พิมพ์หน้านี้ - เทพารักษ์

ชุมชน บ้านกลอนไทย ชุมชนสำหรับคนไทยผู้รักกลอน

บทประพันธ์กลอนและบทกวีเพราะๆ => กลอนธรรมะ+กลอนสอนใจ+กลอนธรรมชาติ+กลอนปรัชญา => ข้อความที่เริ่มโดย: sunthornvit ที่ 30 พฤศจิกายน 2011, 11:26:AM



หัวข้อ: เทพารักษ์
เริ่มหัวข้อโดย: sunthornvit ที่ 30 พฤศจิกายน 2011, 11:26:AM
            ชายชรา  ผมขาว  แก่คราวปู่               นั่งพักอยู่  โคนฉำฉา  พฤกษาใหญ่
       เล่าอดีต  ก่อนเก่า  ตอนเยาว์วัย                    จาระไน  เหตุการณ์  สิ่งพานพบ
         
          เด็กหลายคน  ห้อมล้อม  น้อมสดับ        มุ่งซึมซับ  สาระ  โดยสงบ
     เสียงผู้เฒ่า  จำนรรจ์  กล่าวครันครบ               ย้อนทวนทบ  ประสบการณ์  อันผ่านตา
      
           “สมัยปู่  ยังเด็ก  เล็กอยู่นั้น                    พนาสัณฑ์  คือแหล่ง  แห่งภักษา
     มีส่ำสัตว์  พืชพันธุ์  ยันหยูกยา                        คนกับป่า  ผูกพัน  เหมือนกันชน
         
         ไม่วิตก  ขัดเคือง  เรื่องดินฟ้า                 อยากทำนา  ทำไร่  ล้วนได้ผล
     ฤดู  รู้กำหนด  หมดกังวล                                ใช่วิกล  เบี่ยงเบน  เช่นยุคนี้
         
         ห้วย,หนอง,คลอง  สะอาด               ปราศมลพิษ      ปลาสลิด  ช่อน,ดุก  มีทุกที่
     กุ้ง,หอย,ปู  อุดม  สมบูรณ์ดี                           สายนที  เลี้ยงหล่อ  ก่อชีวิน
         
         มองท้องทุ่ง  ยามเย็น  เห็นกระสา             ฝูงอีกา  โพระดก  นกขมิ้น
     เอี้ยง,ขุนทอง  สาลิกา  ลงหากิน                      นกท้องถิ่น  อีกมาก  ที่จากจร
         
         ปัจจุบัน  มิเป็น  เช่นนั้นแล้ว                   ไร้วี่แวว  เกษมศานต์  เยี่ยงกาลก่อน
     สรรพสัตว์  มากมาย  วายม้วยมรณ์                     ความเดือดร้อน  ดาหน้า  มาก่อกวน
         
         เพราะมนุษย์  โค่นไม้  ไม่เกรงโทษ          หิวประโยชน์  บีฑา  ป่าสงวน
     ฝนฟ้าจึง  วิปริต  ผิดแปรปรวน                         ทุกสิ่งล้วน  วอดวาย  ในมือคน”

               เสียงปู่เฒ่า  สะเทือน  เหมือนปวดร้าว       แจงเรื่องราว  สาธก  ยกเหตุผล 
     จนตะวัน  ลับตา  ฟ้ามืดมน                             จึงจำนน  หลับไป  ใต้ร่มไม้

               กลุ่มเด็กน้อย   ปรึกษา  สมานฉันท์          รออีกวัน  รุ่งทิวา  จะมาใหม่
      แม้ตะขิด-ตะขวง  คิดห่วงใย                           แต่ตัดใจ  ใกล้ค่ำ  จำกลับเรือน
         
         ครั้นอรุณ  ฟ้าแจ้ง  แสงสว่าง                   หนูน้อยต่าง  เอกจิต  มิอิดเอื้อน
      เดินเร่งรีบ  เรียงราย  หมายเยี่ยมเยือน              ต้องหน้าเจื่อน  ไร้เงา  เฒ่าอารี
         
          ขาดร่องรอย  คมน  คฤห                         อาคันตุกะ  ชรา  พนวาสี
      เหลือเพียงข้อ  เตือนใจ  ให้สัญญี                     ธรณี  ผันแปร  แย่เพราะใคร
         
          เหล่าดรุณ  ดุจได้ครู  พลันรู้ค่า                ปฏิญญา  แน่วแน่  ร่วมแก้ไข
      ลั่นสัจจะ  ขอพิทักษ์  รักษาไพร                       ระวังระไว  ป้องกัน  พนันดร
         
          ทันทีที่  จบคำ  สิ้นน้ำเสียง                    แว่วสำเนียง  ชายชรา  มธุสร
      ตอบสรรเสริญ  อานิสงค์  พงศธร                     ดังขจร  ถนัด  พอชัดเจน
         
          แท้ปู่เฒ่า  คือเทวา  ผู้อารักษ์                  จำแลงพักตร์  ตั้งใจ  ดลให้เห็น
      เพื่อชี้ทาง  กรรมบถ  บอกกฎเกณฑ์                 ก่อนหลานเหลน  เกิดวิบาก  ยากเกินทน
         
          ยุติเถิด  การล่วงล้ำ  ธรรมชาติ                 น้ำ,อากาศ,  ดิน,ฟ้า  วนาสณฑ์
        รักประเทศ  ภูมิลำเนา  เยาวชน                        เลิกสร้างมล-ภาวะ  เป็นพระคุณ