หัวข้อ: ......ร่ายโศลกโศกกำสรดเป็นบทเอื้อน... เริ่มหัวข้อโดย: ...สียะตรา.. ที่ 27 มีนาคม 2011, 07:03:AM ......ร่ายโศลกโศกกำสรดเป็นบทเอื้อน ...สวาทเลือนเฟือนสิ้นกลิ่นนบุปผา ...ผึ้งภมรเมินซอนเคล้าเย้าผกา ...ดวงจันทราเคยผาดผ่องกลับหมองมัว ......ภาณุมาศที่สาดแสงแห่งอุษา ...ก็โรยรามืดพยับดับสลัว ...ร้อยดวงดาวร้าวหนักหน่วงร่วงระรัว ...เทวษกลั้วท่ามกมล..เหลือ..อนธการ ..เรื่องเล่าจากเจ้าวันเพ็น...ตอนที่ 1 ......เรื่องราวของบ้าน เสนาจบลงแล้ว เวลานี้มี๊พาหนูมาอยู่ระยองอยู่ที่เมืองแกลงเมืองที่มีอนุสาวรีย์ของท่าน สุนทร ภู่กับน้าต่าย มีคุณRON สามีน้าต่าย ยายศรี แค่ข้ามถนนไปหนูก็ได้เล่นน้ำทะเล แต่มี๊ไม่พาหนูไปบ่อยนักเพราะหมาทะเลเยอะมาก ครั้งสุดท้ายที่มี๊พาหนูไปแล้วเจอหมาก้าวร้าวมี๊ต้องอุ้มหนูวิ่งหนีหมาพวก นั้น แล้วมี๊ก็หอบแฮ่กๆเหมือนหัวใจจะวายเพราะมี๊แก่มากแล้ว ...น้าต่ายดีกับหนูมากแอบเอาเบค่อนให้หนูกินแล้วก็ทำอาหารมื้อค่ำให้มี๊ กิน...ตอนนี้หนูง่วงเพราะน้าต่ายเพิ่งมาชวนมี๊คุยนานนนนมากแล้วเพิ่งออกไป อืมมม...หนูมีเปลือกหอยตัวโปรดเป็นเพื่อนเล่น...จำได้ เช้าวันนึงมี๊ไปทะเลกับน้าต่ายแต่เช้าไปซื้อปูให้ยายศรี มี๊เจอหอยตัวโต โตมากๆที่ชาวประมงลากอวนมาได้ น้าต่ายอยากได้เปลือกหอยนั้นมาเป็นที่เขี่ยบุหรี่ให้คุณRON...แต่ในเปลือก หอยนั้นยังมีตัวเป็นๆที่ชาวประมงบอกว่าเค้าจะต้มกินแล้วยกเปลือกหอยให้น้า ต่าย...มี๊เลยขอซื้อหอยทั้ง๔ตัวนั้นเดินไปไกลมากๆตรงที่น้ำลึกๆแล้วโยนหอย ทั้ง๔คืนกลับบ้านไป ...เมื่อมี๊เดินกลับมี๊พบเปลือกหอยเล็กๆรายทางสวยสมบูรณ์๓อันมี๊เลยเก็บมา ไว้หัวนอน...หนูเลยขอมาเป็นเพื่อนเล่นอันนึง....ฮ้าวววววววว....หนูนอนก่อน นะมี๊จะปิดไฟแล้ว..... ...เรื่องเล่าจากเจ้าวันเพ็ญ ตอนที่๒ ......เมื่อวานนี้มี๊ดูเหงาๆ..เลยชวนหนูไปทะเล...มี๊จ้างรถหน้าตาแบบที่หนู ไม่เคยเห็นข้างนึงเป็นมอเตอร์ไซค์อีกข้างเป็นกะบะสี่เหลี่ยมเล็กๆ.....สนุ๊ กกกกกซาหนุก ลมพัดผมหนูกระเจิง ยายศรีก็ไปด้วย...ไปนั่งคุยที่รีสอร์ทเล็กๆของป้าติ๋ม..มี๊จูงหนูวิ่ง วิ่ง แล้วก็วิ่ง...อยู่ที่นี่หนูอึดอัดเหมือนกันเพราะหนูต้องใส่สายจูงตลอด เวลา...แรกๆมี๊ร้องไห้แล้วอธิบายให้หนูฟังว่าทำไมต้องใส่มี๊บอกว่าเพราะมี๊ ห่วงหนู..ที่บ้านน้าต่ายไม่มีรั้วเหมือนบ้านเสนา หนูจะวิ่งเป็นจรวดแบบนั้นไม่ได้เพราะข้างนอกเป็นถนนที่หนูจะวิ่งไปชนกับรถ คันใหญ่..ใหญ่กว่ารถขยะสีเขียวๆที่หนูเคยเห่าทุกเช้าซะอีก...หนูถอนหายใจ แล้วทำหน้าว่าเข้าใจค่ะ...แต่พอเบื่อมากๆหนูก็ร้องอี๊ อี๊ อี๊...เบาๆประท้วงเสียทีนึง...ที่บ้านป้าติ๋มมีหนุ่มๆหน้าตาเช๊ยย เชยมาแอบดูหนูด้วย อิ อิ...แต่มี๊ไม่ให้หนูเล่นกับใครกลัวหนูไม่สบาย...หนูแอบสบตากับเจ้าตัวเล็ก สีดำที่ขาสั้นพอๆกับหนูบ้านฝั่งตรงกันข้ามแต่มี๊ไม่ให้หนูส่งสายตากันนานนัก เพราะกลัวเจ้าตัวเล็กๆจะวิ่งข้ามถนนมาหาหนู..เฮ้อออ...หนูอยากให้มี๊มีที่ กว้างๆเหมือนเดิมจัง......... ...เรื่องเล่าจากเจ้าวันเพ็น..ตอนที่๓ .......เมื่อคืนวานมี๊ขออนุญาตหนู...มั๊ง.....ไปบาบีคิวปาร์ตี้ที่ร้านกิ๊ก กี้กับโยเก้นชาวสวีเดนเพื่อนคุณรอน น้าต่ายไปรับป้าติ๋มมาด้วย...กลับดึ๊กกดึกหนูนอนคอยมี๊ที่ปลายที่นอนบนผ้า นวมของมี๊แล้วก็รู้สึกว้าเหว่จนอยากหอนเบาๆแต่เกรงใจยายศรีแล้วก็พี่ แมว...พี่แมวเป็นลูกน้องน้าต่ายช่วยน้าต่ายทำงาน ทำขนม..พี่แมวรักหนูเวลาเจอหนูตอนออกไปฉี่พี่แมวจะร้องเอ๊ยยย..เอ๊ยยยใส่ หนู..ตอนมี๊เข้ากรุงเทพครั้งที่แล้วพี่แมวก็พาหนูไปฉี่ทั้งวัน..หนูชอบพี่ แมวค่ะ...อยู่ที่นี่หนูจะประจบเอาใจคนที่หนูรู้(ดี ) ว่าต้องประจบอย่างยายศรี...แต่ก่อนเวลายายศรีมาหามี๊ที่บ้านเสนาหนูเข้าไปหา ยายศรียายศรีจะทำเสียงชิ้ววว..ชิ้ววววใส่หนูแต่ตอนนี้ยายศรีเรียกหนูไปหา แล้วก็พยายามสอนให้หนูสวัสดี...หนูอยากบอกยายศรีว่าหนูสวัสดีไม่ได้ร๊อกกก เพราะหนูอ้วนขาหนูก็สั้นสวัสดีไม่สวย...หนูก็ได้แต่ซบขายายศรีเอาใจคนแก่ เสียหน่อย...จะได้ไม่เสียกำลังใจ... ...เรื่องเล่าจากเจ้าวันเพ็น... ......มี๊ลงไปใส่บาตรแต่เช้า..วันนี้เป็นวันดีของมี๊หนูเห็นมี๊เตรียมของ ตั้งแตเมื่คืน..พี่แมวหุงข้าวหม้ใหญ่...ห๊อออมหอม...อยู่ที่นี่มี๊ให้หนูกิน แต่อาหารเม็ด..น้าต่ายเลยแอบเอาอะไรอร่อยๆให้หนูกินไงมี๊กลัวหนูทำเลอะ เทอะ...ฮื้อ..หนูอยากกินข้าวเหมือนแต่ก่อนจัง....เวลาหนูเจอคุณRONหนูจะทำ หางแกว่งๆแล้วสบตาแบบว่าหนูเข้าใจที่เค้าทักหนู r u o.k ...น้าต่ายให้เมอร์แรงหวานอร่อยหนู2ชิ้นแต่คุณRON ห้ามน้าต่ายแล้วบอกว่าขนมหวานไม่เหมาะกับ...smart dogอย่างหนู..หนูล่ะปลื้มจังเลย.....ใส่บาตรเสร็จน้าต่ายชวนมี๊ไปซื้อปูที่ หาดสวนวังแก้ว...มี๊เล่าให้หนูฟังว่าที่นั่นซ๊วยยย สวย...ต้นไม้ใหญ่ๆเต็มไปหมดมีมะม่วงป่า ต้นไม้แปลกๆที่มี๊ไม่รู้จัก มี๊เก็บขนุนป่าลูกเล็กๆมาฝากยายศรี...ถนนในนั้นเป็นเนินขึ้นๆลงๆแบบภูเขา... อากาศเย็นสบาย มี๊ว่าอยากมาวิ่งออกกำลังแต่มันก็ไกลจากบ้านพอดู...นอกจากหนูที่มี๊ไม่ทอด ทิ้งแล้ว ต้นไม้เกือบทุกต้นที่บ้านเสนามี๊ให้คนมาล้อม ขุดเอามาหมดทุกต้น...ตอนนี้ทุกต้นเค้าฟื้นจากสลบเริ่มมีดอกแล้วหนูก็ไป พิสูจน์กลิ่นทุกเช้าจะได้หายคิดถึงบ้านเสนา...วันนี้มี๊ดูมีความสุข วันนี้หนูสัญญาว่าจะไม่ร้องอี๊..อี๊ เป็นของขวัญให้มี๊...แล้วก็ขอให้มี๊เป็นมี๊ที่ใจดีของหนูนะคะ.. ...เรื่องเล่าจากเจ้าวันเพ็น... ......หนูเอะใจ...มี๊ตื่นตั้งแต่ตีหนึ่งออกไปทำงานนอกห้องที่เรานอน...นานๆ มี๊ถึงจะเข้ามาบอกหนู..” มี๊อยู่ตรงนี้นะคะทำงานหาตังค์มาซื้อขนมให้หนูกิน “...หนูว่ามันไม่ปกติ....แต่หนูก็ได้ยินเสียงเครื่องจักรของมี๊ทำงานจนไก่ ที่ไหนไม่รู้ขันแบบง่วงๆ....มี๊อาบน้ำแต่งตัว...เสียงน้าต่ายทำจานก๊อก แก๊ก...มี๊แต่งตัวเสร็จแล้วมากอดหนู...ขออนุญาต...มั๊ง.....มี๊จะเข้า กรุงเทพไปหาลูกค้า...อยู่กับพี่แมวอย่าดื้อนะคะ...หนูยินแล้วหนูเหงาจังแต่ หนูก็พยายามเข้าใจ...หนูวิ่งไปนอนที่กองผ้านวมมองดูมี๊....แล้วมี๊ก็เอาโย เกิตรสสตรอเบอร์รี่ที่หนูชอบใส่ชามให้หนู..จูบหนูหลายๆทีแล้วมี๊ก็หายไปกับ ความมืดยามเช้ากับน้าต่าย...พี่แมวพาหนูไปฉี่ตอนเช้า...แต่ตอนเย็นมากๆ คุณRONเตือนให้พี่แมวขึ้นมาพาหนูไปฉี่....หนูว่าคุณRONแอบรักหนูเข้าแล้วอิ อิ....มี๊กลับมาตอนค่ำนิดๆสะบักสะบอมกับการเดินทาง...แต่หนูกับมี๊ก็มี แรงกระโดดเข้าหากัน...หนูนอนหงายผลึ่งให้มี๊จูบพุงหนูฟืดๆๆๆๆ...แค่นี้หนูก็ มีความสุขแล้วค่ะ...คืนนี้หนูจะแสนดีกล่อมมี๊เหนื่อยๆให้หลับแต่ไม่นอนทับ หนูก่อนค่ะ....เอ่...เอ๊.... หัวข้อ: Re: ......ร่ายโศลกโศกกำสรดเป็นบทเอื้อน... เริ่มหัวข้อโดย: อักษรารำพัน ที่ 27 มีนาคม 2011, 08:31:AM .....ร่ายโศลกโศกกำสรดเป็นบทเอื้อน ...สวาทเลือนเฟือนสิ้นกลิ่นนบุปผา ...ผึ้งภมรเมินซอนเคล้าเย้าผกา ...ดวงจันทราเคยผาดผ่องกลับหมองมัว .....ภาณุมาศที่สาดแสงแห่งอุษา ...ก็โรยรามืดพยับดับสลัว ...ร้อยดวงดาวร้าวหนักหน่วงร่วงระรัว ...เทวษกลั้วท่ามกมล..เหลือ..อนธการ ๐ วิปโยค..โศกใด..ให้กำสรด จึงร่ายพจน์..บทเอื้อน..เหมือนฟุ้งซ่าน ช่างหมองมัว..ทั่วฟ้า..ถึงบาดาล ฤา ถึงกาล..แตกดับ..สิ้นกัปกัลล์ ๐ จึงทั้งสิ้น..ดินฟ้า..เกิดอาเพท อะไรหรือ..คือเหตุ..แห่งเศร้าศัลย์ สัตว์-มนุษย์..ครุฑ..เทพ-เทวัญ คงถึงกาล..ดับขันธ์..ในวันนี้..... หัวข้อ: Re: ......ร่ายโศลกโศกกำสรดเป็นบทเอื้อน... เริ่มหัวข้อโดย: ...สียะตรา.. ที่ 27 มีนาคม 2011, 08:43:AM ......ขอเอนอิงพิงเวหานภากาศ ...ให้พิลาสผ่องแพ่งแห่งแสงโสม ...เป็นประหนึ่งสายธารามาประโลม ...เป็นประหนึ่งสายธารามาประโลม ...เมื่อทุกข์โถมโทมนัสยามรัตติกาล หัวข้อ: Re: ......ร่ายโศลกโศกกำสรดเป็นบทเอื้อน... เริ่มหัวข้อโดย: อักษรารำพัน ที่ 27 มีนาคม 2011, 09:02:AM ......ขอเอนอิงพิงเวหานภากาศ ...ให้พิลาสผ่องแพ่งแห่งแสงโสม ...เป็นประหนึ่งสายธารามาประโลม ...เมื่อทุกข์โถมโทมนัสยามรัตติกาล ๐ ความระทม..ขมขื่น..แห่งคืนค่ำ และช้ำชอก..ตอกย้ำ..เกินพร่ำขาน เจ็บแสนเจ็บ..เหน็บล่วง..ถึงห้วงมาน ถูกรักราน..ผลาญพร่า..เกินกว่าตาย หัวข้อ: Re: ......ร่ายโศลกโศกกำสรดเป็นบทเอื้อน... เริ่มหัวข้อโดย: ...สียะตรา.. ที่ 27 มีนาคม 2011, 10:10:AM .....ยามพิรุณถั่งท้น............................... .ชลสาย
...เปรียบดั่งอัสสุปราย ............................ก่นไห้ ...ทุกข์ขมปร่ากลืนกาย ...........................หมดชื่น ...หลับตื่นฝืนอกไหม้ ..............................บ่มร้าว ทับทวี หัวข้อ: Re: ......ร่ายโศลกโศกกำสรดเป็นบทเอื้อน... เริ่มหัวข้อโดย: อักษรารำพัน ที่ 27 มีนาคม 2011, 11:08:AM .....ยามพิรุณถั่งท้น............................... .ชลสาย
...เปรียบดั่งอัสสุปราย ............................ก่นไห้ ...ทุกข์ขมปร่ากลืนกาย ...........................หมดชื่น ...หลับตื่นฝืนอกไหม้ ..............................บ่มร้าวทับทวี ๐ Lonely in the night..............I cry Broken heart is why...............I hurt Hope that I could find............Someone to love Everywhere I search..............But never find. ๐ อาดูรยามค่ำร้อง....................ลำพัง อกหักรักภิณฑ์พัง......................เจ็บแท้ หมายใจใคร่สมหวัง...................ใครหนึ่ง เคียงนา ทุกแห่งเสาะชะแง้.....................แต่ไร้ใครเลย..... หัวข้อ: Re: ......ร่ายโศลกโศกกำสรดเป็นบทเอื้อน... เริ่มหัวข้อโดย: ...สียะตรา.. ที่ 27 มีนาคม 2011, 11:23:AM ......เลื่อนละล่องผองประพาฬซานมาซบ ...คลื่นสงบกลบวายุประทุโถม ...เกลื่อนก่องเก็จดั่งเพชรสาย..ปรายประโลม ...ท่ามแสงโสมโคมแห่งฟ้านภาวรรณ หัวข้อ: Re: ......ร่ายโศลกโศกกำสรดเป็นบทเอื้อน... เริ่มหัวข้อโดย: ...สียะตรา.. ที่ 29 มีนาคม 2011, 04:56:AM ......นภดลหม่นครึ้ม.............................อันธการ ...สูญสรรพกังสดาล.............................เพราะพร้อง ...กลีบผการ่วงราญ..............................แหลกป่น ...ราวโลกกำสรดร้อง............................ล่มร้างรมณีย์ หัวข้อ: Re: ......ร่ายโศลกโศกกำสรดเป็นบทเอื้อน... เริ่มหัวข้อโดย: อักษรารำพัน ที่ 29 มีนาคม 2011, 12:45:PM ......เลื่อนละล่องผองประพาฬซานมาซบ ...คลื่นสงบกลบวายุประทุโถม ...เกลื่อนก่องเก็จดั่งเพชรสาย..ปรายประโลม ...ท่ามแสงโสมโคมแห่งฟ้านภาวรรณ ๐ ลุทิวา..ราตรี..ก็คลี่ม่าน คีตกานต์..ขานขับ..รับบุหลัน ดาราเคียง..เรียงรับ..นับอนันต์ งามเฉิดฉัน..พรรณราย..ประกายแวว หัวข้อ: Re: ......ร่ายโศลกโศกกำสรดเป็นบทเอื้อน... เริ่มหัวข้อโดย: อักษรารำพัน ที่ 29 มีนาคม 2011, 12:50:PM ......นภดลหม่นครึ้ม.......................อันธการ
...สูญสรรพกังสดาล......................เพราะพร้อง ...กลีบผการ่วงราญ........................แหลกป่น ...ราวโลกกำสรดร้อง......................ล่มร้างรมณีย์ ๐ นทีนองทั่วพื้น............................พสุธา วายุพัดโถมถา.................................ทั่วด้าว เพลิงผลาญทั่วพารา.........................วิบัติ กายป่นจิตป่วนร้าว...........................ร่ำไห้ระงมฯ หัวข้อ: Re: ......ร่ายโศลกโศกกำสรดเป็นบทเอื้อน... เริ่มหัวข้อโดย: ...สียะตรา.. ที่ 29 มีนาคม 2011, 02:23:PM ..........ลวงรำเพยเอ่ยวาจาว่ายังห่วง ......แล้วไยล่วงลาร้างไกลจนไม่เห็น ......ดั่งมิรู้กู่รำพันกับจันทร์เพ็ญ ......มิวายเว้นให้ส่งวาทย์สวาททวง หัวข้อ: Re: ......ร่ายโศลกโศกกำสรดเป็นบทเอื้อน... เริ่มหัวข้อโดย: อักษรารำพัน ที่ 29 มีนาคม 2011, 05:13:PM โศกสลดกำสรดรันทดโลก ร่ายโศลกราวสลายมลายฝัน สะเทือนสะทกวิตกครัน คงคาล่วงสวรรค์ลาญมนุษย์ อัดอั้นหันไปทิศใดเล่า จะบรรเทาทุกข์ถวิลให้สิ้นสุด มองดินมองฟ้าไยฟ้าทรุด มาประทุษปวงประชาชะตาใด กามนิต ๒๗ มี.ค.๕๔ ๐ คลื่นยักษ์โหม..โถมใส่..โลกไหวหวั่น ดินสะเทือน..เลื่อนลั่น..พื้นสั่นไหว หรือคือทัณฑ์..บัญชา..จากฟ้าไกล ทุกหัวใจ..ในโลก..วิโยคครัน ๐ ฤาชะตา..ฟ้าดิน..ใกล้สิ้นสุด มาถึงจุด..เริ่มนับ..กาลดับขันธ์ จึงอาเภท..เหตุการณ์..ผลาญชีวัน คราล่วงลับ..กัปกัลล์..พุทธันดร... หัวข้อ: Re: ......ร่ายโศลกโศกกำสรดเป็นบทเอื้อน... เริ่มหัวข้อโดย: ...สียะตรา.. ที่ 30 มีนาคม 2011, 12:33:AM ......โอภาสพระพุทธา ...อำไพพาพราวรังสี ...แสงอาบ ณ ฤดี ...ให้พ้นมืดและหมองมัว ......นำทางสว่างล้ำ ...มนย้ำ..มโนกลัว ...สิ่งซึ่งผูกพันพัว ...ภินท์สลายมลายลง ......จิตหนึ่ง..ปฏิพัทธ์ ...มิอาจขัดจะคืนคง ...ดุจเดือนเยือนเต็มวง ...แม้คืนแรมยังแย้มเงา ......จิตหนึ่ง..จรล่วง ...ละจากบ่วงอันมัวเมา ...สงัดจากขลาดเขลา ...กรรมรวมเคยร่วมกัน ......ขอแสงแห่งวิมุต ...เอื้อพิสุทธิ์ปัญญาพลัน ...บรรเจิดและเฉิดฉัน ...พ้นบุพกรรมที่ทำมา |