พิมพ์หน้านี้ - กลอนตลาด (จบวรรคด้วยเสียงตรีหรือคำตาย)

ชุมชน บ้านกลอนไทย ชุมชนสำหรับคนไทยผู้รักกลอน

บทประพันธ์กลอนและบทกวีเพราะๆ => กลอนให้กำลังใจ => ข้อความที่เริ่มโดย: อักษรารำพัน ที่ 01 ตุลาคม 2010, 03:33:AM



หัวข้อ: กลอนตลาด (จบวรรคด้วยเสียงตรีหรือคำตาย)
เริ่มหัวข้อโดย: อักษรารำพัน ที่ 01 ตุลาคม 2010, 03:33:AM
๐ วางเค้าโครงโยงเรื่องเป็นเบื้องต้น
อย่ามากจนล้นหลากจะยากจบ
ตั้งแต่ต้นจนปลายบรรยายครบ
ต้องใคร่ครวญทวนทบก่อนตบท้าย

๐ แต่งถ้อยความตามไปจากใจจิต
เนรมิตคิดคำนำเรียงร่าย
หลักการใดไม่รู้อย่าดูดาย
ต้องขวนขวายหมายเพิ่มและเติมรู้

๐ ฉันทลักษณ์หลักบทกำหนดห้าม
จงหมั่นย้ำทำตามอย่าหยามหลู่
อย่าทำเป็นเช่นศิษย์ที่ผิดครู
จะอดสูผู้คนผองชนเย้ย

๐ ทุกบรรทัดขัดเกลาจนเข้าที่
ทุกวลีที่พร่ำตอกย้ำเอ่ย
คอยแก้ไขไปนะอย่าละเลย
ฝึกเอาไว้ให้เคยอย่าเฉยช้า

๐ ร่วมรักษ์งานกานท์กลอนบวรศิลป์
คู่แผ่นดินถิ่นไทยใช่เหลือบ่า
สืบตำนานงานกวีที่มีมา
อยู่คู่หล้าฟ้าวรรณบรรณภพ...

๐ สดับ..ลงได้ครบ................เสียงวรรณฯ
รับ..เอกวางต่อกัน................ว่าไว้
รอง..ให้เหมาะสามัญ............ยอดเยี่ยม
ส่ง..ต่อข้ามบทให้.................จบด้วยเสียงตรี.




หัวข้อ: Re: กลอนตลาด (จบวรรคด้วยเสียงตรีหรือคำตาย)
เริ่มหัวข้อโดย: แม่ค้าหน้าหวาน ที่ 01 ตุลาคม 2010, 05:25:AM
(http://ar-mie2.webs.com/photos/D-day-C/d42.png)


สำเนียงแผ่ว...แว่วหวาน...ขับขานกล่อม
ละมุนม่อม...พร้อมกาย...พริ้วพรายใส่
ระรู้แล้ว...รำพัน...ฝันถึงใคร
กระซิบไป...ในกมล...ของคนนั้น

หวานเอยหวาน...หัวใจ...ตอนใกล้รุ่ง
แต่จรุง...ปรุงชิด...จิตแนบมั่น
ได้ยินเสียง...กล่อมซึ้ง...สื่อถึงกัน
มิใช่ฝัน...ขานรับ...สดับรู้

~แม่ค้าหน้าหวาน~

(http://ar-mie2.webs.com/photos/D-day-C/d42.png)


หัวข้อ: Re: กลอนตลาด (จบวรรคด้วยเสียงตรีหรือคำตาย)
เริ่มหัวข้อโดย: ดาวระดา ที่ 01 ตุลาคม 2010, 10:41:AM
(http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_009.png)
ครูนำโครงโยงข่ายระบายบอก
จึงพร้อมพอกพูนเพียรพร้อมเขียนเรื่อง
สานถ้อยถิ่นดินไทยให้รุ่งเรือง
สืบศิลป์เมืองเบื้องม่านเมื่อกาลล้ำ

วลีลักษณ์ปักรูปร้อยเริงร่าย
ประดิษฐ์สายลายศิลป์ระบิลร่ำ
ผสมข้อทอถ้อยนับร้อยคำ
ให้ระบำรำฟ้อนกระฉ่อนฟุ้ง

ตำราหนอ-กอ-กานท์มอบสานสืบ
แม้เพียงคืบเพียงคำที่พร่ำพุ่ง
ฝากเนื้อบทรจนาภาษาปรุง
ประดับคุ้งเขตคามนามไทยวัจน์

(http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_009.png)


หัวข้อ: Re: กลอนตลาด (จบวรรคด้วยเสียงตรีหรือคำตาย)
เริ่มหัวข้อโดย: คนรักษ์ถิ่น ที่ 01 ตุลาคม 2010, 11:15:AM
กลอนตลาด  สาดคำ  เพียรพร่ำแต่ง

ถ้อยแถลง  แฝงอารมณ์  บ่มความฝัน

แถลงรัก  อักษรา  ภาษากัน

พร่ำรำพัน  ฝันรุกราม ตามอารมณ์



หัวข้อ: Re: กลอนตลาด (จบวรรคด้วยเสียงตรีหรือคำตาย)
เริ่มหัวข้อโดย: อักษรารำพัน ที่ 12 ตุลาคม 2010, 08:13:PM
(http://ar-mie2.webs.com/photos/D-day-C/d42.png)

สำเนียงแผ่ว...แว่วหวาน...ขับขานกล่อม
ละมุนม่อม...พร้อมกาย...พริ้วพรายใส่
ระรู้แล้ว...รำพัน...ฝันถึงใคร
กระซิบไป...ในกมล...ของคนนั้น

หวานเอยหวาน...หัวใจ...ตอนใกล้รุ่ง
แต่จรุง...ปรุงชิด...จิตแนบมั่น
ได้ยินเสียง...กล่อมซึ้ง...สื่อถึงกัน
มิใช่ฝัน...ขานรับ...สดับรู้

~แม่ค้าหน้าหวาน~

(http://ar-mie2.webs.com/photos/D-day-C/d42.png)

๐ ทั้งสุดห้วง ดวงใจ ให้ไปสิ้น
ธรณิน ดินกลบ มิลบหลู่
ฝันได้จูบ ลูบโลม โฉมพธู
ได้ร่วมเรียง เคียงคู่ มิรู้ร้าง

๐ ใจเอ๋ยใจ ใครกัน ที่ฝันถึง
มั่นตราตรึง ซึ้งจิต มิคิดห่าง
ช่างเพราะล้ำ สำเนียง แห่งเสียงนาง
แสนรัญจวน นวลปราง ยามย่างเยื้อง....(อักษราฯ)

(http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_009.png)
ครูนำโครงโยงข่ายระบายบอก
จึงพร้อมพอกพูนเพียรพร้อมเขียนเรื่อง
สานถ้อยถิ่นดินไทยให้รุ่งเรือง
สืบศิลป์เมืองเบื้องม่านเมื่อกาลล้ำ

วลีลักษณ์ปักรูปร้อยเริงร่าย
ประดิษฐ์สายลายศิลป์ระบิลร่ำ
ผสมข้อทอถ้อยนับร้อยคำ
ให้ระบำรำฟ้อนกระฉ่อนฟุ้ง

ตำราหนอ-กอ-กานท์มอบสานสืบ
แม้เพียงคืบเพียงคำที่พร่ำพุ่ง
ฝากเนื้อบทรจนาภาษาปรุง
ประดับคุ้งเขตคามนามไทยวัจน์

(http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_009.png)



หัวข้อ: Re: กลอนตลาด (จบวรรคด้วยเสียงตรีหรือคำตาย)
เริ่มหัวข้อโดย: อักษรารำพัน ที่ 13 ตุลาคม 2010, 12:30:AM
(http://ar-mie2.webs.com/photos/D-day-C/d42.png)

สำเนียงแผ่ว...แว่วหวาน...ขับขานกล่อม
ละมุนม่อม...พร้อมกาย...พริ้วพรายใส่
ระรู้แล้ว...รำพัน...ฝันถึงใคร
กระซิบไป...ในกมล...ของคนนั้น

หวานเอยหวาน...หัวใจ...ตอนใกล้รุ่ง
แต่จรุง...ปรุงชิด...จิตแนบมั่น
ได้ยินเสียง...กล่อมซึ้ง...สื่อถึงกัน
มิใช่ฝัน...ขานรับ...สดับรู้

~แม่ค้าหน้าหวาน~

(http://ar-mie2.webs.com/photos/D-day-C/d42.png)

๐ ทั้งสุดห้วง ดวงใจ ให้ไปสิ้น
ธรณิน ดินกลบ มิลบหลู่
ฝันได้จูบ ลูบโลม โฉมพธู
ได้ร่วมเรียง เคียงคู่ มิรู้ร้าง

๐ ใจเอ๋ยใจ ใครกัน ที่ฝันถึง
มั่นตราตรึง ซึ้งจิต มิคิดห่าง
ช่างเพราะล้ำ สำเนียง แห่งเสียงนาง
แสนรัญจวน นวลปราง ยามย่างเยื้อง....(อักษราฯ)

(http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_009.png)
ครูนำโครงโยงข่ายระบายบอก
จึงพร้อมพอกพูนเพียรพร้อมเขียนเรื่อง
สานถ้อยถิ่นดินไทยให้รุ่งเรือง
สืบศิลป์เมืองเบื้องม่านเมื่อกาลล้ำ

วลีลักษณ์ปักรูปร้อยเริงร่าย
ประดิษฐ์สายลายศิลป์ระบิลร่ำ
ผสมข้อทอถ้อยนับร้อยคำ
ให้ระบำรำฟ้อนกระฉ่อนฟุ้ง

ตำราหนอ-กอ-กานท์มอบสานสืบ
แม้เพียงคืบเพียงคำที่พร่ำพุ่ง
ฝากเนื้อบทรจนาภาษาปรุง
ประดับคุ้งเขตคามนามไทยวัจน์

(http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_009.png)

๐ รังสรรค์คำ นำเรียง เป็นเยี่ยงอย่าง
เพื่อสรรค์สร้าง วางไว้ ได้ฝึกหัด
เคยพบพาน ผ่านเห็น เป็นเด่นชัด
จึงเร่งรัด จัดวาง ปูทางไว้

๐ อาจมีผิด ติดขัด มิชัดแจ้ง
ใช่เสแสร้ง แกล้งวาง หนทางใหม่
ได้ประสบ พบแนว แล้วชอบใจ
หลักกานท์ไทย ในกาล บุราณนั้น....(อักษรารำพัน)


กลอนตลาด  สาดคำ  เพียรพร่ำแต่ง
ถ้อยแถลง  แฝงอารมณ์  บ่มความฝัน
แถลงรัก  อักษรา  ภาษากัน
พร่ำรำพัน  ฝันรุกราม ตามอารมณ์......(คนรักษ์ถิ่น)


หัวข้อ: Re: กลอนตลาด (จบวรรคด้วยเสียงตรีหรือคำตาย)
เริ่มหัวข้อโดย: อัศจรรย์จิต ที่ 13 ตุลาคม 2010, 12:36:PM
รู้เลือกสานเสียงแทรกดูแปลกนัก
ยามจบวรรคลิขิตแล้วติดหล่ม
มีทางเลือกรังสรรค์ให้แทรกชม
ถึงนิยมน้อยนิดไม่ผิดพลั้ง

เป็นทางเลือกทางแรกคล้ายแหกกฎ
ยังคงรสพจน์พร้อยเพลินสะพรั่ง
ขอบคุณผู้ชูเชิญไม่เมินชัง
ยอมเขียนผังฝังฝากอยากยอยก


หัวข้อ: Re: กลอนตลาด (จบวรรคด้วยเสียงตรีหรือคำตาย)
เริ่มหัวข้อโดย: ดาวระดา ที่ 13 ตุลาคม 2010, 04:10:PM
อักษรสมสื่อเสียงเสนาะโสต
ดังแสงโชติชูชัยให้วิหค
โบยโบกบินผินผันวันเวียนวก
รู้กาลตกปกคลุมในพุ่มพื้น

รับคำข้อพอไขให้วิจิตร
ผันประดิษฐ์คิดครวญให้ชวนชื่น
หอบคำหอมเร่งรุดเป็นจุดยืน
รอวันฟื้นคืนทัดรัดรึงร้อย


หัวข้อ: Re: กลอนตลาด (จบวรรคด้วยเสียงตรีหรือคำตาย)
เริ่มหัวข้อโดย: ระนาดเอก ที่ 13 ตุลาคม 2010, 04:57:PM
(http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_131.gif)

๐ ถอดหัวใจใส่กลอนป้อนความรู้
ดำรงอยู่คู่กฎพจน์กานท์ถ้อย
แต้มประดิษฐ์คิดค้นคนตามรอย
ร่ายชดช้อยปล่อยศาสตร์ผงาดชน

๐ กลอนจะสวยด้วยคำสอนล้ำลึก
ตกผลึกความคิดผลิตผล
กอบความรู้ปูทางอย่างแยบยล
ถางถนนคนเดินเพลิดเพลินกลอน

๐ นำความพลาดวาดศิลป์จินต์สัมผัส
มาเกลาปัดจัดแต่งแฝงโอนอ่อน
ประโยชน์เกิดเปิดใจร่ายสุนทร
คนพลาดก่อนสอนหลังคลังกวี

๐ จุดตายคำล้ำรสกลอนหมดฤทธิ์
ก็คือผิดพลาดเสียงเกลี้ยงราศี
หว่านถ้อยคำรำพันฝันรุจี
สะดุดที่เสียงพจน์กลอนลดคุณ

๐ ก่อนวางกลอนป้อนคำย้ำสักนิด
ก่อนถูกพิษท้ายเสียงเบี่ยงไม่หนุน
ร่ายกลอนยาวพราวรสบทละมุน
ตรวจสัมผัสทั้งดุ้นก่อนวุ่นปลาย

๐ อย่ามีซ้ำมีเลือนเหมือนกลอนเด็ก
จุดเล็กเล็กฉุดกลอนกร่อนเสียหาย
ตรวจคำผิดปิดประตูอย่าดูดาย
ขั้นสุดท้ายค่อยป้อนสะท้อนความ..

ระนาดเอก

 emo_12


(http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_131.gif)


หัวข้อ: Re: กลอนตลาด (จบวรรคด้วยเสียงตรีหรือคำตาย)
เริ่มหัวข้อโดย: "คำหวาน" ที่ 14 ตุลาคม 2010, 08:19:PM
ความมุ่งหมายท้ายกลอนป้อนตลาด
อย่าผิดพลาดตกหล่นจนผลีผลาม
เมื่อจบกลอนย้อนหวนอ่านทวนความ
ก็งดงามวรรณศิลป์ที่กินใจ

บรรจงเสริมสัมผัสระบัดเสียง
ระบายเรียงเพียงรสอันสดใส
บรรเลงถ้อยร้อยวจีกวีไทย
บรรจุในเนื้อความตามครรลอง


หัวข้อ: Re: กลอนตลาด (จบวรรคด้วยเสียงตรีหรือคำตาย)
เริ่มหัวข้อโดย: อักษรารำพัน ที่ 17 ตุลาคม 2010, 10:19:AM
ความมุ่งหมายท้ายกลอนป้อนตลาด
อย่าผิดพลาดตกหล่นจนผลีผลาม
เมื่อจบกลอนย้อนหวนอ่านทวนความ
ก็งดงามวรรณศิลป์ที่กินใจ

บรรจงเสริมสัมผัสระบัดเสียง
ระบายเรียงเพียงรสอันสดใส
บรรเลงถ้อยร้อยวจีกวีไทย
บรรจุในเนื้อความตามครรลอง

๐ คำร้อยเรียง เพียงใจ ที่ไหวพลิ้ว
เมื่อลมจัด พัดปลิว จนลิ่วล่อง
ดุจน้ำค้าง พร่างโปรย โรยละออง
ไล่สลัว มัวหมอง จากท้องฟ้า

๐ สลักถ้อย ร้อยตาม จากความคิด
ลงลิขิต แม้ใคร ว่าไร้ค่า
ยังสลัก ถักคำ ไม่นำพา
เรียงร้อยพจน์ รจนา มาตราไว้.....


หัวข้อ: Re: กลอนตลาด (จบวรรคด้วยเสียงตรีหรือคำตาย)
เริ่มหัวข้อโดย: ดาวระดา ที่ 17 ตุลาคม 2010, 03:18:PM
ถ้อยสลักรักษ์ลินลาตามสามารถ
พลิ้วพิลาสหาดคำร่ำเคียงไหล่
หอมคำหอมกรุ่นกลอนกลิ้งกราวไกล   (ยังกะลูกบอลแน่ะครู)
เกริกไสวในศัพท์ขับรำฟ้อน

ด่างด้วยดีศรีสมคมถ้อยวรรค
ด้วยวิจักขณ์วิจารณ์กานท์ไม่กร่อน
ประพนธ์เพลินเดินพรมในร่มกลอน
ไสวว่อนดอนหาดด้วยศาสตร์ร้อย


หัวข้อ: Re: กลอนตลาด (จบวรรคด้วยเสียงตรีหรือคำตาย)
เริ่มหัวข้อโดย: GreenMonkey ที่ 17 ตุลาคม 2010, 04:24:PM
กลอนตลาด เขียนอย่างไร ก็ไม่รู้
พอมาดู ได้อ่านซึ้ง จึงได้เห็น
ลงตอบกลอน โต้ความ ตามประเด็น
จึงพอเป็น กลอนบ้าง อย่างเล็กน้อย

เคยได้ยิน บ่อยครั้ง ยังจำได้
เขียนอย่างไร พอมาเห็น เป็นละห้อย
ค่อยค่อยเริ่ม ฝึกฝน จนเกือบร้อย
มิได้ด้อย คมคำฝาก มากคมคิด

ต้องรสคำ รสความ งามลึกซึ้ง
จึงเป็นหนึ่ง ในงาน การลิขิต
ขอฝากตัว ฝากใจ ไว้สักนิด
เป็นลูกศิษย์ ฝึกกลอนกานท์ บ้านกลอนนี้

แหะๆ ตลกๆ แฮะ  emo_106
แก้ไขนิดๆ หน่อยๆ นะครับ ขอบคุณพี่ระนาดเอกครับมี่ช่วยเตือน แหะๆ


หัวข้อ: Re: กลอนตลาด (จบวรรคด้วยเสียงตรีหรือคำตาย)
เริ่มหัวข้อโดย: พิมพิลาไลย ที่ 17 ตุลาคม 2010, 09:29:PM
(http://yamiejung3.webs.com/photos/mie05/99.gif)

อยากลองเรียน..เขียนกลอน..ช่วยสอนบ้าง
ดูท่าทาง..ช่างยาก..มากใช่ไหม
เพราะอยากรู้..สู้ฝึก..ระทึกใจ
หากผิดพลาด..พลั้งไป..เพราะไม่รู้

กลอนตลาด..อาจยาก..แต่อยากหัด
เสริมสัมผัส..คัดกรอง..จะลองสู้
โปรดชี้แจง..แถลงไข..ได้ไหมครู
ช่วยมาดู..ผู้น้อย..ด้อยประเด็น


(http://yamiejung3.webs.com/photos/mie05/111.gif)

(http://i983.photobucket.com/albums/ae315/praewa21/flower_frame/Flower66.gif)พิมพิลาไลย(http://i983.photobucket.com/albums/ae315/praewa21/flower_frame/Flower66.gif)