พิมพ์หน้านี้ - ~~@ ฉงน @~~

ชุมชน บ้านกลอนไทย ชุมชนสำหรับคนไทยผู้รักกลอน

บทประพันธ์กลอนและบทกวีเพราะๆ => กลอนเหงา => ข้อความที่เริ่มโดย: บ้านริมโขง ที่ 26 พฤศจิกายน 2010, 08:52:PM



หัวข้อ: ~~@ ฉงน @~~
เริ่มหัวข้อโดย: บ้านริมโขง ที่ 26 พฤศจิกายน 2010, 08:52:PM
(http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_172.gif)

"ฉงน"

(http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_181.gif)

ในบางครั้ง มากน้ำใจ ไหลล้นหลั่ง
ดุจเขื่อนพัง น้ำหลาก เชี่ยวกรากไหล
ตกกระโจน โผนผาด ฟาดหัวใจ
รับไม่ไหว หวาดหวั่น ให้พรั่นพรึง

ร่วมถาโถม โลมล้อม พร้อมด้วยรัก
แจ้งประจักษ์ ล้วนลำนำ คำคิดถึง
เสียงตามสาย ร่วมบรรยาย คล้ายตราตรึง
สำเนียงอ้อน หวานซึ้ง น้ำผึ้งอาย

“เฝ้าติดตาม ยามห่าง ไม่สร่างฝัน
ค่ำคืนวัน มั่นจิต คิดมุ่งหมาย
นอนละเมอ เพ้อหา คิดว่าชาย
เคล้าเคลียกาย ไม่ห่าง”... นางวางคำ

เพียงข้ามคืน กลืนวัน เธอผันเปลี่ยน
เหมือนบทเรียน ขาดตอน กลอนถลำ
วางอักษร เกลื่อนกลาด ขาดบทนำ
วกวนซ้ำ คำไข ในอารมณ์

....ใดดานดล คนคล้อย ไหลลอยลิ่ว
ถูกพัดปลิว หลุดหลัก สลักขม
โยกไหวเอน เลนเท เพอารมณ์
ตัวติดตม เติมต่อ หนองงงัน

เป็นเพราะคน หรือบนฟ้า มากำหนด
สุดกำสรด หมดชื่น คืนสุขสันต์
ให้ฉงน คนหนอคน ท้นรำพัน
ใครไหนกัน เจอเหมือนเรา...เฝ้ารำพึง.

บ้านริมโขง

(http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_182.gif)


หัวข้อ: Re: ~~@ ฉงน @~~
เริ่มหัวข้อโดย: ดิษฐา ที่ 26 พฤศจิกายน 2010, 09:03:PM
([url]http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_172.gif[/url])

"ฉงน"

([url]http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_181.gif[/url])

ในบางครั้ง มากน้ำใจ ไหลล้นหลั่ง
ดุจเขื่อนพัง น้ำหลาก เชี่ยวกรากไหล
ตกกระโจน โผนผาด ฟาดหัวใจ
รับไม่ไหว หวาดหวั่น ให้พรั่นพรึง

ร่วมถาโถม โลมล้อม พร้อมด้วยรัก
แจ้งประจักษ์ ล้วนลำนำ คำคิดถึง
เสียงตามสาย ร่วมบรรยาย คล้ายตราตรึง
สำเนียงอ้อน หวานซึ้ง น้ำผึ้งอาย

“เฝ้าติดตาม ยามห่าง ไม่สร่างฝัน
ค่ำคืนวัน มั่นจิต คิดมุ่งหมาย
นอนละเมอ เพ้อหา คิดว่าชาย
เคล้าเคลียกาย ไม่ห่าง”... นางวางคำ

เพียงข้ามคืน กลืนวัน เธอผันเปลี่ยน
เหมือนบทเรียน ขาดตอน กลอนถลำ
วางอักษร เกลื่อนกลาด ขาดบทนำ
วกวนซ้ำ คำไข ในอารมณ์

....ใดดานดล คนคล้อย ไหลลอยลิ่ว
ถูกพัดปลิว หลุดหลัก สลักขม
โยกไหวเอน เลนเท เพอารมณ์
ตัวติดตม เติมต่อ หนองงงัน

เป็นเพราะคน หรือบนฟ้า มากำหนด
สุดกำสรด หมดชื่น คืนสุขสันต์
ให้ฉงน คนหนอคน ท้นรำพัน
ใครไหนกัน เจอเหมือนเรา...เฝ้ารำพึง.

บ้านริมโขง

([url]http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_182.gif[/url])


เฝ้าโทษฟ้าโทษใคร ที่ไหนอยู่
ตรึกตรองดูรู้แจ้ง แย้งส่องถึง
ฉงนงวยป่วยจิต พิษตราตรึง
ปั่นป่วนดึงถึงฉุด ใช่รุดลา

ดูงุนงงปลงตก ระหกเหิน
เทียบบัตรเชิญเพื่อนเศร้า เหงามาหา
รำพึงเพ้อเก้อด่วน ชักชวนมา
สมัครช้ายาหมด เลือดซดใจ


 emo_101


หัวข้อ: Re: ~~@ ฉงน @~~
เริ่มหัวข้อโดย: ฉันเอง ที่ 26 พฤศจิกายน 2010, 11:36:PM
ฉงาย..


ฉงนฉงาย  คลายคร่ำ  ช้ำในอก

หวั่นวิตก    เตลิดหาย  ใจช้ำหนอง

เคยเคียงคู่   มาขาดไป   ไร้จิตตรอง

มามัวหมอง   เมื่อเมียหนี   ตามซี้ไป


ใจจวนจบ   รักมาจาก   เขาพรากหนี

เคยสุขดี    ดันมีทุกข์    สุดแก้ไข

ทำอย่างเดียว   ที่ทำได้   คือทำใจ

เพราะนอกนั้น  ต้องปล่อยไป  แต่เวรกรรม



ฉันเอง..


หัวข้อ: Re: ~~@ ฉงน @~~
เริ่มหัวข้อโดย: ♥ กานต์ฑิตา ♥ ที่ 27 พฤศจิกายน 2010, 07:49:AM
(http://yamiejung-11.webs.com/photos/Lai2/44.gif)

เคยคิดว่าเข้าใจในเธอนั้น
ยิ่งนานวันยิ่งไม่เข้าใจเริ่ม
ความอบอุ่นจุนเจือเผื่อแผ่เติม
จนใจเคลิ้มหวั่นหวาดจะพลาดพลั้ง

ไออุ่นโถมโลมเล้าเคล้าด้วยรัก
ได้ประจักษ์บางคราวสาวย้อนหลัง
เสียงตามสายเอื้อนเอ่ยเคยได้ฟัง
ดูจริงจังถ้อยคำที่พร่ำมา

เฝ้าติดตามถามไถ่ให้ความห่วง
มิขาดช่วงสัมผัสชัดเจนหนา
แต่วันนี้ที่เห็นแสนเย็นชา
จนคิดว่าหมางเมินเกินบรรยาย

ไร้ถ้อยคำนำใจให้ความสุข
ไร้ถ้อยคำปลอบปลุกทุกข์ห่างหาย
มีแต่ความเงียบสนิทดั่งปิดตาย
มีแต่น้อยใจมากมายกรายมาเยือน

หวิวหวิวไหวไหวหวิวหวิวหวิวไหวไหว
หวั่นหวาดใจสัญญาณคล้ายเสมือน
จืดจางไปไร้คำเน้นย้ำเตือน
กระจัดกระจายกลาดเกลื่อนในความคิด

เป็นเพราะเธอทำให้ใจว้าวุ่น
เกิดความขุ่นข้องให้น้อยใจจิต
นี่หรือคนอยากร่วมรวมชีวิต
บอก "รัก" เพียงสักนิดยังคิดนาน.

emo_60

"Kanthita"
27 พ.ย. 2553

(http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_213.gif)


หัวข้อ: Re: ~~@ ฉงน @~~
เริ่มหัวข้อโดย: เมฆา... ที่ 27 พฤศจิกายน 2010, 10:41:AM
 
(http://s1.postimage.org/qshhvypdn/image.png) (http://www.postimage.org/)

(http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_177.gif)


      ~@..งง..@~~

 emo_25

...เธอยื่นมือ ให้จับ กระชับแน่น
คล้องเกี่ยวแขน แทนสื่อ คือภาษา
ว่าด้วยรัก เรานั้น หวานเวลา
ผ่านสายตา มองยิ้ม พริ้มเอียงอาย

...ยามฉันจ้อง เธอชิด บิดเบี่ยงหลบ
หลายคำรบ สบพักตร์ จักมั่นหมาย
โน้มลงจูบ ลูบผม พรมเรือนกาย
เธอก็ฉาย เชิดคาง พลางปัดไป

...พร้อมรอยยิ้ม หยอกล้อ ต่อกระซิก
เธอแกล้งจิก พลิกแขน แสนหลงใหล
ในอากัป กิริยา ภาษาใจ
ที่แฝงไว้ ในจิต จริตเธอ

...ร่างน้อยน้อย นิ่มนวล รัญจวนนัก
เกินห้ามหัก รักล้น จนเจียนเพ้อ
ยามหายใจ ออก-เข้า เฝ้าละเมอ
เป็นต้องเจอ กลิ่นแก้ม แต้มดวงจินต์

...อยู่ในรัก ปักจิต ลิขิตนั้น
จะว่าฝัน หรือไม่ ใคร่ถวิล
ขอมีเธอ ทุกภาพ ตราบชีวิน
เป็นอาจิณ นิรันดร์ ฉันสัญญา

...แล้วยื่นมือ ให้เกี่ยว เรียวรวงก้อย
ไยภาพพลอย  เลือนลาง จางลงหนา
เมื่อเธอขัด ปัดทิ้ง นิ่งสบตา
พร้อมวาจา จบกัน ฉันและเธอ.....

 emo_06

***เมฆา...***



(http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_208.gif)


หัวข้อ: Re: ~~@ ฉงน @~~
เริ่มหัวข้อโดย: บ้านริมโขง ที่ 27 พฤศจิกายน 2010, 06:38:PM

(http://yamiejung-11.webs.com/photos/Lai2/44.gif)



ไร้ถ้อยคำนำใจให้ความสุข
ไร้ถ้อยคำปลอบปลุกทุกข์ห่างหาย
มีแต่ความเงียบสนิทดั่งปิดตาย
มีแต่น้อยใจมากมายกรายมาเยือน     kanthita

มีมากถ้อยร้อยคำได้นำกล่าว
หลายเรื่องราวกล่าวอ้างวางเสมือน
เป็นคำขานจากใจเมื่อได้เยือน
ไม่แชเชือนเอื้อนคำพร่ำคะนึง

เพียงไม่ดูให้แน่ถ่องแท้ก่อน
มาตัดตอนเอาแต่ใจให้ขาดผึง
“...เพียงวันนี้เวลานี้ทำไมจึง
ไม่สื่อถึงซึ้งใจในทันที...!”

อารมณ์ร้อน+น้อยใจเหมือนไฟต้น
ที่มาลนเชื้อเพิ่มเสริมเติมสี
ไม่ไตร่ตรองว่าอกใครไหนก็มี
กิจหน้าที่ภาระงานการกระทำ

โปรดทำใจให้ว่างวางทางฝัน
ความผูกพันค่อยก้าวไปใช่ถลำ
ปลูกต้นไม้ค่อยเพียรเรียนและจำ
ใช่รดน้ำล้นหลากรากเน่าตาย
๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐


เป็นเพราะเธอทำให้ใจว้าวุ่น
เกิดความขุ่นข้องให้น้อยใจจิต
นี่หรือคนอยากร่วมรวมชีวิต
บอก "รัก" เพียงสักนิดยังคิดนาน.     kanthita

ให้มองตนคนไหนใจว้าวุ่น
ใจแม่คุณคนเดียวเจียวไขขาน
น้อยไม่ทำใหญ่ไม่ทำนำรุกราน
ตัดเบิกบานก็ตัวตัดใครจัดแจง

คำว่า “รัก” บอกแน่นหนัก เพียงสักครั้ง
มั่นคงดั่ง ภูผา หาแอบแฝง
ใช่กล่าวย้ำซ้ำซากอยากแสดง
ดุจดั่งแสร้งแกล้งพาทีพิรี้พิไร

โปรดเข้าถึงซึ้งจิตผิดวันนี้
ยั้งคิดทีก่อนทำเอ่ยคำไหน
เก็บอารมณ์ขุ่นมัวตัวไว้ใน
อย่าเอะอะเกินไป...ใครเขามอง.

emo_60

(http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_213.gif)