หัวข้อ: กุสะลา ธัมมา เริ่มหัวข้อโดย: สล่าผิน ที่ 12 กันยายน 2011, 03:24:PM กุสะลา ธัมมา พระว่ากล่าว เทศน์เรื่องราว ร้างลาครางานศพ พระท่านสวดสื่อสารเคยพานพบ สวดหลายจบให้ใครเพื่อได้ฟัง สวดให้กับผู้ตายวายชีวิต หรือพระคิดสวดไปให้ใครมั่ง ญาติสหายหลายนักมักเสียงดัง บ้างก็นั่งจับกลุ่มรุมคุยกัน บ้างก็มีมารยาทอาจทนฝืน บ้างก็ยืนบ้างนั่งฟังแม่นมั่น พระก็สวดสื่อไปใจแบ่งปัน ทางสวรรค์ให้ฟังอย่างตั้งใจ บ้างฟังแล้วก็เฉยเลยไม่คิด ควรเอาจิตพิศตรองถ่องให้ได้ สวดวันนี้มีร่างต้องห่างไกล คราวต่อไปให้คิดไม่ผิด"เรา" ร่างที่อยู่ตู้โลงไม่โปร่งใส ก่อนจากไปได้เห็นเป็นตัวเขา ยมฑูตยื้อยุดมาฉุดเอา จำต้องเผารูปกายมลายตาม ตอนพระสวดตรวจคิดพินิจหมาย เราก็ตายแน่แน่แม้อยากห้าม ฟังพระเทศน์สังเกตไว้ให้ได้ความ พยายามจำไว้ใส่ใจตน...... เผาหนนี้เป็นเขา เราหนหน้า เหลือเวลาให้ตรึกคอยฝึกฝน หาพระธรรมนำไปใส่กมล เพื่อสู่หนทางไกลไม่กลับมา แต่งกลอนเตือนเพื่อนเราที่เข้าอ่าน เพื่อเป็นการเตรียมตัวไม่มัวท่า หมั่นทำทานรักศีล"ภาวนา" เพื่อวิญญาณ์ล่วงลับไม่อับจน สล่าผิน หัวข้อ: Re: กุสะลา ธัมมา เริ่มหัวข้อโดย: ♥หทัยกาญจน์♥ ที่ 12 กันยายน 2011, 03:40:PM (http://www.ohzeed.com/bar_161.gif) (http://www.ohzeed.com) อะกุสะ ลาธัมมา คำพระเทศน์ ให้สังเวช บุญบาป สาบเป็นผี ให้สำนึก ตรึกชั่ว ตรองความดี รู้ถูกผิด วิถี ที่ควรทำ ด้วยสำนึก กุศล อกุศล ปถุชน ตนใด ใช่สูงต่ำ ฟังพระสวด ตรวจจิต พินิจกรรม ให้รู้ซึ้ง รสพระธรรม นำส่องใจ หทัยกาญจน์ (http://www.ohzeed.com/bar_161.gif) (http://www.ohzeed.com) หัวข้อ: Re: กุสะลา ธัมมา : สี่หาม สามแห่ : เริ่มหัวข้อโดย: เมฆา... ที่ 12 กันยายน 2011, 06:00:PM (http://image.free.in.th/z/it/oae34.jpg) (http://image.free.in.th/show.php?id=421ee10cce13d40d0350ce0dda220d8b) (http://www.ohzeed.com/bar_122.gif) (http://www.ohzeed.com) ๐ สี่หาม สามแห่ ๐ ๐ สี่คนหามหาบสิ้น อินทรีย์ สามคนแห่แตรผี ที่ม้วย คนหนึ่งนั่งแคร่ตี แตกดับ กลับนา สองท่านดั้นด้นด้วย ดับฟ้าพาไป ๐ สี่คนคือสี่ล้อม ห้อมกาย ดินลมน้ำไฟหมาย ใช่นั้น รวมสร้างร่างหญิงชาย หลายแหล่ เป็นสิ่งจริงดั่งชั้น นั่นแล้วแนวคน ๐ สามคนวนแห่ซ้อง ร้องรำ คล้ายสื่อกระพือนำ กรรมซ้อน เจ็บแลแก่ตายจำ ค้ำคู่ อยู่เอย ดุจพร่ำระบำฟ้อน ก่อนร้อยวัฎฎ์เรียง ๐ คนหนึ่งนั่งพื้นแคร่ แน่นอน หมายที่ธาตุสี่รอน ห่อนแล้ว แตกดับกับกองฟอน ไฟผลาญ ร่านเฮย เหลือหนึ่งคือจิตแผ้ว ผ่านได้ไปภูมิ ๐ สองคนด้นแบ่งข้าง ทางไป คือแยกจำแนกใจ ใคร่สร้าง กุศลส่งผลใน แนบส่ง สวรรค์พ่อ อะกุศลดลค้าง ย่างเย้ยนรกรวมฯ O๐..สี่คนหาม สามคนแห่ หนึ่งคนนั่งแคร่ สองคนพาไป..๐O (http://www.ohzeed.com/bar_121.gif) (http://www.ohzeed.com) (http://www.ohzeed.com/bar_122.gif) (http://www.ohzeed.com) หัวข้อ: Re: กุสะลา ธัมมา เริ่มหัวข้อโดย: ...สียะตรา.. ที่ 12 กันยายน 2011, 06:22:PM ......แล้ววันนี้ฉันก็จากไป ...เป็นละไอล่องรวมกับหมอกขาว ...คล้อยเคลื่อนตามเพรียกกู่ของหมู่ดาว ...อิงแสงอุ่นพราวบนโพยม ......ทิ้งความอ่อนล้า..สาหัส ...อันร้อยรัดเรื่อยมาอย่างถาโถม ... ทอดร่างฟังดุรีย์ปี่ประโคม ...ได้ปรุงโฉมด้วยมาลัย...ดอกไม้จันทน์ ......เบาบางบนทางช้างเผือก ...ทิ้งเปลือก...มายา..น่าขบขัน ...สิ้นเสียงเริงร่า..และ...จาบัลย์ ...เงียบงันสงบใจ...ไร้..ตัวตน ......ตั้งใจให้เป็นบทแรก..ในหนังสือที่จะ..ให้..ในงานศพ..ตัวเอง.... หัวข้อ: Re: กุสะลา ธัมมา เริ่มหัวข้อโดย: สะเลเต ที่ 12 กันยายน 2011, 08:17:PM สักวันหนึ่งคงถึงซึ่งวันนั้น วันที่ฉันจากไปด้วยใจสงบ สิ้นเจ็บปวดร้าวรานที่พานพบ ชีวิตจบหลับสนิทนิจนิรันดร์ เพราะไม่รู้พรุ่งนี้จะมีไหม จะทนพิษเจ็บไข้ถึงไหนนั่น ทั้งชีวิตกินแต่ยาสารพัน ชาติก่อนนั้นฉันทำกรรมอะไร เคยนั่งฟัง...กุสะลาธัมมานั้น คงสักวันนอนฟัง..ยังโลงใหญ่ กินข้าวต้มงานอื่นชื่นชอบใจ ถึงงานเราเมื่อไหร่มิได้กิน ---สะเลเต-- (http://www.ohzeed.com/bar_076.gif) (http://www.ohzeed.com) หัวข้อ: Re: กุสะลา ธัมมา เริ่มหัวข้อโดย: --ณัชชา-- ที่ 12 กันยายน 2011, 08:28:PM นอน..อม..ตังค์.ฟังเพลงบรรเลงแว่ว จบไปแล้วนิยามความสูญสิ้น จากเกิดแก่วางกายลงใต้ดิน ไม่ยลยินสิ่งใดในโลกา ก็เท่านี้ชีวิตลิขิตไว้ ไม่ว่าใครก็ตายจบไปภพหน้า หมดสิ้นแล้วหมดหวังสังขารา เมื่อเกิดมาต้องพร้อมดับหลับนิรันดร์ natcha emo_107 หัวข้อ: Re: กุสะลา ธัมมา เริ่มหัวข้อโดย: ช่วงนี้ไม่ว่าง ที่ 12 กันยายน 2011, 08:33:PM นอ นอมตัง มันแปลว่าอะไร งงง emo_40 หัวข้อ: Re: กุสะลา ธัมมา เริ่มหัวข้อโดย: yaguza ที่ 12 กันยายน 2011, 08:42:PM มีคนคอย ล้างหน้า ปูผ้าให้ แล้วบอกไป ที่ชอบ เฝ้าปลอบขวัญ ตอนยังอยู่ เจ็บไข้ ใช้ตะบัน หรือว่าฉัน โชคดี ที่รีบตาย หัวข้อ: Re: กุสะลา ธัมมา เริ่มหัวข้อโดย: นพตุลาทิตย์ ที่ 12 กันยายน 2011, 10:57:PM สัตตอภิธรรมนำกุศล ธรรมใดดลชอบด้วยช่วยเกื้อหนุน ปัญจขันธ์พลันดับลับเป็นจุน เหลือเพียงบุญสงเคราะห์เกาะวิญญาณ์ ผู้มีธรรมผู้รู้ผู้เข้าถึง ผู้ที่พึ่งใบบุญหนุนรักษา ผู้มีธรรมที่ควรแก่เจตนา พระกถาว่าไว้ให้สืบความ เพียงตายจากภพนี้ที่มาเกิด ใช่ประเสริฐอยู่ยังพังภพสาม ให้สังวรณ์ระวังหวังคิดตาม ในนิยามกุศลบนธรรมา emo_126 หัวข้อ: Re: กุสะลา ธัมมา เริ่มหัวข้อโดย: คันไถ ที่ 12 กันยายน 2011, 11:34:PM (http://www.ohzeed.com/bar_172.gif) (http://www.ohzeed.com) ขอเอื้อนเอ่ย เผยเงื้อน " กุสะลา" ด้วยศรัทธา รวมใว้ แห่ง "กุศล" " กุสะลา ธัมมา" มุ่งหมายมงคล คิดแยบยล ย่อมได้ อุบายธรรม " กุสะลา" ตัวท่านนั้นฉลาด รู้สามารถ หลุดพ้น บวงแห่งกรรม " กุสะลา" เรียกตรงนาม ด้วยถอยคำ "กุสะลา ธัมมา" ล้ำ เปรียบปาน " กุสะลา" หมายสอนคนที่อยู่ ให้ได้รู้ กุศล บนสังขาร " กุสะลา" ยังใช้ได้ทุกกาล นับเนิ่นนาน ด้วยกุศล "กุสะลา" (http://www.ohzeed.com/bar_171.gif) (http://www.ohzeed.com) ขอแนะนำลิงค์ธรรมะแด่ท่านที่สนใจ ขอบคุณครับ http://portal.in.th/i-dhamma/pages/10974/ (http://portal.in.th/i-dhamma/pages/10974/) http://www.oknation.net/blog/print.php?id=438585 (http://www.oknation.net/blog/print.php?id=438585) (http://i1224.photobucket.com/albums/ee364/be11sw/NB112.gif) คันไถ หัวข้อ: Re: กุสะลา ธัมมา เริ่มหัวข้อโดย: สล่าผิน ที่ 13 กันยายน 2011, 11:11:AM กุสะลา ธัมมา ยกมากล่าว ถึงเรื่องราว สุขทุกข์ ที่ซุกบ่ม เป็นเรื่องจริง หญิงชาย หวังคลายปม ที่ห่อห่ม จิตใจ ให้คลายทุกข์ กุสะลา ธัมมา พาให้คิด นำพาจิต สงบ แล้วพบสุข อันกิเลส เหตุก่อ รอเข้ารุก ให้คนคลุก อยู่ไป ไร้ทิศทาง กุสะลา ธัมมา อย่ายึดติด อ่านแล้วคิด ต่อไป ใจคิดสร้าง ทุกข์ทั้งหลาย ชายหญิง ควรทิ้งวาง ควรเดินอย่าง ระวัง ควรชั่งใจ เกิดหนเดียว เกี่ยวเอา ทุกข์เศร้าหรือ เกิดหนเดียว ควรถือ ความซื่อใส เกิดหนเดียว เกี่ยวสุข ทิ้งทุกข์ไป เกิดหนเดียว ควรได้ ศึกษาธรรม สล่าผิน หัวข้อ: Re: กุสะลา ธัมมา เริ่มหัวข้อโดย: ...สียะตรา.. ที่ 13 กันยายน 2011, 05:53:PM เราจึงหันไปถามสียะตรา กุสะลา ธัมมา เข้าใจไหม พระท่านสวดธัมมา กันทำไม ให้คนอยู่หรือคนไปได้รับฟัง ........ คุณควายเฒ่า ..................... ...... emo_02ถ้าท่านถามตอนนั้น..ก็คงตอบว่า... ...... emo_06ไม่เข้าใจ...เพราะ..ตายแล้ว ...แม้เสียงแว่วคงบอดสนิท..ปิดรู้เห็น ...เหลือแค่เพียงบุญกรรม...เคยบำเพ็ญ ...ที่จะเข็น...วิญญาณข้าม.....สัมปรายภูมิ ......อารมณ์ขันงามแฉล้มค่ะคุณควายเฒ่า...นับถือ..นับถือ emo_126 หัวข้อ: Re: กุสะลา ธัมมา เริ่มหัวข้อโดย: รพีกาญจน์ ที่ 13 กันยายน 2011, 06:30:PM หันหน้าถาม รพีฯ สักทีไหม คิดอย่างไร อวดเบ่ง เร่งวอลลุ่ม กลางศาลา หน้าฝน คนยุงชุม เสียงแหลมทุ้ม ใจเร้น เต้นโทงโทง emo_06 ...คุณสียะตรา... ถ้าท่านถามตอนนั้น...ก็คงตอบว่า... วิญญาณผาย กายร่าง วางสงบ เสียงสวดศพ หนวกหู กรูซิบโฮ่ง พระฮึมฮำ ธัมมา ก่อนลาโลง ตู้ลำโพง สิบใบ ให้ผีฟัง emo_27 อารมณ์ขันงามแช่มช้อยครับ คุณสียะตรา..นับถือ..นับถือ emo_126 หัวข้อ: Re: กุสะลา ธัมมา : อะพะยา กะตา ตามมา! เริ่มหัวข้อโดย: เมฆา... ที่ 13 กันยายน 2011, 07:42:PM ๐ กุสะลา ธัมมา โต๊ดห้าเอี่ยว
เผลอนิดเดียว โดนยัก ชักถอยหลัง ลุงควายเฒ่า เหมาเต็ง เล็งหกจัง ออกเอี่ยวทั้ง สามตัว...หัวคะมำ ๐ เสียงพระดัง กังวาน ประมาณไหน อะพะยา เป็นไง ก็ไม่ขำ หมดกระเป๋า ทุกที นี้ประจำ รู้อย่างงี้ แทงต่ำ ให้หนำไป ๐ คันไถท้าว เจ้ามือ หรือก็ชวด นั่งหน้านิ่ว คิ้วขมวด เขย่าใหม่ ท่านเดวา เบียร์หมด เกินอดใจ แทงต่ำให้ ลุงยัก อีกสักครา ๐ ครูระพี ฟังสวดจนปวดเศียร เริ่มวนเวียน วกวง ลงสี่ห้า บอกหมอณัช ฝากแทง เอ่ยแสร้งมา พี่สล่ายักลง ตรงผ่ากลาง ๐ ทำท่าทาง สองจิต วิศวะ เหมือนว่าจะ กักสามเผื่อตามหาง ยากูซ่า รินถ้วยด้วยบางบาง ฟังเสียงพลาง ครางสวด หูรวดเชียว ๐ ครั้นจะเกิด เปิดถ้วย ดูหวยออก เสียงตะคอก แสนดัง ภวังค์เสียว แทงให้ด้วย! สักตา อย่าว่าเชียว เพราะในโลง..มันเปลี่ยว...ขอเอี่ยวที.... ๐ กรุล่ะลา แล้วหนา เจ้าข้าเอ๊ย! เชิญเสบย เลยก๊าบ เจ้าภาพผี ช้าอยู่ไย ใดเล่า เท่าที่มี โกยเต็มที่ เถอะท่าน ย่าน..ตามมา!.... emo_101 หัวข้อ: Re: กุสะลา ธัมมา เริ่มหัวข้อโดย: สล่าผิน ที่ 14 กันยายน 2011, 10:50:AM กุสะลา พาไฮโล มาโชว์บอร์ด เสียตลอด เมฆา สล่าผิน ท่านควายเฒ่า เอามั่ง นั่งจับริน แต่ก็สิ้น เงินไป เพราะไฮโล สะเลเต เบ้หน้า หาว่าแย่ ยากูซ่า ยอมแพ้ แต่ไก่โห่ หมดกระเป๋า เหงาใจ ร้องไห้โฮ รพีกาญจน์ นั่งโม้ ว่าได้เงิน น้องณัชชา หน้าเสีย เพราะเบียร์หมด เพราะรีบซด ที่แค้น แฟนห่างเหิน วิศวกรรม ทำท่า ว่าเพลิดเพลิน แท้ต้องเดิน ใจสลด รถจำนำ ส่วนคันไถ ใจดี ที่เงินเยอะ สั่งเหล้าเถอะ สั่งไป เพราะใจปล้ำ เป็นเจ้ามือ ถือเงิน เพลินใจล้ำ คนแสนช้ำ music กิ๊กนอกใจ พระนั่งสวด ไม่ฟัง นั่งเต๊ะท่า กุสะลา พากัน นั่งปั่นไพ่ หทัยกาญจน์ นั้นหรือถือ สามใบ แถมบอกใบ้ ได้ตอง ของฉันเฮง ระนาดเอก เข้ามา ในคราหลัง เพราะระวัง พระเห็น เขาคนเก่ง เพราะยึดถือ ซื่อใส ไม่นักเลง แต่แอบแทง ตาเตง เล็งได้เงิน สล่าผิน ขออภัยที่ได้พาดพิงถึงทุกคน เอาสนุกสนานครับ หัวข้อ: Re: กุสะลา ธัมมา เริ่มหัวข้อโดย: กังวาน ที่ 14 กันยายน 2011, 01:06:PM สักวันหนึ่งคงถึงซึ่งวันนั้น วันที่ฉันจากไปด้วยใจสงบ สิ้นเจ็บปวดร้าวรานที่พานพบ ชีวิตจบหลับสนิทนิจนิรันดร์ เพราะไม่รู้พรุ่งนี้จะมีไหม จะทนพิษเจ็บไข้ถึงไหนนั่น ทั้งชีวิตกินแต่ยาสารพัน ชาติก่อนนั้นฉันทำกรรมอะไร เคยนั่งฟัง...กุสะลาธัมมานั้น คงสักวันนอนฟัง..ยังโลงใหญ่ กินข้าวต้มงานอื่นชื่นชอบใจ ถึงงานเราเมื่อไหร่มิได้กิน ---สะเลเต-- ([url]http://www.ohzeed.com/bar_076.gif[/url]) ([url]http://www.ohzeed.com[/url]) เมื่อวันนั้นมาถึงเธอพึงรู้ ฉันรออยู่ท่ีนั่นอย่างสงบ โลกใหม่นี้มีไว้ให้ค้นพบ ว่าจะรบฆ่าฟันกันทำไม พรุ่งนี้มีไม่มีนี่ไม่แปลก เธออย่าแบกทุกข์ตามเลิกถามไถ่ เมื่อเจ็บป่วยคือชีวิตและจิตใจ ก็จงใช้ชดกรรมทำให้ดี กุสะลาธัมมาน่าฟังยิ่ง คือความจริงคนต้องตายกลายเป็นผี กินข้าวต้มขมขื่นใจไปทุกที คนโชคดีอยู่ในโลง...เขาโล่งใจ หัวข้อ: Re: กุสะลา ธัมมา เริ่มหัวข้อโดย: Music ที่ 16 กันยายน 2011, 03:14:PM emo_62 ส่วนคันไถ ใจดี ที่เงินเยอะ สั่งเหล้าเถอะ สั่งไป เพราะใจปล้ำ เป็นเจ้ามือ ถือเงิน เพลินใจล้ำ คนแสนช้ำ music กิ๊กนอกใจ ....(พี่สล่าผิน).... emo_94 เพิ่งอ่านเจอ"งานเข้า"ชื่อเราอีก กำลังปลีกตัวหลบ..โฉบจนได้ ช่วงนี้รอเปิดกระทู้ถ้า"สู้ตาย" จะวางวายขอบอก...ให้ออกตัว ด้วยว่าน้อง"ดวงแรง"ระแวงพี่ จะป่นปี้อายุหลุดถูกกุดหัว ใครลดเลี้ยวเกี่ยวข้องเป็นต้องกลัว อย่าพันพัวเลยพี่...มีอันเป็น ...(แบบว่ารอลงกลอน"มีอันเป็นไป"อยู่คับ)... เรื่องไฮโล-โป-ไพร่-น้องไม่คล่อง เรื่องนวดน่องพอได้ให้คลายเส้น เดี๋ยวณัชชา...มาก่อนช่วงตอนเย็น ทุกเส้นเอ็นที่จะหด...จนหมดแรง emo_100 emo_87 หัวข้อ: Re: กุสะลา ธัมมา เริ่มหัวข้อโดย: --ณัชชา-- ที่ 16 กันยายน 2011, 03:20:PM กุสะลา ธัมมา หลวงตามาก emo_94มุบมิบปากเรื่อยไปไม่เปล่งเสียง เอาตาลปัตรบังนั่งคอเอียง บวชได้เพียงกึ่งเดือนยังเลือนเลอะ แค่ ยะถา/สัพพี ยังมีมั่ว นี่ให้รัวมาติกา ยิ่งพาเปรอะ ดูสิให้มานั่งโยมตั้งเยอะ ยิ่งคิดก็ยิ่งเคอะ..ยิ่งอายโยม ค่อยค่อยแอบมองแนวแถวโยมญาติ สกุลชาติล้วนแต่แจ่มแฉล้มโฉม แต่เจ้าภาพแถวหน้าดูท่าโทรม นั่งหัวโน้มเอนลงส่งเสียงกรน นั่นคุณนายคุณหญิงพริ้งสง่า เพลินนินทาเสียงดังฟังสัีบสน ต่างล้วนทำไปตามจริตตน ไม่มีคนสนใจในกุสลา จบพร่ำคำคาถาโล่งสมอง เอื้อมรับซองเสร็จสรรพขยับขา หลวงตามากพ้นจากศาลามา ก็บ่ายหน้ามุ่งสู่กุฎีตน เดินผ่านทางข้างเมรุเหม็นเน่าเน่า ตายแล้วเขาเล่าใครจะไปสน จับร่างใส่ไฟฟอนไม่ร้อนรน หนีไม่พ้นอนิจจังสังขารา ลงกลอนประตูกุฏิเร่งรุดก้ม เสียบปลั๊กต้มน้ำร้อนก่อนล่ะหนา เป็นธรรมเนียมปฏิบัติวัตรหลวงตา ซดมาม่าร้อนร้อนก่อนจำวัด..... ลูกศิษย์มองหลวงตาพาหดหู่ หรือไม่รู้เรื่องว่ามันอาบัด แอบฉันข้าวตอนเย็นเราเห็นชัด ประเดี๋ยวปั๊ด...จับศึกนึกในใจ ท่านฉันหมดแล้วไยไม่ยะถา พอหลวงตาอิ่มนำทำเฉไฉ เป็นลูกศิษย์จำต้องท่องออกไป สัพพีให้อย่างแม่นแทนหลวงตา emo_86 natcha หัวข้อ: Re: กุสะลา ธัมมา เริ่มหัวข้อโดย: สะเลเต ที่ 16 กันยายน 2011, 03:53:PM กุสะลา ธัมมา หลวงตามาก มุบมิบปากเรื่อยไปไม่เปล่งเสียง เอาตาลปัตรบังนั่งคอเอียง บวชได้เพียงกึ่งเดือนยังเลือนเลอะ แค่ ยะถา/สัพพี ยังมีมั่ว นี่ให้รัวมาติกา ยิ่งพาเปรอะ ดูสิให้มานั่งโยมตั้งเยอะ ยิ่งคิดก็ยิ่งเคอะ..ยิ่งอายโยม ค่อยค่อยแอบมองแนวแถวโยมญาติ สกุลชาติล้วนแต่แจ่มแฉล้มโฉม แต่เจ้าภาพแถวหน้าดูท่าโทรม นั่งหัวโน้มเอนลงส่งเสียงกรน นั่นคุณนายคุณหญิงพริ้งสง่า เพลินนินทาเสียงดังฟังสัีบสน ต่างล้วนทำไปตามจริตตน ไม่มีคนสนใจในกุสลา จบพร่ำคำคาถาโล่งสมอง เอื้อมรับซองเสร็จสรรพขยับขา หลวงตามากพ้นจากศาลามา ก็บ่ายหน้ามุ่งสู่กุฎีตน เดินผ่านทางข้างเมรุเหม็นเน่าเน่า ตายแล้วเขาเล่าใครจะไปสน จับร่างใส่ไฟฟอนไม่ร้อนรน หนีไม่พ้นอนิจจังสังขารา ลงกลอนประตูกุฏิเร่งรุดก้ม เสียบปลั๊กต้มน้ำร้อนก่อนล่ะหนา เป็นธรรมเนียมปฏิบัติวัตรหลวงตา ซดมาม่าร้อนร้อนก่อนจำวัด..... อยู่ในโลงเล่นบีบีที่ญาติให้ กลิ่นมาม่าหรือไวไว...ให้หิวจัด แสนยั่วยวนน้ำลายใจชมัด นอนอึดอัดในโลง...โก่งตัวนอน แง้มฝาโลงมองซ้ายขวาเพื่อหากลิ่น อยากจะกินมาม่า...แต่หมามันหอน ที่ศาลาสวดนั้นเขาลั่นกลอน จำต้องถอนสลัก..แอบย่องเบา เดินอย่างงามสง่าท่านางแบบ จำต้องแอบหลบหมา..ถ้าเห็นเข้า เรื่องจะยาวยุ่งยากหากเห็นเรา เบื่อเสียงเห่าวุ่นวายไม่อยากฟัง ถึงกุฎิแอบดูจึงรู้ว่า ถ้วยมาม่านอนสบายอยู่ในถัง จึงแอบกลืนน้ำลายเสียดายจัง มาม่าตั้งหลายถ้วย...ซวยอดกิน.. emo_20 ---สะเลเต--- (http://www.qzub.com/bar_076.gif) (http://www.qzub.com) หัวข้อ: Re: กุสะลา ธัมมา เริ่มหัวข้อโดย: รพีกาญจน์ ที่ 16 กันยายน 2011, 04:56:PM แรกเริ่มฉัน วันมื้อ ถือคำสัจ ปฎิบัติ ครัดเคร่ง จนเก่งกล้า บำเพ็ญทาน สีละ ภาวนา เขาลือชา ตาขรัว ทั่วตำบล นามอุโฆษ โจษจัน ธรรมะวัตร ปริยัติ บรรลุ ทุติหน สมาธิ วิมุติ หลุดวังวน จตุพ้น เกิดแก่ แลเจ็บตาย กุสลา ธัมมา มหาผล รับนิมนต์ โปรดปัด สัตว์ทั้งหลาย ชี้แนวทาง สร้างทำนบ กลบอบาย ปราศจากกาย วาจาใจ ไร้ราคี จำพรรษา ห้าปี พอดีครบ เดือนหน้าจบ สัญญา หน้าโบสถ์ศรี ออมปัจจัย ไทยทาน มานานปี ปิดบัญชี ธนาคาร แต่งงานเธอ emo_89 รพีกาญจน์ 59 หัวข้อ: Re: กุสะลา ธัมมา เริ่มหัวข้อโดย: --ณัชชา-- ที่ 16 กันยายน 2011, 05:18:PM มหาเราถึงคราวละตะบะแตก กลับมาแหกพรรษาพาเราเก้อ พอนั่งฟังพี่เราเล่นเอาเบลอ เลยยืนเซ่อซะงั้นท่านระพี มีสาวอยู่ในใจใช่ไหมเล่า คงเป็นเราแน่แน่แท้แล้วนี่ เตรียมหาวันฤกษ์งามมียามดี รีบเสียผีเถอะหนอ..รอส่งตัว natcha emo_116 หัวข้อ: Re: กุสะลา ธัมมา เริ่มหัวข้อโดย: รพีกาญจน์ ที่ 16 กันยายน 2011, 07:23:PM บอกให้รู้ ปู่ย่า ผีตาทวด เหล้าไหขวด ปลาทู หมูกี่หัว ห่านเป็ดไก่ เดียวคู่ ปูกี่ตัว หรือใช้วัว ล่อลา ช้างม้าลาย ขนุนหวาน ตาลถ้วย กล้วยกี่หวี เพชรเม็ดดี เงินกอง ทองกี่สาย ข้าวแตนตัง หนังจี่ไหม้ แคบไขควาย เตรียมถวาย หมายหมั้น วันแต่งงาน emo_89 รพีกาญจน์ 59 หัวข้อ: Re: กุสะลา ธัมมา เริ่มหัวข้อโดย: สล่าผิน ที่ 16 กันยายน 2011, 08:20:PM หลวงรพีฯมีใจใคร่ละศิล ไม่อยากบิณฑบาตรวาดหวังว่า เก็บเงินทองของใช้ได้เงินตรา ขอณัชชาสาวใสไปแต่งงาน สล่าผินยินข่าวร้าวในอก หวั่นวิตกข่าวไวที่ไขขาน เป็นเด็กวัดตัวโข่งอยู่โยงนาน ต้องร้าวรานมาแพ้หลวงรพีฯ บิณฑบาตรทีไรเราไปด้วย มองคนสวยทีไรใจเต้นถี่ ยังนึกหวังบอกพ่อขอคนดี แต่วันนี้แพ้หลวงพ่อแสนท้อใจ สาวณัชชายิ้มให้ใจพระอิ่ม คิดอยากลิ้มจึงลาสิขาได้ ส่วนตัวเราเด็กวัดกัดฟันไป นั่งร้องไห้ก้นกุฎิริอยากตาย สล่าผิน หัวข้อ: Re: กุสะลา ธัมมา เริ่มหัวข้อโดย: สะเลเต ที่ 16 กันยายน 2011, 09:03:PM พี่สล่าพลาดหวังแกงยังอยู่ แอบมองดูทุกเช้าคือเป้าหมาย หุ่นของแกงหากมองเหมือนน้องควาย พูดและอายเหนียมมากอยากวิวาห์ มองกระจกยามใดหัวใจเต้น เพราะความสวยซ่อนเร้นต้องเค้นหา ปากก็บานยามยิ้มเกือบทิ่มตา ฟันด้านหน้าดั่งจอบเสียมเตรียมใช้งาน หูก็กางคางแหลมแถมตาตี่ ดั้งแกงนี้สูญหายหลายปีผ่าน ทุบกระจกแตกไปตั้งหลายบาน อยากลงคานอย่างสง่าแบบถาวร emo_85 ---สะเลเต--- (http://www.qzub.com/bar_076.gif) (http://www.qzub.com) หัวข้อ: Re: กุสะลา ธัมมา เริ่มหัวข้อโดย: ~ploy pim~ ที่ 16 กันยายน 2011, 09:16:PM ...ว่าอย่างไร หลวงพี่ รพีท่าน ...จะแต่งงาน เมื่อไหร่ ให้บอกด้วย ...น้องจะช่วย แต่งองค์ ทรงสำรวย ...ของชำร่วย เตรียมไว้ มาประเคน ...เอ๊ะ อย่างไร กันหนอ ขอบอกหน่อย ...เดี๋ยวงานกล่อย นะท่าน วันจันทร์เห็น ...เป็นวันเหมาะ เจาะจับ รับเดือนเพ็ญ ...ดวงดูเด่น เป็นวัน ฤกษ์ยามดี ~ploy pim~ (http://www.qzub.com/bar_191.gif) (http://www.qzub.com) ...ขออนุญาต... ท่านรพีกาญจน์ 59 นะคะ... หัวข้อ: Re: กุสะลา ธัมมา เริ่มหัวข้อโดย: รพีกาญจน์ ที่ 16 กันยายน 2011, 10:22:PM หลวงรพีฯมีใจใคร่ละศีล ไม่อยากบิณฑบาตรวาดหวังว่า เก็บเงินทองของใช้ได้เงินตรา ขอณัชชาสาวใสไปแต่งงาน......สล่าผิน เห็นท่าทีสีกาณัชชาแล้ว คงไม่แคล้ว วกลง สู่สงสาร หลวงตามากนึกในใจอีกไม่นาน ได้ฉันเพลที่บ้าน...งานวิวาห์......ควายเฒ่า ขอนิมนต์ การุญ พระคุณเจ้า สวดสะเด่า แผ่วพริ้ว พลิกชิวหา เอวขย่ม อมยิ้ม พรายพริ้มตา โชว์ลีลา ดูราเกรส เคสสงฆ์ไทย อกุสะลัม ธัมมา ต้องตราบาป ข้าฯขอกราบ สิกขา หน้าร่ำไห้ หลังโบสถ ปลดจีวร ซ่อนต้นไทร เอ่ยอำลา อาลัย ไกลจากจร กินข้าวสุก ทุกยาม ตามสล่า(ผิน) ต้องเร้นกาย บายจ้า ผ้าเหลืองร้อน คืนจับเต่า เช้ายำ ค่ำเข้านอน สไล้ด์ม่อน ดอยงาม อร่ามตา เกิดวันเสาร์ เข้าที กับสีเขียว เธอเฮี๊ยบเฮี้ยว ไม่ภิรมย์ สมสล่า ยอดนารี ดีทั่ว ต้องขรัวตา(รพีฯ) หยุดโศกา หาใหม่ เธอ(แกง)ใกล้กัน emo_85 รพีกาญจน์ 59 หัวข้อ: Re: กุสะลา ธัมมา เริ่มหัวข้อโดย: สล่าผิน ที่ 17 กันยายน 2011, 07:42:AM พี่สล่าพลาดหวังแกงยังอยู่ แอบมองดูทุกเช้าคือเป้าหมาย หุ่นของแกงหากมองเหมือนน้องควาย พูดและอายเหนียมมากอยากวิวาห์ มองกระจกยามใดหัวใจเต้น เพราะความสวยซ่อนเร้นต้องเค้นหา ปากก็บานยามยิ้มเกือบทิ่มตา ฟันด้านหน้าดั่งจอบเสียมเตรียมใช้งาน หูก็กางคางแหลมแถมตาตี่ ดั้งแกงนี้สูญหายหลายปีผ่าน ทุบกระจกแตกไปตั้งหลายบาน อยากลงคานอย่างสง่าแบบถาวร emo_85 ---สะเลเต--- ([url]http://www.qzub.com/bar_076.gif[/url]) ([url]http://www.qzub.com[/url]) เจ้าไม่งามอย่างไรพี่ไม่หวั่น หายโศกศัลย์เป็นพอขอไว้ก่อน แม้หูกางคางแหลมแถมขี้งอน ไม่เดือดร้อนขอเจ้าเข้าวิวาห์ แม้ปากบานปานด้งยังคงรัก เพราะแค้นนักรักเก่าเขาเหม็นหน้า หุ่นเหมือนควายหมายใจหวังได้มา เพื่อเยียวยาหัวใจให้หายตรม จะขอแต่งพร้อมกันกับคู่เขา แม้คู่เราไร้ความงามเหมาะสม ก็จะขอแต่งไปไม่ปรารมภ์ พี่จะข่มใจรับไม่กลับใจ สล่าผิน หัวข้อ: Re: กุสะลา ธัมมา เริ่มหัวข้อโดย: สล่าผิน ที่ 23 สิงหาคม 2012, 11:14:AM หลวงรพีฯมีใจใคร่ละศีล ไม่อยากบิณฑบาตรวาดหวังว่า เก็บเงินทองของใช้ได้เงินตรา ขอณัชชาสาวใสไปแต่งงาน......สล่าผิน เห็นท่าทีสีกาณัชชาแล้ว คงไม่แคล้ว วกลง สู่สงสาร หลวงตามากนึกในใจอีกไม่นาน ได้ฉันเพลที่บ้าน...งานวิวาห์......ควายเฒ่า ขอนิมนต์ การุญ พระคุณเจ้า สวดสะเด่า แผ่วพริ้ว พลิกชิวหา เอวขย่ม อมยิ้ม พรายพริ้มตา โชว์ลีลา ดูราเกรส เคสสงฆ์ไทย อกุสะลัม ธัมมา ต้องตราบาป ข้าฯขอกราบ สิกขา หน้าร่ำไห้ หลังโบสถ ปลดจีวร ซ่อนต้นไทร เอ่ยอำลา อาลัย ไกลจากจร กินข้าวสุก ทุกยาม ตามสล่า(ผิน) ต้องเร้นกาย บายจ้า ผ้าเหลืองร้อน คืนจับเต่า เช้ายำ ค่ำเข้านอน สไล้ด์ม่อน ดอยงาม อร่ามตา เกิดวันเสาร์ เข้าที กับสีเขียว เธอเฮี๊ยบเฮี้ยว ไม่ภิรมย์ สมสล่า ยอดนารี ดีทั่ว ต้องขรัวตา(รพีฯ) หยุดโศกา หาใหม่ เธอ(แกง)ใกล้กัน emo_85 รพีกาญจน์ 59 ทิดรพีฯศึกมาก็คว้าสาว หน้าอ่อนคราวลูกลูกผูกใจฝัน สาวณัชชาหน้าสวยรวยสัมพันธ์ สล่านั้นเด็กวัดจำตัดใจ หันมามองน้องแกงสาวแร้งทึ้ง แม้ไม่สวยเป็นหนึ่งจึงพอได้ เราคงสมพงษ์กันอยู่กันไป จำปล่อยให้ทิดอยู่คู่ณัชชา พี่จะเลิกเด็กวัดฝึกหัดสู้ เอาใจน้องครองคู่รู้เสาะหา จะชกมวยรับจ้างแม้ล้างปลา จะตั้งหน้าหาตังค์หวังสร้างตัว กุสะลา ธัมมาต้องลาวัด เพราะรพีฯมีนัดกับสาวทั่ว เราเด็กวัดจำใจไปเพราะกลัว ผิดตามขรัวรพีฯท่านชีกอ สล่าผิน ปล.ไปอ่านกลอนเก่าๆแล้วแอบหัวเราะคนเดียว เลยนำมาต่อขอรับ หัวข้อ: Re: กุสะลา ธัมมา เริ่มหัวข้อโดย: สะเลเต ที่ 23 สิงหาคม 2012, 02:11:PM หัวใจเต้นอย่างแรง"สาวแร้งทึ้ง".. emo_120 หูฉันผึ่ง...ทึ่งอึ้งเสียวเลี้ยวมาต่อ เขินนะเนี่ยชมกันฉันบ้ายอ...... emo_20 จึงรีบถ่อสังขาร...หลังอ่านกลอน ---สะเลเต--- หัวข้อ: Re: กุสะลา ธัมมา เริ่มหัวข้อโดย: อนุวาต ที่ 23 สิงหาคม 2012, 05:21:PM กุสลา ธรรมา พระเขาว่า คนเกิดมา ดีชั่ว มั่วกันหลาย ทั้งทําดี ทําชั่ว กันมากมาย ทัังหญิงชาย คนมี เเละคนจน เเต่ยังไง ที่ว่า กันมานั้น ล้วนตายกัน วอดวาย ตามเหตุผล พระชักผ้า สวดให้ กันทุกคน เเม้เเต่ตน คนสวด ยังต้องตาย อนิจจา วต ว่าไม่เที่ยง เราต้อง เดี้ยง ต้องเเก่ไม่สงสัย ยังต้องเกิด หลายชาติ อีกรํ่าไป กว่าจะได้ ค้นหา ทางนิพพาน เเต่อย่างว่า คนเรา มักชอบเล่น อยู่จนเป็น วังวน ในสังสาร นั่งเล่นไพ่ เป็นเพื่อน พญามาร คงอีกนาน กว่าจะ ไม่เกิดมา |