หัวข้อ: จะแต่งกลอนอย่างไรให้ไพเราะ เริ่มหัวข้อโดย: [Love] ที่ 28 กรกฎาคม 2011, 01:57:AM (http://www.ohzeed.com/bar_175.gif) (http://www.ohzeed.com) จะแต่งกลอนอย่างไรให้ไพเราะ ให้มั่นเหมาะเจาะใจในน้ำเสียง ให้ดูสมคมเฉียบยามเรียบเรียง ใช่เป็นเพียงคำคล้องทำนองกานท์ จะแต่งกลอนอย่างไรเพื่อให้ซึ้ง ให้เข้าถึงน้ำคำที่ฉ่ำหวาน ให้ซาบซึ้งตรึงสนิทจิตวิญญาณ ใช่แค่ขานคล่องๆเพียงคล้องคำ จะแต่งกลอนอย่างไรให้จับจิต ให้ตรึงติดคารมที่คมขำ ให้เฉียบแหลมวาทะสาระนำ ใช่เพียงพร่ำคำไปให้ระอา จะแต่งกลอนอย่างไรจึงให้เก่ง ให้ตนเองรู้แม่นแผนภาษา ให้สื่อความตามที่หวังดังวาจา ใช่เพียงว่าแต่งแต่งทุกแห่งไป จะแต่งกลอนอย่างไรให้ไพเราะ ให้มั่นเหมาะทั้งคมสมสมัย ใช้สื่อสารงานศิลป์ทั่วถิ่นไทย ให้โดนใจผู้อ่านทุกงานกลอน... (http://www.ohzeed.com/bar_160.gif) (http://www.ohzeed.com) หัวข้อ: Re: จะแต่งกลอนอย่างไรให้ไพเราะ เริ่มหัวข้อโดย: --ณัชชา-- ที่ 28 กรกฎาคม 2011, 02:52:AM แค่เขียนกลอนให้ได้ตามใจฉัน ถ้อยประพันธ์ไม่จำเป็นต้องออดอ้อน ไม่ต้องห่วงใครจะมาเอื้ออาทร ใช่ว่าสอนแค่เขียนไว้ตามใจตัว เราอยากเขียนแบบไหนก็ไฝ่เขียน ยึดบทเรียนตามตำราอย่าเขียนมั่ว ใครจะชอบหรือไม่ ไม่ต้องกลัว แค่มีหัว-ใจรักมัน..เท่านั้นเอง natcha (http://www.ohzeed.com/bar_179.gif) หัวข้อ: Re: จะแต่งกลอนอย่างไรให้ไพเราะ เริ่มหัวข้อโดย: [Love] ที่ 28 กรกฎาคม 2011, 03:22:AM อยากแต่งกลอนตามใจให้มั่วมั่ว แต่ก็กลัวคนเขลาเฝ้าติฉิน เข็ดขยาดหนักหนาเรื่องทานิน เหมือนเอาหินไปกรีดใบมีดโกน คงสิ้นคมลมลิ้นต้องสิ้นคิด ถึงหมดสิทธิ์เงื้อง่าออกท่าโขน กลัวถูกหาว่าบาปชอบหยาบโลน ต้องกระโจนห้วงเห อเจี แม้จัดคำพร่ำไปตามใจฉัน ผู้อ่านนั้นก็จะผินโบยบินหนี เขาบอกหยุดเถิดหนอขอซะที มิได้มีคะแนนใดให้ได้ยล จะแต่งกลอนอ้อนใครให้กลุ้มอก เหมือนนรกคอยสาปทุกหาบหน จำข่มใจเถิดหนอแค่ขอทน ไม่ดิ้นรนแบบที่เห็นเช้าเย็นชาม กดคีย์บอร์ดพรอดพร่ำคำว่ารัก มันช่างหนักทุกข์กระหนาบเข้าหาบหาม ให้ถูกใจใครเล่าที่เฝ้าตาม ไม่งดงามจำนรรจ์หรือฉันใด จึงแต่งต่อพอเสร็จสำเร็จกิจ ไปตามคิดว่าไพเราะจะเหมาะไหม เรียกว่าเขียนข้อความไปตามใจ โปรดอภัยใดผิดคิดเอ็นดู... (http://www.ohzeed.com/bar_151.gif) (http://www.ohzeed.com) หัวข้อ: Re: จะแต่งกลอนอย่างไรให้ไพเราะ เริ่มหัวข้อโดย: --ณัชชา-- ที่ 28 กรกฎาคม 2011, 03:47:AM ถ้าอยากเขียนกลัวทำไมเรื่องใครว่า ถึงภาษาไม่เพริศไม่เลิศหรู เราไม่ใช่นักประพันธ์เทียบชั้นครู อุตสาห์สู้เขียนนี้ดีถมไป ถึงใครเขาว่าไปเขียนไม่เพราะ ไม่เสนาะ ไม่ตรง ไม่หลงไหล จะไปมัวชอกช้ำอยู่ทำไม ไม่เป็นไรใครไม่อ่าน เราอ่านเอง natcha (http://www.ohzeed.com/bar_107.gif) หัวข้อ: Re: จะแต่งกลอนอย่างไรให้ไพเราะ เริ่มหัวข้อโดย: บ้านริมโขง ที่ 28 กรกฎาคม 2011, 04:29:AM (http://www.ohzeed.com/bar_153.gif) (http://www.ohzeed.com) จะเขียนกลอนอย่างไรให้สื่อถึง เข้าไปดึงหัวใจใครออกแผ่ เข้าไปล้วงตับไตเอาไว้แล เข้าไปแก้ปุจฉาปัญญาคน จะเขียนกลอนอย่างไรไม่ให้ผิด นี่น่าคิดมากกว่า-กลัวไม่สน เขียนอย่างไรให้ภาษามันน่ายล เขียนหน้ามนเป็นหน้ามารได้ขวานจาม อย่าหวังเลยกลอนกานท์หวานไพเราะ อย่าหวังเลยจะเสนาะเจาะวาบหวาม ถ้าคนอ่านรมย์เสียเมียมาตาม ถ้าคนงามเป็นใบ้ไหนได้ยิน ความไพเราะเจาะซึ้งต้องพึ่งจิต ตามลิขิตที่วางอย่างสมศิลป์ ค่อยค่อยเริ่มเติมไฟในดวงจินต์ สร้างถวิลใฝ่อยากฝากเขาไป อาหารดีที่อร่อยต้องคอยปาก กินเมื่ออยากจากท้องต้องพอไหว ปรุงอาหารถึงรสสดถูกใจ ทุกคราวไปใครกินถวิลปอง อย่าเป็นปากแทนใครใส่คะแนน นี่สุดแสน-นั่นสุดสวยด้วยสนอง โน่นไม่ดี-นี่งามตามครรลอง ปล่อยคนมองต้องการเอง..ตามเพลงกานท์ "บ้านริมโขง" (http://www.ohzeed.com/bar_162.gif) (http://www.ohzeed.com) หัวข้อ: Re: จะแต่งกลอนอย่างไรให้ไพเราะ เริ่มหัวข้อโดย: [Love] ที่ 28 กรกฎาคม 2011, 04:46:AM อยากเขียนกลอนอย่างไรให้คนอ่าน ให้ฉ่ำหวานถึงใจได้ไหมพี่ ให้ผู้อ่านเขาชอบก๊อปทั้งปี อย่าให้มีเว้นว่างทุกทางไป ให้ทุกคนเก็บกลอนไปนอนฝัน ให้รำพันเพ้อถึงคะนึงไหว แม้นได้อ่านเพียงนิดเฝ้าติดใจ ใครต่อใครต่างเห็นว่าเป็นดี มีคำชมป้อยอขอตามติด ต่างก็คิดใคร่เป็นเช่นเรานี่ ให้โด่งดังทะลุฟ้าทั่วธานี เปรียบกวีซีไรต์ในตำนาน... emo_30 หัวข้อ: Re: จะแต่งกลอนอย่างไรให้ไพเราะ เริ่มหัวข้อโดย: ลมหนาว ที่ 28 กรกฎาคม 2011, 10:11:AM จะแต่งกลอนอย่างไรไห้ไพเราะ ให้เสนาะเจาะประเด็นเอ็นจอยเอ๋ย แต่งทีไรใจยังสั่นหวั่นตามเคย กลัวจะเชยเอ่ยเอื้อนเพี้ยนตำรา แต่อย่างไรใจยังรักยักอยากแต่ง ตามเรี่ยวแรงแห่งตนค้นศึกษา มั่วไปบ้างช่างมันเน้อเบลอบางครา โปรดเมตตาอาจารย์กานต์กลอนเอย หัวข้อ: Re: จะแต่งกลอนอย่างไรให้ไพเราะ เริ่มหัวข้อโดย: บ้านริมโขง ที่ 28 กรกฎาคม 2011, 11:54:AM อยากเขียนกลอนอย่างไรให้คนอ่าน ให้ฉ่ำหวานถึงใจได้ไหมพี่ ให้ผู้อ่านเขาชอบก๊อปทั้งปี อย่าให้มีเว้นว่างทุกทางไป ให้ทุกคนเก็บกลอนไปนอนฝัน ให้รำพันเพ้อถึงคะนึงไหว แม้นได้อ่านเพียงนิดเฝ้าติดใจ ใครต่อใครต่างเห็นว่าเป็นดี มีคำชมป้อยอขอตามติด ต่างก็คิดใคร่เป็นเช่นเรานี่ ให้โด่งดังทะลุฟ้าทั่วธานี เปรียบกวีซีไรต์ในตำนาน... emo_30 (http://www.ohzeed.com/bar_007.gif) (http://www.ohzeed.com) ตื่น ตื่น ตื่น!.. อย่าฝันกลางวันหนา ตื่นขึ้นมาฟังก่อนอย่าอ้อนหวาน ไม่มีใครไหนชอบก๊อบจนบาน เดี๋ยวก็คลานคางเกย..เอ๊ยหมดแรง หากเป็นจริงอย่างหวังอย่านั่งบ่น มีมากหน้าหลายคนค้นตามแผง อยากเห็นตัวเป็นเป็นเอ็นแดงแดง เพื่อขอแบ่งเวลาจี๋จ๋ากัน คงไม่เหลือเวลาให้พวกบ้าน เขาคงจะรำคาญซ่านกระสัน เวลานอนก็กลอนวอนรำพัน เวลานั้นก็พลิ้วผิดคิวรอ ใครไหนอยากเก็บกลอนไปนอนกอด มันไม่อุ่นไม่ออดหยอดคำขอ อยากคว้าเอาเจ้าของลองพะนอ เอามาคลอมาคลึง...ซึ้งกว่ากลอน. emo_26 "บ้านริมโขง" (http://www.ohzeed.com/bar_010.gif) (http://www.ohzeed.com) หัวข้อ: Re: จะแต่งกลอนอย่างไรให้ไพเราะ เริ่มหัวข้อโดย: ไพร พนาวัลย์ ที่ 28 กรกฎาคม 2011, 05:50:PM emo_60 emo_116 emo_95 จะเขียนกลอนให้สนุกและสุขสันต์ ต้องรู้ฉันทลักษณ์ตระหนักก่อน เป็นแบบอย่างดีงามตามขั้นตอน ดูคำสอน,ศึกษา,ที่ว่าไว้ รู้จักกฏ,กติกา,ตำราที่ กำหนดมีเข้าออกบ่งบอกให้ ใส่อารมณ์ผสมผสานที่พล่านใน ปล่อยออกไปให้หมดที่กด,กำ ขออย่างเดียวคำหยาบ,คำสาปแช่ง คำรุนแรงแต่งไปคนไม่ขำ คำสุภาพอ่อนหวานจงหว่านนำ ใช้ถ้อยคำนุ่มนวลให้ชวนมอง ค่อยเขียนตามสบายที่ใจคิด ค่อยลิขิตผิดพลั้งระวังพร่อง ให้ลื่นไหลใส่คำถูกทำนอง ลอยละล่องร่าเริงบันเทิงใจ ยังมิใช่บัณฑิตอย่าคิดมาก จะยุ่งยากเยิ่นเย้อจนเบ้อใบ้ เขียนไปเถิดอยากเขียนอะไรไป รักสดใส,เศร้าสร้อย,ปล่อยมาเลย emo_55 "ปรางค์ สามยอด" หัวข้อ: Re: จะแต่งกลอนอย่างไรให้ไพเราะ เริ่มหัวข้อโดย: นพตุลาทิตย์ ที่ 28 กรกฎาคม 2011, 06:48:PM ปราชญ์ทั้งหลายบอกมาว่าใช่แล้ว [Love]น้องแก้วฟังไว้ใคร่เฉลย จะแต่งกลอนอ่อนหวานอ่านเสบย ต้องคุ้นเคยประสบการณ์มานานปี แต่งอกหักต้องช้ำระกำเท่า แต่งกลอนเศร้าต้องเคล้าน้ำตานี่ แต่งกลอนรักมีคู่อยู่แล้วดี แต่งกลอนผีต้องพบสบกับตัว ดั่งที่ว่าฝึกฝนทนไปก่อน พอถึงตอนเหมาะสมคมคนทั่ว จากนักกลอนเป็นกวีที่น่ากลัว ซีไรต์ชัวร์แน่นักประจักษ์กาล emo_17 emo_17 emo_17 หัวข้อ: Re: จะแต่งกลอนอย่างไรให้ไพเราะ เริ่มหัวข้อโดย: rit sriduang ที่ 02 ตุลาคม 2011, 06:29:PM บทกวี
ฉันเคยรักบทกวีดั่งชีวิต เคยยึดติดจมปรักตัวอักษร หลงอาหารหวานรสคือบทกลอน แม้ยังอ่อนเชิงด้อยในถ้อยคำ บทกลอนรักถักร้อยแม้น้อยนัก มิอาจจักพอมอบคนบอบช้ำ บทกลอนมีสาระเรื่องพระธรรม เพียงเพื่อนำแง่คิดสะกิดใจ ฉันเห็นความเป็นอยู่ของผู้เฒ่า ฉันจึงเล่าเรื่องคนที่หม่นไหม้ ฉันเห็นความงามขลับแล้วดับไป จึงเล่าไว้บางถ้อยของร้อยกรอง ฉันอยากบอกเธอนักให้รักชาติ ฉันจึงวาดภาพผู้ที่กู่ก้อง ท่ามกลางดินแดงเดือดหยดเลือดนอง ให้เสียงร้องร่ำยินถึงวิญญาณ ฉันเห็นความทุกข์ทนความจนยาก จึงเล่าฝากคำให้เธอได้อ่าน ฉันเห็นความชุ่มชื้นและชื่นบาน จึงเขียนกานท์จารจดทุกหยดรอย มีคำให้ไขว่คว้าเต็มอากาศ ซึ่งเธออาจต่อเชื่อมเพียงเอื้อมสอย ความงดงามวิจิตรประดิดประดอย ย่อมมากน้อยแตกต่างตามทางตน ได้รู้จักเพื่อนพ้องและน้องพี่ ผ่านวลีลุ่มลึกที่ฝึกฝน รู้เรื่องราว..ร้าว..สุข ของทุกคน นี่คือมนต์โดยแท้อย่างแน่นอน ฉันยังรักบทกวีดั่งชีวิต ยังเฝ้าคิดแกะสลักตัวอักษร หาความต่างบางรสในบทกลอน แม้ยังอ่อนเชิงด้อยในถ้อยคำ . ๒๒ มิถุนายน ๒๕๕๑ แรงบันดาลใจจาก ฉันหลงรสบทกวี..ดั่งชีวิต ของ ป.ปราณรวี หัวข้อ: Re: จะแต่งกลอนอย่างไรให้ไพเราะ เริ่มหัวข้อโดย: yaguza ที่ 02 ตุลาคม 2011, 06:58:PM ณ เนินกว้างทางไหนก็ไม้ดอก
ที่ผลิออกอวดชูเต็มภูเขา แดดเช้าฉายไม้ช่อจึงก่อเงา สายลมเบาโบกคว้างอยู่กลางดิน เขาเงยหน้าตาหลับสดับเสียง แม้แผ่วเพียงลมพัดสัมผัสหิน แม้เสียงปีกกำดัดนกหัดบิน และได้ยินคำบอกของหมอกโปรย ภารกิจอยู่ยังอีกฝั่งฟาก เธออาจฝากข่าวไปหากไห้โหย ลมวสันต์กรรโชกจะโบกโบย เขารู้โดยยินแค่กระแสลม แม้มิใช่มนุษย์คนสุดท้าย เขายอมตายไม่พร้อมจะยอมล้ม มีความฝันวันตื่นไว้ชื่นชม ไม่ยอมก้มศีรษะต่อชะตา ในท้องน้ำค่ำไหนคงไม่ต่าง ทุกเดินทางคำตอบคือขอบฟ้า คงมีเรื่องเล่าฝากจากปากกา จะกลับมาสวมกอดเมื่อจอดเรือ ..จงเข้มแข็งเพื่อฉันอย่าหันหลัง หากเธอยังเชื่อมั่นเหมือนฉันเชื่อ หวั่นศรัทธาถอยห่างจนจางเจือ อย่าน้อยเนื้อต่ำใจยามไกลจร ถ้าใจน้อยบ่อยครั้งจะฝังราก จนลึกมากเกินหยั่งหรือรั้งถอน ถ้าคิดถึงทุกคราวก่อนเข้านอน ก็ยากคลอนใจคลายให้หน่ายกัน แหวนดอกไม้วงน้อยดูด้อยค่า สวมเถิดถ้าวันหนึ่งคิดถึงฉัน อาจเก็บไว้ใส่ตลับคอยนับวัน อย่าปล่อยมันทิ้งขว้างลงกลางทราย แหวนที่มือหยาบกร้านฉันสานจีบ ทุกก้านกลีบมาลีมีความหมาย มีสุขทุกข์เจ็บปวดเป็นลวดลาย ขมวดปลายเป็นขดแทนอดทน หวังหนาวหน้าฝ่าคลื่นมายืนคู่ ฝ่าฤดูมรสุมและกลุ่มฝน ผ่านวันล่วงเลยล่องเราสองคน คงข้ามพ้นความเหงาแห่งเยาว์วัย จะเรียนรู้ใจกันเมื่อวันห่าง ระยะทางเปลี่ยนแปรเราแค่ไหน ฉันจะยังคงรอเธอก่อไฟ โปรดอย่าให้ไฟสรวงนั้นร่วงลง ทะเลค่ำน้ำเค็มไร้เข็มทิศ เมื่อมืดมิดเรือน้อยคงลอยหลง ถ้าแสงสรวงดวงนั้นยังมั่นคง ก็โปรดจงส่องสว่างนำทางเรือ ฉันจะรอดาวรุ้งจนรุ่งฟ้า นำนาวาเดินทางด้วยหางเสือ หวั่นเขม่าเร้ารุมจนคลุมเครือ อาจเป็นเหยื่อมัจฉาให้ปลากิน ฉันจะใช้การกระทำแทนคำพูด บทพิสูจน์ชายชาญคืองานหิน เมื่อภาระผ่านพ้นไร้มลทิน นกขมิ้นอาภัพจะกลับรัง . ........................................ แล้วเรือลำน้อยน้อยก็ลอยล่อง สู่ห้วงท้องธารพรากไปจากฝั่ง เธอยืนมองท้องน้ำตามลำพัง ก่อนจะหลั่งน้ำตาอย่างล้าแรง จึงจับแหวนดอกไม้ที่ไร้ค่า เคยสัญญากับเขาจะเข้มแข็ง กลับผิดคำสัญญาสองตาแดง กลายเป็นแอ่งหยดน้ำแทนคำลา เพียงหวังการเดินทางใช่ลางร้าย ยังคาดหมายพบกันในวันหน้า แลเรือน้อยลอยลับไปกับตา ขณะฟ้าจรดน้ำเริ่มค่ำลง .. ฤทธิ์ ศรีดวง สวัสดีครับ ครูฤทธิ์ ผมเป็นแฟนพันธ์แท้ของครู มาโดยตลอดผมเก็บผลงานของครูทุกชิ้นที่ลงไว้ในไทยโพ ผลงานของครูที่ลงไว้ลงไว้ชิ้นสุดท้าย...คืนนั้นที่ลานไผ่ แล้วก็เงียบหายไปเลย ยังรอติดตามผลงานของครูอยู่นะครับ...อ้อผมพยายามเอากลอนของครู มาเป็นแนว แต่ฝีมือยังห่างชั้นมากเลยครับ |