หัวข้อ: ริมกระจกบานร้าว เริ่มหัวข้อโดย: a moth ที่ 25 มกราคม 2012, 12:35:AM ริมกระจกบานร้าว (http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_022.gif) (http://www.klonthaiclub.com) คือหยาดฝนทิ้งยวงจากดวงหน้า ริมหน้าต่างสีฟ้า ผ้าม่านใหม่ ค่ำที่ตนสนทนาเวลาใด ราวโมงยามย้อนวัยโลกใบเดิม กระดิ่งเคาะระฆังฟังคล้ายว่า มีบางสิ่งคุ้นตามาต่อเสริม ระหว่างคืนสีดำที่ค่ำเติม เพลงลมเริ่มรัวกลองทำนองเพลง แนบหน้าอยู่ใกล้ชิด-กระจกร้าว บทละครเรื่องยาวเล่าขานเปล่ง คือชีวิตไหม้มอดกอดตัวเอง ใต้ไฟห้องวังเวงอย่างเกรงกลัว หลากความไม่เข้าใจในส่วนลึก ทบรู้สึกสุมวนจนหม่นทั่ว ระหว่างความเชื่อมั่นคือฝันมัว มิอาจเผยออกตัวว่าหัวใจ- อยากตัดพ้อต่อว่าให้สาสม เก็บอารมณ์ซุกซ่อนความอ่อนไหว เมื่อล่วงลุโมงยามความเป็นไป หวังแม่น้ำสายใดจักไหลคืน ไหลลงพร้อมคิดถึงซึ่งขาดช่วง ไปแล้วจากอีกห้วงดวงใจอื่น ขณะความบาดหมางฝังรากกลืน พิษความเหงาตีตื้นขึ้นทบใจ โลกใบเก่าลำพังนั่งเหว่ว้า แอบคาดหวังคนลา จะมาใหม่ ผ่านการรอคำทักจากหนึ่งใคร รับรู้เพียงเยื่อใยเขาไม่มี จีบดอกฝันใส่กรอบสีขอบคล้ำ นกปีกช้ำบินไปไม่ถึงที่ ปวงช่อรักป่นลงเป็นผงคลี พร้อมมณีเม็ดปริ่มริมขอบตา- ของคนนั่งหน้าแนบแอบกระจก ลมกรูกราวฝนตก อกหวั่นว่า จะแตกเป็นเสี่ยง-เสี่ยงเพียงฝนมา เอื้อมมือเขียนรอยฝ้าว่าอย่าร้าว. (http://www.qzub.com/bar_013.gif) (http://www.qzub.com) หัวข้อ: Re: ริมกระจกบานร้าว เริ่มหัวข้อโดย: Music ที่ 25 มกราคม 2012, 06:54:AM (http://t0.gstatic.com/images?q=tbn:ANd9GcSVrpaso02VwE4Two8z0duqXj5dgkQPniD3EyVPzwlaled4wuUSkg)
อ่านกวีที่วาง...ณ กลางดึก แนบผนึกนึกห่วงในช่วงหนาว ท่ามสงบพบเสี้ยว...อันเกรียวกราว ผูกเรื่องราวในใจให้ใคร..รอ ในความดึกศึกสงบ..แต่จบยาก ใจอีกฟากถูกฝึก..ไม่สึกหรอ แต่กับคนที่เก็บ..เจ็บไม่พอ ต้องเคล้าคลออารมณ์..ให้สมควร ค่าความต่างห่างแยก..ถูกแทรกคั่น ด้วยหมายมั่นกับเมิน..จนเกินหวน เห็นหมอกฝนบนหน้าต่างก็ครางครวญ วาดหัวใจรัญจวน..ยิ่งชวนกลัว รอรับแสงเฉิดฉัน...ด้วยกันไหม? กระจกใสไร้ฝ้า..ฟ้าสลัว ลืมเถิดนะฟ้าหม่น..กับฝนนัว ทำใจตัวให้แกร่งกร้าวอย่า...ร้าวใจ emo_06 หัวข้อ: Re: ริมกระจกบานร้าว เริ่มหัวข้อโดย: ภู กวินท์ ที่ 25 มกราคม 2012, 09:17:PM ริมกระจกบานนั้น .......... อยู่กับความขม และความหนาว นั่งมองดาวทุกวัน จนฝันใฝ่ บางส่วนเริ่มชาเย็น และเป็นไป กระจกบานใส ก็พร่ามัว ราวกับว่าสิ้นแสง โลกแห่งนี้ เป็นห้องที่สีดำ คล้ำไปทั่ว ทุก-ทุกช่วงขณะ จะหวาดกลัว มันมืดมิดติดตัว อย่างงัวเงีย เกิดคำถามทบทวน ในส่วนลึก ไร้ที่ปรึกษากัน จนขวัญเสีย เปิดหน้าต่างอาวรณ์ ยามอ่อนเพลีย ไร้คำพูดนัวเนีย เงี่ยหูฟัง มองผ่านกระจกแก้ว แล้วใจหาย นกมากมายสยายปีก ไปอีกฝั่ง เงียบและขรึม ซึมและเศร้า เหงาลำพัง มากระซิบทุกครั้ง ไม่ยั้งใจ ริมกระจกบานวาว เริ่มร้าวแล้ว ดูสิ! ดูสิ! แก้ว ที่แววใส ฉันนั่งมองเมื่อวาน หรือนานไป จึงทำให้กระจก สีตกมัว..!! .......... emo_126 ภู กวินท์ |