พิมพ์หน้านี้ - อยากขอคืน

ชุมชน บ้านกลอนไทย ชุมชนสำหรับคนไทยผู้รักกลอน

บทประพันธ์กลอนและบทกวีเพราะๆ => ห้องฝึกเขียนกลอนตามฉันทลักษณ์ => ข้อความที่เริ่มโดย: เพรางาย ที่ 23 พฤศจิกายน 2011, 05:21:AM



หัวข้อ: อยากขอคืน
เริ่มหัวข้อโดย: เพรางาย ที่ 23 พฤศจิกายน 2011, 05:21:AM


อยากขอคืน


ไม่มีแห่งหนตำบลบ้าน
ควรค่าแก่การถวิลหวัง
ให้หวนจิตจ่อรอเยือนยัง
ดุจดังเมืองแม่ที่เติบโต

ถิ่นไทยก่อเกิดประเสริฐศรี
แดนใดมากมีดีเก๋โก้
ซ่อนซุกกลไกใจเลโล
เผลอโผล่คมเขี้ยวขย้ำยับ

ธงไทยไกวแกว่งใจแห้งหาย
ยืนยันมุ่งหมายฝากกายกับ
เผลอพลัดซัดเซเร่นานนับ
ซึมซับโลกหลากอยากขอคืน

กลบทดำเนินนางสระ
เป็นกลบทกลอนเจ็ดซึ่งพบเฉพาะในจารึกวัดพระเชตุพนฯ  ส่วนใหญ่แล้วตำรากลบทที่เป็นแนวทางในการแต่งกลอนนั้นจะมาจากสองแห่งคือ กลบทศิริวิบุลกิตติ์กับจารึกวัดพระเชตุพนฯ  กลบทที่มีก็มักจะมีแต่งไว้เหมือนๆ กัน(แต่ต่างผู้แต่ง  ต่างชิ้นงาน) กลบทศิริวิบุลกิตติ์มักจะเป็นกลอักษรเพื่อสะดวกแก่การดำเนินเรื่อง  เพราะแต่งเล่าเรื่องเป็นเรื่องเดียวยาวตั้งแต่ต้นจนจบ  กลสระจึงมักพบในกลบทจารึกวัดพระเชตุพนฯ
กลบทดำเนินนางสระ  คล้ายคลึงกับ  กลบทดวงเดือนประดับดาวคือ เล่นสัมผัสอักษรสามแห่งที่สามช่วงจังหวะของคำ  แต่กลบทดำเนินนางสระนั้นผังบังคับจะเป็น

๑ ๑     ๒ ๒     ๓ ๔ ๔
คือคำที่หนึ่งและสองต้องใช้พยัญชนะต้นเสียงเดียวกัน  คำที่สามและสี่ใช้พยัญชนะต้นเสียงเดียวกัน(ที่ต่างจากช่วงแรกหรือสองคำแรก) คำที่ห้าใช้พยัญชนะต้นเสียงอื่นที่ควรจะไม่ซ้ำกับช่วงที่สอง(และสองคำหลัง)  คำที่หกและเจ็ดใช้พยัญชนะต้นเสียงเดียวกัน

ส่วนกลบทดวงเดือนประดับดาวนั้น  ผังบังคับคือ
๑ ๑   ๒ ๒   ๓ ๓ ๓
คำที่ใช้พยัญชนะต้นเสียงดียวคู่กันคือคำที่หนึ่งและสอง  คำที่สามและสี่  ส่วนช่วงสุดท้ายทั้งสามคำต้องใช้พยัญชนะต้นเสียงเดียวกันทั้งหมด