|
หัวข้อ: กลอนสุดท้าย เริ่มหัวข้อโดย: ♥ กานต์ฑิตา ♥ ที่ 30 กันยายน 2010, 01:59:AM (http://yamiejung-11.webs.com/photos/Lai2/39.gif) ยินดีมากได้มาบ้านกลอนนี้ มิตรไมตรีได้รับซาบซึ้งอยู่ บางคนยกให้เป็นเช่นคุณครู ทั้งทั้งที่ไม่รู้ว่าเป็นใคร เป็นธรรมเนียมตอนเข้ามากล่าวบอก ตอนจะออกจึงต้องมาอำลาให้ กับคำถามเนื้อเย็นเป็นอะไร ขอจะไม่เอ่ยขานวิจารณ์คำ หวังทุกท่านอยู่ดีมีความสุข อย่าได้ทุกข์ผองภัยมากรายกล้ำ ถึงจากไปใจหนอขอจดจำ วจีล้ำฉ่ำหวานในบ้านกลอน. emo_60 “Kanthita” 30 ก.ย. 2553 (http://yamiejung-11.webs.com/photos/Lai2/52.gif) หัวข้อ: Re: กลอนสุดท้าย เริ่มหัวข้อโดย: บ้านริมโขง ที่ 30 กันยายน 2010, 04:01:AM ([url]http://yamiejung-11.webs.com/photos/Lai2/39.gif[/url]) ยินดีมากได้มาบ้านกลอนนี้ มิตรไมตรีได้รับซาบซึ้งอยู่ บางคนยกให้เป็นเช่นคุณครู ทั้งทั้งที่ไม่รู้ว่าเป็นใคร เป็นธรรมเนียมตอนเข้ามากล่าวบอก ตอนจะออกจึงต้องมาอำลาให้ กับคำถามเนื้อเย็นเป็นอะไร ขอจะไม่เอ่ยขานวิจารณ์คำ หวังทุกท่านอยู่ดีมีความสุข อย่าได้ทุกข์ผองภัยมากรายกล้ำ ถึงจากไปใจหนอขอจดจำ วจีล้ำฉ่ำหวานในบ้านกลอน. emo_60 “Kanthita” 30 ก.ย. 2553 ([url]http://yamiejung-11.webs.com/photos/Lai2/52.gif[/url]) (http://img163.imageshack.us/img163/2117/convallaria220074.jpg) (http://img163.imageshack.us/my.php?image=convallaria220074.jpg) เข้ามารับคำลาก่อนฟ้าสาง ด้วยหัวใจอ้างว้างอย่างถูกหลอน ไม่เชื่อตาไม่เชื่อใจในคำวอน ว่าจะเป็นบทกลอนก่อนอำลา ให้ใจหายหายใจให้ติดขัด เหมือนถูกปัดหัวทิ่มลิ่มถลา พบไม่นานการลาจากฝากตามมา โอ้..แก้วตา สุดคะนึง คิดถึงเธอ เป็นคนแรก เข้าต่อกลอน ก่อนใครเพื่อน คอยย้ำเตือนเกลื่อนคำ พร่ำเสมอ ความเมตตาปรานีที่ตัวเธอ มีเสมอเหมือนคนใกล้ได้พึ่งพา เมื่อจากไปใจเหงาและเศร้าสร้อย จะนั่งคอยนับวันและฝันหา สุดอาลัยให้หวลด่วนกลับมา จะนับวัน..เวลา..นาทีคอย (http://img405.imageshack.us/img405/4585/bar143.gif) (http://img405.imageshack.us/my.php?image=bar143.gif) หัวข้อ: Re: กลอนสุดท้าย เริ่มหัวข้อโดย: สายใย ที่ 30 กันยายน 2010, 04:15:AM ([url]http://yamiejung-11.webs.com/photos/Lai2/39.gif[/url]) ยินดีมากได้มาบ้านกลอนนี้ มิตรไมตรีได้รับซาบซึ้งอยู่ บางคนยกให้เป็นเช่นคุณครู ทั้งทั้งที่ไม่รู้ว่าเป็นใคร เป็นธรรมเนียมตอนเข้ามากล่าวบอก ตอนจะออกจึงต้องมาอำลาให้ กับคำถามเนื้อเย็นเป็นอะไร ขอจะไม่เอ่ยขานวิจารณ์คำ หวังทุกท่านอยู่ดีมีความสุข อย่าได้ทุกข์ผองภัยมากรายกล้ำ ถึงจากไปใจหนอขอจดจำ วจีล้ำฉ่ำหวานในบ้านกลอน. emo_60 Kanthita 30 ก.ย. 2553 ([url]http://yamiejung-11.webs.com/photos/Lai2/52.gif[/url]) (http://add.klonthaiclub.com/images/521397599p39febsh1r.gif) เห็นถ้อยคำอำลาน้ำตาไหล มิอยากให้ คิดพรากจากอักษร แม้นขุ่นข้องหมองใจใคร่วิงวอน คุยกันก่อนนะครับพร้อมรับฟัง (http://add.klonthaiclub.com/images/821018254ziqayvf5qd.gif) หัวข้อ: Re: กลอนสุดท้าย เริ่มหัวข้อโดย: อักษรารำพัน ที่ 30 กันยายน 2010, 04:34:AM ยินดีมากได้มาบ้านกลอนนี้ มิตรไมตรีได้รับซาบซึ้งอยู่ บางคนยกให้เป็นเช่นคุณครู ทั้งทั้งที่ไม่รู้ว่าเป็นใคร เป็นธรรมเนียมตอนเข้ามากล่าวบอก ตอนจะออกจึงต้องมาอำลาให้ กับคำถามเนื้อเย็นเป็นอะไร ขอจะไม่เอ่ยขานวิจารณ์คำ หวังทุกท่านอยู่ดีมีความสุข อย่าได้ทุกข์ผองภัยมากรายกล้ำ ถึงจากไปใจหนอขอจดจำ วจีล้ำฉ่ำหวานในบ้านกลอน. Kanthita 30 ก.ย. 2553 (http://yamiejung-11.webs.com/photos/Lai2/52.gif) (http://add.klonthaiclub.com/images/521397599p39febsh1r.gif) เห็นถ้อยคำอำลาน้ำตาไหล มิอยากให้ คิดพรากจากอักษร แม้นขุ่นข้องหมองใจใคร่วิงวอน คุยกันก่อนนะครับพร้อมรับฟัง (http://add.klonthaiclub.com/images/821018254ziqayvf5qd.gif) หรือเพราะเราเข้ามาเขาลาหนี กัณฐิตายาหยีรอพี่มั่ง...(หวังว่าคงเขียนชื่อถูกนะครับ) เธอจากไกลใจหายเสียดายจัง พี่ยืมตังค์ยังทันมั้ยขวัญตา...อิอิ..แวะมาแซวครับ หัวข้อ: Re: กลอนสุดท้าย เริ่มหัวข้อโดย: ไพร พนาวัลย์ ที่ 30 กันยายน 2010, 05:11:AM ยินดีมากได้มาบ้านกลอนนี้ มิตรไมตรีได้รับซาบซึ้งอยู่ บางคนยกให้เป็นเช่นคุณครู ทั้งทั้งที่ไม่รู้ว่าเป็นใคร เป็นธรรมเนียมตอนเข้ามากล่าวบอก ตอนจะออกจึงต้องมาอำลาให้ กับคำถามเนื้อเย็นเป็นอะไร ขอจะไม่เอ่ยขานวิจารณ์คำ หวังทุกท่านอยู่ดีมีความสุข อย่าได้ทุกข์ผองภัยมากรายกล้ำ ถึงจากไปใจหนอขอจดจำ วจีล้ำฉ่ำหวานในบ้านกลอน. Kanthita 30 ก.ย. 2553 (http://yamiejung-11.webs.com/photos/Lai2/52.gif) (http://add.klonthaiclub.com/images/521397599p39febsh1r.gif) เห็นถ้อยคำอำลาน้ำตาไหล มิอยากให้ คิดพรากจากอักษร แม้นขุ่นข้องหมองใจใคร่วิงวอน คุยกันก่อนนะครับพร้อมรับฟัง (http://add.klonthaiclub.com/images/821018254ziqayvf5qd.gif) หรือเพราะเราเข้ามาเขาลาหนี กัณฐิตายาหยีรอพี่มั่ง...(หวังว่าคงเขียนชื่อถูกนะครับ) เธอจากไกลใจหายเสียดายจัง พี่ยืมตังค์ยังทันมั้ยขวัญตา...อิอิ..แวะมาแซวครับ (http://yamiejung-11.webs.com/photos/Lai2/52.gif) คุณครูครับรับเป็นศิษย์ไยคิดหนี หรือครูมีสิ่งใดให้กังขา มาบ้านกลอนสอนให้ได้วิชา แล้วจะมาจากจรดั่งร้อนใจ บอกผมหน่อยนะครับยอมรับโทษ ว่าครูโกรธใดหนาพาสงสัย หรือคนรักเขาพรากครูจากไกล จึงรีบไปติดตามพ่องามงอน ครูครับปล่อยเขาไปในที่ชอบ ศิษย์คอยปลอบตอบคำนำออดอ้อน ถ้าเขารักครูจริงคงไม่จร โปรดผันผ่อนห่วงศิษย์คิดเอ็นดู ดั่งคุณครูเอาวิชาเข้ามาป้อน เฝ้าอาทรสอนศิษย์ให้คิดสู้ ศิษย์ยังจำทำนองของคุณครู ช่างงามหรูเลิศล้ำคำประพันธ์ กลับมาก่อนเถิดครับขอรับใช้ เป็นแรงใจให้ครูสู้ด้นดั้น ครูจากจรกลอนมืดจืดจำนรรจ์ ขอยกชั้นตามครูไปไม่อยู่แล้ว emo_101 emo_55 "ปรางค์ สามยอด" ศิษย์โค่ง ของคุณครูครับ หัวข้อ: Re: กลอนสุดท้าย เริ่มหัวข้อโดย: ดิษฐา ที่ 30 กันยายน 2010, 12:57:PM ([url]http://yamiejung-11.webs.com/photos/Lai2/39.gif[/url]) ยินดีมากได้มาบ้านกลอนนี้ มิตรไมตรีได้รับซาบซึ้งอยู่ บางคนยกให้เป็นเช่นคุณครู ทั้งทั้งที่ไม่รู้ว่าเป็นใคร เป็นธรรมเนียมตอนเข้ามากล่าวบอก ตอนจะออกจึงต้องมาอำลาให้ กับคำถามเนื้อเย็นเป็นอะไร ขอจะไม่เอ่ยขานวิจารณ์คำ หวังทุกท่านอยู่ดีมีความสุข อย่าได้ทุกข์ผองภัยมากรายกล้ำ ถึงจากไปใจหนอขอจดจำ วจีล้ำฉ่ำหวานในบ้านกลอน. emo_60 “Kanthita” 30 ก.ย. 2553 ([url]http://yamiejung-11.webs.com/photos/Lai2/52.gif[/url]) รีบต่อแถวแล้วถาม??.... ดั่งความว่า ไยคิดลาร้างหาย คล้ายจิตหลอน คิดอำลาพาพัก ลักเข้านอน หรือคิดจร ถอนจากจะพรากไกล ดูใจร้ายทำหนุ่ม เข้ารุมเว้า ใจคงเศร้า เหงาหนอ ท้อหวั่นไหว อย่าไปเลยเหนื่อยหาย สบายใจ กลับมาใหม่ ในบ้านรีบขานเชิญ หัวข้อ: Re: กลอนสุดท้าย เริ่มหัวข้อโดย: Pamoo ที่ 30 กันยายน 2010, 02:18:PM ([url]http://yamiejung-11.webs.com/photos/Lai2/39.gif[/url]) ยินดีมากได้มาบ้านกลอนนี้ มิตรไมตรีได้รับซาบซึ้งอยู่ บางคนยกให้เป็นเช่นคุณครู ทั้งทั้งที่ไม่รู้ว่าเป็นใคร เป็นธรรมเนียมตอนเข้ามากล่าวบอก ตอนจะออกจึงต้องมาอำลาให้ กับคำถามเนื้อเย็นเป็นอะไร ขอจะไม่เอ่ยขานวิจารณ์คำ หวังทุกท่านอยู่ดีมีความสุข อย่าได้ทุกข์ผองภัยมากรายกล้ำ ถึงจากไปใจหนอขอจดจำ วจีล้ำฉ่ำหวานในบ้านกลอน. emo_60 Kanthita 30 ก.ย. 2553 ([url]http://yamiejung-11.webs.com/photos/Lai2/52.gif[/url]) emo_06 emo_06 emo_06 emo_06 emo_06 emo_06 emo_06 Kanthita มาลาไปใจก็แป้ว เจ้าไปแล้วอย่าไปลับกลับมาหนอ มีพี่เพื่อนบ้านกลอนนี้ที่ยังรอ เอาไว้พออารมณ์ดีรีบรี่มา Pamoo นี้ขออวยชัยให้รุ่งโรจน์ จงใสสดก้าวไกลไปเถิดหนา ให้เข้มแข็งยิ่งใหญ่ในมรรคา อย่าลืมว่าที่นี่มีคนคอย..... หัวข้อ: Re: กลอนสุดท้าย เริ่มหัวข้อโดย: hort39 ที่ 30 กันยายน 2010, 04:31:PM ([url]http://yamiejung-11.webs.com/photos/Lai2/39.gif[/url]) ยินดีมากได้มาบ้านกลอนนี้ มิตรไมตรีได้รับซาบซึ้งอยู่ บางคนยกให้เป็นเช่นคุณครู ทั้งทั้งที่ไม่รู้ว่าเป็นใคร เป็นธรรมเนียมตอนเข้ามากล่าวบอก ตอนจะออกจึงต้องมาอำลาให้ กับคำถามเนื้อเย็นเป็นอะไร ขอจะไม่เอ่ยขานวิจารณ์คำ หวังทุกท่านอยู่ดีมีความสุข อย่าได้ทุกข์ผองภัยมากรายกล้ำ ถึงจากไปใจหนอขอจดจำ วจีล้ำฉ่ำหวานในบ้านกลอน. emo_60 Kanthita 30 ก.ย. 2553 ([url]http://yamiejung-11.webs.com/photos/Lai2/52.gif[/url]) ไม่อยากให้เป็นกลอนบทสุดท้าย จะหนีหายได้ไงยั้งใจก่อน มาทำให้ความผูกพันนั้นขาดตอน จะอ้อนวอนอย่างไรให้กลับคืน ยังไม่ทันข้ามปีก็หนีหน้า หรือแก้วตาจากไปอยู่บ้านอื่น ไปแล้วรีบกลับมานะขวัญยืน มารื้อฟื้นไมตรีที่ผูกพัน..........[/size] emo_54 หัวข้อ: Re: กลอนสุดท้าย เริ่มหัวข้อโดย: ยามพระอาทิตย์อัสดง ที่ 30 กันยายน 2010, 05:55:PM (http://yamiejung-11.webs.com/photos/Lai2/52.gif) " อัสดง " ลงอักษร กลอนสุดท้าย แต่มิหาย กายใกล้ ใจไม่หนี ก็บ้านกลอน สอนน้อง ต้องทำดี เป็นคนที่ รู้ผิด รู้อภัย เอ่ยคำลา วาจา มาแบบนี้ กลัวว่าพี่ จำพราก จากถึงไหน มิอยากคิด จิตตก ร้างห่างไกล กลัวคนไป ไม่กลับ ลับเดียวดาย พี่"กานต์ฑิตา" มาลา พาใจเศร้า ทำจิตเหงา เราต่าง มิจางหาย ขอให้พี่ มีจิต คิดสบาย หยุดพักกาย หายเหนื่อย ค่อยกลับมา เค้าว่ากัน ยิ่งสูง ก็ยิ่งหนาว นึกถึงคราว ดาวอยู่ สูงหนักหนา อยู่อย่างเหงา เคล้าหนาว ร้าวอุรา ให้มองมา ตรงนี้ มีคนรอ สุดยินดี ปรีดา มารู้จัก ได้ทายทัก ก่อนจาก อยากจะขอ อย่าหายหน้า ลาไกล ก็เป็นพอ อยู่หน้าจอ ลงกลอน วอนทักทาย พระอาทิตย์อัสดง (http://yamiejung-11.webs.com/photos/Lai2/52.gif) หัวข้อ: Re: กลอนสุดท้าย เริ่มหัวข้อโดย: คนเผาถ่าน ที่ 30 กันยายน 2010, 07:15:PM (http://www.klonthaiclub.com/pic/happy_044.gif) คนเผาถ่าน..กานต์กลอน..ก่อนสุดท้าย ยังเสียดาย..ในรส..บทอักษร คนอื่นเขา..จำใจ..ลาจากจร เรายังร้อน..วิชา..มาทุกวัน ด้วยหลงมนต์..เสน่ห์..เล่ บทกลอน จึงต้องย้อน..กลับมา..เหมือนอาถรรพ์ ถึงบทกลอน..สุดท้าย..เมื่อไร้ชีวัน คงจบกัน..ตรงนี้..เป็นผีบ้านกลอน emo_101 emo_85 (http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_099.gif) หัวข้อ: Re: กลอนสุดท้าย เริ่มหัวข้อโดย: ดอกกระเจียว ที่ 30 กันยายน 2010, 08:59:PM (http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_023.gif) คนนั้นไปคนนี้ไปใจชักแป้ว มาคลาดแคล้วอีกผู้คุณครูสอน ใครจะคอยตรวจทานดูงานกลอน จบปอหกอยากวอนต่อคุณครู อยู่สอนสั่งบางทีที่ผมแย่ หวังท่านแก้ต่อเติมเสริมความรู้ หลายหลายคนสนุกดีลองคิดดู กว่าแยกอยู่ร้าวรานสถานตน ถ้าผมคิดจะไปแบบไม่อยู่ นั่นคีอรู้ล้วนศึกการฝึกฝน สู่อาชีพเหมือนใจได้อดทน สมัครเล่นอับจนหนทางไป ผมจะสูงขึ้นไปไม่ต่ำต้อย จวบล่องลอยดั่งดาวพราวแสงใส หากจะจากเพราะตกต่ำระกำใจ เหมือนตัดทางห่างไร้ไกลวงวรรณ (http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_023.gif) หัวข้อ: Re: กลอนสุดท้าย เริ่มหัวข้อโดย: NIN-NIN-NIN ที่ 30 กันยายน 2010, 09:55:PM ผมเป็นคนที่แต่งกลอนไม่เก่งและไม่ชอบแต่งกลอนยาว ๆ ..
โพสในบ้านกลอนไม่บ่อยเพราะรู้สึกอาย... ก่อนจากไปก็ขอบอกจากความรู้สึกส่วนตัวว่า ผมชื่นชอบบทกลอนของคุณกชนันท์และคุณตะวันฉายมาก. ก็ขอฝากกลอนบทสุดท้ายก่อนลาจากนะครับ..ด้วยจิตคารวะ "ตะวันฉายหายเข้าเงาธรรมะ คุณบัว(กชนันท์)ละบทกลอนที่อ่อนหวาน แม่เหล้กใหญ่หายไปไร้กลอนกานท์ NIN ขอผ่านลาไกลไปด้วยคน" หัวข้อ: Re: กลอนสุดท้าย เริ่มหัวข้อโดย: ♥ กานต์ฑิตา ♥ ที่ 06 ตุลาคม 2010, 08:43:PM ([url]http://add.klonthaiclub.com/images/521397599p39febsh1r.gif[/url]) เห็นถ้อยคำอำลาน้ำตาไหล มิอยากให้ คิดพรากจากอักษร แม้นขุ่นข้องหมองใจใคร่วิงวอน คุยกันก่อนนะครับพร้อมรับฟัง ([url]http://add.klonthaiclub.com/images/821018254ziqayvf5qd.gif[/url]) จำใจพรากจากอักษรบ้านกลอนนี้ ด้วยเพราะมีภารกิจติดคับคั่ง ขอสะสางเสร็จสรรพจะกลับรัง สายใยยังจะคอยไหมไปไม่นาน. emo_60 "Kanthita" 6 ต.ค.2553 หัวข้อ: Re: กลอนสุดท้าย เริ่มหัวข้อโดย: ♥ กานต์ฑิตา ♥ ที่ 06 ตุลาคม 2010, 09:05:PM ([url]http://add.klonthaiclub.com/images/821018254ziqayvf5qd.gif[/url]) หรือเพราะเราเข้ามาเขาลาหนี กัณฐิตายาหยีรอพี่มั่ง... (หวังว่าคงเขียนชื่อถูกนะครับ) เธอจากไกลใจหายเสียดายจัง พี่ยืมตังค์ยังทันมั้ยขวัญตา...อิอิ..แวะมาแซวครับ มิใช่ดอกหนาพี่มีงานยุ่ง จึงต้องมุ่งไปทำตามคำสั่ง พอให้คลายหายยุ่งที่นุงนัง เรื่องยืมตังค์ร้อยละยี่ถ้าพี่ยืม. emo_60 "Kanthita" 6 ต.ค.2553 (http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_084.gif) ป.ล.ชื่อเขียนผิดค่ะ emo_26 หัวข้อ: Re: กลอนสุดท้าย เริ่มหัวข้อโดย: ♥ กานต์ฑิตา ♥ ที่ 06 ตุลาคม 2010, 09:26:PM รีบต่อแถวแล้วถาม??.... ดั่งความว่า ไยคิดลาร้างหาย คล้ายจิตหลอน คิดอำลาพาพัก ลักเข้านอน หรือคิดจร ถอนจากจะพรากไกล ดูใจร้ายทำหนุ่ม เข้ารุมเว้า ใจคงเศร้า เหงาหนอ ท้อหวั่นไหว อย่าไปเลยเหนื่อยหาย สบายใจ กลับมาใหม่ ในบ้านรีบขานเชิญ ภารกิจติดพันจึงหันจาก ก็มิอยากจากดอกที่บอกเอิ้น พองานซามาได้ใจเพลิดเพลิน จะมองเมินหรือยิ้มรับการกลับมา. emo_60 "Kanthita" 6 ต.ค.2553 (http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_135.gif) หัวข้อ: Re: กลอนสุดท้าย เริ่มหัวข้อโดย: อักษรารำพัน ที่ 06 ตุลาคม 2010, 09:28:PM (http://add.klonthaiclub.com/images/521397599p39febsh1r.gif) เห็นถ้อยคำอำลาน้ำตาไหล มิอยากให้ คิดพรากจากอักษร แม้นขุ่นข้องหมองใจใคร่วิงวอน คุยกันก่อนนะครับพร้อมรับฟัง (http://add.klonthaiclub.com/images/821018254ziqayvf5qd.gif) จำใจพรากจากอักษรบ้านกลอนนี้ ด้วยเพราะมีภารกิจติดคับคั่ง ขอสะสางเสร็จสรรพจะกลับรัง สายใยยังจะคอยไหมไปไม่นาน. emo_60 "Kanthita" 6 ต.ค.2553 ภาระกิจติดขัดเกินปัดปล่อย ยังเฝ้าคอยกลอยใจอยู่ในบ้าน มาเรียงร้อยถ้อยคำให้สำราญ ร่วมกันสานลานฝันKanthita หัวข้อ: Re: กลอนสุดท้าย เริ่มหัวข้อโดย: สายใย ที่ 07 ตุลาคม 2010, 01:12:AM (http://add.klonthaiclub.com/images/46friends2.jpg) (http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_020.gif) อาจเป็นกลอนบทนี้ที่สุดท้าย หากทำร้ายใครก็ขอโทษหนา คงไม่ดีไม่เด่นเช่นดารา ยอมรับว่าทุกประเด็นเป็นผู้แพ้ (http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_020.gif) หัวข้อ: Re: กลอนสุดท้าย เริ่มหัวข้อโดย: "สายธารศรัทธาธรรม" ที่ 07 ตุลาคม 2010, 08:57:PM "คำสัญญา" http://www.youtube.com/watch?v=JikcMhplC-0&feature=related ก่อนจากกัน...ขอสัญญา ฝากประทับตรึงตรา จนกว่า จะพบกันใหม่ โบกมืออำลา สัญญาด้วยหัวใจ เพราะความรัก ติดตรึงห่วงใย ด้วยใจ ผูกพันมั่นคง ...ด้วยความดี นั้นฝังตรึง จากไปแล้วคำนึง ตรึงประทับดวงใจ อย่าได้ลืมเลือน สัญญากันไว้อย่างไร ขอให้เรามั่นคงจิตใจ ก้าวไปสรรค์สร้างความดี...*โอ้เพื่อนเอ๋ย เคยร่วมสนุกกันมา แต่เวลา ต้องพาให้เราจากกัน ไม่นานหรอกหนา เราคงได้มาพบกัน ไม่มีสิ่งใดขวางกั้น เพราะเรามั่นในสัญญา หากแผ่นดิน ไม่ฝังกาย จะสุขจะทุกข์เพียงใด น้อมกายยิ้มสู้ฟันฝ่า ร้อยรัดดวงใจ มั่นในคำสัญญา สร้างสรรค์เพื่อมวลประชา นี่คือสัญญาของเรา .... (http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_006.gif) หัวข้อ: Re: กลอนสุดท้าย เริ่มหัวข้อโดย: เพลิงคำ ที่ 07 ตุลาคม 2010, 10:19:PM กลอนนี่อาจเป็นกลอนบทสุดท้าย หากมีเรื่องร้ายร้ายจนหวั่นไหว คงไม่ลืมทุกคนบ้านกลอนไทย ขอฝากไว้กานท์กลอนที่กันดาร... ป.ล.เขียนไว้ก่อนครับ เผื่อมีโอกาส.... emo_20 หัวข้อ: Re: กลอนสุดท้าย เริ่มหัวข้อโดย: ♥ กานต์ฑิตา ♥ ที่ 07 ตุลาคม 2010, 10:31:PM กลอนนี่อาจเป็นกลอนบทสุดท้าย หากมีเรื่องร้ายร้ายจนหวั่นไหว คงไม่ลืมทุกคนบ้านกลอนไทย ขอฝากไว้กานท์กลอนที่กันดาร... ป.ล.เขียนไว้ก่อนครับ เผื่อมีโอกาส.... emo_20 ดูช่างใจ ไหวอ่อน ขี้อ้อนเหลือ ไม่อยากเชื่อ แค่สะกิด จิตฟุ้งซ่าน เป็นผู้ชาย ขี้แย แหมรำคาญ นี่หรือก้าน กล้วยคม อารมณ์ดี. emo_87 หัวข้อ: Re: กลอนสุดท้าย เริ่มหัวข้อโดย: เพลิงคำ ที่ 07 ตุลาคม 2010, 10:45:PM กลอนนี่อาจเป็นกลอนบทสุดท้าย หากมีเรื่องร้ายร้ายจนหวั่นไหว คงไม่ลืมทุกคนบ้านกลอนไทย ขอฝากไว้กานท์กลอนที่กันดาร... ป.ล.เขียนไว้ก่อนครับ เผื่อมีโอกาส.... emo_20 ดูช่างใจ ไหวอ่อน ขี้อ้อนเหลือ ไม่อยากเชื่อ แค่สะกิด จิตฟุ้งซ่าน เป็นผู้ชาย ขี้แย แหมรำคาญ นี่หรือก้าน กล้วยคม อารมณ์ดี. emo_87 ถึงยังไงผมก็คนคนหนึ่ง หลายคราวซึ้งบางคราวเศร้าหม่นหมองศรี กลอนบทนั้นสาเหตุมันย่อมมี ไม่โทษพี่โทษผมที่ผิดเอง... |