หัวข้อ: ยังไม่มีบทกลอน เริ่มหัวข้อโดย: กามนิต ที่ 22 กันยายน 2011, 05:58:PM .....
หัวข้อ: Re: ยังไม่มีบทกลอน เริ่มหัวข้อโดย: ภู กวินท์ ที่ 22 กันยายน 2011, 08:44:PM (http://img.zuzaa.com/image.php?id=D21E_4E7B3A1B&jpg) หญิงชราคราวแม่ยืนแน่นิ่ง ตาอ้อยอิ่งเหม่อมองลำคลองหนาว เสียงร้องไห้นิดเดียวยังเกรียวกราว เกาะอยู่ราวว้างเว้น, ไม่เห็นดิน อากาศวิปริตแปรจิตป่วน เบื้องหน้าล้วนรันทดไปหมดสิ้น สายฝนไหลมาอาบเกินหาบกิน เท้าเปลื่อยดิ้นถดถอย, รอยน้ำตา หยาดรอยยิ้มที่ร้างกลางถนน หนักหน่วงจนหวั่นไหวบนใบหน้า เหมือนร่างไร้วิญญาณผ่านไปมา หญิงชรานิ่งงัน, สั่นสะท้าน เกินจะเขียนได้หมดเป็นบทท้อ ยังเฝ้ารอคนช่วยห้วยละหาน มันหม่นหมองร้องร่ำแต่ค่ำวาน จะยาวนานกาลเศร้า, ได้เท่าใด! ........................ emo_62 หัวข้อ: Re: ยังไม่มีบทกลอน เริ่มหัวข้อโดย: ไม่รู้ใจ ที่ 23 กันยายน 2011, 03:42:PM ส่งรอยยิ้มพิมพ์ใจให้ประจักษ์ มอบมิตรรักเคียงข้างมิห่างหาย ยามร้าวรอนอ่อนโรยโหยเดียวดาย ไม่เสื่อมคลายจุนเจือเอื้อไมตรี หากเหนื่อยหนักสักครู่หยุดดูก่อน ละงานกลอนผ่อนเบาเพลาวิถี หมดเรื่องร้ายถั่งโถมโหมชีวี จึงค่อยพลีวจีร่ำคำสุนทร ไม่รู้ใจ (http://www.qzub.com/bar_187.gif) (http://www.qzub.com) หัวข้อ: Re: ยังไม่มีบทกลอน เริ่มหัวข้อโดย: ดอกกระเจียว ที่ 23 กันยายน 2011, 06:27:PM (http://www.qzub.com/bar_119.gif) (http://www.qzub.com) จะครุ่นคิดอะไรให้มากเล่า ในเมื่อเราเป็นนักทำคำอักษร สื่อสารตรงจากความคิดโดยบทกลอน ฤารนร้อนดวงฤทัย...ว่าไม่มี ในบางวันที่ต้องห่างถามบ้างไหม มันมิใช่อะไรแต่ป่นปี้ ในความคิด...คิดไม่เห็นสักสิ่งดี เลยไม่มีคำใดให้อาวรณ์ แล้วถ้าเกิดแบ่งชั้นกันอีกล่ะ ยิ่งไม่ใช่ธุระมาหลอกหลอน ถึงเล่ห์ลวง-ปัญหาประสากลอน ให้เดือดร้อนเหมือนแมงเม่าเข้ากองไฟ ในความคิดคนบางครั้งตั้งทิถฐิ แต่ปัญหามิมีการแก้ไข จึงแต่ลอบ ลอบเลียนจากบางใคร แล้วคิดไปมันไม่รู้...ตูคิดเอา แต่ประสานักกลอนให้นอนซม แสนจะตรมดวงจิตเพราะหงอยเหงา จึงคร่ำครวญกันบ้างพอบรรเทา อย่าโกรธเคืองเถิดนะเจ้า...ผู้รับฟัง emo_54 emo_12 emo_26 emo_09 emo_18 (http://www.qzub.com/bar_119.gif) (http://www.qzub.com) หัวข้อ: Re: ยังไม่มีบทกลอน เริ่มหัวข้อโดย: กังวาน ที่ 24 กันยายน 2011, 12:26:AM ถ้าวันไหนไม่เขียนกลอนนอนไม่ฝัน เหมือนไร้วันเดือนปีไม่มีหวัง ตกอยู่ใต้ความมืดมิดอนิจจัง มรณังใกล้มาถ้าไม่มี ถ้าวันไหนไม่เขียนกลอนสอนคนอื่น ความสดชื่นกางปีกหลบหลีกหนี ความหดหู่ซึมเศร้าเข้าทันที ส่วนความดียังอยู่หมู่นักกลอน ถ้าวันไหนไม่เขียนกลอนอ้อนสาวสาว กลัวเธอหนาวตลอดต้องกอดหมอน ทั้งที่รู้เธอไม่รักมักตัดรอน ขอบังอรเพียงอ่านพอผ่านตา ถ้าวันไหนไม่เขียนกลอนอ้อนวอนเพื่อน อย่าแชเชือนเขียนหน่อยคอยอยู่หนา แค่ได้อ่านก็สุขทุกเวลา เพราะรู้ว่าคือชีวิตมิตรนักกลอน |