พิมพ์หน้านี้ - น้ำตาจระเข้

ชุมชน บ้านกลอนไทย ชุมชนสำหรับคนไทยผู้รักกลอน

จิปาถะ => ห้องนั่งเล่น => ข้อความที่เริ่มโดย: พรายม่าน ที่ 23 พฤศจิกายน 2011, 02:06:AM



หัวข้อ: น้ำตาจระเข้
เริ่มหัวข้อโดย: พรายม่าน ที่ 23 พฤศจิกายน 2011, 02:06:AM

น้ำตาจระเข้

อิทิสังฉันท์ ๒๐

๐ เดิมก็ปรักบุปูนตะปุ่มตะป่ำ      ตะข่ายชะโงกกรุเงื่อนชะง้ำ
ตะไคร่เขียว
๐ ทั้งตะโขงตะกวดจะกรูจะเกรียว   มิไยขยาดแขยงอึเยี่ยว
ก็ทนเอา
๐ ไหนจะรอบแสดงตะแบงเขย่า      วิชาทยอยชะรอยป๊ะเย้า
ริสอนมา
๐ แดดก็ร้อนจุปากระบมจะอ้า      ทะลึ่งขยับกะโหลกผวา
มุขวางฟัน
๐ ครั้นจะงับฉะฉับสลับขยั้น      ขมองกะลาก็คงสะบั้น
ละเลงลาน
๐ ทรมานกระนั้นลุวันประหาร      กะโครงกระดูกรึเศษประทาน
ประทังตาย
๐ พอพิรุณกระหน่ำนทีสยาย      ทะลักกระโจนทะลุทลาย
พระการุณย์
๐ บ่อก็ล้นละลอกกระสอบก็หมุน      ระดับพะเนินก็เกินจะดุน
ประคองดิน
๐ เทพแหละทรงพระเนตพระเลศกสิณ   ประสิทธิ์วิธีระวีกระบิล
ผิเวไนย
๐ แหวกกระแสยะเยียบชอุ่มไสว      มิต้องพะวงวิถีประลัย
ณ ทาสเทียร
๐ แต่มนุษย์ก็ยังมิสร่างเกษียณ      ตระหนี่ดนูบิบ้าจะเบียน
ตะบึงโกย
๐ ชีพกระชากถะถั่งกระสุนประโปรย   มิใช่เพราะหิวละเหี่ยระโหย
จะเอาเฮ
๐ เชือกสะบัดกระหวัดตะพักกระเท่   ระเนนระบมทุลักทุเล
ทุเรศรัด
๐ โถ สนุกกะน้ำมิยังถนัด      วิเวกกถาก็ยังมิชัด
จะขับชม
๐ คงละอองสุรีย์กระเซ็นผสม      ผละนัยนาระรินระทม
มิใช่ใจ


พรายม่าน
สันทราย
๒๓.๑๑.๕๔


หัวข้อ: Re: น้ำตาจระเข้
เริ่มหัวข้อโดย: พรายม่าน ที่ 23 พฤศจิกายน 2011, 11:43:PM

ตะเข้ก็ดี

อีทิสังฉันท์ ๒๐

๐ เอ้า ตะพาบตะโขงจะโยงจะว่า      หะเอี้ยก็ได้อะไรจะคว้า
มิว่ากัน
๐ สู้ตะกุยปะเลงเขย่งขยัน      ปะติดปะต่อประสมประชัน
ก็ เป็นศรี
๐ ถ้าจะใช่ตะเข้ก็เห็นจะดี      ขย้ำมนุษย์ทุศีลตะกี้
สิก่อนตาย
๐ พออุทกจะท่วมวิมานสลาย      พริอุสกะปอร์ชก็จมกระจาย
ณ ทางธาร
๐ ธรรมชาติวิสัยสระบึงละหาน      จะขุ่นจะหลากก็คือวิมาน
ตะเข้ปลา
๐ แต่มนุษย์ละโมบจริตผวา      กะคลองก็ถมถล่มพนา
ขยายเมือง
๐ ถ้าจะตายประโยชน์สิยังมิเปลือง   ตะโหนกกะหนังมลังเมลือง
ก็ ขอเป็น

พรายม่าน
สันทราย
๒๓.๑๑.๕๔


หัวข้อ: Re: น้ำตาจระเข้
เริ่มหัวข้อโดย: บัณฑิตเมืองสิงห์ ที่ 24 พฤศจิกายน 2011, 05:53:PM
อีทิสังฉันท์ ๒๐

๏ สองตะเข้จะกัดกระสินธุ์กระเซ็น     ก็คงประดุจละอองยะเย็น
ยะเยือกกาย
๏ เรามนุษย์สิดูก็รู้ปะร้าย     กระชากกระหวัดอุทกกระจาย
ตะหลิ่งพัง
๏ โอ้มหาสมุทรจะหยุดพลัง     ก็ยากสิเกินพละกระมัง
เจอะกุมภีร์
๏ เฮ่อ!พิโธ่จะชมกะยุทธวิธี     ตะเข้จะปล้ำกระเซิงนที
ริสังหาร
๏ เราสิขอยะย่องยะยองและคลาน    เพราะเกิดจะกลัวกะวาย ณ ปราณ
ตะเข้กิน

 emo_68


บัณฑิตเมืองสิงห์


หัวข้อ: Re: น้ำตาจระเข้
เริ่มหัวข้อโดย: พรายม่าน ที่ 24 พฤศจิกายน 2011, 10:59:PM

ตะเข้ - คน

กุสุมิตลดาเวลลิตาฉันท์ ๑๘

๐ อ้าบัณฑิตผู้หยั่งลุภวะคณิติน      สัตว์ผิเกลือกดิน
ฤ กลัวแรง
๐ เพียงผู้ยากอยากพ้นวกะแสยะแสยง   ทุกข์จะซ้ำแซง
วิบากมา
๐ โหดร้ายหรือเท่าปลายปรินขอสุรา   แห่งอวิชชา         
มนุษย์นั้น
๐ แม้พังเพยยิ่งยังทะลุมุกุมิพรั่น      ว่าตะเข้ดัน
มิเคยโศก
๐ เทียบตนผู้ล่วงร้ายริดุจประทุโลก   เล่ห์อุปโลกน์
รึ เสียใจ
๐ ถึงแม้ไม่มีญาติสิอภิประลัย      กามนิตให้
ก็ พอรู้
๐ รู้คนอย่างคนคงกะคณะหิริดู      ฟาดพระแสงชู
ตะเข้อาย (อิอิ..)

พรายม่าน
สันทราย
๒๔.๑๑.๕๔


หัวข้อ: Re: น้ำตาจระเข้
เริ่มหัวข้อโดย: บัณฑิตเมืองสิงห์ ที่ 25 พฤศจิกายน 2011, 01:23:AM
กรรมตะเข้

กุสุมิตลดาเวลลิตาฉันท์ ๑๘

๏ หนอท่านพรายม่านกล่าวมนุษยดนู     ไร้หิรีดู
วะ โหดร้าย!
๏ ง้างขรรค์ชูคิดแทงกุมภิลหมาย     ฆาตตะเข้ตาย
ณ เชิงเนิน
๏ แต่เจ้านั้นใช่เลิศนรสิหเกิน     กว่ามนุษย์เหิน
พิภพจร
๏ ยังฆ่าช้างม้าวัวนรกระอุทอน     พลันจะริดรอน
เถอะ ชีวิน
๏ เช่นนี้ยังว่าบาปฤทุรยศกิน     เจ้าตะเข้ดิ้น
กระแด่วเวร ฯ

ปล. ตอนแรกมองผิด นึกว่าลงท้ายด้วย อู แหะๆ

 emo_87


บัณฑิตเมืองสิงห์