หัวข้อ: สงสารกบในกะลา เริ่มหัวข้อโดย: สล่าผิน ที่ 19 กุมภาพันธ์ 2012, 10:38:PM (http://t3.gstatic.com/images?q=tbn:ANd9GcRXD72tg2DrrtOFmrYSHMfgGn5zHX8MpGYptL8sbe5nThD7LCrj) กบอยู่ในใต้กะลาคิดว่าเก่ง เฝ้าพิศเพ่งว่าให้ใครเขาแย่ คิดว่าตนฉลาดปราชญ์โดยแท้ เฝ้ารังแกใครเขาว่าเขลาจัง มิมองฟัาว่ากว้างเหมือนอย่างปราชญ์ เลยมักพลาดเพราะตนบนความงั่ง มองแต่ตนคนดีมีเด่นดัง จึงได้พลั้งว่าเขาน่าเศร้าใจ กบเอ๋ยกบไยว่ากล้าพูดนัก มัวจมปลักใต้กะลาล้าสมัย โลกเปลี่ยนแปลงแสงสีศิวืไลศ์ เหตุไฉนเจ้ากบไม่พบเจอ อยากจะเปิดกะลาพากบออก แล้วได้บอกฟ้ากว้างขวางเสมอ มองให้ไกลกว่านี้อย่ามีเบลอ และอย่าเผลออวดเบ่งเก่งผู้เดียว สล่าผิน หัวข้อ: Re: สงสารกบในกะลา เริ่มหัวข้อโดย: ปู่ริน ที่ 20 กุมภาพันธ์ 2012, 01:34:AM เปิดกะลาลืมตาได้มองโลก สุดแต่โชคจะมีใครได้สงสาร กบน้อยน้อยยอมถูกขังให้นานนาน สุขสำราญในกะลามิว่าไร ถึงโดดเดี่ยวเปลี่ยวจิตมิคิดเบ่ง มิอวดอ้างอวดเก่งใครที่ไหน คู่อึ่งอ่างยังดีกว่าไม่มีใคร ชักน้อยใจในวาสนาดวงชะตา...กบ ริน ดอนบูรพา ๒๐ ก.พ. ๕๕ emo_52 หัวข้อ: Re: สงสารกบในกะลา เริ่มหัวข้อโดย: รัตนาวดี ที่ 20 กุมภาพันธ์ 2012, 03:27:AM (http://t3.gstatic.com/images?q=tbn:ANd9GcRXD72tg2DrrtOFmrYSHMfgGn5zHX8MpGYptL8sbe5nThD7LCrj) กบอยู่ในใต้กะลาคิดว่าเก่ง เฝ้าพิศเพ่งว่าให้ใครเขาแย่ คิดว่าตนฉลาดปราญช์โดยแท้ เฝ้ารังแกใครเขาว่าเขลาจัง มิมองฟัาว่ากว้างเหมือนอย่างปราญช์ เลยมักพลาดเพราะตนบนความงั่ง มองแต่ตนคนดีมีเด่นดัง จึงได้พลั้งว่าเขาน่าเศร้าใจ กบเอ๋ยกบไยว่ากล้าพูดนัก มัวจมปลักใต้กะลาล้าสมัย โลกเปลี่ยนแปลงแสงสีศิวืไลศ์ เหตุไฉนเจ้ากบไม่พบเจอ อยากจะเปิดกะลาพากบออก แล้วได้บอกฟ้ากว้างขวางเสมอ มองให้ไกลกว่านี้อย่ามีเบลอ และอย่าเผลออวดเบ่งเก่งผู้เดียว สล่าผิน (http://www.schoepfung.eu/fileadmin/win/sc/dateien/6/weitere/froesche.jpg) ...ใต้กะลา พากบ พบความสุข มิเจอทุกข์ สุขใจ ในความเปลี่ยว มิสนนาม ความรัก สลักเกลียว ไร้ผู้เกี่ยว เฉลียวรั้ง สั่งวกวน... ...นอกกะลา ว่ามี สิ่งแวดล้อม จริงดีปลอม พร้อมปรับ ความสับสน เปิดกะลา พากบ เพลินพบยล เปรียบช่วยคน เจอทาง โลกกว้างไกล... ...ความสุขเกิด เปิดใจ ใฝ่บริสุทธิ์ เจอโชคชม สมมุติ สุดสดใส เจอโลกลวง ทรวงอาจ แทบขาดใจ โลกกว้างใหญ่ ใคร่พราง ทางเวทนา... รัตนาวดี emo_27 emo_50 มิค่อยจะตรงประเด็นของคุณสล่า..อย่าถือสานะคะรัตน์ขออนุญาตจ้า.. emo_126 (http://images.travelpod.com/users/verian/1.1273505024.gebratene-fr-sche.jpg) หัวข้อ: Re: สงสารกบในกะลา เริ่มหัวข้อโดย: บูรพาท่าพระจันทร์ ที่ 20 กุมภาพันธ์ 2012, 07:19:AM ([url]http://t3.gstatic.com/images?q=tbn:ANd9GcRXD72tg2DrrtOFmrYSHMfgGn5zHX8MpGYptL8sbe5nThD7LCrj[/url]) กบอยู่ในใต้กะลาคิดว่าเก่ง เฝ้าพิศเพ่งว่าให้ใครเขาแย่ คิดว่าตนฉลาดปราญช์โดยแท้ เฝ้ารังแกใครเขาว่าเขลาจัง มิมองฟัาว่ากว้างเหมือนอย่างปราญช์ เลยมักพลาดเพราะตนบนความงั่ง มองแต่ตนคนดีมีเด่นดัง จึงได้พลั้งว่าเขาน่าเศร้าใจ กบเอ๋ยกบไยว่ากล้าพูดนัก มัวจมปลักใต้กะลาล้าสมัย โลกเปลี่ยนแปลงแสงสีศิวืไลศ์ เหตุไฉนเจ้ากบไม่พบเจอ อยากจะเปิดกะลาพากบออก แล้วได้บอกฟ้ากว้างขวางเสมอ มองให้ไกลกว่านี้อย่ามีเบลอ และอย่าเผลออวดเบ่งเก่งผู้เดียว สล่าผิน ([url]http://www.schoepfung.eu/fileadmin/win/sc/dateien/6/weitere/froesche.jpg[/url]) ...ใต้กะลา พากบ พบความสุข มิเจอทุกข์ สุขใจ ในความเปลี่ยว มิสนนาม ความรัก สลักเกลียว ไร้ผู้เกี่ยว เฉลียวรั้ง สั่งวกวน... ...นอกกะลา ว่ามี สิ่งแวดล้อม จริงดีปลอม พร้อมปรับ ความสับสน เปิดกะลา พากบ เพลินพบยล เปรียบช่วยคน เจอทาง โลกกว้างไกล... ...ความสุขเกิด เปิดใจ ใฝ่บริสุทธิ์ เจอโชคชม สมมุติ สุดสดใส เจอโลกลวง ทรวงอาจ แทบขาดใจ โลกกว้างใหญ่ ใคร่พราง ทางเวทนา... รัตนาวดี emo_27 emo_50 มิค่อยจะตรงประเด็นของคุณสล่า..อย่าถือสานะคะรัตน์ขออนุญาตจ้า.. emo_126 ([url]http://images.travelpod.com/users/verian/1.1273505024.gebratene-fr-sche.jpg[/url]) ออกกะลา มาตาย น่าอายนัก โถยอดรัก นักฝัน มากตัณหา โลกข้างใน ให้สนุก สุขอุรา วังกะลา หายาก หลากเสบย ถูกใครเขา เฝ้าหลอก ทิ้งออกมา ทิ้งชีวา อาสัญ สิ้นกันเหวย หงายพุงดำ ช้ำฟก นะอกเอย ด้วยละเลย เชยมาก จากกะลา.../ emo_111 emo_111 emo_111 บูรพาท่าพระจันทร์ หัวข้อ: Re: สงสารกบในกะลา เริ่มหัวข้อโดย: สล่าผิน ที่ 20 กุมภาพันธ์ 2012, 07:46:AM (http://a3.sphotos.ak.fbcdn.net/hphotos-ak-ash4/s320x320/432260_358239947530657_100000339655274_1175551_1823962837_n.jpg) เฝ้าหัวเราะเยาะกบพบโลกกว้าง เลยถูกย่างบนไฟไหม้แข้งขา อีกทั้งตัวหัวใจไหม้กายา คงเพราะว่าไม่รู้อยู่อย่างไร เที่ยวอวดดีเกินไปในความคิด เอาชีวิตมิรอดค่อนขอดได้ มิคิดเหมือนกว้างกว้างอย่างกว้างไกล มิเปิดใจรับอย่างอื่นหมื่นมารยา มัวว่าตนพ้นโลกีย์โลกนี้ได้ เลยมองใครต่ำต้อยน้อยคุณค่า พอแค่เปิดปากบอกนอกกะลา สิ้นชีวาทันทีหนีไม่ทัน สล่าผิน ชุดนี้มีแต่สระ า ขออย่าว่าข้าฯเด้อ คริคริ หัวข้อ: Re: สงสารกบในกะลา เริ่มหัวข้อโดย: ดาว อาชาไนย ที่ 20 กุมภาพันธ์ 2012, 09:48:AM แม้มิอาจจะออกข้างนอกได้ อยากอยู่ในกะลาหลับตาฝัน มิรู้ว่าฟ้าไกลอยู่ไหนกัน ทุกทุกวันสุขใจไม่ระอา ในโลกมีถมไปฉันไม่รู้ ประมาณดูก็จักมากหนักหนา แต่สิ่งหนึ่งซึ่งฉันมั่นอุรา คือรู้ว่าทุกวันฉันรักเธอ ดาว อาชาไนย หัวข้อ: Re: สงสารกบในกะลา เริ่มหัวข้อโดย: สะเลเต ที่ 20 กุมภาพันธ์ 2012, 11:09:AM อยู่แต่ในกะลามานานเนิ่น เซ็งเหลือเกินคิดดูอยู่เสมอ อยากพบสิ่งแปลกใหม่ได้เจอะเจอ ข้างนอกคงเลิศเลอเพอร์เฟคนั้น ใช้ขาหลังสองข้างหาทางออก หลุดจากคอกแคบสู่ประตูสวรรค์ บายเคหาจากไกลชั่วนิรันดร์ ยิ้มแก้มห้อยสุขสันต์แสนลั้นลา ยลใบไม้สีเขียวยามเลี้ยวเลาะ ป่าละเมาะร่มรื่น...มองผืนหญ้า สิ่งแปลกใหม่ได้เห็นเป็นบุญตา กลิ่นบุปผาหอมจังสูดตั้งนาน พบเพื่อนเก่าเคยซี้ที่รู้จัก ไปทายทักแกหาย..หลายปีผ่าน เจ้ากบแดงกบดำยิ้มหน้าบาน สุขใดปานเมื่อออก...นอกกะลา ---สะเลเต--- (http://www.qzub.com/bar_019.gif) (http://www.qzub.com) หัวข้อ: Re: สงสารกบในกะลา เริ่มหัวข้อโดย: เอ๊พ ที่ 20 กุมภาพันธ์ 2012, 03:00:PM นี่ล่ะหนากบพวกมากจึ่งลากไป นึกว่าตัวด้านในนั้นโง่เขลา หลงว่าเราอยู่ข้างนอกกะลาเบา เก่งกว่าเขาเงาหัวเลยไม่มี หงายท้องคร่ำดำตายเป็นหมู่พวก นอกกะลาถูกลวกด้วยเปลวสี คิดว่าโดดตามเขาคงเข้าที ผองเผ่าที่ยอมตาย..เพราะไร้ปัญญา (http://www.qzub.com/bar_052.gif) (http://www.qzub.com) หัวข้อ: Re: สงสารกบในกะลา เริ่มหัวข้อโดย: รพีกาญจน์ ที่ 21 กุมภาพันธ์ 2012, 06:13:AM เป็นพ่อกบ แม่กบ ลูกกบน้อย กระโดดลอย โฉ่งฉ่าง ตามทางสัน ตาถลน โปนโต โชว์วาวมัน สายตาสั้น ส่องหลืบ แค่คืบวา เกิดใต้ถุน บุ่นมา กะลาครอบ เติบในกรอบ ขอบมิด ปิดแน่นหนา แมลงไต่ ไส้เดือน เป็นเพื่อนยา หิวก็ฆ่า ตวัด กัดกินกาย เวลากาล ผ่านไป ไร้เรียนรู้ ก้าวออกสู่ ลานนา กะลาหงาย หลงเพลิดเพลิน เดินเที่ยว แต่เดียวดาย สัตว์ทั้งหลาย คงไม่ ใหญ่เท่าตู มิถนอม ยอมรับ ใจคับแคบ สร้างรูปแบบ เหินฟ้า ตีหน้าขู่ มิมองดิน ทีนย่ำ จมถ้ำรู ชื่นชมผู้ โอนอ่อน ร่อนลามเลีย ใช้อำนาจ เบ็ดเสร็จ เผด็จศึก ควบความคึก ดีชั่ว ไม่กลัวเสีย ชอบอมิตร คิดร้าย แสร้งหมายเคลียร์ เพื่อนผ่อนเพลีย ท้อถอย เพราะน้อยใจ มาอย่างไร ไปเป็น เช่นเดิมกบ จะกี่ภพ กี่กัลป์ กี่ชั้นไหน จะงามชั่ว ตัวดำ ขำพิไล เสียงดังไกล..อบอบ..กบนั่นเอง ความหมายสำนวนไทย..ทำโดยไม่มองสิ่งใด emo_126 รพีกาญจน์ 59 หัวข้อ: Re: สงสารกบในกะลา เริ่มหัวข้อโดย: บูรพาท่าพระจันทร์ ที่ 21 กุมภาพันธ์ 2012, 07:37:AM มิใช่หรอก บอกพี่ ที่ยินเสียง คือสำเนียง เพียงยายย่า ว่ากันเขลง เสียงตำหมาก สากขยับ ขับบรรเลง ประกอบเพลง ละเลงไล้ วงไพ่กัน นั่นยายมา ย่ามี จั่วตีไพ่ ร้องฮ้าไฮ้ ได้ยิน มิสิ้นสรรพ์ เล่นกันเพลิน จำเริญใจ ใฝ่จำนรรจ์ ทุกทุกวัน พลันสบ กบแดงดำ ชะล่าใจ ไม่น้อย นะกลอยเฒ่า วันหนึ่งเล่า เฝ้าครวญ เจ้านวลขำ ขึ้นโรงพัก ยักแย่ ด้วยแพ้กรรม เสียงครวญคร่ำ ช้ำจิตต์ ด้วยพิษกบ.../ emo_111 emo_111 emo_111 บูรพาท่าพระจันทร์ หัวข้อ: Re: สงสารกบในกะลา เริ่มหัวข้อโดย: กังวาน ที่ 21 กุมภาพันธ์ 2012, 11:26:AM สงสารกบในกระลามาเอื้อนเอ่ย แล้วก็เลยออกมาหาจุดจบ เพื่อนดีดีในกระลาไม่มาคบ มาเที่ยวหลบดูโลกนี่โศกจริง ใครเป็นใครไม่รู้ดูแค่หน้า บอกจะพาไปบ้านสำราญยิ่ง จับทุบหัวตัวถลกหนังเหมือนชังชิง ถ้าอยู่นิ่งในกระลา....ไม่มาตาย หัวข้อ: Re: สงสารกบในกะลา เริ่มหัวข้อโดย: panthong.kh ที่ 21 กุมภาพันธ์ 2012, 12:48:PM (http://www.qzub.com/bar_003.gif) (http://www.qzub.com) แสนสงสาร กบนัก ชักเย่อหยิ่ง มิไหวติง ยิ่งยวด อวดเหลือหลาย อนาถนัก ตาตั้ง หวังทำลาย ทุรนทุราย ตายเพราะ ท้อดวงแด อย่าเที่ยวอวด โอ้ว่า ด่าใครเขา เห็นไหมเจ้า มิทันใด ใจเน่าแน่ หากเมตตา ปรานี จะดีแท้ คงไม่แย่ แบบนี้ มิสังวร จำไว้เป็นบทเรียน นะเพื่อนเอ๋ย อย่าไปเย้ย เหยียดหยัน มิผันผ่อน ผลสุดท้าย ตายจบ พบกองฟอน ความเดือดร้อน สุมตัว มั่วงมงาย พันทอง (http://www.qzub.com/bar_003.gif) (http://www.qzub.com) |