หัวข้อ: กลอนกลบทเบญจวรรณห้าสี เริ่มหัวข้อโดย: บ้านริมโขง ที่ 26 กรกฎาคม 2011, 01:26:PM กลอนกลบทเบญจวรรณห้าสี เป็นอีกกลบทหนึ่งซึ่งแต่งไม่ยาก และมีความไพเ...ราะ เพราะ มีการเล่นคำมีข้อบังคับให้วรรคหนึ่งๆ ต้องมีพยัญชนะต้นเสียงเดียวกัน ตั้งแต่คำที่ ๑ ถึงคำที่ ๕ ซึ่งสอดคล้องกับคำว่า “เบญจ” แปลว่า “ห้า” ดังแผน (๐) (๐) (๐) (๐) (๐) ๐ ๐ ๐......................(๐) (๐) (๐) (๐) (๐) ๐ ๐ ๐ คำในวงเล็บคือ พยัญชนะต้นเสียงเดียวกัน (http://www.ohzeed.com/bar_099.gif) (http://www.ohzeed.com) กรรมเกินแก้ emo_33 เดือนเดียวดายดวงเดิมเริ่มอับแสง โรยเรื่อแรงรำไรคล้ายใจหมอง ขัดข้องเขินขวยขาดไม่อาจปอง เริ่มรักเราเรืองรองต้องระทม ใจจุกจิกเจียมจรดหมดรักหวาน น้องเนานานเนิ่นนักกลับหักขม ยามยุ่งยากยิ่งยุดสุดตรอมตรม ลอยลับลมลิ่วลิ่วปลิวห่างไกล เมื่อเมินมองเมียงมาน้ำตาหลั่ง เฝ้าฝากฝั่งฝากฝันด้วยกันใหม่ หากห่างหายโหยหวนป่วนดวงใจ เคยครองใครควรคู่อยู่ดูแล จึงจำจรจำจากเกินฝากฝัน เวียนวุ่นวายวารวันหวั่นกระแส ห่วงหดหายเหือดแห้งแหนงดวงแด กรรมเกินแก้ก่อกวนล้วนมารยา "บ้านริมโขง" (http://www.ohzeed.com/bar_100.gif) (http://www.ohzeed.com) หัวข้อ: Re: กลอนกลบทเบญจวรรณห้าสี เริ่มหัวข้อโดย: นพตุลาทิตย์ ที่ 26 กรกฎาคม 2011, 03:55:PM รวยระรินร้อยรำพันคำคล้อง ใจจดจ้องจำจรดบทคำห้า เคลื่อนคลาไคลคล้อยเคลียเรี่ยกันมา วางเวี่ยว่าวาวแววแพรวรสคำ เบื้องบาทบทบอกใบ้ให้ความรู้ เพียรพากผู้เพิ่มพูนกูลกลอนร่ำ เฝ้าฝึกฝนฟื้นฟูอยู่ประจำ แนวแนะนำนอกนี้มีตำรา ตุลาทิตย์ ต้องไปเพิ่มศัพท์ อิอิ หัวข้อ: Re: กลอนกลบทเบญจวรรณห้าสี เริ่มหัวข้อโดย: ภู กวินท์ ที่ 26 กรกฎาคม 2011, 08:25:PM รักระรานร่อแร่จนแพ้พ่าย คลาคลับคล้ายคลาดเคลื่อนเลื่อนลงหา เพียงพริ้มเพราเพรียกพร้องร้องออกมา ตรึกตรึงตราต้องตอบ, เกินชอบใจ ชื่นชมชวนชมเชยคนเคยชิด จองจำจิตจรรจาพาหวั่นไหว ดูดื้อด้านดั้นด้นละคนไป อวลอุ่นไอโอบเอื้อ, เมื่อเจือจาน. emo_68 มั่วๆ emo_68 หัวข้อ: Re: กลอนกลบทเบญจวรรณห้าสี เริ่มหัวข้อโดย: ดอกกระเจียว ที่ 26 กรกฎาคม 2011, 09:09:PM มามืดหม่นมัวหมองเมื่อน้องจาก พลัดพรายพรากเพียงพาลให้หวั่นไหว จิตจมจ่อมจุกเจ็บในจิตใจ คิดแค้นเคืองคำใครที่หลอกลวง ไปปลิ้นปล้อนโป้ปดใครไปเถิด เช่นชูเชิดชมชิดเคยคิดหวง หวาดหวั่นไหวเหว่ว้ากว่าถามทวง เลยละล่วงแล้วหลอกเล่นถือเป็นกรรม emo_54 หัวข้อ: Re: กลอนกลบทเบญจวรรณห้าสี เริ่มหัวข้อโดย: --ณัชชา-- ที่ 26 กรกฎาคม 2011, 10:31:PM พี่แจ๊คทำไมไม่ร่ายตั้งแต่"ก-ฮ"เลยอ่ะ ไม่เหลือไว้ให้คนอื่นเลย emo_111 natcha หัวข้อ: Re: กลอนกลบทเบญจวรรณห้าสี เริ่มหัวข้อโดย: สล่าผิน ที่ 27 กรกฎาคม 2011, 03:51:PM กลการเก่งก่อเกิดกำเนิดแต่ง ขอเข้าแข่งขันเขียนเพียรศึกษา คิดคาดคำคงคุ้มสุ่มแต่งมา งมเงื้อง่างัดแงะแกะคำดู จำใจจดจ้องจารให้อ่านพจน์ เสาะสุดสดใส่สาส์นกลอนกานท์หรู ยากยิ่ง ยามยอมยุ่งมุ่งคำชู เราเริ่มรู้เรื่องราวสาว(สะเลเต)บอกมา สล่าผิน ลองแต่งบ้างเนาะ หัวข้อ: Re: กลอนกลบทเบญจวรรณห้าสี เริ่มหัวข้อโดย: พิมพ์วาส ที่ 02 มีนาคม 2012, 07:49:PM ต้องตามติดเตือนต่อพะน้อรัก เนิ่นเนานักแนบเนื้อจือใจสิ้น เหือดแห้งห้องหุ้งหอมดอมเพรงพิณ โรยระรินราวร่วงสู่เพรงจารณ์ เอมอิ่มอกอุ่นอุ่นละมุ่นจิต พาเพ่งพิศเพ้อพร่ำลำนำหวาน ดื่มด่ำดวงแดดื่นชื่นสราญ กลิ่นกรุ่นกาลก่อนเกายังเนาใจ ความคงคุ้นคุณคู่อยู่แนบฉัน วิเวกหวั่นโหวงเวงวังเวงไหว เจียนใจจิตจวนจากพรากไปไกล ปร่าปวดไปแปลบปลาบระนาบทรวง พิมพ์วาส ตามขุดกระทู้เก่าค่ะ emo_60 หัวข้อ: Re: กลอนกลบทเบญจวรรณห้าสี เริ่มหัวข้อโดย: เพรางาย ที่ 02 มีนาคม 2012, 09:07:PM โอ้อกเอ๋ยอ่อนอกสะทกสะท้อน รักร้าวรอนโรยราอาดูรแสน ยิ้มเย้ายั่วเยียบเย็นเป็นคับแค้น เปลี่ยนแปลงแปลนเปล่าเปลืองทุกเรื่องไป นั่งนิ่งนิ่งนึกนับจับรู้สึก ลิ่วลอยลึกล่วงลับทบทับใหม่ หรือเราเร้นริ้วร้างค้างคาใจ พลั้งพลิกไพล่แผลพลุ่งสะดุ้งร้อง ................................................................ ขุดมั่งๆ emo_49 หัวข้อ: Re: กลอนกลบทเบญจวรรณห้าสี เริ่มหัวข้อโดย: sunthornvit ที่ 02 มีนาคม 2012, 09:20:PM กลอนกลบทเบญจวรรณห้าสี เป็นอีกกลบทหนึ่งซึ่งแต่งไม่ยาก และมีความไพเ...ราะ เพราะ มีการเล่นคำมีข้อบังคับให้วรรคหนึ่งๆ ต้องมีพยัญชนะต้นเสียงเดียวกัน ตั้งแต่คำที่ ๑ ถึงคำที่ ๕ ซึ่งสอดคล้องกับคำว่า “เบญจ” แปลว่า “ห้า” ดังแผน (๐) (๐) (๐) (๐) (๐) ๐ ๐ ๐......................(๐) (๐) (๐) (๐) (๐) ๐ ๐ ๐ คำในวงเล็บคือ พยัญชนะต้นเสียงเดียวกัน ([url]http://www.ohzeed.com/bar_099.gif[/url]) ([url]http://www.ohzeed.com[/url]) กรรมเกินแก้ emo_33 เดือนเดียวดายดวงเดิมเริ่มอับแสง โรยเรื่อแรงรำไรคล้ายใจหมอง ขัดข้องเขินขวยขาดไม่อาจปอง เริ่มรักเราเรืองรองต้องระทม ใจจุกจิกเจียมจรดหมดรักหวาน น้องเนานานเนิ่นนักกลับหักขม ยามยุ่งยากยิ่งยุดสุดตรอมตรม ลอยลับลมลิ่วลิ่วปลิวห่างไกล เมื่อเมินมองเมียงมาน้ำตาหลั่ง เฝ้าฝากฝั่งฝากฝันด้วยกันใหม่ หากห่างหายโหยหวนป่วนดวงใจ เคยครองใครควรคู่อยู่ดูแล จึงจำจรจำจากเกินฝากฝัน เวียนวุ่นวายวารวันหวั่นกระแส ห่วงหดหายเหือดแห้งแหนงดวงแด กรรมเกินแก้ก่อกวนล้วนมารยา "บ้านริมโขง" ([url]http://www.ohzeed.com/bar_100.gif[/url]) ([url]http://www.ohzeed.com[/url]) ชดช้อยชวนชื่นชม อุดมศิลป์ ยามยลยินยอดเยี่ยม เปี่ยมเนื้อหา งานง้างเงยงดงาม ความลีลา ทอทาบทาท้าทาย ปานร่ายมนตร์ พจน์พรั่งพรูพร้อมเพรียง เยี่ยงจอมปราชญ์ ยืนยงหยาดหยิบยก ถกเหตุผล มิตรมากมายมอบมาน สานกมล ทิวท่วมทันทักทาย จนลายตา สุนทรวิทย์ หัวข้อ: Re: กลอนกลบทเบญจวรรณห้าสี เริ่มหัวข้อโดย: panthong.kh ที่ 03 มีนาคม 2012, 12:29:AM กลอนกลบทเบญจวรรณห้าสี เป็นอีกกลบทหนึ่งซึ่งแต่งไม่ยาก และมีความไพเ...ราะ เพราะ มีการเล่นคำมีข้อบังคับให้วรรคหนึ่งๆ ต้องมีพยัญชนะต้นเสียงเดียวกัน ตั้งแต่คำที่ ๑ ถึงคำที่ ๕ ซึ่งสอดคล้องกับคำว่า “เบญจ” แปลว่า “ห้า” ดังแผน (๐) (๐) (๐) (๐) (๐) ๐ ๐ ๐......................(๐) (๐) (๐) (๐) (๐) ๐ ๐ ๐ คำในวงเล็บคือ พยัญชนะต้นเสียงเดียวกัน ([url]http://www.ohzeed.com/bar_099.gif[/url]) ([url]http://www.ohzeed.com[/url]) กรรมเกินแก้ emo_33 เดือนเดียวดายดวงเดิมเริ่มอับแสง โรยเรื่อแรงรำไรคล้ายใจหมอง ขัดข้องเขินขวยขาดไม่อาจปอง เริ่มรักเราเรืองรองต้องระทม ใจจุกจิกเจียมจรดหมดรักหวาน น้องเนานานเนิ่นนักกลับหักขม ยามยุ่งยากยิ่งยุดสุดตรอมตรม ลอยลับลมลิ่วลิ่วปลิวห่างไกล เมื่อเมินมองเมียงมาน้ำตาหลั่ง เฝ้าฝากฝั่งฝากฝันด้วยกันใหม่ หากห่างหายโหยหวนป่วนดวงใจ เคยครองใครควรคู่อยู่ดูแล จึงจำจรจำจากเกินฝากฝัน เวียนวุ่นวายวารวันหวั่นกระแส ห่วงหดหายเหือดแห้งแหนงดวงแด กรรมเกินแก้ก่อกวนล้วนมารยา "บ้านริมโขง" ([url]http://www.ohzeed.com/bar_100.gif[/url]) ([url]http://www.ohzeed.com[/url]) (http://www.qzub.com/bar_212.gif) (http://www.qzub.com) จำใจจรจากเจ้า เศร้ามิหน่าย ช่างชวดชมเช่นชาย หมายมองหา เวียนวนว้าวุ่นวาย มิชายตา หากหวงห่วงห้วงหนา ระอานัก รักระรัวเริ่มร้าว คราวหนีจาก ยุกยิกยิ่งยุ่งยาก พรากเสียหลัก กรรมเกินแก้แก่เก่า ร้าวทรวงนัก โหยห้ามหักไห้หด หมดฤทัย น้ำนองมองเมินมา พาไหวหวั่น หมองหม่นหมั่นหมกหมอบ ชอบชิดใกล้ ยามเยื้องย่างยวนยั่วเย้า เขาจากไป ซึมเซาไซร้ซานซม ตรมดวงแด พันทอง แต่งมั่วมั่ว คิดถึงเจ้าของกระทู้จ้า (http://www.qzub.com/bar_212.gif) (http://www.qzub.com) หัวข้อ: Re: กลอนกลบทเบญจวรรณห้าสี เริ่มหัวข้อโดย: สะเลเต ที่ 03 มีนาคม 2012, 03:26:PM มามองเมียงมิ่งมิตร...ไม่คิดลึก นั่งนอนนึกเนิ่นนานมานเรียกหา จิตจ่อมจมใจจึงติดตรึงตา เพียงพบพาเพื่อนพ้อง...พี่น้องนั้น ให้โหยหาหดหู่...รู้สึกหงอย ถักทอถ้อยถ่ายทอดสอดรักมั่น ร้อยรักรวมเรียบเรียงเคียงนิรันดร์ เพื่อผูกพันเพิ่มพูน...ศูนย์เป็นร้อย ---สะเลเต--- (http://www.qzub.com/bar_090.gif) (http://www.qzub.com) หัวข้อ: Re: กลอนกลบทเบญจวรรณห้าสี เริ่มหัวข้อโดย: บูรพาท่าพระจันทร์ ที่ 03 มีนาคม 2012, 04:08:PM emo_89 เคยเคลียเคล้าครองคู่อยู่เพียงสอง แม่มิหมองเมินหมางรักจางหงอย รักลึกล้นลือลั่นมั่นแต่กลอย แนบน้องนุชนวลน้อยจันทร์คล้อยลา รักลดลงเลยเราต้องเศร้าจิต พ่ายแพ้พิษพบพันธุ์มากตัณหา ริรักเล่นเร้นลวงบ่วงกามา ระเริงร่าร่านรักยิ่งนักใจ.../ emo_126 บูรพาท่าพระจันทร์ |