หัวข้อ: ....กลอนขึ้นคาน.... เริ่มหัวข้อโดย: ช่วงนี้ไม่ว่าง ที่ 10 ตุลาคม 2011, 10:07:PM กลอนของเรา ช่วงนี้ ขายไม่ออก มันย้อนยอก คิดอะไร ไม่เข้าหัว จึงขอลา ไปนอน พักผ่อนตัว เลิกเมามัว ชั่วคราว เรื่องหนาวใจ ไม่มีใคร มาขอ ก็อดแต่ง จึงสิ้นแรง รันทด สิ้นสดใส กลอนขึ้นคาน นานปี ไม่มีใคร อยู่ทำไม ไปดีกว่า ข้าอยากตาย emo_52 หัวข้อ: Re: ....กลอนขึ้นคาน.... เริ่มหัวข้อโดย: รพีกาญจน์ ที่ 11 ตุลาคม 2011, 05:54:AM กลอนถลอก ปอกเปิก เลิกแต่งเถิด อย่าคิดเปิด สโตร์ โชว์จำหน่าย วางบนหิ้ง ทิ้งน่า อย่าเสียดาย ชั่งโลขาย ห่อปลา ซาลาเปา กลอนเหม็นโฉ่ โสโครก เจือโรคจิต คนแต่งคิด ผูกคอ ติดตอเสา ขนให้ฟรี เต็มสี่ล้อ ก็ไม่เอา มุขเก่าเก่า ไล่ขวิด อิสตรี emo_87 รพีกาญจน์ 59 หัวข้อ: Re: ....กลอนขึ้นคาน.... เริ่มหัวข้อโดย: ดอกกระเจียว ที่ 11 ตุลาคม 2011, 11:51:AM หนึ่งในสามคนไทยคลั่งไคล้เน็ท บรรจุเสร็จนักขีดเขียนเซียนเสียดสี เหล่าบรรดาขาประจำล้ำกวี คงเห็นทีจะตกงานบานตะไท แต่ละวันเขาเขียนกันกี่บรรทัด เป็นนิยายเข้าแถวจัดคัดไม่ไหว วัดสำนวนกันหน่อยอย่าน้อยใจ หากเราเก่งกว่าใครๆย่อมได้ที จะกวาดทรัพย์นับสตางค์มิว่างเว้น คิดลำเค็ญไปกระไรให้จู้จี้ เปิดคอมฯขึ้น...เขียนๆๆเข้าไปซี สำนักมีมากหนอรอเซียนๆ หรือเทิร์นโปรฯโก้ขนาดกวาดรางวัล เขามีจ่ายไม่อั้นงานขีดเขียน เช่นโปรฯกอล์พ...เทนนิสคิดพากเพียร สนุ็กเกอร์พะเลอเกวียนเรื่องรางวัล แบบว่าถ้าเก่งจริงก็รวยเละล่ะครับ emo_09 หัวข้อ: Re: ....กลอนขึ้นคาน.... เริ่มหัวข้อโดย: นาคสวาท ที่ 11 ตุลาคม 2011, 02:40:PM กลอนหื่นๆแต่งไปทำไมหนอ เอาไว้หม้ออิตถีจีบผู้หญิง แต่งแบบนี้ไม่นานคงขึ้นคานจริง เพราะโดนทิ้งมัวแต่งกลอนสะท้อนตัว ลองหัดแต่งกลอนกลไว้สั่งสอน หรือแต่งกลอนขำขันน่าชวนหัว หญิงคงชอบชายตลกไม่น่ากลัว อย่ามามัวแต่งกลอนหื่น"ขึ้นคาน"เอย.... หัวข้อ: Re: ....กลอนโดนไม้คาน.... เริ่มหัวข้อโดย: สล่าผิน ที่ 11 ตุลาคม 2011, 06:34:PM มัวแต่งกลอนตอนเมียระเหี่ยจิต เราลืมคิดมัวเพลินเหมือนเมินเฉย เมียย่องมาข้างหลังมิดั่งเคย เรากลับเอ่ยคำกลอนรักสลักใจ เธอมาอ่านกานท์กลอนณ.ตอนนี้ เธอนั้นมีน้ำโหตาโตใส่ เอาไม้คานฟาดหัวผัวเร็วไว นี่แหละหนอลืมไปว่ามีเมีย.....อิอิ สล่าผิน หัวข้อ: Re: ....กลอนขึ้นคาน.... เริ่มหัวข้อโดย: รัตนาวดี ที่ 11 ตุลาคม 2011, 09:27:PM มัวแต่งกลอนตอนเมียระเหี่ยจิต เราลืมคิดมัวเพลินเหมือนเมินเฉย เมียย่องมาข้างหลังมิดั่งเคย เรากลับเอ่ยคำกลอนรักสลักใจ เธอมาอ่านกานท์กลอนณ.ตอนนี้ เธอนั้นมีน้ำโหตาโตใส่ เอาไม้คานฟาดหัวผัวเร็วไว นี่แหละหนอลืมไปว่ามีเมีย.....อิอิ สล่าผิน โบราณถือ ลือไว้ ให้ยึดติด กับชีวิต มิตรดี ไม่มีเสีย ต้องรู้จัก รักจำ คำว่าเมีย ผู้คอยเชียร์ เคลียโปรด โชติชัชวาล เมียปากเจ๋ง เก่งยอม พร้อมมือถึง คำราม.."มรึง!" ถลึงตา จ๋าเฝ้าขาน ชอบจามหัว ผัวเจ้าชู้ กู้ไม้คาน คือนงคราญ ครองมงกุฎ สุดยอด"เมีย" รัตนาวดี emo_111 emo_26 emo_45 emo_45 emo_26 หัวข้อ: Re: ....กลอนขึ้นคาน.... เริ่มหัวข้อโดย: มังตรา ที่ 11 ตุลาคม 2011, 10:40:PM (http://www.qzub.com/bar_154.gif) (http://www.qzub.com)
คือบทกลอน อ้อนฝัน ในวันใส แต่งด้วยใจ จิตภักดิ์ รักอักษร แต่ไยเจ้า อ่านเฉย ไม่เปรยวอน ให้อกพี่ นี้อ้อน จนอ่อนใจ คำที่แต่ง แข่งขัน ประชันเฝ้า มอบให้เจ้า ชวนคิด พิศมัย แต่ด้วยเหตุ อาเภท อันใดใด จึงทำให้ เจ้าอ่านแล้ว ใจแคล้วลืม คงลืมหมด จดถ้วน ใครชวนรัก ลืมแม้พักตร์ ซบอิง อันดูดดื่ม ลืมบทพร่ำ มธุรส ที่จดยืม ลืมกลอนปลื้ม ที่เคยหลง ตรงขึ้นคาน emo_89 หัวข้อ: Re: ....กลอนขึ้นคาน.... เริ่มหัวข้อโดย: สุนันยา ที่ 11 ตุลาคม 2011, 11:34:PM (http://dl4.glitter-graphics.net/pub/691/691504np5oki776l.gif) ไม่เคยลืม คำกลอน ที่อ้อนฝาก ร้อยกรองจาก ดวงจิต ที่คิดสาน อักษรสวย รวยรื่น ชื่นสราญ รินพจน์หวาน เยี่ยงนี้ ฤดีครวญ จำมั้นอยู่ เสมอ เธอถักถ้อย วลีร้อย สร้อยสอด พรอดคำผวน จันทร์กระจ่าง ราตรี มีแสงนวล สายลมหวน ขวนซึ้ง คะนึงนาน ราตรีนี้ จันทร ขออ้อนกลับ โปรดมารับ วจี ที่สื่อสาร ให้ลมพา ฝันดี ราตรีกาล สู่ดวงมาน แนบชิด คราวนิทรา... "สุนันยา" (http://dl4.glitter-graphics.net/pub/691/691504np5oki776l.gif) |