หัวข้อ: ...กานท์ปลอบนาง... เริ่มหัวข้อโดย: ปรางทิพย์ ที่ 10 ธันวาคม 2010, 02:33:AM (http://www.bloggang.com/data/kriechenbauer/picture/1184776868.jpg) มองเห็นเธอเงียบเหงาดูเศร้าโศก ดั่งว่าโลกจะแหลกแตกสลาย ดูซึมเหม่อเปล่าเปลี่ยวอยู่เดียวดาย หมดความหมายเมื่อฝันพลันจากลา เพียงหลงภาพตามติดจิตหลอกหลอน เมื่อโอนอ่อนคล้อยเข้าเงาเสน่หา หมดสิ้นหวังพลังรักหมดศรัทธา เล่ห์มายาพาหม่นทุกข์ล้นใจ เหมือนเห็นเงาที่ทาบภาพสะท้อน ความอาวรณ์ร้าวระคนเกินทนไหว เก็บงำความช้ำชอกยากบอกใคร เพียงเผยได้หน้าชื่นฝืนอกตรม เฝ้ากอดตัวหัวใจไยชอกช้ำ ทุกข์กระหน่ำซ้ำมาจนสาสม ฤาถึงคราวร้าวลาญผลาญให้จม จึงระทมถมทับกลับต้องยอม ยากเกินที่หัวใจจะใฝ่ฝัน ผ่านคืนวันรวยระรินโชยกลิ่นหอม ปัจจุบันขื่นขมและตรมตรอม ยังไม่พร้อมจากลายังอาทร แสนสงสารกานต์ใจไห้โหยหา รินน้ำตาคราจากสุดยากถอน เสียงปลุกปลอบรอบข้างมิต่างวอน จำเก็บซ่อนย้อนคืนแม้ฝืนทรวง (http://dl3.glitter-graphics.net/pub/735/735833rhg7sp07qv.gif) หัวข้อ: Re: ...กานท์ปลอบนาง... เริ่มหัวข้อโดย: ฉันเอง ที่ 10 ธันวาคม 2010, 11:26:AM รักแล้วรอหน่อย..
อันความรักฤาได้ดั่งใจคิด มีถูกผิดเปลี่ยนได้ให้เหหัน ก็มีบ้างความต้องการตรงใจกัน จึงครองคู่ไม่เปลี่ยนผันได้ยาวนาน ความรักความต้องการเสน่หา ได้ก่อเกิดชิดกายาคราร้องขาน เฝ้าหลบฝังอยู่ในจิตติดยาวนาน จะโผล่ร้องความต้องการเมื่อถูกใจ แม้ชายหญิงได้สดับและรับรู้ จะกู่ก้องมองดูหารู้ไหม เมื่อความรักปิดหูปิดตาไป จะรู้ไม่ว่าใจมีใคร่ครอง รักควรมองดูที่ตัวเองนั่น ความต้องการพื้นฐานฉันไม่หมอง หมายตาใครให้รักปักใจปอง ใช้เวลาตรองจิตคิดจารณา ขอให้สมหวังดังจิตมิตรรักทุกท่าน ฉันเอง.. |