หัวข้อ: ~*~ พรากกันนิรันดร ~*~ เริ่มหัวข้อโดย: วลีลักษณา ที่ 06 กันยายน 2011, 06:44:PM ~*~ พรากกันนิรันดร ~*~ (http://i821.photobucket.com/albums/zz133/yamiejung32/day%20a1/g48.gif) ซากอดีตล่ามทรวงเป็นบ่วงบาศ อีกกี่ชาติที่จิตยังติดอยู่- กับตรวนบาปสาปทัณฑ์เข้าพันตู ให้ต้องสู้ฝ่าฝืนผ่านคลื่นกรรม กลางระลอกลมเห่ทะเลคลั่ง คล้ายจะพังนาวาถลาถลำ สุดฟากเวิ้งเวหนก็หม่นดำ ทั้งทรวงช้ำหมองเศร้าเพราะเงามัว ครอบคลุมชีพทั้งช่วงกลางห้วงทุกข์ ที่ยังรุกลามใจเจ็บไปทั่ว ระลอกความอาลัยก็ไหวรัว คอยย้อนยั่วเกินยั้งประดังทรวง อยู่กับความเงียบเหงาอย่างเศร้าสร้อย รอคืนคล้อยวันเคลื่อนเพื่อเลือนบ่วง รักที่คอยเกี่ยวรัดกระหวัดดวง- หทัยล่วงล้ำลงในวงตรวน ยิ่งเนิ่นนานยิ่งหนาวปวดร้าวอก เหมือนนรกแทรกจิตให้คิดหวน ถึงแต่รอยอดีตช้ำเฝ้าคร่ำครวญ จนทุกส่วนเนื้อใจนั้นใกล้ราน เก็บเศษรักซากร้างไว้กลางจิต คงลิขิตเคลื่อนวงรอบสงสาร สบรอยกรรมซ้ำซากวิบากราน เกินแรงบุญหนุนต้านให้ผ่านเลย สายลมเช้าโชยริ้วพัดพลิ้วผ่าน ปทุมาเบ่งบานละลาน,เผย ทั้งสีกลิ่นหอมหวนให้ชวนเชย ราวจะเย้ยผึ้งภู่ให้อยู่ดอม- หยาดน้ำหวานถ่ายเทจากเกสร ให้ซอกซอนลิ้มรสอันสดหอม มิรู้นานเพียงใดที่ไต่ตอม- แนบดอกดวงพวงพยอมอย่างยอมตัว ภุมรินบินร่อนภมรเคล้า จวบล่วงเข้าพลบค่ำฟ้าก่ำหลัว บัวหลุบเรียวกลีบบางกลางม่านมัว งามเพียงชั่วช่วงวันก็พลันวาย เฉกความรักสิ้นรสก็หมดค่า จักเอื้อมคว้ากลับคว้างค่อยจางหาย หวังยื้อยุดให้อยู่เคียงคู่กาย ก็มลายลงสิ้นหมดยินดี ฤๅนาวาชีวิตลิขิตแล้ว ว่าให้แคล้วคลาดกันสิ้นวันที่- จะได้สบรอบบุญหนุนชีวี จึงได้มีเหตุให้ต้องไกลกัน บัวหลุบกลีบก้านล้มลงจมน้ำ ผ่านคาบค่ำคืนเวียนก็เปลี่ยนผัน หมดไม่เหลือซากงามสิ้นตามวัน เฉกนิรันดร์ฝันร้าง..บนทางเลือน วลีลักษณา ๕ กันยายน ๒๕๕๔ (http://dl5.glitter-graphics.net/pub/448/448935sh25swr7ww.gif) |