หัวข้อ: นิราศวันเดียว เริ่มหัวข้อโดย: กังวาน ที่ 13 กันยายน 2011, 10:39:PM นิราศร้างห่างเธอเพ้อคิดถึง ด้วยตัวไกลใจเล่าเฝ้าคำนึง ในรักซึ้งคำมั่นคำสัญญา พี่จำจากเจ้าจรตอนตีสี่ ใช่หลีกหนีพี่ก็ตรมขมอุรา ด้วยว่าเขากำหนดกฎออกมา จนปัญญาหลีกเลี่ยงบ่ายเบี่ยงทัน พอรถเคลื่อนเดือนคล้อยฝนปรอยสาย น้ำตาชายร่วงหล่นบนตัวฉัน อนิจจาไม่อยากพรากต้องจากกัน เพ้อรำพันรำพืงคิดถึงเธอ ถึงรังสิตจิตเศร้าเหงาเหลือแสน เคยควงแขนกินก๋วยเตี๋ยวเที่ยวเสมอ เล็กน้ำใสใหญ่น้ำตกยกมาเออ วันนี้เหม่อนั่งมองคลองคนเดียว ถึงบ้านนาหน้านี้มีน้ำเหนือ ท่วมไม่เหลือไร่นาน่าหวาดเสียว เหมือนตัวพี่รักท่วมน่วมจริงเชียว จะแลเหลียวหาใครไม่มามอง ถึงนครนายกอกหวั่นไหว ผู้ชายไทยเดี๋ยวนี้เป็นที่สอง นายกหญิงคุณยิ่งลักษณ์เขาจับจอง พี่รักน้องกว่านายกอย่าตกใจ พอสำเร็จเสร็จสรรพรีบกลับบ้าน ซื้ออ้อยตาลน้อยหน่าปลาตัวใหญ่ ต่อไปนี้ไม่ขอพรากจากน้องไกล เธอรู้ไหมจากหนึ่งวันเหมือนพันปี หัวข้อ: ....นิราศฯสามบท.... เริ่มหัวข้อโดย: ไม้หน้าสาม ที่ 14 กันยายน 2011, 12:00:AM นิราศสามบท นิราศฯร้างรักลาในหน้าหนาว เมื่อรักหวานปานจืดไม่ยืดยาว ต้องถึงคราวจากกันในวันไกล ที่จำจากเจ้ามาในครานี้ ร้าวฤดีหนักหนาอุราไหว แต่ต้องตัดใจช้ำเพราะจำไป สุดอาลัยในรักนึกพักตร์นาง ขอสัญญาด้วยชีพจะรีบกลับ มาปลอบรับขวัญน้องที่ต้องหมาง จะคลึงเคล้าเจ้านั้นทั่วสรรพางค์ ไม่คิดห่างอีกแล้วแก้วใจเอย. หัวข้อ: Re: นิราศวันเดียว เริ่มหัวข้อโดย: สะเลเต ที่ 14 กันยายน 2011, 02:45:PM นิราศร้างห่างเธอเพ้อคิดถึง ด้วยตัวไกลใจเล่าเฝ้าคำนึง ในรักซึ้งคำมั่นคำสัญญา พี่จำจากเจ้าจรตอนตีสี่ ใช่หลีกหนีพี่ก็ตรมขมอุรา ด้วยว่าเขากำหนดกฎออกมา จนปัญญาหลีกเลี่ยงบ่ายเบี่ยงทัน พอรถเคลื่อนเดือนคล้อยฝนปรอยสาย น้ำตาชายร่วงหล่นบนตัวฉัน อนิจจาไม่อยากพรากต้องจากกัน เพ้อรำพันรำพืงคิดถึงเธอ ถึงรังสิตจิตเศร้าเหงาเหลือแสน เคยควงแขนกินก๋วยเตี๋ยวเที่ยวเสมอ เล็กน้ำใสใหญ่น้ำตกยกมาเออ วันนี้เหม่อนั่งมองคลองคนเดียว ถึงบ้านนาหน้านี้มีน้ำเหนือ ท่วมไม่เหลือไร่นาน่าหวาดเสียว เหมือนตัวพี่รักท่วมน่วมจริงเชียว จะแลเหลียวหาใครไม่มามอง ถึงนครนายกอกหวั่นไหว ผู้ชายไทยเดี๋ยวนี้เป็นที่สอง นายกหญิงคุณยิ่งลักษณ์เขาจับจอง พี่รักน้องกว่านายกอย่าตกใจ พอสำเร็จเสร็จสรรพรีบกลับบ้าน ซื้ออ้อยตาลน้อยหน่าปลาตัวใหญ่ ต่อไปนี้ไม่ขอพรากจากน้องไกล เธอรู้ไหมจากหนึ่งวันเหมือนพันปี นาฬิกาบ้านฉันนั้นเดินช้า(คิดในใจ) เร่งเวลาให้ถึงซึ่งตีสี่ พี่จะได้จากไกลไปเสียที วิ่งหน่อยซี...นาฬิกาเดินช้าจัง เมื่อตีสี่มาถึงจึงแกล้งหลับ หากเห็นตื่นขี้เกียดรับกับคำสั่ง ชอบใช้งานยาวเหยียดขี้เกียดฟัง อยากนอนนั่งอย่างสบายยามไกลกัน พอรถเคลื่อนเลื่อนไปไกลห่างบ้าน แสนชื่นบานหัวใจคล้ายขึ้นสวรรค์ เปิดลิ้นชักให้ตังค์ตั้งหลายพัน ช๊อบให้มัน....กระจายสบายจริง ฉุนเหมือนกันทำไม่ไปวันเดียว อยากจะเที่ยวให้รอบเดินช๊อบปิ้ง พี่ไม่อยู่หมดห่วงคนท้วงติง ฉุนเฉียวยิ่ง...วันเดียวเที่ยวไม่เพลิน emo_86 ---สะเลเต--- (http://www.qzub.com/bar_076.gif) (http://www.qzub.com) หัวข้อ: Re: นิราศวันเดียว เริ่มหัวข้อโดย: สล่าผิน ที่ 14 กันยายน 2011, 07:31:PM นิราศหมอง ต้องไป ในถิ่นเก่า ถิ่นที่เคย เคียงครอง รักสองเรา กลับต้องเศร้า เหลือแต่ซาก ยากจะเลือน อดีตเคย มีเธอ ปรนเปรอรัก สุขยิ่งนัก เธอถูกใจ ใครไม่เหมือน มาบัดนี้ เศร้าแท้ เธอแชเชือน พาแก้มเปื้อน น้ำตา คราย้อนรอย ใต้ต้นไทร ให้ร่ม ภิรมย์รัก สองเรามัก อ้อนออด พรอดรักบ่อย มาครานี้ มีแต่ฉัน นั้นเฝ้าคอย นั่งเหงาหงอย ดูรอยรัก ที่หักพัง มองท้ายไร่ ใจหาย คล้ายจะเห็น มองเหมือนเป็น เช่นเงา เราหนหลัง ร่วมทำสวน ชวนสร้างใฝ่ ให้จีรัง ได้แต่นั่ง มองอดีต ที่กรีดทรวง เดินเลาะธาร น้ำไหล ยังใสอยู่ แต่ขาดคู่ ภิรมย์ ชมแดนสรวง อดีตนั้น มีเธออยู่ เป็นคู่ควง เวลาล่วง เธอลับ ไม่กลับคืน คงเหมือนดั่ง น้ำไหล ไม่หวนกลับ เธอลาลับ ใจจิต มิคิดฝืน ณ.วันนี้ มิเหมือน เมื่อวานซืน เธอเป็นอื่น ไม่ย้อน ตอนเป็นเรา สล่าผิน ลป.(ลืมไป) ลองนิราศด้วยคนครับ |