หัวข้อ: ***นิราศเพรงกาล *** เริ่มหัวข้อโดย: อักษรารำพัน ที่ 23 ตุลาคม 2010, 12:16:AM ๐ โพยมครวญพยับคลึ้ม.....คลุมแดน
ฤาร่ำคำบอกแทน..................พี่ให้ สานทรวงพ่วงพันแกน-.......สวาทมั่น มาดเรียม ตัวห่างใจแอบใกล้.................โอบด้วยเสน่หา ๐ วชิราวาบเฟื้อย............ปราบสาย หากเปรียบคะนึงชาย.......ขณะก้อง ทรวงอนงค์ย่อมมลาย......หลอมหลั่ง- รินสู่อกผู้พร้อง..............ร่วมคล้องคะนึงหมาย ๐ อุทกหลากเอ่อท้น........ธรณิน เทียมเสน่หาบ่าริน..........ห่อนได้ เนืองนองท่วมเมฆินทร์....อาจเทียบ เปรียบเท่าจิตมอบไว้......ค่านั้นฤาควร ๐ หนาวลมพรมพร่างฟ้า.....โปรยฝน เย็นเยียบในอกคน.................หม่นช้ำ พลัดเรือนต่างแดน..ดล-......ใจพี่- คงมั่นดั่งเคยย้ำ......................เอ่ยแล้วฝากอร ๐ มืดมัวหนหม่นห้วง.......เวหา เดือนดับลับดารา...........หลบเร้น หากโชนช่วงอุรา............กระจ่าง รักเฮย เรืองปลั่งนวลไป่เว้น.......สว่างล้ำทรวงสมร ๐ คำเอยเคยเอ่ยอ้าง.......สัตยา สูรย์ล่มลับโลกา............ดับร้าง มิเลือนรักจักตรา-.........ตรึงอยู่ เสมอกาล มอบจิตแนบชิดข้าง........ผูกคล้องเกลียวสมาน ๐ ยลพากย์ยินฝากย้ำ......คำชาย ซึมซาบทรวงห่อนคลาย....จิตข้อง วอนลมรื่นโลมกาย..........เสมอมิ่ง ขวัญเคียง- คลอ, อุ่นอาวรณ์คล้อง.....พ่วงพ้องรอยหวาน ๐ วรรษกาลผันผ่านคล้อย...คนึงนวล โรยร่ำลอยลมหวน............ผ่านฟ้า รายรอบสู่จิตชวน.........สนิทแน่น นานเนอ ตราบสบวันล่มว้า-............เหว่ร้างมลายสูญ ๐ ลมหนาวพรมพร่างพื้น...ภูผา โหมห่วงรอบนภา...........แผ่ห้อม โลมรักระรวยมา............โรยรื่น รินสู่ทรวงพี่พร้อม.........พากย์เน้นคะนึงคอย! วลีลักษณา ๒๒ ตุลาคม ๒๕๕๓ http://www.bloggang.com/mainblog.php?id=waleelaksana หัวข้อ: ภุชงคปยาตฉันท์ ๑๒ เริ่มหัวข้อโดย: jatanin ที่ 24 พฤษภาคม 2011, 07:25:AM ภุชงคปยาตฉันท์ ๑๒
๐ อุราไหวฤทัยรอน.................มิอาจถอนฤดีไกล สะท้านขวัญประหวั่นใน............ละม้ายใจจะขาดรอน ๐ ประสบพักตร์ประจักษ์โฉม......ประดุจโคม ณ อัมพร ละออองค์อนงค์อร...................ผินางฟ้าวิลาวัณย์ ๐ พธูปรายชม้ายพักตร์.............ก็นึกรักประจักษ์มั่น มนัสตรึงคนึงฝัน.....................มิมีวันจะหันลา ๐ นรีใดมิหมายสิ้น..................จะมอบจินต์อภิญญา ฤทัยวางมิสร่างซา.................กระจ่างหล้าและฟ้าดิน๚ะ๛ หัวข้อ: บทชมนาง ด้วย นานาฉันท์ เริ่มหัวข้อโดย: jatanin ที่ 24 พฤษภาคม 2011, 12:21:PM ภุชงคปยาตฉันท์ ๑๒
๐ อุราไหวฤทัยรอน.................มิอาจถอนฤดีไกล สะท้านขวัญประหวั่นใน............ละม้ายใจจะขาดรอน ๐ ประสบพักตร์ประจักษ์โฉม......ประดุจโคม ณ อัมพร ละออองค์อนงค์อร...................ผินางฟ้าวิลาวัณย์ ๐ พธูปรายชม้ายพักตร์............ก็นึกรักประจักษ์มั่น มนัสตรึงคนึงฝัน.....................มิมีวันจะหันลา ๐ นรีใดมิหมายสิ้น.................จะมอบจินต์อภิญญา ฤทัยวางมิสร่างซา.................กระจ่างหล้าและฟ้าดิน๚ะ๛ อินทรวิเชียรฉันท์ ๑๑ ๐ เพียงยลกระวนวาย................อุระชายมลายสิ้น เนตรปรายละลายจินต์................ศิขรินทร์ถล่มพลัน ๐ วงพักตร์ก็งดงาม..................นะจะหยามและเย้ยจันทร์ ไม่พบประสบขวัญ...................ศศินั้นสิบั่นทอน ๐ ยามยิ้มประพิมพราย..............ฤติวายสยบอร คิ้วโก่งขนงงอน.......................ดุจะศรพระจักรา ๐ หากแม้นสุดาดวง...................จิตะพ่วงและห่วงหา ร่วมโศก ณ โลกหล้า..................จะละฟ้ามิอาลัย๚ะ๛ หัวข้อ: Re: บทชมนาง ด้วย นานาฉันท์ เริ่มหัวข้อโดย: jatanin ที่ 24 พฤษภาคม 2011, 07:45:PM ภุชงคปยาตฉันท์ ๑๒
๐ อุราไหวฤทัยรอน.................มิอาจถอนฤดีไกล สะท้านขวัญประหวั่นใน............ละม้ายใจจะขาดรอน ๐ ประสบพักตร์ประจักษ์โฉม......ประดุจโคม ณ อัมพร ละออองค์อนงค์อร...................ผินางฟ้าวิลาวัณย์ ๐ พธูปรายชม้ายพักตร์............ก็นึกรักประจักษ์มั่น มนัสตรึงคนึงฝัน.....................มิมีวันจะหันลา ๐ นรีใดมิหมายสิ้น.................จะมอบจินต์อภิญญา ฤทัยวางมิสร่างซา.................กระจ่างหล้าและฟ้าดิน๚ะ๛ อินทรวิเชียรฉันท์ ๑๑ ๐ เพียงยลกระวนวาย................อุระชายมลายสิ้น เนตรปรายละลายจินต์................ศิขรินทร์ถล่มพลัน ๐ วงพักตร์ก็งดงาม..................นะจะหยามและเย้ยจันทร์ ไม่พบประสบขวัญ...................ศศินั้นสิบั่นทอน ๐ ยามยิ้มประพิมพราย..............ฤติวายสยบอร คิ้วโก่งขนงงอน.......................ดุจะศรพระจักรา ๐ หากแม้นสุดาดวง...................จิตะพ่วงและห่วงหา ร่วมโศก ณ โลกหล้า..................จะละฟ้ามิอาลัย๚ะ๛ วิชชุมมาลาฉันท์ ๘ ๐ เพียงพบสบน้อง..........................พี่ต้องหวั่นไหว ศรรักปักใน......................................ดวงใจพี่ชาย ๐ ว้าวุ่นครุ่นคิด...............................ด้วยจิตมุ่งหมาย อยากอยู่คู่กาย..................................ไม่คลายสัมพันธ์ ๐ พี่นั้นมั่นคง.................................ซื่อตรงไม่สร่าง หมายชวนนวลปราง.......................ร่วมสร้างทางฝัน ๐ หากแม้นทรามวัย.........................มีใจให้กัน จนสิ้นชีวัน......................................รักมั่นเพียงเธอ๚ะ๛ หัวข้อ: Re: บทชมนาง ด้วย นานาฉันท์ -อีทิสังฉันท์ ๒๐- เริ่มหัวข้อโดย: jatanin ที่ 24 พฤษภาคม 2011, 10:38:PM ภุชงคปยาตฉันท์ ๑๒
๏ อุราไหวฤทัยรอน.................มิอาจถอนฤดีไกล สะท้านขวัญประหวั่นใน............ละม้ายใจจะขาดรอน ๏ ประสบพักตร์ประจักษ์โฉม......ประดุจโคม ณ อัมพร ละออองค์อนงค์อร...................ผินางฟ้าวิลาวัณย์ ๏ พธูปรายชม้ายพักตร์............ก็นึกรักประจักษ์มั่น มนัสตรึงคนึงฝัน.....................มิมีวันจะหันลา ๏ นรีใดมิหมายสิ้น.................จะมอบจินต์อภิญญา ฤทัยวางมิสร่างซา.................กระจ่างหล้าและฟ้าดิน๚ะ๛ อินทรวิเชียรฉันท์ ๑๑ ๏ เพียงยลกระวนวาย................อุระชายมลายสิ้น เนตรปรายละลายจินต์................ศิขรินทร์ถล่มพลัน ๏ วงพักตร์ก็งดงาม..................นะจะหยามและเย้ยจันทร์ ไม่พบประสบขวัญ...................ศศินั้นสิบั่นทอน ๏ ยามยิ้มประพิมพราย..............ฤติวายสยบอร คิ้วโก่งขนงงอน.......................ดุจะศรพระจักรา ๏ หากแม้นสุดาดวง...................จิตะพ่วงและห่วงหา ร่วมโศก ณ โลกหล้า..................จะละฟ้ามิอาลัย๚ะ๛ วิชชุมมาลาฉันท์ ๘ ๏ เพียงพบสบน้อง..........................พี่ต้องหวั่นไหว ศรรักปักใน......................................ดวงใจพี่ชาย ๏ ว้าวุ่นครุ่นคิด...............................ด้วยจิตมุ่งหมาย อยากอยู่คู่กาย..................................ไม่คลายสัมพันธ์ ๏ พี่นั้นมั่นคง.................................ซื่อตรงไม่สร่าง หมายชวนนวลปราง.......................ร่วมสร้างทางฝัน ๏ หากแม้นทรามวัย.........................มีใจให้กัน จนสิ้นชีวัน......................................รักมั่นเพียงเธอ๚ะ๛ อีทิสังฉันท์ ๒๐ ๏โฉมสะคราญสราญถวิลจะเจอ มิพบอนงค์ก็หลงละเมอ..................เสมอไป ๏ เปรียบประดุจอรุณละมุนละไม ตะลึงตะลานและซ่านฤทัย..............ละออตา ๏ ภักดิ์จะมั่นจะหมาย ณ สายสุดา สุรางคะใดมิปรารถนา.....................ณ ดวงมาน ๏ นัยะนาพะพราว ณ คราวประสาน นภากระจ่างสว่างตระการ...............สราญนัก๚ะ๛ หัวข้อ: Re: บทชมนาง ด้วย นานาฉันท์ -ภุชงคปยาตฉันท์ ๑๒- เริ่มหัวข้อโดย: jatanin ที่ 25 พฤษภาคม 2011, 04:19:PM ภุชงคปยาตฉันท์ ๑๒
๏ อุราไหวฤทัยรอน.................มิอาจถอนฤดีไกล สะท้านขวัญประหวั่นใน............ละม้ายใจจะขาดรอน ๏ ประสบพักตร์ประจักษ์โฉม......ประดุจโคม ณ อัมพร ละออองค์อนงค์อร...................ผินางฟ้าวิลาวัณย์ ๏ พธูปรายชม้ายพักตร์............ก็นึกรักประจักษ์มั่น มนัสตรึงคนึงฝัน.....................มิมีวันจะหันลา ๏ นรีใดมิหมายสิ้น.................จะมอบจินต์อภิญญา ฤทัยวางมิสร่างซา.................กระจ่างหล้าและฟ้าดิน๚ะ๛ อินทรวิเชียรฉันท์ ๑๑ ๏ เพียงยลกระวนวาย................อุระชายมลายสิ้น เนตรปรายละลายจินต์................ศิขรินทร์ถล่มพลัน ๏ วงพักตร์ก็งดงาม..................นะจะหยามและเย้ยจันทร์ ไม่พบประสบขวัญ...................ศศินั้นสิบั่นทอน ๏ ยามยิ้มประพิมพราย..............ฤติวายสยบอร คิ้วโก่งขนงงอน.......................ดุจะศรพระจักรา ๏ หากแม้นสุดาดวง...................จิตะพ่วงและห่วงหา ร่วมโศก ณ โลกหล้า..................จะละฟ้ามิอาลัย๚ะ๛ วิชชุมมาลาฉันท์ ๘ ๏ เพียงพบสบน้อง..........................พี่ต้องหวั่นไหว ศรรักปักใน......................................ดวงใจพี่ชาย ๏ ว้าวุ่นครุ่นคิด...............................ด้วยจิตมุ่งหมาย อยากอยู่คู่กาย..................................ไม่คลายสัมพันธ์ ๏ พี่นั้นมั่นคง.................................ซื่อตรงไม่สร่าง หมายชวนนวลปราง.......................ร่วมสร้างทางฝัน ๏ หากแม้นทรามวัย.........................มีใจให้กัน จนสิ้นชีวัน......................................รักมั่นเพียงเธอ๚ะ๛ อีทิสังฉันท์ ๒๐ ๏โฉมสะคราญสราญถวิลจะเจอ มิพบอนงค์ก็หลงละเมอ..................เสมอไป ๏ เปรียบประดุจอรุณละมุนละไม ตะลึงตะลานและซ่านฤทัย..............ละออตา ๏ ภักดิ์จะมั่นจะหมาย ณ สายสุดา สุรางคะใดมิปรารถนา.....................ณ ดวงมาน ๏ นัยะนาพะพราว ณ คราวประสาน นภากระจ่างสว่างตระการ...............สราญนัก๚ะ๛ ภุชงคปยาตฉันท์ ๑๒ ๏ คะนึงฝันก็หวั่นจิต............นิรามิต ฤ ห้ามหัก สะพร่างใสประไพพักตร์.......กมลปักลดาวัลย์ ๏ ระโหยอ่อนมิผ่อนคลาย.....ฤดีหมายจะครองขวัญ ชะรอยบุญ ณ ปางบรรพ์.......มโนมั่นสวาทนาง ๏ ประจักษ์ในหทัยแล้ว.........ผิคลาดแคล้วสิวายวาง ศิโรราบบ่ห่อนจาง...............มิแรมร้างละนางไป ๏ เพราะใจรักตระหนักมั่น......มิมีวันนิราศไกล จะหมายมาดสวาทใน...........พธูนั้นนิรันดร์กาล๚ะ๛ หัวข้อ: Re: ชมนาง เริ่มหัวข้อโดย: เฮยอิง ที่ 26 พฤษภาคม 2011, 11:44:AM ธ งามแท้ วิลาวัลย์ หทัยนั้นประหวั่นรอน สะกดแล้ว ณ เมืองดอน มิทอดถอนฤทัยพลัน จรดสู่ ธ แดนด้าว จะค่ำเช้ามิสร่างขวัญ สถิตล้วนปวรวรรณ ฤาเจ้านั้นสวรรค์นาง หัวข้อ: Re: ***นิราศเพรงกาล *** เริ่มหัวข้อโดย: ข้าน้อยขอฝากตัว ที่ 26 พฤษภาคม 2011, 03:01:PM คืนและวันจะผันจะผ่านไฉน จะจำสลักฤดีฤทัย ณ เพรงกาล เธอสงบเสงี่ยมสุมลสุมาลย์ จะกรีดจะกรายตะลึงตะลาน หทัยชม กอดตระกองอนงค์ผดุงผทม ประสานประสบสุเนตรสิคม ละลายใจ กาลจะผ่านจะผันผิว์ในหทัย ระลึกสวรรค์สว่างไสว เสมอมา กามนิต ๒๖ พ.ค.๕๔ อิทิสังฉันท์ ๒๐ ใช่หรือไม่ หัวข้อ: Re: ***นิราศเพรงกาล *** เริ่มหัวข้อโดย: พรายม่าน ที่ 04 มิถุนายน 2011, 03:40:AM กมลฉันท์ ๑๒ ๏ อภิธานกวีเทพ ฤจะเสพธุลีสม ระวิโชติกระไรชม สมนัยอนุชครอง ๏ ศศิพักตร์กระจ่างภพ ศิริกลบศจีหมอง กระจะทาบละอองทอง พสุไท้ประทานเธอ ๏ นขทารณ์มิปานเนตร ปรเมศวร์ตะลึงเผลอ ผิพิมานมิผ่านเจอ กลเท่ห์ถกลไกล ๏ รชะอ่อนลออคลี่ นลินีขจรไหว ปรทิพย์ปทุมใด ก็มิกรายนลินกร ๏ อุระอั้นประหวั่นอก ดุจนกตระหนกศร ระติร้าวผะผ่าวรอน สิธิดาเผดิมดิน ฯ พรายม่าน สันทราย ๐๔.๐๖.๕๔ |