หัวข้อ: กลอนเด็ก:หักยิ้มนิทานไพร:กลับมาสู่บ้านเก่าเราอีกครั้ง เริ่มหัวข้อโดย: อริญชย์ ที่ 28 กันยายน 2011, 03:50:PM ราชสีห์ คือเจ้าไพร ผู้ไม่หวั่น
ทั่วไพรวัน ใครกล้า เข้ามาใกล้ กาลครั้งหนึ่ง สุดแสน จะแค้นใจ ถูก เม่นใช้ ขนเหน็บ เจ็บจริงจริง ! อยากแต่งกลอนเพราะ ๆ จับใจแบบเพื่อน ๆ แต่ก็ยังไม่ค่อยเอาถ่านซักที เลยได้แต่แบบนี้ คิดแล้วกลุ้ม emo_84 emo_126 emo_84 หัวข้อ: Re: กลอนเด็ก:เรื่องเศร้าของเจ้าไพร เริ่มหัวข้อโดย: อริญชย์ ที่ 07 ตุลาคม 2011, 08:29:PM ม้าลาย" สัตว์ทรหด พยศร้าย
คนอย่าหมาย มุ่งมา บัญชาสั่ง เท้ากลีบคม ดีดตรง ทรงพลัง, สิงโตยัง หงายท้อง ล้มกองดิน! ฯ หัวข้อ: Re: กลอนเด็ก:หักยิ้มนิทานไพร เริ่มหัวข้อโดย: อริญชย์ ที่ 07 ตุลาคม 2011, 09:10:PM "จระเข้" เขี้ยวร้ายแห่งสายน้ำ
บ่เคยคร้ามพยัคฆาสิ่งห์ป่าใหญ่ เกรงเพียง "ฮิบโป" ล่ำประจำไพร สู้ทีไร เคี่ยมอ่วม เลือดท่วมตัว! ฯ emo_84 emo_60 emo_84 แต่งเล่น ๆ ขำ นะทุกท่าน ไม่มีอะไรในกอไผ่ หัวข้อ: Re: กลอนเด็ก:หักยิ้มนิทานไพร เริ่มหัวข้อโดย: อริญชย์ ที่ 13 ตุลาคม 2011, 05:46:PM "จิ้งโกร่ง" ครวญเพลงมาเมื่อหน้าหนาว
เหลืองรวงข้าว แสงแดดสวย ส่องพวยพุ่ง ยามรุ่งเช้า พราวท้องนา ฟ้าจรุง, เด็กบ้านทุ่ง คั่วจิ้งโกร่ง ไปโรงเรียน ฯ "จิ้งโกร่ง" จิ้งหรีดชนิดหนึ่ง โตเต็มที่ต้นหน้าหนาวข้าวเหลืองรวง เด็ก ๆ ทางภาคอีสานมักออกไปหาขุดตามป่าใกล้ทุ่งนาตอนเช้า ๆ เอาคั่วกับเกลือ(ไม่ใช่ทอดน้ำมัน) ทานกับข้าวเหนียวก่อนไปโรงเรียน บางทีก็ห่อไปทานเป็นอาหารกลางวันที่โรงเรียนด้วย "เด็กบ้านทุ่งคั่วจิ้งโกร่งไปโรงเรียน" หมายถึง คั่วจิ้งโกร่งไปเพื่อรับประทานเป็นอาหารกลางวัน (สมัยนี้คงไม่มีแล้วล่ะ) คนภาคอีสานอายุ ๒๕ ปีขึ้นไปน่าจะมีความหลังนะ กลอนบทนี้ไม่ต่อเนื่อง บรรทัดสุดท้ายแต่งตัดบทไปเลย จบคล้าย ๆ หักมุม แต่ต้องอธิบายถึงจะเข้าใจ (คือถ้าเป็นคนภาคอีสานโดยตรง น่าจะเข้าใจความหมาย) หัวข้อ: Re: กลอนเด็ก:หักยิ้มนิทานไพร เริ่มหัวข้อโดย: อริญชย์ ที่ 14 ตุลาคม 2011, 05:26:PM "เหยี่ยว" นักล่าร่อนเร่ กลางเวหาส
สายตาวาด จ้องอยู่ มิรู้สิ้น จะงอยปาก งอหงิก บินจิกกิน, ยังตกดิน มาสะอื้น ด้วยปืนพราน! ฯ กลอนเด็กวันละบทจ้า หักมุมนิด ๆ (แต่อาจไม่ขำ) หัวข้อ: Re: กลอนเด็ก:หักยิ้มนิทานไพร เริ่มหัวข้อโดย: อริญชย์ ที่ 17 ตุลาคม 2011, 12:21:PM นกเขาขัน ประชันเสียง สำเนียงนก
เสียงไม่ตก นกเขาขัน ประชันเสียง เคียงคู่กัน ขันกุ๊กกรู เกี้ยวคู่เคียง เพลงรักเรียง ร้อยรำพัน ประชันเพลง ฯ (อริญชย์:ซอม เบิง ดุ๊) ว่าจะแต่ง “กลอนกลบท” แบบอาจารย์ “บอม ซอง ดุ๊ก” แต่งไปแต่งมากลายเป็น กลอนกลบก(บกพร่อง) เป็นความพยายามที่ล้มเหลวอีกคราครับ emo_84 emo_95 emo_126 emo_95 emo_84 หัวข้อ: กลับมาสู่บ้านเก่าเราอีกครั้ง! เริ่มหัวข้อโดย: อริญชย์ ที่ 14 พฤศจิกายน 2011, 07:44:PM ๐เรื่องของหมี๐
๐คนมาดูเป็นแสน “หมีแพนด้า” ชมความน่ารักหมีขนสีสวย ขนดำขาวงามล้ำฟ้าอำนวย ปล่อย “หมีควาย” นอนป่วย ไม่ช่วยแล ๐เพราะ “หมีควาย” เหี้ยมโหดยามโกรธขึ้ง เสือโคร่งซึ่งเกรียงไกรยังไม่แน่ มาแย่งอาหารหมีหวังมีแชร์ หมีไม่แคร์จ่าหมู่พร้อมสู้ทน ๐“หมีควาย” ขนสีดำประจำป่า ใจหาญกล้าเกินใครแห่งไพรสณฑ์ ไม่เคยหวั่นสัตว์ป่าทั่วสากล กลัวเพียงคนหมายมุ่งกิงอุ้งตีง!ฯ อริญชย์:กลอนเก่าเก็บกู้ ๓๑/๕/๒๕๕๒ emo_84 emo_95 emo_84 <iframe title="YouTube video player" class="youtube-player" type="text/html" width="480" height="390"src=" http://www.youtube.com/watch?v=i3MLf-dzhh4#noexternalembed&autoplay=1 (http://www.youtube.com/watch?v=i3MLf-dzhh4#noexternalembed&autoplay=1)" frameborder="0"></iframe> หัวข้อ: Re: กลอนเด็ก:หักยิ้มนิทานไพร:กลับมาสู่บ้านเก่าเราอีกครั้ง เริ่มหัวข้อโดย: บ้านริมโขง ที่ 15 พฤศจิกายน 2011, 03:35:AM "อาจไม่ดีเท่าที่ควร..ขอป่วนด้วย emo_26 "ราชสีห์" คือเจ้าไพร ผู้ไม่หวั่น ทั่วไพรวัน ใครกล้า เข้ามาใกล้ กาลครั้งหนึ่ง สุดแสน จะแค้นใจ ถูก "เม่น" ใช้ ขนเหน็บ เจ็บจริงจริง ! อยากแต่งกลอนเพราะ ๆ จับใจแบบเพื่อน ๆ แต่ก็ยังไม่ค่อยเอาถ่านซักที เลยได้แต่แบบนี้ คิดแล้วกลุ้ม emo_84 emo_126 emo_84 emo_94 "ราชสีห์" คือเจ้าไพร ผู้ไม่หวั่น ทั่วไพรวัน ใครกล้า เข้ามาใกล้ กาลครั้งหนึ่ง สุดแสน จะแค้นใจ ถูก "เม่น" ใช้ ขนเหน็บ เจ็บจริงจริง ! ด้วยประมาทลำพองคะนองฤทธิ์ เกินจะคิดถึงใคร ด้วยใหญ่ยิ่ง อวดอ้างตนคนใหญ่ให้พึ่งพิง ในทุกสิ่งคือข้าบัญชาการ จะเขี่ยขัดปัดเตะสะเปะปะ ใครไหนล่ะจะกล้าล่าประหาร มองข้ามไปในนิยามตามสันดาน ผู้ลนลานหลบภัยหาไร้พิษ ต้องรักษาตัวตนบนวิถี ด้วยชีพนี้มีค่าหาใดผิด ผู้กระทำหยามหยันไม่ทันคิด จึงมีสิทธิ์ติดกรรมที่ทำไป.. จะสมเจตนา จขกท. หรือเปล่าไม่รู้.. คิดได้แค่นี้จริง ๆ ครับ emo_19 "บ้านริมโขง" emo_111 หัวข้อ: Re: กลับมาสู่บ้านเก่าเราอีกครั้ง! เริ่มหัวข้อโดย: สุนันยา ที่ 15 พฤศจิกายน 2011, 11:59:AM ๐เรื่องของหมี๐ ๐คนมาดูเป็นแสน “หมีแพนด้า” ชมความน่ารักหมีขนสีสวย ขนดำขาวงามล้ำฟ้าอำนวย ปล่อย “หมีควาย” นอนป่วย ไม่ช่วยแล อริญชย์:กลอนเก่าเก็บกู้ ๓๑/๕/๒๕๕๒ emo_84 emo_95 emo_84 หมีแพนด้า เขาว่า มันน่ารัก เห็นมาแล้ว ไม่ยัก อยากแยแส ดูรูปเห็นขนขาว เป็นเงาแพร ตัวจริงแน่ะ คลุกฝุ่น ลุ้นตัวกลม... "สุนันยา" emo_100 หัวข้อ: Re:กลับมาสู่บ้านเก่าเราอีกครั้ง เริ่มหัวข้อโดย: อริญชย์ ที่ 26 พฤศจิกายน 2011, 02:03:PM ๐นกตะกรามใหญ่๐
๐นกตะกรามสูงใหญ่เดินในทุ่ง ริมคลองคุ้งเที่ยวหากินปลาหอย กบเขียดเห็นตะกรามมา เต้นตาลอย ปูปลิงน้อยเร่งหนีสุดชีวิน ๐เป็นนกที่กรามใหญ่กินไม่เลือก จิกหอยเปลือกหนาใหญ่กินได้สิ้น ก้าวย่างอย่างหรรษาริมวาริน เบื่อก็บินขึ้นลงตามพงไพร ๐นกกระสาเผ่านี้ใหญ่ที่สุด หัวล้านจุดโดดเด่นมองเห็นใกล้ เขื่องกว่านกตะกรุมเดินดุ่มไป ปากของใครเร็วกว่าได้ปลา งู ๐นกตะกรามตัวใหญ่เดินไปทั่ว น้ำขุ่นมัว-ใสข้างหน้า มีปลาอยู่ ใครหิวก็มาแย่งกินแข่งดู แล้วจะรู้ชัดแน่ว่า จิกช้าเกิน! ๐เช้าบ่ายค่ำก้าวจ้องตามหนองน้ำ หุ่นไม่งาม แต่เดินดีไม่มีเขิน เจ้าอย่ามัวเที่ยวหาจิกปลาเพลิน เดี๋ยวเผชิญพรานมาตั้งท่ายิง!ฯ อริญชย์:นักเลงกลอนประจำซอย ๘/๖/๒๕๕๒ emo_84 emo_95 emo_84 ชื่อที่เรียก นกตะกราม ชื่ออื่นๆ นกตะกราม หมวดหมู่ทรัพยากร ยังไม่ได้ระบุ ลักษณะ อยู่ในวงศ์นกกระสาที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศไทย โดยมีขนาดลำตัวประมาณ 145 เซนติเมตร ตัวผู้และตัวเมียมีลักษณะคล้ายกัน บนหัวและคอ เป็นหนังสีชมพูปนน้ำตาล มีขนประปรายไม่กี่เส้น ด้านข้างของคอจะมีสีดำคล้ายหนังตกกระ มีขนปุยสีขาวขึ้นรอบคอและไหล่ลักษณะคล้ายพวงมาลัย ขนปีกและหางสีดำ ขนใต้คอ และอกสีขาว ลักษณะเด่นชัดของนกตะกรามคือมีถุงลมคล้ายลูกโป่งห้อยอยู่ที่หน้าอก ถุงนี้ยืดหดได้ ประโยชน์ เป็นสัตว์ป่าคุ้มครอง แหล่งที่พบ สวนสัตว์เปิดเขาเขียว ตำบล บางพระ อำเภอ ศรีราชา จังหวัด ชลบุรี http://www.biogang.net/biodiversity_view.php?menu=biodiversity&uid=1719&id=21076 (http://www.biogang.net/biodiversity_view.php?menu=biodiversity&uid=1719&id=21076) หัวข้อ: Re: กลอนเด็ก:หักยิ้มนิทานไพร:กลับมาสู่บ้านเก่าเราอีกครั้ง เริ่มหัวข้อโดย: ...สียะตรา.. ที่ 26 พฤศจิกายน 2011, 02:24:PM ..."นกกินปลี"...ขนเหลืองทั่วตัวกระจ้อย ...เฝ้าถักร้อยรังหญ้ากว่าเสร็จสม ...ทึ่งในความพากเพียร...เวียนชื่นชม ...แสนภิรมย์..รังน้อยไซร้ใต้ชายคา ......บ้านเก่า..ที่จากมา....ครั้งแรกเก็บลูกนกกินปลีตัวเล้กกกกมากเเค่ครึ่งนึงนิ้วโป้ง...เลี้ยงตั้งแต่ยังมีขนเล็กๆตรงอก๒อัน...จนโตหัดบิน...ทุกครั้งที่เข้าไปป้อนอาหารเค้าจะตั้งท่าแบบตั้งใจโผบินช่วงสั้นๆเข้ามาเกาะพุง....เมื่อเค้าบินแข็งก็ให้เค้าบินไปใช้ชีวิตของเค้าเองตั้งชื่อเจ้านี่ว่า"ชะรอยบุญ"ค่ะ.....ต่อมาเป็นระยะๆจะมีนกกินปลีมาทำรังอยู่เป็นคู่มีลูกเล็กๆแล้วก็ไปนับได้จนวันที่จากบ้านมามีตั้ง๗รังน่ะค่ะ...รุ่นสุดท้ายเจ้าตัวจิ๋วที่เห็นตั้งแต่เป็นไข่ฟองเล็กๆตั้งชื่อ"จิ๋วหลิว"...ได้เห็นวันแรกที่เค้าหัดบินกับพ่อนกแม่นก...น่ารักค่ะ... หัวข้อ: Re: กลอนเด็ก:หักยิ้มนิทานไพร:กลับมาสู่บ้านเก่าเราอีกครั้ง เริ่มหัวข้อโดย: อริญชย์ ที่ 03 ธันวาคม 2011, 06:22:PM ๐นิทานนกแก้ว๐
๐ครั้งหนึ่งนานมาแล้ว…..มีนกแก้วอยู่สามตัว ตัวหนึ่งเป็นตัวผัว……....ส่วนอีกตัวเป็นตัวเมีย ๐กับลูกอีกหนึ่งตัว….....ที่พันพัวเคล้าคลอเคลีย ตัวผัวตาบอดเสีย……....ส่วนตัวเมียตาบอดสี ๐ตัวลูกไม่เป็นไร……....เพราะมองไปแจ่มใสดี จึงได้ทำหน้าที่………....หาอาหารกลับรังตน ๐นำมาเลี้ยงพ่อแม่……..ที่วัยแก่มาเวียนวน บินไปตามไพรสณฑ์.….จิกอาหารสำราญใจ ๐คราวนั้นพรานใจบาป..ลูกศรอาบยาพิษไว้ เล็งธนูยิงไป…………....หวังลูกนกให้ตกมา ๐แต่ด้วยเดชะบุญ……..ลูกนกเลี้ยงพ่อแม่หนา เจ้าไพรเทวดา………...ช่วยปัดศรพลาดเป้าไป ๐นกน้อยพลันรู้ตัว…….ว่าพรานชั่วแอบอยู่ใกล้ จึงรีบโบยบินไป………..จากที่นั้นในทันที ๐นกน้อยบินถึงรัง……..พ่อแม่ยังสวัสดิ์ศรี กตัญญูกตเวที………....เทพ ภูตผี คุ้มครองเอย ฯ อริญชย์:นักเลงกลอนประจำซอย ๒๒/๑๑/๒๕๕๒ emo_95 emo_107 emo_95 หัวข้อ: Re: กลอนเด็ก:หักยิ้มนิทานไพร:กลับมาสู่บ้านเก่าเราอีกครั้ง เริ่มหัวข้อโดย: อริญชย์ ที่ 04 ธันวาคม 2011, 05:53:PM เป็นคนดีของสังคมคนชมชอบ รู้จักตอบแทนแผ่นดินถิ่นที่อยู่ รักษ์ดิน-น้ำ-ป่าร่มรื่นได้ชื่นชู โลกน่าอยู่..หากรู้ค่าของป่างาม ฯ อริญชย์:นักเลงกลอนประจำซอย ๑๒/๑๐/๒๕๔๘ หมายเหตุ=ได้แนวคิดจากดาบพิชัย ปลูกต้นไม้ ๒ ล้านต้น emo_126 emo_47 emo_126 หัวข้อ: Re:กลับมาสู่บ้านเก่าเราอีกครั้ง: ๐ฮิปโปโปเตมัส๐ เริ่มหัวข้อโดย: อริญชย์ ที่ 04 ธันวาคม 2011, 07:54:PM ๐ฮิปโปโปเตมัส๐
“ จะเสือ สิงห์ หมาใน ก็ไม่หวั่น ขอเพียงมัน อย่ากร่างกัดข้างหลัง ตัวต่อตัวมาสู้ให้รู้กัง ! ว่าพลังเขี้ยวใครเกรียงไกรจริง ไหน ไปไหน? แล้วล่ะ จระเข้ จอมเกเรมูมมาม เพื่อนคร้ามยิ่ง เจอฮิปโปอย่างเราสู้เข้าชิง ยังเกรงกริ่งหนีไปแทบไม่ทัน พวกเรานอนแช่ตามสายน้ำเล่น ไม่จำเป็น ไม่ทำให้ ผู้ใดหวั่น อากาศร้อน แช่น้ำ ชุ่มฉ่ำกัน อ้าปากฟันยาวมาก ใช่อยากนอน ขอเตือนพราน เสือป่า สิงห์ หมา หมี เผ่าเรานี้ ไม่ทำใครช้ำก่อน แต่หากใครกล้าหาญมาราญรอน มีสิทธิ์นอนเจ็บร่างอยู่กลางไพร!..... ” (ฮิปโปกล่าว) ฮิปโปมีเขี้ยวยาวคมวาววับ พร้อมสู้กับนักล่าผู้มาไล่ เป็นสัตว์ที่ทะนงตัว มิกลัวใคร ถิ่นอาศัยแอฟริกาใต้มากมายเอย !ฯ อริญชย์:นักเลงกลอนประจำซอย ปล.ฮิปโป เป็นสัตว์ที่ไม่กลัวใครหน้าไหนทั้งนั้น จระเข้ยังขยาดมันเลยนะ อิอิ ภาพ ฮิปโปกัดจระเข้ http://samarn.multiply.com/journal/item/581?&show_interstitial=1&u=%2Fjournal%2Fitem (http://samarn.multiply.com/journal/item/581?&show_interstitial=1&u=%2Fjournal%2Fitem) emo_95 emo_84 emo_95 หัวข้อ: Re: กลอนเด็ก:หักยิ้มนิทานไพร:กลับมาสู่บ้านเก่าเราอีกครั้ง เริ่มหัวข้อโดย: รัตนาวดี ที่ 04 ธันวาคม 2011, 08:45:PM เป็นคนดีของสังคมคนชมชอบ รู้จักตอบแทนแผ่นดินถิ่นที่อยู่ รักษ์ดิน-น้ำ-ป่าร่มรื่นได้ชื่นชู โลกน่าอยู่..หากรู้ค่าของป่างาม ฯ อริญชย์:นักเลงกลอนประจำซอย ๑๒/๑๐/๒๕๔๘ หมายเหตุ=ได้แนวคิดจากดาบพิชัย ปลูกต้นไม้ ๒ ล้านต้น emo_126 emo_47 emo_126 ๐ ปลูกต้นไม้ ๐ ช่วยร่วมรุ่ง มุ่งมั่น ปลูกฝันเพิ่ม ด้วยการเสริม เติมต่อ มิขอห้าม ทิวป่าเขียว เหลียวเห็น มองเย็นตาม ช่วยกันถาม ยามปลูก ถูกต้องลอง คนละหนึ่ง ถึงสองต้น ด้นปลูกช่วย ป่าเขียวรวย ด้วยสะอาด เจิมสาดส่อง ธรรมชาติ ปราศฝุ่น ปลิววุ่นมอง อากาศคล่อง จ้องควันพิษ พิชิตคลาย รัตนาวดี emo_126 emo_116 emo_126 หมายเหตุ = ตามแบบอย่าง กฎหมาย ประเทศเยอรมัน โคนต้นไม้ทิ้ง 1 ต้น จะต้องปลูกแทนเพิ่มอีก 1 ต้น หัวข้อ: Re: กลอนเด็ก:หักยิ้มนิทานไพร:กลับมาสู่บ้านเก่าเราอีกครั้ง เริ่มหัวข้อโดย: อริญชย์ ที่ 05 ธันวาคม 2011, 10:30:AM นกปีกเขียว บินหลีก เหยี่ยวปีกขาว
ดั่งแสงดาว หลบจันทร์ ตะวันส่อง เหยี่ยวปีกขาว บินมา สายตามอง หัวใจของ นกปีกเขียว หวาดเสียวเอย ฯ อริญชย์:นักเลงกลอนประจำซอย ๔/๘/๒๕๕๒ emo_126 emo_47 emo_126 หัวข้อ: Re: กลอนเด็ก:กลอนอะไรเอ่ย ? (เอาไว้ทายเล่นกับเด็ก ๆ เน้อ) เริ่มหัวข้อโดย: อริญชย์ ที่ 06 ธันวาคม 2011, 12:20:AM ๐อะไรเอ่ย?๐
อะไรเอ่ย ?……………..สองเขาสี่ขา เคยช่วยชาวนา……….ไถคราดในทุ่ง เริ่มจะหายไป………....คนไม่หมายมุ่ง บ้านนาฟ้าจรุง…………กำลังจะไม่มี ฯ อะไรเอ่ย ?……………..ทำเด็กยุคใหม่ หัวเราะชอบใจ………...กดซ้ายกดขวา เล่นกันเพลิดเพลิน……จนเกินเวลา ลืมกินข้าวปลา………..ติดกันงอมแงม ฯ อะไรเอ่ย ?…………….เคยใช้ลากรถ ใกล้ไกลไปหมด……….เรี่ยวแรงมากมี เป็นสัตว์พาหนะ………คนมักจะขี่ แต่ว่ายุคนี้………………วิ่งแข่งในสนาม ฯ อะไรเอ่ย ?……………..สัตว์ปีกบินได้ ชาวบ้านป่าใช้………….ต้มน้ำ ต้มยา ค่ำ-เช้าบินวน………….ร้องจนก้องพนา โฉบไปโฉบมา…………เรียกชื่อตัวเอง ฯ อะไรเอ่ย ?……………...ร้ายพอกับสิงห์ เก่งจริงดั่งเสือ………….ว่ายน้ำหากิน หางยาวใช้ฟาด…………พิฆาตไม่สิ้น บางครั้งคลานดิน………ชอบเนื้อสดเอย ฯ อะไรเอ่ย ?………………จำพวกแมลง ปากแหลมพิษแรง…….พบตามชลธี กลิ่นตัวฉุนหอม………..เพียบพร้อมคุณมี ชายไร้ศักดิ์ศรี…………..ข่มหญิงขายตัว ฯ อะไรเอ่ย ?……………….อยู่แต่ในเล้า กินนอนค่ำเช้า…………..ดั่งว่าสบาย อาหารคือรำ………………คนนำมาวางไว้ แต่ถูกฆ่าตาย…………….ยามเนื้ออ้วนพี ฯ อะไรเอ่ย ?……………….บินวนบนฟ้า สอดส่ายสายตา…………มองหาซากเน่า ขนหัวไม่เห็น…………….เช้าเย็นคอยเฝ้า เนื้อตัวกลิ่นคาว………….คนไม่กินเอย ฯ อะไรเอ่ย ?………………..นอนใต้ต้นตาล ตู้ม!ตื่นลนลาน……………กลัวตาย วิ่งหนี เพื่อนสัตว์มากมาย………วิ่งตามทุกที่ ยกเว้นราชสีห์…………….ไม่หวั่นไหวเอย ฯ อริญชย์ ๕/๑๑/๒๕๕๔ emo_126 emo_47 emo_126 ปล.บทใครบทมันนะฮะ ไม่สัมผัสกัน หัวข้อ: Re: กลอนเด็ก:เฉลยกลอน ๐อะไรเอ่ย?๐ (ทายเล่นกับเด็ก ๆ) เริ่มหัวข้อโดย: อริญชย์ ที่ 06 ธันวาคม 2011, 08:12:AM เฉลยกลอน ๐อะไรเอ่ย?๐
อะไรเอ่ย ?……………..สองเขาสี่ขา เคยช่วยชาวนา……….ไถคราดในทุ่ง เริ่มจะหายไป………....คนไม่หมายมุ่ง บ้านนาฟ้าจรุง…………กำลังจะไม่มี ฯ (ควาย) อะไรเอ่ย ?……………..ทำเด็กยุคใหม่ หัวเราะชอบใจ………...กดซ้ายกดขวา เล่นกันเพลิดเพลิน……จนเกินเวลา ลืมกินข้าวปลา………..ติดกันงอมแงม ฯ(เกมคอมพ์) อะไรเอ่ย ?…………….เคยใช้ลากรถ ใกล้ไกลไปหมด……….เรี่ยวแรงมากมี เป็นสัตว์พาหนะ………คนมักจะขี่ แต่ว่ายุคนี้………………วิ่งแข่งในสนาม ฯ (ม้า) อะไรเอ่ย ?……………..สัตว์ปีกบินได้ ชาวบ้านป่าใช้………….ต้มน้ำ ต้มยา ค่ำ-เช้าบินวน………….ร้องจนก้องพนา โฉบไปโฉบมา…………เรียกชื่อตัวเอง ฯ (กา) อะไรเอ่ย ?……………...ร้ายพอกับสิงห์ เก่งจริงดั่งเสือ………….ว่ายน้ำหากิน หางยาวใช้ฟาด…………พิฆาตไม่สิ้น บางครั้งคลานดิน………ชอบเนื้อสดเอย ฯ (จระเข้) อะไรเอ่ย ?………………จำพวกแมลง ปากแหลมพิษแรง…….พบตามชลธี กลิ่นตัวฉุนหอม………..เพียบพร้อมคุณมี ชายไร้ศักดิ์ศรี…………..ข่มหญิงขายตัว ฯ (แมงดา/แมลงดา) อะไรเอ่ย ?……………….อยู่แต่ในเล้า กินนอนค่ำเช้า…………..ดั่งว่าสบาย อาหารคือรำ………………คนนำมาวางไว้ แต่ถูกฆ่าตาย…………….ยามเนื้ออ้วนพี ฯ (หมู) อะไรเอ่ย ?……………….บินวนบนฟ้า สอดส่ายสายตา…………มองหาซากเน่า ขนหัวไม่เห็น…………….เช้าเย็นคอยเฝ้า เนื้อตัวกลิ่นคาว………….คนไม่กินเอย ฯ (แร้ง) อะไรเอ่ย ?………………..นอนใต้ต้นตาล ตู้ม!ตื่นลนลาน……………กลัวตาย วิ่งหนี เพื่อนสัตว์มากมาย………วิ่งตามทุกที่ ยกเว้นราชสีห์…………….ไม่หวั่นไหวเอย ฯ (กระต่าย) อริญชย์ ๕/๑๑/๒๕๕๔ emo_126 emo_47 emo_126 หัวข้อ: Re: กลอนเด็ก:หักยิ้มนิทานไพร:กลับมาสู่บ้านเก่าเราอีกครั้ง เริ่มหัวข้อโดย: เอ๊พ ที่ 06 ธันวาคม 2011, 11:58:AM emo_126 ขออนุญาตคุณอริญชย์ นำไปใช้สอน+ทายเล่น กับเด็กในชุมชน วัดวันอาทิตย์ นะครับ เป็นกลอนด้วย emo_126 หัวข้อ: Re: กลอนเด็ก:หักยิ้มนิทานไพร:กลับมาสู่บ้านเก่าเราอีกครั้ง เริ่มหัวข้อโดย: อริญชย์ ที่ 06 ธันวาคม 2011, 12:14:PM emo_126 ขออนุญาตคุณอริญชย์ นำไปใช้สอน+ทายเล่น กับเด็กในชุมชน วัดวันอาทิตย์ นะครับ เป็นกลอนด้วย emo_126 ถ้าเห็นว่ามีประโยชน์ ก็ยินดีฮะ ขอบคุณมาก ๆ จะลองแต่งบ้างก็ได้เน้อ ไม่ว่ากัน อริญชย์ หัวข้อ: Re: กลอนเด็ก:หักยิ้มนิทานไพร:กลับมาสู่บ้านเก่าเราอีกครั้ง เริ่มหัวข้อโดย: อริญชย์ ที่ 11 ธันวาคม 2011, 11:03:AM ต้นมะลื่น ผลดก หล่นตกพื้น
เด็กยิ้มรื่น ยามผ่า หมากกะบก ใช้มีดพร้า ผ่าครึ่ง สับหนึ่ง“ป๊ก” แล้วหยิบยก เคี้ยวกินกัน กรอบมันเอย !ฯ อริญชย์ 7/6/2553 <iframe title="YouTube video player" class="youtube-player" type="text/html" width="480" height="390"src=" http://www.youtube.com/watch?v=OOfR_nzlRUQ#noexternalembed&feature=related&feature=related&autoplay=1 (http://www.youtube.com/watch?v=OOfR_nzlRUQ#noexternalembed&feature=related&feature=related&autoplay=1)" frameborder="0"></iframe> เมล็ดกะบกคั่ว http://www.google.co.th/imgres?q=%E0%B9%80%E0%B8%A1%E0%B9%87%E0%B8%94+%E0%B8%81%E0%B8%B0%E0%B8%9A%E0%B8%81+%E0%B8%84%E0%B8%B1%E0%B9%88%E0%B8%A7&um=1&hl=th&biw=1280&bih=578&tbm=isch&tbnid=slxszESKMxOoCM:&imgrefurl=http://www.bansuanporpeang.com/node/2794&docid=fpGP1CnjPxnmvM&imgurl=http://www.bansuanporpeang.com/files/images/user1048/DSC02289.jpg&w=420&h=315&ei=CCrkTtqXHs7nrAfroPD2Bw&zoom=1&iact=hc&vpx=458&vpy=223&dur=94&hovh=194&hovw=259&tx=167&ty=83&sig=114725656472240134159&page=1&tbnh=169&tbnw=238&start=0&ndsp=10&ved=1t:429,r:1,s:0 (http://www.google.co.th/imgres?q=%E0%B9%80%E0%B8%A1%E0%B9%87%E0%B8%94+%E0%B8%81%E0%B8%B0%E0%B8%9A%E0%B8%81+%E0%B8%84%E0%B8%B1%E0%B9%88%E0%B8%A7&um=1&hl=th&biw=1280&bih=578&tbm=isch&tbnid=slxszESKMxOoCM:&imgrefurl=http://www.bansuanporpeang.com/node/2794&docid=fpGP1CnjPxnmvM&imgurl=http://www.bansuanporpeang.com/files/images/user1048/DSC02289.jpg&w=420&h=315&ei=CCrkTtqXHs7nrAfroPD2Bw&zoom=1&iact=hc&vpx=458&vpy=223&dur=94&hovh=194&hovw=259&tx=167&ty=83&sig=114725656472240134159&page=1&tbnh=169&tbnw=238&start=0&ndsp=10&ved=1t:429,r:1,s:0) กะบก (Irvingia malayana Oliv. ex Benn.) พันธุ์ไม้พระราชทานเพื่อปลูกเป็นมงคลจังหวัดร้อยเอ็ด ชื่อวิทยาศาสตร์ Irvingia malayana Oliv. ex Benn. วงศ์ IRVINGIACEAE ชื่ออื่น หมากบก มะมื่น มะลื่น หลักกลาย ไม้ต้น ขนาดกลางถึงขนาดใหญ่ สูง 10 - 30 เมตร ผลัดใบ เปลือก สีเทาอ่อนปนน้ำตาลค่อนข้างเรียบบางทีแตกเป็นสะเก็ด เรือนยอดเป็นพุ่มแน่นทึบ กลมรี ใบ ใบเดี่ยวเรียงสลับ แผ่นใบรูปมนแกมรูปขอบขนานจนถึงรูปหอก กว้าง 2.5 - 9 เซนติเมตร ยาว 8 - 20 เซนติเมตร ผิวใบเกลี้ยง เนื้อหนา โคนใบมนปลายใบทู่ถึงแหลม หูใบโค้ง ม้วนหุ้มยอดอ่อน ยาวถึง 3 เซนติเมตร ดอก ดอกเล็กสีขาวปนเขียวอ่อน ผล กลมรีเมื่อสุกสีเหลือง เมล็ดแข็ง เนื้อในเมล็ดขาวมีรสมัน นิเวศวิทยา ขึ้นตามป่าเบญจพรรณแล้ง และป่าดิบแล้งทั่วไป ที่สูงจากระดับน้ำทะเล 150 - 300 เมตร การผลัดใบจะผลัดใบหมดทั้งต้นและผลิใหม่ในเวลาอันรวดเร็ว ออกดอก มกราคม - มีนาคม เป็นผล กุมภาพันธ์ - เมษายน ขยายพันธุ์ โดยเมล็ด ประโยชน์ เนื้อไม้ใช้เผาถ่าน ได้ถ่านดีให้ความร้อนสูง เนื้อไม้เสี้ยนตรง แข็งมาก ใช้ทำเครื่องมือกสิกรรม เมื่ออาบน้ำยาโดยถูกต้องแล้วใช้ในการก่อสร้างที่อยู่ในร่มที่ต้องการความแข็งแรงได้ เนื้อในเมล็ดใช้รับประทานได้ น้ำมันที่ได้จากเมล็ดใช้ทำอาหาร สบู่ เทียนไข ผลสุกเป็นอาหารพวกเก้งกวางและนก นิเวศวิทยา ขึ้นตามป่าเบญจพรรณแล้ง และป่าดิบแล้งทั่วไป ที่สูงจากระดับน้ำทะเล 150 - 300 เมตร การผลัดใบจะผลัดใบหมดทั้งต้นและผลิใหม่ในเวลาอันรวดเร็ว ออกดอก มกราคม - มีนาคม เป็นผล กุมภาพันธ์ - เมษายน ขยายพันธุ์ โดยเมล็ด ประโยชน์ เนื้อไม้ใช้เผาถ่าน ได้ถ่านดีให้ความร้อนสูง เนื้อไม้เสี้ยนตรง แข็งมาก ใช้ทำเครื่องมือกสิกรรม เมื่ออาบน้ำยาโดยถูกต้องแล้วใช้ในการก่อสร้างที่อยู่ในร่มที่ต้องการความแข็งแรงได้ เนื้อในเมล็ดใช้รับประทานได้ น้ำมันที่ได้จากเมล็ดใช้ทำอาหาร สบู่ เทียนไข ผลสุกเป็นอาหารพวกเก้งกวางและนก http://www.dnp.go.th/EPAC/province_plant/roied.htm (http://www.dnp.go.th/EPAC/province_plant/roied.htm) หัวข้อ: Re: กลอนเด็ก:หักยิ้มนิทานไพร:กลับมาสู่บ้านเก่าเราอีกครั้ง เริ่มหัวข้อโดย: panthong.kh ที่ 11 ธันวาคม 2011, 11:15:AM emo_73 emo_73 จากบ้านมา ความหลัง ยังจำได้ ต้นหว้าใหญ่ ผลดก นะอกเอ๋ย สีม่วงม่วง กินที ติดลิ้นเลย แต่ไม่เคย ลืมเลือน ย้ำเตือนใจ พันทอง หัวข้อ: Re: กลอนเด็ก:หักยิ้มนิทานไพร:กลับมาสู่บ้านเก่าเราอีกครั้ง เริ่มหัวข้อโดย: ...สียะตรา.. ที่ 11 ธันวาคม 2011, 12:16:PM emo_47 หัวข้อ: Re: กลอนเด็ก:หักยิ้มนิทานไพร:กลับมาสู่บ้านเก่าเราอีกครั้ง เริ่มหัวข้อโดย: อริญชย์ ที่ 11 ธันวาคม 2011, 02:56:PM หว้าต้นใหญ่สูงเด่นมองเห็นง่าย
เป็นต้นไม้ล้ำค่ายิ่ง แผ่กิ่งกว้าง ผลสุกดำรสหวานพอปานกลาง พบทุกทางป่าเขาลำเนาไพร ฯ อริญชย์ (บทความต่อไปนี้ก๊อบมาจากเวบอื่นฮะ ตามลิงค์ข้างล่างเน้อ) ลูกหว้ามีประโยชน์อย่างไร? หว้าอินเดียออกลูกใหญ่มาก ดกเต็มต้นเลยค่ะ เหมือนจะอร่อย แต่พอทานไปเหนียวๆฝาดๆในปากเหมือนกัน อยากทราบว่าลูกหว้ามีสรรพคุณเป็นประโยชน์และโทษอย่างไร นอกจากหยิบลูกมาใส่ปากทานแล้ว เอาไปทำอย่างอื่น หรือ แปรรูปอย่างไรได้อีกบ้าง และคุณสมบัติ ของลูกห้า ใกล้เคียงกับลูกชำมะเลียงหรือเปล่า เพราะที่บ้านมีต้นชำมะเลียงออกลูกเช่นกันค่ะ • 3 ปี ผ่านไป • แจ้งลบ by Aragon เป็นสมาชิกตั้งแต่: 07 สิงหาคม 2008 คะแนนรวม: 3,208 (ระดับ 4) • เพิ่มรายชื่อผู้ติดต่อ • บล็อค คำตอบที่ดีที่สุด - เลือกโดยเจ้าของคำถาม ลูกหว้า น ำมากินสดๆ ทำไวน์ ทำน้ำส้ม น่าจะทำแยมได้ด้วย(แบบแบลคเบอรี่) “หว้า” ชาวฮินดูเรียกว่า “จามาน” หรือ “จามูน” “หว้า” มีชื่อภาษาอังกฤษว่า จัมโบลาน (Jambolan) มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า ซีสส์จิอัม คูมินิ (Syzygium cumini (L.) Skeels) จัดอยู่ในวงศ์ ไมร์ทาซีอี้ (Myrtaceae) "หว้า" เป็นพันธุ์ไม้พวก ชมพู่ คือสกุล (Genus Syzygium) ในวงศ์ (Family Myrtaceae) มีมากทั้งในอินเดีย พม่า ไทย และมาเลเซีย ตลอดจนฟิลิปปินส์ โดยมากหว้ามีลูกเล็กสีม่วงดำ แต่ในบางแห่ง เช่น ในฟิลิปปินส์มีลูกโตเท่าไข่นกพิราบ หว้ามีกิ่งก้านมาก แข็งแรง ปลายกิ่งห้อยย้อยลง ใบดกหนา ทำให้เกิดเป็นพุ่มทรงรูปไข่ แน่นทึบ ใบอ่อนจะแตกสีแดงเรื่อ ๆ แม่ค้าที่ขายลูกหว้าเขาจะพรมน้ำเกลือเล็กน้อย เพื่อเพิ่มรสชาดให้น่ารับประทานยิ่งขึ้น ผล หว้ามีขนาดยาว 1 – 2.5 ซม. และโตประมาณ 1 ซม. น้ำจากผลหว้าก็เป็น 1 ใน 8 น้ำปานะที่พระพุทธองค์ทรงมีพุทธานุญาตแก่พระภิกษุ เมล็ดลดน้ำตาลในเลือด แก้ท้องเสีย และใช้ถอนพิษ ในพม่านั้น ต้นหว้าถือเป็นไม้มงคลในเรื่องความสำเร็จและชัยชนะ ด้วยชื่อว่าชมพูทวีป หรือดินแดนแห่งไม้หว้านั้น เป็นแผ่นดินอันเป็นแดนกำเนิดของพระพุทธศาสนาและพระบรมศาสดานั่นเอง “หว้า” มีคุณค่าทางโภชนาการคือ ในผลหว้าจะประกอบด้วย น้ำตาล วิตามินซี มีแคลเซียม(สูง) และเหล็ก ส่วนในเมล็ดหว้าจะมีสารอัลคาลอยด์ น้ำมันหอมระเหย ฟอสฟอรัส และแคลเซียม สรรพคุณของหว้าและวิธีใช้ เปลือกและใบหว้า ใช้ทำยาอม ยากวาดคอ แก้ปากเปื่อย ลิ้นและคอมีเม็ด ใบและเมล็ดหว้า ใช้แก้บิด มูกเลือด ท้องเสีย นำใบและเมล็ดหว้ามาต้มกับน้ำ แล้วนำน้ำที่ได้มาใช้ในการชะล้างแผลเน่าเปื่อย หรือนำใบและเมล็ดหว้ามาตำแล้วใช้ทาแก้โรคผิวหนัง เมล็ดหว้า เมล็ดหว้าเมื่อนำมาต้มหรือบด แล้วนำมารับประทาน มีสรรพคุณใช้แก้เบาหวาน แก้บิด แก้ท้องร่วงได้ "ผลหว้าสุก" จะลักษณะสีม่วงดำ และมีรสเปรี้ยวฝาดอมหวาน จึงสามารถนำมาใช้ในการทำไวน์ได้ดี ส่วนยอดอ่อนของหว้า สามารถใช้รับประทานเป็นผักสด สำหรับในประเทศไทย ต้นหว้าเป็นพันธุ์ไม้พระราชทานเพื่อปลูกเป็นมงคลประจำจังหวัดเพชรบุรี ส่วนชำมะเลียง หรือลูกชุมเรียง(ภาคใต้) ลูกกินได้ รสฝาดๆหวานๆ ไม่อร่อย แต่เด็กๆชอบใบของมันมาก เพราะนิยมนำมาใช้ทำธนบัตรเวลาเล่นขายของกัน..สนุก ที่มา http://th.answers.yahoo.com/question/index?qid=20090423165318AA4S8qD (http://th.answers.yahoo.com/question/index?qid=20090423165318AA4S8qD) หัวข้อ: Re: กลอนเด็ก:หักยิ้มนิทานไพร:กลับมาสู่บ้านเก่าเราอีกครั้ง เริ่มหัวข้อโดย: อริญชย์ ที่ 19 ธันวาคม 2011, 07:39:PM แมงมุมพิษดักซุ่มรอตัวต่อร้าย
หวังจะได้กินเพราะเห็นว่าเป็นต่อ เมื่อต่อมา จึงโจมตีไม่รีรอ เกมพลิกต่อพิษแรงฆ่าแมงมุม !ฯ อริญชย์ emo_60 emo_107 emo_60 หัวข้อ: Re: กลอนเด็ก:หักยิ้มนิทานไพร:กลับมาสู่บ้านเก่าเราอีกครั้ง เริ่มหัวข้อโดย: บูรพาท่าพระจันทร์ ที่ 19 ธันวาคม 2011, 08:12:PM แมงมุมพิษดักซุ่มรอตัวต่อร้าย หวังจะได้กินเพราะเห็นว่าเป็นต่อ เมื่อต่อมา จึงโจมตีไม่รีรอ เกมพลิกต่อพิษแรงฆ่าแมงมุม !ฯ อริญชย์ emo_60 emo_107 emo_60 ดั่งเสือร้าย หมายลิ้ม เข้าชิมหมู วางท่าดู ขู่คำราม ตามขยุ้ม เจ้าหมูใหญ่ ใจกล้า พาพวกรุม ร่วมประชุม ถ้วนหน้า หมูป่าดง.../ บูรพาท่าพระจันทร์ หัวข้อ: Re: กลอนเด็ก:หักยิ้มนิทานไพร:กลับมาสู่บ้านเก่าเราอีกครั้ง เริ่มหัวข้อโดย: อริญชย์ ที่ 21 ธันวาคม 2011, 08:59:PM “อ้น” เป็นสัตว์ชอบอยู่ในรูลึก
ตามพงพฤกษ์ลำเนาเทือกเขาใหญ่ ฟันแทะเคี้ยวอาหารสำราญใจ แมว หมาใน นกเค้า งู ศัตรูเอย ฯ อริญชย์ อ้ น : g r o u n d h o g " อ้น เป็นสัตว์สี่เท้าเลี้ยงลูกด้วยนม อาศัยอยู่ใต้ดิน มีรูปร่างหน้าตาคล้ายหนูพุกตัวอ้วน มีฟันหน้าคู่ใหญ่เป็นพิเศษคู่หนึ่ง สำหรับเมืองไทยมีอ้นอยู่ 3 ชนิดคือ อ้นใหญ่ อ้นกลาง และ อ้นเล็ก " ลั ก ษ ณ ะ เ ด่ น ลักษณะเด่นที่สุดของอ้นคือ ฟันคู่หน้าใหญ่หนึ่งคู่ ฟันนี้มีสีเหลือง สีน้ำตาลอ่อน บางครั้งก็อาจจะเป็นสีส้ม อ้นใช้ฟันคู่นี้ขุดอุโมงค์ กัดดิน รากไม้ และเป็นอาวุธป้องกันตัว อ้นมีหัวมน ก้นมน คอสั้น ขากรรไกรกว้าง ตาเล็ก หูเล็ก ไม่มีใบหูยื่นยาวเหมือนกับสัตว์อื่นๆ นิ สั ย - พ ฤ ติ ก ร ร ม อ้น เป็นสัตว์ที่ดำรงชีวิตแบบเดี่ยว คือ อ้นจะอยู่ลำพังเพียงตัวเดียวใน 1 รัง นอกจากเวลาผสมพันธุ์จึงจะอยู่ด้วยกันกับคู่ของมัน อ้นตัวผู้จะอยู่กับตัวเมีย จนกว่าตัวเมียจะคลอดลูกออกมาแล้วจึงออกไป อ า ห า ร อ้นทั้งสามชนิดนี้ กินอาหารต่างกัน อ้นใหญ่จะกินแต่รากไผ่เป็นอาหารเท่านั้น ส่วนอ้นกลางและอ้นเล็กกินไม่เลือก ขอให้เป็นรากไม้ หักเครือเถาใดๆ ก็ได้ ไม่จำเป็นต้องเป็นไม้ไผ่เหมือนอ้นใหญ่ ศั ต รู ข อ ง อ้ น ศัตรูของอ้น ซึ่งมักมาดักกินอ้น ขณะออกจากรัง คือ พวกเสือดาว แมวดาว หมาไน บางทีก็โดนนกฮูก นกเค้าแมวจับกินด้วย ที่ อ ยู่ อ า ศั ย อ้น เป็นสัตว์ที่มีการระวังสูง จึงชอบขุดเจาะท่อทางเดินให้มีขนาดเฉพาะเท่ากับลำตัวเท่านั้น ความลึกจากผิวดินก็อยู่ในระดับเดียวกับรากเหง้าและหัวรากไม้ต่างๆ วิธีขุด อ้นจะใช้ปากกัดดิน และใช้เท้าตะกุยส่งผ่านใต้ท้อง และใช้ขาหลังถีบดินกองไว้ข้างหลัง เมื่อดินกองใหญ่พอสมควร อ้นจะกลับตัวแล้วใช้ส่วนหัวของมันดันกองดินขึ้นมาบนผิวดินเป็นระยะๆ http://www.reocities.com/taooop/vers3/groundhog.html (http://www.reocities.com/taooop/vers3/groundhog.html) หัวข้อ: Re: กลอนเด็ก:หักยิ้มนิทานไพร:กลับมาสู่บ้านเก่าเราอีกครั้ง เริ่มหัวข้อโดย: อริญชย์ ที่ 23 ธันวาคม 2011, 07:06:PM “ตะขาบทุ่งอหังการ”
นกตะขาบทุ่งผดุงถิ่น โบยบินไปมาตามป่าเขา อหังการหัวใจไม่เบา ค่ำ-เช้า หากินในถิ่นตน หนาวลมฝนแดดแผดร้อน ยังจรบินไปตามไพรสณฑ์ ยึดความพอเพียงเลี้ยงตน อดทนยินดีเท่าที่เป็น รู้ตัวศักดิ์น้อยต้อยต่ำ ไม่ถลำอวดอ้างวางเด่น เพียงป่าน่าชม สายลมเย็น ก็บินเล่นสุขสมอารมณ์เอย ฯ “อริญชย์:คำนึงถึงบ้าน” ๑๕/๑๐/๒๕๕๔ นกตะขาบทุ่ง http://www.google.co.th/imgres?q=%E0%B8%99%E0%B8%81%E0%B8%95%E0%B8%B0%E0%B8%82%E0%B8%B2%E0%B8%9A%E0%B8%97%E0%B8%B8%E0%B9%88%E0%B8%87&hl=th&sa=X&biw=1280&bih=578&tbm=isch&prmd=imvns&tbnid=bHIXWhp24sKCnM:&imgrefurl=http://www.bloggang.com/viewblog.php%3Fid%3Dboutiquehome%26group%3D8&docid=zXxB_yhQyUNskM&imgurl=http://www.bloggang.com/data/boutiquehome/picture/1292850783.jpg&w=640&h=480&ei=WG70TpKgHor5rQeUye3hDw&zoom=1&iact=hc&vpx=974&vpy=265&dur=1453&hovh=194&hovw=259&tx=222&ty=81&sig=115096443240734541600&page=1&tbnh=114&tbnw=159&start=0&ndsp=19&ved=1t:429,r:18,s:0 (http://www.google.co.th/imgres?q=%E0%B8%99%E0%B8%81%E0%B8%95%E0%B8%B0%E0%B8%82%E0%B8%B2%E0%B8%9A%E0%B8%97%E0%B8%B8%E0%B9%88%E0%B8%87&hl=th&sa=X&biw=1280&bih=578&tbm=isch&prmd=imvns&tbnid=bHIXWhp24sKCnM:&imgrefurl=http://www.bloggang.com/viewblog.php%3Fid%3Dboutiquehome%26group%3D8&docid=zXxB_yhQyUNskM&imgurl=http://www.bloggang.com/data/boutiquehome/picture/1292850783.jpg&w=640&h=480&ei=WG70TpKgHor5rQeUye3hDw&zoom=1&iact=hc&vpx=974&vpy=265&dur=1453&hovh=194&hovw=259&tx=222&ty=81&sig=115096443240734541600&page=1&tbnh=114&tbnw=159&start=0&ndsp=19&ved=1t:429,r:18,s:0) emo_126 emo_47 emo_126 หัวข้อ: Re: กลอนเด็ก:หักยิ้มนิทานไพร:กลับมาสู่บ้านเก่าเราอีกครั้ง เริ่มหัวข้อโดย: อริญชย์ ที่ 25 ธันวาคม 2011, 04:24:PM (http://news.trekaseen.com/wp-content/uploads/2010/11/CSC_0611-300x225.jpg)
“แย้” ผลุบโผล่หัวอยู่ ในรูแย้ ดูให้แน่ ประเดี๋ยว มีเหยี่ยวไล่ คือละคร หรรษา แห่งป่าไพร แย้ว่องไวเอาตัวรอดเป็นยอดดี!ฯ อริญชย์ http://www.youtube.com/watch?v=8Qrifnb0r-E "แย้ " ในโครงการพระราชดำริ "สมเด็จพระเทพฯ" คนอะไรหน้าตายังกะแย้" "ตาคนนั้น นอกจากไม่หล่อแล้วหุ่นยังเหมือนแย้อีกต่างหาก" "แย้ปิ้งยังดูดีกว่าเธอเลย" สารพัดคำพูด คำเหน็บแนม รวมไปถึงถ้อยคำหยอกล้อระหว่างเพื่อนฝูงที่สนิทสนมกัน หรือการกล่าววาจาเปรียบเปรยกับบุคคลที่ตัวเองรู้สึกหมั่นไส้ โดยนำคนๆ นั้นไปเปรียบเทียบกับ "แย้" แต่จะมีสักกี่คนที่ใช้คำพูดเหล่านั้นรู้จักหน้าค่าตา เจ้าสัตว์ชนิดนี้จริงๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนรุ่นใหม่ที่ใช้ชีวิตส่วนใหญ่อยู่ในเมือง ผู้เขียนเองก็ไม่คุ้นกับเจ้าสัตว์ชนิดนี้เท่าไร กระทั่งสะดุดตากับเอกสารวาระงานแสดงนิทรรศการ และประชุมวิชาการเพื่อเทิดพระเกียรติและสนองพระราชดำริ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เรื่อง "ทรัพยากรไทย ธรรมชาติแห่งชีวิต" ที่จะจัดขึ้นระหว่าง 9-15 พฤษภาคม ที่สำนักพระราชวัง สนามเสือป่า ในงานดังกล่าวมีการเสนองานวิจัยเรื่อง "การศึกษาความสัมพันธ์เชิงวิวัฒนาการของแย้จากพื้นที่ต่างๆ" การศึกษาเรื่องนี้อยู่ภายใต้โครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชอันเนื่องมาจากพระราชดำริ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ โดย ผศ.ผุสตี ปริยานนท์ อาจารย์ประจำภาควิชาชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาฯ เป็นหัวหน้าและนักวิจัยประจำโครงการ อ.ผุสตี ทำให้เรารู้จักกับสัตว์ชนิดนี้มากยิ่งขึ้น "ในแง่นิเวศวิทยา แย้เป็นเพียงสัตว์ชนิดหนึ่งที่ทำให้ระบบในธรรมชาติสมดุลเพราะเขาจะกินแมลงที่เป็นศัตรูพืช และเป็นอาหารให้สัตว์ชนิดอื่น เช่น งู แต่หน้าที่เล็กๆ ดังกล่าว ก็เป็นหนึ่งในฟันเฟืองสำคัญที่ทำให้สิ่งแวดล้อมมีความสมบูรณ์" อ.ผุสตีบอก "แย้" เป็นสัตว์เลื้อยคลานจำพวกเดียวกันกับกิ้งก่า แต่มีขนาดตัวโตกว่า และสีผิวปรับเปลี่ยนไม่ได้เหมือนกิ้งก่า ลำตัววัดจากปลายปากโดยตลอดยาวประมาณ 11.5 เซนติเมตร(ซ.ม.) หางยาวประมาณ 23.8 ซ.ม. ตัวแบนหางราบ โคนหางแบนและแผ่บานออก สีข้างแผ่ขยาย ไม่มีแผงหนามที่สันหลัง ช่องหูใหญ่ เยื่อหูจมใต้ผิวหนัง หนังข้างคอมีรอยพับตามขวาง รอบลำตัวมีเกล็ดประมาณ 40 แถว หัวและหลังสีมะกอก โดยมีจุดเหลืองขอบดำเรียงเป็นแนวข้างตัว มีแถบดำสลับเหลืองคอมีลวดลายร่างแหดำ ประกอบสีครีม ท้องและอกสีส้มสด ตัวผู้จะมีพังผืดด้านข้าง และสวยกว่าตัวเมีย อาศัยอยู่เกือบทุกภูมิภาคของประเทศ พบมากตามพื้นทรายที่ดอนในป่าเสม็ดใกล้ทะเล ที่อยู่ของแย้เป็นรู ลึกประมาณ 1 ฟุต เป็นโพรงข้างใน สามารถกลับตัวได้ ที่ปากรูจะมีรอยของหางแย้ เป็นรอยยาวๆ และจะมีรูพิเศษอีกรูหนึ่ง ที่ใช้ป้องกันตัว เมื่อถูกศัตรูรุกรานเข้ารูด้านหนึ่ง แย้สามารถหลบรอดออกไปอีกรูหนึ่งได้อย่างแยบยล เรียกรูนี้ว่า "แปว" อ.ผุสตีเล่าถึงโครงการนี้ว่า เป็นการศึกษาในแง่พันธุศาสตร์ที่สัมพันธ์กับระบบนิเวศวิทยาและสิ่งแวดล้อม โดยเข้าไปสำรวจในเกาะ ซึ่งอยู่ในการดูแลของกองทัพเรือ เช่น เกาะไผ่ เกาะคราม เกาะแรด เกาะแสมสาร เป็นต้น โดยตั้งข้อสงสัยว่าปกติแล้วแย้จะว่ายน้ำไม่เป็น แต่ทำไมบนเกาะต่างๆ โดยเฉพาะเกาะที่มีชายหาด และไม่มีผู้คนพลุก พล่านมากนัก จึงมีสัตว์ชนิดนี้อาศัยอยู่มาก เมื่อ ศึกษาจึงทราบว่าบริเวณเกาะที่มีประชากรแย้อาศัยอยู่นั้นในสมัยดึกดำบรรพ์เคยเป็นพื้นดินมาก่อน "แย้จึงเป็นสัตว์รุ่นเก่า ที่อาศัยอยู่ดั้งเดิม และอยู่ตลอดมาจนกระทั่งบัดนี้" เกี่ยวกับสถานภาพของเผ่าพันธุ์แย้ในเวลานี้ อ.ผุสตีบอกว่า ยังไม่ถือว่าเป็นสัตว์ที่ใกล้จะสูญพันธุ์เหมือนสัตว์เลื้อยคลานชนิดอื่นๆ แต่ถ้าเทียบแง่ปริมาณระหว่างอดีตกับปัจจุบันพบว่าลดจำนวนลงอย่างน่าใจหาย เพราะทุกวันนี้แย้ถูกรุกรานจากมนุษย์จำนวนมาก รวมทั้งบางคนยังชอบออกล่าสัตว์ชนิดนี้มาเป็นอาหารอีกด้วย โดยเฉพาะในภาคอีสาน ปริมาณประชากรแย้ลดลงอย่างรวดเร็ว กับข้อสงสัยที่ว่าทำไมหลายคนจึงนิยมรับประทานกัน อ.ผุสตีแจงว่า คนที่เคยกินมาแล้วบอกว่า รสชาติคล้ายเนื้อไก่ และเนื่องจากแย้มีเนื้อน้อย การนำมาปรุงอาหารต้องใช้หลายๆ ตัว เมนูเด็ดที่ใช้เนื้อแย้มาปรุง เช่น ลาบแย้ แย้ปิ้ง เป็นต้น ด้วยความวิตกว่า ในอนาคตประเทศไทยจะไม่เหลือสัตว์ชนิดนี้เอาไว้ให้คนรุ่นหลังได้ดูกันอีกแล้ว ทีมงานของ อ.ผุสตี จึงมีโครงการเพาะเลี้ยงแย้ เพื่อการอนุรักษ์ ที่สวนสัตว์เปิดเขาเขียว จ.ชลบุรี "ความจริงเวลานี้เด็กๆ รุ่นใหม่หลายคน โดยเฉพาะเด็กในเมือง แทบจะไม่รู้จักหน้าค่าตาของเจ้าสัตว์ชนิดนี้เลย จึงคิดกันว่าควรจะเร่งขยายพันธุ์ เพื่อเพิ่มปริมาณในธรรมชาติให้มีมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งบนเกาะที่ทางกองทัพเรือดูแลอยู่ เพราะไม่ค่อยมีใครเข้าไปรบกวน ในอนาคตอาจจะผลักดันให้แย้กลายเป็นสัตว์ประจำเกาะ เพื่อชักชวนให้นักท่องเที่ยวเข้ามาชม เหมือนต่างประเทศ เช่น หากไปเที่ยวเกาะกาลาปากอส จะเจอตัวอีกัวน่า และถ้ามาเที่ยวเกาะในไทยจะได้เห็นแย้ ซึ่งน่าดูไม่แพ้อีกัวน่าเลย" หากโครงการนี้สำเร็จ นอกจากจะสร้างความสมดุลของระบบนิเวศให้เพิ่มมากขึ้นแล้ว ต่อไปแย้ก็จะออกมาปรากฏโฉมให้ผู้คนรู้จักหน้าตากันมากยิ่งขึ้น ไม่ใช่เป็นเพียงสัตว์ที่อยู่ในจินตนาการอีกต่อไป ถึงตอนนั้นคนที่เคยถูกล้อว่าหน้าตาเหมือนแย้ จะได้รู้เสียทีว่าควรจะดีใจหรือเสียใจดี โดย ชุติมา นุ่นมัน หนังสือพิมพ์มติชน ประจำวันที่ 8 พฤษภาคม พ.ศ. 2546 เพิ่มเติม : แย้เป็นสัตว์เลื้อยคลานชนิดหนึ่งที่มีลักษ๕ณะคล้ายกิ้งก่า แย้จัดอยู่ในครอบครัว Agamidae และสกุล Leiolepis แย้ทั่วโลกพบเพียง 9 ชนิด เท่านั้น แต่ในประเทศไทยพบเพียง 4 ชนิด คือ Leiolepis belliana, Leiolepis ocellata, Leiolepis reevesii rubritaeniata และ Leiolepis boehmei แย้ตัวผู้จะมีลวดลายและแถบสีด้านข้างลำตัวเข้มกว่าตัวเมีย การแพร่กระจายของแย้ก็จะแตกต่างกัน เช่น แย้ชนิด L. belliana พบทุกภาคของประเทศไทย รวมทั้งบนเกาะ ขณะที่แย้ชนิด L. reevesii rubritaeniata พบทั่วไปทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และแย้ชนิด L. boehmei พบเฉพาะบริเวณเขตจังหวัดสงขลา และนครศรีธรรมราช และเป็นแย้ชนิดเดียวที่พบในประเทศไทยที่มีเพศเดียวคือเพศเมีย http://www.rspg.org/yae/yae.htm (http://www.rspg.org/yae/yae.htm) ขอบคุณภาพประกอบจาก www.google.com (http://www.google.com) emo_60 emo_107 emo_60 emo_84 emo_60 emo_107 emo_60 หัวข้อ: Re: กลอนเด็ก:หักยิ้มนิทานไพร:กลับมาสู่บ้านเก่าเราอีกครั้ง เริ่มหัวข้อโดย: อริญชย์ ที่ 15 กุมภาพันธ์ 2012, 08:34:PM (http://www.oknation.net/blog/home/blog_data/566/21566/images/symbiosis/buffalo1.jpg)
๐ดังฟังโทรศัพท์๐ ๐ทุย “สวัสดี...วิหคเพื่อนนกเอี้ยง ไยส่งเสียงซึมเศร้าปวดร้าวแสน เราอำลาท้องถิ่นทิ้งพิณแคน มาอยู่แมนเมืองฟ้านภาลัย” ๐เอี้ยง “สวัสดี...เพื่อนทุยมิ่งสหาย ยังสบายดีอยู่....หรือมิใช่ ตั้งแต่เพื่อนจากเขาลำเนาไพร เราก็เหงาฤทัยอยู่หนักหนา” ๐ทุย “ทวนความหลังของเราครั้งเก่าก่อน เพื่อนเคยอ้อนเกาะหลังเราเล็มหญ้า สองเราเที่ยวสุขใจตามไร่นา ชมพฤกษาหญ้าเขียวและเคียวรุ้ง” ๐เอี้ยง “ดีเหมือนกันได้หวนทวนความเก่า ครั้งสองเราพบพานอยู่บ้านทุ่ง เพื่อนพาลุยนาหนองริมคลองคุ้ง สูดกลิ่นฟุ้งธรรมชาติอากาศดี” ๐ทุย “เราไถนา เช้า-เย็น ลำเค็ญแสน ฟังเพลงแคนกล่อมทุ่งตามวิถี ฟังกบเขียดหยอกเอินเพลินฤดี ฟังดนตรีเรไรกล่อมใบข้าว” ๐เอี้ยง “ฟังเสียงตุ๊กแกร้องดังก้องป่า เหนือท้องนาเสียงกู่...สะนูว่าว ลมกรากตาลฟ้าวเฟี้ยว...นกเกรียวกราว เมฆสีขาวตั้งเค้าหม่นโปรยฝนพรำ” ๐ทุย “ฟ้าคำรามดังลั่นสนั่นทุ่ง เอี้ยงสะดุ้งพลาดท่าหัวคะมำ ช่างเป็นภาพงามงดชวนจดจำ เรานึกขำตั้งแต่นั้นถึงวันนี้” ๐เอี้ยง “เราเองก็นึกขำ...เจ้าเพื่อนทุย ที่เดินดุ่ยเล็มหญ้าใกล้ป่าขี้ เหม็นขนาด เพื่อนยังเดิน...เพลินฤดี เราแอบหนีสหายตั้งหลายวัน” ๐ทุย “เฮ้ย !!! ไอ้นี่...ตะเบ็งพูดเก่งจัง เรื่องความหลังหลายอย่างก็สร้างสรรค์ เรื่องป่าขี้พูดไปทำไมกัน มันน่าขันตรงไหนวะ...ไอ้นี่” ๐เอี้ยง “อ้าว.....ก็นาย..ตะแบงเล่นแรงก่อน เราก็ย้อนเพื่อนให้เป็นไรพี่ หากเพื่อนจะคิดโกรธก็โทษที เราไม่มีเจตนาจะว่าแรง” ๐ทุย “โทรศัพท์เติมเงินเราใกล้หมด เราขอ-งดเจรจาถ้อยแถลง เราไม่โกรธเพื่อนหรอกที่หยอกแรง เราก็แกล้งให้เพื่อนโกรธ ขอโทษที” เอี้ยง “เออ....วันนี้...เอาไว้...แค่นี้ก่อน เพื่อนลาจรอยู่เมืองฟ้าคงสุขี ส่วนเราอยู่เมืองมนุษย์สบายดี, อเวจี...บ๊าย บาย....สหายรัก” ๐ตั๊กแตน(ผู้ดักฟัง) “เครื่องดักฟังเครื่องนี้ช่างมีค่า บอกราคาอย่างน้อยแปดร้อยล้าน ความจริงตั้งงบเกินประมาณการ สามสิบล้านเท่านั้นแหละ... ฟันธง! ฯ(ไม่ฮา) อริญชย์ ๑๕/๒/๒๕๕๕ ขอบคุณภาพประกอบจาก www.google.com (http://www.google.com) emo_60 emo_107 emo_60 |