หัวข้อ: หอมกลิ่นดิน เริ่มหัวข้อโดย: hort39 ที่ 27 มกราคม 2011, 12:04:AM กลิ่นบ้านนอกคอกนาใครว่าเหม็น แต่ฉันเห็นว่างามแท้แลสดใส คนบ้านนอกนั้นซื่อถือจริงใจ หาไม่ได้ในเมืองกรุงมุ่งแต่เงิน สุดท้ายตายกันหมดเงินอดใช้ ไม่มีใครผูกพันหรือสรรเสริญ ในเมืองที่มากมายความเจริญ เขาต่างเดินเมินหน้าจนชาชิน อยู่บ้านนอกดีกว่าหาเลี้ยงชีพ ไม่ต้องรีบเร่งร้อนผ่อนหนี้สิน ข้าวในนาปลาในน้ำได้ทำกิน หอมกลิ่นดินถิ่นป่าพนาไพร แม้ไม่มีเงินทองของสมมุติ หรือจะสุดสิ้นหวังนั่งร้องไห้ แค่พอมีพอกินก็พอใจ เป็นสุขได้ด้วยชีวิตที่ติดดิน หัวข้อ: Re: หอมกลิ่นดิน เริ่มหัวข้อโดย: บอม ซอง ดุ๊ก ที่ 27 มกราคม 2011, 01:22:AM (http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_131.gif) (http://www.klonthaiclub.com) ~ลืมไม่ง่ายเลย~ ยามฝนโปรยโชยกลิ่นดินบ้านทุ่ง ช่างคละคลุ้งอบอวลชวนหลงไหล เสียงกบเขียดขับกล่อมพร้อมกันไป ภาพคันไถไพรสวยและห้วยคลอง แม้นจรุงปรุงเนื้อเจือน้ำอบ ก็มิกลบกลิ่นสาปคราบโคลนหนอง แม้นตึกล้นคนหลากมากเงินทอง ก็มิพ้องใจเพิศเตลิดลา เห็นรถเมล์เห่เบียดเสียดตาตั้ง นึกถึงหลังเจ้าทุยดุ่ยเล็มหญ้า ฟังดนตรีแร็พร็อคช็อคสกา หากเปรียบขลุ่ยแคนข้าว่าถอยไป เห็นข้าวแกงหนึ่งหยิบสามสิบบาท ตักโรยราดไม่เต็มเค็มไปไหม บ้านข้านั้นข้าวฟรีมีน้ำใจ มีบ้านใกล้เรือนเคียงส่งเสียงชวน เสียงรำพึงจากถิ่นพร้อมกลิ่นหอม มันยังย้อมในจิตยังคิดหวน พอถึงกาลหว่านกล้าข้าจะทวน พร้อมยกก๊วนเพื่อนจรถอนทัพคืน emo_19 เด็กบ้านนอก บอม ซอง ดุ๊ก (http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_131.gif) (http://www.klonthaiclub.com) หัวข้อ: Re: หอมกลิ่นดิน เริ่มหัวข้อโดย: ปรางทิพย์ ที่ 27 มกราคม 2011, 02:18:AM (http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_179.gif) (http://www.klonthaiclub.com) คือมนต์ขลังหลั่งรินถวิลหา ภาพปลายนาคราเก่ายังเฝ้าฝัน ขี่ไอ้ทุยลุยทุ่งคุยฟุ้งพลัน มีเธอฉันกลั้นยิ้มให้อิ่มใจ กรุ่นไอดินกลิ่นเดิมเติมความหลัง ด้วยใจหวังยังรักมิผลักไส เสียงขลุ่ยหวานวานวันกลั่นฤทัย เพรียกถึงใครไกลตาประสาเรา ความหอมกรุ่นอุ่นไอบ้านไพรทุ่ง กลิ่นข้าวหุงคลุ้งครัวพัวเฉลา อยู่แนบข้างพลางฝันถึงวันเนา มิอับเฉาเคล้าคลอพะนอนวล... (http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_179.gif) (http://www.klonthaiclub.com) หัวข้อ: Re: หอมกลิ่นดิน เริ่มหัวข้อโดย: บ้านริมโขง ที่ 27 มกราคม 2011, 12:13:PM (http://ar-mie1.webs.com/photos/ar-mie5/L27.gif) หอมกลิ่นดินกลิ่นหญ้าใบหน้าซบ หอมตลบกลิ่นฟางกลางหน้าหนาว หอมข้าวใหม่ใจชื้นคืนมองดาว หอมเจ้าสาวข้างกายคล้ายวิมาน อากาศเย็นรำเพยเชยชมชื่น จิตระรื่นรุ่งอรุณอุ่นคำหวาน มองหน้าเจ้าเช้านี้ที่โปรดปราน สองประสานสายตาพาเคลียคลอ ไม่รีบร้อนผ่อนกายตามสายแดด แสงสีแสดส่องทุ่งฟุ้งกลิ่นหนอ ทั้งไอดินกลิ่นหญ้าคราลมคลอ หอมลออยังอายสายไม่จาง ธรรมชาติสร้างเสริมเติมต่อสุข ทั้งปลอบปลุกรุกเริ่มเติมต่อหาง ให้ชีวิตเกิดก่อต่อทุกทาง แต่กลับร้างผู้คนที่สนใจ มวลมนุษย์คิดค้นเพื่อตนนั้น ต่างปลุกปั้นปันแต่งแบ่งไฉน ตามอารมณ์คมคิดตามติดไป ทำอะไรเพื่อตนล้นมลทิน ในเมืองใหญ่ใกล้สิ้นกลิ่นดินหอม ในเมืองใหญ่ตรมตรอมพร้อมกังฉิน ในเมืองใหญ่คนใหญ่กว่าแผ่นดิน ในเมืองใหญ่คนสิ้น...กลิ่นเมตตา. "บ้านริมโขง" (http://yamiejung3.webs.com/photos/AA2/67.gif) หัวข้อ: Re: หอมกลิ่นดิน เริ่มหัวข้อโดย: พรายม่าน ที่ 27 มกราคม 2011, 04:55:PM ก็สาบดินสินดงคงศักดิ์ด้อย ไม่เลิศลอยฝอยฟุ้งเหมือนกรุงใหญ่ ประโดงเดิมเติมได้กระไรใด เมื่อฟางซังฝั่งไทร ไม่สบทรง หนองน้ำน้อยคอยแล้งจนแห้งผาก ระแหงดินบิ่นบากแซมซากผง คราดก็เหลียวเคียวก็ร่อยคอยที่ลง นาผืนนิดปลิดปลง ประเดิมปี คงลืมเพื่อนเรือนไพรลืมไผ่โผ ลืมกลิ่นแก้วแถวตะโกโสนสี ลืมแคแดงแปลงเปล้าสะเดาดี ลืมแม้แรงแสงหรี่ ตะเกียงราย เฝ้ารอฝนหล่นฝากจากฟากฟ้า คงกลิ่นดินกลิ่นป่าไม่พร่าหาย แม้ไม่อาจคาดลับให้กลับกลาย แต่ร้างถิ่นประทินดายคงได้คืน พรายม่าน สันทราย ๒๗.๐๑.๕๔ หัวข้อ: Re: หอมกลิ่นดิน เริ่มหัวข้อโดย: เพลิงคำ ที่ 27 มกราคม 2011, 05:34:PM กลิ่นดินหอมดอมดมอารมณ์ชื่น วันนี้ขื่นขมเหม็นเห็นดินเน่า มาอยู่กรุงมุ่งเรียนเพียรเพื่อเรา กลิ่นถิ่นเก่านึกหวนครวญทุกยาม ทุ่งขจมีนกกกกอดหญ้า ไพรพนา"ต้นบกกกมะขาม" "คึดฮอดแฮงแมงอี"ที่เคยตาม กับถุงย่าม"หมากกระถุน"กระสุนดิน ตึกสูงสูงฝูงรถหรือจะสู้ ใครเคยอยู่ย่อมทราบคราบท้องถิ่น น่าภิรมย์ร่มรื่นชื่นยามจินต์ เพียงได้ยิน"บ้านนอก"ช้ำชอกทรวง ก้านกล้วย ป.ล.ต้นบก+ต้นตะแบก(มั่ว) กกมะขาม+ต้นมะขาม คึดฮอดแฮง+คิดถึงมาก แมงอี+แมงจั๊กจั่น หมากกระถุน+หนังสติ๊ก หัวข้อ: Re: หอมกลิ่นดิน เริ่มหัวข้อโดย: ดินสอดำ ที่ 27 มกราคม 2011, 07:20:PM หน้าฝนนั้นฉันซึ้งกบอึงอ่าง ร้องครวญคางกลางคุ้งของทุ่งหลวง เสียงจิ้งหรีดหวีดหวิวสะยิวทรวง น้ำค้างพวงยวงพราวสีขาวงาม อรุ่ณรุ่งปรุงพร้อมย้อมยอดหญ้า อายดินพาพัดโปรยดุจโชยถาม ว่าเป็นไงไอฝนที่หล่นราม เมื่อเย็นยามย้อยหยดรินรดมา หรือยังจนบนหนี้หนอพี่น้อง ข้าวสีทองของใครเหมือนไร้ค่า เพราะแม้นแพงแต่งใจให้ชาวนา แต่ค่ายาปรากฎ แทบหมดตัว หัวข้อ: Re: หอมกลิ่นดิน เริ่มหัวข้อโดย: ดอกกระเจียว ที่ 27 มกราคม 2011, 08:51:PM ลูกอิสาน... ด้วยความชินถิ่นทุ่งที่มุ่งมั่น เอาไถฟื้นคืนพันธ์ธัญญาหาร คราวฝนโปรยโรยมาแต่ช้านาน มีสถานเรือนพังเป็นสำนัก ผักกระโดนโพนนาป่าดินโป่ง เหมือนเชื่อมโยมแก่นใจให้ตระหนัก กลิ่นไอดินริ้นไรเสริมใจรัก ให้พึ่งพักหล่อเลี้ยงเกินเพียงพอ แมงกุดจี่ในขี้ควายแสนมายมาก อร่อยปากจากทุ่งคลุ้งกลิ่นหนอ แมงจิโป่มรสเลิศดีมากมีพอ ไว้คอยรอเพื่อไขว่คว้าในพงพี กระปอมป่า-เขียดโม่-กระทั่งแย้ อีกปูนามากมีแท้ทั่วถิ่นที่ ลงคลองคุ้งกุ้งปลาคนามี ป่าพงพีล้วนของกินในถิ่นไพร มีผักเม็ก-ผักหวาน-ดอกกระเจียว มดแดงเปรี้ยวรวงรังนั้นฝังไข่ ผักติ้วป่า-ผักกระเดา-บักตูมไพร ล้วนล้นหลากมากไปเพียงใช้แรง ตามโพนนามากรูที่หนูแอบ หาบ่วงแนบกับดักเข้าซ่อนแฝง ล้วนอร่อยหาได้มาอ่อมแกง ยามหน้าแล้งมากมีของดีกิน อีกจอนฟอนซ่อนพงเป็นฝูงฝูง ในท้องทุ่งหอยนาทั่วท้องถิ่น ฝังตัวตามผืนนาใต้แผ่นดิน ให้หากินตามประสาเราชาวดิน กว่าดั้นด้นเมืองไกลคิดไขว่คว้า กินโดนัทพิซซ่านึกบ้าบิ่น จนบางครั้งโศกาก้มมองดิน นึกถึงกลิ่นแจ่วบองนองน้ำตา emo_09 ปล: คนอิสานอ่านแล้วจะเข้าใจ อิอิ |