หัวข้อ: "ม่านบังตา?" เริ่มหัวข้อโดย: ระนาดเอก ที่ 17 กรกฎาคม 2011, 05:40:AM "ม่านบังตา?" ๐ ๐ เป็นเพราะความอ่อนไหวในตอนนั้น เป็นเพราะฉันใจว่างเคว้งคว้าง,เหงา เป็นเพราะซื่อไปหน่อยพลอยใจเบา เป็นเพราะเขลากับจริต-ฤทธิ์มารยา ๐ รักหมดใจสี่ห้องมองอย่างเซ่อ รักแบบเธอเห็นเราเล่ามีค่า รักจนเปรียบยกนุช-บุษบา รักตามแบบจรกา-บ้ารักนาง ๐ คิดวาดฝันยันรุ่งจรุงเลิศ คิดบรรเจิดข้ามคืนชื่นฟ้าสาง คิดว่ารักละไมใสบอบบาง คิดเข้าข้างโลกที่-สีชมพู ๐ เห็นไปถึงอนาคตบทหวานชื่น เห็นแม้คลื่นเสน่หามาโจมจู่ เห็นแม้ใจตัวเองเกรงโฉมตรู เห็นพธูลืมภาพฉาบลวงตา ๐ หลงได้ยินด้านดีที่เสแสร้ง หลงเชื่อแรงพิศวาสปรารถนา หลงเทพไท้บัญญัติเต็มอัตรา หลงแม้เธอเฉยชา..ขั้นตาฟาง ๐ ม่านบังตาก่อนบทรันทดหนัก มันเข้มข้นยิ่งนักรัก-แตกต่าง ส่งผลให้ใจผจญ-ท้น,ครวญคราง ยามกระจ่างเธอเผย..ไม่..เคย..รัก.. ระนาดเอก emo_12 หัวข้อ: Re: "ม่านบังตา?" เริ่มหัวข้อโดย: สมนึก นพ ที่ 17 กรกฎาคม 2011, 09:43:AM ยามแหงนมองท้องฟ้าค้นหาดาว ที่สกาววาวใสใจปกปักษ์ เมฆลอยบังครั้งใดขุ่นใจนัก แต่เพียงพักจักหายเคลื่อนย้ายไป ยังคงจ้องมองเห็นอยู่เช่นเดิม เหมือนแสงเพิ่มเสริมรู้ดูสดใส สุริยาสาดส่องต้องคราใด แต่คืนใหม่ไม่ลับยังกลับมี ให้หวนคิดจิตกลับกับปัญหา คำสัญญามาไว้ให้ผมนี่ ใจของเราเขาแซงแต่งเติมดี สุขทวีมีท้นเอ่อล้นทรวง แต่วันนี้ที่เห็นเด่นชัดนัก สุดที่รักกับใครให้หึงหวง ก้อยเกี่ยวก้อยคล้อยตามยามเดินควง เหมือนดังบ่วงห่วงรัดมัดเขาไป มือขยี้ที่ตามาบ่อยครั้ง แต่ภาพยังฝังเด่นเห็นชัดได้ ทนหลับตาหาม่านบังคิดยั้งใจ มิทนไหวให้ลืมตามาดูเธอ ม่านบังตามาบังยังเปิดรู้ ยิ่งหดหู่คู่เราทำเอาเก้อ อยากให้ตามาบอดตลอดเออ มืดเสมอเธอหายกับสายตา. นพ 17 ก.ค.54 |