หัวข้อ: ...ว้าเหว่ในเคหา... เริ่มหัวข้อโดย: ส.เชื้อจันทร์ ที่ 23 พฤศจิกายน 2011, 06:54:AM ก. ปริมาณความเหงาของเพื่อน ฉันเดียวดายเหว่ว้า..........................สุดเหงา ถูกทุกข์บีบรัดเอา............................แทบดิ้น ทุกวันมีเพียงเงา.............................เป็นเพื่อน รักที่มีหมดสิ้น................................กู่ร้อง มิคืนฯ อยากได้ยินแว่วบ้าง........................เสียงโทร. วันล่วงร้องไห้โฮ............................ไป่เว้น ดวงใจคงพองโต............................คับอก หากว่ามิตรวิ่งเต้น...........................โผล่หน้า มาเยือน ฯ อยากมีใครเคียงข้าง.........................สักคน พอที่จะอดทน................................อยู่ด้วย ชีวิตที่มืดมน..................................นานเนิ่น คงสว่างตราบม้วย............................หมดสิ้น ความเหงาฯ ไฉนเหงาจึงแผ่เข้า..........................ดวงจิต ? นอนนิ่งสิงสถิตย์.............................ไป่ลี้ แสบทรวงดั่งถูกพิษ..........................แรงยิ่ง หากปล่อยไว้เช่นนี้...........................บ่พ้น เหงาตาย ฯ ความเหงาคือเพื่อนแท้......................จริงไหม? หลักฐานคืออะไร.............................ช่วยอ้าง ? เท็จจริงเป็นไฉน..............................วานบอก ? ฉันบ่อยากติดค้าง.............................เช่นนี้ ตลอดกาล ฯ ข. ตอบและให้กำลังใจ "เหงา"มาเมื่อไร้..............................คนเคียง ไปเมื่อมีเสียง..................................ออดอ้อน มาอีกเมื่อเตียง.................................หักล่ม และอยู่แทรกซ้อน.............................ชั่วฟ้า ดินสลาย ฯ ยามใดหากเพื่อนฟุ้ง...........................ในจิต "เหงา"ย่อมจะตามติด..........................ห่อนเว้น แนะนำรีบพึ่งมิตร...............................สักหนึ่ง คนนา หาไม่ใจหยุดเต้น...............................ช่วยแก้ ได้ไฉน ฯ ทำงานอย่าว่างเว้น..............................มิตรเอย ฝึกจิตให้คุ้นเคย.................................ค่ำเช้า มินานสุขงอกเงย................................แทนที่ "เหงา"น่าจะบ่เฝ้า...............................ทู่ซี้ รบกวน ฯ หวัง "เหงา" จะผ่านพ้น.......................เร็ววัน จิตร่าเริงสุขสันต์................................ไป่เศร้า เบิกบานรับเหมันต์..............................เย็นชื่น มีแต่สุขยั่วเย้า...................................หยอกล้อ นิรันดร์ ฯ ...ส.เชื้อจันทร์... ช่วงอรุณกำลังไขแสงเพื่อแสดงทิวา หมายเหตุ. โคลงชุดนี้ เขียนเพื่อมิตรคนหนึ่งซึ่งกำลังถูกความเหงาท่วมทับจิต เขียนเสร็จครั้งแรกเมื่อ ๑๓ พ.ย. ๕๔ เพิ่มเติมและปรับปรุงเมื่อ เช้าหกโมงกว่าๆของวันที่ ๒๓ พ.ย. ๒๕๕๔ หัวข้อ: Re: ...ว้าเหว่ในเคหา... เริ่มหัวข้อโดย: ส.เชื้อจันทร์ ที่ 26 พฤศจิกายน 2011, 07:14:PM มวลมิตรยกนิ้วให้..............ขอบคุณ มากเฮย เป็นดั่งยาเจือจุน...............ข้าน้อย ขออ้างผลบุญ..................สร้างแต่ เพรงนอ โปรดช่วยติดตามต้อย..........ชะล้าง โศกตรมฯ ...ส.เชื้อจันทร์... หัวข้อ: Re: ...ว้าเหว่ในเคหา... เริ่มหัวข้อโดย: รพีกาญจน์ ที่ 28 พฤศจิกายน 2011, 05:35:AM เหลาดินสอ จ่อจุด สมุดขาว เล่าเรื่องราว กลอนกานท์ เริ่มงานเขียน ระยิบระยับ พับตา หน้าแสงเทียน เงาวนเวียน เป็นปื้น เลื่อนขึ้นลง แขวนข้างฝา นาฬิกา เวลาทุ่ม ยินประชุม ทำนอง สวดของสงฆ์ เคาะระฆัง กังวาน สะท้านดง จิ้งหรีดส่ง เสียงร้อง ก้องพนา ไฟสุมฟาง ข้างคืน เลยดื่นดึก ดุ้นฟืนสึก ถ่านเทา เถ้าถมท่า น้ำค้างย้อย ปรอยปราย จากชายคา แวบ.นกป่า ร่าเริง ล้อเพลิงแดง หอนโหยหวน ทวน.ทับ รับร้องทอด เสียงเส่าสอด มอ.มอ วัวรอแหล่ง ฟ้ามืดมิด จิตวิญญาณ หาญแสดง แว่วสาปแช่ง เสือลาก.รีบจากไป เย็นยะเยือก เกลือกกาย สายลมล่อง มือตระกอง อุ่นอก วิโยคไหว ไก่ขับขัน กระชั้นเสียง สำเนียงไกล หริ่งเรไร สรรพสัตว์ สงัดพลัน ยังคงนั่ง หน้าคอม จ่อมจิ้มศัพท์ หาวปะหงับ ตาลาย มือไม้สั่น รีบเสร็จก่อน อ่อนแรง.แสงตะวัน คนชอบฝัน อยู่เดียว เปลี่ยวใจกาย รพีกาญจน์ 59 หัวข้อ: Re: ...ว้าเหว่ในเคหา... เริ่มหัวข้อโดย: รัตนาวดี ที่ 28 พฤศจิกายน 2011, 10:50:AM ...ความว้าเหว่ พเนจร เล่นซ่อนหา ความเหงามา แทรกชวน จนหวลไห้ ความหนาวห่วง หน่วงพา ให้อาลัย ความหมองคลุม ครอบไว้ ฤทัยครวญ... ...คงวันหนึ่ง ประสบ พบคนใช่ แล้วดวงใจ ไม่ตรม ระทมหวล เขาคนนั้น มั่นหทัย ไม่เรรวน ช่วยตัดตรวน ว้าเหว่ ทิ้งเท่ไกล... รัตนาวดี หัวข้อ: Re: ...ว้าเหว่ในเคหา... เริ่มหัวข้อโดย: yaguza ที่ 28 พฤศจิกายน 2011, 10:53:AM เหลาดินสอ จ่อจุด สมุดขาว เล่าเรื่องราว กลอนกานท์ เริ่มงานเขียน ระยิบระยับ พับตา หน้าแสงเทียน เงาวนเวียน เป็นปื้น เลื่อนขึ้นลง แขวนข้างฝา นาฬิกา เวลาทุ่ม ยินประชุม ทำนอง สวดของสงฆ์ เคาะระฆัง กังวาน สะท้านดง จิ้งหรีดส่ง เสียงร้อง ก้องพนา ไฟสุมฟาง ข้างคืน เลยดื่นดึก ดุ้นฟืนสึก ถ่านเทา เถ้าถมท่า น้ำค้างย้อย ปรอยปราย จากชายคา แวบ.นกป่า ร่าเริง ล้อเพลิงแดง หอนโหยหวน ทวน.ทับ รับร้องทอด เสียงเส่าสอด มอ.มอ วัวรอแหล่ง ฟ้ามืดมิด จิตวิญญาณ หาญแสดง แว่วสาปแช่ง เสือลาก.รีบจากไป เย็นยะเยือก เกลือกกาย สายลมล่อง มือตระกอง อุ่นอก วิโยคไหว ไก่ขับขัน กระชั้นเสียง สำเนียงไกล หริ่งเรไร สรรพสัตว์ สงัดพลัน ยังคงนั่ง หน้าคอม จ่อมจิ้มศัพท์ หาวปะหงับ ตาลาย มือไม้สั่น รีบเสร็จก่อน อ่อนแรง.แสงตะวัน คนชอบฝัน อยู่เดียว เปลี่ยวใจกาย รพีกาญจน์ 59 มีเวลา ชั่วครู่ ดูไม่มาก ว่างเว้นจาก การสอน เมื่อตอนสาย เข้ามาอ่าน กลอนรพี ท่านพี่ชาย รีบตะกาย ต่อคำ ลำนำกลอน ยังไม่เสร็จ มรูฟไว้ ต้องไปต่อ เด็กมารอ หน้าเง้า ให้เราสอน ทำหน้าที่ ก่อนหนา จำลาจร พักไว้ก่อน แป๊บเดียว ประเดี๋ยวมา เสร็จจากงาน ประจำ ทำหน้าที่ จรลี เปิดหน้าจอ มารอท่า ก้มหน้าจิ้ม พิมท์ซ้ำ ไม่นำพา สุขอุรา เหลือเกิน จำเริญใจ ......ยากูซ่า...... หัวข้อ: Re: ...ว้าเหว่ในเคหา... เริ่มหัวข้อโดย: Prapacarn ❀ ที่ 28 พฤศจิกายน 2011, 11:24:AM (http://www.qzub.com/bar_137.gif) (http://www.qzub.com) คล้ายทะเล เหว่ว้า ยามฟ้าหงอย คลื่นก็พลอย ซวนซบ สลบไสล เมฆสีเทา ลอยฟ่อง เป็นของใคร จงลอยไป ไกลไกล อย่าแวะมา เท่าที่เป็น เช่นนี้ เกือบซี้แล้ว เหมือนดวงแก้ว เคว้งคว้าง กลางเวหา ลอยล่องลม ชมดาว หนาวอุรา มีความบ๊อง และบ้า เป็นอาภรณ์... (http://www.qzub.com/bar_126.gif) (http://www.qzub.com) ขออภัย...กะแช่หนักไปหน่อย.... "ประภาคาร" emo_84 emo_84 emo_84 |