พิมพ์หน้านี้ - กลอนห่วย แต่ด้วยรัก

ชุมชน บ้านกลอนไทย ชุมชนสำหรับคนไทยผู้รักกลอน

จิปาถะ => ห้องนั่งเล่น => ข้อความที่เริ่มโดย: ชนบท ที่ 21 พฤศจิกายน 2010, 09:30:PM



หัวข้อ: กลอนห่วย แต่ด้วยรัก
เริ่มหัวข้อโดย: ชนบท ที่ 21 พฤศจิกายน 2010, 09:30:PM
ผมนักกลอน ที่อ่อนหัด จัดว่าห่วย
แต่ที่ด้วย มีใจรัก เป็นนักหนา
จึงได้เพิ่ม เติมชื่อ เสนอหน้า
หลงเข้ามา หาที่อ่าน ตามขั้นตอน

แม้ไม่เคย เลยซักนิด จะคิดแต่ง
ด้วยที่แรง ไม่ยนยิน ศิลป์อักษร
แต่อยากมี กลอนดีอ่าน ก่อนจะนอน
จึงแอบซ่อน เข้าเว็ปมา มองหาดู


หัวข้อ: Re: กลอนห่วย แต่ด้วยรัก
เริ่มหัวข้อโดย: Music ที่ 22 พฤศจิกายน 2010, 01:18:PM
emo_100    emo_94

ด้วยดวงใจอยากมีกลอนดีฝาก
แต่หลายหลากอารมณ์จะข่มอยู่
ด้วยกระดูกยังอ่อนต้องวอนครู
แต่ถ้าปูทางมา..ก็กล้าลอง

ด้วยพิกัดจัดว่ายังหน้าอ่อน
แต่เชิงกลอนใจมีทั้งสี่ห้อง
ด้วยอยากเลือกมิตรสหายไว้หมายปอง
แต่กลั้นกรองกลึงเกลาไม่เข้าทาง

ด้วยกลอนห่วยด้วยรัก..มาทักถาม
แต่เกรงขามฝีมือกลัวถืออ้าง
ด้วยเปรียบเปรยเอ่ยบอกเหมือนหมอกจาง
แต่เลือนลางอารมณ์..จะคมคำ

ขอ...เรียนรู้ดูหยั่ง..ได้ตั้งท่า
ผูก...วิชาเชิงสอนเกินกลอนพร่ำ
มิตร..หน้าใหม่ช่วยพักให้ลักจำ
ด้วย..น้อมนำร่ำกวี..อีกทีเทอญ


หัวข้อ: Re: กลอนห่วย แต่ด้วยรัก
เริ่มหัวข้อโดย: สุนันยา ที่ 22 พฤศจิกายน 2010, 01:57:PM




ไม่มีหรอก กลอนห่วย ช่วยสะกิด
ค่อยค่อยคิด ขีดคำ อย่าทำเขิน
สำนวนร้อย ถ้อยคำ อย่านำเกิน
หากไม่เมิน เพลินแน่ ค่อยแก้ไป

เมื่อก่อนนี้ เราเอง ก็เกรงอยู่
แต่ด้วยความ อยากรู้ จึงแก้ไข
อ่านก่อนเก่า เศร้านัก ก็หนักใจ
อ่านทีไร ยิ่งขำ ถ้อยคำเรา..



เป็นกำลังใจให้ค่ะ
เมื่อก่อน สุ เขีนยแย่มากๆ อ่านเองยังขำเลย
ตอนนี้ เขียนบ่อย อ่านบ่อย  ก็ยังไม่ดีนะคะ
เพี่ยงแต่ ค่อยยังชั่ว ขึ้นมาหน่อย ก็จะพยายามต่อไปค่ะ
ก็ใจมันรักนี่เน๊าะ..

"สุนันยา"




 emo_100 emo_85


หัวข้อ: Re: กลอนห่วย แต่ด้วยรัก
เริ่มหัวข้อโดย: ตะวันฉาย ที่ 22 พฤศจิกายน 2010, 02:40:PM

...กลั่นจากถ้อยร้อยเรียงเพียงหนึ่งพจน์
หวังคำรดรินสรวงทรวงคนเหงา
ร่ายมาเถิดเปิดคลำนำทางเรา
ใช่เป็นเงาแทรกอักษรตอนอาลัย

...ทุกบทซึ้งตรึงค่าหทัยล้น
มิอาจพ้นดึงมาจากฉากหวั่นไหว
แม้อกหักรักคุดสะดุดไป
น้ำตาไหลเพื่อบรรเทากับเงาตัว

...เมื่อฤทัยปั้นแต่งแบ่งอักษร
ร่ายคำวอนเสนอมาใช่ว่ามั่ว
ฉันทลักษณ์หลักวางเข้าทางชัวร์
อย่าเฝ้ามัวหมองหม่นจงรีบจาร...


         

        (http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_178.gif)


หัวข้อ: Re: กลอนห่วย แต่ด้วยรัก
เริ่มหัวข้อโดย: บอม ซอง ดุ๊ก ที่ 22 พฤศจิกายน 2010, 05:29:PM

(http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_030.gif)

กลอนนี้สีชมพู


กลอนตันๆ...รำพัน...เพราะฝันค้าง
กลอนจางๆ...วางไว้...เพราะใจเผลอ
กลอนเน่าๆ...เร้าลง...เพราะหลงเธอ
กลอนเบลอๆ...เพ้อลั่น...ใช่มันแกว

กลอนพรำๆ...ขำดี...มีมาเรื่อย
กลอนเฉื่อยๆ...เอื่อยยาน...แต่หวานแหวว
กลอนแปลกๆ...แจกจริง...สุดพริ้งแพรว
กลอนแนวๆ...แวววับ...นับวันรอ

กลอนทึ่มๆ...เค็มเค็ม...เต็มด้วยฝัน
กลอนตันๆ...ปันให้...ด้วยใจหนอ
กลอนสากๆ...ฝากหวาน...ด้วยกานท์ทอ
ก. ถึง ฮ........ด้วยรัก.....และภักดี

O

กวีตัน...นาม บอม ซอง ดุ๊ก

(http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_030.gif)



หัวข้อ: Re: กลอนห่วย แต่ด้วยรัก
เริ่มหัวข้อโดย: หนึ่งหยดพิรุณ ที่ 22 พฤศจิกายน 2010, 06:28:PM
๛ ปานเชื้อไฟหลอมหล่อ คอยก่อเกื้อ
ให้เศษเชื้อไฟใจ คอยไผลเผลอ
แลช่วงโชติลุกลาม ทุกยามเจอ
หวังเสนอกามบท รสวิไล

ว่า..ลั่นทมหอมสิ้น กว่ากลิ่นเปรียบ
ฤา จะเทียบกลิ่นเกล้า ของเจ้าได้
โลมรักรสมโนภาพ กำซาบพราย
แทนความหมายใคร่พาน้อง ท่องฉิมพลี

โอ้ว่า ตกใจตื่นลื่นตกเตียง
นี่เราเพียงหลับฝัน เองเหรอนี่
ต้องขอโทษคนอ่าน แหม..นานที
ผมจะมีความฝัน เล่ากันฟัง ๛
 emo_68


หัวข้อ: Re: กลอนห่วย แต่ด้วยรัก
เริ่มหัวข้อโดย: ชนบท ที่ 22 พฤศจิกายน 2010, 09:40:PM
ขอขอบคุณ ชาวกวี ที่ต้อนรับ
น้อมคำนับ สำหรับท่าน อาจารย์เอก
ตัวข้านี้ มีฝีมือ นับว่าเล็ก
หากนับเลข เป็นขั้นหนึ่ง พึงจะควร

เหล่าจอมยุทธ ที่ผุดมา กล่าวปราศัย
ทั้งหญิงชาย ใช้วาจา น่าหอมหวน
บ้างเป็นสาว ราวกับช่อ ดอกลำดวน
แล้วแมนล้วน ด่วนตอบรับ สดับกลอน

ตัวข้านี้ มีนามว่า อ้ายเป็ดน้อย
สถานะ ยังเฝ้าคอย คู่เคียงช้อน
ถิ่นกำเนิด เกิดบ้านนา ป่าดงดอน
เพราะทรัพย์จาง นางสมร จึงจรไกล

มีอาชีพ กสิกรรม คือทำไร่
ปลูกอ้อยขาย ไล่ตั๊กแตน กีฬาเล่น
ทำงานหนัก พักน้อยเอา เช้าจดเย็น
ค่ำหลีกเร้น เข้าเคหา หญ้าคามุง

ชีวิตเศร้า สาวไม่มอง มันของแน่
เป็นมาแต่ โดยกำเนิด เกินไม่สูง
ไม่หล่อเหลา น่าหลงไหล คล้ายชาวกรุง
หวังพยุง ชีวิตให้ ไหลตามกาล


หัวข้อ: Re: กลอนห่วย แต่ด้วยรัก
เริ่มหัวข้อโดย: สมนึก นพ ที่ 23 พฤศจิกายน 2010, 07:53:AM
ขอขอบคุณ ชาวกวี ที่ต้อนรับ
น้อมคำนับ สำหรับท่าน อาจารย์เอก
ตัวข้านี้ มีฝีมือ นับว่าเล็ก
หากนับเลข เป็นขั้นหนึ่ง พึงจะควร

เหล่าจอมยุทธ ที่ผุดมา กล่าวปราศัย
ทั้งหญิงชาย ใช้วาจา น่าหอมหวน
บ้างเป็นสาว ราวกับช่อ ดอกลำดวน
แล้วแมนล้วน ด่วนตอบรับ สดับกลอน

ตัวข้านี้ มีนามว่า อ้ายเป็ดน้อย
สถานะ ยังเฝ้าคอย คู่เคียงช้อน
ถิ่นกำเนิด เกิดบ้านนา ป่าดงดอน
เพราะทรัพย์จาง นางสมร จึงจรไกล

มีอาชีพ กสิกรรม คือทำไร่
ปลูกอ้อยขาย ไล่ตั๊กแตน กีฬาเล่น
ทำงานหนัก พักน้อยเอา เช้าจดเย็น
ค่ำหลีกเร้น เข้าเคหา หญ้าคามุง

ชีวิตเศร้า สาวไม่มอง มันของแน่
เป็นมาแต่ โดยกำเนิด เกินไม่สูง
ไม่หล่อเหลา น่าหลงไหล คล้ายชาวกรุง
หวังพยุง ชีวิตให้ ไหลตามกาล


จะน้อยใจ ใยเล่า เจ้าเป็ดน้อย
มีไร่อ้อย ไล่ตั๊กแตน แสนมากหลาย
เป็นกีฬา ได้ออก กำลังกาย
อย่าคิดหน่าย งานนี้ มีของเรา

ทำนาไร่ ได้รู้ อยู่ว่าหนัก
เวลาพัก ไม่เหมือน อย่างเพื่อนเขา
ยามค่ำลง เร้นกาย ใต้ร่มเงา
หญ้าคาเก่า มุงไว้ ได้พึ่งพิง

ยังต้องเศร้า หนาวมา เวลาผ่าน
สั่นสะท้าน ถึงใจ ขาดไอผิง
สาวไม่มอง ปองหมาย ไว้แอบอิง
คือขาดสิ่ง หนึ่งนั้น นั่นคู่ครอง

หญ้าคาเก่า แผ่นนั้น กันแดดฝน
ยังฝืนทน รับได้ ไม่หม่นหมอง
แต่เป็ดน้อย เมินไป ไม่เหลียวมอง
ไปหลงจ้อง ดารา ขอบฟ้าไกล

หญ้าคาก็ น้อยใจ เป็นได้นะ
ถูกปล่อยปละ ละทิ้ง ยิ่งหวั่นไหว
มีบ่อยครั้ง เจ้าทำ เจ็บช้ำใน
แหวกช่องไว้ ดูดาว เมื่อหนาวเยือน.


หัวข้อ: Re: กลอนห่วย แต่ด้วยรัก
เริ่มหัวข้อโดย: กฤษณาต้องน้ำ ที่ 23 พฤศจิกายน 2010, 04:49:PM
อาจไม่ใช่กลอนหวานที่เพราะพริ้ง
แต่...รู้ไหม...มันคือความรู้สึกจริงๆที่มันกลั่นล้นใจ
รู้ดีว่าไม่เก่ง ไม่ดีสักเท่าไหร่
แต็พยายามสุดใจ.......เพื่อใครสักคน


อยากให้เขารู้...ทำให้เขาภูมิใจ
ทีมีใครสักคน.....ที่เขาห่วงหา
หรือว่าฉันคนเดียว ที่บ้า  ที่เพ้อ  ที่หลง หวั่นไหว
หากกลอนนี้...มันรบกวนเธอมากเกินไป
ฉันคงต้องขออภัย.....เพราะไม่เคยแต่งกลอนให้ใคร..สักครั้งเลย center][/size][/color]