หัวข้อ: เขียนกลอนเพราะใจรัก เริ่มหัวข้อโดย: พริฎฐา ที่ 16 ธันวาคม 2010, 05:37:PM เขียนกลอนเพราะใจรัก (http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_030.gif) บทกลอนฝัน ฉันเขียน ร่ำเรียนน้อย ไม่อ่อนช้อย ด้อยความ ตามที่เห็น แต่ฉันเพียร เขียนคำ เช้า, ค่ำ, เย็น เพราะกลอนเป็น เช่นมิตร จิตผูกพัน หลายวลี ลีลา ไม่น่าอ่าน ปริมาณ งานเด่น เป็นแค่ฝัน ไม่สามารถ อาจเอื้อม เอือมเหมือนกัน วรรคทองนั้น มั่นหมาย ก็ไกลเกิน จินตนา- การแคบ จนแอบหน่าย อธิบาย ให้ชัด ยังขัดเขิน อนาคต ลดเลี้ยว เบี้ยวจนเมิน แต่ก็เดิน- หน้าสู้ ไม่รู้ท้อ แม้อักษร กลอนกาพย์ ยังคาบเส้น ไม่จัดเจน เด่นวรรค เลยสักข้อ พรสวรรค์ หันหนี ไม่มีพอ ยังก้าวต่อ ขอเพียร เขียนเพราะรัก ยังหมาดใหม่ ใจก็ มีฝ่อบ้าง ถ้าจัดวาง อ้างท้อ ก็สิ้นศักดิ์ วัฒนธรรมไทย ไพศาลนัก ต้องรู้จัก รักษา คู่ฟ้าไทย (http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_030.gif) หัวข้อ: Re: เขียนกลอนเพราะใจรัก เริ่มหัวข้อโดย: ฉันเอง ที่ 17 ธันวาคม 2010, 02:01:PM กลอนเธอ..
จำได้ว่าเคยอ่านกลอนใครคนหนึ่ง มันสุดซึ้งให้ติดใจใฝ่ฝันหา นับแต่นั้นก็เฝ้ารออ่านเรื่อยมา จนบัดนี้ไม่หนีหน้าจากกลอนเธอ เธอเอาความคิดฝันมาจากไหน จึงใส่ในเพลงกลอนให้พี่เผลอ หลงสมัครรักใคร่ใยดีเธอ เก็บไปเพ้อฝันใฝ่อยู่ในทรวง ฉันเอง.. หัวข้อ: Re: เขียนกลอนเพราะใจรัก เริ่มหัวข้อโดย: ณัฐชรี ที่ 17 ธันวาคม 2010, 05:42:PM (http://www.uppicweb.com/x/i/ie/original_2_2.jpg) เพียงเพราะใจใฝ่รักเป็นนักเขียน ไม่ต้องเรียนเป็นปราชญ์ฉลาดหลาย ไม่บรรเจิดเลิศล้ำคำบรรยาย เพราะเราสื่อความหมายจากลายลักษณ์ เขียนบอกเล่าเท่าที่ใจจะให้อ่าน สร้างผลงานด้วยจิตคิดตระหนัก เมื่อเหนื่อยแรงแต่งกลอนก็นอนพัก มารู้จักบ้านเรือนเพื่อนร่วมทาง ขอให้รักชักนำประจำจิต เหล่ามวลมิตรวงวรรณผู้สรรสร้าง อย่าทิ้งรสบทกวีป้ายสีจาง ปล.จาก คนแรมร้างผู้ห่างไกล... ภาพจาก gotoknow.org ท่านศิวกานท์ ปทุมสูติ หัวข้อ: Re: เขียนกลอนเพราะใจรัก เริ่มหัวข้อโดย: กฤษณาต้องน้ำ ที่ 17 ธันวาคม 2010, 05:54:PM เขียนกลอนรัก.....................เพรามีรักฉันจึงเขียน
เมื่อสำผัสถึงรักที่หมุนเวียน................อยู่ไกล้ๆ ในบางคราวเธอคนนั้น...............อาจอยู่ห่างไกล หรือบางที่เธอคนนั้นคงอาจจะ..........ไม่มีตัวตน แล้วเธอคนนั้นหละ..........อยู่แห่งหนตำบลไหน พรหมลิขิตทำไม........ต้องคอยแกล้งกลั่น ให้คนเหงาๆ.........หลงละเมอบ้าบอไปวันๆ หรือว่าคนเดินดินอย่างฉัน..........มันไม่คู่ควร โกรธตัวเอง............ที่มัวแต่โทษดินและโทษฟ้า แล้วก็โกรธตัวเองที่บ้า..........ทีทิ้งเธอในวั้นนั้น เวรกรรม.....ที่ฉันก่อ......มันคงกลับมาทำร้ายกัน ...............แต่ช่างมันน........ ยังงัย..........สุดท้ายคนอย่างฉัน......มันก็ไม่มีใคร emo_62 emo_79 emo_111 emo_121 emo_87 emo_101 emo_86 emo_73 หัวข้อ: Re: เขียนกลอนเพราะใจรัก เริ่มหัวข้อโดย: สมนึก นพ ที่ 18 ธันวาคม 2010, 11:49:AM เขียนกลอนเพราะใจรัก ([url]http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_030.gif[/url]) บทกลอนฝัน ฉันเขียน ร่ำเรียนน้อย ไม่อ่อนช้อย ด้อยความ ตามที่เห็น แต่ฉันเพียร เขียนคำ เช้า, ค่ำ, เย็น เพราะกลอนเป็น เช่นมิตร จิตผูกพัน หลายวลี ลีลา ไม่น่าอ่าน ปริมาณ งานเด่น เป็นแค่ฝัน ไม่สามารถ อาจเอื้อม เอือมเหมือนกัน วรรคทองนั้น มั่นหมาย ก็ไกลเกิน จินตนา- การแคบ จนแอบหน่าย อธิบาย ให้ชัด ยังขัดเขิน อนาคต ลดเลี้ยว เบี้ยวจนเมิน แต่ก็เดิน- หน้าสู้ ไม่รู้ท้อ แม้อักษร กลอนกาพย์ ยังคาบเส้น ไม่จัดเจน เด่นวรรค เลยสักข้อ พรสวรรค์ หันหนี ไม่มีพอ ยังก้าวต่อ ขอเพียร เขียนเพราะรัก ยังหมาดใหม่ ใจก็ มีฝ่อบ้าง ถ้าจัดวาง อ้างท้อ ก็สิ้นศักดิ์ วัฒนธรรมไทย ไพศาลนัก ต้องรู้จัก รักษา คู่ฟ้าไทย([url]http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_030.gif[/url]) อ่านบทกลอน วันนี้ มีมาหลอก ยังบ่งบอก คาบเส้น เช่นที่เขียน รู้อยู่นา ว่าท่าน เทียบชั้นเซียน แกล้งแวะเวียน น้องใหม่ ได้เข้ามา หลายวลี รวบรัด คัดให้เห็น คือจุดเน้น ชำนาญ ด้านภาษา สามสองสาม แปดคำ ตามตำรา สัมผัสหน้า หลังใน ใช้กลมกลืน มีคำใหม่ ท้ายวรรค ประจักษ์แจ้ง ยังแสดง ลงง่าย ไม่ต้องฝืน แต่ละวรรค ตั้งเด่น เป็นบทยืน อ่านไหลลื่น คล้องจอง รองรับกัน ก็หัดเขียน กลอนไทย เพราะใจรัก คิดตั้งหลัก บ้านนี้ มิแปรผัน อักษรไทย ภาษา มาผูกพัน ก่อนที่มัน เลือนหาย กลายอื่นไป. หัวข้อ: Re: เขียนกลอนเพราะใจรัก เริ่มหัวข้อโดย: พริฎฐา ที่ 18 ธันวาคม 2010, 08:04:PM อ่านบทกลอน วันนี้ มีมาหลอก ยังบ่งบอก คาบเส้น เช่นที่เขียน รู้อยู่นา ว่าท่าน เทียบชั้นเซียน แกล้งแวะเวียน น้องใหม่ ได้เข้ามา หลายวลี รวบรัด คัดให้เห็น คือจุดเน้น ชำนาญ ด้านภาษา สามสองสาม แปดคำ ตามตำรา สัมผัสหน้า หลังใน ใช้กลมกลืน มีคำใหม่ ท้ายวรรค ประจักษ์แจ้ง ยังแสดง ลงง่าย ไม่ต้องฝืน แต่ละวรรค ตั้งเด่น เป็นบทยืน อ่านไหลลื่น คล้องจอง รองรับกัน ก็หัดเขียน กลอนไทย เพราะใจรัก คิดตั้งหลัก บ้านนี้ มิแปรผัน อักษรไทย ภาษา มาผูกพัน ก่อนที่มัน เลือนหาย กลายอื่นไป. (http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_193.gif) งามดอกไม้ ไมตรี อันดีพร้อม ขอนอบน้อม ค้อมกราบ ด้วยวาบไหว เขียนคมล้ำ คำลักษณ์ อักษรไทย แผ่รำไพ ได้สม คารมกลอน บทร้อยกรอง คล้องใจ ล้วนไพเราะ โดยจำเพาะ เหยาะความ ตามครูสอน ฉันทลักษณ์ ศักดิ์ค่า คืออาภรณ์ ทุกวรรคตอน ฟ้อนส่ง ดั่งธงชัย ปิยะมิตร คิดชม อยากก้มรับ แต่จิตกับ อับอาย ค้านกายใหญ่- ด้วยบทกลอน ตอนนี้ ห่างดีไกล เพียงแต่ใจ ใฝ่เขียน รักเรียนรู้ ถือกฎเกณฑ์ เว้นวรรค ตามหลักเก่า แปดคำเล่า เก้าเปิด ไม่เลิศหรู แต่บ่อยครั้ง พลั้งใส่ มีให้ดู ยากจับคู่ ชูรส ลงบทกลอน วิสัยทัศน์ จัดว่า สายตาแคบ ยังไกลแบบ แยบยล กลอักษร ไม่จรัส รัศมี ศรีบวร มิหาญฟ้อน ร่อนเปรียบ ไปเทียบฟ้า (http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_193.gif) กราบสวัสดีทุกท่านค่ะ หัวข้อ: Re: เขียนกลอนเพราะใจรัก เริ่มหัวข้อโดย: ดอกกระเจียว ที่ 18 ธันวาคม 2010, 09:03:PM เขียนกลอนเพราะรักสนุกไร้ทุกข์ท้น จากกมลเดียวดายมิใฝ่หา ความเลอเลิศฉันทลักษณ์อักษรา ดั่งภาษาหนึ่งไซร์ในนักกลอน ไว้ส่งสื่อสัมพันธ์กันฉันมิตร ไว้ร่วมคิดร่วมไขใส่อักษร จะคมคายเลอหรูเยี่ยงครูกลอน คงมิอาจเทียบสักท่อนของกลอนครู เขียนสดๆเขียนไวไวแบบไม่คิด อ่านลึกซึ้งตรึงจิตที่ล่วงรู้ แล้วตอบตามความในที่คิดดู วอนเอ็นดูอย่าขุ่นเคืองแม้เรื่องใด เหตุและผลคือกลไกการเขียนคิด นำลิขิตบันทึกยุคสมัย เป็นเหมือนครูแม้นคนที่เข้าใจ จงอภัยหากเพียงคำที่่ก้ำเกิน ดอกกระเจียว (http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_211.gif) หัวข้อ: Re: เขียนกลอนเพราะใจรัก เริ่มหัวข้อโดย: พริฎฐา ที่ 19 ธันวาคม 2010, 04:59:PM เขียนกลอนเพราะรักสนุกไร้ทุกข์ท้น จากกมลเดียวดายมิใฝ่หา ความเลอเลิศฉันทลักษณ์อักษรา ดั่งภาษาหนึ่งไซร์ในนักกลอน ไว้ส่งสื่อสัมพันธ์กันฉันมิตร ไว้ร่วมคิดร่วมไขใส่อักษร จะคมคายเลอหรูเยี่ยงครูกลอน คงมิอาจเทียบสักท่อนของกลอนครู เขียนสดๆเขียนไวไวแบบไม่คิด อ่านลึกซึ้งตรึงจิตที่ล่วงรู้ แล้วตอบตามความในที่คิดดู วอนเอ็นดูอย่าขุ่นเคืองแม้เรื่องใด เหตุและผลคือกลไกการเขียนคิด นำลิขิตบันทึกยุคสมัย เป็นเหมือนครูแม้นคนที่เข้าใจ จงอภัยหากเพียงคำที่่ก้ำเกิน ดอกกระเจียว ([url]http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_211.gif[/url]) (http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_028.gif) เพื่อทราบข่าว- คราวบ้าง ระหว่างสุข ว่าสนุก ทุกอย่าง ไม่ห่างเหิน หรือยามทุกข์ รุกเร้า ใครเขาเมิน เชิญเถิดเชิญ เดินกลอน มาป้อนคำ เหล่าคนรัก อักษรา ขออย่าหมอง เราพี่-น้อง ผองมิตร ลิขิตร่ำ ต่างทิศา ตาไกล ใช่ใจดำ ถึงสูง-ต่ำ ดำ-หล่อ ก็กันเอง emo_25 สวัสดีค่ะ (http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_028.gif) หัวข้อ: Re: เขียนกลอนเพราะใจรัก เริ่มหัวข้อโดย: ดอกกระเจียว ที่ 19 ธันวาคม 2010, 07:55:PM (http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_171.gif) กรรมกรเกรงใจบอกไม่ถูก เรื่องพันผูกผูกพันนั้นไม่เก่ง อักษรวางบางครั้งพลั้งโคลงเคลง จะโตงเตงต่ำเตี้ยผูัผูกพัน หนังสืออ่านล้านเล่มจวนเต็มบ้าน แต่วุฒิงานแค่ปอหกจึงผกผัน ในกลอนกานต์คิดแต่งเพียงแบ่งปัน หวังสัมพันธ์เพื่อนมิตรสุดคิดไกล แม้นนางฟ้าวาจามิหลอนหลอก แล้วทิ่มหอกให้กระอักก่อนผลักไส อยากยื่นก้อยน้อยนิดหมายมิตรใจ เธอจะคิดฉันใดก็บอกมา (http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_171.gif) หัวข้อ: Re: เขียนกลอนเพราะใจรัก เริ่มหัวข้อโดย: สายใย ที่ 19 ธันวาคม 2010, 09:04:PM (http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_020.gif)
เขียนกลอนเพราะใจรักเกินหักห้าม ทั้งเนื้อความสับสนดังคนป่า ก็ยอมรับเทือกเถาเป็นชาวนา ถ้อยวาจาจากใจไร้เล่ห์ลวง เพียงมุ่งหมายระบายความในยามท้อ หรือตัดพ้อต่อแถนบนแมนสรวง ซาบซึ้งในไมตรีจิตมิตรทั้งปวง โปรดทักท้วงถ้าถลำเผลอก้ำเกิน เพราะใจรักอักษรสุนทรพจน์ จึงจารจดแม้อาจยังขลาดเขิน มาเขียนกลอนกันเถิดให้เพลิดเพลิน และขอเชิญอนุรักษ์หลักกลอนไทย (http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_020.gif) หัวข้อ: Re: เขียนกลอนเพราะใจรัก เริ่มหัวข้อโดย: พริฎฐา ที่ 20 ธันวาคม 2010, 12:32:AM ([url]http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_171.gif[/url]) กรรมกรเกรงใจบอกไม่ถูก เรื่องพันผูกผูกพันนั้นไม่เก่ง อักษรวางบางครั้งพลั้งโคลงเคลง จะโตงเตงต่ำเตี้ยผูัผูกพัน หนังสืออ่านล้านเล่มจวนเต็มบ้าน แต่วุฒิงานแค่ปอหกจึงผกผัน ในกลอนกานต์คิดแต่งเพียงแบ่งปัน หวังสัมพันธ์เพื่อนมิตรสุดคิดไกล แม้นนางฟ้าวาจามิหลอนหลอก แล้วทิ่มหอกให้กระอักก่อนผลักไส อยากยื่นก้อยน้อยนิดหมายมิตรใจ เธอจะคิดฉันใดก็บอกมา ([url]http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_171.gif[/url]) (http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_131.gif) รัตนโกสินทร์ ไม่สิ้นฝัน- ผู้รังสรรค์ กลั่นศิลป์ ปิ่นภาษา เหมือนเรือดี มีพาย คัดท้ายนา ล่องธารา คราใด ย่อมให้คุณ อันศรัทธา ค่าศิลป์ กวินนั้น หาใช่ชั้น บัณฑิต เกื้อสิทธิ์หนุน ค่าของคน ผลงาน จักจารจุน แม้นต้นทุน บุญ-ศักดิ์ มีจักน้อย คนใช้แรง แข็งขัน ขยันเขียน บรรจงเจียร เจียระไน ไม่ท้อถอย หัวใจดั่ง ฝังเพชร ล้อมเก็จพลอย ทุกคำร้อย ถ้อยศัพท์ ประทับใจ ผูกสัมพันธ์ อันดี อย่าหนีหน้า เป็นมิตรนัก อักษรา ค่ายิ่งใหญ่ เราคนรัก อักษร รักกลอนไทย อยู่แห่งไหน ใต้ฟ้า หลังคาเดียว emo_10 (http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_131.gif) หัวข้อ: Re: เขียนกลอนเพราะใจรัก เริ่มหัวข้อโดย: พริฎฐา ที่ 20 ธันวาคม 2010, 01:08:AM ([url]http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_020.gif[/url]) เขียนกลอนเพราะใจรักเกินหักห้าม ทั้งเนื้อความสับสนดังคนป่า ก็ยอมรับเทือกเถาเป็นชาวนา ถ้อยวาจาจากใจไร้เล่ห์ลวง เพียงมุ่งหมายระบายความในยามท้อ หรือตัดพ้อต่อแถนบนแมนสรวง ซาบซึ้งในไมตรีจิตมิตรทั้งปวง โปรดทักท้วงถ้าถลำเผลอก้ำเกิน เพราะใจรักอักษรสุนทรพจน์ จึงจารจดแม้อาจยังขลาดเขิน มาเขียนกลอนกันเถิดให้เพลิดเพลิน และขอเชิญอนุรักษ์หลักกลอนไทย ([url]http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_020.gif[/url]) (http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_030.gif) เห็นคะแนน แสนตะลึง ถึงร้อง"โห" เราครบโหล โถเห็น ลำเค็ญใหญ่ เทพกวี ศรีศิลป์ จากถิ่นใด เราต่ำ-ใต้ ไกลท่าน มือสั่นเทา แต่งกลอนเกร็ง เล็งคำ เพื่อนำร้อย อันผู้น้อย พลอยหวาด ด้วยขลาดเขลา โปรดชี้แนะ และติ ตำหนิเรา ดุเบาเบา เย้ามา ประสากลอน จะนอบน้อม พร้อมปรับ และรับผิด แม้นมิ่งมิตร คิดเกื้อ เวียนเอื้อสอน จักสวดมนต์ ขนสิ่ง ล้านมิ่งพร เชิญบวร ฟ้อนรอบ ทั้งครอบครัว (http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_030.gif) หัวข้อ: Re: เขียนกลอนเพราะใจรัก เริ่มหัวข้อโดย: สมนึก นพ ที่ 20 ธันวาคม 2010, 12:19:PM หนึ่งคะแนน บวกนี้ ที่ได้รับ รวมกันนับ มากอยู่ ดูความหมาย ในบ้านกลอน รู้จริง ทั้งหญิงชาย ท่านทั้งหลาย เทียบชั้น ขั้นอาจารย์ วันแรกที่ เข้ามา ประหม่านัก ด้วยใจรัก อ่านกติกา แจ้งประสาน ณ บ้านนี้ มีสอน เรื่องกลอนกานท์ มีบอกผ่าน กระทู้ ดูทุกวัน ข้อบังคับ ข้อห้าม ตามประเด็น ระบุเน้น อย่าเหลิง เชิงเหยียดหยัน สามัคคี ปรานี มีต่อกัน ความสัมพันธ์ ตรงนี้ ที่ตรึงใจ หัดเขียนกลอน มาลง ตรงกระทู้ หลายคุณครู สะกิด ผิดตรงไหน ด้วยสัมผัส หลังหน้า กลอนพาไป เก้าคำไหล ควบกล้ำ ซ้ำกันมี หนึ่งคะแนน วันนั้น ที่ฉันได้ กำลังใจ ตรึงจิต ไม่คิดหนี จะห้าเดือน ครบผ่าน วันสิ้นปี ขึ้นห้าสี่ ขอต่อ รอเรียนกลอน มีบางท่าน ห่างหาย ไม่พบหน้า รีบกลับมา ศิษย์อยู่ รอครูสอน สะบัดสะบิ้ง ดอกสร้อย บทอวยพร อีกหลายตอน อยู่นา ท่านอาจารย์ บวกคะแนน ศิษย์นี้ มีมอบให้ พร้อมกราบไหว้ เคารพฝาก จากลูกหลาน บุญคุณนี้ จำไป ได้เนิ่นนาน และขอท่าน ร่วมอยู่ คู่กลอนไทย. หัวข้อ: Re: เขียนกลอนเพราะใจรัก เริ่มหัวข้อโดย: masapaer ที่ 20 ธันวาคม 2010, 01:25:PM (http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_107.gif) เขียนกลอนเพราะ..หลงรัก? emo_51 แค่แม่งูปูปลามาลอบอ่าน อักษราร้อยสาส์นกานท์สมัย เอาแค่เล่นเน้นเพลินจำเริญใจ มิคิดไปต่อกลอนแบบย้อนคำ หลงเสน่ห์ภาษามาอยู่พัก ตามด้วยหลงดงรักปักถลำ หลงวิชาว่ากลอนอ้อนลำนำ หลงเธอสิ! emo_10 กลัวช้ำยังพร่ำเรียน เขียนเพราะรักหรือหลงคงไม่แปลก เพราะที่แทรกคือใจใคร่อยากเขียน แม้ชื่อเธอลอยตามาวนเวียน ทุกคำเพียรเขียนซึ้งสื่อถึงกัน เธอจะเขียนถึงใครไม่อยากรู้ แต่ที่อยู่ในใจสร้างไฟฝัน ให้ลงหมึกนึกรักฝากรำพัน เธอเท่านั้นรู้ไหมใคร่บอกเธอ หากหัวใจเธอเป็นเช่นกระดาษ ฉันจะวาดคำร้อยถ้อยเสนอ เป็นกานท์ซึ้งฝากฝันอันละเมอ ลงกลางใจบำเรอเธอคนเดียว แค่แม่งูปูปลามาหัดเขียน มาร่ำเรียนเขียนกลอนวอนรักเกี่ยว ด้วยหลงรักคนเขียนทำเนียนเชียว รักคงไม่เสียเที่ยวอยากเกี่ยวใจ... ..ได้ไหมเธอ..อิอิ emo_26 (http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_107.gif) ขำขำ..ขออนุญาตเจ้าของกระทู้นะคะ emo_26 หัวข้อ: Re: เขียนกลอนเพราะใจรัก เริ่มหัวข้อโดย: เมฆา... ที่ 20 ธันวาคม 2010, 02:34:PM (http://s1.postimage.org/8birpti7n/image.jpg) (http://www.postimage.org/) ขอบคุณภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ตครับ. (http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_002.gif) ...เขียนกลอนเพราะ???... ...เพราะชอบอ่าน กานท์กาพย์ กำซาบซึ้ง หลงมนต์ตรึง ตราจิต พิศมัย ยลคารม คมคำ ล้ำวิไล จะของใคร ใครเกลา ก็เร้าทรวง จากพลัง ฝั่งฝัน ที่ท่านแต่ง ล้วนสื่อแสง ซ้อนซับ ระดับสรวง จะสองบท สามบท หรือทดยวง ก็เหมือนบ่วง คล้องใจ ให้ติดตาม จะกลอนเปล่า เล่า-ร่าย ก็ร้ายนัก อ่านแล้วจัก เห็นแจ้ง แถลงขาม หรือโคลงห่อ ก่อคม ผสมความ ก็ล้วนงาม บรรเจิด เกิดมนตรา นั่นสื่อถึง หนึ่งใจ ใส่หมึกเขียน เห็นความเพียร ค้นคิด นิมิตหา อันกระผม คนซื่อ ชื่อเมฆา ขอวันทา ผู้แต่ง สำแดงกลอน ด้วยรู้น้อย ด้อยห่าง ทางวรรณศิลป์ ยังติดดิน เดินหลง พงอักษร จึงหัดปรับ จับเขียน เรียนสุนทร ด้วยอาวรณ์ แห่งรัก วรรควลี แม้นค่ำเช้า หนาวสั่น หรือวันไหน ขอเพียงได้ อ่านกลอน อักษรศรี ก็เป็นสุข ปลุกสันต์ วันระวี จวบราตรี ก็ยังซึ้ง ตรึงกมล ความฉะนี้ ที่แจง เพราะแรงรัก เต็มประจักษ์ ในเกตุ คือเหตุผล หวังเพียงท่าน อ่านคำ ลำนำคน ก็สุขล้น ท้นยิ่ง เหนือสิ่งใด.... ด้วยความเคารพ คนกลอนทุกท่าน. ***เมฆา...*** (http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_011.gif) หัวข้อ: Re: เขียนกลอนเพราะใจรัก เริ่มหัวข้อโดย: พริฎฐา ที่ 21 ธันวาคม 2010, 01:04:AM (http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_131.gif) หนึ่งคะแนน แทนรัก เพื่อนนักฝัน- มอบแด่กัน หวานชื่น ดุจคลื่นไหว ที่ม้วนเกลียว เหนี่ยวนำ ด้วยน้ำใจ สะอาดใส ใหญ่กว่า นภางาม คนน่าคบ นพขวัญ บรรจงไหว้ ครูกลอนไทย ไกลห่าง ศิษย์อ้างถาม อันตัวเรา เศร้าจิต อ่าน-คิดตาม คิดถึงยาม สามหาว ก้าวร้าวครู กว่าจะเป็น เข็ญ-เคี่ยว ถึงเหนี่ยวไม้ ศิษย์ค้อนใส่ ใจค้าน โบราณ-หลู่ เขียนแผลงแผลง แปลง-ปรับ ไม่รับรู้ มิเชิดชู ดูถูก ควรถูกตี แต่ทุกข์-สุข ทุกครั้ง เธอยังเขียน จึงฮึดเปลี่ยน เพียรสลัก เป็นสักขี เหมือนโลกจัด มัจฉา คู่วารี คอกวี มีคู่ ย่อมดูงาม ใช่แม่งู ปูปลา มาลอบอ่าน เขียนบันดาล สานใจ- ใครใคร่ถาม- ถึงกวิน รินต่อ ส่งข้อความ จนวาบหวาม ตามเกี่ยว ถึงเสี้ยวใจ พิศแม่งู ปูปลา งาม-น่ารัก สวรรค์จัก ผลักไส อย่างไรได้ หอมดอกรัก จักริน กลิ่นละไม อย่าดับไฟ ไปล่ะ มะสะแป คนชอบอ่าน กานท์กาพย์ กำซาบซึ้ง ย่อมสื่อถึง หนึ่งใจ ผ่องใสแน่ เป็น เมฆา ฟ้าไทย เลือดไทยแท้ สวนกระแส แปรเปลี่ยน สังเวียนกลอน ถ้าเช่นนั้น ฝันนี้ ขอมีเอี่ยว ร่วมทางเดียว เกี่ยวก้อย ร้อยอักษร วันละนิด คิดช่อ อรชร ไม่หยุดหย่อน ห่อนวาง เผลอว่างเว้น emo_10 สวัสดีทุกท่านค่ะ (http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_131.gif) |