พิมพ์หน้านี้ - รื่นรมย์ ชมราตรี

ชุมชน บ้านกลอนไทย ชุมชนสำหรับคนไทยผู้รักกลอน

บทประพันธ์กลอนและบทกวีเพราะๆ => กลอนธรรมะ+กลอนสอนใจ+กลอนธรรมชาติ+กลอนปรัชญา => ข้อความที่เริ่มโดย: ธาตรี รติกานท์ ที่ 08 พฤษภาคม 2011, 10:20:AM



หัวข้อ: รื่นรมย์ ชมราตรี
เริ่มหัวข้อโดย: ธาตรี รติกานท์ ที่ 08 พฤษภาคม 2011, 10:20:AM
(http://www.winitcq.com/webboard/photo/78327832.jpg)

พริบพราวดาวพร่างแพร้ว....อัมพร
จรดร่างวางอักษร...................ส่งฟ้า
ดาราอ่านคำกลอน.................ทุกบท จากแด
ฝังฝากจากใจข้า.....................ผ่านถ้อย รำพัน

แลจันทร์งามไม่น้อย.............สมจินต์
ดื่มด่ำค่ำคืนถวิล.....................สุขล้น
กระต่ายเล่นเพลงพิณ...........ขับกล่อม
ปีติมิอยากพ้น.........................ชื่นฟ้า ราตรี


หัวข้อ: บุหลัน ควั่นใจ
เริ่มหัวข้อโดย: ธาตรี รติกานท์ ที่ 08 พฤษภาคม 2011, 08:30:PM
(http://www.bloggang.com/data/b/biotechgirl/picture/1258178380.jpg)

ดวงแขแลเด่นเสี้ยว...............จับนภา
ดุจดั่งเคียวชาวนา.................เกี่ยวข้าว
ของสวรรค์ที่ปรารถนา........ฝันใฝ่
ปลิดอตีตอันรวดร้าว.............ตัดเจ้า จากใจ

ความหลังรักครั้งเก่า.............หลอกหลอน
ทุกบทจรดกลอน....................ร่ำไห้
แม้มิอาจเหมือนก่อน.............ชมชื่น ชิดแด
ดีกว่าเก็บเอาไว้......................กลัดกลุ้ม สุมทรวง


หัวข้อ: Re: รื่นรมย์ ชมราตรี
เริ่มหัวข้อโดย: บัณฑิตเมืองสิงห์ ที่ 09 พฤษภาคม 2011, 03:26:AM
ดาราระยิบจ้า     จอมดาว
เคียงพระจันทร์สกาว     ก่อนแจ้ง
ดวงเคราะห์,ฤกษ์กลางหาว     หนหาศ
ลอยละล่องส่องแสร้ง     เสียดฟ้าเวหน ฯ

ยลโสมกระจ่างเพี้ยง     พลอยใส
เฉกรพีอำไพ     เพชรพร้อย
มณีวิสุทธิ์ไฉไล     ลอยเด่น
ระยิบระยับคล้อย     คู่ฟ้ามหาสวรรค์ ฯ

(http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_017.gif)

บัณฑิตเมืองสิงห์



หัวข้อ: น้ำตาฟ้า
เริ่มหัวข้อโดย: ธาตรี รติกานท์ ที่ 09 พฤษภาคม 2011, 10:15:PM
(http://doreenmcgettigan.com/wp-content/uploads/2011/04/CryingInTheRain.jpg)
ครวญอุราฟ้าร่ำร้อง...............ครืนครืน
ดุจดั่งเสียงสะอื้น......................อกช้ำ
ดวงใจไม่อาจฝืน....................หมองหม่น
เจ็บปวดจนเกินกล้ำ...............ร่วมน้ำ ตาริน

ถวิลหาคราพร่ำพรอด...........กอดพธู
ฝนหลั่งพรายพรั่งพรู.............เปียกหน้า
ยินเพลงผ่านซ่านหู................สุดโศก จริงแฮ
ร้องร่ำ'น้ำตาฟ้า'......................ผ่านอ้าย สามโทน

โดนใจใครนั้นเปิด..................ตรงทรวง
เพลงเอ่ยถึงพุ่มพวง.................เจ็บแท้
ตัดพ้อต่อบนสรวง...................ดลผิด พลาดฤๅ
รู้ว่าสายเกินแก้.........................จึ่งไห้ เป็นฝน


หัวข้อ: Re: รื่นรมย์ ชมราตรี
เริ่มหัวข้อโดย: ธาตรี รติกานท์ ที่ 12 พฤษภาคม 2011, 01:58:AM
(http://www.rd1677.com/backoffice/PicUpdate/42325.jpg)
ฉงนใจใคร่อยากรู้..................บุหลัน
โดดเดี่ยวหนอดวงจันทร์.......ฟากฟ้า
คงว้าเหว่เหมือนฉัน................สุดอนาถ
ถึงสาดแสงเจิดจ้า....................แต่ครึ้ม กลางดวง

ปวงมิตรชิดฟากฟ้า.................แพรวพราว
หายหมดจากห้วงหาว.............แห่งนี้
เพียงเพราะเมฆในคราว.........นภาหม่น
กลบเกลื่อนดาวหลีกลี้.............ปล่อยให้ จันทร์เหงา


หัวข้อ: Re: รื่นรมย์ ชมราตรี
เริ่มหัวข้อโดย: บัณฑิตเมืองสิงห์ ที่ 12 พฤษภาคม 2011, 02:44:AM
ศศิธรห่อนยั้ง     ยังหาว
ลอยวิไลสกาว     กิ่งฟ้า
มวลเมฆบดบังดาว     ดาดาษ นภาแฮ
ลอยล่องลมเล่นล้า     ลดแสร้งแรงโพยม ฯ

โฉมตรูดูพิศสร้อย     โสภา
นวลผ่องท้องเวหา     หาศค้ำ
เสมือนเทียบเปรียบพา     เพชรห่อ มณีเอย
สวยเด่นมิกล้าล้ำ     ลั่นโน้มดึงนาง ฯ

(http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_017.gif)

บัณฑิตเมืองสิงห์



หัวข้อ: Re: รื่นรมย์ ชมราตรี
เริ่มหัวข้อโดย: ธาตรี รติกานท์ ที่ 15 พฤษภาคม 2011, 09:15:PM
(http://1.bp.blogspot.com/_1ly2iVe0KvQ/TJYeLB70DdI/AAAAAAAAAaY/bzFxACbTNZA/s1600/The+Starry+Night.jpg)
กลางคืนใจจับจ้อง...................แจ่มจันทร์
เนืองนิจพิศบุหลัน....................เล่นฟ้า
ดาวพรายพร่างพร้อมพลัน....พลุกพล่าน จริงเอย
เจิดจรัสรัศมีจ้า..........................จรดไว้ ในหาว

คราวใดได้สู่ห้วง......................แห่งจินต์
คงสุขสมถวิล.............................วาดไว้
ลอยล่องท่องสุบิน....................โบยโบก
ดาวพร่างพร้อมเดือนใกล้......กล่อมข้า หายเหงา


หัวข้อ: Re: รื่นรมย์ ชมราตรี
เริ่มหัวข้อโดย: บัณฑิตเมืองสิงห์ ที่ 15 พฤษภาคม 2011, 10:48:PM
พายุกระหน่ำซ้ำ     ซัดเซ
มวลเมฆปัจเจกเห     ห่างชั้น
สวรรค์ ณ ชั้นเอ-     กภพส่อง ทมิฬเฮย
วิบัติอุบัตินั้น     เนื่องด้วยมนุษา ฯ

สมญาหาวพร่างฟ้า     ฟังมา
เลือนหมดร้างวิมา-     นพบเศร้า
กระแทกบั่นดาษดา     ดาวหมด แสงแฮ
ธรรมชาติพินาศเคล้า     คลุกเส้นเวรกรรม ฯ

จำใจรอรุ่งแจ้ง     จวบเลือน อุบาทว์เฮย
วายุละอุเดือน     ดั่งสิ้น
ราตรีระทดเหมือน     ไหม้มอด ม้วยแฮ
อาทิตย์ชิดหาศปลิ้น     เปล่งจ้าแสงวิไล ฯ

(http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_017.gif)

บัณฑิตเมืองสิงห์