|
หัวข้อ: .....นักกลอนนอนเหงา..... เริ่มหัวข้อโดย: Lจ้าVojกaoนบทนี้* ที่ 18 เมษายน 2011, 01:10:AM โอ้อกเอ๋ยนักกลอนต้องนอนกลุ้ม หัวอกหนุ่มนักกลอนต้องนอนเหงา หัวอกจำช้ำฟกโอ้อกเรา หัวอกเศร้าเหงาทรวงถ่วงกมล เป็นความจริงสิ่งนี้ไม่มีผิด ไยชีวิตเป็นได้ไม่มีผล ไยชีวิตริดรอนเหมือนซ่อนกล ห้วงชีวิตมืดมนใครสนใจ อยู่คนเดียวเปลี่ยวใจเพราะไร้คู่ อยู่ก็อยู่อย่างนี้ทุกปีได้ ทนเงียบงันวันผ่านเนิ่นนานไป ยังยากไร้ขาดหญิงเข้าสิงทรวง อกคนโสดโปรดฟังอย่านั่งหน่าย ความเป็นชายโสดซิงทุกสิ่งหวง เฝ้าถนอมออมอดทุกหยดดวง มิล้ำล่วงบ่วงเล่ห์เสน่ห์รัก ยังขาดสาวหนาวสั่นทุกวันเจ็บ ยังขาดสาวหนาวเหน็บเหมือนเล็บหัก ยังขาดฟ้าพาฝันยิ่งหวั่นนัก ยังขาดตักอุ่นอุ่นให้หนุนนึก ยังหาคนเคียงคู่เพื่ออยู่ข้าง ยังหานางแนบนอนอาวรณ์ตรึก ยังหาชู้คู่เชยเพียงเอ่ยลึก ยังรู้สึกหวั่นไหวในวิญญา โอ้อกเอ๋ยนักกลอนต้องนอนกลุ้ม หัวอกหนุ่มนักกลอนนอนผวา เมื่อหลับฝันหวั่นจิตแม้นิทรา สะดุ้งมาอีกครั้งยังหวั่นใจ..... บ่นเรื่อยไป ไม่รู้จะแต่งอะไร... หัวข้อ: Re: .....นักกลอนนอนเหงา..... เริ่มหัวข้อโดย: บัณฑิตเมืองสิงห์ ที่ 18 เมษายน 2011, 01:22:AM อย่าเหงาเลยเปรยกลอนอ้อนมาให้ เพราะใส่ใจในจิตมิตรสหาย มีเพื่อนเล่าเคล้ากลอนคงผ่อนคลาย โศกมลายหายลับกับจิตลวง จะหาสาวขาวสวยอำนวยท่าน แล้วเดินผ่านม่านสิทธิ์ผิดใหญ่หลวง เพราะนางนั้นวันก่อนเห็นอ้อนควง กับเสี่ยกวงมาเฟียทำเสียตน คงไม่เหงาแล้วหนาเพราะครานี้ คงต้องหนีลูกปืนฝืนใจหม่น อาเสี่ยตอบชอบนักจักฆ่าคน อย่าทุพพลก่อนนะจะไม่ดี เห็นพี่วินเหงาเลยมาแซว ฮ่าฮ่าฮ่า emo_100 (http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_017.gif) บัณฑิตเมืองสิงห์ หัวข้อ: Re: .....นักกลอนนอนเหงา..... เริ่มหัวข้อโดย: Lจ้าVojกaoนบทนี้* ที่ 18 เมษายน 2011, 01:55:AM หลบลูกปืนฝืนใจไปเมืองสิงห์ โดนไล่ยิงไม่เร้นเดี๋ยวเป็นผี เด็กเสี่ยกวงควงได้แทบตายฟรี จำต้องหนีหลบไปในซักคราว หาตัวการก่อเรื่องเสี่ยเคืองขุ่น เจ้าประคุณบัณฑิตติดต่อสาว มือสังหารตามชิดเหมือนติดกาว เพราะขาวๆอวบอั๋นฉันเกือบตาย พาลูกปืนไปด้วยช่วยรับหน่อย เพียงแค่ถอยไปตั้งรับกับสหาย ด้วยศัตรูจู่โจมโหมทำลาย วันสุดท้ายไปเมืองสิงห์ชิ่งโดยพลัน แม้มือปืนเมียงมองหมายปองร้าย จะได้กอดคอกันตายสหายขวัญ เป็นเพื่อนตายไปไหนไปด้วยกัน ลูกปืนนั้นต้องแบ่งไปให้เพื่อนชิม..... emo_52 หัวข้อ: Re: .....นักกลอนนอนเหงา..... เริ่มหัวข้อโดย: บัณฑิตเมืองสิงห์ ที่ 18 เมษายน 2011, 02:12:AM จะดีเหรอแทบทรุดวันสุดท้าย ให้สหายตายด้วยช่วยรับแบ่ง พอดีว่ามือปืนต้องฝืนแรง บัณฑิตแกร่งด้วยใจใช่กายา ถึงถูกยิงเข้าอกต้องฟกช้ำ แต่ใจนำความแกร่งแข่งโทษา เจ้ามือปืนต้องตายในพริบตา เพราะอกข้าสะท้อนย้อนไปพลัน รสลูกปืนช่างหวานสำราญโอษฐ์ ไม่เอาโทษเจ้าหรอกมือปืนนั่น เพียงบัณฑิตคิดแถมแค่แย้มฟัน เจ้าโจรนั้นดับหายต้องตายฟรี emo_45 (http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_017.gif) บัณฑิตเมืองสิงห์ หัวข้อ: Re: .....นักกลอนนอนเหงา..... เริ่มหัวข้อโดย: ไพร พนาวัลย์ ที่ 18 เมษายน 2011, 02:55:AM (http://www.ohzeed.com/bar_001.jpg) (http://www.ohzeed.com) โห นักกลอนนอนดึกยิ่งคึกหนัก จะชวนชักไปตายอย่างไรนี่ แหม สาว สาว ขาวหมวยมาช่วยที มากมายมีที่โสดยังสดซิง อย่าไปควงแฟนเขาไม่เข้าท่า บัญฑิตกล้าท้าชนคนเมืองชิ่ง emo_52 ไปเมืองลพ ดีกว่าไม่กล้ายิง ไวป่านลิงเสียลูกปืนถ้าขืนลอง ขอเชิญวันสุดท้าย หม้ายหมาดหมาด อ๊ะ จิงป่ะ? ไปผงาดลพบุรีไม่มีม่อง ไปจีบสาวใกล้บ่อดินสอพอง ไปเที่ยวท่อง"วัดน้ำพุ"เลิกดุดัน วัดพระบาทน้ำพุทำนุเอดส์ หมดกิเลสเศษตัณหามิกล้าฝัน ใครที่ขืนลำพองคะนองกัน เชิญแบ่งปันพันพัว "คนกลัวเอดส์" emo_55 "ปรางค์ สามยอด" หัวข้อ: Re: .....นักกลอนนอนเหงา..... เริ่มหัวข้อโดย: ดอกกระเจียว ที่ 18 เมษายน 2011, 04:59:PM (http://www.ohzeed.com/bar_034.gif) (http://www.ohzeed.com) สู้ซุกหมอนซ่อนตัวไม่กลั้วเกลือก เป็นริ้นเหลือกรำคาญใครในมุ่งหมาย เดี๋ยวถูกตบซบซับแสนอับอาย ดูผู้ดีหรือมิร้ายเมื่อใคร่ครวญ คบมนุษย์สุดเลิศไม่เพลิดเพลิน คงล่วงเกินกันได้ให้ไห้หวน ด้วยแรงลมเยินยอต่อกระบวน เมื่อทบทวนเรายังด้อยจึงถอยไกล หน้าไม่ยิ้มปริ่มปรับคอยครับท่าน ต้องบนบานเหมือนเจ้าศาลอาศัย เมื่อข้องขัดเขาตัดขาดอนาถใจ โอ้อย่างไรคนเดี๋ยวนี้มิเหมือนคน บ้างเป็นเจ้าเข้าครองของไปทั่ว ข้างในชั่วข้างนอกดีมีร้อยหน บ้างหน้าเนื้อใจเสือในคราบคน ซ่อนเล่ห์กลสุดไว้ใจในปรานี สุภาษิตขอกันกินถูกหมิ่นแหลก ใครถังแตกจงเตรียมตายกลายเป็นผี ไม่มีเงินไม่มีหมาจะมามี รักภักดีเรียกนายให้เหลิงตัว สู้ซุกซ่อนนอนเหงาไม่เข้ายุ่ง ด้วยหมายมุ่งสบายใจไม่ปวดหัว คนเดี๋ยวนี้เชื่อเถิดหนามันน่ากลัว เพราะหลงมัวในอธรรมกันหนำใจ (http://www.ohzeed.com/bar_034.gif) (http://www.ohzeed.com) |