หัวข้อ: ๐ ครั้งหนึ่งในชีวิต ๐ เริ่มหัวข้อโดย: รพีกาญจน์ ที่ 26 พฤศจิกายน 2011, 06:21:AM หาบน้ำอ้อย ลอยไพร ไกลจากบ้าน วางขายงาน ตานตุง ถิ่นกรุงศรี เดินเลียบเลาะ ละเมาะป่า พนาลี ผ่านบางที่ รกชัฎ ลัดลอดไป แข้งขาเคล็ด เหน็ดเหนื่อย อ่อนเมื่อยล้า แรกหาบมา ดั้นด้น พอทนไหว เหงื่อไหลพลั่ก หนักทั้ง หน้า.หลังไกว หย่อนหาบลง ตรงไม้ ใกล้ลำธาร ต้องลมเย็น เห็นตะวัน พลันมืดบด ตา.ยืดหด หลับเพลิน เกินเหลือต้าน ..ปรากฎหญิง ทิ้งร่าง ลงกลางลาน สวยสคราญ นวยนาด เยื้องยาตรเยา มือแตะเนื้อ เครือลั่น สั่นสะทก ถอยหลังหก ล้มหงาย กายร้อนเร่า เธอก่นว่า ด่าแช่ง แรงไม่เบา ร่างขาดเงา เลือนลับ ไปกับตา ทะลึ่งลุก จุกยืน คืนสติ ใช่แล้วสิ นี่นาง เป็น.สางป่า กินเนื้อแดง แห้งเหือด เลือดกายา เหรียญครูบาฯ มิถอด รอดวายวาง นี่แหละหนอ พ่อค้า ราร่อนเร่ ออกจากเคห สถาน หาญเหินห่าง ขายของกิน ของใช้ ได้สตางค์ เกือบถูกสาง นางไม้ จับไปกิน เหตุเกิดเมื่อปี 2513 หาบน้ำอ้อยขาย... รพีกาญจน์ 59 หัวข้อ: Re: ๐ ครั้งหนึ่งในชีวิต ๐ เริ่มหัวข้อโดย: บ้านริมโขง ที่ 26 พฤศจิกายน 2011, 12:14:PM emo_26 emo_100 emo_26 สางสงสัยระพีฯไยมีหาบ เลยอยากทราบวาบเดียวเปลี่ยวถวิล นึกว่าเป็นหาบรักปักยุพิน สางอยากกินกลิ่นรักเลยลักโลม สางคงอิ่มไปแล้วตามแนวสาง แต่ยังค้างทางระพีฯ ที่เสียโฉม ถูกสางเลียสางดูดจนตูดโทรม (อิ อิ กลอนพาไป emo_26) เกินจะโหมจะหาบ..เลยกราบลา. "บ้านริมโขง" emo_89 หัวข้อ: Re: ๐ ครั้งหนึ่งในชีวิต ๐ เริ่มหัวข้อโดย: เอ๊พ ที่ 26 พฤศจิกายน 2011, 12:56:PM พี่รพีลองหาบใหม่ในครั้งหน้า เตรียมแต่งสวยเข้าท่าไม่สาไถย ทาปากแดงเล็บแดงก่อนคลาไคล ‘สาง’จะไม่แวะเยือน เพราะเหมือนกัน (ตำราโบราณบอกครับพีรพีฯ) หัวข้อ: Re: ๐ ครั้งหนึ่งในชีวิต ๐ เริ่มหัวข้อโดย: ...สียะตรา.. ที่ 26 พฤศจิกายน 2011, 01:10:PM ...ฮื้ออออออ...... ......ก็....ฉันไงงงงงงงง.....เห็นเพื่อนเก่าเลยเข้าไปทัก ...เธอหาญหัก...ตะโกนก้อง...ร้องว่า...ผี ...บ๊ะ...ส่องกระจก..มันตอบว่า.....หน้าตาดี....(จริง..จริงนะ) ...เฒ่ารพีน่ะตาถั่ว...กลัวไปเอง .................. emo_101................................. หัวข้อ: Re: ๐ ครั้งหนึ่งในชีวิต ๐ เริ่มหัวข้อโดย: รพีกาญจน์ ที่ 26 พฤศจิกายน 2011, 03:51:PM emo_26 emo_100 emo_26 สางสงสัยระพีฯไยมีหาบ เลยอยากทราบวาบเดียวเปลี่ยวถวิล นึกว่าเป็นหาบรักปักยุพิน สางอยากกินกลิ่นรักเลยลักโลม สางคงอิ่มไปแล้วตามแนวสาง แต่ยังค้างทางระพีฯ ที่เสียโฉม ถูกสางเลียสางดูดจนตูดโทรม (อิ อิ กลอนพาไป emo_26) เกินจะโหมจะหาบ..เลยกราบลา. "บ้านริมโขง" emo_89 คงเป็นกรรม นำพา คราวัยรุ่น คิดลงทุน ขายเล่น เป็นพ่อค้า แบก.หาบ.คอน จรไป ในพนา เก็บเงินตรา เรียนต่อ ชั้น ม.ปลาย ผู้ชั่ว.ดี ผี.สาง ภูต.นางไม้ เทพทั่วไป ตาลตำ ทำกระสาย อยู่กับของ ดองนาน หวานมากมาย เอาจำหน่าย แจกทาน ทั่วบ้านกลอน รับรอง.ตูดหวาน.มดไต่ตอมอยู่เลย. emo_87 รพีกาญจน์ 59 หัวข้อ: Re: ๐ ครั้งหนึ่งในชีวิต ๐ เริ่มหัวข้อโดย: รพีกาญจน์ ที่ 26 พฤศจิกายน 2011, 03:57:PM พี่รพีลองหาบใหม่ในครั้งหน้า เตรียมแต่งสวยเข้าท่าไม่สาไถย ทาปากแดงเล็บแดงก่อนคลาไคล ‘สาง’จะไม่แวะเยือน เพราะเหมือนกัน (ตำราโบราณบอกครับพีรพีฯ) เจอสางชาย หมายรุม ขยุ้มทึ้ง สางสาวซึ้ง จับคู่ ตุนาหงัน เคยทาปาก ลากคิ้ว บิวหน้ามัน เพื่อนพากัน จับส่ง โฮงฯสวนปรุง โฮงฯสวนปรุง-รพ.บ้า เชียงใหม่ emo_100 รพีกาญจน์ 59 หัวข้อ: Re: ๐ ครั้งหนึ่งในชีวิต ๐ เริ่มหัวข้อโดย: รพีกาญจน์ ที่ 26 พฤศจิกายน 2011, 04:07:PM ...ฮื้ออออออ...... ......ก็....ฉันไงงงงงงงง.....เห็นเพื่อนเก่าเลยเข้าไปทัก ...เธอหาญหัก...ตะโกนก้อง...ร้องว่า...ผี ...บ๊ะ...ส่องกระจก..มันตอบว่า.....หน้าตาดี....(จริง..จริงนะ) ...เฒ่ารพีน่ะตาถั่ว...กลัวไปเอง .................. emo_101................................. .......เห็นทิ้งร่าง กลางไพร ไร้ซุ่มเสียง .......เดินโอนเอียง สยอง สองตาเพ่ง .......ถ้าฉันรู้ ยูจ๋า...เธอมาเอง .......จะตุเลง สามศอก วิ่งออกรับ .......ไม่บอกแต่แรก.ยังดี.มาเจอบ้านกลอน .......รพีกาญจน์ 59 emo_65 หัวข้อ: Re: ๐ ครั้งหนึ่งในชีวิต ๐ เริ่มหัวข้อโดย: รัตนาวดี ที่ 26 พฤศจิกายน 2011, 04:13:PM emo_26 emo_100 emo_26 สางสงสัยระพีฯไยมีหาบ เลยอยากทราบวาบเดียวเปลี่ยวถวิล นึกว่าเป็นหาบรักปักยุพิน สางอยากกินกลิ่นรักเลยลักโลม สางคงอิ่มไปแล้วตามแนวสาง แต่ยังค้างทางระพีฯ ที่เสียโฉม ถูกสางเลียสางดูดจนตูดโทรม (อิ อิ กลอนพาไป emo_26) เกินจะโหมจะหาบ..เลยกราบลา. "บ้านริมโขง" emo_89 คงเป็นกรรม นำพา คราวัยรุ่น คิดลงทุน ขายเล่น เป็นพ่อค้า แบก.หาบ.คอน จรไป ในพนา เก็บเงินตรา เรียนต่อ ชั้น ม.ปลาย ผู้ชั่ว.ดี ผี.สาง ภูต.นางไม้ เทพทั่วไป ตาลตำ ทำกระสาย อยู่กับของ ดองนาน หวานมากมาย เอาจำหน่าย แจกทาน ทั่วบ้านกลอน รับรอง.ตูดหวาน.มดไต่ตอมอยู่เลย. emo_87 รพีกาญจน์ 59 มดไต่ตาม ลามต่อม ที่หอมหวาน เลยประมาณ ตาลชื่น มิฝืนผ่อน คงจะตอม ล้อมไป ในห้องนอน ยามฝันย้อน อ้อนออด มดตอดตาม รัตนาวดี emo_54 ฮิๆหวานจ๋อยอร่อยน๊ะ หัวข้อ: Re: ๐ ครั้งหนึ่งในชีวิต ๐ เริ่มหัวข้อโดย: กังวาน ที่ 26 พฤศจิกายน 2011, 04:30:PM มือแตะเนื้อ เครือลั่น สั่นสะทก ถอยหลังหก ล้มหงาย กายร้อนเร่า เธอก่นว่า ด่าแช่ง แรงไม่เบา ร่างขาดเงา เลือนลับ ไปกับตา รพีกาญจน์ 59 พี่รพีฯผีหลอกมาบอกกล่าว ฟังเรื่องราวแล้วเห็นเป็นปัญหา เจอหญิงสาวทำไมไม่พูดจา ใช้กายาแตะกันนั่นยังไง หรือว่าเล่าเราไม่หมดงดบางเรื่อง พี่คงเปลื้องเสื้อผ้าหน้านางไม้ พอผีเห็นเผ่นหนีไม่มีภัย เห็นอะไรคนรู้ดี...พี่รพีกาญจน์ หัวข้อ: Re: ๐ ครั้งหนึ่งในชีวิต ๐ เริ่มหัวข้อโดย: รพีกาญจน์ ที่ 26 พฤศจิกายน 2011, 04:39:PM emo_26 emo_100 emo_26 สางสงสัยระพีฯไยมีหาบ เลยอยากทราบวาบเดียวเปลี่ยวถวิล นึกว่าเป็นหาบรักปักยุพิน สางอยากกินกลิ่นรักเลยลักโลม สางคงอิ่มไปแล้วตามแนวสาง แต่ยังค้างทางระพีฯ ที่เสียโฉม ถูกสางเลียสางดูดจนตูดโทรม (อิ อิ กลอนพาไป emo_26) เกินจะโหมจะหาบ..เลยกราบลา. "บ้านริมโขง" emo_89 คงเป็นกรรม นำพา คราวัยรุ่น คิดลงทุน ขายเล่น เป็นพ่อค้า แบก.หาบ.คอน จรไป ในพนา เก็บเงินตรา เรียนต่อ ชั้น ม.ปลาย ผู้ชั่ว.ดี ผี.สาง ภูต.นางไม้ เทพทั่วไป ตาลตำ ทำกระสาย อยู่กับของ ดองนาน หวานมากมาย เอาจำหน่าย แจกทาน ทั่วบ้านกลอน รับรอง.ตูดหวาน.มดไต่ตอมอยู่เลย. emo_87 รพีกาญจน์ 59 มดไต่ตาม ลามต่อม ที่หอมหวาน เลยประมาณ ตาลชื่น มิฝืนผ่อน คงจะตอม ล้อมไป ในห้องนอน ยามฝันย้อน อ้อนออด มดตอดตาม รัตนาวดี emo_54 ฮิๆหวานจ๋อยอร่อยน๊ะ ไต่ตามต่อม หอมล้ำ อาบน้ำ.ห้าขัน เจ็บสุดกลั้น เกามัน คันแง่ง่าม มันสะเด่า เกาสนุก คันลุกลาม คันทุกยาม หลับตื่น ลุกขึ้นเกา emo_114 รพีกาญจน์ 59 หัวข้อ: Re: ๐ ครั้งหนึ่งในชีวิต ๐ เริ่มหัวข้อโดย: รพีกาญจน์ ที่ 26 พฤศจิกายน 2011, 05:11:PM มือแตะเนื้อ เครือลั่น สั่นสะทก ถอยหลังหก ล้มหงาย กายร้อนเร่า เธอก่นว่า ด่าแช่ง แรงไม่เบา ร่างขาดเงา เลือนลับ ไปกับตา รพีกาญจน์ 59 พี่รพีฯผีหลอกมาบอกกล่าว ฟังเรื่องราวแล้วเห็นเป็นปัญหา เจอหญิงสาวทำไมไม่พูดจา ใช้กายาแตะกันนั่นยังไง หรือว่าเล่าเราไม่หมดงดบางเรื่อง พี่คงเปลื้องเสื้อผ้าหน้านางไม้ พอผีเห็นเผ่นหนีไม่มีภัย เห็นอะไรคนรู้ดี...พี่รพีกาญจน์ ตกตะลึง อึงก้อง ร้อง.เอะอะ เดิน.ตุตะ เข้ามา..หน้าสิ่วขวาน ถอยหลังก้ม ล้มหงาย พลิกกายคลาน สองมือควาน คว้าไขว่ จับได้คอ แฮ่.ฮะ.ฮ่า ข้าเสาะ เจาะดูดเลือด ให้แห้งเหือด เกาะกรัง หนังยุบฝ่อ ตายแน่เรา..คราวนี้..ไม่รีรอ.. เธอรีบถ่อ หน้าแดง เห็น.แท่งน้ำอ้อย emo_100 ก็กางเกงหลุดเมื่อไรก็ไม่รู้อ่ะ.. รพีกาญจน์ 59 หัวข้อ: Re: ๐ ครั้งหนึ่งในชีวิต ๐ เริ่มหัวข้อโดย: สุนันยา ที่ 26 พฤศจิกายน 2011, 07:51:PM (http://img1.funscrape.com/en/flowerswishes/42.gif) โถ...ขวัญเอ๋ย..ขวัญมา อยากเรียกขวัญพี่ยา มาเกี่ยวก้อย คงไม่ทัน แล้วนะ พาใจจอย ผ่านหลายปี เงียบจ้อย คอยขวัญมา หากมีสางตอนนี้ รี่ปกป้อง จะมีน้อง สุนันฯขันอาสา ไล่ผีสาง นางไม้ ให้ใกล้ตา จะขอท้า สางแข่ง แย่ง(พี่)รพีฯ.. emo_26 "สุนันยา" หัวข้อ: Re: ๐ ครั้งหนึ่งในชีวิต ๐ เริ่มหัวข้อโดย: ..กุสุมา.. ที่ 26 พฤศจิกายน 2011, 08:13:PM (http://image.dek-d.com/23/2467748/105115474)
อยากกลั้นใจ ให้ตาย ไปเกิดใหม่ ในพงไพร เป็นสาง นางไม้ป่า ดักรอพบ จ้าวรพีฯ หาบอ้อยมา เดี๋ยวเถอะน่า เป่ามนต์ ให้หลับไหล ม่ายรู้หละ เห็นอะไร พูดทำไม พี่คนใด ก็สาง แล้วนางไม้ สางอยากรู้ ล่ำลือ ถึงแดนไกล จ้าวรพีฯ ห..าบใหญ่ จริงไหมซี้ส์ ..กุสุมา.. emo_85 emo_82 หัวข้อ: Re: ๐ ครั้งหนึ่งในชีวิต ๐ เริ่มหัวข้อโดย: รพีกาญจน์ ที่ 26 พฤศจิกายน 2011, 09:44:PM ([url]http://img1.funscrape.com/en/flowerswishes/42.gif[/url]) โถ...ขวัญเอ๋ย..ขวัญมา อยากเรียกขวัญพี่ยา มาเกี่ยวก้อย คงไม่ทัน แล้วนะ พาใจจอย ผ่านหลายป๊ เงียบจ้อย คอยขวัญมา หากมีสางตอนนี้ รี่ปกป้อง จะมีน้อง สุนันฯขันอาสา ไล่ผีสาง นางไม้ ให้ใกล้ตา จะขอท้า สางแข่ง แย่ง(พี่)รพีฯ.. emo_26 "สุนันยา" ว่าตามอีกทีนะ จะขลังมากขึ้นจ้า ขวัญเอ๋ยขวัญ... ตกไพรสัณฑ์ มรรคา อย่าเร้นหนี ขออัญเชิญ เจริญลง องค์รพีฯ อยู่เป็นศรี มิ่งขวัญ สุนันยา นับแต่นี้ ผีสาง สาวนางไม้ จงครรไล ไกลห่าง ร่างพี่ข้าฯ แกว่งคานไกว ไท้เก๊ก เสกมนตรา นับจากหนึ่ง ถึงห้า ฟ้าจางปาง emo_116 รพีกาญจน์ 59 หัวข้อ: Re: ๐ ครั้งหนึ่งในชีวิต ๐ เริ่มหัวข้อโดย: กฤษการกลอน ที่ 26 พฤศจิกายน 2011, 10:49:PM emo_106
ครั้งหนึ่งในชีวิตพินิจเจ้า โอ้อ่อนเยาว์สวยสมมิสงสัย หนึ่งคิมหันต์พันฝนท้นฤทัย ท่วมดวงใจให้เจ้าเข้าเจือจุน ครั้งหนึ่งในชีวิตใกล้ชิดเจ้า ได้แนบเนาว์นาบเนื้อน้องนางอุ่น หนึ่งเหมันต์คืนหนาวคราวมีบุญ ยังกลิ่นกรุ่นวัยแรกแตกเนื้อนวล ครั้งหนึ่งในชีวิตจุมพิตเจ้า ยังยวนเย้าเว้าวอนนอนนึกหวน วัสสานะจะร้อนก็อ่อนรวน สัมผัสล้วนแรงกล้ากว่าเปลวไฟ Kritty...ไม่รู้รักใครมากกว่ากัน emo_85 หัวข้อ: Re: ๐ ครั้งหนึ่งในชีวิต ๐ เริ่มหัวข้อโดย: รพีกาญจน์ ที่ 30 พฤศจิกายน 2011, 06:00:AM ยังจำได้... นำมาลัย ดอกหอม น้อมกราบพ่อ มะลิน้อย ร้อยรวง พวงคล้องคอ เสียงหัวร่อ พอใจ ให้เบิกบาน ลูกสวมกอด สอดแขน แหงนหน้าพูด รักที่สุด จริงหนอ คือพ่อท่าน รักเท่าฟ้า ชลาสินธุ์ ดินดงดาน จักรวาล มิเทียบ เปรียบได้เลย พ่อลูบหัว ทั่วหลัง ทั้งใบหน้า เปี่ยมเมตตา ต่อบุตร ผุดผ่องเผย ส่งยิ้มพลาง สางผม กล่าวขมเชย ว่าลูกเอ๋ย ดีมาก ขอฝากกานท์ ทำได้ไหม ให้ครบ จบสามอย่าง สร้างแนวทาง พ้นทุกข์ พบสุขศานต์ "เป็นคนดี มีความรู้ สู้ทุกงาน" คือหลักการ สำคัญ ก่อมั่นคง -เป็นคนดี มีศีลธรรม ถือคำสัตย์ ปฎิบัติ ตามรอยบุญ คุณสูงส่ง -มีความรู้ ชูเรียน เพียรดำรง จากเผ่าพงศ์ ปราชญ์.ปรือ สื่อ.มวลชน -สู้ทุกงาน สาน.หาบ.หยาบ.หนัก.หย่อน ละเอียดอ่อน ตั้งจิต ร่วมคิด.ค้น -ดี.รู้.งาน. นานไป คงไม่จน คงเป็นหนึ่ง พึงยล ในสกล เอย emo_126 รพีกาญจน์ 59 หัวข้อ: Re: ๐ ครั้งหนึ่งในชีวิต ๐ เริ่มหัวข้อโดย: รพีกาญจน์ ที่ 01 ธันวาคม 2011, 02:41:PM จบ ป.เจ็ด ระเห็จมา หัดค้าขาย ออกวิ่งสาย สะพายของ ท่องถนน ใส่เรือเร่ เทขาย เลียบสายชล เดินดั้นด้น หาบหาม ข้ามดอยดง อายุน้อย ด้อยงาน กอปรการค้า ไร้เงินตรา เป็นทุน หนุนนำส่ง รู้ไม่มาก รากฐาน สบการณ์ตรง ขาดมั่นคง แรงซื้อ หยิบมือเดียว ................................ หันรับจ้าง ถางหญ้า ทุ่งนาสวน ขุดดินพรวน ล้างถ้วย ทำก๋วยเตี๋ยว ขับรถยนต์ ขนอาหาร ร้านเจ๊เกียว เก็บชาเขียว หมักเมี่ยง แม่เลี้ยงนาย เหงื่อหลั่งไหล ไคลเค็ม เต็มเรือนร่าง พอมีว่าง นอนพัก ให้หักหาย เงินที่ได้ ใช้เพียง หล่อเลี้ยงกาย ไม่สบาย จ่ายไป ไม่เหลือเลย ................................. ค้าขายขับ รับจ้าง สร้างชีวิต มืดมัวมิด คิดก้าวหน้า อย่าอยู่เฉย เรียนรู้เพิ่ม เติมวิชา ดีกว่าเอย เดินผ่าเผย สมัคร เป็นนักเรียน กินข้าวปลา อาศัย นอนในวัด คราอึดอัด ผันผาย โยกย้ายเปลี่ยน รับจ้างเขา เสาร์ปิด อาทิตย์เยียน วันหมุนเวียน เรียนครบ จบ ม.ปลาย เฮ้...จบจนได้ ไวเหมือนโกหก emo_89 รพีกาญจน์ 59 หัวข้อ: Re: ๐ ครั้งหนึ่งในชีวิต ๐ เริ่มหัวข้อโดย: รัตนาวดี ที่ 02 ธันวาคม 2011, 05:44:AM ................................. ค้าขายขับ รับจ้าง สร้างชีวิต มืดมัวมิด คิดก้าวหน้า อย่าอยู่เฉย เรียนรู้เพิ่ม เติมวิชา ดีกว่าเอย เดินผ่าเผย สมัคร เป็นนักเรียน กินข้าวปลา อาศัย นอนในวัด คราอึดอัด ผันผาย โยกย้ายเปลี่ยน รับจ้างเขา เสาร์ปิด อาทิตย์เยียน วันหมุนเวียน เรียนครบ จบ ม.ปลาย เฮ้...จบจนได้ ไวเหมือนโกหก emo_89 รพีกาญจน์ 59 เจอคนเก่ง เพรงดี สร้างชีวิต ดลดวงจิต คิดหวน เรื่องขวนขวาย งานขยัน ฝันมี ดีบั้นปลาย ลิขิตร้าย กรายรับ ดีกลับเยือน ประสบการณ์ ผ่านนำ พร้อมลำบาก บทเรียนฝาก มากพบ มิหลบเลื่อน ด้วยน้ำใจ ใสสะอาด บทบาทเตือน หมู่พ้องเพื่อน เหมือนพร้อม โอบอ้อมใจ อดีตผ่าน กาลเปลี่ยน หมุนเวียนเรื่อย วันที่เหนื่อย เมื่อยล้า น้ำตาไหล คงอนาถ ขาดคน คอยสนใจ เรื่องครั้งหนึ่ง ซึ้งให้ จำไปนาน ปลื้มฤดี ชีวา ได้มาเจอ พร้อมเสนอ ร้อยกรอง สนองขาน จากดวงใจ มิตรจับ รับด้วยกานท์ ส่งประสาน ม่านรัก อักษรไทย รัตนาวดี emo_84 หัวข้อ: Re: ๐ ครั้งหนึ่งในชีวิต ๐ (เป็นอะไรดี) เริ่มหัวข้อโดย: รพีกาญจน์ ที่ 02 ธันวาคม 2011, 06:20:AM "เป็นอะไรดี" จบ ม. ปลาย เป็นท่า ละครานี้ วางชีวี ต่อไป อย่างไรหนอ แรงเครื่องฟิต ติดดัง มิรั้งรอ จะเรียนต่อ.พ่อค้า.เกษตรกร คิดถึงแม่ แลพ่อ ขอกลับบ้าน ลาสมภาร ทรงธรรม เคยพร่ำสอน นมัสลง องค์พุทธ รุดจากจร พระพรั่งพร กรกระพุ่ม ชุ่มฉ่ำใจ อกผึ่งผาย ชายชาตรี หล่อนี่หว่า. แบบนี้น่า เป็นครู อยู่โรงใหญ่ หรือสอนเด็ก เล็ก.น้อย กลางดอยไกล วาดหวังไว้ ภิรมย์ สุขสมปอง หรือสุดหล่อ พ่อค้า คล่องพาณิชย์ ครุ่นค้นคิด จัด.รื้อ ซื้อขายของ สองมือจับ นับเพลิน แบ๊งค์เงินทอง หัวใจพอง ตุบตับ มิพับตา หรือสุดล่ำ ทำสวน พรวนดินไถ สวมหมวกใบ ถือเคียว ก้มเกี่ยวหญ้า ปลูกพืชผัก ปัก.ชำ ตอน.ดำนา เลี้ยงปู.ปลา.เป็ด.ไก่ ขาย.ไว้กิน นั่งเบาะริม ยิ้มหยุม คามุมปาก รถออกจาก เวียงพิงค์ วิ่งถึงถิ่น คนขับถาม ลงไหน ไม่ได้ยิน ต้องเดินดิน ถูกเย้ย รถเลยทาง emo_93 รพีกาญจน์ 59 หัวข้อ: Re: ๐ ครั้งหนึ่งในชีวิต ๐ (เป็นอะไรดี) เริ่มหัวข้อโดย: นางฟ้า ชาลี ที่ 02 ธันวาคม 2011, 10:40:AM "เป็นอะไรดี" จบ ม. ปลาย เป็นท่า ละครานี้ วางชีวี ต่อไป อย่างไรหนอ แรงเครื่องฟิต ติดดัง มิรั้งรอ จะเรียนต่อ.พ่อค้า.เกษตรกร คิดถึงแม่ แลพ่อ ขอกลับบ้าน ลาสมภาร ทรงธรรม เคยพร่ำสอน นมัสลง องค์พุทธ รุดจากจร พระพรั่งพร กรกระพุ่ม ชุ่มฉ่ำใจ อกผึ่งผาย ชายชาตรี หล่อนี่หว่า. แบบนี้น่า เป็นครู อยู่โรงใหญ่ หรือสอนเด็ก เล็ก.น้อย กลางดอยไกล วาดหวังไว้ ภิรมย์ สุขสมปอง หรือสุดหล่อ พ่อค้า คล่องพาณิชย์ ครุ่นค้นคิด จัด.รื้อ ซื้อขายของ สองมือจับ นับเพลิน แบ๊งค์เงินทอง หัวใจพอง ตุบตับ มิพับตา หรือสุดล่ำ ทำสวน พรวนดินไถ สวมหมวกใบ ถือเคียว ก้มเกี่ยวหญ้า ปลูกพืชผัก ปัก.ชำ ตอน.ดำนา เลี้ยงปู.ปลา.เป็ด.ไก่ ขาย.ไว้กิน นั่งเบาะริม ยิ้มหยุม คามุมปาก รถออกจาก เวียงพิงค์ วิ่งถึงถิ่น คนขับถาม ลงไหน ไม่ได้ยิน ต้องเดินดิน ถูกเย้ย รถเลยทาง emo_93 รพีกาญจน์ 59 (http://www.lesla.com/board/file/3/20110429-101926-2088909481.jpg) มัวแต่เพลิน เดินดิน กินพริกอ่อง เลยจำต้อง รอนแรม แกมถากถาง เลือกไม่ถูก ผูกไม่ได้ ในใจกลาง ระวังร้าง คู่เคียง มาเรียงตน มัวแต่ยิ้ม พริ้มพับ หลับตาตื่น มัวแต่ยืน ฝืนแข็ง แสร้งฝึกฝน มัวแต่มอง นางฟ้า น่าซุกซน มัวแต่ด้น ดั้นหา มาสวนปรุง ..... นางฟ้า ชาลี .... emo_69 emo_69 หัวข้อ: Re: ๐ ครั้งหนึ่งในชีวิต ๐(เป็นเกษตรกร) เริ่มหัวข้อโดย: รพีกาญจน์ ที่ 03 ธันวาคม 2011, 06:19:PM แม่พึมพำ น้ำตาคลอ พ่อเรียกใกล้ เอ่ยดีใจ ลูกจบ พบสำเร็จ ถึงยากจน คนดี คือศรีเพชร จะบอกเคล็ด ความรู้ คู่พิจารณ์ งานเกษตร เขตหมุด สุดยาวกว้าง จัดไม้วาง เป็นแถว ตามแนวฐาน พืชล้มลุก ปลูกแปลง ร่องแหล่งดาน ข้าวนาหว่าน น้ำดี มีบ่อปลา เดินสำรวจ ตรวจสิ้น ดินสภาพ จะต้องทราบ ฤดูกาล ปลูกหว่านกล้า สารเคมี วิธีใด ใช้ปุ๋ยยา กำจัดหญ้า ฆ่าแมลง โรคแรง.กัน รู้เทคนิค ปลูกปลิด ผลิตผล รู้ใช้คน ถูกงาน สานสร้างสรรค์ รู้เครื่องมือ ถือไถ ได้ครบครัน รู้เท่าทัน พ่อค้า หน้าไม่อาย เกษตรกร อ่อนเพลีย มีเสียได้ ตามกลไก การตลาด ผูกขาดขาย ถ้าของดี มีราคา พาสบาย ของมากมาย หน้าเบ้ เทลงคลอง ร่างโครงการ งานแผน ให้แน่นหนา เพื่อได้มา ที่ดิน ทำกิน.ของ เสนอไป ไม่พ้น คนรับรอง ทุนเงินทอง ธกส. รอรักเรา ธกส.-ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์ (ไม่ใช่ ธรณีกันแสง นะจ๊ะแซม ) รพีกาญจน์ 59 หัวข้อ: Re: ๐ ครั้งหนึ่งในชีวิต ๐ (เป็นพ่อค้า) เริ่มหัวข้อโดย: รพีกาญจน์ ที่ 04 ธันวาคม 2011, 03:17:PM เป็นพ่อค้า วาณิชย์ คิดดีหรือ ปากไม้มือ ต้องใช้ แทบไม่ว่าง ปากไม่หยุด พูดไป ยิ้มไปพลาง มือสองข้าง ชี้สื่อ ถือวุ่นวาย พูดอะไร ก็ได้ ให้คนซื้อ ลูกค้ามือ ล้วงเป๋า เอาออกจ่าย เราดีใจ ได้ทรัพย์ นับมากมาย เขาสบาย ได้ของ เดินว่องไป ขายอาหาร การกิน สิ้นเปลืองดีกว่า หมดมื้อนี้ มีมื้อหน้า ต้องหาใหม่ เงินลงทุน หมุนเวียน เปลี่ยนกันไว เหลือกำไร มากน้อยบ้าง ก็ช่างมัน ต้องสำรวจ ตรวจตลาด คาดล่วงหน้า เข้าพรรษา เทศกาล งานสังสรรค์ งานพิธี มีอะไร ซื้อใช้กัน นานาภัณฑ์ ชั้นเยี่ยม.ถูก.เตรียมวาง ทำหูบัง ฟังทั่ว สารทิศ มีตาติด ลำกล้อง ส่องทุกอย่าง ทั้งลดแหลก แจกแถม แกมอำพราง คิดค้นสร้าง อุบาย จุดขายตาม ก้อนสบู่ ถูขี้ไคล ใช้อาทิตย์ อย่าเว้นคิด นิดหน่อย พลอยมองข้าม ค้าขายดี มีกำไร ให้พองาม เคียงนิยาม ความดี มีสุขเอย emo_89 รพีกาญจน์ 59 หัวข้อ: Re: ๐ ครั้งหนึ่งในชีวิต ๐ คำของพ่อ...เป็นข้าราชการ เริ่มหัวข้อโดย: รพีกาญจน์ ที่ 05 ธันวาคม 2011, 05:20:AM คำของพ่อ...เป็นข้าราชการ มีเสื่อนอน หมอนใบ ไกลจากบ้าน พึ่งโพธิ สมภาร องค์ในหลวง ติดสำเภา เข้าไทย หัวใจกลวง ญาติทั้งปวง หาใคร ก็ไม่มี พเนจร ร่อนเร่ เตร่ภาคเหนือ แบกข้าวเกลือ ขึ้นลง ร้าน.โรงสี เหลือเก็บหย่อม ออมหยิบ ได้ดิบดี บารมี พระองค์ ทรงเมตตา พ่อเห็นชอบ ตอบบุญ พระคุณท่าน รับราชการ เป็นครู ดูเข้าท่า สอนอ่านเขียน เรียนเล่น เป็นเวลา ให้ลูกศิษย์ รู้วิชชา ก้าวหน้าไกล ถ้าเด็กดี มีธรรม ประจำจิต พบชีวิต อนาคต สุกสดใส ช่วยสร้างชาติ ศาสนา ประทศไทย ลูกจะได้ บุญบน กุศลแรง เคร่งครัดคำ ชำนาญ งานแคล่วคล่อง เพียรสนอง นโยบาย มิหน่ายแหนง ที่ยุ่งยาก มากนิด คิดพลิกแพลง ค่อยตกแต่ง ปรับเปลี่ยน ให้เลี่ยนลาน อยู่อย่างไทย ใช้พอเพียง เลี้ยงชีวิต ก่อนปลงปลิด พบสุข ได้ปลูกบ้าน ครองที่สวน.นา.ไร่.ได้บำนาญ มียวดยาน คันใหญ่ ไปวัดวา emo_126 รพีกาญจน์ 59 หัวข้อ: Re: ๐ ครั้งหนึ่งในชีวิต ๐ ( ..เพื่อคุณ.. ) เริ่มหัวข้อโดย: รัตนาวดี ที่ 05 ธันวาคม 2011, 06:45:AM ...อ่านเรื่องราว คร่าวดู รู้ชีวิต พรหมลิขิต ประดิษฐ์ให้ พิไลค่า จากผ่านพบ จบเจน เรื่องเด่นมา ซับประดา พาชีวิต ด้วยจิตไป... ...ภาคภูมิใจ ไว้แทน หมื่นแสนล้าน ทาบประมาณ หาญคูณ เพิ่มพูนใหญ่ ถักร้อยรวม สวมมอบ ปลอบฤทัย คอยประดุจ จุดแสงไฟ ส่องให้ทาง... รัตนาวดี emo_116 หัวข้อ: Re: ๐ ครั้งหนึ่งในชีวิต ๐ เริ่มหัวข้อโดย: พี.พูนสุข ที่ 05 ธันวาคม 2011, 08:02:PM ครั้งหนึ่ง..ในชีวิต ลิขิตขาน โอ้..หนอเจ้า...เบ่งบานในใจแล้ว... (http://upic.me/i/vs/dyp26.gif) (http://upic.me/show/20550805) คือครั้งหนึ่ง...ในชีวิต ลิขิตขาน คือครั้งนาน...บนชีวิต ลิขิตไข กรองมาลี สีระยับ ประดับใจ กรองมาลัย งามวะวับ ประดับจินต์ เชี่ยวชำนิ ผลิร้อย ดอกสร้อยสาน เชี่ยวชำนาญ เรียงร้อย ดอกสร้อยศิลป์ ชั่วชีวา...เผื่อแผ่...แพร่ระบิล ชั่วชีวิน...แน่วแน่...แพร่ระบือ เป็นสายธาร สมานมิตร สนิทล้ำ เป็นสายธรรม วัดวา น่านับถือ เป็นแสงส่อง ไฟฝัน ร่วมบันลือ เป็นแสงสื่อ สีสัน ร่วมบรรเลง ไม่หยุดยั้ง หลั่งคำ กาพย์โคลงกลอน ไม่หยุดหย่อน ทยอยฝัน อันปลั่งเปล่ง แม้คอมพ์ตาย ข้า..รพีฯ ไม่หวั่นเกรง แม้นอนเขลง ยังสร้างฝัน ไม่หวั่นกลัว ชื่นดวงมาน...แกงน้ำ ชามท่วมท้น ชื่นดวงมน...พื้นถิ่น ยินถ้วนทั่ว ระรื่นรมย์...คมคำล้อ ล่อตื่นตัว ระรื่นหัว...ตบมุกฮา ขาประจำ (http://upic.me/i/vs/dyp26.gif) (http://upic.me/show/20550805) แด่...พ่อรพีฯ ของลูกขวัญ เอ๊ย..เมียขวัญ จาก...คู่ขวัญ เออะ..คู่มิตร ยายสุข กระตุกฮา..(ขอฮามั่งดิ) ..Peepoonsuk.. หัวข้อ: Re: ๐ ครั้งหนึ่งในชีวิต ๐ เริ่มหัวข้อโดย: ...สียะตรา.. ที่ 05 ธันวาคม 2011, 08:29:PM ......ไปนั่งดูน้องหมาน่าเอ็นดูอยู่เป็นนาน...กลับมาแว่บนึงก่อนไปนอน....กลอนจากความรู้สึกแสนดีของคุณPeepoonsuk ต้องทำให้ฝันดีแน่เลยค่ะ... หัวข้อ: Re: ๐ ครั้งหนึ่งในชีวิต ๐ เริ่มหัวข้อโดย: รพีกาญจน์ ที่ 13 ธันวาคม 2011, 05:16:AM นั่งหน้าเตา เป่าไฟ ใช้ฟืนถ่าน ปรุงอาหาร หวาน.คาว นึ่งข้าวก่ำ(ดำ) ผลไม้ หลายหลาก หมาก.เมี่ยงคำ ธูป.เทียน.ดอก กรอกน้ำ เตรียมทำบุญ หมายตั้งจิต อุทิศแด่..แม่.ป้า.พ่อ ที่กำเนิด เกิดก่อ ต่อเนื่องหนุน องค์เทพไท้ ได้อวย ช่วยเจือจุน ระลึกคุณ สามแก้ว แล้วประเคน ประนมรับ สัพพีฯ พรศรีจบ ก้มกราบนบ บูชิต นิรมิตเห็น ผู้รับเอา เจ้ากรรม กระทำเวร ใจตื่นเต้น ตูมตาม ความดีใจ ตีระฆัง อังคาระ บิณฑบาตร หน้าตลาด รวงร้่าน บ้่านอาศัย มีหลวงพ่อ ต่อเด็กวัด เดินถัดไป โปรดเวไนย สรรพสัตว์ อนัตตา รวมข้าวของ เครื่องใช้ ลงใส่ถุง มีเครื่องปรุง.กะปิ.เกลือ.ซิ่น.เสื้อ.ผ้า แป้ง.น้ำตาล.อาหารสุก.นม.หยูกยา มอบให้คน..จน.ชรา ทั่วหน้ากัน ทุกวันที่ สิบสาม ธันวาคม อภิรมย์ สนุก.ชื่น.สุขสันต์ ในรอบปี ที่ซึ้ง อีกหนึ่งวัน นานชั่วกัลป์ ฉันปลื้ม มิลืมเลย emo_126 รพีกาญจน์ 59 หัวข้อ: Re: ๐ ครั้งหนึ่งในชีวิต ๐ เริ่มหัวข้อโดย: รัตนาวดี ที่ 13 ธันวาคม 2011, 09:41:AM emo_126 emo_126 emo_126 ...ส่งใจมา ด้วยบท ประณตน้อม ฤทัยพร้อม ภาวนา วาจาเผย ความพิสุทธิ์ ผุดผ่อง สวดคล่องเคย พระคัมภีร์ ดีเฉลย เปรยโปรดปราน... ...ทุกปีครั้น สิบสาม ธันวาคม ตรึงตราชม ภิรมย์สบ พบประสาน ใคร่หวนคิด สนิทรื่น แสนชื่นบาน พี่คนดี รพีกาญจน์ บ้านกลอนไทย... รัตนาวดี emo_116 หัวข้อ: Re: ๐ ครั้งหนึ่งในชีวิต ๐ มากับน้ำไหล ไปกับน้ำตา เริ่มหัวข้อโดย: รพีกาญจน์ ที่ 17 ธันวาคม 2011, 06:22:AM น้ำเหนือนอง ล่องไหล ลงใต้ล่าง พัดพานาง หนีภัย ให้รู้จัก เพียงคำแรก แปลกใจ ได้ทายทัก เราเริ่มรัก เบาเบา เข้าแล้วซิ มีข้าวกอง พะเนิน เกินหลังรถ มาไม่หมด บวมแยก แตกเปื่อยปริ อยู่ศาลา อาศัย ดีไหมนิ หากว่าผิ น้ำลด หมดลาละ ช่วยแบกลัง ถังใหญ่ ขึ้นไหล่ขน วางไว้บน เสื่อสาด ขาดปรุปะ ใส่ของกิน ปิ่นโต โภชนะ เธอมากะ ผู้แก่ แม่.ตา.ยาย เคยล้อเล่น เป็นเพื่อน ได้เดือนหนึ่ง เคยซาบซึ้ง ช่วยเหลือ มิเบื่อหน่าย เคยล่อเลี้ยว เที่ยวเพลิน ท่องเนินทราย หิวตาลาย มื้อแลง แบ่งกันกิน อยากให้น้ำ ทำเรื่อง เชื่องช้าลด ให้คืนสด วันชื่น มิรู้สิ้น อยากให้ กาลเวลา อย่าโบยบิน ใจคู่จินต์ รินรส พจนา แล้ววันเจ็บ.. เก็บของ ขึ้นใส่รถ โศกสลด หม่นหมอง ครองใบหน้า มากับฝน ขนกลับ ซับน้ำตา การจากลา..ทำไมหนอ..ทรมาน.. emo_62 รพีกาญจน์ 59 หัวข้อ: Re: ๐ ครั้งหนึ่งในชีวิต ๐ เริ่มหัวข้อโดย: สมนึก นพ ที่ 19 ธันวาคม 2011, 02:44:PM สมัยเมื่อครั้งเป็น ตชด. ออก ลว.ในป่าเวลาผ่าน ปีนเขาลงห้วยหนองลำคลองธาร มีอาหารเป้หลังคลังเสบียง พักสันเขาให้ทันตะวันพลบ ต้องคอยหลบเร้นกายงดใช้เสียง จัดเวรยามระวังภัยให้พอเพียง ที่เหลือเลี่ยงหลับนอนพักผ่อนกัน ที่นอนเราอยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่ กวาดเศษใบเป็นขอบวงรอบนั่น สายตาเห็นเส้นทางร้างนานครัน ผ่านตรงนั้นที่เราเข้าพอดี นึกถึงคำพ่อเฒ่าเล่าฟังว่า ในเขตป่าอาศัยอยู่หมู่ภูติผี ทั้งสัตว์ร้ายต่างต่างหลายอย่างมี ทุกนาทีอันตรายใกล้ตัวเรา จึงได้เก็บเศษไม้ที่ใกล้นั้น ทำรั้วกั้นปิดทางขวางอับเฉา ปากก็พร่ำภาวนาว่าแผ่วเบา ขอโทษเขาทุกอย่างอย่าย่างมา รั้วสูงหนึ่งคืบวางกว้างหนึ่งศอก ไม่ได้ตอกเสาหลักปักแน่นหนา ใช้มือกดแรงฝืนพื้นพสุธา เพียงรู้ว่ารั้วกั้นแค่นั้นพอ ขณะหลับในมุ้งสะดุ้งตื่น เหมือนมือยื่นจับปลุกเราลุกหนอ เปิดชายมุ้งหรี่ไฟฉายไม่รีรอ ภายในคอแห้งผากไม่อยากเจอ มดง่ามใหญ่ตัวโตโชว์อยู่ทั่ว หลายพันตัวรอบข้างอย่าพลั้งเผลอ แสดงตนให้รู้อยู่นะเออ ตรงที่เธอนอนนี้มีฉันครอง หลบเข้ามุ้งกราบเจ้าป่าและเครื่องลาง แขวนอยู่ข้างถึงผ่านท่านทั้งสอง แล้วเอนตัวนอนใหม่ผ้าใบรอง กะเพียงสองสามนาทีนี้ลุกมา เปิดมุ้งดูครั้งใหม่มดหายหมด เหลือเสียงหยดน้ำค้างค่อนข้างหนา ศูนย์สอง น.เพื่อนปลุกถูกเวลา ลุกขึ้นมารับยามเปลี่ยนตามมี อีกมากมายหลายหลากประสบการณ์ ได้พบผ่านเข้าชีวิตจิตจำนี่ อาถรรพ์ป่าพฤกษ์ไพรในพงพี ไสยศาสตร์นี้อย่าลบหลู่หรือดูแคลน. นพ 19 ธ.ค.54 หัวข้อ: Re: ๐ ครั้งหนึ่งในชีวิต ๐ ...คิดถึงหมอ... เริ่มหัวข้อโดย: รพีกาญจน์ ที่ 26 ธันวาคม 2011, 06:22:PM เช้าประชุม...บ่ายรับยา ขับวนซ้าย ป่ายขวา หาที่จอด เต็มตลอด หนทาง สองข้างฝั่ง ดำแดงขาว ยาวสั้น ติดกันจัง รถคับคั่ง หลังหน้า ตึกอาคาร เข้าแถวทิว คิวเคียง เรียงยื่นบัตร หญิงชายถัด หนุ่มแก่ ชแรท่าน ล้อผู้ป่วย ช่วยเข็น เป็นพิการ ถึงทุราน บิดเบี้ยว รับเยียวยา ล้วนคนไทย ใกล้.ห่าง จากต่างถิ่น พอได้ยิน สื่อหมาย หลายภาษา อยู่ในเมือง เรืองรุ่ง ทุ่งท้องนา สูงเสียดฟ้า พงไพร บนไหล่ดอย คุยโขมง โฉงเฉง ตะเบ็งบ้าง นอนทอดร่าง นั่งขด มิถดถอย เสียงพูดกัน สั่นกลัว ระรัวคอย อุ้มเด็กน้อย ลอยรอ ตามหมอนัด วัดส่วนสูง ตรวจไข้ หัวใจเต้น มือแตะเส้น ชั่งน้ำหนัก ซักประวัติ สูบบุหรี่ ร่ำสุรา แพ้ยาชัด เคยผ่าตัด กี่มื้อ ดื้อยาไร นั่งเนิ่นนาน พานเบิ่ง เถิงหมอณัช จิตลอยลัด หมอฟ้า มาเชียงใหม่ ยิ้มแย้มหน้า ตาหลับ ประทับใจ เสียงเรียกไข้..ทวี รพีกาญจน์... กำลังคิดถึงหมอฯ สะดุ้งอ่ะครับ หัวข้อ: Re: ๐ ครั้งหนึ่งในชีวิต ๐ คำอำลาของลาโง่ เริ่มหัวข้อโดย: รพีกาญจน์ ที่ 09 มกราคม 2012, 09:53:PM ว่าเจ้าเป็น เช่นลา หน้าโง่งั่ง ทุกวันหลัง รับแดด ที่แผดจ้า หน้าสู่พื้น ยืนร่าง นั่งบางครา อยู่กับนา.ไร่.สวน พรวนดินดาน แค่สนุก สุขใจ กับไอฝน ต้องลมบน หวาดหวั่น สั่นสะท้าน ขับไล่กา ด่าแมลง แทงดอกบาน กินอาหาร ตามรั้ว ต้ม.คั่ว.แกง มีจิ้งหรีด กรีดก้อง ร้องเพลงกล่อม ดำมืดห้อม ฤดี ไร้สีแสง นอนหน้าทับ พับฝัน ถึงจันทร์แดง เงียบเหงาแฝง เข้ามา ในราตรี เจ้ามีใจ ให้รัก สุนัขน้อย เป็นเพื่อนคอย ตามไป ในทุกที่ ชอบล้อเล่น เห็นท่า อารมณ์ดี ทำตาหรี่ ลงหมอบ เหมือนปลอบโยน เจ้าเคยเล่น เป็นลิง ยิงสะบ้า อยู่ในป่า ตัวลอย เกาะห้อยโหน ว่ายผุดดำ คลำหา ปลาในโคลน รีบกระโจน จูงวัว วิ่งทั่วลาน เจ้าคงเป็น เช่นลา หน้าโง่งั่ง เข้าสู่วัง วนเวียน หัดเขียนอ่าน เฝ้าร้อยรัก ถักอักษร จิ้มกลอนกานท์ หนึ่งปีผ่าน เจ้าสุข.ทุกข์ อย่างไร หนึ่งปีผ่าน อาจลาลับ กลับบ้านนา emo_126 รพีกาญจน์ 59 หัวข้อ: Re: ๐ ครั้งหนึ่งในชีวิต ๐ เริ่มหัวข้อโดย: ♥หทัยกาญจน์♥ ที่ 10 มกราคม 2012, 05:05:AM (http://i191.photobucket.com/albums/z212/jang_2007/Lines/32.gif) ครั้งหนึ่งในชีวิต ครั้งหนึ่งในชีวิต..จิตพี่เขียน เพียงหนึ่งปีที่เวียน....เพียรฝันใฝ่ เข้าสู่วังวนกานท์....บ้านกลอนไทย มีความสุขทุกข์ใด...ในทรงจำ ครั้งหนึ่งในชีวิต....มิตรผองเพื่อน ดั่งพี่น้องครองเรือน...เยือนงามขำ พบ-พรากเกิดเลิศเรียก...เพรียกคือกรรม แล้วแต่บุญคุณทำ...ล้ำกมล ครั้งหนึ่งในชีวิต...คิดลาแล้ว พ่อเอยพ่อขวัญแก้ว....แววสับสน มีความสุขทุกข์ไซร้....ในตัวตน นี่แหละคือชื่อคน...ผลงานเรา ครั้งหนึ่งในชีวิต...พินิจฟัง หากท้องฟ้าฝากฝั่ง...ยังมีเขา แจ้งตะวันจันทร์คืน...ตื่นแสงเงา มีน้องนางนี้เศร้า...เฝ้ารอคอย ครั้งหนึ่งในชีวิต....สนิทใกล้ เคยอิงแอบแนบใจ...ใครเหงาหงอย น้องหลงวังวนคำ....น้ำตาปรอย คลับคล้ายเสียงเศร้าสร้อย....ปล่อยดวงใจ ครั้งหนึ่งในชีวิต...สิทธิ์,เสรี เหลือเพียงพจน์บทกวี....ที่ฝันใฝ่ ดั่งนกน้อยคอยบิน...แดนดินใด วาดท้องฟ้ากว้างไกล...ใกล้เคียงกัน ครั้งหนึ่งในชีวิต....จิตที่เขียน คือตำราร่ำเรียน.....เปลี่ยนสุขสันต์ เปิดหนังสือชื่อหน้า...ว่าสัมพันธ์ มิตรภาพตราบฝัน...นิรันดร (http://i191.photobucket.com/albums/z212/jang_2007/Lines/23.gif) (http://www.yenta4.com/cutie/upload/640/1640/4be396717d747.gif) หทัยกาญจน์ ๑๐ มกราคม พ.ศ.๒๕๕๕ หัวข้อ: Re: ๐ ครั้งหนึ่งในชีวิต ๐ คำสารภาพ เริ่มหัวข้อโดย: รพีกาญจน์ ที่ 10 มกราคม 2012, 06:32:AM ๑ เจ้าคงเป็น เช่นลา กลางป่าเขา วันจับเจ่า กล้าแกร่ว แถวดงใหญ่ กินมันกลอย ลอยน้ำ ลำห้วยไป ถูกหนามไหน่ เกี่ยวกรีด ขีดทิ่มแทง ๑ เจ้าไม่สน บ่นบึ้ง ถึงทุกข์ยาก ความลำบาก อย่างไร ไม่รู้แจ้ง แต่เรื่องงาน นานหนัก มิพักแรง หวาดระแวง แคลงใจ ภัยโรคา ๑ เจ้าก่อตน จน.ซื่อ ถือเคร่งครัด ปฏิบัติ เคียมคาด ศาสนา ยึดสัจศีล กินผัก รักเมตตา มิมุสา เบี้ยวบูด พูดแต่จริง ๑ เจ้าซาบซึ้ง ถึงเพลง บรรเลงเพราะ เดินแตะเตาะ แกะนับ ตามฉับฉิ่ง แค่ท้องถิ่น กลิ่นนา ปูปลาปลิง เสียง ล ลิง ร้องอ้า ลา ลา ลา ๑ เจ้าเรียนร่ำ ต่ำสุด วุฒิน้อย คิดประดอย ถ้อยหวาน ฤๅซานซ่า ไร้เสน่ห์ เล่ห์กล มนต์มายา อยู่ได้มา เรียงรส เพราะอดทน ๑ เจ้าจากไหน ไม่ต่าง อย่างเช่นนั้น เดิมดำบรรพ์ เขาจัด สัตว์ไพรสณฑ์ ไม่เหมาะมอง ท่องไป ในสกล รีบดั้นด้น คืนคอก บ้านนอกนา รพีกาญจน์ 59 หัวข้อ: Re: ๐ ครั้งหนึ่งในชีวิต ๐ เริ่มหัวข้อโดย: กังวาน ที่ 10 มกราคม 2012, 08:47:AM ฉันเป็นม้าในเมืองรุ่งเรืองใหญ่ เขาเลี้ยงไว้แข่งขันต้องฟันฝ่า อาหารมีให้กินทุกเวลา แต่มีหน้าที่ทำด้วยจำเป็น ต้องชิงดีชิงเด่นเป็นตัวแรก แย่งกันแบกภาระใครจะเห็น ฝึกซ้อมกันทุกวันเช้ายันเย็น ถูกเคี่ยวเข็ญให้ชนะเพื่อระราน อยากกลับสู่หมู่ป่าท้องนาเขา ช่วยแบ่งเบาเจ้าลาน่าสงสาร กินผักหญ้าอยู่ด้วยกันนั้นนานนาน นั่งนอกชานโขกหมากรุกคงสุขจริง หัวข้อ: Re: ๐ ครั้งหนึ่งในชีวิต ๐ ทาสอารมณ์ เริ่มหัวข้อโดย: รพีกาญจน์ ที่ 12 มกราคม 2012, 06:23:AM เหตุเกิดเมื่อ ปี 2526 แค่กินเหล้า เมามาย ถึงสายโด่ง ด่าโขมง โฉงเฉง ตัวเกร็งสั่น เธอหยิบยก โบกมือ มิถือกัน ลิ้นไก่สั้น อ๋อแอ๋ ด่าแม่นาง แดดอบอ้าว ข้าวเม็ดหนึ่ง มิถึงท้อง ได้แต่จ้อง มองจาน อาหารว่าง หิวขึ้นหน้า ฝ้าฟาย น้ำลายจาง ฉวยแก้วขว้าง ถูกเตียง เปรี้ยงกระจาย เข้ามาใกล้ ไล่หมา ด่าแมวหนี เหล้าไม่มี สักหยด เกลี้ยงหมดหาย ไปเชื่อก่อน ผ่อนให้ ถ้าไม่ตาย อย่าเลยบ่าย บุหรี่ มีกาแฟ ถอกใส่แก้ว แล้วส่ง ข้าก๊งด่วน ท้องมันป่วน คลื่นเหียร เจียนจะแย่ ชอบอย่างเพียว เคี้ยวตาม มะขามแจ มันก็แค่ แบบนี้ หลายปีมา พัดลมพ่น บนหัว อีกตัวเท้า ไยช้าเล่า เร่งรีบ บีบต้นขา กดแรงแรง แกล้งเบา ยันเอานา มัวชักช้า ซมซาน รำคาญ.ไป รู้สึกตัว งัวเงีย เรียกเมียข้า ราวป่าช้า ไม่รู้ เธออยู่ไหน ทั้งเสื้อผ้า ยาสีฟัน พลันหายไป นั่งร้องไห้ ครวญหา จนตาแดง emo_61 ขอสงวนลิขสิทธิ์ ห้ามเลียนแบบ รพีกาญจน์ 59 หัวข้อ: Re: ๐ ครั้งหนึ่งในชีวิต ๐ พิธีกรงานศพ เริ่มหัวข้อโดย: รพีกาญจน์ ที่ 12 มกราคม 2012, 09:19:PM กล่าวต้อนรับ ขับสู้ ผู้มีเกียรติ เดินยาวเหยียด ขุดดำ คำนับศพ แทนเจ้าภาพ กราบกราน ท่านเคารพ หลังน้อมนบ พักข้างใน ให้สบาย กำหนดการ งานมี ดังนี้ครับ ช่วงเช้ารับ พี่น้อง พ้องสหาย ญาติผู้ใหญ่ ใกล้ชิด มิตรมากมาย พูดพำนัก พักกาย ผ่อนหายเพลีย เมื่อถึงตอน ก่อนเที่ยง เลี้ยงอาหาร รับประทาน พร้อมหน้า อย่าละเหี่ย ถ้าไม่ติด กิจธุระ ที่จะเคลียร์ เชิญร่วมเสีย ชุมนุม ประชุมไฟ รับพระสงฆ์ องค์เจ้า เข้ามาบ่าย สวดถวาย จงจิต อุทิศให้ ผู้วายชนม์ คนแทน ทอดผ้าไตร เพลิงลุกไหม้ ท้ายครบ จบพิธี กล่าวโน้มนอบ ขอบคุณ การุญยิ่ง อาจหลายสิ่ง พลาดพลั้ง ในครั้งนี้ ขอยกโทษ โปรดเมตตา ถ้าหากมี สวัสดี มีสุข ชัย พลัง พิธีกร ขอนศพ ครบพันแล้ว จะแน่แน่ว ต่อไป ไม่หยุดยั้ง สักวันหนึ่ง ถึงตา ข้าภินพัง คนคงฝัง สุมไฟ เผาให้เรา เป็นพิธีกรงานศพครบ 1000 วันนี้พอดี เช็คจากทะเบียนคุมการเงินฌาปนกิจฯ เพื่อการกุศล ทำให้ฟรี ทุกรายการ รพีกาญจน์ 59 หัวข้อ: Re: ๐ ครั้งหนึ่งในชีวิต ๐ ได้คิด..คิดได้ เริ่มหัวข้อโดย: รพีกาญจน์ ที่ 13 มกราคม 2012, 10:37:AM ตัวตนหนึ่ง ถึงชาญ กับการศึก ปัจนึก คึกคะนอง ต้องคอยหลบ ขืนชักม้า ท้าทาย หมายออกรบ ถูกสยบ เท้งเต้ง ปะเพลงเดียว ถึงกล้ากร้าว ห้าวหาญ ดาบปานเทพ จะบาดเจ็บ ลื่นล้ม เพราะคมเคี้ยว ปากพยัคฆ์ หักด่าน รานรูดเรียว เงาฟาดเฟี้ยว ตาลาย หงายเท่งทึง กรุเก่าแก่ แค่ไหน เขาไม่หวั่น โหหุนหัน ฐานรู้ เทียบจู๋อึ่ง หัวทหาร บ้านนอก ออกสึ่งตึง(โง่) พรวดทะลึ่ง หอกเสียบ ถูกเหยียบคอ สนิมเขรอะ เกรอะกรัน ติดสันดาบ สีดำฉาบ อาบอาย หลาย พ.ศ. ลับผาหิน ดินแดง แกร่งไม่พอ ร่นชะลอ ถ่อถาก ออกจากลาน มือคลำไป ในย่าม พบความว่าง ก้าวพาร่าง ติดมนตร์ กลสังหาร อาวุธกอง ของเก่า เขาใช้การ ประจัญบาน ตาเหลือก เลือดเถือกกาย ม้าตี๋ ม้าต่าง ม้าต้าย ท้าย.ม้าเต๊ก เจอ.ม้าเอ๊ก ต่อตี มีแต่พ่าย เป็น.ม้าเลว เหลวเป๋ว ดีดเดียวดาย กลับคืนค่าย เพอะพะ เมืองหละปูน emo_118 รพีกาญจน์ 59 (ม้าตี๋) หัวข้อ: Re: ๐ ครั้งหนึ่งในชีวิต ๐ เริ่มหัวข้อโดย: บูรพาท่าพระจันทร์ ที่ 13 มกราคม 2012, 12:00:PM เป็นม้าแก่ แลหญ้า อยู่นาทุ่ง ไม่คิดมุ่ง ยุ่งศึก สำนึกสูญ ท้องทุ่งนา พาใจ ให้จำรูญ สุดเทิดทูน ท้องถิ่น ด้วยยินดี อันการศึก ฮึกฮัก อึกอักอก ไม่วิตก หมกไหม้ ในศักดิ์ศรี ไร้นิยม ชมเฟื่อง เรื่องต่อยตี ขอแค่มี ฟางหญ้า ข้าพอใจ.../ emo_100 บูรพาท่าพระจันทร์ หัวข้อ: Re: ๐ ครั้งหนึ่งในชีวิต ๐ ..ซ้อสี่ขอร้อง.. เริ่มหัวข้อโดย: ..กุสุมา.. ที่ 13 มกราคม 2012, 08:01:PM ตัวตนหนึ่ง ถึงชาญ กับการศึก ปัจนึก คึกคะนอง ต้องคอยหลบ ขืนชักม้า ท้าทาย หมายออกรบ ถูกสยบ เท้งเต้ง ปะเพลงเดียว ถึงกล้ากร้าว ห้าวหาญ ดาบปานเทพ จะบาดเจ็บ ลื่นล้ม เพราะคมเคี้ยว ปากพยัคฆ์ หักด่าน รานรูดเรียว เงาฟาดเฟี้ยว ตาลาย หงายเท่งทึง กรุเก่าแก่ แค่ไหน เขาไม่หวั่น โหหุนหัน ฐานรู้ เทียบจู๋อึ่ง หัวทหาร บ้านนอก ออกสึ่งตึง(โง่) พรวดทะลึ่ง หอกเสียบ ถูกเหยียบคอ สนิมเขรอะ เกรอะกรัน ติดสันดาบ สีดำฉาบ อาบอาย หลาย พ.ศ. ลับผาหิน ดินแดง แกร่งไม่พอ ร่นชะลอ ถ่อถาก ออกจากลาน มือคลำไป ในย่าม พบความว่าง ก้าวพาร่าง ติดมนตร์ กลสังหาร อาวุธกอง ของเก่า เขาใช้การ ประจัญบาน ตาเหลือก เลือดเถือกกาย ม้าตี๋ ม้าต่าง ม้าต้าย ท้าย.ม้าเต๊ก เจอ.ม้าเอ๊ก ต่อตี มีแต่พ่าย เป็น.ม้าเลว เหลวเป๋ว ดีดเดียวดาย กลับคืนค่าย เพอะพะ เมืองหละปูน emo_118 รพีกาญจน์ 59 (ม้าตี๋) ไม่ยอมรับ ม้า..เอ๊ก เด็กส่งลุ้น กลัวคมเขี้ยว เคี้ยวกัด ฟัดทารุณ ขอกองหนุน เชียร์ด้วย ช่วยให้น้ำ ศึกคมเขี้ยว ม้าตี๋ ซ้อสี่ขอ หันสู้พ่อ ทั้งใจ อย่าได้ช้ำ รับป้ายทัพ เปิดศึก ฝึกซ้อรำ เฮียวิทย์นำ กองทัพ จับม้า..เอ๊ก ..ซ้อสี่..กุสุมา..emo_82 emo_62 หัวข้อ: Re: ๐ ครั้งหนึ่งในชีวิต ๐ ครูคนใหม่ เริ่มหัวข้อโดย: รพีกาญจน์ ที่ 15 มกราคม 2012, 10:20:PM สะพายย่าม ถามทาง กางที่หมาย เราเป็นชาย หน้ามน คนแปลกหน้า เดินย่ำโคลน วนเขา เท้าย่างมา เฒ่าถามว่า นายครับ จะจับใคร เขาหน้าตื่น ยืนงง ตรงกับที่ ตอบ.ผมนี้ บอกสู ครูคนใหม่ เมื่อคืนก่อน นอนร้าง หว่างพงไพร จะรับใช้ อยู่พัก สอนนักเรียน เห็นเสาธง ตรงหน้า หลังคาจาก ไม้สับฟาก กั้นไว้ แทบใจเปลี่ยน ไร้โต๊ะตั่ง นั่งยืน พื้นโล่งเตียน กระดานเลี่ยน มิดหมี สีดำทา มือไหว้สา ท่าฟัง ส่งหนังสือ เรียนแซ่ชื่อ เป็นการ รายงานว่าฯ ท่านดีใจ ได้ครู รู้วิชา คนของรัฐ พัฒนา บ้านป่าดอย รวมตอนนี้ มีครู แค่เพียงสอง เด็กสี่ห้อง ตามบัญชี มีหนึ่งร้อย ออกกลางคัน ฟันไม้ ไร่เลื่อนลอย หยุดเรียนบ่อย ประจำ น้ำหลากนอง อุดมการณ์ งานฝัน อันเข้มข้น ทฤษฎี มากล้น พ้นสมอง ปฏิบัติ หัดตรึก ฝึกทดลอง พอเจอของ จริงใช้ ไม่ได้เลย รายงานตัวโรงเรียนบนดอย 1 พฤษภาคม 2515 ถามทาง คนแก่ถามว่า นายปลัดฯจะไปจับใคร โรงเรียนติดพื้น หลังคามุงใบตอง ไม่มีโต๊ะเรียน รวมมีครู 2 คน สอน ป.1-4 นักเรียน 102 คน ความรู้ที่เรียนจาก วค. นำมาใช้แทบไม่ได้เลย รพีกาญจน์ 59 หัวข้อ: Re: ๐ ครั้งหนึ่งในชีวิต ๐ ของเก่าเอามาลง... เริ่มหัวข้อโดย: รพีกาญจน์ ที่ 16 มกราคม 2012, 09:33:AM 1 ตุลาคม 2542 วันเกษียณก่อนกำหนด คืออิฐกร่อนซ่อนดินไร้สิ้นชื่อ จิตกระพือซากซังยังกรุ่นกลิ่น ถวิลเพ้อเสมอมาเป็นอาจิณ ยามจากถิ่นแสนไกลใครดูแล ยืนรับไหว้ใกล้อยู่ประตูรั้ว มือแตะหัวร้อนไอไข้หวัดแน่ มิรอช้ารินพาราช้อนกาแฟ จิบยาแก้ไอน้ำดำสามัญ หยุดก่อนเออเธอจ๋ามาเช้าจัง กินข้าวยังเป็นไรมือไม้สั่น น้ำตาคลอพ่อแม่ค่ะทะเลาะกัน ขวัญเอ๋ยขวัญมาอยู่กับครูนะ ปฏิบัติจัดเป็นเวรสะอาด เก็บปัดกวาดทั่วไปให้สวยสะ ฝึกขยันหมั่นเคยเพิกเฉยละ เมื่อโตจะสบายไม่กลายทุกข์ เริ่มร้องรำทำเกมอย่างเต็มที่ ทุกคนมีส่วนสร้างร่างสนุก อิสระจะนิ่งเดินวิ่งลุก ก็เคล้าคลุกเรียนเล่นเช่นนี้ไป มื้อเที่ยงวันธัญญาหารทานครบหมด ส้มสุกสดนมกล่องเลื่อนรองให้ ดื่มน้ำเปล่าเอาแข็งหลอดเย็นปลอดภัย เปิดเพลงไทยฟังชมภิรมย์แปลง วันหยุดสุดสัปดาห์นัดมาเพิ่ม เด็กเก่งเจิมอ่อนเสริมเติมรู้แกร่ง ฟรีไม่คิดวิชชาเรียกค่าแรง ไม่เคยแผลงตั้งติวเพราะหิวเกิน เวลานานผ่านมาสิบกว่าปี พิมพ์เช่นนี้มีไหมบ้างอย่างที่เกริ่น ยุคโลกัฐอัตตังหวังแต่เงิน ใครจะเดินตามอิฐดำในกำแพง รพีกาญจน์ 59 หัวข้อ: Re: ๐ ครั้งหนึ่งในชีวิต ๐ พ่อครูทัด เริ่มหัวข้อโดย: รพีกาญจน์ ที่ 18 มกราคม 2012, 05:48:AM เสื้อม่อฮ่อม ย้อมเทา กระเป๋าสอง กางเกงถอง ดำด่าง ย้วยข้่างซ้าย ผ้าแดงชาด คาดพุง รุ่งริ่งลาย เกิบแตะสาย นิ้วคีบ ลีบแบนบาง ผมสั้นเกรียน เลียนลาก หน้าผากแคบ จมูกแฟบ แก้มตอบ สองขอบข้าง คิ้วดกลู่ หู.ตา บัง.ฝ้าฟาง โบกมือพลาง ถ่างขา ส่ายหน้าลอย อารมณ์มี ดีชั่ว ก็หัวเราะ ลิ้นชอบเดาะ หมากกระเซ็น ฟุ้งเป็นฝอย ร้องเพลงกรับ ขับลิเก เฮทิงนอย ชาวบนดอย เชิดชู "พ่อครูทัด" วุฒิวิชา สามัญ ชั้น ป.สี่ นักธรรมตรี ธัมมะ ปฏิบัติ เป็นครูใหญ่ ได้เลย ไม่เคยคัด ระดับจัตวา สิบห้าปี เป็นครูใหญ่ ครูน้อย ภารโรงเสร็จ การสอนเด็ด ป.หนึ่ง ถึง ป.สี่ เงินเดือนหนอ พอใช้ ไร้ดีกรี แต่มากมี คุณงาม ความเมตตา บรรจุใหม่ ได้อยู่ กับครูท่าน ประสบการณ์ ครั้งนี้ แสนมีค่า ครบล่วงลับ ดับขันธ์ วันจากลา กายใจข้าฯ บูชิต นิจนิรันดร์ พ่อครูทัด ถึงแก่กรรม 18 มกราคม 2523 ไหว้สา...รพีกาญจน์ 59 หัวข้อ: Re: ๐ ครั้งหนึ่งในชีวิต ๐ พ่อครูทัด 2 เริ่มหัวข้อโดย: รพีกาญจน์ ที่ 19 มกราคม 2012, 03:26:PM เสียงปะทุ ลุกจ้า ผวาวิ่ง ครูทัดปิ้ง ข้าวหลาม สามบอกใหญ่ กลัวนักหนา หน้าแล้ง แสงฟืนไฟ อาคารไม้ ใบจาก หากวอดวาย ข้าวเหนียวกรอก บอกไม้ ใส่เกลือนิด ตองจุกปิด สุมไฟ ปักไม้ป่าย เอาเอนอิง ปิ้งวน จนดำลาย กลิ่นกระจาย ต้องจมูก ข้าวสุกพอ บิเป็นคำ จ้ำจั่ว พริกถั่วเน่า หอมปลาเจ่า ลื่นล้ำ น้ำลายสอ เคี้ยวมะระ ชะอม ขมติดคอ ซดน้ำจอ ผักปลัง ใส่หนังงัว รสโอชา อาหาร ทานมื้อค่ำ เมฆสีดำ ผ่านมา ฟ้าสลัว ฝนพร่างพรม ลมโชย มืดโรยตัว แสนน่ากลัว สรรพางค์ กลางไพรพิง สูบบุหรี่ ขี้โย โพ่โขมง ขับกะโลง.จ๊อย.ค่าว.ถึงสาวหญิง บรรจงขึง ซึงก้อง ล่องแม่ปิง เอยอ้อยอิ่ง กังวาน สะท้านใจ เสียงเพลงหยุด สุดลง ดงสงัด พ่อครูทัด ทิ้งตัว หัวหนุนไม้ นั่งปะหงับ นับดาว หนาวทรวงใน แสนซาบซึ้ง ถึงใคร...ไกลเหลือเกิน รพีกาญจน์ 59 หัวข้อ: Re: ๐ ครั้งหนึ่งในชีวิต ๐ พ่อครูทัด 3 เริ่มหัวข้อโดย: รพีกาญจน์ ที่ 20 มกราคม 2012, 03:31:PM ดีดกระดิ่ง ติงตอง สองล้อห้าม คนชอบถาม..ครูจ๋า ไยมาสาย.. ไม่ถามอื่น หมื่นแสน แม้นมากมาย หรือเขาชัง หวังร้าย ให้อายคน ครูทัดกรอก ตอกหน้า ว่าลาบหมู แบ่งเลือดหลู้ เครื่องใน ใส่เกลือป่น จี่พริกดำ ยำปรุง ยุ่งเวียนวน คือเหตุผล ชักช้า มาเกือบเก้า...โมง ถีบรถตรง ลงเนิน เอิ้นทายทัก ช่างแปลกนัก..ครูจ๋า ไยมาเช้า.. ค่อยน่าฟัง ยังชั่ว หัวเราะเอา รู้สึกเบา หวาบหวิว ทั่วผิวกาย ครูทัดหยอก บอกคำ กินน้ำพริก เก็บผักจิก ต้มมะระ เป็นกระสาย ปั้นข้าวคำ จ้ำจิ้ม อิ่มมื้องาย(เช้า) พอกันตาย แป๊บหนึ่ง รีบบึ่งมา ตะวันบัง ยังโด่ง โรงเรียนเลิก รับตกเบิก เงินทวน จวนผู้ว่า ศุกร์ย่างเข้า เสาร์อาทิตย์ ปิดต่อนา ใช้เวลา เดินทาง ย่างสามวัน โรงเรียนในป่ากว้าง ทางไกล การศึกษาของไทย เช่นนั้น เปิดปิดคู่กันไป ตลอด มีครูไม่ครบชั้น เปิดแล้วปิดตาม ถามว่า..ทำไมมาสาย ตอบ..กินข้าวกับ ลาบ มันชักช้า กินอร่อย เลยมาสาย ถามว่า..ทำไมมาเช้า ตอบ..กินข้าวกับ น้ำพริก กิน2-3คำ ไม่อร่อย เลยมาเช้า บรรจุใหม่ครบ6เดือนถึงจะได้รับเงินเดือน รับเงินย้อนหลัง6เดือน เรียกว่า..เงินทวน รพีกาญจน์ 59 31 ตุลาคม 2515 หัวข้อ: Re: ๐ ครั้งหนึ่งในชีวิต ๐ ครูทัด 4 เริ่มหัวข้อโดย: รพีกาญจน์ ที่ 21 มกราคม 2012, 08:50:AM พอสิ้นเดือน เหมือนสิ้นใจ ที่ใครว่า อยู่กลางป่า หาเป็น เช่นนั้นไม่ มีอะไร ใน.บนดิน กินกันไป ราก.หน่อ.ใบ.ลูก.ผล.ต้น.ต้มดอง พ่อครูทัด จัดชอบ มอบหมายให้ แทนครูใหญ่ รับเงิน เดินซื้อของ เครื่องอ่าน.เขียน เรียนใช้ ไว้สำรอง เก็บใส่กล่อง มัดผูก พร้อมหยูกยา พ่อครูทัด นั่งนอน สอนสี่ชั้น เด็กรวมกัน ทำงาน การหรรษา ร้องเพลงบ้าง ร่างวาดสี เล่นกีฬา ทายปัญหา ปั้นสัตว์ หัดฟ้อนรำ เช้าคัดไทย สายคณิต กิจกรรมบ่าย ให้งานหลาย ตรวจไม่ทัน วันยังค่ำ อาขยาน สูตรคูณ และท่องจำ มีเรื่องขำ เก่าเก่า เล่าให้ฟัง เกณฑ์การให้ คะแนน ของครูทัด ดังฟังชัด ถูกต้อง ท่องตามสั่ง ปากกาแดง แจงขีด ผิดทุกครั้ง สลักหลัง คำติ อธิบาย งานยอดเยี่ยม ไร้เทียมทาน จารให้.สิบ งานสุกดิบ ปานกลาง ห้า.ห่างหาย งานไม่ดี สี่.ถึง.ศูนย์ มูล.ขี้ควาย เด็กทุกราย รับรางวัล หวานลูกอม รพีกาญจน์ 59 คะแนน คำชม คำแปล 10 เหน็ดขะหนาด ดีมาก 9 เกือบเหน็ดขะหนาด เกือบดีมาก 8 เหน็ดพ่อง ดี 7 เกือบเหน็ดพ่อง เกือบดี 6 ปอยังแควน พอใช้ 5 ปอไปวัดวาได้ พอใช้ได้บ้าง 4-0 ขี้ควาย ต้องแก้ไข ตัวอย่าง...เด็กชายทวี 4 คะแนน ขี้ควาย ให้อ่านหนังสือมากๆ หัวข้อ: Re: ๐ ครั้งหนึ่งในชีวิต ๐ ครูทัด 5 เริ่มหัวข้อโดย: รพีกาญจน์ ที่ 09 กุมภาพันธ์ 2012, 06:22:AM หมอกลงสุย ปุยขาว เต็มราวฟ้า นกเขาป่า ขันกู้กู เรียกคู่ขวัญ ทั่วแดนดง คงเงียบเชียบไพรวัลย์ ทุกสิ่งสรรพ์ ขยับ รับเจ็ดโมง พ่อครูทัด งัดใบตอง รองยาสูบ มวนเข้ารูป จุดพลัน ควันโขมง กล่าวเสียงดัง ฟังชัด ทัดลำโพง ต่อไปโรงเรียนเข้า เก้าโมงปลาย(กว่า) ให้ยกเว้น เป็นกรณีพิเศษ เนื่องสาเหตุ เด็กช้า มาเรียนสาย บางคนไม่ได้กิน ข้าวมื้องาย บ้างตาลาย ลมเจ่า หน้าเสาธง เอารากไม้ ใบตอง กองสุมขอน รับแดดอ่อน ผิงไฟ ไล่หนาวส่ง ผ้าติดเนื้อ เสื้อตัว สั่นทั่วองค์ พอยืนตรง หอบอก สะทกคาง ใครบ้างหนอ ห่อข้าวเปล่าไร้กับ ปั้นหนึบหนับ เป็นแผ่น แบนสองข้าง แทงไม้ติ้ว ผิวเรียบ เสียบผ่านกลาง ค่อยนำวาง ห่างพอดี จี่ข้าวกิน ลุกตลอด มอดไหม้ ใบกาบเปลือก ถ่านแดงเถือก ลามไป ไม่รู้สิ้น ปล่อยให้เหลือ เชื้อไฟ ไว้กองดิน อังมือตี น จุดบูรี สูบขี้โย บูรีขี้โย - บุหรี่ที่ใช้ใบตองแห้งมวนใบยาหั่นเป็นฝอย โรยด้วยเปลือกมะขามที่บดละเอียดแล้ว มักดับง่าย ต้องจุดไฟก่อนสูบบ่อยๆ พ่อครูทัดสุมไฟไว้จุดบุหรี่ขี้โย รพีกาญจน์ 59 หัวข้อ: Re: ๐ ครั้งหนึ่งในชีวิต ๐ ครูคนใหม่ เริ่มหัวข้อโดย: รพีกาญจน์ ที่ 10 กุมภาพันธ์ 2012, 06:13:AM จบหลักสูตร วุฒิ ป.กศ.ต้น ไฟลุกโชน อุดมการณ์ มานหนักแน่น ขอตั้งจิต อุทิศกาย สู่ชายแดน ตระเตรียมแผนการสอน พร้อมก่อนไป เพียบเนื้อหา วิชา วิทย์ คณิต ไทย อังกฤษ สังคม บ่มนิสัย ศิลป์ พิสุทธิ์ พุทธะ อนามัย โภชนัย อาหาร การอยู่กิน เจอเข้าจริง สิ่งคาด วาดหวังไว้ เอามาใช้ ไม่เป็น เช่นถวิล ทั้งอาคาร สถานที่ มีไม้.ดิน พื้นปูหิน ยาวลวด ปนกรวดทราย ครูสองคน วนเวียน นักเรียนร้อย เดินข้ามดอย มาถึง เลยกึ่งสาย เสื้อหม่นมัว ตัวด่าง กางเกงลาย เดินเท้าดาย ไร้เกือก กระเสือกมา บ้างจูงน้อง คล้องตัว วัวตามด้วย มัดริมห้วย ใกล้แพะ(ป่า)และเล็มหญ้า พอน้องหลับ จับเขียน เรียน ก กา บ่ายโมงคว้า ถังดำ น้ำให้วัว วัสดุ อุปกรณ์ นอนในกล่อง สื่อเอี่ยมอ่อง ล้ำค่า น่าชวนหัว เก็บลิ้นชัก หลักสูตร ดุจฝันชัวร์ สอนเรียงตัว อ่านเขียนได้ พ้นไปวัน ป.กศ.-ประกาศนียบัตรการศึกษา2ปี ผมบรรจุ 1 พฤษภาคม 2515 ครับ emo_126 รพีกาญจน์ 59 หัวข้อ: Re: ๐ ครั้งหนึ่งในชีวิต ๐ ครูคนใหม่ 2 เริ่มหัวข้อโดย: รพีกาญจน์ ที่ 12 กุมภาพันธ์ 2012, 05:44:AM ตลอดคืน ตื่นหลับ นั่งจับเจ่า ย่องปวดเบา เข้านอน ก่อนรุ่งสาง หมาเห่าใคร ไก่แจ้ว แมวหลงทาง คนตูบข้าง หักไม้ ก่อไฟเตา มองลอดม่าน ผ่านผ้า ฝาผนัง ภายนอกยัง หม่นมัว ทั่วขุนเขา ภาพต้นไม้ ไล่เรียง เห็นเพียงเงา ฟ้าสีเทา เริ่มจาง สว่างเยือน หมอกพร่างพรม ลมพัด สะบัดกิ่ง ใบทอดทิ้ง ลงหล่น รอบโคนเกลื่อน น้ำค้างย้อย หยดดิน รินไหลเลือน ชุ่มฉ่ำเถื่อน เปียกพง เย็นดงดาน เช้าผู้คน ด้นดั้น เดินฟันฝ่า เก็บของป่า เลียบดอย สอยผักหวาน ตัดหน่อไผ่ ไข่มดแดง แฝงใบลาน ลงลำธาร แทงปลา หาหอยปู คุ้ยเห็ดถอบ ลอบขุด แมงกุดจี่ วิ่งไล่ตี จับแย้ แส่รมหนู หาแมงมัน ฟันจิ้งหรีด มีดเสียบรู เชือกคล้องงู ไร้พิษ กรีดหนังแกง อาทิตย์แรก แปลกใจ ไม่เคยพบ มิอาจหลบ รอบข้าง ช่างแสยง ธาตุทั้งสี่ จี้จริต ผิดสำแดง ร่วงรุนแรง แห้งผอม งอมพระราม emo_69 รพีกาญจน์ 59 หัวข้อ: Re: ๐ ครั้งหนึ่งในชีวิต ๐ พบรักวันนี้ เริ่มหัวข้อโดย: รพีกาญจน์ ที่ 14 กุมภาพันธ์ 2012, 06:04:AM 14 กุมภาพันธ์ 2514 แอบด้อมด้อม มองมอง น้องสาวเพื่อน แวะเยี่ยมเยือน ทุกครา เวลาว่าง ถึงอยู่ไกล ไม่ชิด คนทิศทาง ฝนตกกาง ร่มไป ไม่ละลด ยิ่งได้ยิน เธอร้อง เพลง.ผ่องศรี สี่ในสี่ ห้องใจ ให้คุณหมด เพลง.ดาวใจ ช้ำนัก รักประชด แดดร้อนอด แอบฟัง หลังพุทรา ตลอดคืน ตื่นหลับ กระสับกระส่าย เอามือก่าย หน้าผาก อยากไปหา ถ้าพรุ่งนี้ ไม่พบ ได้สบตา ตายดีกว่า อย่าเกิด มาเป็นคน เราเคยเรียน ด้วยกัน ชั้น ป.สี่ อยากเรียกพี่ แทนเพื่อนรัก ดูสักหน ได้เป็นน้อง ยอมเพิก เลิกซุกซน คิดใช้มนตร์ คาถา ว่าอย่างไร ที่สิบสี่ มีข่าว สาวนั่งข่วง(ลาน) ช่วยร้อยห่วง ใบตอง รองก้านไม้ เชือกปอมัด รัดแน่น เรียบแผ่นไพ เก็บไว้ใช้ มุงหลังคา หน้าฝนคืน เข้าไปถึง เขยิบ ถอดเกิบออก เอาช่อดอก กุหลาบ ทาบอกยื่น เธอยิ้มรับ จับถือ มือยังมึน รักสดชื่น เริ่มพลัน แต่นั้นมา ..เธอคือแม่ของลูกทั้งสามครับ.. รพีกาญจน์ 59 หัวข้อ: Re: ๐ ครั้งหนึ่งในชีวิต ๐ ครูทัด 6 เริ่มหัวข้อโดย: รพีกาญจน์ ที่ 20 กุมภาพันธ์ 2012, 05:32:AM พ่อครูทัด จบจากวัด เรียน.ร่ำ นักธรรมเอก เก่งวิชา ภาษาไทย ไว.คิดเลข พ่นเป่าเสก คาถา ร่ายอาคม เป็นทหาร ผ่านศึก สงครามโลก ถูกหยิบยก ขึ้นเป็น ครูประถม สอนเด็กน้อย ร้อยกว่า พนารมย์ ตามอุดมการณ์ครั้ง ยังวัยเยา ค่าตอบแทน แต่เดิม เริ่มแปดบาท รับธงชาติ ดินสอ ผ้าทอเก่า ปากกาซึม หมึกชาด กระดาษเบา คำสั่งเจ้า ตกไป ให้เป็นครู มีกำหนด นิยาม สามบรรทัด -สอน.ฝึกคัด คณิต คิดเลขรู้ -อ่าน.เขียนคล่ิอง ท่องได้ ไปปลาปู -และเชิดชู ชาติ ศาสน์ กษัตริย์ไทย ร่างสง่า หน้ากลม ทรงผมตั้ง เสื้อน้ำครั่ง อมเทา กระเป๋าใหญ่ กางเกงหลวม ขาเรียว สีเขียวไพร เกือกผ้าใบ กากี สายสีดำ ยามยิ้มแย้ม แก้มบุ๋ม ที่มุมปาก หัวเราะก๊าก ฟันหลอ พอขบขำ พูดอ่อนหวาน ขาน.ลูก.ทุกคนคำ ผมยังจำ ติดใจ ไม่รู้ลืม... emo_126 รพีกาญจน์ 59 หัวข้อ: Re: ๐ ครั้งหนึ่งในชีวิต ๐ เคยรู้สู้ต่อ เริ่มหัวข้อโดย: รพีกาญจน์ ที่ 24 กุมภาพันธ์ 2012, 06:04:AM รู้หนาวร้อน อ่อนหวาน ทานปรุงรส รู้สุกสด อุ่นเย็น หอมเหม็นหืน รู้เศร้าเหน็บ เจ็บช้ำ สุดกล้ำกลืน รู้ชมชื่น จับเจ่า พะเน้าพะนอ รู้ประกวด อวดดี ตีหัวหมา รู้คุณค่า คิดถึง ซึ้งใจหนอ รู้ชนะ ทรยศ คนคดงอ รู้พ่ายต่อ เกมรัก ถูกหักใจ เคยดุ่มเดิน เพลินบน ถนนกว้าง พบความอ้าง-ว้างวิง ครั้งยิ่งใหญ่ เคยตักน้ำ ทำสวน พรวนดินไป สัมผัสไพร ธรรมชาติ สะอาดตา เคยสร้างคุณ บุญญา มามากหลาย เคยชั่วร้าย ก่อกวน คนถ้วนหน้า เคยดูแล แม่พ่อ ก่อเกิดมา เคยเข่นฆ่า เป็ดไก่ สัตว์ใหญ่ตี รู้ถ้อยคำ ธัมมะ ปริยัติ ปฏิบัติ ศีลฉัน ทุกวันทุกวี่ นั่งสงบ ลบเลือน เปื้อนราคี เอาคัมภีร์ กางท่อง ส่องแสดง ตื่นเช้าอ่าน กานท์กาพย์ อาบชีวิต เวลานิด ขีดเขียน ว่างเพียรแต่ง ใจยังสู้ ตาดูได้ มือไม่แพลง จะล่องแล่ง เคียงคู่ อยู่ต่อไป วันศุกร์ คือ วันเสาร์น้อย สบ้าย สบาย emo_100 รพีกาญจน์ 59 หัวข้อ: Re: ๐ ครั้งหนึ่งในชีวิต ๐ เริ่มหัวข้อโดย: panthong.kh ที่ 24 กุมภาพันธ์ 2012, 09:05:AM (http://www.qzub.com/bar_006.gif) (http://www.qzub.com) เพราะรู้หนาว รู้ร้อน นอนเป็นไข้ คิดถึงใคร คนหนึ่ง ซึ้งไฉน แม้กาลเปลี่ยน เวียนวน สักเท่าใด แต่ในใจ ยังคิดถึง ตรึงอุรา ได้ข่าวมา ว่าควัน ปกคลุมทั่ว เป็นห่วงนะ ทูลหัว กลัวมีดหน้า จงดูแล สุขภาพ ให้ดีนา ด้วยห่วงหา ว่าโรคปอด จะดอดเยือน พันทอง (http://www.qzub.com/bar_006.gif) (http://www.qzub.com) หัวข้อ: Re: ๐ ครั้งหนึ่งในชีวิต ๐ พบรักวันนี้ เริ่มหัวข้อโดย: sunthornvit ที่ 24 กุมภาพันธ์ 2012, 11:46:AM 14 กุมภาพันธ์ 2514 แอบด้อมด้อม มองมอง น้องสาวเพื่อน แวะเยี่ยมเยือน ทุกครา เวลาว่าง ถึงอยู่ไกล ไม่ชิด คนทิศทาง ฝนตกกาง ร่มไป ไม่ละลด ยิ่งได้ยิน เธอร้อง เพลง.ผ่องศรี สี่ในสี่ ห้องใจ ให้คุณหมด เพลง.ดาวใจ ช้ำนัก รักประชด แดดร้อนอด แอบฟัง หลังพุทรา ตลอดคืน ตื่นหลับ กระสับกระส่าย เอามือก่าย หน้าผาก อยากไปหา ถ้าพรุ่งนี้ ไม่พบ ได้สบตา ตายดีกว่า อย่าเกิด มาเป็นคน เราเคยเรียน ด้วยกัน ชั้น ป.สี่ อยากเรียกพี่ แทนเพื่อนรัก ดูสักหน ได้เป็นน้อง ยอมเพิก เลิกซุกซน คิดใช้มนตร์ คาถา ว่าอย่างไร ที่สิบสี่ มีข่าว สาวนั่งข่วง(ลาน) ช่วยร้อยห่วง ใบตอง รองก้านไม้ เชือกปอมัด รัดแน่น เรียบแผ่นไพ เก็บไว้ใช้ มุงหลังคา หน้าฝนคืน เข้าไปถึง เขยิบ ถอดเกิบออก เอาช่อดอก กุหลาบ ทาบอกยื่น เธอยิ้มรับ จับถือ มือยังมึน รักสดชื่น เริ่มพลัน แต่นั้นมา ..เธอคือแม่ของลูกทั้งสามครับ.. รพีกาญจน์ 59 ชิชิ ชะชะ มานะเลิศ ความเพียรเกิด เทิดเท สิเนหา จนได้กุล-สตรี ศรีภรรยา น่าอิจฉา จริงนะ ท่านรพีฯ เป็นเพราะท่าน จริงใจ ไร้มารษา ใช้ศรัทธา พยายาม ตามวิถี ประกอบความ เยือกเย็น เป็นคนดี ดลให้พี่ สมหวัง รักยั่งยืน เป็นแบบอย่าง ครรลอง ของชีวิต ผู้สุจริต เสาวภาพ มักราบรื่น ตามขนบ สังคม อันกลมกลืน ความชื่นมื่น ระบอบ ของครอบครัว สุนทรวิทย์ หัวข้อ: Re: ๐ ครั้งหนึ่งในชีวิต ๐ สิ้นหวัง เริ่มหัวข้อโดย: รพีกาญจน์ ที่ 27 กุมภาพันธ์ 2012, 05:38:AM ปลายกุมภา อากาศ มิคาดคิด วิปริต แปรปรวน ชวนปวดหัว หกโมงกว่า ฟ้าอืด ยังมืดมัว หนาวเย็นทั่ว บ้านนา ป่าพงไพร พอตกสาย หายไป ไร้เมฆหมอก ตะวันออก แสงแดด แผ่แผดจ้า ส่องบ้านสวน ควนไร่ ไกลทุ่งนา ต้นไม้หญ้า แห้งกรอบ ยอบแยบแดง เมื่อขาดน้ำ ทำนา กล้าตายสิ้น ผืนแผ่นดิน ร้าวแยก แตกระแหง เหลือแต่หลัก ผักยวบ บวบฟักแฟง ห้อยต่องแต่ง เหี่ยวเฉา น้ำเต้าตาย ผลหมากม่วง ร่วงหล่น เกลื่อนโคนพื้น ลมพัดครืน ไหวก้าน มานสลาย ลำไยออก ดอกช่อ รอผึ้งกราย ต้องใจหาย ปลายช้ำ ดำไหม้เกรียม ขาดมะม่วง ลำไย ไร้ค่าปุ๋ย นั่งหน้ามุ่ย สลด ฟ้าโหดเหี้ยม ครั้นจะหวัง ยังผัก หอมกระเทียม สดใหม่เอี่ยม ขายได้ เหมือนให้ฟรี โอ้อนาถ วาสนา ชะตาต่ำ สักแต่ทำ ไม่สำเร็จ เป็นเศรษฐี ต้องตากแดด ตากฝน ทนทั้งปี กลับเพิ่มหนี้ เพิ่มดอก ปลอกรัดคอ รพีกาญจน์ 59 หัวข้อ: Re: ๐ ครั้งหนึ่งในชีวิต ๐ ปิดภาคเรียน เริ่มหัวข้อโดย: รพีกาญจน์ ที่ 14 มีนาคม 2012, 06:03:AM กางเกงชาย ขายสำเร็จ เวสป้อย แพงกว่าหน่อย ซาติน เทยิ่นสี ตราสิงโต โทเร เท่ห์อย่างดี อึ้งกิมหลี ประทับ รับรองคุณ เสื้อเอวลอย ปล่อยชาย ลายสก็อต ตารางลอด ถี่ห่าง เส้นขวางขุ่น พร้อมผ้าดิบ หยิบหยาบ สาบริมดุน พื้นสีตุ่น อ่อนแก่ แลดูงาม ห่อด้วยผ้า หนาขาว ยาวผืนใหญ่ คล้องบ่าไหล่ ใช่แขก แบกหาบหาม ไป.แม่ตื่น ขึ้นดอย ขายปอยลาม มีเพื่อนตาม หามช่วย ด้วยอีกคน ลงจากรถ-คอกหมู สู่ไพรกว้าง ย่ำบนทาง ดินดาน ผ่านป่าสน นอนป๋างลึก ดึกดื่น คืนมืดมน เช้ามีฝน เดือนหก ตกโปรยปราย เหนื่อยแทบตาย บ่ายหนึ่ง ถึงหน้าวัด วางลงจัด งัดผ้า ออกมาขาย คนยืนรอ อออือ ซื้อมากมาย กางเกงชาย ลายเสื้อ ไม่เหลือเลย เต็มหัวอก พกอิ่ม หน้ายิ้มย่อง ใจลอยล่อง พองสง่า เดินผ่าเผย ชื่นสมหวัง ครั้งใด ยังไม่เคย เท่านี้เอย...รับกำไร ได้เล่าเรียน ปิดภาคเรียน ปี 2511 ผมและเพื่อนได้เข็มขัด.ถุงเท้า.รองเท้า. และเสื้อ.กางเกงนักเรียน คนละ 2 ชุด ใส่เรียนต่อชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 emo_126 รพีกาญจน์ 59 หัวข้อ: Re: สินค้า.ขาดหาย.ขึ้นราคา เริ่มหัวข้อโดย: รพีกาญจน์ ที่ 31 มีนาคม 2012, 05:49:AM ยางรัดแบ๊งก์ แดงสิบใบ ใส่กระเป๋า ก้าวเดินเข้า ในห้าง ท่าทางโก้ ตากวา่ดมอง สองข้าง ของวางโชว์ ทุกช่องโหว่ บน กลาง ล่าง ไม่มี ก็ขึ้นชื่อ ลือชา ว่าตลาดฯ สินค้าขาด หรือลิง หอบวิ่งหนี เหลือหมักดอง ของเมา เอาไปซี ละสิ่งที่ ใช้กัน อันตรธาน เครื่องปรุงรส สดแห้ง แกง ผัด ต้ม เผ็ด เค็ม ขม นมเด็กเล็กพร่องหวาน แย่กว่าเดิม เพิ่มราคา ลดปริมาณ จำกัดการ ซื้อขาย รายครอบครัว ผงซักผ้า ยาสีฟัน ขัน สบู่ ครีม แชมพู ซองขวด นวด สระหัว แป้งฝุ่นหอม ย้อมผมขน พ่นกลิ่นตัว มีขายชัวร์ สูงค่า ห้าเปอร์เซ็นต์ ที่สำคัญ นั่นคือ ข้าว เนื้อหมู ไข่ ปลาทู พริก ผัก ชักให้เห็น ใช้ประจำ น้ำตาล ทานเช้าเย็น อ้างจำเป็น พุ่งตาม ปาล์ม น้ำมัน น้ำตาริน สิ้นมีนา เมษาเศร้า ความร้อนเข้า เจ่าจุก ทุกข์ใจฉัน เริงสงกรานต์ ผ่านไป ไม่กี่วัน ต้องโศกศัลย์ อกระเบิด ลูกเปิดเทอม ผมไม่มีบัตร เอทีเอ็ม เครดิตการ์ด ใช้ยางรัดแบ๊งก์ นับใช้จ่ายซื้อของ รพีกาญจน์ 59 หัวข้อ: Re: ๐ ครั้งหนึ่งในชีวิต ๐ 1.บ้านร้าง เริ่มหัวข้อโดย: รพีกาญจน์ ที่ 22 เมษายน 2012, 06:44:PM มุมสามแยก ติดถนน รถยนต์ผ่าน ที่ตั้งบ้าน บนไม้ ล่างใช้อิฐ มีประตู รั้วรอบ กรอบสี่ทิศ ปิดมิดชิด ไร้ผู้ อยู่เนิ่นนาน มีเนื้อที่ รวมถึง เกือบหนึ่งไร่ ตั้งอยู่ใน ใจกลาง ของหมู่บ้าน ใกล้โรงเรียน ร้านค้า ธนาคาร ติดหน่วยงาน ราษฏร์รัฐ วัด เพาะกาย บ้านที่ดิน ทำเลทอง จำนองแบ๊งก์ ติดป้ายแดง ยึดทรัพย์ บังคับขาย คนมาดู คิดอยาก-ได้มากมาย ผลสุดท้าย ไม่แล แม้สักคน ข่าวบอกว่า บ้านนี้ มีอาถรรพ์ เจ้าของมัน เปลี่ยนบันได ใหม่สองหน ต่อเติมห้อง ซ้ายขวา หน้าหลังบน ถมถนน ทุบหน้าต่าง ง้างประตู เมียเจ้าบ้าน หลับตาย เป็นรายแรก ผัวหัวแตก ตกรถ แสนหดหู่ ลูกเล่นน้ำ ลงว่าย หายจมคู ลูกจู่จู่ ดื่มยา ฆ่าแมลง สี่ครอบครัว สี่คนวาย ตายละร่าง ปล่อยบ้านว่าง หญ้ารก ไร้ตกแต่ง ใครมิกล้า เกาะกลัว รั้วกำแพง เจ้าที่แรง เห็นผี ทุกวี่วัน รพีกาญจน์ 59 หัวข้อ: Re: ๐ ครั้งหนึ่งในชีวิต ๐ 2.ผีบ้านร้าง เริ่มหัวข้อโดย: รพีกาญจน์ ที่ 23 เมษายน 2012, 05:47:AM ผีเด็กเด็ก วิ่งไล่ ไปรอบรอบ พอเหนื่อยหอบ ซุกซน บนเนินสัน เล่นทำกิน ดินทราย ขายของกัน ตีต่อยขัน เต้นรำ ร้องทำเพลง ผีสาวสาว หนุ่มหนุ่ม ทำกรุ่มกริ่ม บ้างยืนยิ้ม คุยโขมง ดังโฉงเฉง ร่ำสุรา ฮาลั่น มันครื้นเครง คำตะเลง ต๋อยต๋อย จ๊อยซอไป ผีแม่บ้าน งานครัว มั่วแกงต้ม ผ้าคาดนม บางเบา เขย่าไหว หยิกแกมหยอก โยกร่าง สีข้างไช ดูฟืนไฟ ตักน้ำ ตำครกมอง ผีนักรบ ร่างฉกรรจ์ ผ้าพันหัว สักลำตัว ทั่วไป ไหล่ทั้งสอง นุ่งผ้าเตี่ยว เปลือยกาย ร่ายลำพอง มือตระกอง ดาบคู่ จู่ธรา ผีผญา พร่ำมนตร์ โจนคึกคัก พ้นสำนัก ดาบเหิน เกิ๋นก่ายฟ้า เสี้ยวทิ้งฝัก ชักมีดสั้น พลันเสียบคา ฝึกเพลงท่า ไม้ตาย วายชีวิน เสียงช้างม้า โห่ร้อง ก้องระทึก เสียงกลองศึก ลั่นรัว ไกลทั่วถิ่น จวบฟ้าสาง ร่างหาย ละลายดิน เป็นสุบิน...ที่พำนัก พักรบนอน รพีกาญจน์ 59 หัวข้อ: Re: ๐ ครั้งหนึ่งในชีวิต ๐ 3.ล้างอาถรรพ์บ้านร้าง เริ่มหัวข้อโดย: รพีกาญจน์ ที่ 24 เมษายน 2012, 05:58:AM เซ็นสัญญา เสร็จสรรพ ปรับพื้นที่ เหมือนได้ฟรี สี่แสน วางแผนผ่อน เตรียมบานบวง สรวงสวรรค์ เป็นขั้นตอน หมายแก้ร้อน ลุกลาม ตามราวี ขอนิมนต์ อาราธนา สังฆาเจ้า ช่วยปัดเป่า สืบชะตา ดวงราศี ช่วยสะเดาะ เคราะห์ร้าย ภัยมากมี รับโชคดี มีชัย ไปชั่วกาล น้อมอัญเชิญ กษัตริย์ ขัตติราช ประทับอาสน์ สถิต ประดิษฐาน ทั้งช้างม้า ข้าขอ บริพาร ขุนทหาร ร่วมเรียง ศาลเพียงตา ปิดแผ่นทอง ห้องเดิม เติมหน้าต่าง เจิมปิดทาง บันไดคู่ ประตูหน้า น้ำส้มป่อย ประพรม ถมมรรคา นำศัสตรา ขุดพบ จบพานทอง ประเคน สังฆทาน กรานอุทิศ แด่ดวงจิต ล่วงลับ ดับสยอง ที่เก่าก่อน เก็บขวัญ กอปรครรลอง บุญประคอง สู่หาว ดาวดึงส์ หากเวรกรรม เก่าใหม่ ยังไม่หมด อัญเชิญโปรด ขึ้นหอ ขอพิงพึ่ง เช้าไหว้สา อาหาร หวานคาวคลึง ถวายถึง วิญญาณ สราญรมย์ รพีกาญจน์ 59 หัวข้อ: Re: ๐ ครั้งหนึ่งในชีวิต ๐ 4.รักบ้านร้าง เริ่มหัวข้อโดย: รพีกาญจน์ ที่ 24 เมษายน 2012, 09:03:PM บ้านร้าง..ผีบ้านร้าง ..ล้างอาถรรพ์บ้านร้าง..รักบ้านร้าง ปฎิบัติ จัดทำ ตามคำมั่น เช้าทุกวัน อาหาร หวานผสม น้ำสะอาด ถาดข้าว เนื้อคาวนม ถวายพระ พุทธ พรหม พนมกร อ่าองค์เทพ เทวะ จตุรทิศ สิงสถิต โลกัง วัง สิงขร ทั้งเถื่อนถ้ำ น้ำธาร ดานดงดอน บ้านพักนอน ธรณี เจ้าที่ทาง ถึงวันพระ ถือศีล ไม่กินเนื้อ สวมผ้าเสื้อ ชุดขาว พราวคลุมร่าง ค่ำสวดมนต์ ภาวนา ลาปล่อยวาง มิจืดจาง สร้างกรรม ทำความดี เสียสละ แรงงาน ทานสินทรัพย์ ทักทายกับ เพื่อนพ้อง และน้องพี่ เกิดปัญหา หน้าหัน คุยทันที ยื่นไมตรี ยิ้มย่อง ปรองดองกัน ตั้งแต่เข้า อาศัย ในบ้านนี้ เกือบห้าปี อยู่ท่าม ความสุขสันต์ มีของกิน เครื่องใช้ ไว้ครบครัน โชคเลื่อนชั้น ตำแหน่ง แบ่งเงินทอง หมดสาเหตุ เภทภัย ไม่ปรากฏ เกียรติยศ สรรเสริญ เยินยอก้อง หวังสิ่งใด ได้สม อารมณ์ปอง ขอครอบครอง ตลอดกาล รักบ้านเอย รพีกาญจน์ 59 หัวข้อ: Re: ๐ ครั้งหนึ่งในชีวิต ๐ กรรมตามทัน เริ่มหัวข้อโดย: รพีกาญจน์ ที่ 21 พฤษภาคม 2012, 04:28:AM หรือสวรรค์ บัญชา ให้มาเกิด ร่างประเสริฐ หล่อล้น คนทั้งหลาย หาตัวยาก มากเล่ห์ เพทุบาย ใช้น้ำลาย ปลิ้นปลอก ล่อหลอกคน ทำเยิ้มยิ้ม พริ้มตา วาจาหวาน คอยรับใช้ ช่วยงาน การกุศล เขารู้จัก ทักตัว ทั่วตำบล จบ ป.ต้น แฟนหมอ จบ ป.ตรี มีชื่องาม.รามจันทร์.ตรงวันคลอด หัวเยี่ยมยอด กลค้า น่าบัดสี กระเทียม ครั่ง ชั่งถั่ว มั่วทุกที ล็อคเข็มชี้ ยันค้ำ ลดน้ำหนัก นำกระเทียม เทียมเกวียน เวียนมาส่ง บอกยกลง เอาวัว ผูกรั้ว.หลัก ดื่มน้ำก่อน ร้อนคลาย หายหยุดพัก แล้วจอกตัก ยาดอง ให้ถองทาน พอมึนเมา เขาโกง ลงตัวเลข ผมเป็นเด็ก งุนงง น่าสงสาร สลดใจ ไม่ขอ ต่อทำงาน ลากลับบ้าน จากกัน วันนั้นเลย ฐานะดี มีทรัพย์ นับแสนล้าน ตาพิการ แถมบ้า อ้าปากเผย โกงชาวนา โกงตาชั่ง โกงตังค์เอย หลีกไปเพ้ย ขวางหน้า อิจฉากู ปิดภาคเรียน 2506 รับทำบัญชีให้.รามจันทร์. ค่าจ้างวันละ 5 บาท เมื่อคืนฝันนำมาเป็นกลอน emo_126 รพีกาญจน์ 59 หัวข้อ: Re: ๐ ครั้งหนึ่งในชีวิต ๐ เริ่มหัวข้อโดย: พีเพิล ที่ 21 พฤษภาคม 2012, 10:10:AM เห็นแค่บ้านผ่านตามีหญ้ารก
ดินที่ปรกแห้งกระด้างเกินย่างขา ลมวู่หวิวผิวปากบอกผ่านมา ‘จะเข้ามาหาของหรือซ่อนตัว’ ขนลุกซู่หลังคอแลต้นแขน ใจตอบแทนขอหลบพักนะ’พี่ขรัว' ร่างไม่เห็นผิวตาเนื้อแต่ก็กลัว แผ่เมตตาก่อนทั่ว..จึ่งตัวนำ กระมิดกระเมี้ยนเลียนแบบผู้สงบ เราเคารพท่านนะไม่แกล้งขำ มีภัยยากหลบฝนซกตกระกำ ซัดเซกล้ำเหนื่อยนักแล้วจักกราย emo_119 emo_119 (http://img4.uploadhouse.com/fileuploads/16114/16114944-holder-416d522a919832f9a4e7885809256262.jpg) ขอบคุณรูปจากเว็บกูเกิ้ล หัวข้อ: Re: ๐ ครั้งหนึ่งในชีวิต ๐ พ่อครูทัด 7 เริ่มหัวข้อโดย: รพีกาญจน์ ที่ 04 มิถุนายน 2012, 05:30:PM ๐ จงจำคำกล่าวไว้ จงดี คำสี่คำครูมี แก่เจ้า จงรีบเร่งทันที ทำเถิด "เราจะทำดี"เว้า ว่าพร้อมเพรียงกัน แปดโมงเช้า เคารพ นบธงชาติ อภิวาท องค์พระ พุทธศรี กล่าวสัญญา ว่า..เราจะทำดี นักเรียนรี่ รายล้อม น้อมรับฟัง ครูทัดมี ข่าวเช้า หน้าเสาธง นิทานส่ง เสริมธรรม คำประหลัง ตรวขสุขภาพ ชายหญิง อย่างจริงจัง เสร็จแล้วสั่ง แยกกัน สู่ชั้นเรียน ตรงสำคัญ วันหยุด พุทธศาสน์ เช้าตักบาตร ฟังธรรม น้อมนำเศียร กรวยข้าวตอก ดอกไม้ ไฟธูปเทียน วนขวาเวียน วิหาร กรานพุทธพรหม เปิดภาคเรียน ไหว้ครู บูชาพระ พุทธมามะกะ ประเสริฐสม ปฏิญาณ สาบานตน คนนิยม ชอบชื่นชม กัตติเวทิตา ประชุมปลาย สัปดาห์ อาราธนะ นิมนต์พระ หยิบยก ปาฐกถา รู้สวดมนต์ กรณศีล จินตนา เกิดปัญญา สมาธิ ริชำนาญ วันวิสาขบูชา เวียนมาถึง หวนคำนึง ถึงผู้..ครูทัดท่าน ขอเทิดเชิดชู คุณูปการ เพียรสืบสาน ต่อไป ไม่รู้ลืม ผมได้นำสิ่งดีๆจากพ่อครูทัดมาใช้ โดยเล่าข่าวเช้าหน้าเสาธง นำนักเรียนตักบาตร ฟังธรรม เวียนเทียน ทำพิธีแสดงตนเป็น พุทธมามะกะ ไหว้ครู มีประชุมนักเรียนสุดสัปดาห์ นิมนต์พระ แสดงธรรมเดือนละหนึ่งครั้ง สืบจนผมเกษียณก่อนกำหนด emo_126 รพีกาญจน์ 59 หัวข้อ: Re: ๐ ครั้งหนึ่งในชีวิต ๐ ปิดภาคเรียนช่วงลำไย เริ่มหัวข้อโดย: รพีกาญจน์ ที่ 19 กรกฎาคม 2012, 05:41:AM เริ่มปรึกษา หารือ เข้าชื่อเพื่อน ปิดหนึ่งเดือน ท้ายเทอม เริ่มตอนไหน สรุปว่า น่าทำ ช่วงลำไย เด็กจะได้ ช่วยงาน บ้านทั้งปวง รับจ้างจัด คัดแยก แบกตะกร้า นอกเวลา มีพอ ลากล้อพ่วง เสิร์ฟอาหาร จานชาม ตามร้านรวง เก็บมะม่วง ลงกล่อง รองด้วยโฟม ส่งเสริมหลัก ทักษะ วิชาชีพ สามารถหยิบ มาใช้ ได้เหมาะสม เรียนวิธี ชีวิต กิจสังคม สัมผัสชม พฤกษา นานาพันธุ์ เพื่อประสาน งานรัก สามัคคี ต่างถ้อยที ช่วยชอบ ตอบแทนมั่น รับเงินตรา ค่าจ้าง เป็นรางวัล สร้างขยัน อดทน เป็นคนดี คิดตาราง วางแปลน แผนบทใหม่ กำหนดใช้ ปีการศึกษานี้(2530) เฉพาะเรา เท่านั้น ทำทันที เขตมากมี ดกดำ ลำไยโซน อำเภอพร้อม จอมทอง นำร่องก่อน ทุกขั้นตอน ท่องเดิน ประเมินผล ร้อยเปอร์เซ็นต์ เห็นชัด ในบัดดล แต่ข้างบน หอคอย ไม่คล้อยตาม ประชาชน เพียบพร้อม ยอมทำตาม หลักสูตรและกิจกรรมต้องสอดคล้อง ความเป็นอยู่ของผู้คนในท้องถิ่นครับ emo_126 รพีกาญจน์ 59 หัวข้อ: Re: ๐ ครั้งหนึ่งในชีวิต ๐ ผลการปิดภาคเรียนช่วงลำไย เริ่มหัวข้อโดย: รพีกาญจน์ ที่ 20 กรกฎาคม 2012, 05:48:AM เวลาผ่าน นานเดือน เหมือนอาทิตย์ ปีแรกปิด หกสิบโรง โครงการใหม่ เมื่อสบช่อง ลองทำ นำวิจัย ผลอย่างไร อีกหลาย(เขต) ขยายการ ต้องจัดแจง แบ่งกลุ่ม สุ่มสำรวจ เดินออกตรวจ ถามตอบ ถึงขอบบ้าน เข้าประตู ดูเช็ก เด็กทำงาน ที่สวน.ร้าน สรุปผล บนโต๊ะกลม บันทึกจบ พบดี ไม่มีเสีย ค่าเฉลี่ย เท่ากัน ชั้นประถม เป็นภาระ อนุบาล อาหาร.นม ข้างบนชม บริหาร จัดการดี ................................ กางเกงหลวม สวมกระโปรง ส่งเสียงจ้าว เสื้อผ้าขาว กระเป๋า ดำ.เทาสี เดินเปลือยเปล่า เท้าแตะ แสะไม่มี เกิบอย่างดี ใหม่จริง ทั้งหญิงชาย พูดถูกคอ ล้อเล่น เห็นสนุก ไปยืนจุก ..สหการ ร้านค้าขาย ถือหุ้นเพิ่ม เติมฝาก ออมมากมาย ซื้อจับจ่าย แบบเรียน เขียน.อุปกรณ์ "ปิดเทอมนี้ ดีอย่างไร" ให้เล่าแจ้ง ทุกคนแย่ง ยกยื้อ มือสลอน "รู้วิชา พาเพลิน เงินแน่นอน เก็บใช้ตอน เรียนต่อ ม.ต้น-ปลาย" สหกรณ์โรงเรียน แบ่งออกเป็น สหการร้านค้า ออมทรัพย์นักเรียน ฝ่ายผลิตทางการเกษตร แบบครบวงจร โดยนักเรียนดำเนินการ emo_126 รพีกาญจน์ 59 หัวข้อ: Re: ๐ ครั้งหนึ่งในชีวิต ๐ ใกล้วันสิ้น เริ่มหัวข้อโดย: รพีกาญจน์ ที่ 24 กันยายน 2012, 05:50:AM เดินลำบาก ขวากขวาง หนามกางกั้น เครือเถาวัลย์ พันแขน รัดแน่นขา ย่ำไม้รก ตกหลุม จุ่มบ่อมา คมใบคา บาดคิ้ว นิ้วเลือดซึม ได้เรียนรู้ สู้ทน บนทางแคบ บางครั้งแทบ เซโซ ด้วยโง่ทึ่ม ท่ามไอแดด แผดเผา เส่างำงึม ฝนตกพรึม เปียกโปก ชุ่มโชกกาย ออกดุ่มเดิน เพลินใจ ไม่ื้ท้อถอย ความหวังคอย ริบหรี่ ที่สุดสาย ฝ่าแรงต้าน ทานถุ ทะลุทะลาย ร่างผึ่งหงาย ยันพื้น ขึ้นตั้งตรง ยังโกยก้าว สาวสับ นับซ้ายขวา ถั่งถลา งอง้ำ คะมำก่ง สะดุดหิน สิ้นแรง ตะแคงลง นอนโอบลง เสียดจุก รีบลุกไว เวลาวัน ผันผ่าน เนิ่นนานยิ่ง แล้วทุกสิ่ง ปลายทาง สว่างใส ห่างแค่คืบ ดึ๊บดึ๋ง ถึงเส้นชัย ที่วาดไว้ แรกเดิม เริ่มถักทอ หยุดยลยิน สิ้นสุด แตะจุดหวัง เป็นความหลัง ครั้งหนึ่ง ซึ้งใจหนอ สู่ปัจฉิม ลิ้มลด งดเพียงพอ ละจากจอ เหลือค้าง กลางทรงจำ emo_126 รพีกาญจน์ 59 หัวข้อ: Re: ๐ ครั้งหนึ่งในชีวิต ๐ เริ่มหัวข้อโดย: D ที่ 24 กันยายน 2012, 09:07:PM (http://i269.photobucket.com/albums/jj52/modx/NB143.gif) กาลครั้งหนึ่ง ....ไม่นานนัก เคยพลาดรัก ปวดเหน็บ เจ็บจนหนำ อกระทม หม่นไหม้ ไห้ระกำ แบกความช้ำ คล้ำจิต ชิดบ้านกลอน มาเจอพี่ เจอน้อง ร่วมผองเพื่อน ช่วยก่อเริ่ม เพิ่มเตือน เกลื่อนกระฉ่อน มีน้ำใจ ไม่ผละ ละอาทร เฝ้าออดอ้อน วอนกานท์ นานสัมพันธ์ มาวันนี้ ได้ข่าว ให้เหงาจิต ไยพี่คิด จะต่าง ห่างทางฝัน แล้วน้องนี้ จะอยู่ไป ทำไมกัน ถึงวันนั้น พี่ลา น้องคงเลือน "ดิน" (http://i269.photobucket.com/albums/jj52/modx/NB143.gif) หัวข้อ: Re: ๐ ครั้งหนึ่งในชีวิต ๐ สูตรสำเร็จ เริ่มหัวข้อโดย: รพีกาญจน์ ที่ 25 ตุลาคม 2012, 11:04:AM รู้แนวทางวางแกนแผนชีวิต รู้เขียนขีดเป้าหมายเป็นรายก่อน รู้ศึกษาหาข้อมูลแน่นอน รู้ขั้นตอนวิธีทำดำเนินการ จะสำเร็จเสร็จสรรพระดับไหน ก็ต้องใช้เทคนิคพลิกประสาน เร็วหรือช้าล่าหรือนำที่ชำนาญ บนพื้นฐานขยันบวกหมั่นเพียร ทรหดอดทนจนเป็นเลิศ อย่าระเหิดนอกกรอบชอบพาเหียร หากผิดพลั้งครั้งใดให้บทเรียน นำมาเวียนแก้ไขไม่วุ่นวาย รู้เท่าทันอันใดใช่สาเหตุ ดับกิเลสตัดตอนก่อนจะสาย ทฤษฎีมีเห็นเจนมากมาย คิดอุบายละล้างอย่างแยบยล ค่อยประคับประคองต้องแน่นิ่ง มิให้ดิ่งทิ้งเทลงเวหน ขยับตั้งจังหวะได้ไต่ขึ้นบน จะผ่านพ้นโอดโอยหมดโพยภัย ถ้ามีอยู่มีกินรวยสินทรัพย์ อย่าลืมนับญาติมิตรเคยชิดใกล้ นมเนยเนื้อเจือจานแบ่งทานไป คือจิตใจยอดเยี่ยมเปี่ยมงามเอย emo_126 รพีกาญจน์ 59 หัวข้อ: Re: ๐ ครั้งหนึ่งในชีวิต ๐ เริ่มหัวข้อโดย: --ณัชชา-- ที่ 25 ตุลาคม 2012, 12:16:PM เคยวางแผนชีวิตแต่ผิดพลาด ด้วยเพราะขาดความรู้ที่ครูเอ่ย คงอาจเป็นเพราะกรรมที่ตามเกย เวลาเลยล่วงไปจึงได้คิด ถูกย้ายมาต่างถิ่นเหมือนสิ้นท่า ทั้งชีวาแสนทุกข์ถูกจับผิด ตัวคนเดียวไร้ญาติและขาดมิตร เหมือนชีวิตสิ้นหวังตายทั้งเป็น ทำงานเหมือนชายงามอกสามศอก วิ่งเข้าออกเวียนวนทุกคนเห็น ตั้งแต่เช้าถึงค่ำแสนลำเค็ญ ต่อตอนเย็นข้ามคืนขึ้นอีกวัน ถึงวันนี้ได้พบความอบอุ่น ด้วยพระคุณพี่ชายช่วยให้ฉัน สับเปลี่ยนตัวให้น้องกลับกองพัน บุญคุณนั้นท่วมท้นจำจนตาย เป็นครั้งหนึ่งในชีวิตที่ติดหนี้ ไม่ได้พี่คงรันทดหมดความหมาย กราบพันเอก ทินกร ฯ มิคลอนคลาย ชีพสลายก็ยังปลื้มไม่ลืม(พระ)คุณ --บานเย็น-- emo_126 หัวข้อ: Re: ๐ ครั้งหนึ่งในชีวิต ๐ เริ่มหัวข้อโดย: ไพร พนาวัลย์ ที่ 25 ตุลาคม 2012, 08:14:PM emo_111 emo_101 emo_111 จะเล่าเรื่องเบื้องหลังในครั้งหนึ่ง ที่ติดตรึงตราใจพาไหวหวั่น ไปคุมงานเช้าค่ำขุดน้ำมัน ทุกทุกวันไปกลับขับรถเอง ถึงวันเสาร์รับคนงานจากบ้านเช่า ตื่นแต่เช้าตั้งใจให้รีบเร่ง นั่งเต็มรถเบียดกันมิหวั่นเกรง แล้วเปิดเพลงให้ฟังนั่งงัวเงีย ระยะทางร้อยแปดสิบกิโลเมตร จึงเข้าเขตเซซังลูกรังเรี่ย สองชั่วโมงโค้งไกลยังไม่เพลีย รีบเข้าเคลียร์เรื่องงานให้ผ่านลุย สั่งงานเสร็จรีบกลับซื้อกับข้าว ต้องวิ่งอ้าวสามสิบโลโผล่ฉลุย เข้าในเมืองซื้อของยังต้องคุย ภาษาแขกกระจุยคุยรู้กัน ซื้อของเสร็จบึ่งรถไม่คดค้อม ต้องเตรียมพร้อมอาหาร,ของหวานนั่น ทั้งเนื้อ,ไก่,ผักสด,หมดทุกวัน แล้วแบ่งปันกันกินยามสิ้นแรง วิ่งสองรอบรวดเร็วท่ามเปลวแดด ที่ร้อนแผดเผาไหม้เหมือนใครแกล้ง เสียงลูกน้องวิ่งมาทำตาแดง พูดเสียงแห้ง แก๊สหมดรันทดใจ จะไม่มีข้าวกินในตอนเที่ยง มันสุดเลี่ยงหลบหน้าทำบ้าใบ้ ทั้งร้อนแดดร้อนลมต้องงมไป จะให้ใครขับแทนก็ไม่มี ทั้งแสนเหนื่อยแสนเพลียละเหี่ยจิต มันเป็นกิจของเราต้องเอานี่ เข้าไปดื่มน้ำส้มอารมณ์ดี ไปอีกทีเถิดหนาไม่ช้านาน ขับมาได้ครึ่งทางจึ่งวางแผน พอรถแล่นถึงที่พอดีผ่าน ทั้งโรงแก๊ส,ข้าวหมกไก่,คงได้การ ขอทนทานถึงปั๊มเก่าจะเข้านอน คิดได้ถึงตอนนี้น้องพี่เอ๋ย ตามันหลับลงเลยดั่งเกยหมอน รถวิ่งออกนอกทางระหว่างดอน จนหัวคลอนรู้สึกสำนึกตน เสียงตึงตึงตังตังลูกรังร่วน รถมันจวนแล้วจะตกถนน ได้สติเตือนใจมิให้ชน รีบเวียนวนเข้าทางกระจ่างตา ขึ้นถนนพ้นทรายรอดตายแล้ว โอ้ลูกแก้วเกือบจบไม่พบหน้า ถ้าถึงคราวเคราะห์ร้ายถึงตายมา เสาไฟฟ้าข้างทางทุกอย่างพัง นี่แหละคือครั้งหนึ่งในชีวิต ฟ้าลิขิตให้รอดไม่จอดชั่ง ถ้าไม่ตายก็พิการสงสารจัง กลับคืนรังนั่งเล่าก่อนเข้านอน “ไพร พนาวัลย์” หัวข้อ: Re: ๐ ครั้งหนึ่งในชีวิต ๐ ยังจำได้ เริ่มหัวข้อโดย: รพีกาญจน์ ที่ 13 ธันวาคม 2012, 02:58:PM ยังจำได้... อายุไข ยี่สิบ หยิบมาเล่า บอกกับเพื่อน เตือนพ้อง พี่น้องเรา ครบย่างเข้า ห้าสิบปี ฉันนี้ตาย เสียงหัวเราะ เยาะหยัน พลันชี้หน้า หยุดเถิดบ้า ว่าเอ็ง เร่ง-ิบหาย ยังไร้เมีย เคลียร่าง พูดวางวาย ชอบทำนาย เลือนลับ อัปมงคล เลยแสดง แจงทำ ดำเนินชีวิต ต้องลิขิต ด้วยมือ ถือเหตุผล เดินแนวทาง วางกรอบ ครอบครัวตน ทุกข์ผ่านพ้น สบาย เมื่อปลายวัย เตือนตัวอย่า วู่วาม ความประมาท เกิดผิดพลาด ลำบน ตั้งต้นใหม่ เพียรประพฤติ ยึดศีล กินทานไป สอนลูกให้ ทำดี ศรีพารา หากถึงวัน ว่าไว้ ไม่ม้วยมอด นั่นสุดยอด ภิรมย์ สมปรารถนา คือกำไร ได้อยู่ ดูโลกา ตายเร็วช้า นานหนอ ก็ช่างมัน emo_126 รพีกาญจน์ หัวข้อ: Re: ๐ ครั้งหนึ่งในชีวิต ๐ (วันตรุษจีน) เริ่มหัวข้อโดย: รพีกาญจน์ ที่ 10 กุมภาพันธ์ 2013, 10:20:PM ตั้งแต่เดิม เริ่มคลาน อ่านเขียนได้ ร่างเติบใหญ่ อ้อมอุ่น ของคุณป้า คอยถนอม กล่อมเกลี้ยง เลี้ยงดูมา หลับลืมตา ก็เห็น เป็นประจำ อีกท่านหนึ่ง ซึ้งใน หทัยนัก แต่ฟูมฟัก รักเรา เพียงเช้าค่ำ รับจ้างวัด ตัดผ้า ฟ้ามืดดำ ดึกยังทำ ถึงเพลีย เตี่ยยอมทน หาบกระบุง มุ่งทาง วางตลาด ขายผักกาด ของใช้ ไม่เคยบ่น ไม่อิดออด กอดลูก ที่ซุกซน เราสองคน รักแม่ สุดแดดวง มีกล้วยใบ ใจแจง บิแบ่งครึ่ง คนละกึ่ง กินกล้วย ด้วยแสนห่วง ไม่ทะเลาะ เบาะแว้ง แกล้งทั้งปวง เรียกอากวง เรื่อยมา น้องอากี บ้านไม้ไผ่ ได้อยู่ ริมคูคล้ำ พร้อมข้าวน้ำ ดื่มทาน มานสุขี เรารักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ สวัสดี น้อมชีพพลี ทดแทน คุณแผ่นดิน เทพจำนง ส่งพา ให้มาพบ กำหนดจบ เช่นกัน คือวันสิ้น แม่เตี่ยน้อง ต้องตาย วายชีวิน ตรงตรุษจีน ไหว้เจ้า เศร้ายิ่งเอย ตรุษจีน 2542 แม่เสียชีวิตด้วยหัวใจวาย ตรุษจีน 2545 เตี่ยเสียชีวิตด้วยความดันสูง ตรุษจีน 2546 น้องเสียชีวิตด้วยตับมะเร็ง emo_126 หัวข้อ: Re: ๐ ครั้งหนึ่งในชีวิต ๐ เริ่มหัวข้อโดย: --ณัชชา-- ที่ 11 กุมภาพันธ์ 2013, 05:24:PM อ่านถึงบทสุดท้ายใจหดหู่ เมื่อได้รู้ข้อความตามเฉลย ชีวิตสุดระกำเหมือนกรรมเกย เรื่องที่เผยห่อหดรันทดจัง ถึงตรุษจีนปีหน้าให้ฟ้าผ่อง เรื่องเศร้าหมองหมดไปดั่งใจหวัง ให้ครอบครัวสุขีมีพลัง ให้สุขังไร้โศกไร้โรคภัย --ณัชชา-- emo_22 หัวข้อ: Re: ๐ ครั้งหนึ่งในชีวิต ๐ คนแก่เล่าเรื่องรัก เริ่มหัวข้อโดย: รพีกาญจน์ ที่ 14 กุมภาพันธ์ 2013, 09:46:PM ที่สิบสามกุมภาพันธ์พระจันทร์หม่น เราสองคนชวนกันไปดูหนัง ผ่านป่าช้าทางเปลี่ยวแสนเสียวจัง เย็นสันหลังหัวผมลมโชยมา ถึงหน้าวัดยอบนั่งยังไม่ฉาย คนมากมายคุยจ้อคอยรอท่า เสียงโฆษกบรรยายขายหยูกยา จึงซื้อหาแทะเม็ดทานตะวัน หนังสิบหก ม.ม. ขึงจอผ้า จอกว้างกว่ามุ้งไนล่อนที่นอนฉัน เรื่องตลก อกหัก รักหวานมัน มิตร-เพชรา คู่กันนำแสดง เริ่มต้นเรื่องพระเอกเป็นเด็กวัด ความจนจัดถ่อกายไปหลายแห่ง แบกข้าวสารงานหนักหักโหมแรง จ้างถูกแพงมิท้อขอได้เงิน แฟนสาวส่งแรงใจให้เสมอ รักเลิศเลอรักเติมวันน่าสรรเสริญ เรียนจบได้งานทำท้ายจำเริญ เคียงคู่เดินสมใจได้แต่งงาน ..................................... จึงแอบจำลอกเลียนเช่นในหนัง มือไพล่หลังแหงนเงยเอ่ยคำหวาน จะรักเธอเท่าฟ้าสุธาธาร ตลอดกาลเรื่อยไปไม่เปลี่ยนแปลง ยื่นกุหลาบแดงให้เธอหนึ่่งดอก เช้าวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2513 รพีกาญจน์ หัวข้อ: Re: ๐ ครั้งหนึ่งในชีวิต ๐ เริ่มหัวข้อโดย: --ณัชชา-- ที่ 14 กุมภาพันธ์ 2013, 10:47:PM (http://www.commentsyard.com/graphics/valentines-day/valentines-day03.gif) นึกอิจฉารักหวานของท่านพี่ เพราะเรานี้รอมาจนหน้าแห้ง ไร้กุหลาบโสภีดอกสีแดง สวรรค์แกล้งให้เราเหงาอีกปี อีกไม่กี่ชั่วโมงคงพ้นผ่าน จบวันหวานเลยไปในวิถี วาเลนไทน์เจ้ากรรมช้ำสิ้นดี อยากจะหนีหลบหน้าวาเลนไทน์ --ณัชชา-- emo_06 หัวข้อ: Re: ๐ ครั้งหนึ่งในชีวิต ๐ เริ่มหัวข้อโดย: กังวาน ที่ 14 กุมภาพันธ์ 2013, 11:20:PM (http://t3.gstatic.com/images?q=tbn:ANd9GcSsuhDpUdgH8gmVf3hDzOKDD7JRC1E3-cw8v0_SVqoum0fdEkBm) สวรรค์ก็มีตาเธออย่าหนี ---ความรักมีเวลาอย่าหวั่นไหว ถึงคราวมาอย่ากังวลเหมือนดลใจ ปุบปับไงเตรียมพร้อมอย่ายอมเลย ถึงรักมีกี่ครั้งและพังหมด เธออย่างดไขว่คว้าหามาเอ่ย สักวันนั้นรักแท้แน่มาเกย คงชิดเชยชื่นจิตแนบชิดทรวง ---กังวาน หัวข้อ: Re: ๐ ครั้งหนึ่งในชีวิต ๐ โรงช้าง เริ่มหัวข้อโดย: รพีกาญจน์ ที่ 18 มีนาคม 2013, 11:46:AM พบอิฐเก่า เทาดำ ลูบคลำก้อน ก่อทับซ้อน ดอนดาน ล่างลานหนา บ้างหักบิ่น ดินปน บนชาลา ประมาณค่า อายุ ลุพันเกิน คงกำแพง แกร่งกัน ปั้นรายรอบ ลึกคูขอบ น้ำขัง หยั่งตื้นเขิน ต้นถี่ห่าง ยางยูง โคนสูงเนิน ให้บังเอิญ ข้องเท้า เครือเถาวัลย์ หัวคะมำ ตำตก หลุมรกชัฏ เห็นถนัด วาบหวาม ด้ามพระขรรค์ ปักตรึงแน่น แผ่นผง ลงพยัญ จารรามัญ สองคำ กำกับนาม กราบบังคม ก้มจิต อธิษฐาน น้อมสักการ เอกองค์ เชิญทรงล่าม โปรดเมตตา สาธยาย ระบายความ ก่อนพุกาม กำหนด คชบาล นิวัตคืน นคร เจ้าหม่อนแม่ เสด็จแพ เทียบท่า ประทับฐาน ให้ชุมนุม พุ่มม้า คชาธาร ค่อยคืบคลาน ลำเลียง เข้าเวียงไชย สืบเนิ่นนาน ขานมา ว่า "โรงช้าง" ค้นโครงร่าง เกลื่อนกลาด ขนาดใหญ่ รวบรวมเค้า เท่าที่ มีส่งไป สักวันได้ ฟื้นฟู สู่ภาพเดิม emo_126 ค้นพบโบราณสถานใกล้หมู่บ้าน อยู่ในระหว่างสำรวจตรวจสอบ และรอคำตอบที่ชัดเจน รพีกาญจน์ หัวข้อ: Re: ๐ ครั้งหนึ่งในชีวิต ๐ เริ่มหัวข้อโดย: muneenoi ที่ 21 มีนาคม 2013, 02:03:AM กลอนบทนี้ ขายดี เป็นเทน้ำ
จึงมาย้ำต่อกลอน ตอนหาบของ เห็นเป็นจริง เรื่องสาง ต่างมุมมอง อย่าได้ลอง ลบหลู่ ดูไม่ดี ในประวัติ พระธุดงค์ หลายองค์พบ ได้ประสบ พบพ้อง ทำนองนี้ แต่ด้วยศีล บุญญาบารมี ป้องไพรี ผีสาง จึงห่างกาย ในป่าดง พงไพร ไร้มนุษย์ มีเรื่องสุดวิสัย ให้ขวนขวาย วิทยาศาสตร์ มิอาจ อธิบาย ใช่งมงาย พิสูจน์ได้ ให้เห็นดี ในทางพุทธฯ พิสูจน์ได้ ไม่ยากนัก หากรู้จัก ฝึกจิต ติดวสี สมาธิ ตั้งมั่น รู้ทันที เรื่องอย่างนี้ มีจริงๆ ใช่สิ่งลวง emo_106 "มุนีน้อย" หัวข้อ: Re: ๐ ครั้งหนึ่งในชีวิต ๐ ปิดภาคเรียน เริ่มหัวข้อโดย: รพีกาญจน์ ที่ 22 มีนาคม 2013, 02:05:PM ปิดภาคเรียน มีนา อากาศร้อน เปลื้องผ้าผ่อน ทำงาน เหงื่อกาฬไหล ออกรับจ้าง หาเงิน เดินถามไป ขอเพียงได้ ค่าแรง แบ่งเก็บออม เตี่ยวขาสั้น ตัวเก่า เหนือเข่าคับ เสื้อพอจับ ติดกาย ดูผ่ายผอม เกิบผ้าใบ ขาดร้อย สีมอยมอม ยังไม่พร้อม แบบเรียน เครื่องเขียนงาน จบ ป.ปลาย ย้ายต่อ ม.ศ.หนึ่ง ห่างไกลถึง สิบโล โขจากบ้าน ทางลูกรัง ขลุกขลัก จักรยาน จะใช้การ ปั่นไป ยังไม่มี กระบุงตัก ตวงชั่ง เทครั่งแห้ง มัดหอมแดง จุกเกล้า แขวนเข้าที่ คัดถั่วเขียว แยกเกรด เมล็ดดี ข้าวเปลือกสี เป็นสาร ร้านอากง แผ้วถางหญ้า ดาเตรียม กระเทียมผึ่ง ก่อไฟนึ่ง พลูดิบ หยิบไปส่ง ขาประจำ เมี่ยงหมาก ลากขึ้นลง ถึงทุ่มตรง เหนื่อยอ่อน พักผ่อนกัน อาบน้ำท่า ทานข้าว เริ่มหาวหลับ อ้าปะหงับ พิงตั่ง นั่งเคลิ้มฝัน ถึงเปิดเรียน คงรับ เงินนับพัน พอเลือกสรร ซื้อของ ตามต้องการ 22 มีนาคม 2509 รำลึก emo_126 รพีกาญจน์ หัวข้อ: Re: ๐ ครั้งหนึ่งในชีวิต ๐ เริ่มหัวข้อโดย: muneenoi ที่ 22 มีนาคม 2013, 09:49:PM ปิดภาคเรียน ฤดูร้อน ตอนหน้าแล้ง
ใจเหี่ยวแห้ง เพราะแสงแดด ที่แผดเผา ชนบท บ้านนา ป่าลำเนา เมื่อครั้งเยาว์ เราเคยอยู่ สู้ชีวี จนบัดนี้ เติบใหญ่ ได้ข้อคิด เพราะชีวิต ลำบากมา ก่อนหน้านี้ เป็นแรงใจ ให้สู้ทน จนได้ดี เป็นสักขี แห่งวิบาก จากวัยเรียน emo_73 "มุนีน้อย" หัวข้อ: Re: ๐ ครั้งหนึ่งในชีวิต ๐ อิฐธรรม เริ่มหัวข้อโดย: รพีกาญจน์ ที่ 10 พฤษภาคม 2013, 04:48:PM ลงหลุมปลัก ตักดิน สิ้นวันหยุด จอบเสียมขุด ลากกอง ต้องโทษฐาน กินมะพร้าว ข้าวหลาม ยามวิกาล ประคุณท่าน ลงทัณฑ์ ให้ปั้นดิน พระเณรมี สี่รูป รูปพันก้อน เผาสุกร้อน ไม่จับ นับหักบิ่น ห้ามอุทธรณ์ ผ่อนผัน กรรณยลยิน เด็กวัดรวม ทั้งสิ้น อีกหกคน เป็นคำสั่ง เบ็ดเสร็จ ความเด็ดขาด เจ้าอาวาส ผ่านไป แสร้งไม่สน เวลานาน ผ่านปี ที่ทุกข์ทน จึงจักพ้น หมื่นก้อน ซ้อนเรียงราย เรื่องอาหาร การกิน ศีลบัญญัติ ต้องเคร่งครัด ติดใจ อย่าให้หาย กินพอดี มีคุณ เจือจุนกาย กินมากมาย ร้ายโขก โรคลุกลาม หยุดบ่นพร่ำ ทำโทษ แสนโหดร้าย ปั้นอิฐขาย ใช่หรือ คือคำถาม ใจลึกลึก ฝึกเจ้า เฝ้าพยายาม ชนะความ ลำบาก ด้วยพากเพียร กรานกฐิน สิ้นวัน ออกพรรษา พร้อมศรัทธา ร่วมก่อ หล่อพระเศียร สร้างศาลา อาคาร การเปรียญ จะให้เขียน แผ่นติด อิฐของเธอ ทุกครั้งที่เข้าวัด ปลาบปลื้มใจมิรู้ลืม emo_126 รพีกาญจน์ หัวข้อ: Re: ๐ ครั้งหนึ่งในชีวิต ๐ ป้า เริ่มหัวข้อโดย: รพีกาญจน์ ที่ 31 พฤษภาคม 2013, 02:01:PM ข้าวคำน้อยคอยป้อนนอนเดียงสา อาบน้ำท่าหลังอิ่มเย็นยิ้มหัว โรยแป้งร่ำอมราลูบทาตัว กล่อมเพลงชั่วขานขับหลับสองตา ยังจำได้ให้นมผมเรียกแม่ หญิงดูแลประหงมผมเรียกป้า คือแม่พระประเสริฐเกิดลูกยา แทนมรรดาทุกงานเลี้ยงหลานชาย วัยกลางคนทนทุกข์ขลุกกับเด็ก แขกไทยเจ๊กเห็นหน้าทำท่าส่าย ใช่สาวแซ่แน่เทียวตัวเดียวดาย อาจสาวแก่แม่หม้ายชายไม่มอง เช้าจูงมือถือย่ามตามไปส่ง เขียน ก กง กา กน ฝึกฝนท่อง ถึงบ่ายสี่รี่เตรียมเยี่ยมมองมอง คอยประคองเก้อกังหลังเลิกเรียน พอถึงบ้านทานพร้าวข้าวต้มมัด ป้าปรุงจัดสลับบ้างปรับเปลี่ยน เปียกปูนมันวันพระขนมเทียน สอนตัดเจียนใบตองห่อของกิน ยามฟ้าร้องก้องดังป้านั่งใกล้ มีฟ้าร้องครั้งใดใจแทบสิ้น วันฟ้าร้องชีวาป้าโบยบิน ไม่อยากยินสักคราฟ้าร้องดัง ฟ้าร้องวันนี้ เมื่อหกปีที่แล้ว คือวันสิ้นใจของป้า emo_126 รพีกาญจน์ หัวข้อ: Re: ๐ ครั้งหนึ่งในชีวิต ๐ เงินแต่งงาน 2515 เริ่มหัวข้อโดย: รพีกาญจน์ ที่ 14 มิถุนายน 2013, 03:27:PM พ่อนั่งสอน นอนสั่ง ตั้งแต่เด็ก รู้เก็บเล็ก ผสมน้อย ค่อยอดเก็บ เย็บผ้าทอ ต่อติด ขีดตัดเย็บ พับตะเข็บ เม้มใน ถุงใบลาย ค่าขนม นมเนย ที่เคยได้ เช้ามืดไป โรงเรียน แม่เพียรจ่าย ซื้อบาทหนึ่ง หนึ่งเหลือ เหลือห่อชาย(เสื้อ) นำสอดส่าย ถุงน้อย ห้อยเสาออม ปลายสัปดาห์ อาทิตย์ เสาร์ปิดหยุด รับจ้างขุด ดินพรวน สวนผักหอม พอว่างเปล่า เข้าลาน สานชะลอม ละลายสี คลี่ย้อม ม่อฮ่อมดำ หาบน้ำอ้อย ลอยป่า ฝึกค้าขาย ออกเดินสาย ช่วยงาน เล่นสานต่อ ร้องลิเก เฮรำวง กะโลงซอ เงินมีพอ เรียนฝัน ชั้นอุดม(ศึกษา) บรรจุครู อยู่สอน นอนกลางป่า รับเงินตรา เท่าไร ได้สะสม ขุดหน่อไผ่ ใบสอย หอยปลางม กินขนม ข้าวดำ คลุกน้ำตาล พับเขียวแดง แบ๊งค์ใหม่ ใช้ยางรัด ห่อเป็นมัด ยัดถัง ซ่อนหลังบ้าน ลับขโมย ฉวยกัน อันตรธาน จะแต่งงาน เปิดดู ตูเป็นลม! เงินหมื่นบาท ถูกปลวกแทะกิน นับที่ใช้ได้ เหลือเพียงเจ็ดพัน emo_62 รพีกาญจน์ หัวข้อ: Re: ๐ ครั้งหนึ่งในชีวิต ๐ อาชีพพ่อ เริ่มหัวข้อโดย: รพีกาญจน์ ที่ 27 มิถุนายน 2013, 09:29:PM วางบนแท่น แผ่นผ้า สิบกว่าชิ้น มีซาติน โทเรเทโทร่อน สีตาราง วางเส้น เอ็นแนวนอน แขวนโชว์ต้อนรับลูกค้า มาจับจอง ล้วนเนื้อหนา ผ้าดี สีดำเขียว ขาวสีเดียว ผ้าเสื้อ เยื่อลายสอง เทศกาล งานมี เสียงปี่กลอง บุญฉลอง สมโภช โบสถ์ศาลา พ่อยิ้มแฉ่ง แบ่งบาน งานเริ่มเข้า ตื่นแต่เช้า จุดไฟ ใกล้ตีห้า หยิบแท่งชอล์ก ออกแบบบง ทรงนานา ตัดเย็บผ้า รับจ้าง ช่างถักทอ จักรแซกริม เลียบรอบ กันขอบลุ่ย ถึงยังเด็ก ได้คุย ลุยช่วยพ่อ สอยตะเข็บ เย็บเนา เข้าแขนคอ ติดตะขอ กรอด้าย สายรังดุม สิ้นงานสวด บวชองค์ สรงน้ำธาตุ งานหยุดขาด ฝนตก อกกลัดกลุ้ม พ่อเดินทาง ห่างเหย้า เหมาเสื้อคลุม เย็บเสื้อนุ่ม แขนยาว ขายหนาวมา แสนภูมิใจ ได้ช่วย อาชีพพ่อ จุดเกิดก่อ ประกาย หลายคุณค่า ปูรากฐาน การเรียน เพียรวิชา เป็นที่มา วันนี้ รพีกาญจน์ ตอนนั้นเรียน ป.5 ปี 2505 ครับ emo_126 หัวข้อ: Re: ๐ ครั้งหนึ่งในชีวิต ๐ เริ่มหัวข้อโดย: D ที่ 28 มิถุนายน 2013, 06:28:AM (http://www.qzub.com/cartoon_004.gif) ออกแบบสร้าง วางร่าง เป็นทางเริ่ม ตัดแต่งเติม เสริมแทรก แปลกใหม่หวาน หรือชุดฟอร์ม ย่อมได้ ใช้ทนนาน (ชุด) พระราชทาน งานไหม ใส่พิธี บรรจงสร้าง ตามสั่ง ตั้งใจนึก เฝ้าเพียรฝึก ศึกษา ในหน้าที่ วิชาชีพ รับสอน ป้อนสตรี ทั่วธานี มีฉายา "ศศิอาภรณ์" รับออกแบบและรับสอนอยู่เลยอ่ะ emo_126 "ดิน" (http://www.qzub.com/cartoon_004.gif) หัวข้อ: Re: ๐ ครั้งหนึ่งในชีวิต ๐ เริ่มหัวข้อโดย: เนิน จำราย ที่ 28 มิถุนายน 2013, 08:01:AM ขอสั่งตัดราชปะแตนสักหนึ่งตัว สวมใส่คู่ทูนหัวพ่อศรีเปรื่อง ล่องลำปางนั่งรถม้าเที่ยวชมเมือง เลือกสีเหลืองถูกโฉลกเป็นโภคทรัพย์ เนินคู่เปรื่องลือเลื่องเรื่องโบราณ เปรื่องเธอขานเนินถือในมือกรับ เสียงเสภาเจื้อยแจ้ววาวแวววับ ลูกคู่รับฉาวฉานแดนลานนา เนิน จำราย หัวข้อ: Re: ๐ ครั้งหนึ่งในชีวิต ๐ เริ่มหัวข้อโดย: ศรีเปรื่อง ที่ 28 มิถุนายน 2013, 12:52:PM (แต่งสนุกสนานนะครับ...มิได้มีเจตนาอื่น emo_85 emo_85)
เห็นท่าน "เนิน" มีน้ำใจใสสะอาด รีบรับราชปะแตนไว...ใส่ตะกร้า เตรียมโผนขึ้นรถหัยวิไลตา ฉุกอุรา...จึงเอ่ย..เผยความนัย คือว่าสี...อำพัน...นั้นครับท่าน อาจเป็นการ...เชิญคน...มาวนให้- พรตุ๊บตั๊บ...ด้วยเพราะรัก...สลักใจ ส่งเราไป...เที่ยวสวรรค์...ก่อนวันควร ศรีเปรื่อง ๒๘ มิ.ย. ๒๕๕๖ หัย = ม้า หัวข้อ: Re: ๐ ครั้งหนึ่งในชีวิต ๐ เริ่มหัวข้อโดย: ปู่ริน ที่ 29 มิถุนายน 2013, 12:48:AM เมื่อหวนคิด คืนหลัง ครั้งยังหนุ่ม สาวสาวรุม ..มิใช่โม้..โถปั่นป่วน บ้างมาง้อ ขอแต่งงาน เป็นขบวน หลายหลากล้วน สาวสวยสวย รวยก็มี บ้างตัดรัก หักสวาท นิราศร้าง ต้องหนีนาง จนวุ่นวาย หมายศักดิ์ศรี ไว้ผมยาว... สวมเกงยีนส์.. สอนดนตรี ครูหล่อดี ตีกลองชุด สุดตระการ เที่ยวร้องเล่น บรรเลง เพลงลูกทุ่ง รวมดาวรุ่ง ไทยสากล คนกล่าวขาน เที่ยวเร่ร่อน ร้องรำ จนชำนาญ ร้านอาหาร ชายแดน แคว้นนราฯ สมัยนั้น สงบสุข มิทุกข์ร้อน เที่ยวกินนอน ร้องเล่นไป ไม่เกิดปัญหา "ตันหยงมัส" ยังมัดใจ ให้ตรึงตรา ยามได้มา เยี่ยมเยือน ...เพื่อนมากมาย. ริน ดอนบูรพา ๒๙ มิ.ย.๕๖ emo_73 หัวข้อ: Re: ๐ ครั้งหนึ่งในชีวิต ๐ เริ่มหัวข้อโดย: D ที่ 29 มิถุนายน 2013, 07:26:AM ขอสั่งตัดราชปะแตนสักหนึ่งตัว สวมใส่คู่ทูนหัวพ่อศรีเปรื่อง ล่องลำปางนั่งรถม้าเที่ยวชมเมือง เลือกสีเหลืองถูกโฉลกเป็นโภคทรัพย์ เนินคู่เปรื่องลือเลื่องเรื่องโบราณ เปรื่องเธอขานเนินถือในมือกรับ เสียงเสภาเจื้อยแจ้ววาวแวววับ ลูกคู่รับฉาวฉานแดนลานนา เนิน จำราย (http://www.qzub.com/cartoon_004.gif) กระดาษกาง วางวาด ราชปะแตน เริ่มแบบแปลน แผนภาพ ทาบบนผ้า ทยอยตัด สัดส่วน คำนวณมา ร้อยห้าห้า เซ็นตรง ทรงอะไร...? จับตะเข็บ เย็บยาว เข้าจังหวะ จักรรัวดะ ละยั้ง กลัวพลั้งไพล่ มีซิกแซก แทรกเสริม เติมลายไทย รีดพับใส่ ไปรษณีย์ ส่งพี่"เนิน" เรื่องค่าแรง แจ้งไป ตามใบสั่ง รีบส่งตังค์ มาด่วน มิควรเปิ่น คงพอซื้อ เครื่องบิน จินต์คงเพลิน พาเหาะเหิน สู่ฟ้า กับป๋า"รพีฯ" "ดิน"(บ้า) (http://www.qzub.com/cartoon_004.gif) ราชปะแตนฝังเพชร จร้า emo_45 emo_126 หัวข้อ: Re: ๐ ครั้งหนึ่งในชีวิต ๐ อาชีพพ่อ 2 เริ่มหัวข้อโดย: รพีกาญจน์ ที่ 29 มิถุนายน 2013, 10:26:PM การค้าขาย หลายหลาก ยากผูกขาด การตลาด เจาะใจ ใครเด็ดกว่า ต้องลดแหลก แจกฟรี บี้ราคา ผลทันตา ยอดทรัพย์ นับอนันต์ อีกอนึ่ง พึงคุม คุณภาพ ฝีมือหยาบ ขยาด อาจมหันต์ ปัดแมงหวี่ ตี่ตอม จ่อมจาบัลย์ ลูกค้าหัน หน้าไกล มิใยเยือน สิ่งจูงใจ ให้จับ รับประโยชน์ ช่วยโปรโมท หว่านคำ ชักนำเพื่อน เช็ครายเสียง เรียงตัว รวมทั่วเดือน กำหนดเงื่อนไขวาง รางวัลงาม ยุทธวิธี ดีร้าย ภายในนอก ถูกลากออก พันตู สู่สนาม ใครชะงัก พักยก ตกเขตคาม เสร็จปอยลาม มิเหลือ ม้วนเสื่อไป มันเป็นเรื่อง เร้าใจ ช่วงวัยเด็ก ถึงยังเล็ก ตัวนิด คิดช่วยได้ เสนอต่อ พ่อรับ ทำฉับไว สวัสดี มีชัย "ร้านไทยทรง" ตัดกางเกง 1 ตัว รับปฏิทินรูปดารา 1 แผ่น และเลือกรับของแถม 1 ชิ้น ดังนี้ หมวกสาน 1 ใบ หรือเสื้อกล้ามตราเป็ดคู่ 1 ตัว หรือกางเกงในตราห่านคู่ 1 ตัว หรือเข็มขัดหัวสี่เหลี่ยม 1 เส้น หรือรองเท้าฟองน้ำตราช้างดาว 1 คู่ ผู้ที่แนะนำหรือชักนำมาใช้บริการครบ 10 ราย รับกางเกงขายาวฟรี 1 ตัว emo_126 หัวข้อ: Re: ๐ ครั้งหนึ่งในชีวิต ๐ อาชีพพ่อ 3 เริ่มหัวข้อโดย: รพีกาญจน์ ที่ 30 มิถุนายน 2013, 10:13:PM อะไรในโลกนี้ที่ว่าแน่ มีพ่ายแพ้ชนะและเสมอ ช่วงเช่นฝันบรรเจิดล้ำเลิศเลอ หรือพลั้งเผลอลับล่มลงจมดิน ต้องเตรียมจิตทำใจให้พรักพร้อม รู้จักยอมคำรบคราจบสิ้น ทวนผลิตกิจกรรมนำชีวิน หาทางผินเดินออกตรอกประตู อันภูษาผ้าใบใช่ข้าวถั่ว สามสี่ตัวหลวมคับกว่ายับยู่ มิหมดหายสายเย็นเช่นปลาทู ตัดหนึ่งคู่เก่ากรังอีกตั้งปี คนเบื่อรอชักช้าห้าวันเสร็จ ซื้อสำเร็จวัดเอวสวมเร็วรี่ รีบร่วมงานบ้านไกลใกล้ได้ทันที เลือกทรงสีเนื้อผ้าค่าสตังค์ หาก็ง่ายขายคล่องท้องตลาด ของไม่ขาดข้ามคืนแค่โทรสั่ง ร้านตัดเย็บถดถอยค่อยเอวัง หันคืนหลังรับจ้างนอนห้างนา เก็บกรรไกรไม้วัดจัดเข้าตู้ เห็นหดหู่ยิ่งนักจักรเย็บผ้า เป็นครั้งหนึ่งในชีวิตติตอุรา ก่อนต่อมาค้าวางกางเกงยีนส์ emo_126 รพีกาญจน์ หัวข้อ: Re: ๐ ครั้งหนึ่งในชีวิต ๐ อาชีพพ่อ 4 เริ่มหัวข้อโดย: รพีกาญจน์ ที่ 01 กรกฎาคม 2013, 10:54:PM หนังขายยาคาวบอยทยอยฉาย ตัวผู้ร้ายพระเอกทำเก๊กท่า มือแตะปืนยืนจ้องชันสองตา หรือควบม้าชุดยีนส์ปีนขึ้นลง กางเกงเสื้อเนื้อหนาราคาถูก สวมสำบุกสำบันทันประสงค์ จะท่องเที่ยวเลี้ยวลดจดแดนดง แผ้วถางพงหนามไหน่ไม่ระคาย หมวกปีกกว้างกลางยุบหลุบหน้าหลัง รองเท้าหนังหุ้มข้อถักทอสาย คาบบุหรี่ยียวนกวนเท้าปลาย แบบฉบับครับยอดชายนายคือแมน ยี่ห้อฮิต GANTON COMMANDO สวมสมาร์ท อาจโหล แต่โก้แสน วางจำหน่าย ขายตลาด จนขาดแคลน รีบวิ่งแจ้น สั่งจอง ต้องมัดจำ ต้นทุนตัว หนึ่งร้อย ยี่สิบบาท พอวางพาด ร้อยห้าสิบ หยิบหนำหนำ ทั้งขายปลีก ขายส่ง ขายตรงทำ สิ้นเดือนกำไรหมื่น ตื่นเต้นจัง เลิกเย็บผ้า ค้ายีนส์ สิยิ่งร้าย นานยอดขาย หายไป ไม่เห็นหลัง มีชุดเดียว เหนียวหนุ กว่าผุพัง มีชุดดัง สวมใส่ ได้เป็นปี เฮ่อ... นอกจากยีนส์ มีสำเร็จรูปชาย ชุดนักเรียน ในที่สุดไปไม่รอดครับ เห็นทีมีต่อ อาชีพพ่อ 5 emo_126 หัวข้อ: Re: ๐ ครั้งหนึ่งในชีวิต ๐ อาชีพพ่อตอนจบ เริ่มหัวข้อโดย: รพีกาญจน์ ที่ 02 กรกฎาคม 2013, 09:57:PM เห็นป้ายปิด ติดขาย ภายในร้าน ทรงขาบาน กระบอก ฟอกกมแก่ ยืนสโตร์ โชว์ขา แถวท่าแพ ยีนส์ของแท้ สามร้อย ห้อยเตะตา เทียบราคา ตัวบาท ตลาดนัด ถูกประหยัด อย่างน้อย ก็ร้อยกว่า ปากต่อปาก เฮโล สาระพา ขายเทน้ำ เทท่า ทำไม่ทัน น้ำขึ้นต้อง รีบตัก ใส่กลักกล่อง เงินตาพอง ทองตาโต เกิดโมหันต์ นำของเทียม กองคละ ปะปนกัน ก็ถึงวัน ล่มสลาย ค้าขายพัง เพราะความโลภ ของเรา เอาแต่ได้ ร้านเชียงใหม่ มั่วส่ง ลงตามสั่ง ของไม่ดี มีหรือ ชื่อจีรัง กลับมานั่ง หาวหุบ สรุปงาน ลูกค้าไหล ไปอื่น มิคืนกลับ จำต้องปรับ ร่วมจิต ช่วยคิดอ่าน ของสิ่งใด ใช้สิ้น กินดื่มทาน ตลอดกาล เช้ามืด พืชสัตว์คน ยากตุกติก หลีกเว้น เช่นบังคับ อาหารกับ ข้าวเนื้อ พริกเกลือป่น ปุ๋ยสารยา ฆ่ารม สมฮอร์โมน เริ่มตั้งต้น วางโชว์ โฆษณา ยีนส์ปลอมซักแล้วเนื้อผ้าสีแดง เจ๊งอ่ะครับ เริ่มขายของเบ็ดเตล็ดปี 2518 ถึงปัจจุบัน พ่อมอบกิจการให้น้องปี 2540 ก่อนสิ้นชีวิต emo_126 หัวข้อ: Re: ๐ ครั้งหนึ่งในชีวิต ๐ คำสั่งพ่อ เริ่มหัวข้อโดย: รพีกาญจน์ ที่ 03 กรกฎาคม 2013, 09:55:PM ช่วงนี้แทบไม่ว่าง ไม่สามารถต่อกระทู้เพื่อน ขออนุญาตเอาประสบการณ์เก่าวางแทนครับ ข้าวหนึ่งกระป๋องนมต้มมื้อเช้า กลางวันเปล่าไส้กิ่วหิวกระหาย ตกมื้อเย็นเช่นเช้าข้าวกำฟาย กินกันตายลงคอพอสืบลม ข่าวว่าญาติห่างห่างจากบางกอก ยินเล่าบอกเมืองอินทร์ดินดีสม มีข้าวปลาอาหารทานอุดม ข้าวเปลือกจมลงพื้นยืนต้นงาม กลั้นน้ำตาอาลัยไสลูกน้อย ลงเรือลอยกับผู้สู่สยาม เผชิญโชคชะตาลาเขตคาม อายุย่างสิบสามตามเขามา ก้มลงกราบสามคราหน้าพระรูป ก้มลงจูบลูบดินผินกล่าวว่า ขอพึ่งพรหมร่มฉัตรกษัตรา องค์พุทธาปกเกล้าเฝ้าอภิบาล ได้กินดีมีใช้ในวันนี้ บารมีเดชะพระองค์ท่าน คุ้มพ่อแม่แผ่ลูกสุขสำราญ ว่าเสียนานหวังเจ้าคงเข้าใจ ร่วมยินดีที่ผ่านการเลือกตั้ง เป็นส.ท.คนดังครั้งยิ่งใหญ่ โอกาสชอบตอบแทนแผ่นดินไทย พ่อสั่งให้"สุจริต คิดเจริญ" พี่น้องสิบหมู่บ้านคัดส่งสมัครได้เป็นส.ท.ปี 2544 emo_126 หัวข้อ: Re: ๐ ครั้งหนึ่งในชีวิต ๐ ทักษะสัมพันธ์ เริ่มหัวข้อโดย: รพีกาญจน์ ที่ 06 กันยายน 2013, 05:51:AM เราร่วมด้วยช่วยกันฉันพี่น้อง ถือเพื่อนพ้องคล้องจิตอยู่ชิดใกล้ อายุหย่อนอ่อนแก่ก็แค่วัย เป็นครูใหญ่ครูน้อยคิดคล้อยตาม มิกำหนดยศซีดีกรีกั้น อ้างตำแหน่งแบ่งชั้นให้หวั่นหวาม เอาสกุลรุนชาติชี้ขาดงาม เพียงยึดตามประเพณีที่นิยม เราผู้น้อยค่อยค้อมน้อมคำนับ ขานคะครับคุณทั่นดิฉันผม ส่วนผู้ใหญ่ใจดีชวนชี้ชม วางอารมณ์สุขุมยิ้มนุ่มนวล ครูจบใหม่ไฟแดงแรงจรวด มิโอ้อวดมากรู้ชูกระสวน เก่าเกินเกณฑ์เจนภพจบกระบวน นำประมวลควรคู่บูรณาการ สอดดำริวิถีของชีวิต เศรษฐกิจผู้คนชุมชนบ้าน แหล่งทำมาหากินดอนดินดาน สอบพื้นฐานความเชื่อเผื่อถ้ามี เพื่อบรรลุอุปสงค์จำนงค์หมาย อุทิศกายเทใจใส่้เต็มที่ ด้วยทักษะสัมพันธ์เชื่อมกันดี เขียวขจีเด็กฉลาดชาติเจริญ emo_126 รพีกาญจน์ หัวข้อ: Re: ๐ ครั้งหนึ่งในชีวิต ๐ ทักษะฟาดฟัน เริ่มหัวข้อโดย: รพีกาญจน์ ที่ 06 กันยายน 2013, 09:05:PM เริ่มเข้าแผนพัฒนาประชาชาติ แยกกำหนดบทบาทอาจสรรเสริญ ปฏิบัติบริหารการประเมิน อัตราเงินแตกต่างห่างโยชน์ไกล รับผิดชอบมอบงานสถานศึกษ์ ควบคุมฝึกอบรมบ่มนิสัย สั่งกำกับปรับแก้แลทั่วไป หนึ่งเดือนได้ครึ่งแสนตอบแทนแรง สอนทั้งวันยันคืนเดือนหมื่นห้า จดบันทึกตรึกตรากว่าค่อนแจ้ง เด็กเต็มห้องต้องรู้ชูแสดง ผลสัมฤทธิ์ผิดแผลงแปลงผ่านเกณฑ์ อยู่ด้วยกันปันใจใช่หน้าที่ สบย่ำยีบีฑาคราโดดเด่น โชว์แต่ดีชี้แต่ตัวชั่วหมกเลน หมดภาระผละเผ่นไม่เห็นเงา ทีเงินเดือนเลื่อนขั้นพลันยื้อแย่ง ต่างตะแบงอ้างเศษเม็ดเงินเก่า เสนอยลผลงานทานสำเนา มิผลัดใครให้เขาเราต้องการ "เด็กจากไหนไม่สำคัญรักฉันลูก" บางครั้งถูกปล่อยปละมาตรฐาน ร่างรองรับจับรู้สู่กบาล วิเคราะห์งานไม่เป็นเช่นบ๊วยเอย emo_126 รพีกาญจน์ หัวข้อ: Re: ๐ ครั้งหนึ่งในชีวิต ๐ เริ่มหัวข้อโดย: ไพร พนาวัลย์ ที่ 08 กันยายน 2013, 08:54:PM emo_111 emo_111 emo_111 ครั้งหนึ่งในชีวิตคิดแล้วเสียว เป็นครั้งเดียวโชคดีไม่มีเรื่อง เอารถเกียร์ออโต้จอดในเมือง พอดับเครื่องใส่เกียร์ถอยแล้วปล่อยไว้ ดึงเบรกมือให้ตึงแล้วจึงออก ไปซื้อของข้างนอกที่อยู่ใกล้ เผอิญเพื่อนมารับอย่างฉับไว ด้วยหัวใจชื่นบานไปงานเลี้ยง รุ่งเช้าเพื่อนมาส่งที่ตรงรถ ขนหัวหดรถถอยจากรอยเลี่ยง เผอิญติดถังขยะไม่ผละ,เอียง รถข้างเคียงจอดติดในทิศทาง ถ้าไม่มีถังขยะกะดะไว้ รถคงไหลกลางถนนไปวนขวาง รถคงติดหนึบหนับเหมือนจับวาง จราจรคงคว้างในกลางวัน คิดขึ้นมาคราใดหัวใจหนาว ถึงเรื่องราวอดีตที่บิดผัน อะไรหนอมาช่วยเอาไว้ทัน ถังขยะมากั้นทันท่วงที ขอขอบคุณสวรรค์ที่ท่านช่วย ไม่เช่นนั้นคงซวยไปหลายซี่ คงถูกจับ,ถูกปรับ,ไม่นับตี ต่อแต่นี้จดจำจนวันตาย “ไพร พนาวัลย์” คิดแล้วน่าใจหายจริงๆที่ดันไปใส่เกียร์ถอยหลังเอาไว้ได้ยังไง?ตอนนั้น เมื่อเกือบยี่สิบปีที่แล้ว ก็ยังไม่แก่เท่าไหร่เลยน้า... emo_119 emo_101 หัวข้อ: Re: ๐ ครั้งหนึ่งในชีวิต ๐ เริ่มหัวข้อโดย: ดาว อาชาไนย ที่ 08 กันยายน 2013, 10:04:PM ขอเล่าให้ฟังบ้างครับ ผมเรียกว่า ตำรวจเมืองสานะขันธ์ ขับรถผ่านเมืองโน้นถูกชนท้าย ไฟหลังซ้ายแตกหมดรถถลา โดนคันอื่นเป็นทอดตลอดมา รถด้านหน้าพังลามอีกสามคัน รถที่ชนคันใหญ่หลายที่นั่ง ขับตามหลังกดแตรไล่ดังลั่น พุ่งชนท้ายรถเราอย่างเมามัน ต่างรู้กันเขาผิดคิดเบาใจ แต่คำพูดทุเรศมากจากสารวัตร เสียงดังชัด.."เราผิด คิดบ้างไหม เขามิชนเต็มท้ายรถจดจำไว้" กฏหมายมาตราไหนก็ไม่รู้ มิยอมต้องฟ้องเราเข้าสู่ศาล ปั้นพยานลูกน้อง..ยินสองหู พูดจบหายหัวไปไม่มาดู คิดคำผู้ใหญ่ก่อนสอนเนืองเนือง "เป็นความกินขี้หมาดีกว่านัก" จึงห้ามหักใจได้ไม่เอาเรื่อง ไม่รู้เช่นเห็นชาติอาจขุ่นเคือง เขายักเยื้องสันดานพาลจนชิน "ใต้ดวงอาทิตย์นี้" มีคำขวัญ "ตำรวจเมืองสานะขันธ์ทำได้สิ้น" กิตติศัพท์เลื่องลือชื่อระบิล มีปะปนยลยิน..ตำรวจเลว ดาวอาชาไนย หัวข้อ: Re: ๐ ครั้งหนึ่งในชีวิต ๐ พ่อสอนลูก เริ่มหัวข้อโดย: รพีกาญจน์ ที่ 24 ตุลาคม 2013, 08:58:AM ผิดบุราณ ดานดิน ถิ่นรกชัฏ ต้องประหัต ขวากหนาม เตียนข้ามไต่ ผิวมิเรียบ เหยียบเนิน เพลินครรไล ฝ่าเถาวัลย์ พันไม้ ใกล้ริมทาง ฝนตกพรำ น้ำขัง ทั้งเฉอะแฉะ สวมเกิบแตะ ติดพื้น ลื่นล้มขวาง ถูกลมแดด แผดเผา เป่าเย็นจาง สองฝั่งข้าง กลางแยก แตกธุลี เลียบราบลุ่ม ดุ่มเดิน เผชิญโชค สู่เวียงทอง รองโลก ชะโงกศรี วอนเมตตา อาศัย ใต้กุฎี เศษอาหาร ทานมี คลี่บรรเทา ช่วยพระสงฆ์ ลงวัด จัดตกแต่ง มิออมแรง บิณฑบาต ตลาดเก่า ปั้นดินขอ ก่อประตู สู้หนักเบา หลวงพ่อชอบ นอบพิเนา ส่งเข้าเรียน ถูกสมัย ไฟสว่าง ทางเทแผ่น รถเร็วแล่น ตึกงาม อารามเปลี่ยน มีเงินใช้ ไร้โรคา พริบตาเยียน เติมวนเวียน เงินสด กดเสบย บังเกิดเกล้า เจ้าสร้าง ทางสวรรค์ จะเลือกสรร ดีชั่ว กลั้วใดเผย ทางสองแพร่ง พากเพียร เรียน/ละเลย ดรุณเอ๋ย ตั้งจิต คิดให้ดี emo_126 รพีกาญจน์ ดินขอ* กระเบื้องแผ่นเล็กๆ หัวข้อ: Re: ๐ ครั้งหนึ่งในชีวิต ๐ พ่อสอนลูก 2 เริ่มหัวข้อโดย: รพีกาญจน์ ที่ 27 ตุลาคม 2013, 09:55:PM หอบลูกน้อยกลอยใจไว้แนบอก เกรงตระหนกฟ้าร้องก้องคามเขา บางครั้งนอนค่อนวันตัวสั่นเทา อุ้มเขย่าไห้ลั่นเรียกขวัญมา มดจะไต่ไรเลาะยุงเกาะกัด แม่คอยปัดแปะหน่อยมิคอยท่า มีตุ่มผดผื่นผุดจุดกายา รีบฝนยาทาถูเฝ้าดูแล ล้างครกหงายฟายคว่ำข้าวตำบด แหลกเหลวคดใส่ถ้วยครูดกล้วยแก่ ลงคนคำน้ำผึ้งครึ่งช้อนกาแฟ ลูกร้องแงป้อนให้แทบไม่ทัน แปดเลอะเทอะเปรอะเปื้อนตามเรือนร่าง แช่ไม้ฝางประสมน้ำต้มกลั่น ชุบเช็ดตัวทั่วหน้าแข้งขาพลัน คุณแก้กันคันหายไล่มดแมง ผ้าขาวนวลนุ่มนับซับน้ำเช็ด ผิวแห้งเสร็จละมุนโรยฝุ่นแป้ง วางนอนเปลเห่ห้อมกล่อมเพลงแปลง มือไกวแกว่ง จา จ้า ตาหลับไป นับวันเดือนเลื่อนปีที่พ้นผ่าน นับกี่นานเจ้าเสิบจนเติบใหญ่ นับกี่คราวเคยยื่นแม่ชื่นใจ ลองตั้งจิตคิดได้ "ตั้งใจเรียน" emo_126 รพีกาญจน์ หัวข้อ: Re: ๐ ครั้งหนึ่งในชีวิต ๐ เริ่มหัวข้อโดย: D ที่ 28 ตุลาคม 2013, 06:52:AM (http://www.siamfishing.com/board/upload2011/201108/1313056006635452.gif) เฝ้าฝนจิต กิจงาน บ้านเล็กน้อย ค่อยประดอย คอยหัด จัดแปลงเปลี่ยน ไหนรกชัด ปัดกวาด สะอาดเตียน ซักรีดเพียร เวียนถู ดูไก่กา ตั้งใจเรียน เขียนอ่าน ผ่านประถม ค่าขนม ประหยัด ซื้อจัดหา สมุดดินสอ พอใช้ ใฝ่ตำรา รู้มารดา บิดร เริ่มอ่อนแรง เช้าตีห้า ฟ้าสาง ย่างเข้าสวน รดน้ำถ้วน ต้นไม้ กว่าไขแสง อรุณฉาย พรายพร่าง สว่างแจ้ง รีบปรับแปลง แต่งตน ด้นย่ำทาง กว่าจะจบ ครบครัน ถึงฝันฝั่ง คำสอนสั่ง หวังเกิน เกรงเหินห่าง ลูกก้าวล้ม จมพับ แทบอับปาง ฝาดเฝื่อนฟาง จางละ เพราะการุณย์ "ดิน" (http://www.qzub.com/cartoon_016.gif) หัวข้อ: Re: ๐ ครั้งหนึ่งในชีวิต ๐ คิดถึงตา เริ่มหัวข้อโดย: รพีกาญจน์ ที่ 24 ธันวาคม 2013, 08:26:PM หักฟืนขาดพาดตอก่อไฟลุก ปั้นข้าวสุกก้นไหเสียบไม้จี่ น้ำพริกแดงติดจานอาหารดี จิจ้ำทีใส่ปากสมอยากกิน ช่วยประทังสืบไปไล่ความหิว เผ็ดหน้านิ่วซีดซูดรูดกระถิน รีบกระดกยกบอกถอกน้ำริน ดื่มอึกสิ้นลิ้นคอพอทุเลา คีบถ่านร้อนลงดับในอับหม้อ เก็บตุนต่อดีปล่อยม่อยเป็นเถ้า วักน้ำโอ่งล้างซู่ถูมือเบา เช็ดผ้าเก่าแห้งหดหมดกลิ่นคาว ดึงกางเกงกระชับเคยคับหลวม คลี่ผ้านวมคลุมกายคลายเหน็บหนาว สูบบุหรี่ขี้โยมวนโตยาว เกลือเม็ดขาวอั่วอมอ่อมเมี่ยงลำ อั่ว-ใส่ อ่อม-กลมกล่อม ลำ-อร่อย นั่งเอนอิงพิงไม้รับไออุ่น ฟังลุงบุญอู้ลาวอ่านค่าวฮ่ำ อู้-พูด ค่าว-ร้อยกรองล้านนา ผ่าไม้ซางจักตอกคืบศอกกำ ช่วงหัวค่ำสอนหลานสานกระบุง ซอเคล้าซึงตึงตังวังเวงแว่ว ลมพัดแผ่วเลาะลานผ่านชายทุ่ง เสียงไกวผ้าขาวม้าตาปัดยุง เดือนลับคุ้งเย็นเฉียบเงียบทั่วคาม emo_126 รพีกาญจน์ หัวข้อ: Re: ๐ ครั้งหนึ่งในชีวิต ๐ บอลครับบอล เริ่มหัวข้อโดย: รพีกาญจน์ ที่ 05 มิถุนายน 2014, 07:44:AM เมื่อเยาวัยใฝ่ฝันว่าวันหนึ่ง คงก้่าวถึงไกลสุด ณ จุดหวัง เราคือนักฟุตบอลกระฉ่อนดัง เบื่อรับจ้างเสียจังนั่งเลี้ยงควาย เลิกพักเรียนกลางวันพันกระดาษ ปอป่านคาดจัดแจงแบ่งฝักฝ่าย ไม้ขีดเส้นเล่นบนดินปนทราย ล่างเปลือยปลายรองเท้าเปล่าไม่มี ไร้กฎกติกาเวลาชัด ขืนเลี้ยงลูกถูกอัดรุมสามสี่ บอลลอยไปไกลตัวมั่วทุกที ล่อกันเละเตะก้นตีมีเฮฮา ครั้นเมื่อรถขายยาตราถ้วยทอง ประกาศขายยาหม่องแกะกล่องฝา ครบหนึ่งร้อยแลกบอลโฆษณา ไซ้ส์เบอร์ห้ากลมกลมสีชมพู เป็นของเล่นชิ้นแรกที่แปลกใหม่ ความดีใจชื่นหน้าเข้ามาสู่ อยากเตะเล่นเย็นเช้าเข้าประตู ได้แต่ดูครูหวงห้อยห้องโชว์ ไม่ได้เป็นนักบอลดังก่อนฝัน เพราะชาติพันธุ์ฉันต่ำน่าโมโห กินข้าวจี่น้ำเมี่ยงเลี้ยงไม่โต แค่โกลโกลเป็นบ้าหน้าทีวี emo_100 รพีกาญจน์ หัวข้อ: Re: ๐ ครั้งหนึ่งในชีวิต ๐ เชื่อหรือไม่ 1 เริ่มหัวข้อโดย: รพีกาญจน์ ที่ 29 มิถุนายน 2014, 09:58:AM ปี 2539 สองนิ้วเท้าขวาพ่อผมบาดเจ็บ ร้อนระบมบวมช้ำดำปลายเล็บ ทั้งหนาวเหน็บปวดหัวตัวสั่นเทา รีบนำส่งโรงหมอขอรักษา อีกสัปดาห์อาการแย่กว่าเก่า มันลุกลามเรื้อรังหนังข้อเท้า น่องแข้งเข่าเริ่มจ่อเดือนต่อมา หมอบอกว่าโลหิตรับพิษร้าย อาจถึงตายปล่อยไว้ไม่ตัดขา โรครุนแรงแทงดูกเกินหยูกยา เคลียร์เวลาห้าวันผ่าทันที ลูกหน้าม่อยถอยพ่อกลับพักบ้าน เจอ"อ้ายหนาน"รู้จักเคยมักจี่ แนะนำให้พึ่งบุญ"ลุงมูลดี" ทำพิธีเสกอมพรมน้ำมนตร์ ผมเห็นงามยามว่างหนึ่งทางเลือก ดีกว่าเกลือกนอนเศร้าเอาแต่บ่น เกิดอุบัติอัศจรรย์พลันบัดดล ความทุกข์ทนทุเลาลงเบาบาง แผลพุพองผิวช้ำปริดำเขียว บวมเป่งห่อฝ่อเหี่ยวเล็กเรียวล่าง ที่ปวดเจ็บเหน็บกายก็คายจาง ครบเดือนย่างเยื้องไปได้เช่นเดิม รพีกาญจน์ หัวข้อ: Re: ๐ ครั้งหนึ่งในชีวิต ๐ เริ่มหัวข้อโดย: รัตนาวดี ที่ 29 มิถุนายน 2014, 08:30:PM emo_116 ...คนมีบุญ หนุนไว้ จึงได้พบ โชคประสบ ลดทุกข์ สุขเข้าเสริม เพราะบุญมี ชีวิต ติดประเดิม สุขพาเริ่ม เจอหมอ หยุดท้อใจ... ...อัศจรรย์ บันดล เมื่อทนทุกข์ นอนป่วยลุก ย่างเพลิน เดินเหินได้ ย่อมต้องเชื่อ เมื่อเห็น ความเป็นไป นับเป็นบุญ ยิ่งใหญ่ ใครก็ตาม... ...จึงได้เจอะ ทางแจ้ง แสงสว่าง มิเคว้งคว้าง เลยละ เกินจะห้าม นี่แหละเรื่อง ความกล้า พยายาม อย่ามองข้าม บางสิ่ง อย่านิ่งนาน... ...ขอให้มี ความสุข เลิกทุกข์ต่อ ขอคุณพ่อ บุญมี ดีประสาน คุณความดี มีด้วย ช่วยประทาน ความแข็งแรง เบิกบาน แด่ท่านเทอญ... จากใจ รัตนาวดี emo_126 emo_116 ขอให้คุณพ่อของคุณพีรพีกาญจน์ จงหายเป็นปกติด้วยเทอญ...ว่าแต่ว่า อยากทราบเรื่องราวต่อจ้า... emo_50 emo_126 (http://www.thaiblogonline.com/members/NEE/comment_53_03_02_12_ice56.jpg) ขอบคุณภาพจากอินเทอร์เน็ตค่ะ หัวข้อ: Re: ๐ ครั้งหนึ่งในชีวิต ๐ เริ่มหัวข้อโดย: muneenoi ที่ 30 มิถุนายน 2014, 01:31:AM (http://www.picdee.com/images/2014/06/30/23606438861ow2E.jpg) (http://www.picdee.com/images/2014/06/30/467980r81re9x9kmXBju3.gif) อ่านเรื่องจริงอิงหลักชักน่าสน บุญบันดลหนนี้จึงมีหวัง บุญมีส่วนช่วยมากจากที่ฟัง เป็นพลังหนุนเนื่องเปลื้องโรคา สมัยตอนเป็นเณรเคยเห็นอยู่ มีหลวงปู่ท่านนำธรรมรักษา อุปัฏฐากใกล้ชิดเลยติดตา แค่น้ำมาใส่ขันหมั่น"พุทโธ" โรคที่หมอไม่รับกลับหายได้ อัศจรรย์เหลือใจฤทัยโอ้ แค่รำลึกพุทธคุณอุ่นมโน น้อมนะโมอาบกินสิ้นโรคี ท่อง"พุทโธ" มือจุ่มน้ำใครทำได้ ขอเพียงใจตั้งมั่นขั้นวสี แต่ศีลห้าต้องครบจบวิธี จึงจะมีมนต์ขลังพลังยา วันแรกปู่พานำพร้อมทำให้ วันต่อไปทำเองจนเก่งกล้า จนบรรจบครบนับสัปดาห์ จึงจะมาให้ปู่ดูอีกที ทำไปเรื่อยจนหายสลายโรค มิใช่โชคบังเอิญแล้วเดินหนี ปู่ท่านบอกส่วนมากวิบากมี จากกรรมที่ก่อไว้ให้ผลตาม กรรมหนักสุดต้องบวชอย่าอวดเก่ง ท่านให้เร่งภาวนาสิกขาสาม หญิงศีลแปดชายบวชพระพยายาม จึงจะข้ามโรคร้ายสลายกรรม ถ้าบาปไม่หนักมากหากเจ็บปวด จัดกองบวชหนึ่งกองต้องอย่างต่ำ หาคนบวชแทนได้ใจน้อมนำ พ้นจองจำจากเวรที่เล่นงาน หากถึงฆาตมาตรว่าอายุขัย ปู่จะไม่รักษาต้องลาผ่าน เป็นเกร็ดธรรมวันนี้ราตรีกาล ธรรมทานฝากท่านก่อนบรรทม emo_18 emo_126 "มุนีน้อย" (http://www.picdee.com/images/2014/06/30/467980r81re9x9kmXBju3.gif) หัวข้อ: Re: ๐ ครั้งหนึ่งในชีวิต ๐ เริ่มหัวข้อโดย: รัตนาวดี ที่ 30 มิถุนายน 2014, 03:28:AM (http://www.oknation.net/blog/home/blog_data/856/24856/images/Y7333684.jpg) ขอบคุณภาพจากอินเทอร์เน๊ตค่ะ ...กลอนหลวงพี่ ธรรมเทศน์ วิเศษยิ่ง มองหลายสิ่ง เป็นปลื้ม หายขื่นขม แต่มีสิ่ง ให้คิด จิตจวนตรม บุญใฝ่สม จึงฝาก อยากถามจัง... ...หญิงศีลแปด ช่วยไข ให้แจ่มแจ้ง ขอทราบแสง ศีลเพิ่ม เติมความขลัง รู้จักเพียง ศีลห้า มีหาฟัง ยามนี้นั่ง ฉงน ด้วยสนใจ... ...ศีลข้อหก, เจ็ด,แปด ในแวดล้อม ด้วยความพร้อม อยากรู้ อยู่หนไหน หญิงศีลแปด กล่าวเห็น เป็นเช่นไร ช่วยบอกให้ ทราบที สีการอ... รัตนาวดี emo_116 emo_50 รัตน์คงจะเชยล้าหลังมาก กราบนมัสการเจ้าค่ะ emo_126 หัวข้อ: Re: ๐ ครั้งหนึ่งในชีวิต ๐ เริ่มหัวข้อโดย: Prapacarn ❀ ที่ 30 มิถุนายน 2014, 08:36:AM (http://lotusflowerimages.com/Lotus_Flower_IMGP7600-650.jpg) ข้อที่หก..หลังเที่ยงเลี่ยงของหวาน งดน้ำตาล นี่ไม่ลวง..หลวงตาขอ ส่วนส้มตำ ทานได้..ใช้มะละกอ ถ้าห้อยจ๊อ..นิดเดียว เดี๋ยวลงพุง emo_85 ข้อที่เจ็ด ชอบมาก แซมอยากถือ นั่นก็คือ ให้สาวไทยใส่ผ้าถุง อากาศร้อน ถกเขมร..เต้นตะลุง หนังกลางทุ่ง ดูดี..ทีวีห้ามมอง emo_107 ข้อที่แปดยามนอน พักผ่อนร่าง ตากน้ำค้าง ชำระใจไม่หม่นหมอง ทั้งมุ้งหมอน..ที่นอนหลับ..ห้ามจับจอง นอนบนแคร่..นอกห้อง..ต้องตำรา emo_95 • ผู้ไม่ประสงค์จะออกนาม ( กลัวถูกเฆี่ยน )• emo_06 แซมขออภัยทุกๆท่านค่ะ.. แซมมาร่วมสนุกสนานเฉยๆ ไม่ได้ตั้งใจจะทำบาปค่ะ.. emo_126 หัวข้อ: Re: ๐ ครั้งหนึ่งในชีวิต ๐ เริ่มหัวข้อโดย: muneenoi ที่ 30 มิถุนายน 2014, 07:29:PM .....ฯลฯ..... ...ศีลข้อหก, เจ็ด,แปด ในแวดล้อม ด้วยความพร้อม อยากรู้ อยู่หนไหน หญิงศีลแปด กล่าวเห็น เป็นเช่นไร ช่วยบอกให้ ทราบที สีการอ... รัตนาวดี emo_116 emo_50 รัตน์คงจะเชยล้าหลังมาก กราบนมัสการเจ้าค่ะ emo_126 ศีลแปดไซร้ไม่ยากหากตั้งจิต เลี่ยงสิ่งผิดคิดตั้งสังวรหนอ เพราะศีลห้าหยาบไปไม่เพียงพอ จึงต้องต่อศีลเพิ่มเพื่อเติมบุญ เพียงเพิ่มจากศีลห้ามาสามข้อ ศีลแปดก็ครบองค์ดำรงสุนทร์ ข้อหก ห้ามมื้อเย็นจงเห็นคุณ ขจัดวุ่นการกินเคยยินดี ตอนหลังเที่ยงเลี่ยงอาหารคาวหวานหนัก ขันติจักจำเป็นเช่นศักดิ์ศรี ดื่มน้ำได้ไม่ห้ามตามบาลี สันตุฏฐีประดับไว้กับใจ ข้อเจ็ด ห้ามฟ้อนเต้นเล่นสนุก ประดับมุกหรือทองคล้องคอใส่ เครื่องประดับสร้อยแหวนแม้นกำไล อีกห้ามใช้ของหอมย้อมประทิน เครื่องสำอางค์ทุกชนิดล้วนผิดหลัก เพราะจะชักนำใจให้หลงสิ้น เสริมกิเลสตัณหาย้อมราคิน ชวนถวิลกลิ่นเสียงเพียงกามา ข้อแปด ห้ามนอนสูงใจมุ่งหมาย ระวังกายนอนนั่งเตียงตั่งหา ลดทิฏฐิกระด้างวางอัตตา ก่อนไสยาเข้มงวดตรวจบรรทม หมอนมุ้งนั้นสรรหาอนุญาต แต่เครื่องลาดอย่าคิดวิจิตรสม เป็นอยู่ง่ายหมายชอบสอบอารมณ์ ศีลจะบ่มกายใจให้เป็นบุญ ศีลข้อสามตามเพิ่มเสริมความอรรถ ศีลห้าชัดกาเมฯ เรื่องเมถุน กับคู่ครองไม่ผิดสัมฤทธิ์คุณ เพียงอย่าวุ่นกามาจนจาบัล แต่ศีลแปดห้ามชัดวิรัติต้อง กับคู่ครองก็ห้ามมิตามหัน เฉกภิกษุสามเณรเว้นเกี่ยวพัน พรหมจรรย์จึงผ่องมิหมองมัว ศีลแปดข้ออุโบสถดังพจน์ร่าย มีมากมายอานิสงส์ดำรงทั่ว เมื่อรักษ์ศีลศีลรักษ์เราอย่าเขลากลัว ผลกรรมชั่วอาจแพ้แก่ศีลธรรม หากว่าตัวเราดีมีศีลสัตย์ จะรู้ชัดกายใจไม่ตกต่ำ เพราะมีศีลคุ้มครอบดุจกรอบนำ มิถลำนอกทางสร้างบาปใด คำว่า"ศีล" แปลว่า "เย็น,เป็นปกติ" ต้นตอผลิกรรมงามอร่ามใส หากครอบคลุมลึกซึ้งถึงหทัย ประดับใจมีค่ากว่าอาภรณ์ emo_126 "มุนีน้อย" หัวข้อ: Re: ๐ ครั้งหนึ่งในชีวิต ๐ เชื่อหรือไม่ 2 เริ่มหัวข้อโดย: รพีกาญจน์ ที่ 01 กรกฎาคม 2014, 05:33:AM (http://t1.gstatic.com/images?q=tbn:ANd9GcQt2gBxHdHjC7eVKUv5u3aP0s0VkJ8QJVtZ1B7frHrsYklg-FdG) แผลพุพองผิวช้ำปริดำเขียว บวมเป่งห่อฝ่อเหี่ยวเล็กเรียวล่าง ที่ปวดเจ็บเหน็บกายก็คายจาง ครบเดือนย่างเยื้องไปได้เช่นเดิม .................................. หากเวรกรรมนำพาใช่ว่าจบ กี่ชาติภพแฝงลึกตามฮึกเหิม ขวัญเคยกล้าล้าอ่อนห่อนซ้ำเติม ต้องเพียรเพิ่มถือศีลยินดีทาน ปัจจัยสี่พลีจิตอุทิศแด่ ญาติพ่อแม่ล่วงลับดับสังขาร ส่งพ่อเกิดแม่เกิดเทิดวิญญาณ เจ้าคุ้มบ้านเทพกลางเบื้องล่างบน รินขันน้ำสรงพระพุทธรูป จุดเทียนธูปก้มกราบราบสามหน กล่าวขอพรวอนไหว้ไตรรัตน์ดล ทุกข์ผ่านพ้นพ่อพระสุขสบาย เช้าพร้อมพรักตักบาตรกรวดหยาดน้ำ เอ่ยพึมพร่ำยกยอขอถวาย ถึงเวไนยไวรัสสัตว์เร้นกาย เชื้อโรคร้ายว่ายวุ้นจุลินทรีย์ รับอาหารหวานคาวข้าวขนม ผลสุกส้มนมเนยใบเตยสี วางก่ายกองของทิพย์หยิบมากมี เพียงพอที่อิ่มหนำสำราญเริง ขอแลกหายคายคืนยื่นชีวิต ไปสถิตยางยูงดอยสูงเสิง แสงพระธรรมนำส่องก่องเถกิง คุณพ่อเถิงใสสดหมดเคราะห์ภัย รพีกาญจน์ (อ้ายหนานบอก ผมทำครับ) หัวข้อ: Re: ๐ ครั้งหนึ่งในชีวิต ๐ เชื่อหรือไม่ 3 เริ่มหัวข้อโดย: รพีกาญจน์ ที่ 02 กรกฎาคม 2014, 10:01:AM (http://t0.gstatic.com/images?q=tbn:ANd9GcQmmfI1SNvELAd9iOopAlsB-Vdfdj5q_YZbXtERVUHmJCr43f90UA) หมอโรงยามาตามถึงสามหน ยังสับสนครุ่นคิดวินิจฉัย รักษาแบบโบราณพื้นบ้านไทย วิธีใช้พอกทาเป่าอาคม ที่เจ็บปวดนวดคลึงตึงยานหย่อน น้ำอุ่นร้อนใส่ถุงยางวางประหงม กินยาผงสมุนไพรไล่เลือดลม ดื่มยาต้มขับพิษติดร่างกาย รำมวยไทยไม้พลองกระบองสั้น ทำทุกวันเช้าเย็นยืดเส้นสาย รวมกลุ่มก๊วนสรวลเสเฮสบาย เล่นละครฟ้อนฟายคลายกังวล ทำวัตรเช้าวัตรเย็นเป็นนิสัย ควบคุมใจสงบประสบผล ถือศีลห้าถ้าถึงแปดพึงยล สุดเลิศล้นทานสีละภาวนา เทศกาลงานบุญสุนทรศรี ร่วมยินดีอภิวาทศาสนา ช่วยแซมแต้มแต่งแหล่งวัดวา ขุดสระบ่อก่อศาลาพักริมทาง เป็นร่มโพธิ์ร่มไทรให้ลูกหลาน คอยทัดทานชี้แนวแถวสว่าง ช่วงสุดท้ายปลายค่อนก่อนวายวาง พ่อเพียรสร้างคุณงามและความดี รพีกาญจน์ หัวข้อ: Re: ๐ ครั้งหนึ่งในชีวิต ๐ เชื่อหรือไม่ 4 เริ่มหัวข้อโดย: รพีกาญจน์ ที่ 12 กรกฎาคม 2014, 05:25:PM (http://0.static-atcloud.com/files/comments/186/1861730/images/1_display.jpg) เกิดหนาวเหน็บเจ็บไข้ปวดได้ป่วย โรงหมอช่วยเยียวยาอย่างเต็มที่ อาจเป็นเพราะอาหารทานดื่มมี รสเผ็ดเปรี้ยวเค็มปี๋จี่คั่วแกง มิตระหนักจักข่มอารมณ์อยาก ท้องโครกครากรับของดองแสลง ปวดกระดูกไขข้อส่อสำแดง ต่อหน้าครับลับแรงแปลงแต่ใจ ปี 2542 เข้าพรรษา ลูกหลานมาเคารพนบกราบไหว้ พ่อรีบยืนมิฟังระวังไว ก้นตำใส่ไม้แฝกแตกกระจาย เอกซเรย์ภาพผลต้นขาหัก เข้านอนพักเดือนครึ่งถึงจะหาย มือจับไม้ค้ำยันพยุงกาย พอสบายปลายปีมีเรื่องราว ลื่นไถลหกล้มก้นจมอ่าง ต้นขาหักอีกข้างกลางหน้าหนาว เจอสองครั้งสังหรณ์เจ็บนอนยาว นานกว่าคราวสามปีที่ผ่านมา จิบเพียงคำน้ำเปล่าเข้าไปอ้วก มิสะดวกลำบากยากรักษา ร่างผอมแห้งแรงโหยอ่อนโรยรา ปฏิเสธข้าวปลายาน้ำเกลือ - ยังมีต่อ - หัวข้อ: Re: ๐ ครั้งหนึ่งในชีวิต ๐ เชื่อหรือไม่ 5 เริ่มหัวข้อโดย: รพีกาญจน์ ที่ 12 กรกฎาคม 2014, 06:01:PM (http://1.bp.blogspot.com/-UVdEfx_5Uns/UE1YFTE4g-I/AAAAAAAAAF8/JRNmCEbR8lk/s1600/DSC_6147.JPG) เรียกไม่ตอบตาพับนอนหลับต่อ เสียงลอดคอแผ่วเบาบอกเบื่อเบื่อ ความรู้สึกสุดกลั้นซิกสั่นเครือ เวลาเหลือถดถอยนับน้อยลง ปรึกษาหมอขอรับคืนกลับบ้าน เพื่อลูกหลานรักล้อมพร้อมประสงค์ เฝ้าดูใจใกล้ชิดก่อนปลิดปลง กล่าวนำส่งวิญญาณขานพุทโธ จมภวังค์บังเกิดประเสริฐฝัน หลากสีสันสามจุดพุ่งผุดโผล่ สงฆ์สาวกพุทธะพร่ำนะโม "บุญมากโขพ่อสร้างดีบางบรรพ์ เมื่อเวรกรรมมิหมดต้องชดใช้ ดั่งเทียนไขละลายด้ายหดสั้น จวนที่แสงแดงดับลับลงพลัน อาจจะทันช่วยพ่อต่อชะตา จงรีบทำพิธีพรุ่งนี้เช้า โดยให้เอารวมกันลูกชันษา คนละปีอายุขัยให้ชีวา ยอไหว้สาบูชิตสัมฤทธิ์ เทอญ" เห็นกับตาฟ้ามืดเลือนจืดแจ้ง สามโมงแลงจิบน้ำข้าวคำเกริ่น พอสามวันยันลุกจุกค่อยเดิน จึ่งจำเริญจนจบครบสามปี รพีกาญจน์ ตรุษจีน 2543 เอาอายุลูกสามคนๆละปีต่อให้พ่อ ตรุษจีน 2546 พ่อสิ้นชีวิต หัวข้อ: Re: ๐ ครั้งหนึ่งในชีวิต ๐ เชื่อหรือไม่ 6 เริ่มหัวข้อโดย: รพีกาญจน์ ที่ 14 กรกฎาคม 2014, 09:22:AM (https://scontent-a-sin.xx.fbcdn.net/hphotos-xpa1/t1.0-9/1795577_526019107506880_546041326_n.jpg) หลานคนโตเกิดปี 2540 ร่างอ้วนท้วนเพิ่มพูนบุญราศี มีนลออ ป.ปลา น่ารักดี แต่เกิดปี หนูดำ ต้องทำกิน ติดนิสัยยอดแย่แก้ไม่หาย คิดอุบายชักชวนล้วนเหลวสิ้น มักมันเนื้อเขี่ยตักผักลงดิน ข้าวน้ำผินเคี้ยวอมขนมกลืน เรียน ป.1 ซีดเผือดไร้เลือดฝาด ป่วยลาขาดแคระแกร็นแสนขมขื่น เดินย่องแย่งเซซังนั่งลุกยืน คนแตกตื่นตัวเย็นพับเป็นลม หมอบอกว่าสาเหตุเกล็ดเลือดต่ำ พร้อมแนะนำจำเพาะใดเหมาะสม หากมิหายผ่ายผอมถึงตรอมตรม อาจนอนซมแห้งเหือดเพราะเลือดจาง ทุกสัปดาห์พาไปตรงใบนัด พฤหัสเฝ้ารอหมอก่อนสาง ครบหนึ่งปีละลายหวังวายวาง ตรวจอาการทุกอย่างยังเช่นเดิม วันทำบุญร้อยวารทานให้พ่อ ก้มกราบขอครูบาปรุงยาเสริม "โรคสะป้าน"ฝานไพลน้ำใส่เติม ต้มสุกเพิ่มยาผงชงเช้าเย็น ลางเนื้อชอบลางยาคราหมดโศก ถูกกับโรคดีพลันทันตาเห็น กินข้าวลำน้ำลงตรงประเด็น ออกวิ่งเล่นกันเพื่อนเยือนเฮฮา สมุนไพรไทยช่วยชุบชีวิต เกล็ดโลหิตมากขึ้นกว่าหมื่นห้า สองสามแสนสูงเลื่อนเดือนต่อมา กราบขอบคุณครูบาเมตตาเอย emo_126 รพีกาญจน์ ปีนี้หลานคนโตกำลังเรียนชั้นมัธยมหกครับ หนูดำ - หนูกลางคืน ลำ - อร่อย หัวข้อ: Re: ๐ ครั้งหนึ่งในชีวิต ๐ เชื่อหรือไม่ 7 เริ่มหัวข้อโดย: รพีกาญจน์ ที่ 16 กรกฎาคม 2014, 05:53:AM (http://fb.sanook.com/static_content/full/diy_1/1938/1819938/8bfcbd6abd82318c46117551ea026bbe_1324697347.gif) ความวัวเพิ่งจะหายความควายแทรก อกจะแตกแน่แน่เจ้าแม่เอ๋ย พอได้ผ่อนนอนบ้างร่างเสบย มาละเหวยโรคามาระนาว มันบังเกิดกับแฟนแสนสนิท มดตะขิดในรูระดูขาว หมอตัดเศษชิ้นเนื้อเยื่อหนังคาว อัลตราซาวน์ภาพเห็นเป็นมะเร็ง นับโชคดีที่ปะระยะเริ่ม เชื้อไม่เพิ่มลามแพร่แค่ปวมเป่ง หมอลงมีดกรีดตัดมัดเย็บเอง ฝีมือเจ๋งบ่จอดรอดชีวา อีกผีซ้ำด้ำพลอยชะรอยโศก ปวดมะโหกชายโครงตรงล่างขวา ไห้ทุรนทุรายฟายน้ำตา หมอบอกว่านิ่วตุงถุงน้ำดี หายเป็นหายตายเป็นตายตัดหมอตัด จะนอนวัดนอนบ้านงานเดือนสี่ บทจะแย่แย่ซวยซวยทั้งปี พ้นเสียทีเคราะห์กรรมสุขสำราญ ก็เคร่งครัดคาบมื้อตามหมอสั่ง เฝ้าระวังเวลาน้ำอาหาร ยาก่อนหลังควบคู่เคี้ยวกลืนทาน บริการอย่างดีไม่มีท้อ... - ยังมีต่อครับ - หัวข้อ: Re: ๐ ครั้งหนึ่งในชีวิต ๐ เชื่อหรือไม่ 8 เริ่มหัวข้อโดย: รพีกาญจน์ ที่ 16 กรกฎาคม 2014, 11:21:AM (http://image.free.in.th/v/2013/tj/140716033741.jpg) หลังพักฟื้นคืนกายขายขนม คนกะทิผสมข้าวต้มห่อ ยินเสมอเธอบ่นปวดต้นคอ แถบด้านขวาชาต่อข้อเท้าเลย มือหยิบกำตำใดไร้รู้สึก เอาเข็มปักจึกจึกลึกยังเฉย อัมพฤกษ์อัมพาตอนาถเอย ยังไม่เคยพบเห็นโรคเช่นนี้ หมอนรองดูกกดเน้นเส้นประสาท อยากหายขาดอย่าช้าผ่าด่วนจี๋ ดูกคอออกสะโพกใส่สนิทดี เจ็บสองทีพร้อมกันเพียงวันเดียว โรคใหม่เก่าเข้ามาหลายครานับ ไม่ถึงกับขึ้นเขียงเตียงผ่าเสียว ไม่มากนักรักษาจ่ายยาเยียว สี่ครั้งเกี่ยวพังผืดยึดข้อมือ กว่าหมดเศร้าหมดโศกโรคปัญหา รับปู่ย่าเทพเทวีที่นับถือ รับเจ้าบ้านผ่านเมืองนามเลื่องลือ ปฏิบัติสัตย์ซื่อถือศีลทาน กว่าเก้าปีมีองค์เชิญทรงร่าง สรรพางค์ชีวิตจิตชื่นหวาน กว่าเก้าปีที่ไม่ไปโรงบาล ขอกราบกรานเถรอวยช่วยชี้ทาง emo_126 รพีกาญจน์ หัวข้อ: Re: ๐ ครั้งหนึ่งในชีวิต ๐ เชื่อหรือไม่ 9 เริ่มหัวข้อโดย: รพีกาญจน์ ที่ 05 สิงหาคม 2014, 06:41:PM จะจริงเท็จอย่างไรก็ไม่รู้ ขอเล่าสู่เพื่อนจิตมิตรสหาย คำผู้เฒ่าพื้นบ้านท่านทักทาย ถึงวอดวายตายตกยกกระบุง ทำเลดีที่เก่าโรงเหล้ากลั่น ต้มสุมไฟไล่ควันน้ำมันพุ่ง กากเน่าเสียเขี่ยถ่านกองดานดุ้ง คืนยันรุ่งมิพักลักลอบทำ อยู่กับไฟไอร้อนอ่อนเมื่อยล้า ผุดเต็มหน้าแขนเสื้อปากเหงื่อฉ่ำ ผิวเดิมขาววาววับกลับแดงดำ ถูกจองจำตำรวจหวดอาชญา หยุดรื้อร้างว่างเปล่าไร้เจ้าศาล เมื่อปลูกบ้านร้านลึกตึกคูหา ปิดครอบตอหม้อต้มเตาสุรา จะส่งผลทันตาอย่าคิดลอง ยกตัวอย่างอ้างเห็นเช่นวันนี้ ครอบครัวดีมีเรื่องเคืองระหอง ใช้ทางออกกรอกเหล้าเมาคะนอง รถตกคลอง,กินยาฆ่าแมลง เส้นเลือดแตก,ไตวาย,ตายเพราะเหล้า สี่ลูกเต้า เศร้าจับ พ่อตับแข็ง เหลือเพียงแม่ ไม่ดื่มลืมสำแดง เดินย่องแย่งแกว่งไกวไม้ค้ำยัน โลกก้าวหน้าพาเพลินเจริญวิทย์ เลิกยึดติดบูชาชะตาฝัน สิ่งลึกลับปรับรุกเพิ่มทุกวัน เชื่อหรือไม่สุดทั่นสรรเอาเอง emo_126 รพีกาญจน์ พ่อชื่อปัน แม่ชื่อบุตร มีลูกสี่คนชื่อผล หวาน เมฆ และโชติ ปลูกบ้านคร่อมโรงเหล้าที่รื้อแล้ว เดิมไม่ดื่มเหล้าแต่กลับเอาเหล้ามาดื่ม ครอบครัวนี้ตั้งอยู่ไม่ไกลจากบ้านกระผมมากนัก |