พิมพ์หน้านี้ - --นกไพร--

ชุมชน บ้านกลอนไทย ชุมชนสำหรับคนไทยผู้รักกลอน

บทประพันธ์กลอนและบทกวีเพราะๆ => กลอนธรรมะ+กลอนสอนใจ+กลอนธรรมชาติ+กลอนปรัชญา => ข้อความที่เริ่มโดย: --ณัชชา-- ที่ 27 พฤศจิกายน 2011, 05:05:PM



หัวข้อ: --นกไพร--
เริ่มหัวข้อโดย: --ณัชชา-- ที่ 27 พฤศจิกายน 2011, 05:05:PM
(http://horamahawed.com/ckfinder/userfiles/images/2(112).jpg)

พระจันทร์เสี้ยวส่งยิ้มอยู่ริมฟ้า
เหนือทุ่งหญ้าพร่างพราวด้วยดาวใส
นกกลางคืนกำลังเดินทางไกล
สองปีกไกวร่อนถลาคราค่ำคืน

ผ่านทุ่งหญ้า ภูเขา ผ่านราวป่า
ปีกเจ้าล้าหมดแรง...ยังแข็งขืน
หยาดน้ำค้างร่วงหล่นขนเปียกชื้น
แผ่วน้ำเสียงสะอื้นในคืนดาว

เจ้าหลงทางว้าเหว่การเร่ร่อน
เจ้าเหนื่อยอ่อน บาดเจ็บ เจ้าเหน็บหนาว
ปีกของเจ้าอ่อนล้ากว่าทุกคราว
แม้เจ็บร้าวทุกครั้งเจ้ายังไป

ณ.จุดหมายข้างหน้าโค้งฟ้าต่ำ
เมฆสีดำบังจันทร์สุดหวั่นไหว
ร่างนกป่า สะดุดหยุดหายใจ
สำนึกใน สิ้นสุดตรงจุดนั้น

พระจันทร์เสี้ยวลับหายตรงชายป่า
กล่อมวิญญานกไพรอย่าไหวหวั่น
จงหลับเถิดนกป่าอย่าจาบัลย์
เจ้าสานฝัน – วันนี้ ดีพอแล้ว

--natcha--
(http://www.qzub.com/bar_179.gif)


หัวข้อ: Re: --นกไพร--
เริ่มหัวข้อโดย: บ้านริมโขง ที่ 27 พฤศจิกายน 2011, 06:00:PM
(http://horamahawed.com/ckfinder/userfiles/images/2(112).jpg)

emo_33

เจ้านกไพรไยหลงป่าพาหดหู่
เจ้าก็อยู่คู่พนาพาหวานแหว๋ว
มาบัดนี้มีใดให้เปลี่ยนแนว
ต้องคลาดแคล้วแววหวังดั่งซมซาน

เจ้าเปลี่ยนไปใช่ไหมนกไพรเจ้า
ลืมถิ่นเค้าเคยครองร้องขับขาน
เจ้าหนีไพรไกลป่าหน้าชื่นบาน
หวังสราญบ้านใหม่วิไลตา

นานแล้วนี่..เจ้าไปไม่ส่งข่าว
ป่าปวดร้าวคราวคิดติดห่วงหา
เป็นห่วงทางห่างหายคล้ายลับลา
แหงนมองฟ้าอาลัยฤทัยครวญ

เห็นเจ้าโผล่โผเผลปีกเซซัด
บินเลยลัดหลงทางอย่างปั่นป่วน
พยุงกายตายถิ่นคราสิ้นนวล
คู่เคียงควร ส่วนใดเล่า..เท่าบ้านเดิม.

"บ้านริมโขง"

(http://www.qzub.com/bar_179.gif)


หัวข้อ: Re: --นกไพร--
เริ่มหัวข้อโดย: yaguza ที่ 27 พฤศจิกายน 2011, 07:36:PM
เจ้าเป็นนก ราตรี ที่พลัดถิ่น
ไร้แรงบิน สิ้นสุด ตรงจุดเริ่ม
วิหกไพร ใจช้ำ ถูกซ้ำเติม
เจ้าเห่อเหิม ทะยานอยาก จึงจากไป

หลงลืมสิ้น แผ่นดินเก่า ที่เจ้าเกิด
จึงเตลิด จากแม่พ่อ พออาศัย
สำนึกตัว หัวอก วิหกไพร
เมื่อคราใกล้ ชีวาวาย มาตายรัง

........ยากูซ่า..........



หัวข้อ: Re: --นกไพร--
เริ่มหัวข้อโดย: สะเลเต ที่ 27 พฤศจิกายน 2011, 08:40:PM
อยากจะเห็นโลกกว้าง...ยังต่างถิ่น
จึงโบยบิน...มาไกลด้วยใจหวัง
เมื่อทิศทางหันเห...ต้องเซซัง
ปีกก็ยัง...อ่อนล้าคราโบยบิน

เพราะชั่วโมงบินต่ำ...กรรมของเจ้า
ผ่านข้ามเขามาไกล...สุดท้ายสิ้น
เคยเหินฟ้า..โชติช่วงร่วงสู่ดิน
ร่างพังภินท์ย่อยยับ...เจ้าลับลา

---สะเลเต---
(http://www.qzub.com/bar_076.gif) (http://www.qzub.com)


หัวข้อ: Re: --นกไพร--
เริ่มหัวข้อโดย: กังวาน ที่ 27 พฤศจิกายน 2011, 08:48:PM
เจ้าเป็นนกผกผินบินลงต่ำ
ถูกเขาย่ำเหยียดหยามหมดความหวัง
รู้ว่าเหนื่อยเมื่อยล้าพะว้าพะวัง
หันกลับหลังมีใครรออย่าท้อใจ

ณ ป่าเขาลำเนาไพรไม่ไกลนัก
มีความรักความเมตตาให้อาศัย
เจ้าบาดเจ็บเหน็บหนาวร้าวเท่าใด
เยียวยาให้เท่านั้น....วันคืนดง

ขอโทษที่ไม่สัมผัสครับ....ตอบช้าไปนิด


หัวข้อ: Re: --นกไพร--
เริ่มหัวข้อโดย: rit sriduang ที่ 27 พฤศจิกายน 2011, 08:58:PM
สวัสดีคุณหมอ
กลอนยอดเยี่ยมครับ

ขอแจมด้วยงานปี ๔๒

บิน
จึงจำใจจับปีกบินอีกหน
เพื่อฝ่าฝนไปยังอีกฝั่งฝัน
มีเสบียงเลี้ยงกายได้หลายวัน
วางเดิมพันครั้งนี้ด้วยชีวิต

ข้ามมหาสมุทรครั้งสุดท้าย
เดียวดายอ้างว้างทุกทางทิศ
ขาดแคลนน้ำจืดและมืดมิด
หวั่นปลิดชีพคว้างลงกลางชล

ลมเห่เลโล่งสุดโค้งฟ้า
ทายท้าปีกแกร่งกับแผงขน
นกน้อยกบฏผู้อดทน
ยากใครสักคนจะเข้าใจ

จากรุ่งจวบแลงคอแห้งผาก
ถึงฟากฝั่งฝันจะวันไหน
ฟากฝั่งทั้งรู้ว่าอยู่ไกล
ปีกไหล่อิดโรยยังโบยบิน

ฝั่งโน้นคือฝันอันบรรเจิด
ไปเถิดหนอสัตว์ผู้พลัดถิ่น
ไปหาพืชพงและดงดิน
สูดกลิ่นกรุ่นหอมพยอมไม้

จวนสูรย์สูญแสงฟ้าแดงกล่ำ
ใกล้ค่ำฟ้าเรืองแลเหลืองใส
คลื่นขรมลมขับหนาวจับใจ
แลไฟลอยเรืออยู่เรื่อเรือง

ทะเลข้างหน้าซิข้าหวั่น
พรึงพรั่นอุกาฟ้าเหลือง
หากพายุโหดโกรธเคือง
เปล่าเปลืองแรงเจ้าจะเปล่าดาย

กลับมิวิตกแก่นกกล้า
วันหน้าไม่อาจจะคาดหมาย
ถ้าชะงักงันรอวันตาย
จักอายถ้ารู้ในหมู่นก

เมื่อกล้าก็ขืนไม่คืนกลับ
ขยับปีกแกร่งด้วยแผงอก
เห็นฝั่งรำไรแมกไม้รก
ถึงบกคงฟ้าอุษาจาง

ฉับพลัน!..ฟ้าโกรธและลมกราด
กัมปนาทแผดเสียงเปรี้ยงปร้าง
นกน้อยงุนงงหลงทาง
ปลิวกลางพายุราวธุลี

เรือล่มลมฉีกเป็นซีกชิ้น
กลืนกินอวนปลากลาสี
ขย้ำส่ำสัตว์เป็นบัตรพลี
แหลกในราตรีอันเลวร้าย
……………………….

แล้วแดดเช้าวาววับก็กลับหวน
ปูเสฉวนโผล่ปุ๊ปแล้วผลุบหาย
มีซากเรือเกลื่อนกลาดบนหาดทราย
กับซากนกนอนตายที่ชายเล….

๑ ธันวาคม ๒๕๕๒


หัวข้อ: Re: --นกไพร--
เริ่มหัวข้อโดย: รัตนาวดี ที่ 27 พฤศจิกายน 2011, 09:07:PM
เจ้าเป็นนก ราตรี ที่พลัดถิ่น
ไร้แรงบิน สิ้นสุด ตรงจุดเริ่ม
วิหกไพร ใจช้ำ ถูกซ้ำเติม
เจ้าเห่อเหิม ทะยานอยาก จึงจากไป

หลงลืมสิ้น แผ่นดินเก่า ที่เจ้าเกิด
จึงเตลิด จากแม่พ่อ พออาศัย
สำนึกตัว หัวอก วิหกไพร
เมื่อคราใกล้ ชีวาวาย มาตายรัง

........ยากูซ่า..........


...ในช่วงวัน พระอาทิตย์ สถิตส่อง 
เจ้านกต้อง ย่องหลบ ในภพหวัง
บำเพ็ญพัก รักอยู่ คู่ประทัง 
รอในรัง หยั่งรับ กับทิวา...

...เป็นนกมอง ส่องมืด ยืดสว่าง
เห็นกระจ่าง พร่างเคียง เพียงเวหา
กลางคืนหรี่ มีแสง แฝงนัยน์ตา
ราวกับว่า พนาไพร คือใจจอง...

...นกน้อยฝ่า ป่าร้อง ก้องเสียงรับ 
ดึกสดับ ปรับวิกาล ประสานส่อง
ธรรมชาติ กราดสร้าง ต่างครรลอง 
ให้เป็นผอง จ้องเสริม เจิมราตรี...

...หรือโดนแกล้ง แสร้งฝาก จากสวรรค์
ยามตะวัน พลันพลบ มิหลบหนี
เวลาค่ำ ย่ำเยือน คือเพื่อนดี
ป่าพงพี มีรัก พำนักกาล...

รัตนาวดี


หัวข้อ: Re: --นกไพร--
เริ่มหัวข้อโดย: --ณัชชา-- ที่ 28 พฤศจิกายน 2011, 12:59:PM
เจ้าเป็นนก ราตรี ที่พลัดถิ่น
ไร้แรงบิน สิ้นสุด ตรงจุดเริ่ม
วิหกไพร ใจช้ำ ถูกซ้ำเติม
เจ้าเห่อเหิม ทะยานอยาก จึงจากไป

หลงลืมสิ้น แผ่นดินเก่า ที่เจ้าเกิด
จึงเตลิด จากแม่พ่อ พออาศัย
สำนึกตัว หัวอก วิหกไพร
เมื่อคราใกล้ ชีวาวาย มาตายรัง

........ยากูซ่า..........


เพราะภาระสองปีกเกินหลีกหลบ
มิเจนจบในชีวินถิ่นหนหลัง
แบกความทุกข์จากเรือนเหมือนเซซัง
รวมกำลังเฮือกสุดท้ายสู่ปลายฟ้า

ด้วยจิตใจหดหู่เกินสู้ต่อ
เหนื่อยและท้อเกินใจจะไปหา
บอกเล่าเรื่องเพียงคำว่าอำลา
ปีกที่กล้าก็ปล่อยวางอย่างนิรันดร์

--ณัชชา--
(http://www.qzub.com/bar_179.gif)


หัวข้อ: Re: --นกไพร--
เริ่มหัวข้อโดย: Music ที่ 30 พฤศจิกายน 2011, 10:07:AM
(http://img1.imagehousing.com/1/c98e4085b81450adf32bb98aace5e6f6.jpg)


(ขอนำกลอนเก่า...มาแจมด้วยนะจ๊ะ)

๐ ฉันเป็นเพียงนก"พิราบขาว" . . . . . . . . แต่ไม่อยากส่งข่าวว่าอยู่ไหน?
ไม่อยากพบ.กระทบ.กระเทือนใจ . . . .ไปให้ไกลสุดกู่..พวกหมู่นก

๐ เพราะเบื่อนกมีหู-หนูมีปีก. . . . . . . . .ช่างสับหลีกเรื่องโชว์แต่โกหก
ทำยกตน.บ่มพอก.ว่านอกก๊ก . . . . . แล้วก็ยกคุณธรรม..เป็นกำบัง

๐ คิดจะไปให้ไกลกว่าใครก่อน . . . . . . .เพราะใจอ่อนซ่อนหลบ..ว่าจบหวัง
เมื่อเห็นกรงถูกเปิด...เตลิดรัง . . . . . . . อย่าหยุดฟัง..ไก่กา..น้ำตาริน

๐ และไม่ย้อนเหลียวหลัง..ให้สังหาร . . . ไม่สื่อสารสดับพวกกลับลิ้น
อุทาหรณ์สอนว่า........"เมื่อข้าฯชิน ก็โบยบินเสรี....อย่างปรีดา"

..........๑๐๙๑๓...........