หัวข้อ: ๐ไม่มีบทกวีหวานที่บ้านฉัน๐ เริ่มหัวข้อโดย: อริญชย์ ที่ 07 พฤศจิกายน 2011, 12:49:PM ๐ไม่มีบทกวีหวานที่บ้านฉัน๐
๐บ้านฉันล้อมด้วยทุ่งหญ้าและนาข้าว นวลหมอกขาว พราวพร่าง น้ำค้างหอม เสียงหริ่งหรีดเรไร ไพรพนอม ตะวันอ้อมข้าวไป เพลงไก่กา ๐ไม่มีทิวสนตระการให้หว่านฝัน เพียงไม้พันธุ์ พื้นบ้าน ไม่หวานค่า ยอ, กระโดน , จิก ,ติ้ว , พลิ้วพนา เป็นผักป่า พาถวิล ท้องถิ่นไทย ๐มีเพียงห้วย ลำคลอง บ่อ หนองน้ำ ทะเลงาม เพียงฝัน ที่ฉันใฝ่ จินตนาการ ใบหลิว ปลิดปลิวไป แท้แล้วไซร้ มีเพียง แคเรียงราย ๐เป็นความจริง จำต้อง กลั่นกรองเขียน คล้ายวนเวียน ที่สุด ไร้จุดหมาย อาจบางใครเย้ยว่า ช่างน่าอาย แต่ฉันได้อยู่มาจนชาชิน ๐ไม่มีบทกวีหวานที่บ้านฉัน มีเพียงครรลองทุ่ง ผดุงถิ่น ไร้ยศศักดิ์นักคารมคมกวิน มีเพียงศิลป์พื้นบ้านสืบสานไทย ฯ อริญชย์ ๒๙/๑๐/๒๕๕๔ <iframe title="YouTube video player" class="youtube-player" type="text/html" width="480" height="390"src=" http://www.youtube.com/watch?v=psfDwgNXr0c#noexternalembed&feature=related&autoplay=1 (http://www.youtube.com/watch?v=psfDwgNXr0c#noexternalembed&feature=related&autoplay=1)" frameborder="0"></iframe> พนอม พจนานุกรม ฉบับราชบัณฑิตยสถาน พนอม พนอม ความหมาย [พะ] น. พนม, จอมเขาหรือที่มีพุ่มไม้, ใช้ พระนอม หรือ พระน้อม ก็มี. http://guru.sanook.com/dictionary/dict_royals/%E0%B8%9E%E0%B8%99%E0%B8%AD%E0%B8%A1/ (http://guru.sanook.com/dictionary/dict_royals/%E0%B8%9E%E0%B8%99%E0%B8%AD%E0%B8%A1/) หัวข้อ: Re: ๐ไม่มีบทกวีหวานที่บ้านฉัน๐ เริ่มหัวข้อโดย: สุวรรณ ที่ 07 พฤศจิกายน 2011, 01:21:PM มองหน้าบ้านลานล้อมด้วยฉางยุ้ง
หอมน้ำพริกผักบุ้ง เสียงเจียวไข่ ชวนท้องหิวหิ้วรอหนอนะใจ คอยเมื่อไหร่แม่เฒ่าบอกให้ทาน จดจดจ้องจ้องกับเสียงท้องร้อง แล้วมือก็ป่ายป้องแตะแก้มขาน ทันทีที่แม่เฒ่าจัดสำรับจาน รีบลุกคลานช่วยจัดถาดของกิน ลิ้มน้ำพริกอีกผักนานานั่น ยอดมันมันฉันชอบดอกกระถิน ปลาย่างนี่ก็อร่อยหรอยติดลิ้น ของทั้งหมดทั้งสิ้น นี้ฉันชอบ หัวข้อ: Re: ๐ไม่มีบทกวีหวานที่บ้านฉัน๐ เริ่มหัวข้อโดย: อริญชย์ ที่ 07 พฤศจิกายน 2011, 01:25:PM มองหน้าบ้านลานล้อมด้วยฉางยุ้ง หอมน้ำพริกผักบุ้ง เสียงเจียวไข่ ชวนท้องหิวหิ้วรอหนอนะใจ คอยเมื่อไหร่แม่เฒ่าบอกให้ทาน จดจดจ้องจ้องกับเสียงท้องร้อง แล้วมือก็ป่ายป้องแตะแก้มขาน ทันทีที่แม่เฒ่าจัดสำรับจาน รีบลุกคลานช่วยจัดถาดของกิน ลิ้มน้ำพริกอีกผักนานานั่น ยอดมันมันฉันชอบดอกกระถิน ปลาย่างนี่ก็อร่อยหรอยติดลิ้น ของทั้งหมดทั้งสิ้น นี้ฉันชอบ เห็นหลายบทพี่ สุวรรณ แต่ง(น่าจะเป็นฉันท์)นะ วันนี้ มาลุยลูกด้วยกันเลยนะพี่ สุวรรณ พูดถึงอาหารการกินบ้านนาแล้ว เอื๊อก ! น้ำลายไหลเน๊าะ emo_95 emo_84 emo_95 หัวข้อ: Re: ๐ไม่มีบทกวีหวานที่บ้านฉัน๐ เริ่มหัวข้อโดย: สุวรรณ ที่ 07 พฤศจิกายน 2011, 01:29:PM มองหน้าบ้านลานล้อมด้วยฉางยุ้ง หอมน้ำพริกผักบุ้ง เสียงเจียวไข่ ชวนท้องหิวหิ้วรอหนอนะใจ คอยเมื่อไหร่แม่เฒ่าบอกให้ทาน จดจดจ้องจ้องกับเสียงท้องร้อง แล้วมือก็ป่ายป้องแตะแก้มขาน ทันทีที่แม่เฒ่าจัดสำรับจาน รีบลุกคลานช่วยจัดถาดของกิน ลิ้มน้ำพริกอีกผักนานานั่น ยอดมันมันฉันชอบดอกกระถิน ปลาย่างนี่ก็อร่อยหรอยติดลิ้น ของทั้งหมดทั้งสิ้น นี้ฉันชอบ เห็นหลายบทพี่ สุวรรณ แต่ง(น่าจะเป็นฉันท์)นะ วันนี้ มาลุยลูกด้วยกันเลยนะพี่ สุวรรณ พูดถึงอาหารการกินบ้านนาแล้ว เอื๊อก ! น้ำลายไหลเน๊าะ emo_95 emo_84 emo_95 พี่เขียนฉันท์ไม่ค่อยเป็นหรอกค่ะ นานๆจะเขียนที หัวข้อ: Re: ๐ไม่มีบทกวีหวานที่บ้านฉัน๐ เริ่มหัวข้อโดย: Prapacarn ❀ ที่ 07 พฤศจิกายน 2011, 01:44:PM ๐ไม่มีบทกวีหวานที่บ้านฉัน๐ ๐บ้านฉันล้อมด้วยทุ่งหญ้าและนาข้าว นวลหมอกขาว พราวพร่าง น้ำค้างหอม เสียงหริ่งหรีดเรไร ไพรพนอม ตะวันอ้อมข้าวไป เพลงไก่กา ๐ไม่มีทิวสนตระการให้หว่านฝัน เพียงไม้พันธุ์ พื้นบ้าน ไม่หวานค่า ยอ, กระโดน , จิก ,ติ้ว , พลิ้วพนา เป็นผักป่า พาถวิล ท้องถิ่นไทย ๐มีเพียงห้วย ลำคลอง บ่อ หนองน้ำ ทะเลงาม เพียงฝัน ที่ฉันใฝ่ จินตนาการ ใบหลิว ปลิดปลิวไป แท้แล้วไซร้ มีเพียง แคเรียงราย ๐เป็นความจริง จำต้อง กลั่นกรองเขียน คล้ายวนเวียน ที่สุด ไร้จุดหมาย อาจบางใครเย้ยว่า ช่างน่าอาย แต่ฉันได้อยู่มาจนชาชิน ๐ไม่มีบทกวีหวานที่บ้านฉัน มีเพียงครรลองทุ่ง ผดุงถิ่น ไร้ยศศักดิ์นักคารมคมกวิน มีเพียงศิลป์พื้นบ้านสืบสานไทย ฯ อริญชย์ ๒๙/๑๐/๒๕๕๔ (http://t1.gstatic.com/images?q=tbn:ANd9GcQsnWxYcfRpIC_YhQLafuRiMUEaQcK9uFd6qRi3v-yY99rXgYcU) ไม่มีบท กวีหวาน ที่บ้านทุ่ง มีแต่ยุ้ง ข้าวเรียง..เถียงไม้ไผ่ มีไอ้ทุย ลุยตม เห็นถมไป มีหน่อไม้ แทงหน่อ แค่พอกิน มีดวงดาว พราวพราย ประกายพฤกษ์ และมีความ รู้สึก คนรักถิ่น มีตะวัน สีทอง ส่องแผ่นดิน อุ่นไอกลิ่น อวลรัก จากกองฟาง มีสายลม พรมพริ้ว เสียงหวิวหวีด มีขอบขีด ศีลธรรม จำไว้อ้าง มีแมกไม้ ขุนเขา แม้เงาจาง แต่ว่ารัก ไม่เคยร้าง จากห้วงใจ มีน้ำค้าง ยามเช้า ใต้เงาหมอก ทั้งมีดอก กันเกรา เจ้าบานใหม่ มีสายบัว ชูช่อ ล้อลมไกว มีเสียงไก่ ถี่กระชั้น วันมาเยือน แม้ไม่มี กวีหวาน ที่บ้านพี่ สิ่งที่มี ล้วนความหมาย มากมายเกลื่อน ขอแค่เปิด หัวใจ ให้เยี่ยมเยือน จะเห็นเรือน รักงาม ท่ามทุ่งทอง... (http://www.qzub.com/bar_011.gif) (http://www.qzub.com) แซมค่ะ.... (http://www.qzub.com/bar_138.gif) (http://www.qzub.com) หัวข้อ: Re: ๐ไม่มีบทกวีหวานที่บ้านฉัน๐ เริ่มหัวข้อโดย: อริญชย์ ที่ 07 พฤศจิกายน 2011, 02:09:PM บ้านเดี่ยวตั้งเด่นแต่เร้นหาย อยู่ภายในรั้วที่สูงลิ่ว คอนกรีตทึบทึมอึมครึมคริว ยวดยานแผดกริ้วกระหึ่มซอย ลานบ้านปูกระเบื้องรองเบื้องบาท ธรรมชาติเร้นหาย แหล่งใช้สอย จอดรถ ออกเข้า เงาริ้วรอย ดอกแดดค่อยค่อยประดับดวง ถุงทรายวางท่าข้างฝาท่อ ตั้งหน้าตารอพอให้ห่วง ยินว่าน้ำทุ่งมุ่งมาทวง ที่ในเมืองหลวง อีกไม่นาน เบิกฝูงอักขราคอยท่าน้ำ เริงระบำบางบ่นบนลานบ้าน ระยับแดดแผดเผาเร้ารำคาญ น้ำจ๋ามาผ่าน ท่วมซะที กามนิต ๗ พ.ย.๕๔ ป.ล. ในกรุงเทพฯ หลายที่รอคอยน้ำไปท่วมด้วยใจระทึก, ขออภัยที่ฉีกอารมณ์ไปคนละทาง emo_85 ให้ความรู้สึก คือ "บ้าน" ฮะ บ้านที่ถูกน้ำท่วมพาให้ใจรู้สึกซึม ๆ เศร้า ๆ ไม่น้อยเลยทีเดียว ขอบคุณที่ร่วมแต่งฮะ บ้านนี้ยินดีต้อนรับทุกท่าน และทุกบทกลอน emo_84 emo_126 emo_84 หัวข้อ: Re: ๐ไม่มีบทกวีหวานที่บ้านฉัน๐ เริ่มหัวข้อโดย: สล่าผิน ที่ 07 พฤศจิกายน 2011, 02:10:PM ลิ้มน้ำพริกอีกผักนานานั่น ยอดมันมันฉันชอบดอกกระถิน ปลาย่างนี่ก็อร่อยหรอยติดลิ้น ของทั้งหมดทั้งสิ้น นี้ฉันชอบ สุวรรณ ไร้กวีที่หวานที่บ้านฉัน เพียงสร้างสรรเอาเองเป็นเพลงปลอบ เสียงนกเขาเจ้าขันเหมือนมันมอบ เพลงประกอบบ้านนาชายป่าดง มีมะขามตามรั้วนั่นถั่วแระ นั่นเจ้าแกะแพะก็มีของพี่ส่ง นั่นควายเผือกเกลือกตมจมตัวลง ไก่ยังคงเขี่ยคุ้ยลุยสวนไป นั่นก็คนตกปลาหาอาหาร หวังที่บ้านมีปลามาทานได้ นั่นป้าณัชลุงยามาแต่ไกล คงถามไถ่หาหลานจากบ้านมา นั่นยายเมี้ยนตาม้วนชวนกันหลับ บ่ายแดดลับแมกไม้ใต้มะค่า ก่อนจะนอนตาม้วนนั่งมวนยา นี่คือลานบ้านนาที่ข้าฯเนา สล่าผิน หัวข้อ: Re: ๐ไม่มีบทกวีหวานที่บ้านฉัน๐ เริ่มหัวข้อโดย: กังวาน ที่ 07 พฤศจิกายน 2011, 06:46:PM ไม่มีบทกวีหวานที่บ้านฉัน ไม่มีฝันที่ดีเหมือนมีเขา ไม่มีแล้วแก้วตามาเป็นเงา ไม่มีเรามีเพียงฉันไม่ผันแปร มีแต่ทุกข์สุขหายกับสายฝน มีแต่ต้นไม้เหี่ยวเปลี่ยวดวงแข มีแต่ควายผู้เฒ่าเขาไม่แล มีเพียงแกกับกันมองจันทร์เพ็ญ ไม่มีเงินมีทองต้องหมองศรี ไม่มีขี่รถยนต์คนไม่เห็น ไม่มีรักปักใจให้ลำเค็ญ ไม่มีเอ็นดูเราต้องเข้าใจ มีแต่สาวชาวป่าน่าถนอม มีเนื้อหอมหน้านวลชวนหลงใหล มียิ้มหวานละมุนอุ่นละไม เอ๊ะ!ยังไงก็ยังมีดีเหมือนกัน หัวข้อ: Re: ๐ไม่มีบทกวีหวานที่บ้านฉัน๐ เริ่มหัวข้อโดย: อริญชย์ ที่ 10 พฤศจิกายน 2011, 06:30:PM ๐เพราะพี่เรา๐
ไก่กากบเกรียวกราว ยามเช้าตรู่ นกน้อยหนูในนา ต่างสลอน แสนสุขสมสืบสาน “ เพราะบ้านดอน” รักแรมรอนร้าวราน “เพราะบ้านนา” หมูหมาแมวมากมาย เดินรายล้อม คางคกค้อมโค้งควาย ตามชายป่า วัววิ่งวนวุ่นวาย “เพราะนายมา” น้องนำหน้าน่าหน่าย “เพราะนายมัน” ยามเย็นยุงเยอะแยะ มาแวะกัด ค่ำคืนคัดคำคม เพื่อขำขัน กอบเก็บเกี่ยวกลแก้ว “เพราะแล้วพลัน” ว่าแว่ววันวาวแวว “เพราะแล้วพอ” ดูโดดเดี่ยวเดียวดาย ทางสายรุ้ง ทั่วท้องทุ่งท้าทาย สูรย์ฉายต่อ ร้อยเรียบเรียงเร็วรี่ “เพราะพี่รอ” ลงเล่นล้อแล้วหลีกลี้ “เพราะพี่เรา” ฯ อริญชย์ ๑๐/๑๑/๒๕๕๔ ปล.ได้โปรดอย่าถือสานะฮะ เนื่องจากกำลังหัดเดินตามรอยเหล่ากวีที่อริญชย์นับถือว่าแต่งได้ไพเราะมาก ตามนี้จ้ะ http://www.klonthaiclub.com/index.php?topic=17516.msg138883#msg138883 (http://www.klonthaiclub.com/index.php?topic=17516.msg138883#msg138883) (ถ้าไม่หัดทำ ก็คงไม่เป็นละฮะ) ไม่กล้าลงที่นั่น เกรงไม่เพราะ ไม่ค่อยได้เรื่องเท่าไหร่ เลยเอามาลงที่บ้านตัวเองจ้ะ <iframe title="YouTube video player" class="youtube-player" type="text/html" width="480" height="390"src=" http://www.youtube.com/watch?v=orb7WXDLBDk#noexternalembed&autoplay=1 (http://www.youtube.com/watch?v=orb7WXDLBDk#noexternalembed&autoplay=1)" frameborder="0"></iframe> emo_126 emo_47 emo_126 หัวข้อ: Re: ๐ไม่มีบทกวีหวานที่บ้านฉัน๐ เริ่มหัวข้อโดย: สุนันยา ที่ 10 พฤศจิกายน 2011, 07:20:PM หวานหว่านวางวาดไว้ ในอักษร เก็บกานท์กลอนกล่อมกัน ในวันเหงา ยินยลเยื่อใยย้อน เพียงกลอนเบา ซ่อนซบเชาแซมแทรก เมื่อแรกรอ จะแจมเจ้าแจ่มแจ้ง ไม่แกล้งหลอก บางบทบอกเบี่ยงเบน ดั่งเข็นขอ คืบคลายค่อยคล้อยคำ ช้ำตัวงอ เนิ่นนานหนอนับแนว เป็นแถวกลอน เจ็บจนใจจะจาก ฝากคิดถึง ติดตราตรึงตามต้อย เหมือนคอยอ้อน สุดเศร้าสมสะสาง เพียงบางตอน โอบเอื้ออรเอออวย ด้วยคำนึง "สุนันยา" หัวข้อ: Re: ๐ไม่มีบทกวีหวานที่บ้านฉัน๐ เริ่มหัวข้อโดย: ♥ กานต์ฑิตา ♥ ที่ 10 พฤศจิกายน 2011, 07:39:PM (http://www.qzub.com/bar_042.gif) (http://www.qzub.com) มวลมิตรมีมากมาย...ชายและหญิง นั่งนึกนิ่งแน่นอน...อาทรถึง จัดแจงเจียรจารจด...บทกลอนตรึง คลุกคละคลึงคล้ายเคล้า...เหงาหัวใจ กลกานท์ก่อเกิดเก่ง...เลบงหัด เรียนรวบรัดเร่งรู้...ดูหลักได้ เตรียมตรึกตรองตรวจตรา...ภาษาไทย ฝึกฝักใฝ่ฝนฝา...ค้นคว้าเติม emo_106 "กานต์ฑิตา" ๑๐ พฤศจิกายน ๒๕๕๔ (http://www.qzub.com/bar_042.gif) (http://www.qzub.com) หัวข้อ: Re: ๐ไม่มีบทกวีหวานที่บ้านฉัน๐ เริ่มหัวข้อโดย: Prapacarn ❀ ที่ 11 พฤศจิกายน 2011, 09:11:AM (http://t1.gstatic.com/images?q=tbn:ANd9GcSh9t25Ed8lVjBMyMtrqKdvq-Wm5Lp6ANH8Z5e8CJnAjA5x-BAs) ไม่งดงาม งามงด บทบันทึก ความรู้สึก ซึ้งใจ ที่ใส่เสริม ก็งดงาม ตามจินต์ กวินเติม เป็นสิ่งเพิ่ม คุณค่า ราคาใจ ไม่อาจชั่ง,ตวง,วัด จัดระบบ กำหนดงบ ประมาณ มาสานใส่ ไม่อาจจัด เป็นมาตรา ค่าของไฟล์ รู้สึกได้ จากรอยยิ้ม ที่อิ่มปราง แม้ไม่มี กวีหวาน ที่บ้านพี่ แต่น้องนี้ เฝ้าเกาะจอ รอไม่ห่าง รอลิ้มรส บทกวี ที่พี่วาง อย่าเลือนลาง ห่างไกล ให้หลงคอย... (http://www.qzub.com/bar_011.gif) (http://www.qzub.com) แซมค่ะ emo_107 หัวข้อ: Re: ๐ไม่มีบทกวีหวานที่บ้านฉัน๐ เริ่มหัวข้อโดย: บ้านริมโขง ที่ 11 พฤศจิกายน 2011, 01:37:PM emo_54 emo_20 emo_54 ตั้งต่อเติมแต่งตาล..ส่งหวานให้ อวล-อบไออิงอุ่น..พ่อบุญเหลือ น้อยนึกในนงนุช...สะดุดเครือ จิตจึงเจือจ่อมจุก....ไร้สุขครอง คำคู่คนคือควร...มีส่วนเสริม พอกพูนเพิ่มพวกเพื่อน ..เหมือนสนอง หวานหวิวหวาดหวั่นไหว...ไม่สมปอง ครั้นคราครองครวญใคร่...ในการุณ. "บ้านริมโขง" emo_100 หัวข้อ: Re: ๐ไม่มีบทกวีหวานที่บ้านฉัน๐ เริ่มหัวข้อโดย: Prapacarn ❀ ที่ 11 พฤศจิกายน 2011, 02:27:PM (http://t0.gstatic.com/images?q=tbn:ANd9GcRYFpxJojHQeW1jCYsNd26h_jxvuJHB5dYC2h5p70onkIdk0S0P) จะจดจำแจ้งใจ ไม่ลืมหรอก บทบ่งบอกบำบัด จัดเกื้อหนุน หวานวาบหวิววอนว่า โปรดการุณ กลอนแกมกรุ่นกลมกล่อม ยอมสำนวน (http://www.qzub.com/bar_126.gif) (http://www.qzub.com) แซมค่ะ หัวข้อ: Re: ๐ไม่มีบทกวีหวานที่บ้านฉัน๐ เริ่มหัวข้อโดย: อริญชย์ ที่ 11 พฤศจิกายน 2011, 02:30:PM ๐ปิดตำนานรัก๐
(กลบทนกกางปีก) ๐เมื่อรักร้าวร้าวรักเจ็บนักจิต รักเป็นพิษ ใจเจ็บเจ็บใจแจ้ง สุดขมขื่นขื่นขมตรมระแวง พิษรักแรงชอกช้ำช้ำชอกใจ ๐มิใคร่รักรักใคร่ต่อไปแล้ว เจ็บจนแซ่ว ยิ้มฝืนฝืนยิ้มไหว เลิกซึ้งจิตจิตซึ้ง คิดถึงใคร เก็บหม่นใจ ยามทุกข์ทุกข์ยามเทียว ๐ขออยู่อย่างอย่างอยู่ไร้คู่รัก ไม่ใฝ่ฝัก ใจปล่อยปล่อยใจเปลี่ยว เลิกคิดหวังหวังคิด แม้นิดเดียว อยู่โดดเดี่ยวเช่นนี้นี้เช่นใคร ๐ขอสร้างสรรค์สรรค์สร้าง แนวทางที่ เป็นความดี ทางเดินเดินทางใหม่ ลืมคนลวงลวงคนให้หม่นใจ ไม่รักใคร รักหยุดหยุดรักเรา! ฯ อริญชย์ ๑๐/๑๑/๒๕๕๔ กลอนข้างบนของข้าพเจ้านี้ยังไม่แน่ใจว่าถูกต้องตามหลัก "กลอนกลบท" (แก้ไขแล้ว โปรดพิจารณาจ้ะ) ท่านที่ต้องการแนวทางแบบอย่างกลบทที่ถูกต้องควรถือเอาตามนี้ข้างล่างนี้จ้ะ http://www.klonthaiclub.com/index.php?topic=17529.msg138869#msg138869 (http://www.klonthaiclub.com/index.php?topic=17529.msg138869#msg138869) emo_126 emo_47 emo_126 หัวข้อ: Re: ๐ไม่มีบทกวีหวานที่บ้านฉัน๐ เริ่มหัวข้อโดย: Prapacarn ❀ ที่ 11 พฤศจิกายน 2011, 03:15:PM (http://t0.gstatic.com/images?q=tbn:ANd9GcS6N031Zpv6wZJEiwHXQxWQkFMUIRbWywF_AtmDKQUG8kSS3KW1eg) ไย น้อยใจ ใจน้อย ถอยทัพเล่า น้อง คอยเฝ้า เฝ้าคอย ละห้อยหา มา จืดจาง จางจืด ทำชืดชา น้อง นิ่วหน้า หน้านิ่ว นึกฉิวแทน ขอ วอนรัก รักวอน อ้อนนะคะ อย่า เลยละ ละเลย เคยหนุนแขน ค่ำ นี้หนาว หนาวนี้ ขอพี่เป็นแฟน ใจ หนักแน่น แน่นหนัก น้องรักจริง อยาก ออดอ้อน อ้อนออด ขอกอดนิด เข้า ใจผิด ผิดใจ ไยเกรงกริ่ง หรือ ใครรัก รักใคร มีใหม่อิง จึง ขว้างทิ้ง ทิ้งขว้าง รักห่างไกล (http://www.qzub.com/bar_140.gif) (http://www.qzub.com) แซมค่ะ emo_107 emo_107 emo_107 อ้าว !.... แซมก็เขียนตามพี่อริฯ นั่นแหละ.... (เดินตามหลังผู้ใหญ่ไงคะ.... emo_85) emo_106 แน๊ !.. พี่อริฯ แอบมาเปลี่ยนท่อนจบเมื่อไหร่คะ... แซมตกสัมผัสเลย.. ปวดหัวแล้วนะ.... emo_61 หัวข้อ: Re: ๐ไม่มีบทกวีหวานที่บ้านฉัน๐ เริ่มหัวข้อโดย: อริญชย์ ที่ 11 พฤศจิกายน 2011, 03:38:PM ([url]http://t0.gstatic.com/images?q=tbn:ANd9GcS6N031Zpv6wZJEiwHXQxWQkFMUIRbWywF_AtmDKQUG8kSS3KW1eg[/url]) ไย น้อยใจ ใจน้อย ถอยทัพเล่า น้อง คอยเฝ้า เฝ้าคอย ละห้อยหา มา จืดจาง จางจืด ทำชืดชา น้อง นิ่วหน้า หน้านิ่ว นึกฉิวแทน ขอ วอนรัก รักวอน อ้อนนะคะ อย่า เลยละ ละเลย เคยหนุนแขน ค่ำ นี้หนาว หนาวนี้ ขอพี่เป็นแฟน ใจ หนักแน่น แน่นหนัก น้องรักจริง อยาก ออดอ้อน อ้อนออด ขอกอดนิด เข้า ใจผิด ผิดใจ ไยเกรงกริ่ง หรือ ใครรัก รักใคร มีใหม่อิง จึง ขว้างทิ้ง ทิ้งขว้าง รักห่างไกล ([url]http://www.qzub.com/bar_140.gif[/url]) ([url]http://www.qzub.com[/url]) แซมค่ะ emo_107 emo_107 emo_107 อ้าว !.... แซมก็เขียนตามพี่อริฯ นั่นแหละ.... (เดินตามหลังผู้ใหญ่ไงคะ.... emo_85) emo_106 แน๊ !.. พี่อริฯ แอบมาเปลี่ยนท่อนจบเมื่อไหร่คะ... แซมตกสัมผัสเลย.. ปวดหัวแล้วนะ.... emo_61 ขออภัยจ้ะ เตาะแตะด้วยกันนะ อิอิ emo_95 emo_84 emo_95 หัวข้อ: Re: ๐ไม่มีบทกวีหวานที่บ้านฉัน๐ เริ่มหัวข้อโดย: อริญชย์ ที่ 11 พฤศจิกายน 2011, 04:03:PM ๐ปิดตำนานรัก๐
(กลบทอักษรนกกางปีก) ๐เมื่อ รักร้าว ร้าวรัก เจ็บนักจิต แผล รักพิษ พิษรัก ประจักษ์แจ้ง สุด ขมขื่น ขื่นขม ตรมระแวง พิษ รักแรง แรงรัก เจ็บนักใจ ๐มิ ใคร่รัก รักใคร่ ต่อไปแล้ว เจ็บ จนแป้ว แป้วจน เกินทนไหว เลิก ซึ้งจิต จิตซึ้ง คิดถึงใคร เก็บ หม่นใจ ใจหม่น เพียงคนเดียว ๐ขอ อยู่อย่าง อย่างอยู่ ไร้คู่รัก ไม่ ใฝ่ฝัก ฝักใฝ่ ปล่อยใจเปลี่ยว เลิก คิดหวัง หวังคิด แม้นิดเชียว อยู่ โดดเดี่ยว เดี่ยวโดด ไม่โทษใคร ๐ขอ สร้างสรรค์ สรรค์สร้าง แนวทางที่ เป็น ทางดี ดีทาง กระจ่างใส ลืม คนลวง ลวงคน เจ็บล้นใจ ไม่ รักใคร ใครรัก เราจักลา! ฯ อริญชย์ ๑๐/๑๑/๒๕๕๔ เห็นเขาวางแบบไว้ดังนี้จ้ะ (น่าจะได้ทั้งสองอย่างนะ) (กรุณากดดูเวบ) http://www.rukklon.com/index.php?topic=2282.0 (http://www.rukklon.com/index.php?topic=2282.0) การแต่ง : ในวรรคหนึ่งๆ ท่านเขียนไว้เพียง ๕ – ๖ คำ เมื่ออ่านถึงคำที่ ๓ แล้วจึงต้องอ่านซ้ำถอยหลังเข้ามาอีก ๒ คำ แล้วจึงอ่านต่อไปจนจบวรรค ดังรูป... ตัวอย่างคือ........... ฝันอยู่ไกล .. สู่ปลายฟ้า จักก้าวท้า .. อย่างห้าวหาญ ฟันบุกฝ่า .. ทุกภัยพาล แม้รอนราน .. มิอ่อนแอ เวลาอ่าน........... ฝันอยู่ไกล ไกลอยู่ สู่ปลายฟ้า จักก้าวท้า ท้าก้าว อย่างห้าวหาญ ฟันบุกฝ่า ฝ่าบุก ทุกภัยพาล แม้รอนราน รานรอน มิอ่อนแอ ต่อไปนี้จะเขียนเพียง ๖ คำ เว้นไว้ ๒ คำ เพื่อให้ท่านเติมเอาเอง ตามแบบที่ได้อธิบายไว้แล้วนั้น หัวข้อ: Re: ๐ไม่มีบทกวีหวานที่บ้านฉัน๐ เริ่มหัวข้อโดย: my smile ที่ 11 พฤศจิกายน 2011, 04:46:PM (http://www.qzub.com/bar_116.jpg) (http://www.qzub.com) อยากลองเขียน.บทกลอน.ที่หวานหวาน แต่คำกานต์.มันอ่อน.จนปวดหัว เรื่องรักรัก.ใคร่ใคร่.ก็ไกลตัว ยิ้มไปทั่ว.อัธยาศัยดี.หวานไม่เป็น เป็นหนึ่งในล้าน.คนหนึ่ง.ที่ขาดรัก มีแต่กลอน.อกหัก.เวียนให้เห็น บ้างก็เศร้า .เหงา .หงอย. น้ำตากระเด็น หวานไม่เป็น.ใครเขาจะมองเห็น.อยู่ในช่วงขาดรัก.มาเจือจุน (http://www.qzub.com/bar_118.gif) (http://www.qzub.com) หัวข้อ: Re: ๐ไม่มีบทกวีหวานที่บ้านฉัน๐ เริ่มหัวข้อโดย: รุ่งอรุณ ที่ 11 พฤศจิกายน 2011, 09:06:PM (http://www.qzub.com/bar_007.gif) (http://www.qzub.com) อยากจะเขียนบทกวีที่ซึ้งซ่าน แต่น้ำตาลไม่มีเอาที่ไหน บทกวีจึงจืดชืดรสไป มิหวานในใจคนอย่างจนใจ อยากจะเขียนบทกวีที่จับจิต ฝีมือติดอันดับวางปั๊บได้ แต่ที่บ้านหวานเบื่อเกลือชอบไง หวานจึงไม่มีหรอกบอกอริญชย์ emo_107 ๐รุ่งอรุณ๐ (http://www.qzub.com/bar_007.gif) (http://www.qzub.com) หัวข้อ: Re: ๐ไม่มีบทกวีหวานที่บ้านฉัน๐ เริ่มหัวข้อโดย: อริญชย์ ที่ 11 พฤศจิกายน 2011, 09:39:PM ([url]http://www.qzub.com/bar_007.gif[/url]) ([url]http://www.qzub.com[/url]) อยากจะเขียนบทกวีที่ซึ้งซ่าน แต่น้ำตาลไม่มีเอาที่ไหน บทกวีจึงจืดชืดรสไป มิหวานในใจคนอย่างจนใจ อยากจะเขียนบทกวีที่จับจิต ฝีมือติดอันดับวางปั๊บได้ แต่ที่บ้านหวานเบื่อเกลือชอบไง หวานจึงไม่มีหรอกบอกอริญชย์ emo_107 ๐รุ่งอรุณ๐ ([url]http://www.qzub.com/bar_007.gif[/url]) ([url]http://www.qzub.com[/url]) ๐เติมหทัยลงในบทกลอน๐ เติมหทัยใส่กลอนทุกตอนเขียน หมั่นพากเพียรจดจารจำงานศิลป์ ตามแนวเก่าคารมคมกวิน ฝึกตรองจินต์หาทางสว่างไป เปิดกรุเก็บผลงานหลายท่านด้วย คิดเสริมช่วยสืบสานผลงานใหม่ ไม่เขียนคำมุ่งหมายทำร้ายใคร กรองจากใจเติมความสุขให้ทุกคน! ฯ อริญชย์:มุ่งมั่นฝันใฝ่ ๑๑/๑๑/๒๕๔[/size] emo_95 emo_84 emo_95 หัวข้อ: Re: ๐ไม่มีบทกวีหวานที่บ้านฉัน๐ เริ่มหัวข้อโดย: จะไม่เด็ด ที่ 11 พฤศจิกายน 2011, 10:17:PM กวีจะงามงามที่ใจใช่ภาษา
ถอดความมาได้อรรถรสงดสับสน แม้บางคราจะมีนัยให้เจือปน ก้ได้ยลเห็นประจักษ์ในวรรคตอน กวีไม่งามบ้างว่าแต่งตามกระแส บ้างปรวนแปรเปลี่ยนตามคำสั่งสอน บ้างประดิษฐ์คิดคำเปลี่ยนวรรคตอน ทำให้ได้เป็นบทกลอนที่งดงาม ...แบบว่า..ชีวิตมันเศร้า หัวข้อ: Re: ๐ไม่มีบทกวีหวานที่บ้านฉัน๐ เริ่มหัวข้อโดย: nisakorn ที่ 11 พฤศจิกายน 2011, 10:30:PM ฉันก็อยาก เขียนกลอน ฉะอ้อนหวาน
เฝ้าแอบอ่าน มากมาย ไม่กล้าถาม kanthita หทัยกาญจน์ ฉันติดตาม อีกหลายนามคำกลอน เหมือนซ่อนคม หัวข้อ: Re: ๐ใครว่า...ไม่มีบทกวีหวานที่บ้าน พี่อริฯ..๐ เริ่มหัวข้อโดย: Prapacarn ❀ ที่ 12 พฤศจิกายน 2011, 08:04:AM (http://t3.gstatic.com/images?q=tbn:ANd9GcQc13dmjY8-7FmmEbj4jZg1THU24VfwmxbFpr2HwiCMmYgcvPA4Sw) แซมเป็นสาว สวนตาล หวานแต่เกิด หวานระเหิด เกิดระเหย เลยออกขม อยากจะอ้อน กลอนกานท์ ก็ซานซม นั่งผสม คำวอน จนอ่อนใจ มาแอบดู พี่อริฯ ผลิกิ่งก้าน ว่าที่บ้าน กลอนไม่หวาน แกล้งขานไข แซมเห็นมด ไต่ตอม หอมชื่นใจ กวีใหญ่ ซ่อนกระบี่ วจีคม คมในฝัก แอบสอด ทำออดเอื่อย เห็นเรื่อย เรื่อย ลำนำที่ พี่ผสม อย่าอุบอำ จำนรรเอื้อ เผื่อกันชม มัวซ่อนคม อยู่ในฝัก..ไม่รักกันจริง (http://www.qzub.com/bar_194.gif) (http://www.qzub.com) ฝากดอกไม้ให้ บ้านกวีหวาน นะคะ emo_107 emo_107 emo_107 แซมค่ะ (http://www.qzub.com/bar_038.gif) (http://www.qzub.com) หัวข้อ: Re: ๐ไม่มีบทกวีหวานที่บ้านฉัน๐ เริ่มหัวข้อโดย: อริญชย์ ที่ 12 พฤศจิกายน 2011, 08:52:AM ๐กวีชาวบ้าน๐
๐บทกวีอยู่ที่ใจว่าใครชอบ ยังขอตอบไม่เลอเลิศงามเพริศพริ้ง เพียงคิดต่างจากวิญญูที่รู้จริง เก็บอ้อยอิ่งได้บ้างเพียงบางคำ ๐“แข็งทื่อดุจค้อนทั่ง” จึงตั้งไว้ เพื่อเตือนใจตนว่าอย่าถลำ อ่านงานท่านงามพจน์จารจดจำ แล้วเก็บกำมาฝึกคิดตรึกตรอง มิอาจแจ้งบทใดว่าใครชอบ แต่อยากตอบกลอนเรายังเศร้าหมอง อ่านงานอื่นฟูเฟื่องร้อยเรืองรอง ล้วนวรรคทองงามสมคมกวี อ่านงานตนเห็นแย้ง คำแข็งทื่อ ประหนึ่งคือค้อนทั่งไม่ปลั่งศรี เขียนแต่เรื่อง สัตว์ ท้องนา ป่าพงพี อ่านกี่ทีก็อึดอัด ไร้ปรัชญา!ฯ อริญชย์:แข็งทื่อดุจค้อนทั่ง ๑๒/๑๑/๒๕๕๔ ปล.มิอาจลืมความเป็นเรา emo_84 emo_95 emo_84 หัวข้อ: Re: ๐ไม่มีบทกวีหวานที่บ้านฉัน๐ เริ่มหัวข้อโดย: พี.พูนสุข ที่ 15 พฤศจิกายน 2011, 12:08:PM ๐กวีชาวบ้าน๐ ๐บทกวีอยู่ที่ใจว่าใครชอบ ยังขอตอบไม่เลอเลิศงามเพริศพริ้ง เพียงคิดต่างจากวิญญูที่รู้จริง เก็บอ้อยอิ่งได้บ้างเพียงบางคำ ๐“แข็งทื่อดุจค้อนทั่ง” จึงตั้งไว้ เพื่อเตือนใจตนว่าอย่าถลำ อ่านงานท่านงามพจน์จารจดจำ แล้วเก็บกำมาฝึกคิดตรึกตรอง มิอาจแจ้งบทใดว่าใครชอบ แต่อยากตอบกลอนเรายังเศร้าหมอง อ่านงานอื่นฟูเฟื่องร้อยเรืองรอง ล้วนวรรคทองงามสมคมกวี อ่านงานตนเห็นแย้ง คำแข็งทื่อ ประหนึ่งคือค้อนทั่งไม่ปลั่งศรี เขียนแต่เรื่อง สัตว์ ท้องนา ป่าพงพี อ่านกี่ทีก็อึดอัด ไร้ปรัชญา!ฯ อริญชย์:แข็งทื่อดุจค้อนทั่ง ๑๒/๑๑/๒๕๕๔ ปล.มิอาจลืมความเป็นเรา emo_84 emo_95 emo_84 ฟัง..เสียงชาวบ้าน ฟังสำเนียง "ดุจค้อนทั่ง" พลังหนอ ฟังเสียงพ้อ ขอคำ นำวิถี (คนกล้า) อริญชย์ ผู้มุ่งมั่น ดั้นกลอนดี บทกวี ค่าล้น ด้นกลอนดัง เปิดกระทู้ นิทานสัตว์ ถนัดนัก อนุรักษ์ เพลงไพร ร่ายมนต์ขลัง คำผิดบ้าง เล็กน้อย ทยอยฟัง ก้อนหิน*ทั่ง เกลาถ้อย ทยอยเฟ้น เปิดตำรา หมอบ้านบ้าน อาหารสด หมออริญชย์ ร้อยพจน์ ลดทุกข์เข็ญ กินผักบ้าน ปลอดสารพิษ ฤทธิ์ยาเย็น กินผักเป็น ลดพิษ ฤทธิ์เยียวยา ดอกไม้*บาน เต็มลาน บนลานถ้อย ดอกไม้ร้อย ด้อยหวาน จารภาษา เป็นผู้ให้ ด้วยการุญ เปี่ยมคุณค่า เป็นผู้หา ปรัชญา เปี่ยมค่าคน.. emo_28 emo_28 emo_28 emo_28 emo_28 emo_28 ด้วยรัก และปรารถนาดี ..Peepoonsuk.. *ดอกไม้ เป็นสัญลักษณ์ คำชม *ก้อนหินหรือก้อนอิฐ เป็นสัญลักษณ์ คำติ ชี้ข้อบกพร่อง (http://image.ohozaa.com/i/50b/URixQ.gif) (http://image.ohozaa.com/view/3dor) หัวข้อ: Re: ๐ไม่มีบทกวีหวานที่บ้านฉัน๐ เริ่มหัวข้อโดย: อริญชย์ ที่ 15 พฤศจิกายน 2011, 12:34:PM ๐กวีชาวบ้าน๐ ๐บทกวีอยู่ที่ใจว่าใครชอบ ยังขอตอบไม่เลอเลิศงามเพริศพริ้ง เพียงคิดต่างจากวิญญูที่รู้จริง เก็บอ้อยอิ่งได้บ้างเพียงบางคำ ๐“แข็งทื่อดุจค้อนทั่ง” จึงตั้งไว้ เพื่อเตือนใจตนว่าอย่าถลำ อ่านงานท่านงามพจน์จารจดจำ แล้วเก็บกำมาฝึกคิดตรึกตรอง มิอาจแจ้งบทใดว่าใครชอบ แต่อยากตอบกลอนเรายังเศร้าหมอง อ่านงานอื่นฟูเฟื่องร้อยเรืองรอง ล้วนวรรคทองงามสมคมกวี อ่านงานตนเห็นแย้ง คำแข็งทื่อ ประหนึ่งคือค้อนทั่งไม่ปลั่งศรี เขียนแต่เรื่อง สัตว์ ท้องนา ป่าพงพี อ่านกี่ทีก็อึดอัด ไร้ปรัชญา!ฯ อริญชย์:แข็งทื่อดุจค้อนทั่ง ๑๒/๑๑/๒๕๕๔ ปล.มิอาจลืมความเป็นเรา emo_84 emo_95 emo_84 ฟัง..เสียงชาวบ้าน ฟังสำเนียง "ดุจค้อนทั่ง" พลังหนอ ฟังเสียงพ้อ ขอคำ นำวิถี (คนกล้า) อริญชย์ ผู้มุ่งมั่น ดั้นกลอนดี บทกวี ค่าล้น ด้นกลอนดัง เปิดกระทู้ นิทานสัตว์ ถนัดนัก อนุรักษ์ เพลงไพร ร่ายมนต์ขลัง คำผิดบ้าง เล็กน้อย ทยอยฟัง ก้อนหิน*ทั่ง เกลาถ้อย ทยอยเฟ้น เปิดตำรา หมอบ้านบ้าน อาหารสด หมออริญชย์ ร้อยพจน์ ลดทุกข์เข็ญ กินผักบ้าน ปลอดสารพิษ ฤทธิ์ยาเย็น กินผักเป็น ลดพิษ ฤทธิ์เยียวยา ดอกไม้*บาน เต็มลาน บนลานถ้อย ดอกไม้ร้อย ด้อยหวาน จารภาษา เป็นผู้ให้ ด้วยการุญ เปี่ยมคุณค่า เป็นผู้หา ปรัชญา เปี่ยมค่าคน.. emo_28 emo_28 emo_28 emo_28 emo_28 emo_28 ด้วยรัก และปรารถนาดี ..Peepoonsuk.. *ดอกไม้ เป็นสัญลักษณ์ คำชม *ก้อนหินหรือก้อนอิฐ เป็นสัญลักษณ์ คำติ ชี้ข้อบกพร่อง ขอบคุณ ..Peepoonsuk.. ที่ช่วยแต่งเติมเสริมกลอน มีทั้งดอกไม้และก้อนอิฐ อริญชย์ขอรับไว้ทั้งสองอย่าง ก้อนหิน: เพื่อตรวจสอบความผิดพลาดของตนเอง ดอกไม้:เพื่อเติมใจใฝ่ฝันให้กับตนเอง และยอมรับในฝีมือคนอื่นแล้วก็ยื่นช่อดอกไม้ให้ต่อไปจ้ะ ดอกไม้กับก้อนอิฐ <iframe title="YouTube video player" class="youtube-player" type="text/html" width="480" height="390"src=" http://www.youtube.com/watch?v=XOVA4AmoqQY#noexternalembed&autoplay=1 (http://www.youtube.com/watch?v=XOVA4AmoqQY#noexternalembed&autoplay=1)" frameborder="0"></iframe> หัวข้อ: Re: ๐ไม่มีบทกวีหวานที่บ้านฉัน๐ เริ่มหัวข้อโดย: nisakorn ที่ 16 พฤศจิกายน 2011, 09:02:PM ๐๐ กวีฝัน..วันนี้..ไม่มีแล้ว ไร้วี่แวว..แนวหวาน..มานานเนิ่น เหลือเพียงซาก..ฉากฝัน..อันยับเยิน แล้วต้องเดิน..เผชิญฝัน..กลางควันปืน.ฯ --จาตนิน-- สุไหง-ปาดี, นราธิวาส ๑๑/๑๑/๑๑ ยังไม่รู้ เรื่องกานท์ สานสัมผัส ไม่กล้าวัด รอยเท้า คล้ายเราฝืน ทำลายล้าง ทางหมาย ให้กล้ำกลืน สิ้นสุขชื่น คำหวาน พลันลบเลือน อย่าสิ้นฝัน ที่ใฝ่ ให้มีหวัง ย้อนเหมือนดั่ง ก่อนกาล วันเคยเคลื่อน มอบความหวานคารม พร่างพรมเยือน เป็นดาวเดือน เพื่อนพี่ กวีงาม emo_126 หัวข้อ: Re: ๐ไม่มีบทกวีหวานที่บ้านฉัน๐ เริ่มหัวข้อโดย: อริญชย์ ที่ 17 พฤศจิกายน 2011, 12:37:PM ๐ใต้เงาต้นตะขบ๐
๐ตะขบงามน่าชมเงาร่มรื่น คนสดชื่นกายนักยามพักผ่อน ผลตะขบตกมาเอื้ออาทร รสสุนทรหวานดี ไม่มีภัย ๐ยามบ่ายแก่แผ่เงาให้เราได้ นกมากมายบินมาพักอาศัย กระรอกร้อง “จิ๊ก จั๊ก” ทึกทักไป ติดตามไต่ไล่ลีลาได้น่าชัง ๐เป็นพฤกษาที่ไม่สูงใหญ่นัก คนจึงมักปลูกไว้ตามใจหวัง ผลสุกแบ่งมิตรไมตรีอยู่จีรัง เดี๋ยวนี้ยังพบได้ แม้ในกรุง ๐ปลูกเอาไว้ข้างบ้านตระหง่านต้น กระทั่งคนทั้งหลายก็หมายมุ่ง ผูกเปลนอนไกวกวัดลมพัดพุง ไม่สนยุงกัดทั่วจนตัวแดง! ฯ อริญชย์ ๑๗/๑๑/๒๕๕๔ emo_84 emo_95 emo_84 ข้อมูลต้นตะขบ http://www.n3k.in.th/%E0%B8%AA%E0%B8%A1%E0%B8%B8%E0%B8%99%E0%B9%84%E0%B8%9E%E0%B8%A3/%E0%B8%95%E0%B8%B0%E0%B8%82%E0%B8%9A%E0%B9%84%E0%B8%97%E0%B8%A2 (http://www.n3k.in.th/%E0%B8%AA%E0%B8%A1%E0%B8%B8%E0%B8%99%E0%B9%84%E0%B8%9E%E0%B8%A3/%E0%B8%95%E0%B8%B0%E0%B8%82%E0%B8%9A%E0%B9%84%E0%B8%97%E0%B8%A2) ประโยชน์และสรรพคุณ สมุนไพร ตะขบไทย ตะขบไทยอีกหนึ่งสมุนไพรไทยบางคนอาจรู้จัก บางคนอาจฟังดูคุ้นหู หรือบางคนอาจจะไม่รู้จักเลยก็มี สำหรับ ตะขบไทย นี้ส่วนที่ใช้ทำเป็นยารักษาโรคก็จะมี รากตะขบไทยและเนื้อไม้ตะขบไทย ผลของตะขบไทยจะเป็นลูกกลม ๆ ขนาดจะเท่า ๆ กับลูกพุทรารสชาติจะหวานและฝาดเล็กน้อยส่วนผลที่สุกจะมีสีแดงแกมดำมักขยายพันธุ์ด้วยเมล็ด ว่าแล้วเราก็มาดูประโยชน์และสรรพคุณ สมุนไพร ตะขบไทย ประโยชน์ / สรรพคุณ ตะขบไทย - ราก นำมาปรุงเป็นยาขับเหงื่อ เป็นยากล่อมเสมหะและอาจม ซึ่งมีรสฝาดเล็กน้อย - เนื้อไม้ ใช้ทำยาแก้ท้องร่วง แก้บิด มูกเลือด มีรสฝาด พจนานุกรม สมุนไพรไทย ดร.วิทย์ เที่ยงบูรณธรรม ขอขอบคุณข้อมูลจาก samunpri ขอขอบคุณรูปภาพจากอินเตอร์เน็ต หัวข้อ: Re: ๐ไม่มีบทกวีหวานที่บ้านฉัน๐ เริ่มหัวข้อโดย: ♥ กานต์ฑิตา ♥ ที่ 17 พฤศจิกายน 2011, 07:56:PM ฉันก็อยาก เขียนกลอน ฉะอ้อนหวาน เฝ้าแอบอ่าน มากมาย ไม่กล้าถาม kanthita หทัยกาญจน์ ฉันติดตาม อีกหลายนามคำกลอน เหมือนซ่อนคม nisakorn (http://www.qzub.com/bar_042.gif) (http://www.qzub.com) มาขอบคุณแอบอ่านผ่านตาเห็น สิ่งไหนเป็นประโยชน์โปรดเพาะบ่ม อาจหวานบ้างเผ็ดบ้างบางอารมณ์ ขึ้นอยู่กับเงื่อนปมผสมจินตนา emo_60 "กานต์ฑิตา" ๑๗ พฤศจิกายน ๒๕๕๔ (http://www.qzub.com/bar_042.gif) (http://www.qzub.com) หัวข้อ: Re: ๐ไม่มีบทกวีหวานที่บ้านฉัน๐ เริ่มหัวข้อโดย: อริญชย์ ที่ 22 พฤศจิกายน 2011, 06:36:PM ๐หลายคนเดินไปห่างไกลแล้ว๐
(กลอน ๗) ๐หลายคน เขียนได้ หลากหลายรส หลายบท วาบหวาม ถ้อยงามสม งามเด่น หวานล้ำ ควรคำชม คำคม เดือน ดาว สูรย์ พราวพราย ๐พราวหยาด น้ำค้าง จับวางพจน์ วางรส พริ้งเพริศ เพชรเฉิดฉาย เฉิดฉัน ทุกถ้อย ที่ร้อยลาย ร้อยสาย อักษร รุ้งกลอนงาม ๐กลอนหวาน ปรัชญา สุภาษิต พาคิด เพลินใจ อยากไต่ถาม ไต่เต้า ตามชื่อ เลื่องลือนาม ลือข้าม โลกา นภาลัย ๐ภาษิต ล้ำลึก ตรองตรึกพจน์ ตรึกรส อ้อยอิ่ง อย่างยิ่งใหญ่ ยิ่งอ่าน ยิ่งซึ้ง ตราตรึงใจ ตรึงในคำกระวาดกระวี ๐กะพริบ ริบไกล เติมไฟฝัน ไฟอัน โชติช่วง ใจดวงที่- ดวงน้อย ด้อยพจน์ รสวจี วลี ด้อยรสอันงดงาม!ฯ อริญชย์ ๒๒/๑๑/๒๕๕๔ emo_126 emo_47 emo_126 <iframe title="YouTube video player" class="youtube-player" type="text/html" width="480" height="390"src=" http://www.youtube.com/watch?v=Y7T3Ne2-OG4#noexternalembed&autoplay=1 (http://www.youtube.com/watch?v=Y7T3Ne2-OG4#noexternalembed&autoplay=1)" frameborder="0"></iframe> หัวข้อ: Re: ๐ไม่มีบทกวีหวานที่บ้านฉัน๐ เริ่มหัวข้อโดย: Prapacarn ❀ ที่ 23 พฤศจิกายน 2011, 12:27:PM (http://t1.gstatic.com/images?q=tbn:ANd9GcQyetcEhqPqipxD1-W4XvPuRpu_mmTutyDX0NZcZ9M7KW5yhL2K9A) เดินทาง ย่างอยู่ มิรู้หน่าย เพียงหมาย ร้อยลักษณ์ สร้างอักษร เจิมเจือ เผื่อกานท์ ณ บ้านกลอน อดนอน ยอมบ้าง เป็นครั้งคราว ห่างไกล ญาติมิตร จิตไหม้หมอง ทำนอง ถักคำ ช่วยนำข่าว สุขทุกข์ เป็นไฉน ในเรื่องราว ปวดร้าว ระทม...หรือตรมใจ กรองกานท์ หวานขม ผสมสระ เคล้าคละ สร้างบท รสชาติใหม่ คนเมือง เรื่อง งง หรือพงไพร ถอดใจ ตามฝัน วาดบรรเลง.... (http://www.qzub.com/bar_172.gif) (http://www.qzub.com) แซมค่ะ.... แซมขออภัย ที่กลอนแซม ตกสัมผัส ตอนต่อกลอนพี่อริฯ นะคะ.. (แอบเขียนที่ทำงาน...อิ..อิ..) emo_107 emo_107 emo_107 หัวข้อ: Re: ๐ไม่มีบทกวีหวานที่บ้านฉัน๐ เริ่มหัวข้อโดย: ยามพระอาทิตย์อัสดง ที่ 23 พฤศจิกายน 2011, 12:58:PM "ไม่มีบทกวีหวานที่บ้านฉัน" ไม่มีจันทร์พันดาวที่พราวฟ้า ไม่มีแล้วแม้แต่วันเวเลา ไม่มีใครโหยหาเหมือนครานั้น บทกวีที่หวานกานท์นับร้อย เป็นเพียงถ้อยน้อยค่าไม่พาฝัน ถึงจะหว่านผ่านไปไม่ถึงจันทร์ กี่ตะวันชั้นฟ้าค่าควรมอง ได้แต่เพียรเขียนคำลำนำหวาน หวังเพียงจารสารคำไม่ทำหมอง สือภาษาคุณค่าน่าจับจอง เพียงประคองลองคำจำใส่ใจ อยากจะเรียนเขียนลงตรงอักษร อยากจะอ้อนป้อนคำทำหวั่นไหว อยากรู้หลักมักเผลอเพ้อความนัย อยากเขียนไปให้สุขทุกเพลา พระอาทิตย์อัสดง หัวข้อ: Re: ๐ไม่มีบทกวีหวานที่บ้านฉัน๐(กลบทอักษรนกกางปีก) เริ่มหัวข้อโดย: Prapacarn ❀ ที่ 24 พฤศจิกายน 2011, 10:03:AM ๐ปิดตำนานรัก๐ (กลบทอักษรนกกางปีก) ๐เมื่อ รักร้าว ร้าวรัก เจ็บนักจิต แผล รักพิษ พิษรัก ประจักษ์แจ้ง สุด ขมขื่น ขื่นขม ตรมระแวง พิษ รักแรง แรงรัก เจ็บนักใจ ๐มิ ใคร่รัก รักใคร่ ต่อไปแล้ว เจ็บ จนแป้ว แป้วจน เกินทนไหว เลิก ซึ้งจิต จิตซึ้ง คิดถึงใคร เก็บ หม่นใจ ใจหม่น เพียงคนเดียว ๐ขอ อยู่อย่าง อย่างอยู่ ไร้คู่รัก ไม่ ใฝ่ฝัก ฝักใฝ่ ปล่อยใจเปลี่ยว เลิก คิดหวัง หวังคิด แม้นิดเชียว อยู่ โดดเดี่ยว เดี่ยวโดด ไม่โทษใคร ๐ขอ สร้างสรรค์ สรรค์สร้าง แนวทางที่ เป็น ทางดี ดีทาง กระจ่างใส ลืม คนลวง ลวงคน เจ็บล้นใจ ไม่ รักใคร ใครรัก เราจักลา! ฯ อริญชย์ ๑๐/๑๑/๒๕๕๔ (http://t2.gstatic.com/images?q=tbn:ANd9GcSaH8u5RXbpeqHSbWAPwdBepBU94pzpM9VcyahmtEePf4oH-1fEHA) (กลบทอักษรนกกางปีก) (http://www.qzub.com/bar_035.gif) (http://www.qzub.com) อดีตรัก รักอดีต ขีดจำกัด วาดเขตวัด วัดเขต เหตุใจเหงา ใจสัญญา สัญญาใจ ไม่แบ่งเบา จดจำเฝ้า เฝ้าจำ จิตดำรง ฤๅ..รักใช่ ใช่รัก นั่นหักจิต ฤๅ..แรงพิษ พิษแรง แห่งใจหลง ฤๅ..ช่วงตรึก ตรึกช่วง บ่วง วน-วง โทษรักหลง หลงรัก ฤๅจักควร แม้โทษมี มีโทษ จนโกรธเกรี้ยว เลิกมั่นเกี่ยว เกี่ยวมั่น มิหันหวน รักก่อเกิด เกิดก่อ ฤๅ..ท้อครวญ จำไห้หวน หวนไห้ เพราะใจจำ เจ้าตัวรัก รักตัว มัวจ้องจับ ผ่านวันนับ นับวัน ยังสั่นส่ำ ขอถามทวง ทวงถาม หนึ่งน้ำคำ รักค่าล้ำ ล้ำค่า ฤๅ เพียงครอง..... (http://www.qzub.com/bar_028.gif) (http://www.qzub.com) แซมค่ะ emo_107 emo_107 emo_107 หัวข้อ: Re: ๐ไม่มีบทกวีหวานที่บ้านฉัน๐ เริ่มหัวข้อโดย: อริญชย์ ที่ 29 พฤศจิกายน 2011, 10:31:AM ๐ฤๅเป็นเพียงอดีต๐
๐สายลมพัด โลมไล้ คลื่นใบข้าว ยามรุ่งเช้า เรืองรอง ทั่วท้องทุ่ง หมู่นกบิน เริงร่า ฟ้าจรุง แสงส่องคุ้ง ลำธารวับ วาวจับตา ๐หมอกปกคลุม หนาวมา วันฟ้าใหม่ น้ำค้างพราว เม็ดใส ติดใบหญ้า ยินเสียง จิ้งโกร่งร้อง กล่อมท้องนา เด็กบ้านป่า เดินเที่ยว เสียงเกรียวกราว ๐หอมกรุ่น ข้าวหลามไหม้ ผ่านไอร้อน คือสะท้อน ความตรม ยามลมหนาว ผิงไฟคุย ฟูเฟื่อง หลายเรื่องราว คนหนุ่ม-สาว สุขสันต์ ตามครรลอง ๐กลิ่นสาบ กองฟางเก่า ยวนเย้านัก ริมทุ่งรัก ตะวันแดง สาดแสงส่อง กลางนภา เมฆขยับ เข้าจับจอง เป็ดร่ำร้อง ท้าไก่ขัน...ประชันกลอน ๐ปรัชญา ความพอดี เลี้ยงชีวิต เป็นแนวคิด ดีงามใน สมัยก่อน แต่บัดนี้ สิ่งเหล่านั้น เริ่มสั่นคลอน คนรุ่มร้อน หลงเพลิน จนเกินเลย !ฯ อริญชย์:วัยรุ่นร่อนเร่ผจญภัย ๒๙/๑๑/๒๕๕๔ emo_95 emo_84 emo_95 หัวข้อ: Re: ๐ไม่มีบทกวีหวานที่บ้านฉัน๐ เริ่มหัวข้อโดย: ยามพระอาทิตย์อัสดง ที่ 29 พฤศจิกายน 2011, 11:27:AM (http://i.kapook.com/faiiya/11-4-54/chi18.jpg) เสียงบรรเลงเพลงดังกังวานก้อง ท่วงทำนองเนื้อหาพาหนวกหู แสงสีสันวันนี้ที่มองดู ช่างหดหู่ผู้คนป่นเปไป เสียงรถยนต์แล่นผ่านเมื่อวานนั้น ทำเอาฝันยันเช้าเฝ้าไฉน จนเวียนหัวตัวร้อนวอนด้วยใจ เมืองวิไลใยป่วนให้ปวนแปร แม้ผักหญ้าพืชผลจนใบไม้ เป็นพิษภัยใครกันนั้นแยแส ทำนิ่งนิ่งทิ้งไปไม่ดูแล ให้เป็นแผลแท้นักปักดวงใจ กลิ่นควันพิษริดรอนป้อนเข้าสู่ ขอวอนผู้รู้ความช่วยถามไถ่ ขออากาศบริสุทธิ์จุดภายใน ส่งสดใสไหลผ่านนานเท่านาน เพียงหนึ่งครั้งหลังจากนี้ที่ร้องขอ เพียงเกิดก่อรอหวังกำลังสาน เพียงอยากให้บ้านเมืองเรืองตำนาน เพียงขับขานผ่านกลอนวอนจากใจ พระอาทิตย์อัสดง * มองหาธรรมชาติเมื่อครั้งก่อนที่ยังเขียวขจี * หัวข้อ: Re: ๐ไม่มีบทกวีหวานที่บ้านฉัน๐ เริ่มหัวข้อโดย: อริญชย์ ที่ 29 พฤศจิกายน 2011, 12:45:PM ๐ย.ว.ค.๐
ย ๐อย่าเหยียดหยามน้ำใจคนใครอื่น ยิ้มหยิบยื่นยับยั้งระวังผิด โยนอาทรห่วงใยมอบให้มิตร ยืมให้นิด อย่ามัวยืมทั่วไป ว ๐ไว้วางใจ ใช่ว่าคอยด่าผัว โวยวายทั่วเสียจนเกินทนไหว ว้าก!ไม่หยุดลืมค่าแห่ง “อภัย” ผัวหวั่นใจ ก็หนีไร้วี่แวว ค ๐ควรไม่ควรผิดถูกคอยปลูกฝัง คิดคลุ้มคลั่งบ้าบิ่นอาจกินแห้ว ใครอยู่กับเนื้อทองคงต้องแจว เพราะคล่องแคล่วแก้วตาคือด่าคน! ฯ อริญชย์ ๒๙/๑๑/๒๕๕๔ emo_95 emo_84 emo_95 หัวข้อ: Re: ๐ไม่มีบทกวีหวานที่บ้านฉัน๐ เริ่มหัวข้อโดย: อริญชย์ ที่ 04 ธันวาคม 2011, 01:22:PM ๐ถามข่าวนกแซงแซว๐
๐ “นกแซงแซว” พลัดพรากไปจากถิ่น ก่อนเคยบินเริงร่าตามป่าเขา หางบ่วงแฉกแยกไปเด่นไม่เบา วันนี้เจ้าโบยบินไปถิ่นใด ๐ดอกรักบานพร่างพรายดูคล้ายเศร้า กิ่งสะเดาคอยท่าเจ้ามาใกล้ สาบเสือยังโอนเอนระเนนไกว หลายนกไพรเหินลอยเฝ้าคอยมอง ๐ก่อนนี้เจ้ามั่นหมายอยู่ชายป่า ร้องเริงร่าบินไปเสียงใสก้อง โฉบลงจับเรียงรายข้างฝาย,คลอง วันนี้นองน้ำตาอยู่ฟ้าใด ๐นกเอี้ยงโมงจับเจ่ารอเจ้าอยู่ นกคัดคูคร่ำครวญจิตหวนไห้ นกกางเขน นกกาฮัง ระวังไพร ต่างถามไถ่รอแข่งเสียงแซงแซว ๐หรือเจ้าบินสู่เมืองอันเรืองรุ่ง จึงลืมทุ่งรวงทอง ละอองแก้ว หรือเจ้าบินหลงทางไปต่างแนว ลืมทิวแถวบ้านไพร ดั่งใครลืม!ฯ อริญชย์ ปรับปรุงแก้ไข ๔/๒/๒๕๕๔ <iframe title="YouTube video player" class="youtube-player" type="text/html" width="480" height="390"src=" http://www.youtube.com/watch?v=srX9hXqM-8I#noexternalembed&feature=related&autoplay=1 (http://www.youtube.com/watch?v=srX9hXqM-8I#noexternalembed&feature=related&autoplay=1)" frameborder="0"></iframe> รูป "นกแซงแซว" http://www.google.co.th/imgres?q=%E0%B8%99%E0%B8%81%E0%B9%81%E0%B8%8B%E0%B8%87%E0%B9%81%E0%B8%8B%E0%B8%A7&hl=th&sa=X&biw=1280&bih=578&tbm=isch&prmd=imvns&tbnid=2hVEVlCzLi3h3M:&imgrefurl=http://www.magnoliathailand.com/webboard/index.php%3Ftopic%3D6226.0&docid=PhtWy0dpw2ft3M&imgurl=http://www.magnoliathailand.com/webboard/index.php%253Faction%253Ddlattach%253Btopic%253D6226.0%253Battach%253D71493%253Bimage&w=450&h=800&ei=vhHbTte7GdDIrQec0u3XDQ&zoom=1&iact=hc&vpx=439&vpy=157&dur=1687&hovh=300&hovw=168&tx=82&ty=256&sig=104937739799313096541&page=2&tbnh=164&tbnw=102&start=25&ndsp=11&ved=1t:429,r:1,s:25 (http://www.google.co.th/imgres?q=%E0%B8%99%E0%B8%81%E0%B9%81%E0%B8%8B%E0%B8%87%E0%B9%81%E0%B8%8B%E0%B8%A7&hl=th&sa=X&biw=1280&bih=578&tbm=isch&prmd=imvns&tbnid=2hVEVlCzLi3h3M:&imgrefurl=http://www.magnoliathailand.com/webboard/index.php%3Ftopic%3D6226.0&docid=PhtWy0dpw2ft3M&imgurl=http://www.magnoliathailand.com/webboard/index.php%253Faction%253Ddlattach%253Btopic%253D6226.0%253Battach%253D71493%253Bimage&w=450&h=800&ei=vhHbTte7GdDIrQec0u3XDQ&zoom=1&iact=hc&vpx=439&vpy=157&dur=1687&hovh=300&hovw=168&tx=82&ty=256&sig=104937739799313096541&page=2&tbnh=164&tbnw=102&start=25&ndsp=11&ved=1t:429,r:1,s:25) emo_107 emo_60 emo_107 หัวข้อ: Re: ๐ไม่มีบทกวีหวานที่บ้านฉัน๐ "อำพรางฟ้าสั่ง" เริ่มหัวข้อโดย: อริญชย์ ที่ 17 ธันวาคม 2011, 12:25:PM ๐ดั่งมนต์เสกสรรสวรรค์ไพร๐
๐"เขียดขาคำ"ฮัมเพลงครื้นเครงนัก กล่อมทุ่งรักตั๊กแตนเพื่อนแฟนคลับ จักจั่นป่าพร้อมเพรียงขึ้นเสียงรับ จิ้งหรีดขับเพลงหวานกล่อมบ้านไพร ๐กระเต็นบินเลาะธารผสานเสียง กาเหว่า,เอี้ยง รำพันประชันไก่ นกกางเขนบรรเลงครื้นเครงใจ น้ำค้างใสแวววาวพร่างพราวตา ๐แสงแดดอ่อนพวยพุ่งยามรุ่งเช้า เหนือทุ่งข้าว แมลงปอบินรอท่า วัวควายเรียงรายออกจากคอกมา เลาะเล็มหญ้าขึ้นปริ่มอยู่ริมธาร ๐แมงตับเต่าแหวกว่ายตามสายน้ำ ปีกเงางามดำขลับเหมือนกับถ่าน วาดลวดลายบุกเดี่ยวอย่างเชี่ยวชาญ สวมบทพรานไล่ล่ากัดปลากิน ๐ปลาช่อนรู้ถึงพิษภัยว่ายไปต่อ เหล่าปลาหมอใจกล้ากินบ้าบิ่น ถูกเหยื่อเบ็ดหย่อนมาน้ำตาริน กระแด่วดิ้นลำบากเพราะปากตน ๐ทั้งหมดเริ่มแต่เดือนหกฝนตกใหม่ เห็ด,หน่อไม้งอกมาเมื่อหน้าฝน หลากพืชพรรณบุปผาแย้มน่ายล เป็นดั่งมนต์เสกสรรสวรรค์ไพร ฯ อริญชย์ "เขียดขาคำ" โคนขาจะมีสีเหลืองทอง (คำ=ทองคำ) http://www.google.co.th/imgres?q=%E0%B9%80%E0%B8%82%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%94%E0%B8%82%E0%B8%B2%E0%B8%84%E0%B9%8D%E0%B8%B2&um=1&hl=th&sa=N&biw=1280&bih=578&tbm=isch&tbnid=VwyFcmsWSNvwsM:&imgrefurl=http://www.biogang.net/biodiversity_view.php%3Fmenu%3Dbiodiversity%26uid%3D7962%26id%3D80250&docid=0O75B185116gjM&imgurl=http://www.biogang.net/upload_img/biodiversity/biodiversity-80250-1.jpg&w=500&h=366&ei=JSbsTuCLIonyrQeM04T2CA&zoom=1&iact=rc&dur=625&sig=106463317620869428252&page=2&tbnh=164&tbnw=230&start=18&ndsp=9&ved=1t:429,r:2,s:18&tx=155&ty=78 (http://www.google.co.th/imgres?q=%E0%B9%80%E0%B8%82%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%94%E0%B8%82%E0%B8%B2%E0%B8%84%E0%B9%8D%E0%B8%B2&um=1&hl=th&sa=N&biw=1280&bih=578&tbm=isch&tbnid=VwyFcmsWSNvwsM:&imgrefurl=http://www.biogang.net/biodiversity_view.php%3Fmenu%3Dbiodiversity%26uid%3D7962%26id%3D80250&docid=0O75B185116gjM&imgurl=http://www.biogang.net/upload_img/biodiversity/biodiversity-80250-1.jpg&w=500&h=366&ei=JSbsTuCLIonyrQeM04T2CA&zoom=1&iact=rc&dur=625&sig=106463317620869428252&page=2&tbnh=164&tbnw=230&start=18&ndsp=9&ved=1t:429,r:2,s:18&tx=155&ty=78) emo_126 emo_47 emo_126 หัวข้อ: Re: ๐ไม่มีบทกวีหวานที่บ้านฉัน๐ เริ่มหัวข้อโดย: อริญชย์ ที่ 23 ธันวาคม 2011, 06:51:PM ๐หอมกลิ่นนาข้าว๐
๐หอมดินกลิ่นนาข้าว….หมอกนวลขาวน้ำค้างใส นกบินทะยานไป……...เหนือทุ่งหญ้าเพื่อหากิน เสียงเพลงจิ้งหรีดร้อง…ท่วงทำนองพาถวิล ปูไต่ตามโคลนดิน…….สายวาริน หอย ปู ปลา ๐พืชผักยอดอวบอิ่ม…..น่าลองลิ้มแห่งบ้านนา กระถิน บุ้ง พุทรา……...ขึ้นสะพรั่งริมฝั่งธาร ดอกไม้หลากสีสวย…...ริมลำห้วยแย้มสีหวาน อู่ข้าวไทยมานาน……...เหนือ อีสาน ใต้ ภาคกลาง ๐ครรลองคนท้องทุ่ง…..ร่วมผดุงไทยทุกทาง ทำงานเหงื่อโทรมร่าง….ก็รักถิ่นแผ่นดินไทย ในน้ำมีปูปลา………......ในทุ่งนามีข้าวไหว เกลียดชังกันทำไม……..เราเกิดถิ่นแผ่นดินเดียว! ฯ อริญชย์ ๒๓/๑๒/๒๕๕๔ emo_84 emo_107 emo_95 emo_107 emo_84 หัวข้อ: Re: ๐ไม่มีบทกวีหวานที่บ้านฉัน๐ เริ่มหัวข้อโดย: อริญชย์ ที่ 02 กุมภาพันธ์ 2012, 07:31:PM ๐บ้านน้อยคอยรัก๐
๐บ้านหลังน้อยรอคอยรักมาทักถาม แม้ไม่งามเหมือนเขตบ้านเศรษฐี ก็ร่มรื่นด้วยธรรมชาติ อากาศดี มวลมาลี แย้มบาน ตระการตา ๐ดอกอัญชันพรายพร่างอยู่ข้างรั้ว ดอกหน้าวัวแย้มบานใกล้ลานหญ้า สายลมเย็นหวิวแว่วผิวแผ่วมา เสียงไผ่ป่า เสียดสี ดนตรีไพร ๐ผักสวนครัวปลอดภัยเขียวไร้สาร ข้าวโพดหวาน ถั่ว แตง ฟักแฟงใหญ่ ต้นแคขาวผลิดอกตามซอกใบ นกกาไก่ร่ำร้องทำนองสวรรค์ ๐บ้านหลังนี้เสมือนดั่งเรือนหอ เพียงแต่รอคนร่วมทางเคียงข้างฝัน อยากมีลูกไว้วิ่งเล่นเช้า-เย็นกัน เธอและฉัน...สร้างตำนานรักบ้านนา ยังคอยคนใจงามไม่หยามหยัน ไม่ถือชั้นต่ำ-สูงส่งศักดิ์หงสา มอบใจภักดิ์คงมั่นในสัญญา ยึดคุณค่าความเอื้อเฟื้ออยู่เหนือเงิน ฯ อริญชย์ ๓/๒/๒๕๕๕ ปล.เป็นเพียงจินตนาการในการแต่งกลอน (เพ้อฝัน) เพราะในโลกของความจริง “เงิน” คือองค์ประกอบและเป็นจุดพลิกผันของความรักได้อย่างแน่นอน http://www.youtube.com/watch?v=OOfR_nzlRUQ หัวข้อ: Re: ๐ ยังมี...บทกวีหวานที่บ้านเรา ๐ เริ่มหัวข้อโดย: Prapacarn ❀ ที่ 03 กุมภาพันธ์ 2012, 12:32:PM (http://i3.ytimg.com/vi/VDLpEH9hqEc/hqdefault.jpg) กระท่อมน้อยหอมดินหอมกลิ่นหญ้า แม้พี่เป็นชาวนาน่าสรรเสริญ ใฝ่ปองรักภักดีไม่มีเมิน สูงค่าเกินสินทรัพย์นับอนันต์ (http://sl.glitter-graphics.net/pub/691/691504np5oki776l.gif) มาลัยน้องฝากให้คนปลายทุ่ง หนีเมืองกรุงตึกใหญ่ภัยมหันต์ ผู้คนต่างอวดโอ้...โชว์แข่งกัน ล้วนเสกสรรแต้มแต่งคอยแย่งยื้อ (http://sl.glitter-graphics.net/pub/691/691504np5oki776l.gif) หรือจะเทียบน้ำใจใสสะอาด ธรรมชาติคือครรลองของคนซื่อ เปี่ยมไมตรีประกาศไว้ได้ระบือ ว่าพี่คือแสงทองของชีวิต (http://sl.glitter-graphics.net/pub/691/691504np5oki776l.gif) จะกลิ่นกรุ่นราตรีที่ข้างรั้ว หรือหน้าวัวรูปหัวใจอำไพจิต หอมคัดเค้าเล้าโลมพี่ชมชิด เคียงสนิทร้อยบุหงามาร่วมเรียง (http://sl.glitter-graphics.net/pub/691/691504np5oki776l.gif) และจำปาหน้าบ้านบานสะพรั่ง เกาะกิ่งยังปักษาพาส่งเสียง พี่คนดีหนุ่มบ้านนามาขอเคียง คือวังเวียงแสนหวานที่บ้านเรา (http://upic.me/i/57/1096810xk85ymyg7h.gif) แซมค่ะ 02/02/2012 (http://upic.me/i/2l/ndc76.gif) หัวข้อ: Re: ๐ไม่มีบทกวีหวานที่บ้านฉัน๐ เริ่มหัวข้อโดย: กังวาน ที่ 03 กุมภาพันธ์ 2012, 11:39:PM (http://t3.gstatic.com/images?q=tbn:ANd9GcQEQ_kJDXodc-D6XIL2uX8t8SX_Z843Xjm9F6y_iWSf82HE1kPc8A) สาวชาวกรุงมุ่งหมายมาปลายฟ้า หนุ่มบ้านนาคนนี้ไม่มีเหงา เริ่มตำนานรักกึกก้องของสองเรา อยู่นานเนาชั่วชีวิตมิคิดลา ตื่นแต่เช้าเข้าทุ่งมุ่งไถหว่าน มีนงคราญเคียงข้างไม่ห่างหา พอพักเที่ยงเลี่ยงเจ้าทุยที่ลุยนา ป้อนข้าวปลาหยอกล้อแต่พอดี จะทัดดอกไม้ให้ไว้ข้างหู โอ้โฉมตรูรจนาเจ้าอย่าหนี รักเจ้าเงาะเปราะบางเป็นบางที แต่รักพี่กายเป็นทองรับรองใจ ชั่วชีวิตชั่วดินฟ้าไม่มาพูด จะพิสูจน์โลกประจักษ์รักยิ่งใหญ่ บทกวีหวานล้ำคำของใคร ก็คงไม่มีน้ำหนัก....เท่ารักแซม หัวข้อ: Re: ๐ไม่มีบทกวีหวานที่บ้านฉัน๐ เริ่มหัวข้อโดย: Prapacarn ❀ ที่ 04 กุมภาพันธ์ 2012, 11:31:AM (http://img-cache.cdn.gaiaonline.com/05a05bf2c5b4e033f1e49567e58a8bf0/http://i760.photobucket.com/albums/xx247/GothicCookieQueen/FantasyRose-1.jpg) คำหวานจากแดนไกลใครพร่ำเพ้อ แม้นไผลเผลอรักพี่คงมีแถม อาเนี้ยใหญ่ที่บ้านอาจมาแจม เกรงเจ้าแซมเซ่อซม..จำข่มใจ (http://upic.me/i/s6/792698x0hgfrn2281.gif) อยากมาอยู่คู่เคียง ณ เถียงน้อย จู๋จี๋กันบ่อยบ่อย..พี่ไหวไหม น้องหุงข้าว..ปิ้งปลาอย่าร่ำไร เสร็จงานไถกลับบ้านมาหว่านรัก (http://upic.me/i/s6/792698x0hgfrn2281.gif) เก็บดอกไม้ทัดหูอยู่ห้องหอ น้องจะรอพี่ชายอย่าหายหัก ดอกอะไรทัดหูดูงามนัก ขอดอกรักทัดใจ..ได้ไหมคุณ (http://upic.me/i/s6/792698x0hgfrn2281.gif) หวานกวีของใครไม่หวานเท่า หวานคำเหงาของเธอที่เพ้อวุ่น รักของพี่จากห้วงใจใฝ่เจือจุน รักคุณคุณ...คงไม่หนัก(ใจ)เท่ารักแซม (http://upic.me/i/8c/fff5b982ba616bbda176e4e9bc974920_1205689826.gif) แซมค่ะ emo_116 หัวข้อ: Re: ๐ไม่มีบทกวีหวานที่บ้านฉัน๐ เริ่มหัวข้อโดย: อริญชย์ ที่ 11 กุมภาพันธ์ 2012, 05:09:PM (http://www.artsedcenter.com/images/sub_1295518029/ii.jpg)
๐ฤดูกาลแห่งลมหนาว๐ ๐ผ่าซีกไผ่เหลาลำให้งามเกลี้ยง แล้วดัดเอียงโค้ง-ตรงเป็นโครงว่าว กระดาษเตรียมให้พอและก็กาว ด้ายสายยาวเตรียมจัดผูกมัดโครง ๐จะทำว่าวชนิดใดกะไว้ด้วย “ปักเป้า” สวย “จุฬา” ลอยฟ้าโปร่ง ให้ลมแรงพัดไปสุดสายโยง เหนือทุ่งโล่งหน้าหนาวมีว่าววน ๐เด็กวิ่งเล่นเริงร่าริมนาข้าว เสียงเกรียวกราววิ่งไปมิได้หม่น “อีลุ้ม” “ดุ้ยดุ่ย” ใคร เล่นหลายคน เสียงอึงอลสุขสันต์ตามครรลอง ๐หน้าหนาวปล่อยว่าววนลอยบนฟ้า เหนือท้องนาเสียงสะนูว่าวกู่ก้อง ตืด ตื๊ด ตืด คล้ายพร่ำเป็นทำนอง คนเล่นคล่อง ว่าวถลาบนฟ้านาน ๐เป็นกีฬาพื้นบ้านมานานนัก แรกประจักษ์เรื่องราาวจีนกล่าวขาน คนเล่นกันดาษดื่น ใจชื่นบาน ฤดูกาลแห่งลมหนาวปล่อยว่าวลอย! ฯ อริญชย์ ๑๑/๒/๒๕๕๕ ว่าว จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี ไปที่: ป้ายบอกทาง, ค้นหา บทความนี้ไม่มีการอ้างอิงจากเอกสารอ้างอิงหรือแหล่งข้อมูล โปรดช่วยพัฒนาบทความนี้โดยเพิ่มแหล่งข้อมูลน่าเชื่อถือ เนื้อหาที่ไม่มีการอ้างอิงอาจถูกคัดค้านหรือนำออก ว่าวยักษ์ในญี่ปุ่น ว่าว เป็นของเล่นชนิดหนึ่งที่มนุษย์ประดิษฐ์ขึ้นเพื่อให้ลอยอยู่ในอากาศได้ด้วยแรงลมและมีสายป่านคอยบังคับให้ลอยอยู่ในทิศทางที่ต้องการ โดยเริ่มจากประเทศจีนโดยใช้ไม้ไผ่และผ้าไหมเป็นอุปกรณ์ ต่อมาได้ประดิษฐ์ว่าวในหลายรูปแบบตามวัฒนธรรมของหลายประเทศ เนื้อหา [ซ่อน] • 1 ว่าวไทย o 1.1 ว่าวอีลุ้ม o 1.2 ว่าวปักเป้า o 1.3 ว่าวจุฬา o 1.4 ว่าวดุ้ยดุ่ย • 2 แหล่งข้อมูลอื่น [แก้] ว่าวไทย ในอดีตมีกล่าวอยู่ในพงศาวดารเหนือว่า พระร่วงทรงเล่นว่าวอย่างไม่ถือพระองค์ว่าเป็นท้าวพระยา ในสมัยกรุงศรีอยุธยา (พ.ศ. 1893 – 2300) ก็มีการเล่นว่าวกันมากถึงกับมีกฎมณเพียรบาลห้ามมิให้ประชาชนเล่นว่าวทับพระราชวัง ต่อมาในสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ ก็มีการเล่นว่าวดังเช่นในสมัย ก็มีการเล่นว่าว เช่นในรัชกาลที่ 5 ก็ทรงโปรดให้ใช้สถานที่ในพระราชวังดุสิต และสนามเสือป่าเป็นที่เล่นว่าวจุฬากับปักเป้า เป็นต้น ว่าวของไทยที่ทำขึ้นเล่นกันเป็นพื้นมีอยู่ 4 ชนิดด้วยกัน คือ ว่าวอีลุม ว่าวปักเป้า ว่าวจุฬา และว่าวตุ๋ยตุ่ย [แก้] ว่าวอีลุ้ม มีลักษณะเป็นรูปสี่เหลี่ยมขนมเปียกปูน มีไม้ไผ่เป็นโครงสองอันคือ อกและปีกอกจะสั้นกว่าปีกเล็กน้อย กระดาษที่ใช้ปิดทาบลงบนโครงนี้ คือกระดาษว่าว ซึ่งบางเป็นพิเศษ ส่วนปลายของปีกทั้งสองข้างจะติดพู่กระดาษเพื่อช่วยในการทรงตัว ในขณะที่ว่าวลอยอยู่ในอากาศ มีหางสำหรับถ่วงน้ำหนักป้องกันไม่ให้ว่าวส่ายไปมา [แก้] ว่าวปักเป้า มีลักษณะเช่นเดียวกับว่าวอีลุม แต่ทว่าไม้ส่วนโครงที่เป็นปีกจะแข็งกว่าปีกของอีลุ้มมาก จึงต้องมีหางที่ทำด้วยผ้าเป็นเส้นยาวถ่วงอยู่ที่ส่วนก้น เมื่อชักขึ้นไปลอยอยู่ในอากาศแล้วจะไม่ลอยอยู่เฉยๆจะส่ายตัวไปมาน่าดูมากและเมือถูกคนชักกระตุกสายเชือกป่านตามวิธีการแล้ว มันจะเคลื่อนไหวโฉบเฉี่ยวไปมาท่าทางต่างๆตามต้องการ [แก้] ว่าวจุฬา มีลักษณะเป็น 5 แฉก ประกอบเป็นโครงขึ้นด้วยไม้ 5 อัน นักเลงว่าวจะเสาะหาไม้ไผ่สีสุกที่มีปล้องยาวเรียว เรียกว่า “เพชรไม้” มาเหลา อันกลางเรียกว่า “อก” เหลาปลายเรียวหัวท้าย 1 อัน อีก 2 อัน ผูกขนาบตัวปลายให้จรดกันเป็นปีก และอีก 2 อัน เป็นขาว่าวเรียกว่า “ขากบ” จากนั้นขึงด้ายเป็นตารางตลอดตัวว่าว เรียกว่า “ผูกสัก” แล้วใช้กระดาษสาปิดทับลงบนโครง สำเร็จเป็นว่าวจุฬา ถ้าหากไม่ถูกสัดส่วนแล้ว ว่าวจะไม่อาจลอยตัวขึ้นได้เลย [แก้] ว่าวดุ้ยดุ่ย มีรูปร่างแบบเดียวกับว่าวจุฬาแต่ขากบเป็นรูปเดียวกับปีก ติดอยู่ซ้อนกัน ส่วนบนใหญ่ส่วนล่างจะเล็ก สุดตัวตอนล่างมีไม้ขวางอีกอันหนึ่ง สำหรับผูกหาง ซึ่งมีสองหางช่วยในการทรงตัวเมื่อลอยขึ้นไปอยู่ในอากาศ ส่วนบนของหัว ไม้อันที่เป็นอกยื่นออกมาในราวหนึ่งคืบ เป็นเดือยในลักษณะสี่เหลี่ยมเพื่อเสียบที่ทำเสียง ซึ่งเป็นคันเหมือนที่ทำกระสุนหรือธนู ทำด้วยไม้ไผ่ เจาะรูให้เป็นสี่เหลี่ยม กึ่งกลางคันให้พอดีกับเดือยสี่เหลี่ยมที่ยื่นออกมา ตัวกลางที่ทำให้เกิดเสียงนั้น ใช้ไม้ไผ่หรือหวายเส้นโตๆ เหลาให้เป็นแผ่นบางๆ แล้วเอาปลายเชือกสองข้างผูกติดกับปลายคัน เมื่อติดเครื่องทำเสียงนี้แล้วก็จัดการให้ว่าวขึ้นไปลอยอยู่บนอากาศ ไม้ไผ่หรือหวายแผ่นบางๆที่ถูกขึงอยู่นั้น เมื่อสายลมมาปะทะ ก็จะพลิ้วตัว ทำให้เกิดเสียงดังตุ๋ยตุ่ยอยู่ตลอดเวลา ว่าวนี้ทำเล่นกันตามชนบท โดยมากพระเป็นผู้ทำ นิยมชักขึ้นในเวลากลางคืน[/size] http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%A7%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%A7 (http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%A7%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%A7) emo_84 emo_107 emo_84 หัวข้อ: Re: ๐ไม่มีบทกวีหวานที่บ้านฉัน๐ เริ่มหัวข้อโดย: อริญชย์ ที่ 11 กุมภาพันธ์ 2012, 05:15:PM (http://www.artsedcenter.com/images/sub_1295518029/8.jpg)
สำนักงานเขตหลักสี่ จัดตั้งขึ้นโดยประกาศกระทรวงมหาดไทย เมื่อวันที่ 14 ตุลาคม 2540 สมัยราชกาลที่ 5 โดยแบ่งพื้นที่ออกจาก เขตดอนเมือง จำนวน 2แขวง ประกอบด้วยแขวงทุ่งสองห้อง แขวงตลาดบางเขน มีเนื้อที่ประมาณ 22.841 ตารางกิโลเมตร เขตหลักสี่มีวัดหลักสี่ ซึ่งเป็นพระอารามหลวง เป็นวัดที่สำคัญสร้างขึ้นในสมัยรัตนโกสินทร์ คำขวัญประจำเขตหลักสี่ “วัดหลักสี่งามวิจิตร แหล่งผลิตว่าวไทย เลื่องลือไกลหัวโขนงามน่ายลเขตหลักสี่” ชุมชนทำว่าว เป็นชื่อเรียกชุมชนแห่งหนึ่งที่เกิดขึ้นจากการที่ได้มีผู้อยู่อาศัยในชุมชนประกอบอาชีพในการประดิษฐ์ว่าวซึ่งเป็นภูมิปัญญาของคนไทย และเป็นหัตถกรรมพื้นบ้านออกจำหน่ายเผยแพร่ในชุมชน ชุมชนนี้มีลุงกุน บุญนก เป็นผู้นำชุมชนในการประดิษฐ์ว่าวซึ่งอยู่บ้านเลขที่ 304/686 หมู่ 3 การเคหะแห่งชาติบางบัว ซอยพหลโยธิน 49/1 ถนนพหลโยธิน แขวงตลาดบางเขน เขตหลักสี่ กทม. ผู้นำชุมชนการทำว่าวไทยเขตหลักสี่ ผู้นำชุมชนด้านศิลปะการทำว่าวคือ ลุงกุน บุญนก เกิดเมื่อวันที่ 29 มกราคม พ.ศ. 2468 ที่จังหวัดนครสวรรค์ สมรสกับนางสาวเยือน จีนผ่อง อาชีพแม่บ้าน มีบุตรชาย 2 คน หญิง 6 คน ได้แก่ นางรัชนีกร นายสาโรจน์ นางจงกล นายปัญญา นางสาวอรพินท์ นางกมล นางสาวทองพูน บุญนก ลุงกุน บุญนก เป็นผู้เชี่ยวชาญ ด้านการทำว่าวพื้นบ้านทุกชนิดผลงานการสืบสานและสร้างสรรค์มีคุณค่าทางด้านศิลปะการสืบสานภูมิปัญญาที่เป็นเอกลักษณ์ ทำให้ได้รับการยอมรับของชุมชนสังคมทั้งในประเทศและต่างประเทศการที่ลุงกุน บุญนก นำความรู้ด้านศิลปะการทำว่าว ที่ตนเองได้ศึกษาค้นคว้า ค้นพบ ทดลองจนประสบความสำเร็จแล้วไปเผยแพร่ สอน ถ่ายทอดให้ผู้อื่นได้เรียนรู้นำไปปฏิบัติจนประสบความสำเร็จ เป็นประโยชน์โดยรวมแก่สังคมจึงได้รับการยกย่องเชิดชูเกียรติ ให้เป็นครูภูมิปัญญาไทยรุ่นที่ 4 ด้านศิลปกรรมประจำปีพุทธศักราช 2548จากสำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ ว่าวที่ประดิษฐ์ออกจำหน่ายมีหลายแบบหลายชนิด เช่น ว่าวนกฮูก ว่าวปลาเงินปลาทอง ว่าวผีเสื้อ ว่าวมังกร ว่าวหกเหลี่ยม ว่าวพญาครุฑ ฯลฯ ผู้นำชุมชนการทำว่าวไทยหลักสี่ รุ่นที่ 2 ปัจจุบันผู้สืบทอดกลวิธีการทำว่าวไทยหลักสี่ คือนายสาโรจน์ บุญนก ซึ่งรับสอนการทำว่าวให้กับสถานศึกษาทั่วไป รวมทั้งเป็นที่ปรึกษาด้านการทำว่าวให้กับศูนย์พัฒนาวิชาการศิลปศึกษา โรงเรียนการเคหะท่าทราย เอกสารอ้างอิง : กฤษณ์ จันทร์ทับ. (2553). การศึกษาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนสาระทัศนศิลป์หน่วยภูมิปัญญาท้องถิ่น เรื่อง ว่าวไทยหลักสี่ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ที่เรียนด้วยวิธีการจัดการเรียนรู้บูรณาการแบบสอดแทรกกับการจัดการเรียนรู้โดยให้ผู้เรียนแสวงหาและค้นพบคความรู้ด้วยตนเอง. ปริญญานิพนธ์ กศ.ม.(ศิลปศึกษา).กรุงเทพฯ: บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ. ********************************************** แนะนำงานวิจัย กฤษณ์ จันทร์ทับ. (2553). การศึกษาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนสาระทัศนศิลป์หน่วยภูมิปัญญา ท้องถิ่นเรื่องว่าวไทยหลักสี่ ของนักเรียนระดับประถมศึกษาปีที่ 4 ที่เรียนด้วยวิธีการจัดการเรียนรู้บูรณาการแบบสอดแทรกกับการจัดการเรียนรู้โดยให้ ผู้เรียนแสวงหาและค้นพบความรู้ด้วยตนเอง. ปริญญานิพนธ์ กศ.ม.(ศิลปศึกษา). กรุงเทพฯ: บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ. คณะกรรมการควบคุม: ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.เลิศศิริร์ บวรกิตติ. ผู้ช่วยศาสตราจารย์จักรพงษ์ แพทย์หลักฟ้า. บทคัดย่อ การวิจัยครั้งนี้ มีจุดมุ่งหมายเพื่อศึกษาเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนสาระทัศนศิลป์ หน่วยภูมิปัญญาท้องถิ่น เรื่องว่าวไทยหลักสี่ ของนักเรียนระดับประถมศึกษาปีที่ 4 ที่เรียนด้วยวิธีการจัดการเรียนรู้บูรณาการแบบสอดแทรกกับการจัดการเรียนรู้โดยให้ผู้เรียนแสวงหาและค้นพบความรู้ด้วยตนเอง กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยเป็นนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนการเคหะท่าทราย เขตหลักสี่ กรุงเทพมหานคร ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2552 จำนวน 60 คน ซึ่งได้มาโดยวิธีการสุ่มอย่างง่าย (Simple Random Sampling) โดยวิธีการจับฉลากให้เป็นกลุ่มทดลองที่ 1 และกลุ่มทดลอง ที่ 2 กลุ่มละ 30 คน กลุ่มทดลองที่ 1 ได้รับการจัดการเรียนรู้บูรณาการแบบสอดแทรก กลุ่มทดลองที่ 2 ได้รับการจัดการเรียนรู้โดยให้ผู้เรียนแสวงหาและค้นพบความรู้ด้วยตนเอง โดยผู้วิจัยเป็นผู้ดำเนินการสอนด้วยตนเอง ใช้เวลาในการทดลองกลุ่มละ12 คาบๆ ละ 60 นาที โดยทั้งสองกลุ่มใช้เนื้อหาเดียวกันในการดำเนินการทดลองครั้งนี้ใช้แผนการวิจัยแบบ Randomized Control-Group Pretest Posttest Design เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยประกอบด้วย แผนการจัดการเรียนรู้บูรณาการแบบสอดแทรก แผนการจัดการเรียนรู้โดยให้ผู้เรียนแสวงหาและค้นพบความรู้ด้วยตนเอง แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนค่าความเชื่อมั่น 0.82 และแบบสำรวจความพึงพอใจต่อการเรียนมีค่าความเชื่อมั่น 0.865 วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติ ค่าเฉลี่ย ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน และ t-test ในรูปผลต่างของคะแนน (Difference Score) ผลการศึกษาพบว่า 1.นักเรียนที่เรียนสาระทัศนศิลป์ หน่วยภูมิปัญญาท้องถิ่น เรื่องว่าวไทยหลักสี่ ของนักเรียนกลุ่มทดลองที่ 1 ด้วยการจัดการเรียนรู้บูรณาการแบบสอดแทรกมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังการทดลองสูงกว่าก่อนการทดลองอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 2.นักเรียนที่เรียนสาระทัศนศิลป์ หน่วยภูมิปัญญาท้องถิ่น เรื่องว่าวไทยหลักสี่ ของนักเรียนกลุ่มทดลองที่ 2 ด้วยการจัดการเรียนรู้โดยให้ผู้เรียนแสวงหาและค้นพบความรู้ด้วยตนเอง มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังการทดลองสูงกว่าก่อนการทดลองอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 3.นักเรียนที่เรียนสาระทัศนศิลป์ หน่วยภูมิปัญญาท้องถิ่น เรื่องว่าวไทยหลักสี่ ของนักเรียนกลุ่มทดลองที่ 1 ด้วยการจัดการเรียนรู้บูรณาการแบบสอดแทรกมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนสูงกว่ากลุ่มทดลองที่ 2 ด้วยการจัดการเรียนรู้โดยให้ผู้เรียนแสวงหาและค้นพบความรู้ด้วยตนเอง อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 4.นักเรียนที่เรียนสาระทัศนศิลป์ หน่วยภูมิปัญญาท้องถิ่น เรื่องว่าวไทยหลักสี่ ของนักเรียนกลุ่มทดลองที่ 1 ด้วยการจัดการเรียนรู้บูรณาการแบบสอดแทรกมีความพึงพอใจอยู่ในระดับมาก 5.นักเรียนที่เรียนสาระทัศนศิลป์ หน่วยภูมิปัญญาท้องถิ่น เรื่องว่าวไทยหลักสี่ ของนักเรียนกลุ่มทดลองที่ 2 ด้วยการจัดการเรียนรู้โดยให้ผู้เรียนแสวงหาและค้นพบความรู้ด้วยตนเองมีความพึงพอใจอยู่ในระดับมาก ********************************* บรรยากาศการเรียนรู้ : ว่าวไทยหลักสี่ ผลการเรียนรู้จากการสังเกตเพิ่มเติม และสัมภาษณ์พบว่า นักเรียนมีความสุขในการเรียนรู้สังเกตจากบรรยากาศการเรียนรู้ในชั้นเรียน นักเรียนเกิดปฏิสัมพันธ์กับเพื่อนๆ ในกลุ่มเกิดการเรียนรู้แบบช่วยเหลือในกลุ่มของตัวเอง ช่วยเหลือซึ่งกันและกัน อีกทั้งพบว่านักเรียนเกิดการเชื่อมโยงถ่ายโอนความรู้ นำความรู้ที่ได้รับไปบูรณาการกับวิชาอื่นๆ เช่น วิชาคณิตศาสตร์ ในเรื่องรูปทรงของว่าวชนิดต่างๆ วิชาสังคม ในเรื่องประวัติชุมชนการทำว่าวไทยหลักสี่ เป็นต้น ตัวอย่างผลงานว่าวไทยเขตหลักสี่ ชุมชนการทำว่าวไทยหลักสี่ « Back http://www.artsedcenter.com/%E0%B8%A7%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%A7%E0%B9%84%E0%B8%97%E0%B8%A2%E0%B8%AB%E0%B8%A5%E0%B8%B1%E0%B8%81%E0%B8%AA%E0%B8%B5%E0%B9%88.html (http://www.artsedcenter.com/%E0%B8%A7%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%A7%E0%B9%84%E0%B8%97%E0%B8%A2%E0%B8%AB%E0%B8%A5%E0%B8%B1%E0%B8%81%E0%B8%AA%E0%B8%B5%E0%B9%88.html) หัวข้อ: Re: ๐ไม่มีบทกวีหวานที่บ้านฉัน๐ เริ่มหัวข้อโดย: อริญชย์ ที่ 18 กุมภาพันธ์ 2012, 09:23:PM ๐พลัดถิ่น๐
ใบเอ๋ยใบข้าว หนุ่มสาวชาวบ้านทุ่ง เข้าเมืองหวังเรืองรุ่ง ในแสงสีศิวิไลซ์ ยอดผักบุ้งพลัดถิ่น ดอกกระถินพลัดไพร จิ้งหรีดร้องร่ำไห้ เรไรกู่รำพัน นกขมิ้นแบกดาว โอ้หนุ่มสาวแบกฝัน ขี่แมลงจักจั่น ซัดเซพเนจร ถือกระดาษใบเดียว ท่องเที่ยวทั่วนาคร รินเหงื่อเพื่อเงินก้อน ส่งหนี้เหลือบนายทุน !ฯ อริญชย์ ๑๘/๒/๒๕๕๕ emo_60 emo_107 emo_60 หัวข้อ: Re: ๐ไม่มีบทกวีหวานที่บ้านฉัน๐ เริ่มหัวข้อโดย: อริญชย์ ที่ 15 มีนาคม 2012, 11:40:PM ๐ละครทุ่ง๐
ลมเย็นย่ำใกล้ค่ำแล้วพัดแผ่วผ่าน พลิ้วผสานเรไรกล่อมไพรสณฑ์ ดนตรีทุ่งกล่อมวิถีดั่งมีมนต์ สะกดดลแดนบ้านนาตราตรึงใจ วิหคน้อยร้องสั่งกลับรังแล้ว เสียงเจื้อยแจ้วจ้อแจ้จากแม่ไก่ โอบลูกมองหน้าหลังระวังภัย เหยี่ยวตาไวจับแซ่วอยู่แถวนั้น นกแซงแซวสุขใจคราใกล้ค่ำ โฉบบินต่ำเหนือหญ้าทุ่งสวรรค์ นกกระจิบวิบวับไปฉับพลัน นกเขาขันส่งอาทิตย์นิทรา เขียดขาคำร่ำร้องริมคลองคุ้ง กล่อมบ้านทุ่งแดนฝันสุดหรรษา จิ้งหรีดเพลินฤดีโชว์ลีลา หลบพงหญ้าบรรเลงดั่งเพลงพิณ นกเค้าแมวผกผินบินถลา โฉบเบาแผ่ว แววตา ดูบ้าบิ่น ตะปบเหยื่อในป่าเป็นอาจิณ หลังจิกกินอิ่มก็ปลีกบินหลีกไป ละครทุ่งดูเหมือนจะเถื่อนบ้าง แต่ทุกอย่างธรรมชาติแต้มวาดให้ สร้างอาถรรพ์ให้อยู่เคียงคู่ไพร จรรโลงใจกว่าละครตอนเย็นเย็น! ฯ อริญชย์ ๑๕/๓/๒๕๕๕ ปล.พบการพิมพ์พลาดหรือด้วยความโง่เขลาของข้าพเจ้า เมตตาท่านผู้รู้แจ้งหลังไมค์ด้วยฮะ ขอบคุณมาก ๆ http://www.youtube.com/watch?v=tfChR9O7zwo&feature=related emo_107 emo_60 emo_107 หัวข้อ: Re: ๐ยังไร้บทกวีหวานที่บ้านฉัน๐ เริ่มหัวข้อโดย: อริญชย์ ที่ 30 พฤษภาคม 2012, 01:32:PM ๐ยังไร้บทกวีหวานที่บ้านฉัน๐
ยังไร้บทกวีหวานที่บ้านฉัน ยังเงียบงันสิ้นหวังเช่นครั้งก่อน ยังคอยความเมตตาเอื้ออาทร ยังวิงวอนให้ผู้ที่รู้นำ อยากแต่งให้เฉิดฉันลาวัณย์พจน์ อยากให้บทกลอนหวานชื่นบานฉ่ำ อยากให้สูงสุดสอยทุกถ้อยคำ อยากให้จำกันไว้ซึ้งใจนาน เขียนแต่เรื่องทุ่งนาและป่าเขา เขียนแต่เศร้าสลักถ้อยหักหาญ เขียนแต่ความเหน็บหนาวทุกข์ร้าวราน เขียนแต่การอนุรักษ์พิทักษ์ไพร เธออ่านแล้วคงคิดมาผิดที่ เธอคงหนีหน้าหายไม่กรายใกล้ เธอคงกาคำตอบไม่ชอบใจ เธอคงไปไกลแล้วสู่แวววาว ฉันก็ยังคงเป็นอยู่เช่นนี้ ฉันก็มีแค่เรื่องป่านำมากล่าว ฉันยังไม่ฟูเฟื่องทุกเรื่องราว ฉันจึงหนาวน้ำตาทางกวี!ฯ อริญชย์ ๓๐/๕/๒๕๕๕ ปล.ขอบคุณนักกลอนหลาย ๆ ท่านที่แนะนำตักเตือน และทำให้ดูเป็นตัวอย่างมาตลอด อริญชย์มักจะแอบอ่านเอาความรู้เพิ่มเติม แล้วฝึกวิทยายุทธ์ไปเรื่อย ๆ แต่สุดท้ายก็ยังประดักประเดิดเหมือนเดิม ห้า ห้า จริงไหม คุณงาย (คุณเพรางาย ครูกลอนคนนี้แนะนำได้สุดยอดมาก ๆ ปรึกษาเธอหลายครั้ง ได้ความรู้มากมายจริง ๆ) emo_107 emo_60 emo_107 หัวข้อ: Re: ๐ไม่มีบทกวีหวานที่บ้านฉัน๐ เริ่มหัวข้อโดย: panthong.kh ที่ 30 พฤษภาคม 2012, 04:28:PM (http://image.ohozaa.com/i/d96/SvNWp.gif) (http://image.ohozaa.com/view2/6ZgV) ยังมีบท รสรัก สลักจิต ยังมีสิทธิ์ คิดฝัน ไม่ผันหนี ยังปองหวัง ดั่งทรวง ทุกท่วงที ยังยินดี ยิ่งแล้ว ในแววตา อยากบอกเธอ เพ้อหา อุราหวั่น อยากบอกกัน ฝันวาด ดังมาดว่า อยากรักเหลือ เชื่อได้ ในอุรา อยากคอยท่า คราหลัง ใจหลั่งริน รักจริงจัง ครั้งนี้ ไม่มีหน่าย รักไม่คลาย กลายกลับ สลับสิ้น รักชั่วฟ้า ดินสลาย ไม่วายจินต์ รักยุพิน ถวิลหา ชั่วฟ้าดิน พันทอง (http://image.ohozaa.com/i/d96/SvNWp.gif) (http://image.ohozaa.com/view2/6ZgV) หัวข้อ: Re: ๐ไม่มีบทกวีหวานที่บ้านฉัน๐ เริ่มหัวข้อโดย: สุนันยา ที่ 30 พฤษภาคม 2012, 04:48:PM (http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W12156119/W12156119-1.gif) มีเพียงแต่ กลอนเศร้า เอามาฝาก ด้วยลำบาก กลั่นกลอน วอนถวิล เพราะว่ายัง ขื่นขม ระทมจินต์ อักษรศิลป์เหว่ว้า อ่อนล้าทรวง คนเคยรัก หักหาญ ไม่พานพบ ยากจะกลบ ลบรอย ที่คอยหวง ความทรงจำ ย้ำลึก ตรึกแดดวง เมื่อถูกลวงด้วยรัก สุดหักใจ ร้อยบรรเลงเพลงกานท์ผสานเศร้า กลายเป็นเรา รักคุด ยากฉุดไหว ช้ำสะอื้น กลืนเก็บ หนาวเหน็บใน ไม่อาจข่ม ฤทัย ลืมได้เลย ได้แต่ครวญเพลงคลอ ท้อจับจิต รักคนผิด คิดครอง ปองเปิดเผย กลับแปรผัน เปลี่ยนไปไม่ลงเอย ต้องกอดเกย เชยช้ำ ระกำมาน รับไหมคะ กลอนเศร้า คนเหงาแต่ง มิได้แกล้ง โอดครวญ ชวนสงสาร รอยน้ำตาอาลัย ไหลล้นกานท์ สิ้นรสหวาน สานกลอน มาอ้อนครวญ... “สุนันยา” |