หัวข้อ: ...เหมือนเรายืน....หม่นหมอง....มองดาริกา เริ่มหัวข้อโดย: ...สียะตรา.. ที่ 30 พฤศจิกายน 2011, 08:31:PM ......เสียง..กรุ๋งกริ๊ง...เบา..เบา...ของโมบาย ...เริงร่ายกับสายลมหนาว ...นอกหน้าต่าง...ท้องฟ้า...มีดวงดาว ...กับเสียงละเมอ..ครั้งคราว...ของนกกลางคืน ......จะมีใคร..บ้างไหม....ในยามสงัด ...มาเชยชัด...โพยมใส...โดยมิฝืน ...ยลโดยไร้..ทุกข์...ล้ำ..ให้กล้ำกลืน ...เหมือนเรายืน....หม่นหมอง....มองดาริกา หัวข้อ: Re: ...แม้จะยืน....หม่นหมอง....มองดาริกา เริ่มหัวข้อโดย: พิมพ์วาส ที่ 30 พฤศจิกายน 2011, 09:06:PM โมบายน้อยคล้อยลมพรมเพียงสั่น แต่มิหวั่นพรั่นคิดพิศลมหนาว ผกาโรยโชยผินกลิ่นจราว กลีบดอกขาวพราวร่วงควงกลีบลง เสียงกรุ๋งกริ๊ง..ทิ้งห่างให้หมางจิต จึงเพ่งพิศคิดใคร่พิศวง ไยเสียงเจ้าอ่อนคล้อยละห้อยลง หรือเจ้าปลงตามกลีบประทีปโรย ปล. หมายถึงประมาณว่า เจ้าโมบายที่ แขวนคอยดูเจ้าดอกไม่อยู่ทุกวัน และให้คุณลมคอยพัดเพื่อจะได้ เอนไปข้างหน้าเพื่อ ดูคุณ จราว=ดอกไม้ แต่โมบายที่คอยดูคุณดอกไม้ทุกๆวัน ก็ต้องเศร้าใจเพราะตนเอง ทำให้คุณดอกไม้กลีบร่วงไป เพราะให้คุณลมพัดตนเพื่อจะได้ดูคุณดอกไม้ที่แย้มบานอย่างสวยงาม "อ่อ พิมพ์วาส แต่งด้วยสื่อความหมายแบบนี้นะคะ อืมแล้วแต่จะคิดนะคะ อิอิพยายามสื่อความหมายแล้วค่ะ emo_107 |