หัวข้อ: *เกลียดกลอนรัก* เริ่มหัวข้อโดย: ฉันเอง ที่ 03 กุมภาพันธ์ 2011, 01:10:PM (http://upic.me/i/hs/4007_1257321265uofn.jpg) (http://upic.me/show/20484823) เฝ้าพร่ำเขียนกลอนรักมานานเนิ่น ไม่สะเทิ้นใจเธอเผลอผกผัน ไม่มามองเมินใยดีมีให้กัน เฝ้านับวันเหินห่างจางร้างไกล กลั่นจากใจทุกหยดจรดกระดาษ มิได้ขาดคำว่ารักเธอผลักไส แล้วจะเขียนต่อไปอีกเพื่ออะไร ไม่มีใครแทนเธอได้สักคนเดียว (http://www.ohzeed.com/bar_002.gif) (http://www.ohzeed.com) ฉันเอง.. หัวข้อ: Re: *เกลียดกลอนรัก* เริ่มหัวข้อโดย: แม่ค้าหน้าหวาน ที่ 03 กุมภาพันธ์ 2011, 03:19:PM (http://yamiejung18.webs.com/photos/D-day-A1/x23.png) โปรดเถิดหนาปรายตามาทางนี้ ฟังวจีเลอค่าว่าแลเหลียว ถวิลถึงยังคอยร่วมร้อยเกลียว เข้ายึดเหนี่ยวคล้องทรวงด้วยห่วงใย ยังคงรักมิจางแม้ห่างหาย ล่ามตรึงสายสัมพันธ์อย่าหวั่นไหว วางรูปรอยคำมั่นสัญญาใจ ซุกซ่อนไว้เคียงข้างณ..กลางทรวง ~แม่ค้าหน้าหวาน~ (http://yamiejung18.webs.com/photos/D-day-A1/x23.png) หัวข้อ: Re: *เกลียดกลอนรัก* เริ่มหัวข้อโดย: ไพร พนาวัลย์ ที่ 03 กุมภาพันธ์ 2011, 05:04:PM อย่าให้ความโกรธ,เกลียด,เบียดกลอนรัก แม้อกหักกี่ครั้งยังห่วงหวง เอาความรักเข้าถมสู้ลมลวง แล้วตักตวงเมตตาเข้าปรานี เพราะรักคนที่เขาไม่เข้าข้าง จึงต้องร้างต้องลามาหน่ายหนี เห็นรักเราไร้ค่าดั่งราคี ก็จะไม่เซ้าซี้ให้รีรอ ยังมีอีกมากมายที่รายล้อม แต่เราพร้อมหรือไม่ใจระย่อ ความสามารถร่วมเรียงอย่างเพียงพอ เพื่อเติมต่อสัมพันธ์ให้มั่นคง อย่าเพิ่งเกลียดกลอนรักพักไว้ก่อน เอาไว้อ้อนอ่อนนุ่มยามลุ่มหลง เอากลอนหวานหว่านล้อมพยอมยงค์ รักซื่อตรงเพียงนางไม่ห่างนวล emo_55 "ปรางค์ สามยอด" มาแจม ฉันเอง หน่อย นะ หัวข้อ: Re: *เกลียดกลอนรัก* เริ่มหัวข้อโดย: Lจ้าVojกaoนบทนี้* ที่ 03 กุมภาพันธ์ 2011, 05:55:PM เปิดเว็บมาดูประเด็นเห็นหัวข้อ ว่าใครหนอตั้งมาได้ถูกใจข้า เรื่องกลอนรักกลอนใคร่ให้ระอา มองครั้งใดนัยนาให้พร่ามัว ข้าคิดลาลานอักษร*เกลียดกลอนรัก* มันยึกยักป้วนเปี้ยนข้าเวียนหัว สารพันสรรคำมาพร่ำรัว ช่างน่ากลัวจะหลงลมระทมใจ อยากขอลาไปก่อนกับกลอนรัก อยากรู้จักกกลอนดีที่สดใส อยากเห็นกลอนที่อ่านแล้วไม่ช้ำใน ไม่อยากเห็นกลอนพาไปให้ช้ำทรวง เขียนเรื่องอื่นกันบ้างหวังชูเชิด ให้บังเกิดการสร้างสรรค์อันใหญ่หลวง ดีกว่ามาบอกช้ำด้วยคำลวง ทั้งที่ดวงใจสุข...ทุกเดือนปี ต้องขอลาไปก่อนกับกลอนรัก ด้วยข้าชักจะละอายจึงหน่ายหนี ต่อนานหนอจึงจะแสร้งแต่งสักที ด้วยตัวข้าหาได้มีทุกข์อันใด มาแต่งกลอนวอนใครคงไม่ซึ้ง กลอนทะลึ่งตึงตังยังพอไหว เมื่อแต่งกลอนหารักมันหนักใจ ยิ่งเขียนไปยิ่งได้อ่านพาลปิดคอมฯ ปล.ไหนๆก็ไหนแล้ว เอาให้สมหัวข้อ emo_45 อีกอย่างใครตั้งหัวข้อนี้ขึ้นมาเหมือนรู้ใจ บางที การเขียนกลอนมันหนักไปทางความรู้สึกที่เป็นนามธรรมมากเกินไป ขาดสิ่งที่เรียกว่ารูปธรรม ผมคิดว่าการเขียนกลอนที่ดี มันคงไม่ใช่วนกับคำที่ว่า ชั้นรู้สึกอย่างไร ชั้นรักใคร ชั้นเจอกับอะไร เป็นนักกลอนที่ดีมันต้องออกไกลจากตัวเองบ้าง ต้องเขียนเรื่องทั่วๆไป เขียนหลายแบบ หลายแนว โดยเฉพาะเรื่องรอบตัว หรือเรื่องไกลตัว อาทิเช่น เหตุการณ์บ้านเมือง หัวข้อข่าวดัง ประเด็นที่กำลังพูดกันในสังคม สิ่งเหล่านี้ เราควรหยิบยกมาเขียน ตามจังหวะและโอกาส นอกจากนี้คือ การเปลี่ยนบรรยากาศไปเขียนเรื่องอื่นๆ เช่นรื่องตลก เรื่องที่อ่านแล้วสบายใจ การเขียนกลอนที่ดีผมคิดว่าไม่จำเป็นต้องเขียนยาวเสมอไป จากประสบการณ์ที่ผมเจอมา เขียนกลอนยาว คนส่วนมากมักไม่ค่อยมีเวลาอ่าน เนื่องจากกลอนมันเยอะ บวกกับความเร่งรีบของคน กลอนยาวนั้นถ้าบทเดียวยังพอทำเนา แต่ถ้ายาวกับยาวมาประชันกันหลายๆบทบางทีแทบจะไม่ได้อ่านเลย อย่างมากจะได้อ่านก็เพียงบทเดียว หรือสองบท(เพราะต้องรีบไปอ่านกระทู้อื่นๆอีก) ที่พูดมานี้ไม่ใช่ว่าจะติว่ากลอนยาวหรือกลอนรักว่าไม่ดีนะครับ เพียงแต่นำเสนอข้อมูลในแง่ ของคนอ่านให้ทราบ(ผมก็เป็นคนอ่านด้วย) ฉันเอง มาเปิดประเด็นนี้ถือว่าตรงกับใจผมก็เลยขอถือโอกาสพูด(เขียน)ให้ทราบไว้เป็นข้อมูล ไว้ประกอบการพิจารณาในการแต่งกลอนกัน หากผิดพลาดพลั้งไปอย่างไร ต้องขออภัยเป็นอย่างสูง Mayawin หัวข้อ: Re: *เกลียดกลอนรัก* เริ่มหัวข้อโดย: my smile ที่ 03 กุมภาพันธ์ 2011, 07:25:PM (http://www.ohzeed.com/bar_022.gif) (http://www.ohzeed.com) (http://www.ohzeed.com/bar_035.gif) (http://www.ohzeed.com) ไม่ได้""เกลียด แต่ไม่อยากเฉียด.ไปหา ไม่ได้อยาก.หลบตา แค่ไม่อยากเสียเวลา..กับเธอ เบื่อ..ความรัก เบื่อกับการอกหัก..ที่ต้องช้ำอย่างนี้.เสมอ เบื่อที่ต้องทำอะไรต่อมิอะไร..ให้เธอ เบื่อกับการพบเจอ..คนไม่จริงใจ เกลียด..ทุกสิ่ง เกลียดตัวเอง..ที่คิดถึงเธอ..ไม่ว่าอยู่ไหน เกลียดกลอนรัก.ที่หวานซึ้ง.ตรึง.จับใจ เกลียดคนอย่างเธอ.เข้าใจไหม .เกลียด. เกลียด .ฉันเกลียดเธอ (http://www.ohzeed.com/bar_035.gif) (http://www.ohzeed.com) (http://www.ohzeed.com/bar_022.gif) (http://www.ohzeed.com) หัวข้อ: Re: *เกลียดกลอนรัก* เริ่มหัวข้อโดย: พรายม่าน ที่ 03 กุมภาพันธ์ 2011, 08:03:PM อ้าง Mayawin เอ๊า พี่ก็พูดเกินไปไม่ดูบอร์ด ก็กลอนพรอดออดอิดกลอนคิดถึง กลอนอ้อนวอนงอนโง่นบ่นรำพึง เหยียบไปถึงครึ่งแสนแน่นกะติ๊บ กลอนอวยพรหวังดีสี่พันกว่า กลอนปรัชญาหาแทบตายไม่กี่หยิบ แล้วจะให้เขียนอะไรไปไกลลิบ เลยกระดุบกระดิบ อยู่กลอนเดียว พรายม่าน สันทราย ๐๓.๐๒.๕๔ หัวข้อ: Re: *เกลียดกลอนรัก* เริ่มหัวข้อโดย: ฉันเอง ที่ 03 กุมภาพันธ์ 2011, 08:09:PM ปล.ไหนๆก็ไหนแล้ว เอาให้สมหัวข้อ emo_45 อีกอย่างใครตั้งหัวข้อนี้ขึ้นมาเหมือนรู้ใจ บางที การเขียนกลอนมันหนักไปทางความรู้สึกที่เป็นนามธรรมมากเกินไป ขาดสิ่งที่เรียกว่ารูปธรรม ผมคิดว่าการเขียนกลอนที่ดี มันคงไม่ใช่วนกับคำที่ว่า ชั้นรู้สึกอย่างไร ชั้นรักใคร ชั้นเจอกับอะไร เป็นนักกลอนที่ดีมันต้องออกไกลจากตัวเองบ้าง ต้องเขียนเรื่องทั่วๆไป เขียนหลายแบบ หลายแนว โดยเฉพาะเรื่องรอบตัว หรือเรื่องไกลตัว อาทิเช่น เหตุการณ์บ้านเมือง หัวข้อข่าวดัง ประเด็นที่กำลังพูดกันในสังคม สิ่งเหล่านี้ เราควรหยิบยกมาเขียน ตามจังหวะและโอกาส นอกจากนี้คือ การเปลี่ยนบรรยากาศไปเขียนเรื่องอื่นๆ เช่นรื่องตลก เรื่องที่อ่านแล้วสบายใจ การเขียนกลอนที่ดีผมคิดว่าไม่จำเป็นต้องเขียนยาวเสมอไป จากประสบการณ์ที่ผมเจอมา เขียนกลอนยาว คนส่วนมากมักไม่ค่อยมีเวลาอ่าน เนื่องจากกลอนมันเยอะ บวกกับความเร่งรีบของคน กลอนยาวนั้นถ้าบทเดียวยังพอทำเนา แต่ถ้ายาวกับยาวมาประชันกันหลายๆบทบางทีแทบจะไม่ได้อ่านเลย อย่างมากจะได้อ่านก็เพียงบทเดียว หรือสองบท(เพราะต้องรีบไปอ่านกระทู้อื่นๆอีก) ที่พูดมานี้ไม่ใช่ว่าจะติว่ากลอนยาวหรือกลอนรักว่าไม่ดีนะครับ เพียงแต่นำเสนอข้อมูลในแง่ ของคนอ่านให้ทราบ(ผมก็เป็นคนอ่านด้วย) ฉันเอง มาเปิดประเด็นนี้ถือว่าตรงกับใจผมก็เลยขอถือโอกาสพูด(เขียน)ให้ทราบไว้เป็นข้อมูล ไว้ประกอบการพิจารณาในการแต่งกลอนกัน หากผิดพลาดพลั้งไปอย่างไร ต้องขออภัยเป็นอย่างสูง Mayawin ตามที่คุณMayawinแสดงความเห็นมาก็ถูกคับ สำหรับผมอะไรที่เขียนตามความรู้สึก จะชอบเขียนมากกว่า ก็รู้ครับว่าเป็นเพียงกลอน ถ่ายทอดกันไปมา แนวใครก็แนวมัน เหมือนกับเพลง แต่ต้องยอมรับอย่างหนึ่งนะครับว่า ความรักมีอิทธิพลอย่างสูง ต่อนักเขียนกลอนที่เพิ่งเริ่มเขียน และความรักมันอยู่ในตัวตนทุกผู้คน เป็นสิ่งหนึ่งที่พวกเขา เธอ สามารถหยิบมาเขียนงานกลอนได้ดี ต่อไปเมื่อเก่งขึ้น เข้าใจในงานเขียนมากขึ้นเขาอาจจะเปลี่ยนไปแนวอื่น และอีกหลายๆหัวข้อที่เขาสนใจ ถึงอย่างไรก็ต้องทนอ่านต่อไปครับ เพราะกลอนรักไม่เคยล้าสมัย ไม่ตกยุค ตราบใดที่คนเรายังรักกัน ฉันเอง.. หัวข้อ: Re: *เกลียดกลอนรัก* เริ่มหัวข้อโดย: ดอกกระเจียว ที่ 03 กุมภาพันธ์ 2011, 08:31:PM ตอบข้อข้องใจทั้งสองท่านครับ emo_54
คือคนที่เขียนกลอนหรือกวีเป็นคนแรกของโลก เข้าใจว่าาถ่ายทอดมาจากความรู้สึกของคำว่า"รัก" ครับอิอิ ลองถามตัวเองสิครับว่า เราเขียนกลอนแรกของเราเป็นกลอนที่เกี่ยวกับอะไร ใช่ความรักความผูกพันใช่หรือไม่ อย่าบอกนะครับว่าท่านเขียนกลอนเป็นกลอนแรกเกี่ยวกับปรัชญาชีวิตที่น่าซาบซึ้ง มันเลยเป็นเรื่องธรรมดาเวลาคิดอะไรไม่ออก คนเราส่วนใหญ่จะหวนกลับมาสู่ความเดิมๆ ซึ่งเป็นความรู้สึกแรกของกวี อันได้แก่กลอนรักๆ ใคร่ๆ บางคนบางท่านถึงขนาดเข้าใจว่า กลอนหรือบทกลอนถ้าหนีจากเรื่องพวกนี้ก็ไม่ใช่กลอนแล้ว เลยตะบี้ตะบันวกไปวนมามิรู้เบื่อหน่าย ส่วนท่านที่เริ่มเบื่อ คงเพราะเริมรู้สึกตัวแล้วว่า นี่เราทำอะไรอยู่กันแน่ หุหุ ทำต่อไปเถิดครับ ถ้าท่านยังรู้สึกไม่เบื่อที่ถ่ายทอดความรู้สึกนั้น เหมือนผมในบางครั้ง emo_26 หัวข้อ: Re: *เกลียดกลอนรัก* เริ่มหัวข้อโดย: ดอกกระเจียว ที่ 03 กุมภาพันธ์ 2011, 08:46:PM (http://add.ohzeed.com/images/41850_tn.jpg) รักคำนี้มีค่าถ้าเธอรัก เฝ้าตระหนักในนามและความหมาย แม้วันหนึ่งสิ้นจีรังพังทะลาย ยังมิคลายหวนเคยได้เอ่ยคำ (http://www.ohzeed.com/bar_029.gif) (http://www.ohzeed.com) หัวข้อ: Re: *เกลียดกลอนรัก* เริ่มหัวข้อโดย: chaipan1999 ที่ 03 กุมภาพันธ์ 2011, 09:01:PM เกลียดกลอนรัก แต่ใจ ยังแต่งได้ จิตยังใฝ่ ถ้อยรักษ์ นักภาษา จะอกหัก รวดร้าว แต่ใดมา แต่ใจข้า ถลำนัก ยังรักกลอน... emo_85ถึงจะเกลียดกลอนรัก...แต่ยังรักกลอนนะจ๊ะ emo_85 หัวข้อ: Re: *เกลียดกลอนรัก* เริ่มหัวข้อโดย: Lจ้าVojกaoนบทนี้* ที่ 04 กุมภาพันธ์ 2011, 02:33:AM ตอบข้อข้องใจทั้งสองท่านครับ emo_54 คือคนที่เขียนกลอนหรือกวีเป็นคนแรกของโลก เข้าใจว่าาถ่ายทอดมาจากความรู้สึกของคำว่า"รัก" ครับอิอิ ลองถามตัวเองสิครับว่า เราเขียนกลอนแรกของเราเป็นกลอนที่เกี่ยวกับอะไร ใช่ความรักความผูกพันใช่หรือไม่ อย่าบอกนะครับว่าท่านเขียนกลอนเป็นกลอนแรกเกี่ยวกับปรัชญาชีวิตที่น่าซาบซึ้ง มันเลยเป็นเรื่องธรรมดาเวลาคิดอะไรไม่ออก คนเราส่วนใหญ่จะหวนกลับมาสู่ความเดิมๆ ซึ่งเป็นความรู้สึกแรกของกวี อันได้แก่กลอนรักๆ ใคร่ๆ บางคนบางท่านถึงขนาดเข้าใจว่า กลอนหรือบทกลอนถ้าหนีจากเรื่องพวกนี้ก็ไม่ใช่กลอนแล้ว เลยตะบี้ตะบันวกไปวนมามิรู้เบื่อหน่าย ส่วนท่านที่เริ่มเบื่อ คงเพราะเริมรู้สึกตัวแล้วว่า นี่เราทำอะไรอยู่กันแน่ หุหุ ทำต่อไปเถิดครับ ถ้าท่านยังรู้สึกไม่เบื่อที่ถ่ายทอดความรู้สึกนั้น เหมือนผมในบางครั้ง emo_26 โฮะๆๆๆ emo_26 คุณดอกกระเจียวแม่นเหมือนตาเห็น กลอนที่ผมแต่งบทแรกในชีวิตกลับเป็นกลอนแนวปรัชญาชีวิตจริงๆ แต่งเมื่อปลายปี ๒๕๒๙ ความยาว ๔ บท แต่ต่อมาก็แต่งกลอนรักละครับ ส่วนที่เขียนไว้ข้างบนนั้นก็ไม่ได้เกลียดกลอนรักอะไร เพียงแต่เห็นทุกคนแต่งเก่งๆกันทั้งนั้น ก็เลยคิดว่าน่าจะลอง สลับสับเปลี่ยนแนวกันดูบ้าง เพื่อหนีความจำเจไงครับ อีกอย่าง คือมันเป็นการฝึกลับฝีมือไปในตัว แต่ถ้าชอบแต่กลอนรักก็ไม่ได้ว่าอะไร ผมประชาธิปไตย์อยู่แล้วครับท่าน emo_54 หัวข้อ: Re: *เกลียดกลอนรัก* เริ่มหัวข้อโดย: masapaer ที่ 04 กุมภาพันธ์ 2011, 11:16:AM เพียงเข้ามาหัดกานท์ที่บ้านนี้ ชอบกลอนยาวมากพี่ที่ลื่นไหล เห็นคนเขียนเพียรสร้างอย่างตั้งใจ ผูกเรื่องใดล้วนงามคำบรรจง พึ่งมาหัดศาสตร์เขียนเพียรลิขิต มาผูกมิตรไมตรีวจีส่ง อ่านความแต่งแห่งลิขิตมิตรเพียรลง ด้วยใจคงนับถือคือชื่นชม กลอนแรกคือกลอนใดมิได้จด แต่มากบทอกหักรักขื่นขม เขียนบรรยายบ้าบอล้อตามลม ตามประสานิยมรักห่มใจ เรื่องความรักหรือเกลียดเบียดสนิท เป็นเหมือนมิตรชิดจินต์ถวิลใกล้ คือรู้สึกอ่อนบางอยู่ข้างใน จึงสื่อขานกานท์ง่ายเพราะใจเรา เข้ามาเขียนกานท์กลอนตอนพักผ่อน คำจึงอ่อนคุณค่าดูน่าเขลา หากใครจะหัวเราะขอเบาเบา emo_25 เพราะงานหนูห่างเงาวรรณกรรม อยากหัดเขียนกลอนรักที่ปักจิต หัดลิขิตปรัชญายังน่าขำ หนูมิใช่นักเขียนเวียนประจำ แค่ร่วมคำขอครูช่วยดูแล emo_50 emo_85 หัวข้อ: Re: *เกลียดกลอนรัก* เริ่มหัวข้อโดย: บัณฑิตเมืองสิงห์ ที่ 04 กุมภาพันธ์ 2011, 11:34:AM มันเลือนรางรางเลือนนะเพื่อนเอ๋ย กลอนกานท์เอยเคยคิดวินิจฉัย กลอนรักหรือกลอนหลงปลงอาลัย เศร้าฤทัยเฉกเช่นเล่นกวี ครั้งแรกนั้นลองลมประถมสาม กลอนไม่งามไม่เพราะเสนาะนี่ ก็อาจารย์สั่งไปทำไงดี เขียนทุกทีผิดผันแก้มันมือ กลอนบทแรกเป็นกลอนมารดรฉัน ที่แต่งนั้นวันแม่มิ่งนับถือ บรรจงเขียนเพียรกฎพจน์ระบือ ออกมาคือไม่สวยสลวยจินต์ มันก็คือกลอนรักภักดีแม่ แค่กลอนแย่แต่ใจถือในศิลป์ กลอนไม่เพราะเสนาะเบื้องเปรื่องกวิน แต่ระบิลความรักภักดิ์กตัญญ์ (http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_017.gif) บัณฑิตเมืองสิงห์ หัวข้อ: Re: *เกลียดกลอนรัก* เริ่มหัวข้อโดย: พรายม่าน ที่ 04 กุมภาพันธ์ 2011, 12:21:PM แลศาสตร์ใดศิลป์ดีย่อมมีค่า กลบทกลอนบ้าหารักใคร่ ขอให้จารผลาญพรั่งพลังไฟ จากข้างในใช่เศษศัพท์อัปลักษณ์ อันผู้เสพเสพที่กวีรส เสพงามงดหมดจดที่ตระหนัก ถ้าเขี่ยคุ้ยคุ่ยขากสำรากรัก ขยะซากกากหมักก็หนักเกิน กวีกลั่นคั้นคราบความรู้สึก ใช่เพียงฮึกคึกถลันสรรเสริญ เพียงเจียรจดขนดธุลีที่เผชิญ จะเหยียบทับจนยับเยิน ก็ยินดี พรายม่าน สันทราย ๐๔.๐๒.๕๔ หัวข้อ: Re: *เกลียดกลอนรัก* เริ่มหัวข้อโดย: จ้อง เจรียงคำ ที่ 04 กุมภาพันธ์ 2011, 02:38:PM อยากเขียนกลอนอ้อนรักขึ้นสักเรื่อง แม้รักไม่ฟูเฟื่อง ณ เบื้องหน้า แต่รักซ่อนถวิล...สุดจินตนา แลล้ำเลิศเจิดจ้าโถมท้าทาย หากหัวจิตหัวใจมิตายด้าน กลีบดอกรักจักบานจวบมานหมาย แม้บางช่วงร่วงโรยโดยเดียวดาย เพียงผลัดเปลี่ยนเวียนว่ายตามสายวาร หากแต่หักรักห่างลงบางหับ ตอกใจคนแคบคับดิ่งดับด้าน- อันวิตกอกแตกใจแหลกลาญ นั่นทั้งสิ้นดิ้นพล่าน..การประชด ดำดิ่งไปใจตน..แบะก้นบึ้ง รักสิยังฝังตรึงซึ่งหมดจด กมลพิศวาส ฤๅ อาจงด ก็ยากปลดใจปิดจากพิษรัก คิดจะหนีกลอนรักพักกลอนใคร่ เมื่อหัวอกหมกไหม้หัวใจหัก ก็พ้นเลี่ยงเพียงแต่แค่สักพัก แล้วรอยหยักอักษรก็ย้อนรอย หากจะหนีกลอนรักพักกลอนใคร่ คงเหมือนหนีหัวใจอย่างไรถอย ถึงใจแหลกแตกดับลงนับร้อย ยังเหลือบางซอกซอย...คล้อยกลอนรัก จ้อง เจรียงคำ emo_15 หัวข้อ: Re: *เกลียดกลอนรัก* เริ่มหัวข้อโดย: GreenMonkey ที่ 04 กุมภาพันธ์ 2011, 03:15:PM เคยมีรักมักหลงใหลในคำหวาน ล้วนซาบซ่านคำซึ้งตราตรึงจิต โอ้น้ำคำย้ำยวนชวนให้คิด ทีละนิดกัดกร่อนก้อนหัวใจ เมื่อรักร้าวเริ่มสลายฝันร้ายแทรก กับผิดแปลกเป็นหน่ายหนักรีบผลักไส โอ้น้ำคำคนลวงมากบ่วงภัย เหลืออะไรนอกจากช้ำตรมน้ำตา เกลียดบทกลอนอ่อนหวานเมื่อวันเก่า เป็นบทเศร้าแทรกพิษริษยา จะจำไว้ใครกันนั้นจากลา ตราบหม่นฟ้าดินไหม้ก็ไม่ลืม .. GreenMonkey .. หัวข้อ: Re: *เกลียดกลอนรัก* เริ่มหัวข้อโดย: สมนึก นพ ที่ 04 กุมภาพันธ์ 2011, 04:50:PM ความรู้สึก บางอย่าง อ้างให้รู้ เริ่มหดหู่ แล้วซี ที่รักเขา ขอเคียงข้าง ไม่ห่าง ดังคล้ายเงา ทั้งจันทร์เจ้า จันทร์แรม แถมยกมา โคนไม้นั่ง ต้นเก่า ดูดาวสวย อบอวลด้วย กลิ่นดิน กลิ่นบุบผา สารพัด สารภาพ พร่ำพรรณนา ค้นตำรา วนเวียน จะเขียนกลอน อ้างอิงบอก ดอกบัวแซม แย้มยามเช้า ภมรเข้า ริรุก คลุกเกษร ยกความหวาน ทั้งเก้า เข้าวิงวอน มีออดอ้อน ว่ารัก สมัครครอง นำฝากบ้าน กลอนไทย ให้ส่งต่อ ทนเฝ้ารอ รักชอบ ตอบสนอง ตกจากทู้ ยกใหม่ ไม่สมปอง ด้วยนวลน้อง เขม่น ไม่เม้นมี เขียนลงเอง อ่านเอง เกรงใจแล้ว นั่งกินแห้ว กลอนรัก หมดศักดิ์ศรี สาวสาวบ้าน กลอนไทย ไม่ปรานี มองดูซี ยังขำ แกล้งทำเมิน หลายหลายครั้ง ตั้งกลอน มางอนง้อ เริ่มจะท้อ แล้วนี่ พี่ก็เขิน เกลียดกลอนรัก หักอกซ้ำ ช้ำเหลือเกิน มีหยอกเอิญ หมายบอก หล่อนหลอกลวง. ด.ช. นพ หัวข้อ: Re: *เกลียดกลอนรัก* เริ่มหัวข้อโดย: Lจ้าVojกaoนบทนี้* ที่ 04 กุมภาพันธ์ 2011, 05:27:PM ถึงบางรักทักทายมิหน่ายนัก บางแต่รักทักแล้วมิแจวหนี วาเลนไทน์เขาสุขกันทุกปี ที่เขตนี้"บางรัก"เขามักมา จดทะเบียนสมรสปรากฏอยู่ จะเป็นคู่อยู่กินสิ้นอัสสา ชื่อบางรักรักเลยคู่เฝ้าบูชา บางรักมาซอย๙ วันเสาร์ไง แต่งกลอนรักทักใครมิได้เรื่อง เขาขุ่นเคืองเรื่องรักมักผลักไส รูปไม่หล่อพ่อก็จนจำทนไป ไว้ชาติหน้าฟ้าใหม่อาจได้รัก หัวข้อ: Re: *เกลียดกลอนรัก* เริ่มหัวข้อโดย: ปากะญอ ที่ 04 กุมภาพันธ์ 2011, 05:33:PM ครั้นอักษรมีคมเกิดปมบาด ชี้รอยขาดที่ใจไปไห้หวน กลอนช้ำหนักสลักวางใส่รางครวญ แผลเป็นข่วนชวนมองสนองใจ กับกลอนรักพักทางวางไว้ก่อน ขอเฝ้าถอนพิษปักที่ผลักไส ศรอาคมข่มฆ่าท้าหทัย เป็นเชื้อไหม้เยื่อทรวงทั้งดวงแด ภาพสะท้อนกลอนเก่าที่เฝ้าจิต ถูกลิขิตด้วยกานท์กาพย์ทาบด้วยแผล ไร้สายตาจากคนรักทักดูแล เหลือซากแผ่ใจช้ำย่ำเช้าเย็น รอยรักร้างสร้างโศกโบกสะบัด ใจเลยจัดลงกลอนวอนให้เห็น ไม่มีแล้วกลอนรัก พักวางอย่างที่เป็น เพราะประเด็นมีกลอนเศร้าลำเนาทาน (http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_017.gif) หัวข้อ: Re: *เกลียดกลอนรัก* เริ่มหัวข้อโดย: ฉันเอง ที่ 04 กุมภาพันธ์ 2011, 05:49:PM ถึงบางรักทักทายมิหน่ายนัก บางแต่รักทักแล้วมิแจวหนี วาเลนไทน์เขาสุขกันทุกปี ที่เขตนี้"บางรัก"เขามักมา จดทะเบียนสมรสปรากฏอยู่ จะเป็นคู่อยู่กินสิ้นอัสสา ชื่อบางรักรักเลยคู่เฝ้าบูชา บางรักมาซอย๙ วันเสาร์ไง แต่งกลอนรักทักใครมิได้เรื่อง เขาขุ่นเคืองเรื่องรักมักผลักไส รูปไม่หล่อพ่อก็จนจำทนไป ไว้ชาติหน้าฟ้าใหม่อาจได้รัก ให้อยู่ไปอย่างที่เคยเผยประจักษ์ คงไม่นานหรอกหนาเวลารัก จะมาทักถึงหน้าท่านมายาวิน เหมือนบุเพเหใจให้กลั่นแกล้ง เจอรักแล้งรอนแรมให้ถวิล ยามท่านเบื่อเดี๋ยวกลับเจอดั่งใจจินต์ เหมือนกันสิ้นทุกรายให้คลายไป (http://www.ohzeed.com/bar_011.gif) (http://www.ohzeed.com) รักแล้วรอหน่อย ฉันเอง.. หัวข้อ: Re: *เกลียดกลอนรัก* เริ่มหัวข้อโดย: Lจ้าVojกaoนบทนี้* ที่ 04 กุมภาพันธ์ 2011, 06:13:PM อันเน็ตเราเน่านักเหมือนรักพ่าย หรือเครือข่ายมันล่มจมกระแส โพสต์วืดหายวืดหายเสียดายแด เวรแท้ๆทำเราเศร้าเสียจริง แต่งกลอนรักมักขมอารมณ์รัก เคยอกหักรักร้ายด้วยหมายหญิง วาสนาต้องอาภัพแต่งกับลิง ช่างเป็นสิ่งน่าหน่ายเสียดายนัก ทุกวันนี้เป็นโสดจงโปรดทราบ ด้วยเข็ดหราบสิ้นดีไร้ศรี,ศักดิ์ อย่าให้กล่าวท้าวความถึงทรามรัก ขอหยุดพักรักก่อนด้วยกลอนลา จะมีไหมในนี้นารีหนึ่ง จะซาบซึ้งตรึงสนิทสิเนหา จะจริงหวังอยู่คู่ชีวา ใช่วาจาว่ารักแล้วมักลืม.... emo_48 ปล.ช่วงนี้เน็ตเน่าขนาดหนัก เห็นทีจะต้องหยุดสักระยะครับ ต่อแล้ววืด emo_30 หัวข้อ: Re: *เกลียดกลอนรัก* เริ่มหัวข้อโดย: Lจ้าVojกaoนบทนี้* ที่ 04 กุมภาพันธ์ 2011, 06:31:PM ให้อยู่ไปอย่างที่เคยเผยประจักษ์ คงไม่นานหรอกหนาเวลารัก จะมาทักถึงหน้าท่านมายาวิน เหมือนบุเพเหใจให้กลั่นแกล้ง เจอรักแล้งรอนแรมให้ถวิล ยามท่านเบื่อเดี๋ยวกลับเจอดั่งใจจินต์ เหมือนกันสิ้นทุกรายให้คลายไป ([url]http://www.ohzeed.com/bar_011.gif[/url]) ([url]http://www.ohzeed.com[/url]) รักแล้วรอหน่อย ฉันเอง.. เพิ่งเข้าใจไยเจ้าหล่อนเกลียดกลอนรัก emo_45 พึ่งประจักษ์ถึงแก่นว่าแผนสูง หวังให้รักทักทายมุ่งหมายจูง เลยแตกฝูงโพสต์อักษร"เกลียดกลอนรัก" emo_45 เขาว่าเกลียดสิ่งไหนได้สิ่งนั้น พอตัวฉันถึงบางอ้อก็ประจักษ์ ว่า"ฉันเอง"เคว้งคว้างกับทางรัก วางกับดักว่า"เกลียด"ละเอียดละออ เดี๋ยวความรักคงตามมาถามไถ่ ถ้าถูกใจปลายปีต้องมีขอ ลงจากคานหวานฉ่ำพบคำพอ emo_45 เมื่อรักก่อส่อสายดังหมายใจ.... emo_15 เพิ่งเข้าใจเดี๋ยวนี้เอง...ว่าทำไมถึงเกลียดกลอนรัก... emo_26 หัวข้อ: Re: *เกลียดกลอนรัก* เริ่มหัวข้อโดย: ฉันเอง ที่ 04 กุมภาพันธ์ 2011, 06:33:PM ([url]http://yamiejung18.webs.com/photos/D-day-A1/x23.png[/url]) โปรดเถิดหนาปรายตามาทางนี้ ฟังวจีเลอค่าว่าแลเหลียว ถวิลถึงยังคอยร่วมร้อยเกลียว เข้ายึดเหนี่ยวคล้องทรวงด้วยห่วงใย ยังคงรักมิจางแม้ห่างหาย ล่ามตรึงสายสัมพันธ์อย่าหวั่นไหว วางรูปรอยคำมั่นสัญญาใจ ซุกซ่อนไว้เคียงข้างณ..กลางทรวง ~แม่ค้าหน้าหวาน~ ([url]http://yamiejung18.webs.com/photos/D-day-A1/x23.png[/url]) ฉันปรายตาหาเธอได้เพ้อแล้ว ดั่งดวงแก้ววับวาวดุจดาวสรวง เหมือนศรรักจากเทพมาเหน็บดวง ให้สุดหวงห่วงหาพาห่วงใย เหมือนได้เจอคำตอบที่หาอยู่ เมื่อเจอเธอฉันจึงรู้อยู่ว่า"ใช่" ทุกสิ่งรอบกายหมดความหมายไป เพียงเธอไซร้ใคร่ปองน้องนางนวล (http://yamiejung18.webs.com/photos/D-day-A1/x23.png) ฉันเอง.. หัวข้อ: Re: *เกลียดกลอนรัก* เริ่มหัวข้อโดย: ดอกกระเจียว ที่ 04 กุมภาพันธ์ 2011, 06:58:PM ๐เน็ทของเรารายเดือนเหมือนถูกแกล้ง ขาดความแรงขาดคลื่นไม่รื่นไหล บางระยะเขาตัดอึดอัดใจ ด้วยเหตุใดไม่แจ้งแห่งกระทำ ๐จ่ายรายเดือนสี่ร้อยไม่น้อยแน่ เพราะเราแค่เขียนกลอนอ้อนขำขำ เขาเพิ่มจ่ายมายมากชักระกำ จึงฉี่ช้ำย่ำแย่ท้อแท้ใจ ๐ประเดี๋ยววืดประเดี๋ยววืดมันเทียวตัด สารพัดลีลาน้ำตาไหล ต้องเทียวขอต่อเนื่องอย่าเคืองใด ฉันจะให้อยู่ดอกอันสตังค์ ๐ไม่จ่ายเดือนมันเพิ่มพันยืนยันหนี้ เราเซ้าซี้ย้ำเตือนหมดเดือนหลัง ไม่เคยค้างแล้วเรื่องไรเล่าให้ฟัง คิดแทบคลั่งเรื่องอะไรเพิ่มให้ตู ๐สู้ทนอดเพราะอยากเล่นเมื่อเว้นว่าง มีหนทางที่ไปไม่อดสู อยากติดทีบอร์ดแบนด์ให้ชื่นชู กว่าหดหู่ทวงถามยามคลื่นจาง ดอกกระเจียว emo_33 หัวข้อ: Re: *เกลียดกลอนรัก* เริ่มหัวข้อโดย: ฉันเอง ที่ 09 กุมภาพันธ์ 2011, 07:23:PM (http://upic.me/i/oa/qwl42ca5p41qbcabmcfkyca4pnrmjca1zafgocagxe2oaca69r5iecaj1r0rmcaj4cuurcaxktnwncavhzuv8cacqukemcak32lxfcapk9ttjca4em5x1ca1vzwggca6fm6jbcaggdyzwcazzvcjj.jpg) (http://upic.me/show/20643572) เขียนกลอนรักเวียนไปมาหาทางออก มันสำรอกเล่นคำซ้ำปวดหัว รักคิดถึงคนึงหาพาใจกลัว ดูถ้วนทั่วไม่กี่คำฉ่ำรักลง มีคำอื่นบ้างไหมใจบอกรัก ให้ตระหนักฟังคำตามประสงค์ ให้เธอเคลิ้มเติมรักผลักใจปลง แล้วลุ่มหลงตัวพี่ที่เขียนคำ (http://www.ohzeed.com/bar_003.gif) (http://www.ohzeed.com) ฉันเอง.. |