หัวข้อ: " อัปลักษณ์แห่งอารมณ์ " เริ่มหัวข้อโดย: ภู กวินท์ ที่ 26 ธันวาคม 2011, 11:56:PM (http://image.free.in.th/z/ix/2images6.jpg) อัปลักษณ์แห่งอารมณ์ ........... ความหวาดไหวไหลริกยังพลิกพลิ้ว เสมือนคนเป็นนิ่วนิ้วมือกุด ประดับคิ้วดกดำหน้าชำรุด อยู่ในโลกสมมุติ นอนคุดคู้ เปล่าเปลือยโดยอุบัติแห่งสัจจะ ทิ้งนัยยะตักตวงจากดวงหู เกาะกุมก่ายศรัทธาจากตาดู เคลื่อนไหวตามประตู สู่ม่านคำ วิเวกหวังวังเวงจิตนิมิตตื่น ณ ลานคืนคลื่นเหียนอาเจียนค่ำ เพียงแสงเงาเซาซบสงบดำ ลอยละเลียบเหยีบย่ำ เข้าสำแดง ความรู้สึกกราดเกรี้ยวยังเลี้ยวลด มิปรากฏหดหู่นั่งดูแสง สนทนาตากลมกับลมแรง การเสแสร้งแห่งข้า ถูกท้าทาย รอยด่างดำน้ำเนื้อจากเชื้อโรค วิปโยคโศกเหลือจนเบื่อหน่าย อัปลักษณ์อารมณ์ผสมกาย เริ่มกระจายโหยหวน เย้ายวนนัก! …………… emo_126 ภาพจาก atcloud.com หัวข้อ: Re: " อัปลักษณ์แห่งอารมณ์ " เริ่มหัวข้อโดย: ปรางทิพย์ ที่ 27 ธันวาคม 2011, 12:47:AM เสียงเกาะกุมสุมสาดดั่งคาดโทษ กริ้วพิโรธโจษจันพลันประจักษ์ แรงตรึงเครียดเหยียดหยามความอัปลักษณ์ ยิ่งตระหนักหักหาญพิการใจ นัยนะคละคลุ้งเกินมุ่งหมาย กฏสลายกลายลงอสงไขย คราบกิเลสเวทนาเอื้อมคว้าไป จนตักษัยไร้แสง...แห่งศรัทธา emo_95 หัวข้อ: Re: " อัปลักษณ์แห่งอารมณ์ " เริ่มหัวข้อโดย: Prapacarn ❀ ที่ 27 ธันวาคม 2011, 09:51:AM (http://t2.gstatic.com/images?q=tbn:ANd9GcTtJi4zV3PxvqbU6Rc4afrO8onh5z_iTXcYuCwvPn9tBJIejGDoSw) โลกตลกปกปิดจะมิดหรือ ลมลวงรื้อพัดไหวจนใจปร่า ใต้หลืบซอกชอกช้ำเกินนำพา ซากกายาเปื้อนเปรอะเกรอะกรังใจ (http://www.qzub.com/bar_141.gif) (http://www.qzub.com) อารมณ์กรุ่นครุ่นคุระอุพลุ่ง แรงกระทุ้งถั่งท้นจนหวั่นไหว ชำแรกผิวบอบบางอย่างเปลวไฟ ก่อนโหมไหม้เกรียมคราบเผยหยาบช้า (http://www.qzub.com/bar_141.gif) (http://www.qzub.com) และดำดิ่งยิ่งซอนจนกร่อนผุ รอปะทุ.พล่าน.กลบ.ทบภูผา จนแหว่งวิ่นจินต์ดำในน้ำตา อัปลักษณ์ค้างคาในห้วงใจ (http://www.qzub.com/bar_141.gif) (http://www.qzub.com) เปิดประตูให้แสงแห่งสัจจะ ได้ชำระเงาขมที่ตรมไหม้ สัจธรรมนำทางสว่างอำไพ หวนดูใหม่...รอยขม..อารมณ์ลวง (http://www.qzub.com/bar_172.gif) (http://www.qzub.com) แซมค่ะ emo_116 หัวข้อ: Re: " อัปลักษณ์แห่งอารมณ์ " เริ่มหัวข้อโดย: รัตนาวดี ที่ 27 ธันวาคม 2011, 10:52:AM (http://www.voicetv.co.th/cache/images/bc3483d4221ed59a51079991afea9919.jpg) emo_79 หรือเป็นกฎ ทดกรรม ทำปางก่อน คอยตามย้อน ซ้อนซับ ทับทาบท้วง อัปลักษณ์ ประจักษ์แจ้ง แฝงดับดวง จิตตกบ่วง ห้วงล้า ระอาใจ ไร้ผู้คน ปรนปลอบ ชื่นชอบชิด ขาดมิ่งมิตร สนิทแนบ คิดแอบใฝ่ ขาดความรัก พักยื่น สะอื้นใจ สุดอาลัย ในชีวิต ลิขิตครวญ อยู่ในโลก ถวิล จินต์ไขว่คว้า เหงาหงุดหงิด จิตพา ผวาหวน อารมณ์ใคร่ หวั่นแหวก ผิดแปลกกวน ถ่วงโซ่ตรวน ครวญไห้ ไปชั่วกาล... รัตนาวดี emo_107 หัวข้อ: Re: " อัปลักษณ์แห่งอารมณ์ " เริ่มหัวข้อโดย: บูรพาท่าพระจันทร์ ที่ 27 ธันวาคม 2011, 11:38:AM ชุลีกร วอนพระพุทธ พิสุทธิ์ศรี บารมี กว้างไกล สุดไพศาล ขอได้จง ส่งกุศล ดลบันดาล โปรดประทาน อาจารย์กลอน สุนทรภู่ จะอยู่บน หนใด ในไตรภพ ขอน้อมนบ จบเศียร ใคร่เรียนรู้ ซึ่งกลอนกานท์ ท่านเป็น ดั่งเช่นครู เคารพอยู่ คู่ใจ แต่ใดมา ขอยกคำ ตำรา ท่านว่ากล่าว ซึ่งเรื่องราว ไม่น้อย ร้อยปีกว่า ตั้งแต่น้อย ค่อยจำเนียร เรียนตำรา ชื่อเรื่องว่า พระอภัยฯ ให้จำจด " แล้วสอนว่า อย่าไว้ ใจมนุษย์ มันแสนสุด ลึกล้ำ เหลือกำหนด อันเถาวัลย์ พันเกี่ยว ที่เลี้ยวลด ก็ไม่คด เหมือนหนึ่งใน น้ำใจคน " อัปลักษณ์ อันใด หทัยเปรียบ มิมีเทียบ จิตต์มนุุษย์ สุดลึกล้น สรรพสิ่ง เสกสรร บันดาลดล ด้วยกมล ค้นคิด แล้วบิดเบือน.../ บูรพาท่าพระจันทร์ หัวข้อ: Re: " อัปลักษณ์แห่งอารมณ์ " เริ่มหัวข้อโดย: Thammada ที่ 27 ธันวาคม 2011, 04:56:PM (http://www.ec-mall.com/wp-content/uploads/gallery/gd/1282299803rtxj950.jpg) ทะยานหยั่งสังเวชแห่งเขตตน ภวังค์วนล้นหลากซากสมัย อัปมงคลทนทุกข์ ฤๅ สุขใด จึ่งมอดไหม้ไฟดับที่ซับทรวง อัตตาด่าสมมุติประดุจดาบ จะซึ้งซาบหลาบเร้นหรือเป็นห่วง กาลประกอบขอบขังในทั้งปวง กำหนดหน่วงทวงทิศ อนิจจา โศกนาฏกรรมล้ำลึกผนึกนิ่ง บอกความจริงสิ่งฉาบเพียงคราบค่า ย้อนวิโยคโลกล้นที่ทนมา ท่วมอัตตาถ่าโถมชโลมคน อัปลักษณ์ถักนิมิตประสิทธิ์ส่ง และดำรงทรงสู่แต่ผู้ค้น ประจักษ์จิตผิดพลาดฉลาดตน ได้ยินยลพ้นพบบรรจบจริง emo_126 หัวข้อ: Re: " อัปลักษณ์แห่งอารมณ์ " เริ่มหัวข้อโดย: ..กุสุมา.. ที่ 27 ธันวาคม 2011, 07:11:PM (http://www.dhammajak.net/gallery/albums/userpics/normal_buddha004~0.jpg)
สายลมปราณ มานเรา เข้ากำหนด อัปยศ ลดลาง พรางจางหาย ควันเงาดำ พุ่งพลิ้ว ปลิวละลาย สังขารกาย ไร้ทิศ จิตล่องลอย สติตั้ง ยึดมั่น ผันสงบ จิตสู่ภพ อ่อนโยน พ้นวางปล่อย อัปลักษณ์ สลาย ไร้ร่องรอย ดำด่างพร้อย นวลขาว ราวไร้จินต์ ..กุสุมา.. @ สนสามใบ..บางใคร เคยบอกชื่อ ..คือไม้เกี๊ยะ @ |