หัวข้อ: ๐@๐ "นิราศสวรรค์" ๐@๐ เริ่มหัวข้อโดย: บัณฑิตเมืองสิงห์ ที่ 09 ตุลาคม 2011, 03:09:AM นิราศสวรรค์ ในสติสัมปะชัญญะจิต ยามราตรีที่เห็นเป็นนิมิต สำแดงฤทธิ์ศศิมาสเวหาสพราว ออกจากร่างห่างกายหมายสวรรค์ กำหนดฝันตามจิตนิมิตขาว ที่เป็นแสงสาดส่องผ่องสกาว เหมือนเส้นราวทางเดินให้เหินไป ถึงสะพานม่านรุ้งรุ้งเจ็ดสี คิดถึงนวลนารีอิตถีใส ทั้งเจ็ดนางปรางนุ่มนิ่มนวลใจ ละอ่อนวัยผิวพรรณขั้นเทวี ผ่านม่านเมฆเมฆาสง่างด ขาวหมดจดเฉกเนื้อแม่นวลศรี เป็นไอน้ำฉ่ำร่างวางมาลี สุขาวดีข้างหน้าเทวาภพ ถึงชั้นแรกแมกไม้ระดะทั่ว หมอกสลัวเลือนรางให้พรางหลบ ดาวประดับกับหาวแสงพราวทบ ทั้งประสบอัปสรตอนทิวา กำลังแขวนดวงดาวบนหาวกว้าง พลันคิดถึงหนึ่งนางนวลแขวนผ้า ชั้นจตุมหาราชิกา มีดาราดวงเด่นเป็นประกาย ดาวดึงส์พึงนึกตรึกถวิล จากห้วงจินต์ว่ามากดาวหลากหลาย จึงได้ชื่อคือดาวพราวเรียงราย เด่นกระจายทั่วฟ้าเวหานั้น แต่เป็นพื้นที่กว้างร้างสิ่งของ ไม่มีใครจับจองครองสุขสันต์ เกิดคิดถึงคราวหวนแม่นวลพลัน เมื่ออยู่กันเพียงสองต้องกายา ขึ้นบันไดเก็จแก้วแววแสงมุก คิดสนุกปลุกร่างสร้างคาถา คือบันไดของสวรรค์ชั้นยามา มีดาราประดับสลับพลอย พอถึงยอดเส้นทางว่างสองเส้น ไม่โงนเงนเดินต่อทิ้งท้อถอย หยิบดาวติดตามทางเพื่อสร้างรอย ทั้งใหญ่น้อยเกลื่อนพื้นเป็นหมื่นดวง ชั้นนิมมานรดีกับดุสิต มีให้เลือกนึกคิดดวงจิตห่วง ว่าทางไหนไร้ทุกข์สุขทั้งปวง อันแดนสรวงสองแพ่งแบ่งอกเรา เหมือนนารีสองนางอยู่ข้างหน้า จักให้เลือกออกมาพาใจเศร้า สะโอดสะองหญิงงามยามโลมเล้า เลือกยากเท่าทบกว่าสุราลัย ปรนิมมิตวสวัตตี สุขาวดีท้ายสุดผุดไสว สง่างามงดล้ำด้วยอำไพ ทิพย์วิไลในจินต์ถวิลตรึง (http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_017.gif) บัณฑิตเมืองสิงห์ หัวข้อ: Re: ๐@๐ "นิราศสวรรค์" ๐@๐ เริ่มหัวข้อโดย: Prapacarn ❀ ที่ 09 ตุลาคม 2011, 06:53:AM (http://www.mamarocks.com/fantasy9.jpg) พี่บัณฑิตฯ เดินทาง ผ่านกลางสรวง ผ่านดาวดวง น้อยใหญ่ จนได้ถึง ปรนิมมิตวสวัตตี ที่คำนึง เป็นยอดหนึ่ง แห่งชั้น สวรรคาลัย ระหว่างทาง ท่ามดาว สกาวจรัส ดาวประภัส แซมสี พี่เห็นไหม ชื่อว่าดาว ประภาคาร พี่ผ่านไป ยังสดใส แซมดาว แจ่มพราวดวง เมื่อยังเป็น มนุษย์ ดาวสุดถวิล ยามยลยิน เพื่อนมีภัย ให้ห่วงหวง ยื่นน้ำใจ หวังประทัง โศกทั้งปวง คราโรยร่วง ผกผิน บินกลับดาว ตามสัจจะ ของโลก โศกคู่สุข วันนี้ดาว ซมซุก สุดแสนหนาว จองพื้นที่ เอาไว้ ใต้ฟ้าพราว เมื่อถึงคราว ฝากใจ ไว้คู่จันทร์... (http://www.qzub.com/bar_189.gif) (http://www.qzub.com) เห็นป้าย ที่แซมจองพื้นที่เอาไว้หรือเปล่าคะ... แซมจะพยายามนะคะ..จองไว้แล้ว ถ้าไม่ได้ไปอยู่เสียดายแย่.. ไม่อยากไปอยู่ the land down under หรอกค่ะ... emo_107 แซมค่ะ หัวข้อ: Re: ๐@๐ "นิราศสวรรค์" ๐@๐ เริ่มหัวข้อโดย: บัณฑิตเมืองสิงห์ ที่ 09 ตุลาคม 2011, 07:11:AM ประภาคารดาวน้อยลอยดวงเด่น คู่กับเส้นสุริยะพร่างสีสัน กระจายสาดแสงส่องอัศจรรย์ สรวงสวรรค์ยังยอมน้อมกลัวดาว ถึงดวงน้อยลอยห่างอยู่กลางห้วง แต่น้ำใจเต็มดวงปลดทรวงหนาว เป็นที่พักหลักพิงอิงทุกคราว เมื่อใจร้าวรานซมตรมฤดี ส่วนป้ายจองพื้นที่ที่แซมปัก บัณฑิตรักษ์อยู่ยั้งยังสุขี รอวันเดือนเลื่อนมาทุกนาที รอแซมนี้สร้างบ้านวิมานดาว (http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_017.gif) บัณฑิตเมืองสิงห์ หัวข้อ: Re: ๐@๐ "นิราศสวรรค์" ๐@๐ เริ่มหัวข้อโดย: นาคสวาท ที่ 09 ตุลาคม 2011, 10:12:AM ปรนิมมิตวสวัตตี สุขาวดีท้ายสุดผุดไสว สง่างามงดล้ำด้วยอำไพ ทิพย์วิไลในจินต์ถวิลตรึง สุขทั้งหลายในสวรรค์อันวิจิตร ใครได้พิศย่อมมุ่งหมายใฝ่ฝันถึง เพียงสวรรค์ชั้น"กามาฯ"ยากตราตรึง ขอซึ้งซึ่งรสพระธรรมนำมรรคา สู่สวรรค์ชั้นพรหม"ปฐมฌาณ" ใครได้ญาณมาถึง"ปาริสัชชา"หนา ทั้ง"ปุโรหิต"ล่วงถึง"มหาพรหมา" ด้วยบุญพาเสวยสุขนับกัปกัลป์ หากใครได้"ทุติยฌาณ"การกุศล คงล่วงพ้น"ปริตรตาภา"แสร้งเสกสรรค์ "อัปมาณาภา""อาภัสรา"อยู่ ด้วยเหมือนกัน เป็นสวรรค์ ชั้นพรหม ต้นความดี หากได้ถึง"ตติยฌาณ"อันยากยิ่ง อยู่เป็นมิ่ง"ปริตสุภา"โอภาสี "อัปมาณสุภา""สุภกิณหา"อยู่ ในชั้นนี้ ด้วยบารมี ก่อเกื้อ ผลเจือจาน "จตุตถฌาณ"ญาณเพียรในขั้นสุด ให้มาหยุดที่"เวหัปผลา"มหาศาล อีกทั้งชั้น"อสัญญีสัตตา"ตาตระการ ล่วงพ้นมารผ่านพ้นภัยในวัฏฏา สำเร็จขั้นอนาคามรรควิจิตร เป็นเข็มทิศส่งมาเกิด"อวิหา" "อตัปปา""สุทัสสา"พรหม ชัั้นสุทธา "สุทัสสี""อกนิษฐา"ภูมิ รูปพรหม หากยุคใด ไร้พุทธองค์ ทรงประเสริฐ ไม่มีธรรม ปฏิบัติ อันเหมาะสม คนมาเกิด ในชั้น อรูปพรหม เป็นก้อนกลม พรหมลูกฟัก ไร้หลักลอย ทั้ง"อากาสานัญ""วิญญานัญ" เหลือแต่จิต เจตสิกสถิตคู่อยู่ไม่ถอย ทั้ง"อากิญจัญ""เนวสัญญาฯ"ต่างเฝ้าคอย อีกกี่ร้อยพันกัปอย่านับเลย เราโชคดี เกิดได้พบ พระศาสน์พุทธ จงเร่งรุดทำดีเสียอย่าเฉย อย่าเสียทีที่ได้เป็นมนุษย์เลย สุดเฉลยสวรรค์จบพบนิพพาน...... เหนื่อยมากกกกกก แต่งได้แค่นี้ครับ ไม่เพราะอย่าว่ากานเลยนะ ยากจริงไม่เคยแต่ง ยาวรวดเดียวขนาดนี้ หุหุ |