|
หัวข้อ: ********“สายลม บ้านทุ่ง”******** เริ่มหัวข้อโดย: สุนันยา ที่ 25 ธันวาคม 2011, 10:41:AM (http://www.oknation.net/blog/home/blog_data/688/37688/images/98899889.jpg) (http://www.bloggang.com/data/praewkwun/picture/1226397182.gif) “สายลม บ้านทุ่ง” (http://www.whenifallinlove.net/diary/images_line/line16/119983.gif) สายลมพลิ้ว ทิวสน โอนเอนไหว สายธารใส ไหลล่อง ท้องทุ่งกว้าง แสงแดดอ่อน ทอทาบ ฉาบสีจาง สองริมทาง ซ้ายขวา ดอกหญ้าบาน (http://www.whenifallinlove.net/diary/images_line/line16/119983.gif) บัวชูช่อ ล้อลม ที่พรมแผ่ว หอมดอกแก้ว รวยรื่น ชื่นสนาน ดอกราตรี ยี่สุ่น กรุ่นดวงมาน รัตติกาล อบอวล ชวนภิรมย์ (http://www.whenifallinlove.net/diary/images_line/line16/119983.gif) อาทิตย์ลับ เหลี่ยมเขา เป็นเงาไหว แสงดาวใส แจ่มกระจ่าง พร่างเวหน เดือนโค้งเรียว เกี่ยวฟ้า นภาดล เสียงอึงอล เสนาะยิ่ง หริ่งเรไร (http://www.whenifallinlove.net/diary/images_line/line16/119983.gif) สายลมหวน ยวนเย้า ราวหยอกยั่ว โลมไล้ทั่ว สองข้าง ของปรางใส ลมดั่งลูบ จูบแต้ม แก้มทรามวัย ซ่านทรวงใน ไหวหวาม ยามต้องลม.. (http://www.whenifallinlove.net/diary/images_line/line16/119983.gif) “สุนันยา” (http://www.bloggang.com/data/praewkwun/picture/1226397182.gif) หัวข้อ: Re: ********“สายลม บ้านทุ่ง”******** เริ่มหัวข้อโดย: บูรพาท่าพระจันทร์ ที่ 25 ธันวาคม 2011, 07:00:PM หากไม่รู้ อันใด ใคร่ขอบอก มิย้อนยอก อกใจ ให้ขื่นขม รู้บ้างไหม ใครเล่า คอยเฝ้าชม จุมพิตพรม โลมสงวน นวลละออง ยามรุ่งเช้า เพลางาย นะสายจิตต์ แนบสนิท ลูบไล้ มิให้หมอง แสงสุรีย์ ผ่องอำไพ คือใจปอง โลมเนื้อทอง อุ่นไอ ให้ผิวนวล แม้เย็นย่ำ มืดฟ้า ใช่ลาจาก มิได้พราก ดวงจิตต์ ยังคิดหวน อยู่แนบชิด สนิทเนา เจ้าลำดวน ฝากแสงชวน นวลน้อง ของเดือนดาว ได้ยินไหม ใครบรรเลง บทเพลงกล่อม เคียงเครื่องหอม อบอวล เนื้อนวลสาว ทุกสิ่งสรรพ์ นั้นแทนถึง ซึ่งเรื่องราว เป็นข่าวคราว เสมอใจ แทนให้เธอ.../ บูรพาท่าพระจันทร์ หัวข้อ: Re: ********“สายลม บ้านทุ่ง”******** เริ่มหัวข้อโดย: สุนันยา ที่ 26 ธันวาคม 2011, 07:13:AM (http://www.bloggang.com/data/praewkwun/picture/1226397182.gif) หรือเป็นลมสวาทที่วาดหวัง พัดมาสั่ง อาลัยไว้เสนอ ส่งคำหยอดพลอดรักฝากละเมอ ให้ลมเผลอพัดบอกเย้าหยอกกัน ทุกถ้อยคำนำฝากว่ารักแน่ หรือเป็นแค่ลมลวง ในห้วงฝัน เมื่อยามตื่นเลือนหาย กลายสัมพันธ์ ดังสวรรค์ ปิดทาง ให้ร้างไกล สายลมหวนนวลช้ำระกำจิต คงหมดสิทธ์ทวงฝันแม้วันไหน เป็นสาวทุ่ง คุ้งคลอง ท้องบ้านไพร จะมีใคร รักจริงไม่ทิ้งจร เพียงสายลมโลมไล้ดุจสายรัก ไม่นานนักเลือนสลายให้ถ่ายถอน กลายเป็นตรมอุราคราร้าวรอน รอยน้ำตาเปียกปอน นอนระทม... emo_33 "สุนันยา" (http://www.bloggang.com/data/praewkwun/picture/1226397182.gif) หัวข้อ: Re: ********“สายลม บ้านทุ่ง”******** เริ่มหัวข้อโดย: สิงขร ที่ 27 ธันวาคม 2011, 10:21:PM สาวโสภา ในนากว้าง ไม่ร้างคิด ชายใดชิด นิดหนึ่ง ก็ซึ้งสม ทั้งใจกว้าง พูดเพราะ เคาะอารมณ์ อยากสุขสม ภิรมณ์นาน จนปานตาย หญิงชาวทุ่ง ฟุ้งเสน่ห์ ไร้เล่ห์กล ชายหลายคน ค้นหา แม่โฉมฉาย สืบตามหา พานาง มาข้างกาย รักจนตาย ไม่คลายคลอน ตัดรอนเธอ หัวข้อ: Re: ********“สายลม บ้านทุ่ง”******** เริ่มหัวข้อโดย: สุนันยา ที่ 28 ธันวาคม 2011, 06:32:AM สายลมหนาว ผ่านมา ปานว่าหยอก ทั้งเหมยหมอก พรมพร่าง ดั่งเสนอ พลิ้วแผ่วเสียง เคียงร้อย ลอยละเมอ ดั่งใครเพ้อคร่ำคราวญ ถึงนวลนาง เสนาะโสต ซ่านซึ้ง รำพึงแผ่ว ดังหวานแว่วออดอ้อน ตอนรุ่งสาง ลมรำเพย เชยชื่น เป็นคลื่นทาง แสงแดดจางระเรื่อ เมื่ออรุณ.. "สุนันยา" หัวข้อ: Re: ********“สายลม บ้านทุ่ง”******** เริ่มหัวข้อโดย: บ้านริมโขง ที่ 28 ธันวาคม 2011, 02:23:PM (http://www.oknation.net/blog/home/blog_data/688/37688/images/98899889.jpg) (http://www.bloggang.com/data/praewkwun/picture/1226397182.gif) “สายลม บ้านทุ่ง” (http://www.whenifallinlove.net/diary/images_line/line16/119983.gif) สายลมหวน ยวนเย้า ราวหยอกยั่ว โลมไล้ทั่ว สองข้าง ของปรางใส ลมดั่งลูบ จูบแต้ม แก้มทรามวัย ซ่านทรวงใน ไหวหวาม ยามต้องลม.. (http://www.whenifallinlove.net/diary/images_line/line16/119983.gif) “สุนันยา” (http://www.bloggang.com/data/praewkwun/picture/1226397182.gif) สายลมทุ่งจรุงจิตพิสมัย รำเพยไออาบอุ่นละมุนสม บริสุทธิ์ดุจทิพย์หยิบเชยชม เข้าห่อห่มสมสวาทมิคลาดคลา ล้วนละเมียดละมัยดวงใจเจ้า รื่นเริงเร้าเคล้าคลอรอห่วงหา จากอรุณรุ่งสางสว่างตา จวบจนฟ้ามืดลงยังคงคอย เจ้าลมทุ่งมุ่งมาหาใดหนอ ใครเคลียคลอรอหวังดั่งสุดสอย เหนื่อยบ้างไหมในวันอันเลื่อนลอย เจ้าคงน้อยใจบ้างระหว่างรอ ฉันเป็นดังต้นไม้ที่ตายซาก ที่ลมผ่านแล้วจากตากแดดต่อ ไม่เหลือใดให้ซึ้งตรึงลออ ชะเง้อคอเพียงมองหมองระทม มองตามริ้วปลิวผ่านสะท้านหนาว ตาฝ้าราวขาวหมอกหลอกใจข่ม น้ำตาหยาดสู่แก้มแย้มระบม ยามหันชมลมจากฝากอาลัย เถิด..เลยจากฟากนี้ถึงที่สุด อย่าสะดุดหยุดก่อหนอฝันใฝ่ อย่าอ่อนล้าลาแรงแสงส่องใจ พัดเรื่อยไปให้ทุ่ง ฟุ้งรัญจวน. "บ้านริมโขง" (http://t1.gstatic.com/images?q=tbn:ANd9GcQsnWxYcfRpIC_YhQLafuRiMUEaQcK9uFd6qRi3v-yY99rXgYcU) หัวข้อ: Re: ********“สายลม บ้านทุ่ง”******** เริ่มหัวข้อโดย: สุนันยา ที่ 29 ธันวาคม 2011, 09:25:AM (http://www.bloggang.com/data/praewkwun/picture/1226397182.gif) สายลมทุ่งจรุงจิตพิสมัย รำเพยไออาบอุ่นละมุนสม บริสุทธิ์ดุจทิพย์หยิบเชยชม เข้าห่อห่มสมสวาทมิคลาดคลา ล้วนละเมียดละมัยดวงใจเจ้า รื่นเริงเร้าเคล้าคลอรอห่วงหา จากอรุณรุ่งสางสว่างตา จวบจนฟ้ามืดลงยังคงคอย เจ้าลมทุ่งมุ่งมาหาใดหนอ ใครเคลียคลอรอหวังดั่งสุดสอย เหนื่อยบ้างไหมในวันอันเลื่อนลอย เจ้าคงน้อยใจบ้างระหว่างรอ ฉันเป็นดังต้นไม้ที่ตายซาก ที่ลมผ่านแล้วจากตากแดดต่อ ไม่เหลือใดให้ซึ้งตรึงลออ ชะเง้อคอเพียงมองหมองระทม มองตามริ้วปลิวผ่านสะท้านหนาว ตาฝ้าราวขาวหมอกหลอกใจข่ม น้ำตาหยาดสู่แก้มแย้มระบม ยามหันชมลมจากฝากอาลัย เถิด..เลยจากฟากนี้ถึงที่สุด อย่าสะดุดหยุดก่อหนอฝันใฝ่ อย่าอ่อนล้าลาแรงแสงส่องใจ พัดเรื่อยไปให้ทุ่ง ฟุ้งรัญจวน. "บ้านริมโขง" (http://t1.gstatic.com/images?q=tbn:ANd9GcQsnWxYcfRpIC_YhQLafuRiMUEaQcK9uFd6qRi3v-yY99rXgYcU) (http://www.bloggang.com/data/praewkwun/picture/1226397182.gif) พลิ้วเพลงพรหม ด้วยลม ที่ห่มรัก สานสลัก ตรึงตรา คราพัดหวน ฟังหวิวแว่ว แผ่วผ่าน คำหวานครวญ อุ่นไออวล แช่มชื่น...ระรื่นทรวง.... รักลอยลม พรมซ้ำ เย็นฉ่ำชื่น ที่กล้ำกลืน ครั้งก่อน วอนขอสรวง ให้สลาย ไกลห่าง เส้นทางลวง เผชิญช่วงสุขแทรก แยกระทม โอ้ลมทุ่ง มุ่งตาม สร้างความฝัน เพียงรำพัน พัดพา อย่างสาสม ลมรำเพย เชยพักตร์ ตระหนักชม อย่าเป็นลม ละเมอ ให้เพ้อคอย- เหมือนดั่งเช่น ต้นไม้ กลายเฉาแห้ง คราวเปลี่ยนแปลง โรยรา จึ่งล้าถอย ลมสวาท พัดเยือน อย่าเลื่อนลอย พารักคล้อยเคลื่อนลา ให้อาวรณ์ อย่าให้ต้องหมองหม่นเทียวบ่นหา โอ้ลมจ๋า คราร้าว เฝ้าถ่ายถอน ดุจพัดพราก รักลา ไม่อาทร ทรวงสะท้อน ดั่งย้ำ สิ้นคำนึง....... “สุนันยา” (http://www.bloggang.com/data/praewkwun/picture/1226397182.gif) หัวข้อ: Re: ********“สายลม บ้านทุ่ง”******** เริ่มหัวข้อโดย: กวีเขลา ที่ 29 ธันวาคม 2011, 09:43:AM พลิ้วเพลงพรหม ด้วยลม ที่ห่มรัก สานสลัก ตรึงตรา คราพัดหวน ฟังหวิวแว่ว แผ่วผ่าน คำหวานครวญ อุ่นไออวล แช่มชื่น...ระรื่นทรวง.... รักลอยลม พรมซ้ำ เย็นฉ่ำชื่น ที่กล้ำกลืน ครั้งก่อน วอนขอสรวง ให้สลาย ไกลห่าง เส้นทางลวง เผชิญช่วงสุขแทรก แยกระทม โอ้ลมทุ่ง มุ่งตาม สร้างความฝัน ลมรำพัน พัดพา อย่างสาสม ลมรำเพย เชยพักตร์ ตระหนักชม อย่าเป็นลม ละเมอ ให้เพ้อคอย- เหมือนดั่งเช่น ต้นไม้ กลายเฉาแห้ง คราวเปลี่ยนแปลง โรยรา จึ่งล้าถอย ลมสวาท พัดเยือน อย่าเลื่อนลอย พารักคล้อยเคลื่อนลา ให้อาวรณ์ อย่าให้ต้องหมองหม่นเทียวบ่นหา โอ้ลมจ๋า คราร้าว เฝ้าถ่ายถอน ดุจพัดพราก รักลา ไม่อาทร ทรวงสะท้อน ดั่งย้ำ สิ้นคำนึง....... (http://www.qzub.com/nature_010.jpg) (http://www.qzub.com) (http://www.qzub.com/bar_011.gif) (http://www.qzub.com) ล้อละลิ่ว พลิ้วพล้อง ตามสายลม ชั่งน่าชม พลิ้วสะบัด ให้นึกหวน นึกถึงบ้าน กลางทุ่งนา ที่รัญจวน นึกถึงสวน ถึงทุ่ง ถึงบ้านนา นึกถึงควาย ถึงวัว ถึงหญ้าคา ถึงกาญดา ในสวน คอยเก็บผัก ถึงแม่ไก่ ในไร่ คอยนั่งฟัก ถึงความรัก ณ บ้าน แห่งหนนี้ ไม่รู้ว่า ลมนี้ มาจากไหน จากที่ใด ใครรู้ ใครพบเห็น จากที่นั่น ที่นี่ ไม่รู้เอน จากใต้เลน จากบนฟ้า ที่แห่งใด จากบนดิน ผืนฟ้า ท้องนภา ปากนาคา พญาครุฑ กรีดร้องหอน จากหัวใจ คนที่ เอื้ออาทร จากการนอน หลับใหล ในโลกา... (http://www.qzub.com/bar_011.gif) (http://www.qzub.com) --kay-- |