พิมพ์หน้านี้ - คนเขียนกลอน

ชุมชน บ้านกลอนไทย ชุมชนสำหรับคนไทยผู้รักกลอน

บทประพันธ์กลอนและบทกวีเพราะๆ => กลอนคิดถึง => ข้อความที่เริ่มโดย: ♥ กานต์ฑิตา ♥ ที่ 07 ตุลาคม 2010, 01:13:AM



หัวข้อ: คนเขียนกลอน
เริ่มหัวข้อโดย: ♥ กานต์ฑิตา ♥ ที่ 07 ตุลาคม 2010, 01:13:AM

(http://yamiejung3.webs.com/photos/AA2/5.gif)

คนเขียนกลอนอ่อนไหวหัวใจเหงา
เพราะหยิบเอาเค้าเงื่อนที่เหมือนต้น
มีรากแก้วรากฝอยรอยมืดมน
ทุกข์ท้อทนแตกใบกิ่งใหญ่โต

คนเขียนกลอนอ่อนแอไม่แพ้พ่าย
ถึงเดี๋ยวดีเดี๋ยวร้ายน่าอายโข
ถึงจะล้าหน้าหมองร้องไห้โฮ
ก็ยังโชว์กลเม็ดดั่งเพชรงาม

คนเขียนกลอนนอนเปล่าก็เศร้าจิต
เฝ้าวนคิดเวียนไปอย่างใจย่าม
เหมือนเรือขาดเข็มทิศใช้ติดตาม
ตกอยู่ท่ามความงงเพราะหลงทาง

คนเขียนกลอนรอนแรมเติมแต้มฝัน
หยิบตะวันเดือนดาวที่พราวพร่าง
สายลมโบกแผ่วผิวหวีดหวิวคราง
นำมาสร้างภาพช่วยดูสวยดี

คนเขียนกลอนวอนฝากแทนปากเอ่ย
ว่าคิดถึงจังเลยรู้ไหมนี่
บรรจงสรรกลั่นคำฉ่ำวจี
ด้วยไมตรีและกมลคนเขียนกลอน.

emo_60

“Kanthita”
7 ต.ค.2553

(http://i493.photobucket.com/albums/rr293/aodeye/line/111.gif)


หัวข้อ: Re: คนเขียนกลอน
เริ่มหัวข้อโดย: สุวรรณ ที่ 07 ตุลาคม 2010, 01:48:AM
คนเขียนกลอนกล่อมกลอนจะนอนแล้ว
เพราะแรงแผ่วผ่อนโผยระโหยหาย
หวังตาหลับอาบฝันอันสบาย
ทุกข์ร้ายร้ายกลายกลบซบหมอนกลืน

สักนิทรานะฟ้าอย่าเพิ่งแกล้ง
สักฝันนะแซมแซง ก่อนแจ้งตื่น
สักเสี้ยวหนึ่งพึงใจจะขึ้นยืน
ยิ้มสดชื่นยื่นใหม่ในอรุณ

หวังเจอกันอีกวันนะพรุ่งนี้
คืนนี้ขอฤดีซุกฟูกอุ่น
กลัวความฝันสั้นลงคงเสียดุลย์
แล้วอดลุ้นเหตุการณ์ในฝันเรา

 emo_47 emo_84




หัวข้อ: Re: คนเขียนกลอน
เริ่มหัวข้อโดย: บ้านริมโขง ที่ 07 ตุลาคม 2010, 04:24:AM

([url]http://yamiejung3.webs.com/photos/AA2/5.gif[/url])

คนเขียนกลอนอ่อนไหวหัวใจเหงา
เพราะหยิบเอาเค้าเงื่อนที่เหมือนต้น
มีรากแก้วรากฝอยรอยมืดมน
ทุกข์ท้อทนแตกใบกิ่งใหญ่โต

คนเขียนกลอนอ่อนแอไม่แพ้พ่าย
ถึงเดี๋ยวดีเดี๋ยวร้ายน่าอายโข
ถึงจะล้าหน้าหมองร้องไห้โฮ
ก็ยังโชว์กลเม็ดดั่งเพชรงาม

คนเขียนกลอนนอนเปล่าก็เศร้าจิต
เฝ้าวนคิดเวียนไปอย่างใจย่าม
เหมือนเรือขาดเข็มทิศใช้ติดตาม
ตกอยู่ท่ามความงงเพราะหลงทาง

คนเขียนกลอนรอนแรมเติมแต้มฝัน
หยิบตะวันเดือนดาวที่พราวพร่าง
สายลมโบกแผ่วผิวหวีดหวิวคราง
นำมาสร้างภาพช่วยดูสวยดี

คนเขียนกลอนวอนฝากแทนปากเอ่ย
ว่าคิดถึงจังเลยรู้ไหมนี่
บรรจงสรรกลั่นคำฉ่ำวจี
ด้วยไมตรีและกมลคนเขียนกลอน.

emo_60

“Kanthita”
7 ต.ค.2553

([url]http://i493.photobucket.com/albums/rr293/aodeye/line/111.gif[/url])


(http://img820.imageshack.us/img820/7830/d33e.jpg) (http://img820.imageshack.us/my.php?image=d33e.jpg)

คนต่อกลอนต่อแขนนี้แสนยาก
ก่อนออกปากต้องผ่านใจใช่หลอกหลอน
ต้องวางเรื่องวางราวสาวเป็นตอน
โดนทั้งสอนทั้งด่าน่าเจ็บใจ

คนต่อกลอนจะเริ่มเองก็เกร็งนัก
กลัวผิดหลักหักโค่นโดนแก้ไข
คอยดูต้นดูรากก่อนดูใบ
ว่าต้นใหญ่ใบน้อยหรือห้อยวาง

คนต่อกลอนต้องอ่อนไหวตามใจเจ้า
เพื่อให้เข้ากับอารมณ์ขมไม่ขวาง
เขาว่าไงว่าด้วยช่วยแม่นาง
กลัวเขาวางไม้เรียวให้เสียวใจ

คนต่อกลอนสอนยากจนปากแฉะ
โดนชำแหละแซะซอนจนอ่อนไหว
จะต่อเกินต่อล้ำให้หนำใจ
ทำไม่ได้เพราะเกรงใจเจ้าของงาน

คนต่อกลอนนอนทีหลังนั่งคอยเจ้า
ยังคงเฝ้ากลอนต้นคนส่งสาร
ส่งมาเร็วก็ดีไปไม่รอนาน
ถ้ามาช้าไม่ได้การ..มานกุ้มจัย !!

(http://img265.imageshack.us/img265/8676/bar131.gif) (http://img265.imageshack.us/my.php?image=bar131.gif)

emo_45 emo_96 emo_45


หัวข้อ: Re: คนเขียนกลอน
เริ่มหัวข้อโดย: blue ที่ 07 ตุลาคม 2010, 09:23:AM

([url]http://yamiejung3.webs.com/photos/AA2/5.gif[/url])

คนเขียนกลอนอ่อนไหวหัวใจเหงา
เพราะหยิบเอาเค้าเงื่อนที่เหมือนต้น
มีรากแก้วรากฝอยรอยมืดมน
ทุกข์ท้อทนแตกใบกิ่งใหญ่โต

คนเขียนกลอนอ่อนแอไม่แพ้พ่าย
ถึงเดี๋ยวดีเดี๋ยวร้ายน่าอายโข
ถึงจะล้าหน้าหมองร้องไห้โฮ
ก็ยังโชว์กลเม็ดดั่งเพชรงาม

คนเขียนกลอนนอนเปล่าก็เศร้าจิต
เฝ้าวนคิดเวียนไปอย่างใจย่าม
เหมือนเรือขาดเข็มทิศใช้ติดตาม
ตกอยู่ท่ามความงงเพราะหลงทาง

คนเขียนกลอนรอนแรมเติมแต้มฝัน
หยิบตะวันเดือนดาวที่พราวพร่าง
สายลมโบกแผ่วผิวหวีดหวิวคราง
นำมาสร้างภาพช่วยดูสวยดี

คนเขียนกลอนวอนฝากแทนปากเอ่ย
ว่าคิดถึงจังเลยรู้ไหมนี่
บรรจงสรรกลั่นคำฉ่ำวจี
ด้วยไมตรีและกมลคนเขียนกลอน.

emo_60

“Kanthita”
7 ต.ค.2553

([url]http://i493.photobucket.com/albums/rr293/aodeye/line/111.gif[/url])


คนเขียนกลอนวอนมาหามวลมิตร
มาใกล้ชิดอิงแอบแนบอักษร
ทุกบาทบทสดสวยอำนวยพร
ทุกบทกลอน  หวานรื่น  น่าชื่นชม

ขอมาแจมแซมวลีที่น้อยค่า
อาจจะไม่คุ้นหน้า อย่าขื่นขม
แค่อยากมาต่อกลอนป้อนอารมณ์
ช่วยผสมไมตรีแสนดีจาร

ตามที่อ่านกลอนมาทุกทุกบท
แสนรื่นรส กวี วจีหวาน
มาช่วยหนุนจุนเจือเมื่อรักบาน
ณ สถานบ้านกลอน กระฉ่อนจินต์

ขอบคุณมิตรทุกทุกท่านที่ขานไข
มาขอเป็นกำลังใจไม่สูญสิ้น
วอนฟ้าฝากคำกลอน  พรโรยริน
อย่าสูญสิ้น คนรัก  และภักดี



หัวข้อ: Re: คนเขียนกลอน
เริ่มหัวข้อโดย: ดาวระดา ที่ 07 ตุลาคม 2010, 10:29:AM
(http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_110.gif)
คนเขียนกลอนช้อนคำชูคุณค่า
ดั่งจันทรางามท้นถิ่นสถาน
ผ่องอำไพอ่อนพราวคราวพบพาน
ชนประจักษ์จันทร์จารผ่านแสงนวล

ชมคำฟุ้งคำฟูโอ้ฟูเฟื่อง
ร้อยหลากเรื่องรินรดบทกระสวน
คลี่ขอบฟ้าขอบฝันบรรณกระบวน
คดสำนวนครวญศัพท์นุ่มเคียงเคล้า

คนเขียนกลอนก่อนหลับมักขับเคลื่อน
โยงคำเหมือนความหมายหลากหลายเหล่า
เพื่อหยิบถ้อยโยงทางได้บางเบา
ยามโลมเล้าเคล้าครวญชวนละลาย

มองภาพผ่านรูปคำหนอคำนุ่ม
ถักทอถ้อยทองทุ่มเป็นพุ่ม-สาย
สานผสมสร้อยแทรกจำแนกกาย
ประดิษฐ์ประดับหมายคุณค่าแห่งคำ


(http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_110.gif)


หัวข้อ: Re: คนเขียนกลอน
เริ่มหัวข้อโดย: ♥ กานต์ฑิตา ♥ ที่ 07 ตุลาคม 2010, 12:54:PM
คนเขียนกลอนวอนมาหามวลมิตร
มาใกล้ชิดอิงแอบแนบอักษร
ทุกบาทบทสดสวยอำนวยพร
ทุกบทกลอน  หวานรื่น  น่าชื่นชม

ขอมาแจมแซมวลีที่น้อยค่า
อาจจะไม่คุ้นหน้า อย่าขื่นขม
แค่อยากมาต่อกลอนป้อนอารมณ์
ช่วยผสมไมตรีแสนดีจาร

ตามที่อ่านกลอนมาทุกทุกบท
แสนรื่นรส กวี วจีหวาน
มาช่วยหนุนจุนเจือเมื่อรักบาน
ณ สถานบ้านกลอน กระฉ่อนจินต์

ขอบคุณมิตรทุกทุกท่านที่ขานไข
มาขอเป็นกำลังใจไม่สูญสิ้น
วอนฟ้าฝากคำกลอน  พรโรยริน
อย่าสูญสิ้น คนรัก  และภักดี



ขอต้อนรับประดับไว้คนทายทัก
ขอบคุณนักร่วมแจมแซมกลอนนี่
คนเขียนกลอนวอนหวานกานท์กวี
ด้วยหวังมีมิตรมอบโต้ตอบคำ

ซึ่งบางครั้งดุเดือดคล้ายเชือดเฉือน
สุดแต่เกลื่อนคิดหามาให้ขำ
อรรถรสบทกลอนแสร้งงอนง้ำ
หยิกหยอกอำนำไปเพื่อให้ตาม

ก็แล้วแต่จะเห็นเป็นไฉน
ต่างกันไปใจจิตมิคิดห้าม
กลอนผสมคมถ้อยเรียงร้อยความ
เกิดนิยามประเด็นใหม่ได้ต่อเติม

อยากจะต่อล้อคำเชิญทำได้
ตามแต่ใจคิดหานำมาเสริม
ฉันทลักษณ์หนักแน่นแบบแผนเดิม
เอาล่ะเริ่ม...โชว์ได้อย่าให้คอย.


emo_60

"Kanthita"
7 ต.ค.2553

(http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_010.gif)


หัวข้อ: Re: คนเขียนกลอน
เริ่มหัวข้อโดย: สายลมสีขาว ที่ 07 ตุลาคม 2010, 03:48:PM
คนเขียนกลอน คือผู้ รินห้วงฝัน
ต่อเติมวัน อันเศร้า คืนสดใส
เพราะด้วยพจน์ รจนา มาจากใจ
เป็นอุ่นไอ ซึ่งเอิบอิ่ม กลางลมเย็น

จะรินฝัน กลั่นลง ตรงกระดาษ
เพื่อเขียนวาด หัวใจ ให้ได้เห็น
ด้วยถ้อยลักษณ์ สลักหมึก ตรึกประเด็น
ดังที่จินต์ นั้นสรรเป็น ตามต้องการ

จะตวัด ปากกา ที่จับอยู่
เพื่อปันฝัน ลงสู่ รู้ประสาน
จะตวัด ถ้อยพจน์ เป็นบทกานท์
ประหนึ่งธาร ลานฝัน อันวิไล


หัวข้อ: Re: คนเขียนกลอน
เริ่มหัวข้อโดย: masapaer ที่ 07 ตุลาคม 2010, 03:55:PM
รักคนเขียนกลอน

 emo_10

คอยจดจดจ้องจ้องมองอักษร
รอเวลาเธอออนในตอนไหน
รอเธอมาต่อกลอนแทบอ่อนใจ
รอสัญญาณของไฟว่าใครออน

เธอเขียนกลอนอ่อนไหวใจอ่อนหวาน
เราแทบคลานหวั่นไหวในอักษร
เธอต่อกลอนตามใครก่อนไปนอน
ส่วนเรารอต่อกลอนเพื่ออ้อนเธอ

เธอใสซื่อลือเลื่องเฟื่องคำเด็ด
เราคอเคล็ดเด็ดคำตามเผยอ
รอจดจ้องมองชื่อสื่อจนเบลอ
ไม่มีกลอนเลยเอ๋อเก้อไปนาน

กลอนของเธอคือ “พื้น” ที่ขึ้นบอร์ด
ใจเราจอด “ภาพ” เธอเพ้อผสาน
มือก็รัวหัวใจให้รนราน
กว่าจะลงกลอนกานท์สานไมตรี

กลอนเริ่มมั่วหลัวบอดจอดสนิท
กลอนเธอนะสะกิดจิตแทบปรี่
ถ้อยความเพียรเขียนไว้ให้ดิบดี
ใจเจ้ากรรมนะซีที่สั่นรัว

เริ่มยึกยักยึกยือสื่อสั่นสั่น
กลัวไม่ทันคนอื่นฝืนเวียนหัว
รักคนเขียน..เวียนคนอ่าน..นั่นของชัวร์
แต่ที่มั่วคือกลอน..เฮ้อ!..อ่อนใจ 

 emo_20



หัวข้อ: Re: คนเขียนกลอน
เริ่มหัวข้อโดย: เมฆา... ที่ 07 ตุลาคม 2010, 04:59:PM
รักคนเขียนกลอน

 emo_10

คอยจดจดจ้องจ้องมองอักษร
รอเวลาเธอออนในตอนไหน
รอให้เธอต่อกลอนแทบอ่อนใจ
รอสัญญาณของไฟว่าใครออน

เธอเขียนกลอนอ่อนไหวใจอ่อนหวาน
เราแทบคลานหวั่นไหวในอักษร
เธอต่อกลอนตามใครก่อนไปนอน
ส่วนเรารอต่อกลอนเพื่ออ้อนเธอ

เธอใสซื่อลือเลื่องเฟื่องคำเด็ด
เราคอเคล็ดเด็ดคำตามเผยอ
รอจดจ้องมองชื่อสื่อจนเบลอ
ไม่มีกลอนเลยเอ๋อเก้อไปนาน

กลอนของเธอคือ “พื้น” ที่ขึ้นบอร์ด
ใจเราจอด “ภาพ” เธอเพ้อผสาน
มือก็รัวหัวใจให้รนราน
กว่าจะลงกลอนกานท์สานไมตรี

กลอนเริ่มมั่วหลัวบอดจอดสนิท
กลอนเธอนะสะกิดจิตแทบปรี่
ถ้อยความเพียรเขียนไว้ให้ดิบดี
ใจเจ้ากรรมนะซีที่สั่นรัว

เริ่มยึกยักยึกยือสื่อสั่นสั่น
กลัวไม่ทันคนอื่นฝืนเวียนหัว
รักคนเขียน..เวียนคนอ่าน..นั่นของชัวร์
แต่ที่มั่วคือกลอน..เฮ้อ!..อ่อนใจ 

 emo_20





๐..ขอโทษครับ รับผิด ติดธุระ
มิได้ละ หลบลี้ หนีไปไหน
ยังคงออน ตอนว่าง วางกลอนไป
ส่งความใน ไล่เรียง เสียงบทกานท์
 
๐..หากรู้ว่า คนงาม รอถามไถ่
จะออนไว้ ไฟเขียว มิเลี้ยวผ่าน
จะคงนั่ง หน้าจอ รอดวงมาน
มาต่อขาน กาลขับ รับ-ส่งกลอน

๐.. ฟังคำพ้อ ต่อว่า  ระอานัก
  เกินจะหัก ห้ามเฉย เอ่ยอักษร
 โปรดอย่าสั่น มั่นใจ ในทุกตอน
 จะเอ็มออน  ย้อนตอบ ชอบสำนวน
 
๐..ด้วยว่าสุข สำเนียง เสียงเสนาะ
แถมหัวเราะ  อิอิ .. มิกำสรวล
ลงท้ายวรรค  รักแอบ แนบคำครวญ
ทุกสิ่งล้วน ซาบซึ้ง ตรึงทรวงใน

๐..แต่ที่กล่าว เล่ามา ว่าทั้งหมด
เป็นเพราะรส หวาน-อ้อน อักษรไข
แต่ว่าเอ๊ะ นิดนึง หมายถึงใคร
มิเป็นไร  ผมเหมารวม ขอสวมรอย.....ฮ่าๆๆๆๆ

        ..สวมรอยเลย ก็แล้วกัน อิอิ.. emo_121 emo_94 emo_68


 ***เมฆา...***


หัวข้อ: Re: คนเขียนกลอน
เริ่มหัวข้อโดย: ดอกกระเจียว ที่ 07 ตุลาคม 2010, 06:55:PM
(http://picasion.com/resize16/fb751b05ef4208f8c7f184d5f45bf403.jpg)


คนเขียนกลอนนอนเหงาก็เศร้าจิต
คำลิขิตมากหนออย่าท้อถอย
อยู่นอนนั่งหวั่นไหวคิดใจลอย
ปล่อยคนคอยรออ่านประสานคำ

สุขหรือเศร้าเคล้าหวานใส่ตาลปี๊บ
มาจ้อจีบสาวหนุ่มให้ชุ่มฉ่ำ
อาจพานพบคนชอบใจซึ้งในคำ
ลบรอยช้ำจากลาจงมาเยือน

เหล่านักกลอนขี้เมาอย่าเศร้าเซ่อ
ครวญละเมอส่งข่าวถึงดาวเกลื่อน
หมดสตังค์ครั้งใดใจเลอะเลือน
หยุดแชเชือนเขียนมาเป็นอาจิน

สาวรักหนุ่มกลุัมใจอย่าไปท้อ
การรีอรอนะนงค์จงถวิล
งับห้องเศร้าโหยหาน้ำตาริน
มาเยือนถิ่นจะบอกกลอนอ้อนผู้ชาย

พวกเด็กๆเล็กจิ๋วเพิ่งสิวขึ้น
อย่ามัวยืนทำเริ่ดท่าเฉิดฉาย
แม้อ่อนหัดเจ้าหนอก็อย่าอาย
เชิญกรีดการยมาเลยจะเฉยไย

พี่กระเจียวใจดีกว่าที่คิด
ทั้งมวลมิตรมากมีคอยชี้ไข
ในสำนักเบิกบานบ้านกลอนไทย
แห่งนี้ไซร์ขอต้อนรับทุกนักกลอน




(http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_014.gif)

 emo_54รวมกลอนดอกกระเจียว emo_55 (http://www.klonthaiclub.com/index.php/topic,12767.msg103590/topicseen.html#msg103590)










หัวข้อ: Re: คนเขียนกลอน
เริ่มหัวข้อโดย: ทอฝัน ที่ 07 ตุลาคม 2010, 07:23:PM
...คนเขียนกลอน...ซ่อนคม...ผสมเคล็ด
กลเม็ด...ผุดพราว...ยามกล่าวสอน
ละมุนมวล...อวลอบ...ครบทุกตอน
งามสะท้อน...อ่อนหวาน...น้ำตาลอาย

...คนเขียนกลอน...นอนนึก...ยังตรึกคิด
ยิ่งเพ่งพิศ...ติดตรึง...ซึ้งความหมาย
สถิตแล้ว...กลางจิต...ไม่คิดคลาย
พูดไม่อาย...รักล้น...คนเขียนกลอน
 emo_95
..............//ทอฝัน แจมหน่อยนะคะ...!!!


หัวข้อ: Re: คนเขียนกลอน
เริ่มหัวข้อโดย: hort39 ที่ 07 ตุลาคม 2010, 07:43:PM
คนเขียนกลอนกลอนจึงฉายคล้ายจะสื่อ
ทุกคำคือหัวใจใส่อักษร
ทุกสำนวนคือตัวตนคนเขียนกลอน
จากเด็กอ่อนก้าวย่างอย่างยากเย็น

คนเขียนกลอนนานไปก็ได้คิด
เข้าใจผิดหรือเปล่้าที่เราเห็น
กลอนต่างหากเขียนไว้ให้คนเป็น
คอยเคี่ยวเข็ญตัวตนสร้างผลงาน

คนเขียนกลอนกลอนเขียนคนจนใจแท้
รู้เพียงแต่ยินดีที่คุณอ่าน
ร่วมต่อกลอนต่อไมตรีที่เบ่งบาน
เพื่อสืบสานให้กลอนอยู่คู่แดนไทย

 emo_108


หัวข้อ: Re: คนเขียนกลอน
เริ่มหัวข้อโดย: ดิษฐา ที่ 07 ตุลาคม 2010, 08:04:PM

วางเค้าโครงโยงกลอน ช้อนบทบาท
วลีอาจสุข – เศร้า เหงาถึงไหน
จิตผูกมัด ยัดเยียด เสียดเข้าใจ
กลกลอนใส่ ในร่างวางบทกลอน

หลากอารมณ์ผสมสรรพ เข้าจับแต่ง
ทุกหนแห่งแข่งเขียน เปลี่ยนอักษร
ฤา คำคน กลลวง ท้วงในกลอน
โดนเขียนอ้อน อ่อนล้ม จมคำลวง

(http://yamiejung18.webs.com/photos/Lai2/79.gif)


หัวข้อ: Re: คนเขียนกลอน
เริ่มหัวข้อโดย: สายใย ที่ 08 ตุลาคม 2010, 12:53:AM
(http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_020.gif)
 
คนเขียนกลอนวอนสรวงประท้วงสาว
ปล่อยให้หนาวเหน็บกมลกว่าทนไหว
สบตาเดือนครึ่งดวงด้วยห่วงใย
แต่คงไม่ทราบซึ้งอีกหนึ่งทรวง

ว่าตรงนี้มีใครเขาใฝ่ฝัน
แอบมองจันทร์หวั่นใจไม่ล้ำล่วง
อยากฝากถ้อยคำถึงเดือนครึ่งดวง
เจ้าช่วยทวงสัญญาให้ข้าที
(http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_020.gif)


หัวข้อ: Re: คนเขียนกลอน
เริ่มหัวข้อโดย: ไพร พนาวัลย์ ที่ 08 ตุลาคม 2010, 02:46:AM
(http://img38.imageshack.us/img38/2357/a120153.gif)

คนเขียนกลอนนอนดึกนึกสนุก
แม้จะทุกข์สุขบ้างช่างเถิดหนา
กลับจากงานรีบออนก่อนข้าวปลา
อาบน้ำท่าทีหลังรีบนั่งมอง

คนเขียนกลอนคิดถึงเพื่อนนักฝัน
แต่กลางวันไม่ว่างต่างก็ต้อง
ลุยกับงานหาเงินจนเหงื่อนอง
กลางคืนจ้องหน้าจอรออ่านกลอน

คนเขียนกลอนวอนเว้าเจ้าเนื้อนิ่ม
อ่านกลอนอิ่มหรือยังอย่านั่งซ่อน
คนนอนดึกเหงาใจยังไม่นอน
เจ้าขวัญอ่อนออนพบอย่าหลบไป

คนเขียนกลอนเดียวดายในตอนดึก
ยังเฝ้านึกห่วงหาแก้วตาใส
หลับตื่นแล้วมาเจอเผลอดีใจ
แล้วทำไมไม่ทักคนรักกลอน

 emo_55

“ปรางค์  สามยอด”


หัวข้อ: Re: คนเขียนกลอน
เริ่มหัวข้อโดย: masapaer ที่ 08 ตุลาคม 2010, 05:00:AM

๐..ขอโทษครับ รับผิด ติดธุระ
มิได้ละ หลบลี้ หนีไปไหน
ยังคงออน ตอนว่าง วางกลอนไป
ส่งความใน ไล่เรียง เสียงบทกานท์
 
๐..หากรู้ว่า คนงาม รอถามไถ่
จะออนไว้ ไฟเขียว มิเลี้ยวผ่าน
จะคงนั่ง หน้าจอ รอดวงมาน
มาต่อขาน กาลขับ รับ-ส่งกลอน

๐.. ฟังคำพ้อ ต่อว่า  ระอานัก
  เกินจะหัก ห้ามเฉย เอ่ยอักษร
 โปรดอย่าสั่น มั่นใจ ในทุกตอน
 จะเอ็มออน  ย้อนตอบ ชอบสำนวน
 
๐..ด้วยว่าสุข สำเนียง เสียงเสนาะ
แถมหัวเราะ  อิอิ .. มิกำสรวล
ลงท้ายวรรค  รักแอบ แนบคำครวญ
ทุกสิ่งล้วน ซาบซึ้ง ตรึงทรวงใน

๐..แต่ที่กล่าว เล่ามา ว่าทั้งหมด
เป็นเพราะรส หวาน-อ้อน อักษรไข
แต่ว่าเอ๊ะ นิดนึง หมายถึงใคร
มิเป็นไร  ผมเหมารวม ขอสวมรอย.....ฮ่าๆๆๆๆ

        ..สวมรอยเลย ก็แล้วกัน อิอิ.. emo_121 emo_94 emo_68


 ***เมฆา...***


(http://yamiejung3.webs.com/photos/AA2/77.gif)

อยู่มิไกลในอกไม่ยกออก
มิขอบอกขานไขใจมันจ๋อย
ใจครองอยู่รู้แน่แค่แอบคอย
เขียนเป็นร้อยคอยใครนะใจเรา  emo_29

หรือว่าคนสวมรอยคอยขับขาน   emo_15
นำคำหวานกว้านชมถล่มเหมา
ใจยิ่งเอียงเสี่ยงหนุนลุ้นไม่เบา
จะเป็นเงาของใครที่ใจนาง  emo_54

เล่นหน้าบอร์ดจอดก่อนอย่าอ้อนนัก   emo_15
ใจมันชักหวิวหวิวละลิ่วสาง  emo_24
รักมันใหญ่ใจปลาซิวปลิวนอกทาง
มิกล้าอ้างเป็นใครไขก็อาย   emo_19

อยู่มิใกล้หรือไกลใจฉันนี้
คนคอยอ่านอยู่นี่สิน่าหมาย  emo_51
บ๊ะ ! แค่คิดจิตแอบแบบเสียดาย    emo_26
ขอท่านชายสวมรอยคอยนานนาน

จะไขนิดคิดตามคำขานกล่าว
สเปคสาวมากมุขสนุกหนาน
บ๊องบ้าเซ่อเอ๋อหน่อยปล่อยคมกานท์  emo_45
พจมานหวานซึ้งตรึงรัญจวน

ใครเขียนกลอนอ่อนไหวให้หัวเราะ
เสียงเสนาะเพราะคำทำใจป่วน
ก็คนนั้นนั่นแล้วแพรวสมควร
หากรู้ตัวก็ด่วนรีบหวนมา


 emo_15  emo_68  emo_15



หัวข้อ: Re: คนเขียนกลอน
เริ่มหัวข้อโดย: จ้อง เจรียงคำ ที่ 08 ตุลาคม 2010, 09:11:AM
..คนอ่านกลอน..

คนเขียนกลอนก่อนหน้า..ตามหาใคร
เห็นกวักมือไหวไหว..ให้ไปหา
เอี้ยวตัวผันหันหลัง..ตั้งหลายครา
ไร้ทีท่าตาสบ..จะพบพาน

คนเขียนกลอนก็เป็นเฉกเช่นนี้
เอากลอนดีจี้กมลของคนอ่าน
จี้ให้คว่ำตำให้เคลิ้มเพิ่มผลงาน
คนฟุ้งซ่านสยบ..เขาจบกลอน

รู้ทั้งรู้ผู้อ่านร้อยทั้งร้อย
คือผู้ที่ใจลอยคล้อยอักษร
ยิ่งชอบจี้จิ้มปาดแทบขาดรอน
ด้วยคำอ้อนออดอ่านหวานจับใจ

คนเขียนกลอนก่อนหน้า..บ้าชะมัด
เขาไปคัดคำกลอนอันอ่อนไหว
มาจากห้วงหนแห่ง ณ แหล่งใด
ช่างบาดในเนื้อมานผู้อ่านนัก

หรือเจนจัดคัดจากเรียวปากผ่าน
โดยส่วนมากปากหวานเป็นการหลัก
ช่างชำนาญการพร่ำถ้อยคำรัก
เขาคงสักแต่หวานผ่านเรียวลิ้น

ถ้าคนอ่านหวั่นไหว..คล้อยใจคิด
แอบผันจิตเผลอจรตามกลอนกลิ่น
คนเขียนกลอนแน่ล่ะ..ศิลปิน
คงจะชิน..เพียงยิ้ม..อิ่มผลงาน

อาร์ตี้  emo_52


หัวข้อ: Re: คนเขียนกลอน
เริ่มหัวข้อโดย: ไม่รู้ใจ ที่ 08 ตุลาคม 2010, 09:59:AM
(http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_131.gif)


ไม่อยากเอ่ย คำลา พาใจเศร้า
มันเงียบเหงา เหลือเกิน อย่าเมินหนี
ด้วยจำต้อง มาพราก จากมิตรดี
ทั้งทั้งที่ ยังหวง ห่วงอาวรณ์

ฝากใจไว้ ก่อนนะ จะมาหา
ขอเวลา เคลียร์งาน ทั้งการสอน
ให้ทุกอย่าง เรียบร้อย ค่อยเขียนกลอน
อีกกี่ตอน มิหน่าย หายห่างไกล


(http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_131.gif)





หัวข้อ: Re: คนเขียนกลอน
เริ่มหัวข้อโดย: masapaer ที่ 08 ตุลาคม 2010, 04:39:PM
..คนอ่านกลอน..

คนเขียนกลอนก่อนหน้า..ตามหาใคร
เห็นกวักมือไหวไหว..ให้ไปหา
เอี้ยวตัวผันหันหลัง..ตั้งหลายครา
ไร้ทีท่าตาสบ..จะพบพาน

คนเขียนกลอนก็เป็นเฉกเช่นนี้
เอากลอนดีจี้กมลของคนอ่าน
จี้ให้คว่ำตำให้เคลิ้มเพิ่มผลงาน
คนฟุ้งซ่านสยบ..เขาจบกลอน

รู้ทั้งรู้ผู้อ่านร้อยทั้งร้อย
คือผู้ที่ใจลอยคล้อยอักษร
ยิ่งชอบจี้จิ้มปาดแทบขาดรอน
ด้วยคำอ้อนออดอ่านหวานจับใจ

คนเขียนกลอนก่อนหน้า..บ้าชะมัด
เขาไปคัดคำกลอนอันอ่อนไหว
มาจากห้วงหนแห่ง ณ แหล่งใด
ช่างบาดในเนื้อมานผู้อ่านนัก

หรือเจนจัดคัดจากเรียวปากผ่าน
โดยส่วนมากปากหวานเป็นการหลัก
ช่างชำนาญการพร่ำถ้อยคำรัก
เขาคงสักแต่หวานผ่านเรียวลิ้น

ถ้าคนอ่านหวั่นไหว..คล้อยใจคิด
แอบผันจิตเผลอจรตามกลอนกลิ่น
คนเขียนกลอนแน่ล่ะ..ศิลปิน
คงจะชิน..เพียงยิ้ม..อิ่มผลงาน

อาร์ตี้  emo_52



ทำตัดพ้อต่อขานอ่านอักษร
หรือแอบค้อนร้อนใจให้สงสาร
ต่างกันหรือสื่อคนที่ด้นกานท์
ก็ปากหวานทั้งนั้นปั้นเพื่อใคร

ใครกันเล่าชอบคำทำเจ็บปวด
เป็นจรวดพุ่งเป้ายิงเข้าใส่
คำประทุลุเดือดเชือดเฉือนใจ
ชอบอย่างไหนให้หวานหรือกานท์ตรม

อยากเขียนกลอนอ่านกลอนตอนเธออยู่
หวังว่าเธอรับรู้ดูสุขสม
ใส่รู้สึกลึกข้นขนรักพรม
ด้วยคำคมน้ำดีที่บรรจง

เลือกคัดคำอย่างดีเป็นที่หนึ่ง
อยากให้ซึ้งถึงใครได้ลุ่มหลง
หวังต่อเคียงเรียงคำคอยดำรง
แต่นัยตรงคือเธอ..ชะเง้อคอย

เธออ่านกลอนร่อนใจร่ายไม่หยุด
หมดเป็นชุดกลอนใครใจแทบถอย
ได้แต่เดาแบบหวั่นกลัวฝันลอย
กลอนอาจกร่อยเมื่อใดใครประกัน

เธออ่านกลอนคำคมนิยมรส
เราคอยจดจ้องเขียนเวียนแข็งขัน
แต่สุดท้ายไหนเล่าจะเข้าทัน
กลอนที่กลั่นอย่างดีด้วยฝีมือ

จำต้องเรียนเขียนศัพท์จับมาร้อย
เข้าสวมรอยนักศิลป์ระบิลชื่อ
 หาคำจี้กมลให้คนลือ
ด้วยแอบสื่อความหมายแทงใจเธอ


 emo_51


หัวข้อ: Re: คนเขียนกลอน
เริ่มหัวข้อโดย: ♥ กานต์ฑิตา ♥ ที่ 08 ตุลาคม 2010, 09:28:PM
([url]http://img820.imageshack.us/img820/7830/d33e.jpg[/url]) ([url]http://img820.imageshack.us/my.php?image=d33e.jpg[/url])

คนต่อกลอนต่อแขนนี้แสนยาก
ก่อนออกปากต้องผ่านใจใช่หลอกหลอน
ต้องวางเรื่องวางราวสาวเป็นตอน
โดนทั้งสอนทั้งด่าน่าเจ็บใจ

คนต่อกลอนจะเริ่มเองก็เกร็งนัก
กลัวผิดหลักหักโค่นโดนแก้ไข
คอยดูต้นดูรากก่อนดูใบ
ว่าต้นใหญ่ใบน้อยหรือห้อยวาง

คนต่อกลอนต้องอ่อนไหวตามใจเจ้า
เพื่อให้เข้ากับอารมณ์ขมไม่ขวาง
เขาว่าไงว่าด้วยช่วยแม่นาง
กลัวเขาวางไม้เรียวให้เสียวใจ

คนต่อกลอนสอนยากจนปากแฉะ
โดนชำแหละแซะซอนจนอ่อนไหว
จะต่อเกินต่อล้ำให้หนำใจ
ทำไม่ได้เพราะเกรงใจเจ้าของงาน

คนต่อกลอนนอนทีหลังนั่งคอยเจ้า
ยังคงเฝ้ากลอนต้นคนส่งสาร
ส่งมาเร็วก็ดีไปไม่รอนาน
ถ้ามาช้าไม่ได้การ..มานกุ้มจัย !!

([url]http://img265.imageshack.us/img265/8676/bar131.gif[/url]) ([url]http://img265.imageshack.us/my.php?image=bar131.gif[/url])

emo_45 emo_96 emo_45


อยากต่อกลอนขอโทษโปรดอย่าบ่น
จะต่อวนหรือต่อตรงมิสงสัย
จะวางเรื่องวางราวสาวตอนมั้ย
จะวิจัยวิจารณ์กล่าวขานเชิญ

เป็นผู้เริ่มก่อนได้เอาให้แจ๋ว
ถนัดแนวแบบไหนอย่าได้เขิน
บรรเลงร้อยถ้อยคำให้ดำเนิน
จะหยอกเอินค่อนว่าหรือด่าทอ

ไม่จำเป็นต้องตามใครความคิด
แล้วแต่จิตตนเองอย่าเกรงหนอ
คิดอะไรใส่เร็วรี่อย่ารีรอ
จะขวางคอขัดแย้งก็แต่งมา

คนต่อกลอนสอนยากฝีปากจัด
จึงต้องอัดเต็มที่ตีแสกหน้า
จะต่อเกินต่อล้ำจำนรรจา
มิเคยว่าเชิญต่อจะรอดู

คนต่อกลอนนอนดึกคิดอึกอัก
บังอาจทักท้วงไปให้อดสู
ตัวเราเองนี้ไซร้ใช่คุณครู
หางอึ่งรู้สาระแหน่...แส่นะเรา.

emo_60

"Kanthita"
8 ต.ค.2553

(http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_009.png)


หัวข้อ: Re: คนเขียนกลอน
เริ่มหัวข้อโดย: มังตรา ที่ 08 ตุลาคม 2010, 09:48:PM
(http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_071.gif)


กลอนคือหมอน  หนุนนอน  ยามอ่อนเหนื่อย                 
สายลมเอื่อย  พัดสำเนียง  เสียงภาษา
กลิ่นสัมผัส   นำรัก   อักษรา                                     
แมกพฤกษา   ลีลาเขียน  ยอดเซียนกลอน

กลอนคือเพื่อน  เตือนกระตุ้น  ให้ครุ่นคิด                         
ใจลิขิต  ขีดคั่นไว้  ในคำสอน
เหตุและผล   อารมณ์ใส่  ให้สังวร                               
เอื้ออาทร  อ่านกลอนปลอบ  ที่ชอบใจ   

กลอนคือรัก   รักคือกลอน   ไว้อ้อนฝัน                           
กลอนคือฉัน  ฉันคือกลอน  สอนใจใส่
กลอนคือมิตร   ที่จิตจด  ไม่ขดใน                                 
กลอนคือใจ   เลือดเชื้อไข  ใส่ในกลอน



                                                                     emo_89


หัวข้อ: Re: คนเขียนกลอน
เริ่มหัวข้อโดย: Music ที่ 03 พฤษภาคม 2011, 11:13:PM
emo_100


ด้วยลุ่มหลงพะวงฝันวรรณศิลป์
แม้ผกผินบินไกลใจสังหรณ์
ยังห่วงเพื่อนร่วมฝันอันอำพร
จะร้าวรอนเพียงใด...เมื่อไกลกัน

จึงขอแวะขอเวียนมาเขียนทัก
ผู้นำชักอักษรามาร้อยขวัญ
ได้โยงไยใสซื่อสื่อสัมพันธ์
เหมือนดั่งเรามีกัน...เช่นวันวาน


 emo_94


หัวข้อ: Re: คนเขียนกลอน
เริ่มหัวข้อโดย: สมนึก นพ ที่ 04 พฤษภาคม 2011, 08:17:AM
(http://add.ohzeed.com/images/72Cat05.jpg)
นั่งเขียนกลอนอ้อนเพื่อนมาเยือนอ่าน
ช่วยตรวจทานขานรับจับแก้ไข
อาจมีผิดนิดมากยากเข้าใจ
ภาษาไทยหลายคำไม่ชำนาญ

ด้วยตั้งใจไว้มากอยากเขียนกลอน
หวังท่านสอนตอนสัมผัสจัดประสาน
แต่บัดนี้มีห่างต่างวันวาน
เขามองผ่านขานขับไม่รับนา

ด้วยงานกลอนตอนนี้รู้มีแปลก
เหมือนจะแยกแตกตอนกลอนใครหนา
คนเขียนกลอนวอนอีกครั้งหวังพึ่งพา
จงหันหน้ามาดูด้วยช่วยแรงใจ.

นพ


หัวข้อ: Re: คนเขียนกลอน
เริ่มหัวข้อโดย: ♥ กานต์ฑิตา ♥ ที่ 04 พฤษภาคม 2011, 08:32:AM

(http://add.ohzeed.com/images/72Cat05.jpg)

นั่งเขียนกลอนอ้อนเพื่อนมาเยือนอ่าน
ช่วยตรวจทานขานรับจับแก้ไข
อาจมีผิดนิดมากยากเข้าใจ
ภาษาไทยหลายคำไม่ชำนาญ

ด้วยตั้งใจไว้มากอยากเขียนกลอน
หวังท่านสอนตอนสัมผัสจัดประสาน
แต่บัดนี้มีห่างต่างวันวาน
เขามองผ่านขานขับไม่รับนา

ด้วยงานกลอนตอนนี้รู้มีแปลก
เหมือนจะแยกแตกตอนกลอนใครหนา
คนเขียนกลอนวอนอีกครั้งหวังพึ่งพา
จงหันหน้ามาดูด้วยช่วยแรงใจ.

นพ
(http://www.ohzeed.com/bar_014.gif) (http://www.ohzeed.com)

คนเขียนกลอนอ่อนล้าเกินกว่าช่วย
แผ่วรินรวยเบื้องลึกรู้สึกได้
ความหวังดีมีมอบที่ตอบไป
บางครั้งไซร้ได้รับถูกสับกอง

คนเขียนกลอนอ่อนไหวตามใจคิด
ความถูกผิดรู้ได้ไม่ผยอง
หากคนอ่านตีความตามทำนอง
คงไม่หมองหม่นเศร้าเข้าใจเอง

งานกลอนนั้นสรรค์สร้างทางภาษา
ไยจึงหาเรื่องใส่ใครข่มเหง
ภาษาไทยงามคำล้ำบทเพลง
หากใครเก่งแต่เกิด...ดูเลิศคน


"กานต์ฑิตา"

๔  พฤษภาคม ๒๕๕๔

(http://www.ohzeed.com/bar_018.gif) (http://www.ohzeed.com)


หัวข้อ: Re: คนเขียนกลอน
เริ่มหัวข้อโดย: สมนึก นพ ที่ 04 พฤษภาคม 2011, 09:36:AM
(http://add.ohzeed.com/images/931299220970poonkul.jpg)
คืออย่างนี้นี่นามาให้คิด
ถูกหรือผิดจิตวางยังสับสน
ไม่ก้าวไกลไปหนามาเวียนวน
วางกลอนกลหนใดไม่ผ่านเลย

จะทิ้งห่างบ้านนี้นี่ก็ยาก
ด้วยรักมากจากกลอนสอนเปิดเผย
อย่างงูงูปลาปลามาก่อนเคย
พอเอื้อนเอ่ยได้บ้างยังภูมิใจ

คนเขียนกลอนนอนดึกนึกสัมผัส
ดินสอคัดจดจำคำคิดได้
เวลาว่างมีพอต่อทันใด
กลอนบทใหม่สู่ท่านผ่านสายตา

ด้วยก่อนนี้อาจารย์ผ่านมาสอน
ทุกบทตอนต้องเฟ้นเด่นเนื้อหา
แต่บัดนี้ไฉนไม่เห็นมา
คอยตรวจตราถูกผิดคิดแก้ทัน.

นพ


หัวข้อ: Re: คนอ่านกลอน
เริ่มหัวข้อโดย: เมฆา... ที่ 04 พฤษภาคม 2011, 11:04:AM

(http://www.ohzeed.com/bar_210.gif) (http://www.ohzeed.com)


๐ คนอ่านกลอน ๐


๐ อาศัยสบหลบพักชมอักษร
ให้นิวรณ์ผ่อนคลายหายหงอยเหงา
สร้างบันเทิงเริงร่าอุราเรา
เพื่อความเศร้าโศกาอำลาไป

๐ มีชีวิตติดพื้นยืนด้วยแข้ง
ต้องขายแรงแข่งเรี่ยเบี้ยกระสัย
พอยามว่างห่างคนก็ด้นนัย
เปิดเว็บไซค์บ้านกลอนตอนระทวย

๐ หาอะไหล่รถแต่งส่งแข่งสู้
เสี่ยงดวงดูลู่หม่นเหมือนคนหวย
ถ้าลุล่วงด้วยดีไม่มีซวย
ถือว่าโชคอำนวยช่วยชีวา

๐ พึ่งพิงคอมพ์ออฟฟิศเฝ้าชิดบอร์ด
อ่านคำพรอดประพันธ์ของท่านหนา
ยกมือชมทุกงานหากผ่านตา
เพราะรู้ว่า มิง่ายเรื่องร่ายเรียง

๐ บทวรรคไหนใดนั้นตื้นตันจิต
ก็บวกให้ตามสิทธิ์คิดออกเสียง
ทุกท่านคือพี่เพื่อนร่วมเรือนเคียง
ทุกสำเนียงมีค่าคราประพันธ์

๐ หากวันใดใจซ่านกระหาญกระหาย
ก็เรียงคำระบำระบายสู่สายฝัน
แม้ไม่เพราะเปราะบางทางจำนรรค์
ก็สุขสันต์พอใจคนไร้เชิง

๐ ขอแค่มีกลอนไทยให้ใคร่อ่าน
จะมิพล่านวิ่งพลุ่งให้ยุ่งเหยิง
ขอเกาะตามงามกลอนสอนบันเทิง
ให้รื่นเริงอกหนอ...ก็พอเอยฯ



(http://www.ohzeed.com/bar_211.gif) (http://www.ohzeed.com)



เมฆา...





หัวข้อ: Re: คนอ่านกลอน
เริ่มหัวข้อโดย: ตะวันฉาย ที่ 04 พฤษภาคม 2011, 12:16:PM



...คนอ่านกลอน  และเขียนกลอน(นำ)...


...เข้ามาอ่านงานกลอนอักษรศิลป์
สูดไอกลิ่นกานท์เนาว์ที่เล่าเผย
อักขระสัมผัสแววแนวคุ้นเคย
ไฉนเลยจะละจากขอฝากจาร

...ด้วยเพราะงานสุ่มตัวจึงกลัวจาก
ภาระมากจำห่างทางประสาน
หายทั้งหน้าชื่อเราไร้เงากานท์
ใจก็ฉานร้าวรอนทอนอารมณ์

...จึงลำนำคำพจน์จรดแต้ม
ขอนำแซมบางถ้อยคอยประสม
ภาษาด้านกร้านวจีที่ระดม
ขอติชมมาเถิดเปิดอักษรา

...ด้วยเพราะใจมันเศร้าจึงเข้ากลั่น
หวังเสกสรรแบ่งเจ็บเหน็บห่วงหา-
ลงบรรเลงเพลงจากฝากทิวา
พรรณา ก่อนตรมจิต ปิดฤทัย

...มีเพียงตัวอักษร กลอนเป็นเพื่อน
ชี้คำเคลื่อนจากทรวงห้วงหวั่นไหว
ระบายทุกข์, สุข, เศร้า, เคล้าความใน
เหตุอาลัยก็จารึกบันทึกจาร

...พันกวีร้อยชื่อสื่อภาษา
ทักทายมาผูกมิตรชิดขับขาน
ส่งสัมผัสวรรครับนับวันวาน
ลงบนลานบ้านกลอนไทยด้วยไมตรี...

ตะวันฉาย


(http://www.ohzeed.com/bar_127.gif) (http://www.ohzeed.com)