หัวข้อ: sssหัวอกคนแต่งsss เริ่มหัวข้อโดย: Lจ้าVojกaoนบทนี้* ที่ 25 มกราคม 2011, 07:05:PM เพียรจารกานท์ทุ่มแล้ว หมดใจ ในเครื่องเหลืออะไร อยู่บ้าง แต่งโพสต์แต่งโพสต์ไป ทั้งหมด หาใช่จะเอ่ยอ้าง ชื่อนั้นมีไฉนฯ ทำใดหาอยากได้ เงินตรา หรือชื่ออีกยศฐา นั่นไซร้ หวังแต่คะแนนมา ขอบอก เพียงหนึ่งพึงหวังได้ จากผู้ยลกลอนฯ กลอนมีดีชั่วบ้าง บางคำ หวานชื่นรื่นใจจำ จีบอ้อน บางที่แต่งขำขำ ให้ตลก หาใช่มุ่งเดือดร้อน เพราะน้ำคำเราฯ ใจคนคนแต่งนั้น หวังแรง ใจเฮย คนอ่านอ่านอย่าแหนง หน่ายเข้า พลาดผิดคิดชี้แจง ใดที่ ผิดนา เคืองขุ่นคนแต่งเศร้า หมดแล้วแรงใจ คนอ่านมายกนิ้ว ยอมรับ คนแต่งยิ้มคำนับ ส่งให้ คนอ่านสุขพร้อมสรรพ คลายโศก คนแต่งสุขยิ่งไซร้ นั่งยิ้มตลอดคืนฯ กลอนใดไหนโพสต์แล้ว วังเวง คนแต่งบ่ครื้นเครง สะอื้น คนอ่านท่าจะเกรง คนแต่ง โพสต์กลบลบไม่ฟื้น ชีพแล้วลืมเลือนฯ คนแต่งผู้ร่ำร้อง โหยหา เมื่อไหร่คะแนนมา อิดเอื้อน หรือแทบหลั่งน้ำตา นองบอร์ด กลัวเว็บจะแปดเปื้อน เปรอะแล้วอัสสุชลฯ เพียรกลอนเช้าค่ำแล้ว แรงโหย ยามตื่นลุกโอดโอย หนักก้น นอนดึกคึกเคยโดย ชินอยู่ แรงแกร่งเป็นล้นพ้น อยู่เฝ้าตราบสางฯ หลายคนมีท่าคล้าย เมากลอน ยอมง่วงสู้อดนอน หลับค้าง เคยคิดอยากทวงถอน ใจกลับ ใจหนึ่งมันกลับอ้าง ว่าชั้นยินดีฯ มีไหมใครที่คล้าย คลึงเรา ยอมอดนอนซบเซา แบบนี้ อรุณช่างง่วงเหงา ตาหลุบ ยามตื่นพาลแทบซี้ ลุกแล้วยังเซฯ เขียนโคลงใช่ออดอ้อน สงสาร เขียนเพราะใจอยากจาร เลี่ยมเล้ เขียนไปท่าไม่หวาน วานบอก ยามอ่านอย่าโอ้เอ้ อ่านแล้วยกมือฯ Mayawin ๒๕ มกรคม ๒๕๕๔ ครบรอบหนึ่งเดือนในการเป็นสมาชิกบ้านกลอนไทยครับ แต่งไปเรื่อยๆ ให้อ่านเล่นๆเย็นๆใจไม่ได้ซีเรียส.............................................................. หัวข้อ: Re: sssหัวอกคนแต่งsss เริ่มหัวข้อโดย: Lจ้าVojกaoนบทนี้* ที่ 26 มกราคม 2011, 12:12:AM เขียนกลอนปลิวว่อนแล้ว จดหมาย เขียนส่งแทนใจกาย สู่น้อง ความรักไม่สลาย ตายจาก และอยากกู่ให้ก้อง Loveแล้วจริงจริงฯ วอนเธอมาอ่านบ้าง ดีไหม กลอนที่เขียนส่งไป อย่าทิ้ง บรรจุเปี่ยมดวงใจ เพียรมอบ ไยกลับทำขำกลิ้ง เยาะเย้ยถากถางฯ รู้ไหมใจที่เฝ้า รักเธอ นอนกอดหมอนละเมอ แนบข้าง หัวใจพี่มันเผลอ พร่ำบอก ว่ารักไม่ลาร้าง จากน้องจงจำฯ แม้นผิดให้ฟ้าผ่า ซิเอา ดินสูบให้ตกเขา ติดถ้ำ นอนหลับก็เป็นเหา เป็นหิด หรือว่าให้ตกน้ำ ม่องม้วยชีวีฯ รับรักพี่เถิดน้อง นุชเอย ขออย่าทำเมินเฉย เช่นนี้ จดหมายอย่าละเลย ลืมอ่าน เจ้าฉีกทิ้งพี่ซี้ แน่แล้วจริงหนอฯ หัวอกคนแต่งได้ พยายาม เพียรเพ่งทุกถ้อยความ ไม่ท้อ หวังให้นุชไหวหวาม ในจิต เพียงสักนิดหนึ่งก้อ อิ่มแล้วแรงใจฯ หัวข้อ: Re: ผู้รอความหวัง เริ่มหัวข้อโดย: Lจ้าVojกaoนบทนี้* ที่ 29 มีนาคม 2011, 12:53:AM เราแต่งกลอน เขาก็ชม ว่าสม,เหมาะ แต่ไม่เคาะ ให้คะแนน ที่แสนหวง เมื่อคิดดู มันก็ขำ เหมือนทำลวง พาให้ดวง ใจท้อ ไม่พอเพียง จะเลื่อนขั้น ทั้งที ต้องมีเลข เหมือนเป่าเสก มนตรา เพื่อหาเสียง ร่ายกวี ฟรีหนอ จนคอเอียง แทบจะเดี้ยง ลาลับ ไปกับคอมฯ นึกสงสาร ท่านกวี SP CLASS เฝ้าเวียนวาด กลอนร่าย แทบผ่ายผอม จนเรี่ยวแรง สูญสิ้น ก็ยินยอม ดูเหมือนพร้อม ยอมตาย ถวายพลี กว่าจะผ่าน ด่านหนึ่ง แทบถึงฆาต ทั้งเหงื่อหยาด ไคลย้อย ไม่ถอยหนี ที่บางท่าน มุ่งหวัง มาทั้งปี ยังไม่มี ทีท่า จะฝ่าไป ก็แต่งกลอน สารพัด สัมผัสบท ทั้งร้อยรส หอมหวาน เหมือนธารใส แต่ก็ไม่-มีผล จึงจนใจ แล้วชาติไหน กันเล่า ถึงเข้าวิน กว่าจะถึง ศักดิ์ศรี กวีเอก ต้องนั่งเสก สักวา ภาษาศิลป์ แล้วโพสต์ไป ให้เห็น เป็นอาจิณ นับว่าหิน ใช่น้อย ต้องคอยนาน คิดแล้วกลุ้ม สุมทรวง เพื่อทวงเลข กวีเอก ขื่นใจ มิใช่หวาน มีความเพียร เลิศล้ำ กระทำการ ทรมาน แค่ไหน ไม่จำนน สักวันหนึ่ง ถึงฝั่ง ที่หวังวาด ป่า วประกาศ กลอนเลิศ แล้วเกิดผล คะแนนที่ โหดหิน ได้ยินยล ชื่นกมล คนหวัง ที่ยังรอ ก็คงสุข สมใจ เหมือนได้แก้ว ที่เปี่ยมแล้ว พรท่าน ประทานขอ ลุจุดหมาย ปลายฝัน ถึงขั้นพอ เช่นเหล่ากอ นักกวี มากฝีมือ หากไม่ถึง ปลายทาง เหมือนอย่างฝัน จะหยุดดั้น-ด้นนี้ จะมีหรือ ต้องเฝ้าทุ่ม-เทลึก การฝึกปรือ นี่แหละคือ นักกวี ที่มีนาม. ความจริงกลอนนี้ผมแต่งไว้นานแล้ว ตั้งแต่ตอนที่ยังอยู่ Level 4 นักเลงกลอนประจำหมู่บ้าน แต่ดองไว้เนื่องจากยังไม่อยากนำลง แต่เผอิญว่าช่วงนี้มีการพูดกันเรื่องการให้คะแนนกันบ่อย ประกอบกับผมเองก็คิดกลอนไม่ค่อยออก(หมดไฟ)ก็เลยถือโอกาสนำมาลง ให้ได้อ่านกัน แต่กลอนนี้ไม่ได้หมายถึงตัวผมนะครับ เพียงแต่เห็นคนอื่นเขาเป็นกันผมก็เลยแต่งกลอนนี้ขึ้นมา(บางคนแต่งกลอนจนลิ้นห้อย แต่ก็ยังไม่ได้คะแนนซะที ผมเห็นแล้วเหนื่อยแทน) emo_45 ด้วยเหตุนี้ผมจึงตั้งฉายาพวกนักกลอน SP Class ว่า "ผู้รอความหวัง" ชื่อนี้ก็มาจากกลอนบทนี้แหละครับ.... |