พิมพ์หน้านี้ - สังขารปานวัตถุ

ชุมชน บ้านกลอนไทย ชุมชนสำหรับคนไทยผู้รักกลอน

บทประพันธ์กลอนและบทกวีเพราะๆ => กลอนธรรมะ+กลอนสอนใจ+กลอนธรรมชาติ+กลอนปรัชญา => ข้อความที่เริ่มโดย: sunthornvit ที่ 27 ธันวาคม 2011, 02:51:PM



หัวข้อ: สังขารปานวัตถุ
เริ่มหัวข้อโดย: sunthornvit ที่ 27 ธันวาคม 2011, 02:51:PM




                           ยามเดินผ่าน  สถาน  บ้านเก่าเก่า
            ชวนให้เรา  หวนคำนึง  ถึงอดีต
            ก่อนแถวนี้  ตึกราม  งามประณีต
            เปลี่ยนโทรมซีด  เมื่อผ่าน  กาลเวลา
   
               ทั้งอิฐ,ปูน  เหล็ก,ไม้  ใกล้ผุพัง
            พลอยนึกปลง  อนิจจัง  ในสังขาร์
            พริบตาเดียว  ทุกอย่าง  ต่างโรยรา
            แล้วกายา  เลือดเนื้อ  จะเหลือใด
   
                บ้านโบราณ  ส่วนหนึ่ง  พึ่งรื้อถอน
            ผุดสลอน  โครงการ  อาคารใหญ่
            เหมือนผู้เฒ่า  มรณา  ลาจากไป
            ชนรุ่นใหม่  แข่งกำเนิด  เกิดทดแทน
   
               คิดเสียดาย  ความสุข  ยุคสมัย
            คืน,วัน,วัย  นาที  ที่โลดแล่น
            มิตรสหาย  ยามเด็ก  เล็กแน่นแฟ้น
            กลับคลอนแคลน  ห่างหาย  ตอนใกล้วาย
   
               สังขารคน  เปรียบไป  คล้ายวัตถุ
            สิ้นอายุ  ก็สึกกร่อน  มรณ์สลาย
            มองบ้านเก่า  ดุจตัวเรา  เข้าบั้นปลาย
            น่าใจหาย  ชีวัน  ไยสั้นนัก
                        


หัวข้อ: Re: สังขารปานวัตถุ
เริ่มหัวข้อโดย: hort39 ที่ 27 ธันวาคม 2011, 06:19:PM
ไม่มีใครยืนยงอยู่คงที่
วันเดือนปีผ่านไปได้ประจักษ์ำ
ชีวิตร่วงโรยไปไวยิ่งนัก
ได้ตระหนักนึกรู้อยู่ในธรรม

มีหวั่นไหวไปบ้างอย่างที่เห็น
ทุกข์ลำเค็ญหัวใจไยถลำ
หลงรูปรสกลิ่นสีที่ชี้นำ
ไม่เคยจำซ้ำเจ็บเก็บนานมา

เปรียบเหมือนไม้ไกลฝั่งรอฝังกลบ
เหมือนชีวิตจวนจบพบโลกหน้า
อยู่ด้วยความมุ่งหวังสร้างศรัทธา
ปรารถนาความหวังดีมีให้กัน...


 emo_126



หัวข้อ: Re: สังขารปานวัตถุ
เริ่มหัวข้อโดย: sunthornvit ที่ 27 ธันวาคม 2011, 07:06:PM
ไม่มีใครยืนยงอยู่คงที่
วันเดือนปีผ่านไปได้ประจักษ์ำ
ชีวิตร่วงโรยไปไวยิ่งนัก
ได้ตระหนักนึกรู้อยู่ในธรรม

มีหวั่นไหวไปบ้างอย่างที่เห็น
ทุกข์ลำเค็ญหัวใจไยถลำ
หลงรูปรสกลิ่นสีที่ชี้นำ
ไม่เคยจำซ้ำเจ็บเก็บนานมา

เปรียบเหมือนไม้ไกลฝั่งรอฝังกลบ
เหมือนชีวิตจวนจบพบโลกหน้า
อยู่ด้วยความมุ่งหวังสร้างศรัทธา
ปรารถนาความหวังดีมีให้กัน...


 emo_126

                                      ต่างผู้  รู้ซึ้ง  ถึงวิถี
                    ชีวี  ถึงครา  ย่อมอาสัญ
                    กลับมุ่ง  ละโมบ  โลภดึงดัน
                    โรมรัน  ขันแข่ง  ยื้อแย่งชิง

                           คนวาย  ตายดับ  เพื่อทรัพย์สิน
                    โกงกิน  หินทราย  ได้ทุกสิ่ง
                    ทั้งที่  เงินทอง  ใช่ของจริง
                    หลงอิง  ความเท็จ  สังเวชใจ   


หัวข้อ: Re: สังขารปานวัตถุ
เริ่มหัวข้อโดย: Charlie ที่ 27 ธันวาคม 2011, 07:49:PM




เมื่อสังขาร  ปานวัตถุ  ปะผุแหว่ง
ต้องตกแต่ง  ให้เลิศล้ำ  นำสมัย
เมื่อชีพยัง  ก็ต้องอยู่  สู้กันไป
ตราบถึงวัย  มรณา  มาผจญ

เปรียบเหมือนไม้  ใกล้ฝั่ง  รั้งไม่อยู่
ได้แค่ดู   ได้แค่เป็น  เห็นขัดสน
คือชีวิต  ลิขิตฟ้า  หรือชะตาคน
คือถนน  สายชีวิต  ลิขิตแล้ว

 emo_126




หัวข้อ: Re: สังขารปานวัตถุ
เริ่มหัวข้อโดย: yaguza ที่ 27 ธันวาคม 2011, 08:53:PM
(http://www.qzub.com/bar_073.gif) (http://www.qzub.com)

มีดินน้ำ ลมไฟ ในสังขาร
เมื่อลุกาล ล่วงวัย หายใจแผ่ว
รอเวลา ผุพัง ไปทั้งแนว
ไม่เหลือแวว ความงาม ยามชรา

อนิจา ตัวเรา ก็เท่านี้
สิ้นชีวี เป็นศพ ดินกลบหน้า
ทั้งดินน้ำ ลมไฟ เขาให้มา
เมื่อถึงครา มิอาจฝืน คืนเขาไป


......ยากูซ่า......

(http://www.qzub.com/bar_146.gif) (http://www.qzub.com)



หัวข้อ: Re: สังขารปานวัตถุ
เริ่มหัวข้อโดย: sunthornvit ที่ 27 ธันวาคม 2011, 10:10:PM




เมื่อสังขาร  ปานวัตถุ  ปะผุแหว่ง
ต้องตกแต่ง  ให้เลิศล้ำ  นำสมัย
เมื่อชีพยัง  ก็ต้องอยู่  สู้กันไป
ตราบถึงวัย  มรณา  มาผจญ

เปรียบเหมือนไม้  ใกล้ฝั่ง  รั้งไม่อยู่
ได้แค่ดู   ได้แค่เป็น  เห็นขัดสน
คือชีวิต  ลิขิตฟ้า  หรือชะตาคน
คือถนน  สายชีวิต  ลิขิตแล้ว

 emo_126

                                    กายสังขาร ทุกส่วน ล้วนสมมุติ
                       จักพิสุทธิ์ วิราม งามผ่องแผ้ว
                       หรือขี้เหร่ เกรอะกรัง ดังมันแกว
                       ต่างไม่แคล้ว ต้องสลาย มลายลง

                             เมื่อชีพยัง อย่าได้ วุ่นวายนัก
                       ผ่อนเบาหนัก สร้างสัมมา อานิสงส์
                       คงความดี ถือธรรม โดยจำนง
                       ยามปลดปลง สงบ จบสบาย


หัวข้อ: Re: สังขารปานวัตถุ
เริ่มหัวข้อโดย: sunthornvit ที่ 27 ธันวาคม 2011, 10:48:PM
([url]http://www.qzub.com/bar_073.gif[/url]) ([url]http://www.qzub.com[/url])

มีดินน้ำ ลมไฟ ในสังขาร
เมื่อลุกาล ล่วงวัย หายใจแผ่ว
รอเวลา ผุพัง ไปทั้งแนว
ไม่เหลือแวว ความงาม ยามชรา

อนิจา ตัวเรา ก็เท่านี้
สิ้นชีวี เป็นศพ ดินกลบหน้า
ทั้งดินน้ำ ลมไฟ เขาให้มา
เมื่อถึงครา มิอาจฝืน คืนเขาไป


......ยากูซ่า......

([url]http://www.qzub.com/bar_146.gif[/url]) ([url]http://www.qzub.com[/url])


                                             ยามสังขาร ม้วยลง คงแต่ชื่อ
                          คนสัตย์ซื่อ ทำดี มีคนไหว้
                          คนชั่วช้า ถูกหยัน ด่าจัญไร
                          สุดแต่ใคร กลั้วเกลือก เลือกเส้นทาง

                               ผู้ยิ่งใหญ่ โด่งดัง แสนมั่งคั่ง
                          ตายลงยัง มิพ้น คนถากถาง
                          คนสร้างบาป สร้างกรรม ยากอำพราง
                          มีตัวอย่าง ให้เห็น เป็นอาจิณ


หัวข้อ: Re: สังขารปานวัตถุ
เริ่มหัวข้อโดย: รพีกาญจน์ ที่ 28 ธันวาคม 2011, 04:08:PM

 
                                                   
                  ..................................
                                                       
   
                สังขารคน  เปรียบไป  คล้ายวัตถุ
            สิ้นอายุ  ก็สึกกร่อน  มรณ์สลาย
            มองบ้านเก่า  ดุจตัวเรา  เข้าบั้นปลาย
            น่าใจหาย  ชีวัน  ไยสั้นนัก
                        


เป็นวัตถุ จุจาตุ ธาตุทั้งสี่
มีอินทรีย์ รู้สึก ผนึกหลัก
กอปรสัญญา วาทะ เป็นชนัก
จิตใสสัก พระธรรม ชูนำทาง

กายของเรา เผาผลาญ ทำงานได้
เนิ่นนานไป น้อยเนื้อ เหลือแต่ร่าง
ผิวหนังหย่อน อ่อนล้า ตาฝ้าฟาง
นั่งชันคาง หน้าหมอง สองหูตึง

ปากของเรา เว้าวอน ฉะอ้อนออด
พูดฉอฉอด หยอดหวาน ปานอ้อยผึ้ง
น้ำลายสอ คอดัง เสียงกรังกรึง
พร่าเช่นอึ่ง ถูกวัว เหยียบตัวแบน

ใจของเรา เงางาม ยามแสงส่อง
สวยผุดผ่อง ต้องหยก กระจกแว่น
ถูกเคราะห์นำ กรรมซัด วิบัติแทน
ไร้กฎแกน ลงลู่ สู่อบาย

เปรียบสังขาร รานเลือน เหมือนวัตถุ
แตกพังผุ ก่อกูณฑ์ สิ้นสูญหาย
หมดรูปกาม ความคิด จิตละลาย
คงเครื่องหมาย ไปทั่ว เพียงชั่วดี

 emo_91

รพีกาญจน์ 59


หัวข้อ: Re: สังขารปานวัตถุ
เริ่มหัวข้อโดย: sunthornvit ที่ 28 ธันวาคม 2011, 06:30:PM

เป็นวัตถุ จุจาตุ ธาตุทั้งสี่
มีอินทรีย์ รู้สึก ผนึกหลัก
กอปรสัญญา วาทะ เป็นชนัก
จิตใสสัก พระธรรม ชูนำทาง

กายของเรา เผาผลาญ ทำงานได้
เนิ่นนานไป น้อยเนื้อ เหลือแต่ร่าง
ผิวหนังหย่อน อ่อนล้า ตาฝ้าฟาง
นั่งชันคาง หน้าหมอง สองหูตึง

ปากของเรา เว้าวอน ฉะอ้อนออด
พูดฉอฉอด หยอดหวาน ปานอ้อยผึ้ง
น้ำลายสอ คอดัง เสียงกรังกรึง
พร่าเช่นอึ่ง ถูกวัว เหยียบตัวแบน

ใจของเรา เงางาม ยามแสงส่อง
สวยผุดผ่อง ต้องหยก กระจกแว่น
ถูกเคราะห์นำ กรรมซัด วิบัติแทน
ไร้กฎแกน ลงลู่ สู่อบาย

เปรียบสังขาร รานเลือน เหมือนวัตถุ
แตกพังผุ ก่อกูณฑ์ สิ้นสูญหาย
หมดรูปกาม ความคิด จิตละลาย
คงเครื่องหมาย ไปทั่ว เพียงชั่วดี

 emo_91

รพีกาญจน์ 59



                                                      เกิดจากดิน  คืนสู่ดิน  สิ้นสังขาร
                                   หมดลมปราณ  กาลสงบ  จบวิถี
                                   จบความโลภ  ยื้อแย่ง  แข่งชิงดี
                                   จบชีวี  ทรัพย์สิน  ล้วนสิ้นลง

                                           อนิจจัง  สังขาร  มินานเนิ่น
                                   ก็ยับเยิน  เปื่อยยุ่ย  เป็นผุยผง
                                   เหลือเพียงชื่อ  ความดี  ที่ยืนยง
                                   ยังดำรง  คงไว้  ให้จดจำ