หัวข้อ: ว่าด้วยเรื่องราวและข่าวน่ารู้ เริ่มหัวข้อโดย: ช่ออักษราลี ที่ 24 กรกฎาคม 2011, 04:53:PM ว่าที่ลูกเขยทักษิณ
(http://www.magazinedee.com/member/images/30_l_06.jpeg) (http://www.home.co.th/images/img_v/BuyHome/45/2011_7_11_15_52_31.jpg) เจอข่าวเครียดๆกันมาแล้ว ลองมาติดตามเรื่องเบาๆบ้างค่ะ เปิดตัวว่าที่ลูกเขย"ทักษิณ" "ณัฐพงศ์ คุณากรวงศ์" หนุ่มโสด รูปหล่อ มาดเข้ม หนุ่มน้อยคนนั้น ชื่อ "ณัฐพงศ์ คุณากรวงศ์" หนุ่มโสด รูปหล่อ มาดเข้ม เคยได้รับโหวตให้เป็นขวัญใจไฮโซของนิตยสารคลีโอในปี 2007 "พงศ์" เป็นทายาทนักธุรกิจส่งออกเสื้อผ้ารายใหญ่ จบปริญญาตรีจากชิคาโก สหรัฐอเมริกา พบรักกับ "น้องเอม" เมื่อครั้งไปเรียนปริญญาโทหลักสูตรอสังหาริมทรัพย์ด้วยกันที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ที่มา มติชนออนไลน์ โดยคุณอ้อ http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1311492149&grpid=01&catid=&subcatid= (http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1311492149&grpid=01&catid=&subcatid=) หัวข้อ: จาก"นกเตน"ส่งต่อ"หมุ่ยฟ้า" เริ่มหัวข้อโดย: ช่ออักษราลี ที่ 02 สิงหาคม 2011, 06:00:PM จาก"นกเตน"ส่งต่อ"หมุ่ยฟ้า" ทำความรู้จักชื่อ "พายุ" ความหมาย ชาติไหน(ผู้)ตั้ง เล่นเอาช่วงนี้หลายจังหวัดทางตอนเหนือ และอีสาน ภาคกลาง รวมถึงกรุงเทพมหานครอ่วมไปตามๆ กัน เมื่อ อิทธิพลของพายุ นกเตน ที่ซัดเข้าถล่มหลายๆประเทศ เริ่มจากฟิลิปปินส์ เวียดนาม ลาว รวมถึงไทย ให้ต้องช้ำระกำหนัก กับฝนที่ตกไม่หยุด ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมสร้างความเดือดร้อนอย่างมากถึงมากที่สุดให้กับบ้านเรือนประชาชน รวมถึงพื้นที่ทำการเกษตร สาธารณูปโภค และถนนหนทางได้รับความเสียหาย ถูกตัดขาดจากโลกภายนอก ตั้งแต่เมื่อปลายเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา จวบเข้าต้นสิงหาคม หลายคนคงสงสัย กับความแปลกของเจ้าพายุโซนร้อนที่ชื่อ นกเตน นี้ ว่ามันมีที่มาอย่างไร เกี่ยวอะไรกับนกหรือไม่ แล้วเกณฑ์ในการตั้งชื่อเอามาจากไหน ?? และทำไมพายุบางลูกถึงมีระดับรุนแรง ขณะที่บางลูกถึงแผ่วเบา ฯลฯ ทุกอย่างล้วนมาที่มาเกี่ยวกัน อย่างไร ? เกณฑ์การตั้งชื่อพายุ การตั้งชื่อพายุหมุนเขตร้อน ตามหลักการ เดิมพายุเฮอร์ริเคนที่เกิดในแถบทะเลแคริบเบียนนั้นจะตั้งชื่อนักบุญเป็นภาษาสเปน แต่ต่อมาราวปลายศตวรรษที่ 19 ต่อต้นศตวรรษที่ 20 ก็มีนักพยากรณ์อากาศชาวออสเตรเลียชื่อ คลีเมนต์ แรกกี (Clement Wragge) เกิดความคิดในการตั้งชื่อพายุโดยใช้ชื่อคนทั่วไป โดยมี 2 แบบ แบบที่ 1 ใช้ชื่อสตรี ซึ่งเข้าใจว่าต้องการให้ฟังดูอ่อนโยน ส่วนแบบที่ 2 ใช้ชื่อนักการเมือง เพื่อเปรียบเปรยว่านักการเมืองคนนั้นนำความหายนะมาให้เช่นเดียวกับพายุหมุน เมื่อถึงช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 บรรดานักอุตุนิยมวิทยาในกองทัพอเมริกันซึ่งชอบใจวิธีตั้งชื่อพายุหมุนเขตร้อนตามชื่อสตรี ด้วยความคิดถึงก็นำชื่อของคู่รักหรือภรรยาของตนมาใช้เป็นชื่อพายุ แต่ภายหลังก็มีนักสิทธิสตรีในสหรัฐฯออกมาประท้วงว่าการตั้งชื่อพายุทำให้ภาพลักษณ์ของผู้หญิงโหดร้าย ภายหลังจึงมีการตั้งชื่อผู้ชายด้วย จนกระทั่ง พ.ศ. 2543 ประเทศและดินแดนต่าง ๆ รวมทั้งสิ้น 14 แห่งที่เป็นสมาชิกของคณะกรรมการพายุไต้ฝุ่นขององค์การอุตุนิยมวิทยาโลก (World Meteorological Organizations Typhoon Committee) ลุกขึ้นมาจัดระบบการตั้งชื่อพายุหมุนเขตร้อนในแถบนี้ใหม่ โดยแต่ละประเทศ (หรือดินแดน) ได้ส่งชื่อพายุในภาษาของตนมาให้ประเทศละ 10 ชื่อ รวมทั้งสิ้นได้ 140 ชื่อ กำหนดให้ใช้ภาษาท้องถิ่นในแต่ละประเทศในการตั้งชื่อพายุ ได้แก่ กัมพูชา จีน เกาหลีเหนือ ฮ่องกง ญี่ปุ่น ลาว มาเก๊า มาเลเซีย ไมโครนีเซีย ฟิลิปปินส์ เกาหลีใต้ ไทย สหรัฐอเมริกา และเวียดนาม สำหรับ ชื่อพายุจะแบ่งเป็น 5 กลุ่ม กลุ่มละ 28 ชื่อ เรียงตามชื่อประเทศของลำดับตัวอักษรภาษาอังกฤษ เริ่มจากกัมพูชา เรื่อยไปจนถึงเวียดนามซึ่งเป็นอันดับสุดท้าย โดยไทยเราอยู่อันดับที่ 12 เมื่อใช้หมด 1 กลุ่มก็จะขึ้นชื่อแรกในกลุ่มที่ 2 เรียงกันเรื่อยไปจนครบทุกกลุ่ม แล้วจึงกลับมาใช้ชื่อแรกของกลุ่มที่ 1 ใหม่อีกครั้ง ด้วยเหตุนี้ ทางกรมอุตุนิยมวิทยาจึงได้ตั้ง "คณะกรรมการพิจารณารายชื่อและความหมายของชื่อ" ขึ้นเพื่อเป็นตัวแทนเสนอชื่อพายุในภาษาไทยที่ที่ประชุมของ "ศูนย์เตือนภัยพายุไต้ฝุ่นร่วม" (Joint Typhoon Warning Center (JTWC) ซึ่งตั้งอยู่ที่เกาะกวม ในมหาสมุทรแปซิฟิกตะวันตก โดยมีสมาชิกอีก 14 ประเทศในโซนเดียวกันมาร่วมประชุม จนได้ชื่อพายุของไทยตามลำดับได้แก่ พระพิรุณ ทุเรียน วิภา รามสูร เมขลา มรกต นิดา ชบา กุหลาบและขนุน กฎน่ารู้ สำหรับชื่อพายุลูกใดที่มีความรุนแรงมากจนสร้างความเสียหายในบริเวณกว้างจะถูกยกเลิกไป และตั้งชื่อใหม่ ข้อตกลง พายุลูกถัดไปจะมีชื่อตามลำดับที่ตั้งไว้ เช่น พายุลูกปัจจุบันคือ นกเตน ลูกต่อไปก็จะชื่อ หมุ่ยฟ้า, เมอร์บุก, ... ไล่ไปตามลำดับ หากชื่อในชุดที่ 1 หมดก็ให้เริ่มที่ชื่อแรกในชุดที่ 2 ทำอย่างนี้ไปเรื่อย ๆ จนหมดชื่อสุดท้ายในชุดที่ 5 จากนั้นนำชื่อพายุในชุดที่ 1, 2, 3, 4 และ 5 กลับมาใช้ซ้ำอีก เมื่อ "นกเตน" ชื่อพายุจากประเทศลาว อ่อนกำลังลง เราคงต้องจับตา "หมุ่ยฟ้า" ซึ่งตั้งจาก "มาเก๊า" ที่เขาว่า อาจส่งผลกระทบกับประเทศไทยให้เผชิญฝนตกอีก(แล้ว)ก็คงได้แต่ภาวนา ให้อิทธิพล ลมฟ้า ลมฝน เพลาๆ ความรุนแรง เพื่อให้พี่น้องชาวไทยในหลายๆจังหวัดไม่ต้องเดือดร้อน เคราะห์ซ้ำ กรรมซัด กับภัยพิบัติทางธรรมชาติ ที่นับวันจะทวีความรุนแรงขึ้นๆ อย่างที่เป็นสักทีเถิด... ที่มา มติชนออนไลน์ http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1312262671&grpid=01&catid=&subcatid= (http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1312262671&grpid=01&catid=&subcatid=) |