พิมพ์หน้านี้ - เสียกรุงครั้งที่สาม!!

ชุมชน บ้านกลอนไทย ชุมชนสำหรับคนไทยผู้รักกลอน

บทประพันธ์กลอนและบทกวีเพราะๆ => กลอนให้กำลังใจ => ข้อความที่เริ่มโดย: นพตุลาทิตย์ ที่ 17 ตุลาคม 2011, 03:44:PM



หัวข้อ: เสียกรุงครั้งที่สาม!!
เริ่มหัวข้อโดย: นพตุลาทิตย์ ที่ 17 ตุลาคม 2011, 03:44:PM
(http://a4.sphotos.ak.fbcdn.net/hphotos-ak-ash4/312549_265421110169265_100001041331002_882202_6500071_n.jpg)

รูปถ่ายจากสถานที่จริง Q-CON บางปะอิน น้ำท่วม 2 เมตร หลังจากสู้มา3วัน  


สืบเนื่องน้ำฉ่ำนองทั้งสองฟาก
เจ้าพระยาไหลหลากลำบากทั่ว
กรุงเก่าล่มจมนิ่งทุกสิ่งมัว
ป่าสักรัวตีด่านบาดาลพัง

พิษของฝนผลของเขื่อนมาเจือนจาก
น้ำตาพรากอกพรากที่ฝากฝัง
บางโฉมศรีที่เห็นเป็นพนัง
พานไหลหลั่งวิตกอุทกภัย

สหรัตน์ฯจมดิ่งทิ้งแต่ซาก
ตามมาพรากโรจนะผละอกไห้
บ้านหว้าสู้เพื่อถิ่นจนสิ้นใจ
บางปะอินเกินไหวจะฝืนแรง

แฟคตอรี่วังน้อยละห้อยเศร้า
นว-ยังนั่งเฝ้าคราวสิ้นแสง
มิเหลือแล้วกรุงเก่าเราร่วมแรง
เพื่อกรุงใหม่ได้แข่งเจ้าโลกา

เหมือนวันวานกาลเก่าเข้าหวนสู่
เสียกรุงอยู่ครั้งสองคนมองหา
ผู้คนต่างร้างไร้แววนัยน์ตา
เมื่อเสียกรุงสามคราน่าเจ็บใจ

หวังกรุงเทพฯยงอยู่คู่โลกสวย
พวกเราช่วยร่วมแรงแถลงไข
ยอมสูญเสียแข้งขามิปราชัย
เพียงหวังให้ประเทศคงยงยั่งยืน

ตุลาทิตย์ วิศวกรรมกร




หัวข้อ: Re: เสียกรุงครั้งที่สาม!!
เริ่มหัวข้อโดย: นพตุลาทิตย์ ที่ 17 ตุลาคม 2011, 03:55:PM
โดนโอบล้อมอ้อมกรุงผดุงสู้
ยังต้านอยู่หน้าด่านทานหยัดฝืน
หลังหลับนิ่งทิ้งร่างในกลางคืน
ตกใจตื่นโดนทะลวงจ้วงหลังเอา

เมื่อหลังแตกแหลกยับยังขับเข่น
กำลังน้อยถอยเร้นฝืนรบเขา
เมื่อพะว้าหน้าหลังระวังเรา
จึงตลบหน้าเข้าเศร้าเกินทน

ข้าศึกบุกทลายหมายสิ่งของ
ดียังป้องชีวิตสัมฤทธิ์ผล
รอเมื่อเขาถอยหลังกำลังพล
จะกลับวนมาฟื้นชื่นประชา

(http://a2.sphotos.ak.fbcdn.net/hphotos-ak-ash4/316464_265421956835847_100001041331002_882222_534531693_n.jpg)


หัวข้อ: Re: เสียกรุงครั้งที่สาม!!
เริ่มหัวข้อโดย: yaguza ที่ 17 ตุลาคม 2011, 07:41:PM
ได้ฟังข่าว อุทก แล้วอกไห้
แม้นมิได้ อยู่ถึง ซึ่งปัญหา
รับข่าวร้าย สิ้นแล้ว อโยธยา
ถูกตีฝ่า ปราการ สุดทานทน

ฟังข่าวขาน จากเขา เราก็ห่วง
น้ำเหนือล่วง ลงมา พร้อมห่าฝน
ไม่ทอดทิ้ง เคียงบ่า ประชาชน
เธอลำบาก ลำบน กับคนทุกข์

ทั้งร่างกาย ตรากตรำ จนย่ำแย่
ช่วยดูแล แก้ไข ไม่อยู่สุข
คราเศร้าโศก โรคเก่า ก็เร้ารุก
ต้องนอนซุก ทุกคราว เมื่อหนาวตัว

เธอมิเคย บ่นหา ว่าท้อแท้
ไม่มีแม้ ผ้านุ่ม จะคลุมหัว
ไม่มีจิต คิดขลาด หรือหวาดกลัว
คอยพันพัว กับคนไข้ แทบไม่นอน

.....ยากูซ่า.....


หัวข้อ: Re: เสียกรุงครั้งที่สาม!!
เริ่มหัวข้อโดย: บัณฑิตเมืองสิงห์ ที่ 17 ตุลาคม 2011, 08:56:PM
กระทู้กล่าวเสียกรุงครั้งที่สาม
เมืองอารามนามเก่าเข้าหลอกหลอน
กรุงศรีฯท่วมอ่วมน้ำทุกช่วงตอน
ทุกสิ่งปอนเปียกปรกอุทกฤทธิ์

.......................................

โอ้ถึงกาลฟ้าแยกแตกสลาย
แค่เพียงสายน้ำหลากลำบากจิต
หมดทรัพย์สินบ้านเรือนเกลื่อนชีวิต
ที่โดนปลิดอาเพศไร้เมตตา

ฟ้ายังแกล้งร้องครวญกวนประสาท
เสียงอาฆาตโครมครืนคลื่นปัญหา
เย็นวันนี้ขื่นขมตรมวิญญาณ์
เสียงฟ้าคร่าถล่มเปรี้ยงบนเขียงชน

มิหนำซ้ำยังกล้าบ้าระห่ำ
ฝนกระหน่ำซ้ำเติมเพิ่มหมองหม่น
มนุษย์ผู้ประเสริฐเกิดเป็นคน
ยังโดนผลกระทบยากลบเลือน

ดุจเสียงของปืนใหญ่ใส่ถาโถม
กระหน่ำโหมดังลั่นแสงสีเกลือน
ตามรอยเมฆมืดมิดปิดดวงเดือน
ความดำเคลื่อนครอบคลุมสุมความกลัว

สักพักหนึ่งน้ำเชี่ยวเหมือนเกรี้ยวกราด
น่าอนาถไหลเทประเดทั่ว
ซึมรางน้ำทะลักกระอักตัว
จะท่วมหัวคราใดไม่ไม่รู้!

เมื่อเวลา 18.30น. มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญเป็นเช่นนี้

(http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_017.gif)

บัณฑิตเมืองสิงห์


หัวข้อ: Re: เสียกรุงครั้งที่สาม!!
เริ่มหัวข้อโดย: ...สียะตรา.. ที่ 17 ตุลาคม 2011, 09:15:PM



......อโยธยา....คงวิจิตร...สถิตย์...รฤก

...จักผ่านศึก...สักกี่ครั้งยังกำแหง

...วัฒนธรรมคร่ำบ่มคมสำแดง

...แม้..ดิน...แปลง...โดยต่างภาษา....อารยธรรม....





หัวข้อ: Re: เสียกรุงครั้งที่สาม!!
เริ่มหัวข้อโดย: hort39 ที่ 17 ตุลาคม 2011, 10:17:PM
สูญสิ้นเสียหายแทบไม่เหลือ
หมดเนื้อหมดตัวหมดทางสู้
กรุงแตกพ่ายแพ้แก่ศัตรู
พรั่งพรูรายล้อมกายา

เหลือเพียงเท่านี้แค่ชีวิต
ตั้งจิตคิดฝันสู้ฟันฝ่า
ด้วยใจไม่สูญสิ้นศรัทธา
จะกลับมากอบกู้สู้ผจญ

...............

ขอไทยไม่ทิ้งกันวันทุกข์ยาก
บริจากทรัพย์สิ่งของคลายหมองหม่น
ทุกข์ครั้งนี้ท่วมใจไทยทุกคน
จะรอดพ้นด้วยน้ำใจไทยช่วยกัน


emo_126


หัวข้อ: Re: เสียกรุงครั้งที่สาม!!
เริ่มหัวข้อโดย: คนเผาถ่าน ที่ 17 ตุลาคม 2011, 11:25:PM
ด้วยข้าศึกเชี่ยวกรากจากฝั่งเหนือ
รวมตัวเพื่อตีกรอบรอบสถาน
หมายพิชิตเมืองกรุงมุ่งทะยาน
ให้แหลกรานย่อยยับไปกับแรง

ผ่านนคร สวรรค์ ดันเข้าบ่า
โหมบีทาท่วมทั่วหัวระแหง
แม้กำแพงแนวกั้นมันตะแบง
ด้วยฤทธ์แห่งพิรุณหนุนนำชัย

กองหนุนหลักจากเขื่อนเคลื่อนเข้าเสริม
มาเพิ่มเติมกองทัพร่วมขับไล่
ทั้งนาลุ่มเรือกสวนล้วนบรรลัย
ข้าศึกไหลบ่าท่วมอ่วมวิญญา

สู่นครกรุงเก่าเข้าล้อมกรอบ
ทุกเขตรอบเกาะเมืองทั้งเบื้องหน้า
มีป่าสักเข้าร่วมท่วมระอา
มิดหลังคาบ้านเรือนเหมือนทะเล

ถึงหน้าด่านรังสิตติดแนวกั้น
เอาเรือหลวงช่วยดันผันหักเห
แต่กระนั้นข้าศึกผนึกเท
ยังเกเรรุกไล่จนใกล้พัง

มันยึดเมืองหลายเมืองสู่เบื้องลึก
มันผนึกแรงบ่าหมายฆ่าฝัง
มันตีกรอบรอบกรุงตุงพนัง
มันจะคลั่งถึงไหน..ใจระทึก

คนเผาถ่าน


 emo_111 emo_79


หัวข้อ: Re: เสียกรุงครั้งที่สาม!!
เริ่มหัวข้อโดย: บ้านริมโขง ที่ 18 ตุลาคม 2011, 04:37:AM
(http://www.bloggang.com/data/praewkwun/picture/1228403132.bmp)

ยามอยู่ดีมีประเด็นให้เข่นฆ่า
ไม่ศรัทธาสามัคคีที่เสนอ
ชอบแบ่งฝ่ายแบ่งสีนี่ ฉัน, เธอ
เอาความตายเสนอเป็นเกลอกัน

ฟ้าดินกล้ำซ้ำเติมช่วยเสริมส่ง
ดังประสงค์คนเมืองเรื่องเสกสรร
อยากให้ตายก็ซ้ำตายเป็นรายวัน
อยากจะบั่นก็บั่นให้...ไร้แผ่นดิน

ล้วนต้องการใช่ไหมยามใดสุข
ด้วยชอบรุก รานฆ่า พาถวิล
ให้รู้รสความมักใหญ่..ในราคิน
ให้รู้สิ้นความพลัดพรากมากอย่างไร

ความพินาศช่วยยั้งพลังอาฆาต
จึงรู้เช่นเห็นชาติความหวาดไหว
ชีวิตมันสั้นนักจักเข้าใจ
ไม่มีใครค้ำฟ้า..มาคนเดียว.

"บ้านริมโขง"

(http://www.bloggang.com/data/praewkwun/picture/1228402617.gif)


หัวข้อ: Re: เสียกรุงครั้งที่สาม!!
เริ่มหัวข้อโดย: อริญชย์ ที่ 18 ตุลาคม 2011, 09:26:AM
สามัคคีคือพลังไทยทั้งชาติ

หลอมรวมใจไทยสู้เพื่อกู้ชาติ
จึงจะอาจพ้นภัยครั้งใหญ่นี้
บริจาคเงินทองข้าวของมี
ช่วยเหลือพี่น้องไทยพ้นภัยธาร

คนละเล็กคนละน้อย ก็คอยหวัง
เป็นพลังอันล้ำค่ามหาศาล
อย่าทำใจบอดมืดมนอนธการ
ในยามบ้านเมืองช้ำนองน้ำตา

อย่ามัวเห็นแก่ตัวทำหัวหด
น้ำใจลด ไทยยิ่งรวด ร้าวปวดปร่า
เจ็บกว่าสายอุทกหลั่งล้นฝั่งมา,
จงแกล้วกล้าร่วมฟื้นถิ่นแผ่นดินไทย
                     (อริญชย์:วอนร่วมใจ)
                    ๑๘/๑๐/๒๕๕๔



หัวข้อ: Re: เสียกรุงครั้งที่สาม!!
เริ่มหัวข้อโดย: Music ที่ 18 ตุลาคม 2011, 09:58:AM

.......... emo_79............
ฉันเหมือนดั่งนกขมิ้นที่สิ้นหวัง
แลหน้าหลังเนืองน้ำที่ฉ่ำไหล
เคยเกาะเกี่ยวเที่ยวเล่นเป็นพันไมล์
จะฉอเลาะที่ใด?..สุขใจจัง

มาบัดนี้ผู้คนต่างหม่นหมอง
แววตาสองเหม่อลอยคอยความหวัง
มีแต่ทรงกับทรุดให้หยุดฟัง
ทุกข์บดบังหิวโซยากโผบิน

ฉันเหมือนดั่งนกขมิ้นที่สิ้นสุข
หมดแรงปลุกท่ามแลกระแสสินธุ์
ไม่มีแรงสองปีกจะหลีกบิน
น้ำตารินกล่อมกรุงไร้ทุ่งทอง

.......... emo_111..........


หัวข้อ: Re: เสียกรุงครั้งที่สาม!!
เริ่มหัวข้อโดย: ดาว อาชาไนย ที่ 18 ตุลาคม 2011, 12:50:PM





อดีตกาลอยุธยาพม่าล้อม
ไทยไม่ยอมต่อสู้ศัตรูผอง
ไม่สูญเสียพลไกรให้ประลอง
พอน้ำนองพม่าล่าถอยไป

น้ำเคยช่วยอยุธยาพ้นข้าศึก
เคยสำนึกคุณค่าน้ำบ่าไหล
ปัจจุบันโรงงานบานตะไท
ยุคสมัยคนละอย่างแตกต่างกัน

น้ำจึงมีทั้งดีทั้งมีโทษ
ยามเหี้ยมโหดกลับกลายร้ายมหันต์
สู้กับน้ำแทบตายนานหลายวัน
หาทางผันน้ำส่งลงทะเล

ดาว อาชาไนย


หัวข้อ: Re: เสียกรุงครั้งที่สาม!!
เริ่มหัวข้อโดย: ช่วงนี้ไม่ว่าง ที่ 18 ตุลาคม 2011, 01:55:PM

ด้วยข้าศึกเชี่ยวกรากจากฝั่งเหนือ
รวมตัวเพื่อตีกรอบรอบสถาน
หมายพิชิตเมืองกรุงมุ่งทะยาน
ให้แหลกรานย่อยยับไปกับแรง

ผ่านนคร สวรรค์ ดันเข้าบ่า
โหมบีทาท่วมทั่วหัวระแหง
แม้กำแพงแนวกั้นมันตะแบง
ด้วยฤทธ์แห่งพิรุณหนุนนำชัย

กองหนุนหลักจากเขื่อนเคลื่อนเข้าเสริม
มาเพิ่มเติมกองทัพร่วมขับไล่
ทั้งนาลุ่มเรือกสวนล้วนบรรลัย
ข้าศึกไหลบ่าท่วมอ่วมวิญญา

สู่นครกรุงเก่าเข้าล้อมกรอบ
ทุกเขตรอบเกาะเมืองทั้งเบื้องหน้า
มีป่าสักเข้าร่วมท่วมระอา
มิดหลังคาบ้านเรือนเหมือนทะเล

ถึงหน้าด่านรังสิตติดแนวกั้น
เอาเรือหลวงช่วยดันผันหักเห
แต่กระนั้นข้าศึกผนึกเท
ยังเกเรรุกไล่จนใกล้พัง

มันยึดเมืองหลายเมืองสู่เบื้องลึก
มันผนึกแรงบ่าหมายฆ่าฝัง
มันตีกรอบรอบกรุงตุงพนัง
มันจะคลั่งถึงไหน..ใจระทึก

คนเผาถ่าน


 emo_111 emo_79

น้ำไม่มี  ที่จะไป  จึงไหลปรี่
เข้าโจมตี  ประดุจว่า  เป็นข้าศึก
ยิ่งกางกั้น  มันยิ่งรวม  จนท่วมลึก
มานั่งนึก  น้ำไม่มี  ที่จะไป

ด้วยต่างที่  ต่างก็กั้น  เพราะหวั่นน้ำ
ต่างก็ทำ  ผนังกั้น  มันไม่ไหล
ด้านในแห้ง  แต่ด้านนอก  ออกอ่วมใจ
ใครต่อใคร  ก็หวังรอด  ปลอดภัยตัว

ผลเลยส่ง  ตรงไป  ผู้ไร้ทรัพย์
ต้องย่อยยับ  ทั้งชีวิต  น้ำมิดหัว
จากเข่า,เอว  ถึงบ่า มาล้นตัว
แม้หวาดกลัว  สุดจะหนี  นทีธาร

เพราะมันขาด  ที่ลุ่ม  จะอุ้มน้ำ
จึงเอ่อล้ำ  ล้นบ่า   ที่นา,บ้าน
ด้วยต่างฝ่าย  ต่างก็กั้น  หมั่นต้านทาน
น้ำจะผ่าน  ตรงไหน  ไม่เห็นทาง

คนอยู่ใน  ทำนบ  พบหวาดหวั่น
ต่างก็ขวัญผวา  จนฟ้าสาง
คนอยู่นอก  ทำนบ  จบทุกบาง
บ้างบาดหมาง  เพราะคันกั้น  นั้นแท้จริง

แม้น้ำใจ  ไทยต่างมี  อารีรอบ
ก็ต้องขอบ  คุณจากใจ  ในหลายสิ่ง
แต่ถ้าแลก  กันได้  ไม่ประวิง
หวังอย่างยิ่ง  อยากให้น้ำ  ลดต่ำลง

วิงวอนรัฐ  ขจัดภัย  ในปีหน้า
เพื่อต่อต้าน  น้ำบ่า  ขออย่าหลง
ด้วยจัดเตรียม  ที่ลุ่มไว้  ใส่จำนง
น้ำก็คง  ไม่ล้นเช่น  ที่เป็นแล


ปล.ผมมีความในใจหลายอย่าง รู้ว่าพูดไปอาจไม่ควรในเวลาเช่นนี้  ผมว่าคนที่ถูกน้ำท่วมนั้น
ถ้าให้เลือกได้ระหว่างรอธารน้ำใจ  กับไม่ต้องหมดตัว  ผมว่าชาวบ้านเขาเต็มใจเลือกอย่างหลังมากกว่า
การแก้ปัญหาโดยทำผนังกั้นน้ำไม่ให้เข้าแต่ละที่นั้น  มันเป็นการแก้ปัญหาแบบขอไปที  ใครมีกำลังมีทรัพย์
ก็ทำผนังกั้นน้ำเฉพาะกลุ่มเฉพาะตน  แต่คนที่ไม่มีกำลังจะกั้นน้ำล่ะ ? บ้านอยู่นอกเขตผนังกั้นน้ำ  น้ำท่วมมิดหัว
การทำผนังกั้นไม่ให้น้ำเข้ายิ่งจะทำให้ภายนอกน้ำมีระดับเอ่อสูงขึ้นเพราะน้ไม่มีที่จะไป  เมื่อน้ำมีระดับสูงขึ้นและมี
ปริมาณมหาสาล ในที่สุดแนวกำแพงที่ก่อไว้จะต้านทานน้ำหนักไม่ไหวในที่สุดก็จะพังและน้ำจะทะลักไหลเข้าอยู่ดี
ดังที่เห็นหลายๆที่ว่าในที่สุดจะกั้นไว้ไม่อยู่  ส่วนคนที่อยู่นอกแนวกั้นก็ลำบากมากเพราะน้ำท่วมมิดหลังคาบ้าน
รัฐจะว่าอย่างไร
         ทางออกที่ถูกต้องก็คือรัฐจะต้องสร้างที่ลุ่มเพื่อรองรับน้ำ ตามแนวพระราชดำริที่เรียกว่าแก้มลิง ไว้รองรับน้ำ
เมื่อน้ำหลาก  และเก็บกักน้ำไว้ใช้ในฤดูแล้งที่ขาดน้ำ  การสร้างแก้มลิง หรือที่ลุ่มเพื่อรองรับน้ำนี้ไม่ใช่จะสร้างเพียง
ที่สองที่พอเป็นพิธีไปเท่านั้น  แต่ควรจะสร้างเป็นหมื่นๆที่ทั่วประเทศ โดยมีีขนาด เล็ก  กลาง  ใหญ่  ตามความเหมาะสม
การใช้วิธีก่อผนังกั้นน้ำในแต่ละจุดนั้นไม่ใช่วิธีที่ถูกต้อง  เพราะเมื่อทุกคนต่างฝ่ายต่างก็กั้นทำนบของตน  ในที่สุดน้ำไม่มี
ที่จะไปก็จะเอ่อล้นท่วมสูงขึ้น  ผู้ที่รับเคราะห์ก็คือผู้ที่อยู่นอกแนวผนังกันนั่นเอง  ในเมื่อฟากหนึ่งอยู่สบายน้ำไม่ท่วม
แต่อีกฟากต้องอยู่อย่างลำบากน้ำท่วมจนมิด  ลองคิดดูว่าอะไรมันจะเกิดขึ้น  แม้ธารน้ำใจจะมากมีแต่มันเทียบไม่ได้เลย
กับการต้องสิ้นเนื้อประดาตัว
        ยังไงฝากท่านผู้นำไปพิจารณาด้วยละกัน  ว่าจะแก้ปัญหาระยะยาวอย่างไร  การเตรียมแค่กระสอบทราย อาหารแห้ง
กับเงินค่าชดเชยคงไม่ใช่ทางออกที่ดีแน่ๆ  อย่างไรก็ดี ปีหน้าฟ้่าใหม่  ควรจะงดโครงการเมกะโปรเจคทั้งหลาย  แล้วเอาเงิน
นั้นมาขุดที่ลุ่มรองรับน้ำจะดีไหม  การช่วยชาวบ้านไม่ให้น้ำท่วม  นอกจากจะเป็นการช่วยประชาชนรากหญ้าแล้วยังเป็นการ
ช่วยอุตสาหกรรม ช่วยเศรษฐกิจของประเทศไม่ให้ล่มสลายอีกด้วย  









หัวข้อ: Re: เสียกรุงครั้งที่สาม!!
เริ่มหัวข้อโดย: Music ที่ 18 ตุลาคม 2011, 03:38:PM
(http://news.mthai.com/wp-content/uploads/2011/10/pic1.jpg.pagespeed.ce.-yREDIOtNc.jpg)



อยุธยาครานี้...สุดชีช้ำ
ฝนกระหน่ำน้ำเหนือเหลือกระแส
บ้านที่เคยอบอุ่นล๊อคกุญแจ
ถูกลอยแพหรือเปล่าตามข่าวลือ

คว้าแขนเมียลูกสองของนิดหน่อย
ทุกอย่างปล่อยให้เน่าเจ้าอย่าถือ
เหลือเท่าไหร่เท่ากันอย่าคันมือ
ขนไหวหรือชั้นสอง...ของเต็มเรือน

หนีมาอยู่ชายทะเลคลื่นเทซ้ำ
ฝนกระหน่ำเฝ้าตามโทรฯถามเพื่อน
ยินแต่เสียงงอแง..เพราะแชเชือน
คำเราเตือน..นายติง..ทิ้งไม่ลง

รถที่ซื้อมาใหม่อยู่ใต้น้ำ
พูดวนซ้ำไปมาเหมือนว่าหลง
บ้านชั้นสองท่วมแล้วฉายแววปลง
ประตูน้ำยืนยง....ปิดลงกลอน

มองหน้าลูกกลบเกลื่อนต้องเบือนหน้า
ลืมเสื้อผ้าหนังสือถือแต่หมอน
เสียงลูกร้องละเมอก่อนเธอนอน
"การบ้านตอนเปิดเทอมหลัง..ยังไม่ทำ"

(ไม่รู้จะบอกลูกยังไงดี...ว่าป่านนี้น้ำท่วมชั้นสองหมดแล้วจ๊าลูกหนังสือ-เสื้อผ้าลูกคงไม่มี)



(http://t0.gstatic.com/images?q=tbn:ANd9GcR3ytEZ2tCxfW1-J1cZjQslYxKb0kz0OP2vsJloPIWhnElEyp20AQRzdJIizg)


หัวข้อ: Re: เสียกรุงครั้งที่สาม!!
เริ่มหัวข้อโดย: hort39 ที่ 18 ตุลาคม 2011, 10:32:PM

ด้วยข้าศึกเชี่ยวกรากจากฝั่งเหนือ
รวมตัวเพื่อตีกรอบรอบสถาน
หมายพิชิตเมืองกรุงมุ่งทะยาน
ให้แหลกรานย่อยยับไปกับแรง

ผ่านนคร สวรรค์ ดันเข้าบ่า
โหมบีทาท่วมทั่วหัวระแหง
แม้กำแพงแนวกั้นมันตะแบง
ด้วยฤทธ์แห่งพิรุณหนุนนำชัย

กองหนุนหลักจากเขื่อนเคลื่อนเข้าเสริม
มาเพิ่มเติมกองทัพร่วมขับไล่
ทั้งนาลุ่มเรือกสวนล้วนบรรลัย
ข้าศึกไหลบ่าท่วมอ่วมวิญญา

สู่นครกรุงเก่าเข้าล้อมกรอบ
ทุกเขตรอบเกาะเมืองทั้งเบื้องหน้า
มีป่าสักเข้าร่วมท่วมระอา
มิดหลังคาบ้านเรือนเหมือนทะเล

ถึงหน้าด่านรังสิตติดแนวกั้น
เอาเรือหลวงช่วยดันผันหักเห
แต่กระนั้นข้าศึกผนึกเท
ยังเกเรรุกไล่จนใกล้พัง

มันยึดเมืองหลายเมืองสู่เบื้องลึก
มันผนึกแรงบ่าหมายฆ่าฝัง
มันตีกรอบรอบกรุงตุงพนัง
มันจะคลั่งถึงไหน..ใจระทึก

คนเผาถ่าน


 emo_111 emo_79

น้ำไม่มี  ที่จะไป  จึงไหลปรี่
เข้าโจมตี  ประดุจว่า  เป็นข้าศึก
ยิ่งกางกั้น  มันยิ่งรวม  จนท่วมลึก
มานั่งนึก  น้ำไม่มี  ที่จะไป

ด้วยต่างที่  ต่างก็กั้น  เพราะหวั่นน้ำ
ต่างก็ทำ  ผนังกั้น  มันไม่ไหล
ด้านในแห้ง  แต่ด้านนอก  ออกอ่วมใจ
ใครต่อใคร  ก็หวังรอด  ปลอดภัยตัว

ผลเลยส่ง  ตรงไป  ผู้ไร้ทรัพย์
ต้องย่อยยับ  ทั้งชีวิต  น้ำมิดหัว
จากเข่า,เอว  ถึงบ่า มาล้นตัว
แม้หวาดกลัว  สุดจะหนี  นทีธาร

เพราะมันขาด  ที่ลุ่ม  จะอุ้มน้ำ
จึงเอ่อล้ำ  ล้นบ่า   ที่นา,บ้าน
ด้วยต่างฝ่าย  ต่างก็กั้น  หมั่นต้านทาน
น้ำจะผ่าน  ตรงไหน  ไม่เห็นทาง

คนอยู่ใน  ทำนบ  พบหวาดหวั่น
ต่างก็ขวัญผวา  จนฟ้าสาง
คนอยู่นอก  ทำนบ  จบทุกบาง
บ้างบาดหมาง  เพราะคันกั้น  นั้นแท้จริง

แม้น้ำใจ  ไทยต่างมี  อารีรอบ
ก็ต้องขอบ  คุณจากใจ  ในหลายสิ่ง
แต่ถ้าแลก  กันได้  ไม่ประวิง
หวังอย่างยิ่ง  อยากให้น้ำ  ลดต่ำลง

วิงวอนรัฐ  ขจัดภัย  ในปีหน้า
เพื่อต่อต้าน  น้ำบ่า  ขออย่าหลง
ด้วยจัดเตรียม  ที่ลุ่มไว้  ใส่จำนง
น้ำก็คง  ไม่ล้นเช่น  ที่เป็นแล


ปล.ผมมีความในใจหลายอย่าง รู้ว่าพูดไปอาจไม่ควรในเวลาเช่นนี้  ผมว่าคนที่ถูกน้ำท่วมนั้น
ถ้าให้เลือกได้ระหว่างรอธารน้ำใจ  กับไม่ต้องหมดตัว  ผมว่าชาวบ้านเขาเต็มใจเลือกอย่างหลังมากกว่า
การแก้ปัญหาโดยทำผนังกั้นน้ำไม่ให้เข้าแต่ละที่นั้น  มันเป็นการแก้ปัญหาแบบขอไปที  ใครมีกำลังมีทรัพย์
ก็ทำผนังกั้นน้ำเฉพาะกลุ่มเฉพาะตน  แต่คนที่ไม่มีกำลังจะกั้นน้ำล่ะ ? บ้านอยู่นอกเขตผนังกั้นน้ำ  น้ำท่วมมิดหัว
การทำผนังกั้นไม่ให้น้ำเข้ายิ่งจะทำให้ภายนอกน้ำมีระดับเอ่อสูงขึ้นเพราะน้ไม่มีที่จะไป  เมื่อน้ำมีระดับสูงขึ้นและมี
ปริมาณมหาสาล ในที่สุดแนวกำแพงที่ก่อไว้จะต้านทานน้ำหนักไม่ไหวในที่สุดก็จะพังและน้ำจะทะลักไหลเข้าอยู่ดี
ดังที่เห็นหลายๆที่ว่าในที่สุดจะกั้นไว้ไม่อยู่  ส่วนคนที่อยู่นอกแนวกั้นก็ลำบากมากเพราะน้ำท่วมมิดหลังคาบ้าน
รัฐจะว่าอย่างไร
         ทางออกที่ถูกต้องก็คือรัฐจะต้องสร้างที่ลุ่มเพื่อรองรับน้ำ ตามแนวพระราชดำริที่เรียกว่าแก้มลิง ไว้รองรับน้ำ
เมื่อน้ำหลาก  และเก็บกักน้ำไว้ใช้ในฤดูแล้งที่ขาดน้ำ  การสร้างแก้มลิง หรือที่ลุ่มเพื่อรองรับน้ำนี้ไม่ใช่จะสร้างเพียง
ที่สองที่พอเป็นพิธีไปเท่านั้น  แต่ควรจะสร้างเป็นหมื่นๆที่ทั่วประเทศ โดยมีีขนาด เล็ก  กลาง  ใหญ่  ตามความเหมาะสม
การใช้วิธีก่อผนังกั้นน้ำในแต่ละจุดนั้นไม่ใช่วิธีที่ถูกต้อง  เพราะเมื่อทุกคนต่างฝ่ายต่างก็กั้นทำนบของตน  ในที่สุดน้ำไม่มี
ที่จะไปก็จะเอ่อล้นท่วมสูงขึ้น  ผู้ที่รับเคราะห์ก็คือผู้ที่อยู่นอกแนวผนังกันนั่นเอง  ในเมื่อฟากหนึ่งอยู่สบายน้ำไม่ท่วม
แต่อีกฟากต้องอยู่อย่างลำบากน้ำท่วมจนมิด  ลองคิดดูว่าอะไรมันจะเกิดขึ้น  แม้ธารน้ำใจจะมากมีแต่มันเทียบไม่ได้เลย
กับการต้องสิ้นเนื้อประดาตัว
        ยังไงฝากท่านผู้นำไปพิจารณาด้วยละกัน  ว่าจะแก้ปัญหาระยะยาวอย่างไร  การเตรียมแค่กระสอบทราย อาหารแห้ง
กับเงินค่าชดเชยคงไม่ใช่ทางออกที่ดีแน่ๆ  อย่างไรก็ดี ปีหน้าฟ้่าใหม่  ควรจะงดโครงการเมกะโปรเจคทั้งหลาย  แล้วเอาเงิน
นั้นมาขุดที่ลุ่มรองรับน้ำจะดีไหม  การช่วยชาวบ้านไม่ให้น้ำท่วม  นอกจากจะเป็นการช่วยประชาชนรากหญ้าแล้วยังเป็นการ
ช่วยอุตสาหกรรม ช่วยเศรษฐกิจของประเทศไม่ให้ล่มสลายอีกด้วย

"ช่วงนี้ไม่ว่าง" 


เห็นด้วยครับ ว่าเราต้องหาที่ให้น้ำอยู่ไม่ใช่เอาแต่กั้นน้ำฝืนธรรมชาติ แบบนี้ เหมือนระเบิดเวลาที่รอความพินาศมาเยือน



ยิ่งขวางกั้นดันไว้ไม่ให้ผ่าน
ยิ่งเสียดทานต้านขืนฝืนวิถี
ยิ่งเพิ่มพูนความแรงแห่งวารี
ยิ่งทวีความพินาศเกินคาดเดา

"hort39"








หัวข้อ: Re: เสียกรุงครั้งที่สาม!!
เริ่มหัวข้อโดย: ลมหนาว ที่ 21 ตุลาคม 2011, 03:07:PM
ดูข่าวน้ำท่วมน่าเห็นใจมากครับ ขอเป็นกำลังใจให้ผู้ประสบภัยน้ำท่วมทุกคนครับ