งนัก เขียนกลอนรัก กลอนตลก อกขมปี๋ ก็เขียนไป เลื่อยเปื่อย เหนื่อยสิ้นดี บางครั้งมี เซ็งบ้าง ก็ช่างมัน พันทอง (http://www.qzub.com/bar_176.gif) (http://www.qzub.com) หัวข้อ: Re: บทกลอนของข้าพเจ้า... เริ่มหัวข้อโดย: darkness_hero ที่ 11 เมษายน 2012, 04:23:PM กลอนของฉันแต่งเอามันแต่งเอาบ้า ไม่อวดแข่งงัดวิชากับใครเขา บ้างก็ไร้สาระกลอนเบาเบา บ้างก็เอาหนักๆบ้างกลอนการเมือง ยังสัมผัสผิดเพีั้ยนงงชีวิต เขียนผิดผิดถูกถูกไม่ได้เรื่อง ใช้สมองอันน้อยนิดอย่างสิ้นเปลื่อง ใช้อารมณ์ที่เฟื่องฟุ้งอยู่เรื่อยไป เขียนออกมาไม่ค่อยเป็นสัปปะรด หวานปานมดวิ่งหนีแทบไม่ไหว บ้างเปรี้ยวจนคนอ่านลำบากใจ ยังไม่ใกล้คุณค่า"คนกวี" หัวไม่ไปมือไม่แข็งปีกไม่กล้า ขอศึกษาเรียนรู้จากน้องพี่ ว่าด้วยรายวิชาภาษากวี คงต้องเรียนอีกหลายปีกันเลยเชียว darkness_hero ปล... ผมขอถือโอกาศนี้คารวะฝากตัวเป็นศิษย์แอบเรียนแบบครูพักลักจำจากกวีและนักกลอนทุกท่านครับ |