พิมพ์หน้านี้ - จอมขมังเวทย์

ชุมชน บ้านกลอนไทย ชุมชนสำหรับคนไทยผู้รักกลอน

บทประพันธ์กลอนและบทกวีเพราะๆ => กลอนตลกๆ ฮาเฮ => ข้อความที่เริ่มโดย: yaguza ที่ 14 ตุลาคม 2011, 01:15:PM



หัวข้อ: จอมขมังเวทย์
เริ่มหัวข้อโดย: yaguza ที่ 14 ตุลาคม 2011, 01:15:PM
"จอมขมังเวทย์"

คืนเดือนเพ็ญ เด่นนภา สิบห้าค่ำ
เมฆมืดดำ ข้ามฟาก จากทิศใต้
เสียงแซกแซก แสกบิน พร้อมกลิ่นไอ
หริ่งเรไร เงียบจัง ดูวังเวง

เมฆทะมึน บังจันทร์ พลันมืดมิด
ทั่วทุกทิศ จิตสดับ กลับโหวงเหวง
เพียงยินได้ ใจเต้นรัว ของตัวเอง
ความครื้นเครง เคยขยับ กลับไม่มี

เสียงหมาหอน ดังไล่ จากท้ายวัด
ดึกสงัด ยิ่งรับกัน กระชั้นถี่
เสียงกุกกัก จากโกดัง หลังกุฎิชี
เป็นภูตผี หยอกเล่น หรือเช่นไร

จอมคาถา อาคมขลัง ขมังเวทย์
เกิดอาเพท จากมนต์ดำ ทำคุณไสย์
ปลุกกุมาร ตะแกรงกาง ขึ้นย่างไฟ
แลแต่ไกล คล้ายปีศาจ อุจาดตา

ถ่านในเตา มอดไหม้ ยังไม่หมด
น้ำเหลืองหยด รดฟัง ดังฉ่าฉ่า
ศพไม่ทัน ได้สวด ตำรวจมา
อนิจจา พ่อหมอเรา ต้องเข้ากรง


........ยากูซ่า.......


หัวข้อ: Re: จอมขมังเวทย์
เริ่มหัวข้อโดย: ดาว อาชาไนย ที่ 14 ตุลาคม 2011, 04:52:PM





หยิบเอาผ้ายันต์ตรีนิสิงเห
อิทธิเจปนนะมหาหงส์
สวดมนต์ครบเจ็ดคาบก็กราบลง
กุญแจตรงประตูบู้บี้ไป

มิอาจต้านมนตรามหาขล้ง
จอมขมังเวทเสกด้วยคุณไสย
เดินออกจากห้องกรงลงกระไต
มิมีใครมองเห็นเช่นหายตัว

ดาว อาชาไนย


หัวข้อ: Re: จอมขมังเวทย์
เริ่มหัวข้อโดย: ช่วงนี้ไม่ว่าง ที่ 14 ตุลาคม 2011, 05:36:PM

เสียแต่ตรง  หน้าสถานี  นั้นมีหมา
ที่ฝึกมา  เป็นอย่างดี  มิใช่ชั่ว
มันรุมล้อม  แถมเห่ากัน  กระชั้นรัว
กัดหูหัว  จอมขมังฯ  ไม่ยั้งมือ

เสียงโอดโอย  โหยหวน  รัญจวนจิต
ดังไปทั่ว  ทุกทางทิศ  กลายเป็นสื่อ
ทั้งผู้หมวด  หมู่จ่า  ตั้งหน้าฮือ
ล้อมมาอื้อ  จับเข้าขัง  เหมือนอย่างเดิม emo_20

 emo_62




หัวข้อ: Re: จอมขมังเวทย์
เริ่มหัวข้อโดย: กังวาน ที่ 14 ตุลาคม 2011, 07:14:PM
[/color]จอมขมังนั่งทางในไปสิบทิศ
อิทธิฤทธิ์โหงพรายย้ายมาเสริม
เข้าสะกดหมดโรงพักผลักจ่าเติม
เปิดกรงเริ่มต้นใหม่ไปเถอะเรา

เสกคาถาอาคาผสมน้ำ
ปล่อยไปตามกระแสชลวนรอบเขา
เป็นพายุพิสดารมินานเนา
หอบน้ำเอามาท่วมเมืองจนเลื่องลือ


หัวข้อ: Re: จอมขมังเวทย์
เริ่มหัวข้อโดย: สล่าผิน ที่ 14 ตุลาคม 2011, 07:55:PM


เสกคาถาชาละวันดั้นลงน้ำ
มุงหน้าดำแหวกว่ายหมายฝากชื่อ
จอมขมังเวทมนต์คนปรบมือ
ว่าข้าคือจอมเวทเคล็ดวิชา

ไปโผล่หัวอีกที่ที่หน้าเขื่อน
นานเป็นเดือนเดินดงเข้าพงป่า
ได้จับเสือไว้ขี่ที่พนา
ตามตำราครูให้ใช้ยามจน

สล่าผิน


หัวข้อ: Re: จอมขมังเวทย์
เริ่มหัวข้อโดย: Music ที่ 14 ตุลาคม 2011, 08:36:PM


(http://www.tumsrivichai.com/images/column_1243908191/Kamaowet.jpg)


อ่านกระทู้ดูคุ้นว่า..เณรผ้าเหลือง
ที่หาเรื่องย่างกุมารไร้เหตุผล
พอสหายร่ายตอบ..ชักชอบกล
มีเรื่องราวกล่าววนจนปนเป

ขมังเวทย์..เหตุใด?..จึงใช้สิทธิ์
มาดลจิตให้หลักต้องหักเห
ใจลุ่มหลงลงหลุมแบบทุ่มเท
มันโอเค..แล้วเหรอ?..ที่เผลอทำ

รอเค้ารัก..เค้าลุ้นได้คุณค่า
ได้สู้หน้า.สู้หลัง.วันยังค่ำ
เค้าจะรักจะลวง..ตามบ่วงกรรม
ใช่.จองจำขมังเวทย์เจตนา

แม้นฤทธาอานุภาพท่านยิ่งใหญ่
ช่วยขจัดอุทกภัย...ด้วยใจกล้า
ให้น้ำลด-ฝนหยุด-สุดธารา
เป่ามนตรา...ให้ภาคใต้...สบายที



 emo_126  emo_126  emo_126




หัวข้อ: Re: จอมขมังเวทย์
เริ่มหัวข้อโดย: ช่วงนี้ไม่ว่าง ที่ 16 ตุลาคม 2011, 08:53:AM



สงสัยว่า  จะเสกแล้ว  หนักกว่าเก่า
ยิ่งเป่า  น้ำยิ่งบ่า  มาถี่ถี่
พวกสั่งอย่าง  กลับทำอย่าง  ช่างอับ...
เป็นพวกผี  นอกคอก  บอกไม่ฟัง

สงสัยต้อง  จับใส่หม้อ  เอาถ่วงน้ำ
ให้เข็ดหราบ  ให้จำ  ไม่ทำสั่ง
มันเดือดร้อน  ชาวประชา  ช่างน่าชัง
จอมขมังฯ  คลั่งจนอ่วม  น้ำท่วมเรือน

ตอนนี้นอน  ลอยคอ  รอกระแส
น้ำที่แช่  ลดลง  คงหน้าเจื่อน
ส่วนภาคใต้  อย่าหมายใจ  ให้ไปเยือน
เพราะพวกเพื่อน  ก็ไปตาย  เสียหลายคน

มันว่ากิน  อาหาร  พาลท้องผูก
ผ่ากินลูก  ตะกั่ว  รัวหลายหน
ช่างกินง่าย  ถ่ายคล่อง  ไม่ต้องทน
บังเกิดผล  ให้หลับง่าย  สบายจริง

 emo_68



หัวข้อ: Re: จอมขมังเวทย์
เริ่มหัวข้อโดย: ดาว อาชาไนย ที่ 16 ตุลาคม 2011, 09:28:AM




ภาคใต้เป็นของง่ายสบายมาก
เรื่องนี้ฝากภาระกะฝ่ายหญิง
เพราะเงื่อนไขหนักหน่วงคอยท้วงติง
ต้องเสกสิ่งคาถามหาละลวย

เป่ามิวสิกหลงรักสักพักก่อน
สุดผันผ่อนผิดทำนองของคนสวย
ไม่ใช่หมอซึ่งเธอยอมเอออวย
จึงหวังช่วยชาวใต้ไม่ได้เลย

ดาว อาชาไนย


หัวข้อ: Re: จอมขมังเวทย์
เริ่มหัวข้อโดย: สมนึก นพ ที่ 16 ตุลาคม 2011, 12:18:PM
เห็นปักหลักสี่อันแบ่งปันที่
สายสิญจน์มีขึงไว้มิได้เฉย
ผ้าขาวปูพื้นวางอย่างเก่าเคย
ยังแหงนเงยดูทิศติดฤกษ์ยาม

ลูกประคำกำไว้ได้แนบอก
ร่ายมนต์ยกคาถาพารอบสาม
เข้าไปนั่งวางท่าสง่างาม
น่าเกรงขามแก่ภูตผีพิธีตน

ธูปหนึ่งกำนำล่อจ่อเปลวเทียน
ทำวนเวียนเจียนดับเริ่มสับสน
กลุ่มควันไฟจับก้อนซ้อนชอบกล
ท่องเวทย์มนต์กระชั้นถี่มีภาพมา

เป็นรูปจางลางเลือนเคลื่อนกระชับ
โครงเค้าจับรู้เห็นเป็นแนวป่า
ในหนึ่งนั้นชัดเด่นสกุณา
เดินออกมาให้ดูรู้จักดี

คือภาพนกชัดออกบอกสัดส่วน
คือกระบวนการร้ายทางใต้นี่
โจรกระจอกว่านั่นฟันทันที
ทุกทุกปีเจ็บตายหลายชีวา

ทั้ง จยย.และคาร์มาติดบอมพ์
ของจริงปลอมวางล่อรอเข่นฆ่า
ทุกผู้คนคอยเลี่ยงเสี่ยงชะตา
หวังเพียงว่าปลอดภัยไปหนึ่งวัน

อยากเตือนใจจอมขมังยังตรงนี้
ภาพนกมีที่ได้ให้เห็นนั่น
ลูกกระจอกเทศหรอกหนามาพบมัน
ยังเพาะพันธุ์ทุกหมู่บ้านควรหันมอง

ขวานเล่มงามงามดีต้องมีด้าม
โดนเหยีดหยามหักไปให้หม่นหมอง
หลายหน่วยงานมาแก้แค่ประคอง
หวังปรองดองกองงบบวกลบกัน.

นพ
16 ต.ค.54


หัวข้อ: Re: จอมขมังเวทย์
เริ่มหัวข้อโดย: rit sriduang ที่ 16 ตุลาคม 2011, 12:52:PM
ขอแจมด้วยครับงานปี 52 เป็นกลอนเจ็ด แล้วใช้กลอนหกเชื่อมเข้าหากาพย์ยานี 11

ถ่วงน้ำ
๑.โอมอ่านบาลีจับผีร้าย
คุมขังนางพรายด้วยสายสิญจน์
เดือนดับอับดาว..ค้างคาวบิน
หม้อดินปิดฝาตรึงผ้ายันต์

เลือกที่เพื่อถ่วงลงห้วงน้ำ
พายจ้ำคืนเปลี่ยวอย่างเสียวขวัญ
เสียงนก..กุกกุก..ขนลุกชัน
เงียบงันยินเพียงเสียงหัวใจ

ถึงบึงมืดเห็นน้ำเย็นลึก
รู้สึกเสียงเหมือนใครเคลื่อนไหว
หรือหม้อดินนั้นจะบรรลัย
จุดไต้มองหา..เบิกตาโพลง

หม้อแตกยันต์หล่นอยู่บนกราบ
ใจวาบวูบหาย..ซิตายโหง
เรือเอนเอียงกลับเหมือนจับโคลง
คุ้งโล่งโค้งเปลี่ยวน้ำเชี่ยวนัก

ร่ายมนต์วนเลขเสกคาถา
หลับตานิ่งนึกเจอศึกหนัก
หยิบกุมารองค์ที่ลงรัก
มึงยังรู้จักกูน้อยไป

หยิบโยนกุมารด้วยญาณกล้า
คาถาเสกทับกำกับไว้
กุมารทองแคล่วคล่องว่องไว
โถมใส่ผีห่าซาตาน

๒.ฟ้าแลบปลาบแปลบฟ้า
ล้วนฤทธาปาฏิหาริย์
กระแทกก็แหลกลาญ
กุมารน้อยก็ย่อยยับ

เสกควายธนูขลัง
ภาษาฟังไม่ได้ศัพท์
หุ่นควายก็หายวับ
แล้วโลดเต้นกลายเป็นควาย

กล้าแกร่งตาแดงกล่ำ
วิ่งถลำจะทำร้าย
ฤทธีแห่งผีพราย
กลับเข้มแข็งกว่าแรงชน

มิพ่ายแม้ควายแพ้
เพราะเพียงแค่ข้าเริ่มต้น
กอบทรายแล้วร่ายมนต์
แล้วซัดซ่าเป็นห่าไฟ

นางร้องอย่างร้อนเร่า
เปลวเพลิงเข้ามาเผาไหม้
หมอทรามก็ย่ามใจ
ล้วงมีดมาลงอาคม

เงื้อพร้านัยน์ตาเดือด
กูจะเชือดให้สาสม
กดกรีดจนมีดจม
อย่าเกิดดับชั่วกัปกัลป์

เชือกป่านปราบมารร้าย
ลงมนต์ร่ายมัดปลายขวั้น
มัดผีไม่มีวัน-
หลุดพ้นพันธนาการ

วางย่ามย่างสามขุม
เหงื่อมือชุ่มกุมเชือกป่าน
เรือโคลงจึงลงคลาน
ลมกรรโชกมาโยกเรือ

ใจฝ่อมีดหมอหล่น
จึงเสื่อมมนต์จะป่นเหยื่อ
เพลิงกรดก็หมดเชื้อ
คงเหลือร่างแต่นางพราย

ผีร้ายจับปลายเชือก
หมอตาเหลือกกระเสือกส่าย
รวบมัดมือรัดกาย
หมอหมดสิ้นแรงดิ้นรน

เรือล่มเพราะลมกล้า
หมอชราตาถลน
แพ้พ่ายเพราะภัยตน
ค่อยถูกถ่วงลงห้วงลึก…..


๒๗ ธันวาคม ๒๕๕๑



หัวข้อ: Re: จอมขมังเวทย์
เริ่มหัวข้อโดย: ปาระ ที่ 16 ตุลาคม 2011, 02:21:PM
เปิดโองการขานขับสดับเสียง
ว่าโอม เพี้ยง โอม เพี้ยง เปรี้ยง ๆ ปึง
ว่านะโม ตัสสะ ภะคะวะ ตรึง
น้ำอย่าถึง แข่งขา ระอาใจ

ฝนไม่ฟัง ยังเถียง ให้เลี่ยงหลบ
เหนือตลบ น้ำลง คงคาใส
ทะเลนอง หนุนหน่วง ถ่วงเราใย
ละเหี่ยใจ กระสอบกั้น พลันเสกมนต์

คงคาเอ่ย เจ้าฟัง คำเราก่อน
อย่ารีบร้อน เร่งลัด จะขัดสน
พิภพพื้น ตื่นหนา อย่ามายล
จะเป็นผล ภัยร้าย กล่ำกลายเมือง

จองขมัง สั่งเวทย์ ด้วยเดชฤทธิ์
ประกาศิต สั่งฟ้า อย่าหาเรื่อง
ยั้งฝนโปรย โรยสาย มลายเลือง
อย่านำเนื่อง น้ำนอง สู่ผองชน

ปิดโองการ ผ่านฟ้า มหาฤทธิ์
ลงลิขิต เลขขลัง ยังหวังผล
น้ำชงัก หยุดไหน ในบัดดล
เป่าไทยพ้น พิบัติภัย ในเร็ววัน....

ปาระ
๑๖ ต.ค. ๒๕๕๔
[/size][/font]


หัวข้อ: Re: จอมขมังฯ....สุดสังเวช..
เริ่มหัวข้อโดย: ช่วงนี้ไม่ว่าง ที่ 16 ตุลาคม 2011, 02:35:PM


จอมขมังฯ  ยังคง  ลงยันต์เลข
เอาทรายเสก  กั้นน้ำ  ยามหวาดหวั่น
เป็นถุงถุง  นับได้  ตั้งหลายตัน
สิบล้อนั้น  ขนมา  อย่าลังเล

ว่าจะเสก  ข้าวสาร  แล้วหว่านไถ
คงไม่ไหว  สู้น้ำ  ยามหันเห
มันหลากมา  ท่วมเรือน  เหมือนทะเล
นั่งว้าเหว่  เอกา  คาถาคลาย

เพราะปีนี้  น้ำท่วม  อ่วมทุกทิศ
ท่วมจนมิด  หลังคา  น่าใจหาย
นั่งเสกเป่า  เสียจนหอบ  กระสอบทราย
ผลสุดท้าย  น้ำก็พัง  หลั่งเข้าเมือง

 emo_62