หัวข้อ: ใจคนเขียนกลอน เริ่มหัวข้อโดย: ไม้หน้าสาม ที่ 22 สิงหาคม 2011, 09:59:PM ฉันเขียนกลอนผ่อนคลายเพื่อหายเหงา ขจัดเศร้าใจหม่นบนทางฝัน นั่งอ่านกลอนที่แต่งแล้วแบ่งปัน เป็นสีสันสร้างสุขให้ทุกข์คลาย อาจมีบ้างบางครั้งยังไม่เหมาะ ความไพเราะแลลดถึงหดหาย ใส่ถ้อยคำซ้ำซากเบื่อมากมาย ไม่เฉิดฉายฉ่ำชื่นระรื่นจินต์ คือคำพูดจากใจในบางครั้ง ย่อมมีพลั้งมีพลาดมีขาดวิ่น ด้อยสัมผัสจัดวางต่างเคยชิน ผู้ได้ยินผินหน้าระอาเมิน แต่ตนเองชอบใจว่าไพเราะ แม้ใครเยาะเย้ยฉันไม่สรรเสริญ ก็ช่างเขาเราไซร้ใช่ส่วนเกิน เราย่อมเดินตามทางที่วางมา เป็นนักกลอนอ้อนฝันในวันว่าง รักเสียอย่างมีใจเฝ้าใฝ่หา ก็เขียนไปในถวิลจินตนา ถึงใครบ่นว่าบ้าข้าไมฟัง กลอนประตูหน้าต่างข้าวางไว้ ตามแต่ในใจข้าจะว่าขลัง ก็ข้าแต่งตามใจใช่อยากดัง ถึงจะกลอนพังพังก็ยังลง emo_62 หัวข้อ: Re: ใจคนเขียนกลอน เริ่มหัวข้อโดย: สุวรรณ ที่ 22 สิงหาคม 2011, 11:25:PM ถึงจะกลอนพังพังก็ยังลง emo_100ประโยคนี้ชอบจังเลยค่ะ ความรู้สึกตอนนี้เป็นอย่างนี้เลย emo_47 ฝึกหัดกลอนอ่อนใจก็หลายครั้ง บางคราพลั้งพลาดคำก็หลายหน เปิดตำราหาแปรก็แย่จน- ใจพิกลล้นหลากยากอธิบาย บ้างบิดเบี้ยวเกลียวเกรอะเลอะสนิม บางครั้งเขียนนิ่มนิ่มยิ้มกับความหมาย แต่บางคราวก็วกวนจนตาลาย สมองคล้ายไร้จุดหมายในกลกลอน หัวข้อ: Re: ใจคนเขียนกลอน เริ่มหัวข้อโดย: ดาว อาชาไนย ที่ 23 สิงหาคม 2011, 11:32:AM ฉันเขียนกลอนผ่อนคลายเพื่อหายเหงา ขจัดเศร้าใจหม่นบนทางฝัน นั่งอ่านกลอนที่แต่งแล้วแบ่งปัน เป็นสีสันสร้างสุขให้ทุกข์คลาย อาจมีบ้างบางครั้งยังไม่เหมาะ ความไพเราะแลลดถึงหดหาย ใส่ถ้อยคำซ้ำซากเบื่อมากมาย ไม่เฉิดฉายฉ่ำชื่นระรื่นจินต์ คือคำพูดจากใจในบางครั้ง ย่อมมีพลั้งมีพลาดมีขาดวิ่น ด้อยสัมผัสจัดวางต่างเคยชิน ผู้ได้ยินผินหน้าระอาเมิน แต่ตนเองชอบใจว่าไพเราะ แม้ใครเยาะเย้ยฉันไม่สรรเสริญ ก็ช่างเขาเราไซร้ใช่ส่วนเกิน เราย่อมเดินตามทางที่วางมา เป็นนักกลอนอ้อนฝันในวันว่าง รักเสียอย่างมีใจเฝ้าใฝ่หา ก็เขียนไปในถวิลจินตนา ถึงใครบ่นว่าบ้าข้าไมฟัง กลอนประตูหน้าต่างข้าวางไว้ ตามแต่ในใจข้าจะว่าขลัง ก็ข้าแต่งตามใจใช่อยากดัง ถึงจะกลอนพังพังก็ยังลง emo_62 มิใช่กลอนประตูอ่ย่าตู่ค่อน มิใช่กลอนหน้าต่างวางส่งส่ง มิใช่กลอนคนบ้าอย่าเจาะจง มิใช่กลอนก็ยังคงกวีงาม ใครเยาะรสบทกวีอย่างที่ว่า คือคนป่าควรใช้ไม้หน้าสาม ซัดตรงปากไม่ดีที่ลวนลาม สืบทอดตามโบราณการกวี หัวข้อ: Re: ใจคนเขียนกลอน เริ่มหัวข้อโดย: ช่วงนี้ไม่ว่าง ที่ 25 สิงหาคม 2011, 02:20:AM กลอนเราเขียน จากใจ ด้อยไพเราะ อาจมีเยาะ จากใคร แกล้งไขสือ ก็เราเขียน จากใจ ใช่จากมือ ย่อมจะสื่อ จากใจ ข้างในตน กลอนของเรา เราชี้ ว่าดีเลิศ ก็ช่างเถิด ถึงใครว่า ไม่น่าสน แต่เรากลับ รับซึ้ง ถึงกมล ใครเขาบ่น ว่าห่วย สวยของเรา มิใช่มือ อาชีพ เพียงรีบแต่ง จึงผิดแผลง ไปนัก กับหลักเขา อาจไม่เข้า ตาคน ก็ทนเอา กลอนของคน งี่เง่า โปรดเข้าใจ ก็คงมี บ้างมั้ง ที่ยังชอบ ก็ขอขอบใจท่าน ทนอ่านไหว กลอนไม่เพราะ เพราะว่า ข้าบ้าไง ก็แต่งไป ตามประสา คนบ้ากลอน อาจมีบ้าง ขัดใจ ในบางครั้ง แต่ยังหวัง ผิดโทษ โปรดถ่ายถอน อภัยกัน เถิดหนา ข้าขอวอน แม้จะอ้อน บาทา ก็อย่าเคือง ก็ขำขัน วันละนิด จิตสดใส เครียดทำไม สมัยนี้ มีแต่เรื่อง ทิ้งความทุกข์ กอบสุขเข้า เอาประเทือง(๑) นิราศเยื้อง จากกลุ้ม มุมกวี ก็คงมี เท่านี้ นะพี่น้อง ที่อยากเรียก อยากร้อง นะน้องพี่ จะเคียดขึ้ง เพื่ออะไร ทำไมมี ชีวิตนี้ ไม่ช้านัก จักวางวาย ว่าหัวเราะ หนึ่งครั้ง ยั้งอายุ ให้บรรลุ ขวบปี ถึงที่หมาย ก็หัวเราะ ไปทุกวัน เพื่อกันตาย แล้วสุดท้าย ไปอยูที่ ศรีธัญญา..เอย. ปล.ไม่ลงเอยจบไม่ได้ (๑)เอาประเทือง หมายถึงเอามาประเทืองสติปัญญา ไม่ใช่เอาคนชื่อประเทือง หัวข้อ: Re: ใจคนเขียนกลอน เริ่มหัวข้อโดย: Music ที่ 25 สิงหาคม 2011, 05:15:AM ฉันเขียนกลอนผ่อนคลายเพื่อหายเหงา ขจัดเศร้าใจหม่นบนทางฝัน นั่งอ่านกลอนที่แต่งแล้วแบ่งปัน เป็นสีสันสร้างสุขให้ทุกข์คลาย อาจมีบ้างบางครั้งยังไม่เหมาะ ความไพเราะแลลดถึงหดหาย ใส่ถ้อยคำซ้ำซากเบื่อมากมาย ไม่เฉิดฉายฉ่ำชื่นระรื่นจินต์ คือคำพูดจากใจในบางครั้ง ย่อมมีพลั้งมีพลาดมีขาดวิ่น ด้อยสัมผัสจัดวางต่างเคยชิน ผู้ได้ยินผินหน้าระอาเมิน แต่ตนเองชอบใจว่าไพเราะ แม้ใครเยาะเย้ยฉันไม่สรรเสริญ ก็ช่างเขาเราไซร้ใช่ส่วนเกิน เราย่อมเดินตามทางที่วางมา เป็นนักกลอนอ้อนฝันในวันว่าง รักเสียอย่างมีใจเฝ้าใฝ่หา ก็เขียนไปในถวิลจินตนา ถึงใครบ่นว่าบ้าข้าไมฟัง กลอนประตูหน้าต่างข้าวางไว้ ตามแต่ในใจข้าจะว่าขลัง ก็ข้าแต่งตามใจใช่อยากดัง ถึงจะกลอนพังพังก็ยังลง emo_62 "หัวใจคนเขียนกลอน" อยากวอนเว้า ไม่ได้เศร้า-ไม่ได้สม-อารมณ์หลง ไม่ได้รัก-ไม่ได้เกลียด-มิได้ปลง แสร้งวาด-วง-ทำเพ้อ-ว่าเจอลวง เป็นลีลา-อาการ-คนพาลรัก ที่ทึกทัก-โทษทั่ว-ไม่กลัวห้วง ไร้หัวใจ-ในยาม-ที่ตามทวง อ้างดาวดวง-เดือนดับ-กับหมอกควัน ชอบตะวัน-ขึ้น-ลง-หลงแสงสี ชอบวิถี-พอเพียง-ขอเคียงขวัญ ชอบสายฝน-บ่นเศร้า-เข้าเหมันต์ รับประกัน-สร้างภาพ-ในคราบกลอน "หัวใจคนเขียนกลอน" อ้อนชะมัด เก่งเรียนลัด-ค่อนขอด-กอดแต่หมอน แต่อ้อมใจ-ว่างเปล่า-แสนร้าวรอน เขียนเป็นกลอน-สอดคล้อง-แทนร้องเพลง emo_26 หัวข้อ: Re: ใจคนเขียนกลอน เริ่มหัวข้อโดย: ตะวันฉาย ที่ 25 สิงหาคม 2011, 11:07:AM ...ใช้อักษรเป็นสื่อกลางทางความเศร้า หวังแบ่งเบารอยหม่นคนข่มเหง หยดน้ำตาทาแก้มแซมบรรเลง ให้ครื้นเครงเพลงรักสลักลง ...มีเพียงกลอนที่ทอนตอนใจเจ็บ ใช้กานท์เย็บก่อนจะตายกลายเป็นผง ก่อนสิ้นเราเงารักสลัดปลง มิอยู่ยงคือสัญญาค่าเพียงลม ...มิได้อยากให้ใครมาสงสาร มิได้อยากลงจารความขื่นขม มิได้อยากให้ใจร้าวระบม เลยขอห่มเพียงกลอนทอนความใน ...คำด้อยค่าเมื่อเวลาน้ำตาตก ถูกเขาชกที่ฤดีมีหมองไหม้ ทิ้งความหลังครั้งก่อนป้อนอาลัย แล้วหัวใจก็ตีจากเป็นฉากดำ ...ขอสัมผัสกับอักษรตอนใจพลั้ง ขอพลังจากกลอนตอนถลำ ขอร่ายพจน์สยบรักที่ลักจำ ทอลำนำจากใจปน..คนเขียนกลอน... ตะวันฉาย (http://www.ohzeed.com/bar_171.gif) (http://www.ohzeed.com) หัวข้อ: Re: ใจคนเขียนกลอน เริ่มหัวข้อโดย: Music ที่ 14 กันยายน 2011, 05:30:PM (http://i.kapook.com/glitter/2010/th/06/T250610_02C.gif) เสียดายความรู้สึกที่ลึกล้ำ มาเพลี่ยงพล้ำคลำจิตผิดสังหรณ์ ด้วยนิยมคมคำที่พร่ำวอน เขียนร้าวรอนตามเรื่องจนเปลืองใจ ปลายปากกาคนเขียนหมั่นเพียรถึง เปรียบประหนึ่งอยากอ้อนว่าอ่อนไหว หรือทำซึ้งทำโกรธพิโรธใคร? หาได้ไปเป็นข่าวให้กล่าวอึง ยามที่เขียนอ้อนออดหรือหยอดรัก ด้วยนำชักแม่น้ำมาย้ำถึง ก็มิหมายให้สยบ...สลบตึง แค่รำพึงรำพันพระจันทร์งาม มิอยากได้เป็นดาวให้เขาเอื้อม หรืออยากเชื่อมไมตรีหนึ่งสองสาม มิอยากต่ำเพียงดินจนสิ้นงาม เป็นเพียงความรพี...กวีกานท์ แต่เหมือนผุ้รู้ผิด...ที่ติดอ่าง มีบางอย่างเพลี่ยงพล้ำในคำขาน จะคอยบอกซอกกมลอย่าลนลาน กับวันวานถูกย้ำ..อย่าช้ำเลย emo_62 |