หัวข้อ: "กองอาทมาต..ประวัติศาสตร์ต้องจารึก?" เริ่มหัวข้อโดย: ระนาดเอก ที่ 24 กันยายน 2010, 12:19:AM (http://www.gmwebsite.com/upload/thanadech.com/webboard/นายกองอาทมาต..jpg) (http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_024.gif) "กองอาทมาต..ประวัติศาสตร์ต้องจารึก?" (๑) ๐ ลุพุทธศักราชย้อนชาติภพ กลิ่นคาวเลือดตลบศพนาย-ไพร่ ปีสองพันสามร้อยสอง..หมองอาลัย ครั้งเกิดไฟสงครามลามอยุทธ์ ๐ ปลายสมัยองค์ราชะเอกทัศน์ ครองสมบัติกรุงศรีฯที่ท้ายสุด ศึกภายในนายเจ้าราวอกทรุด ชนวนจุดเชื้อไฟไอสงคราม ๐ กิตติศัพท์อื้ออึงถึงพม่า อลองพญาครองฉัตรรัฐอร่าม ขยายอาณาประเทศล่าเขตคาม ผงาดท่ามกลางศึกคึกไพร่พล ๐ จึงบัญชาเกณฑ์ทหารผู้ชาญรบ หวังสยบกรุงศรีฯยามที่หม่น วางแผนศึกปรึกษาเสนาตน ส่งทัพหน้าเชี่ยวพหลกลยุทธ์ ๐ สั่งมังระยุพราชมาดกล้าแกร่ง เร่งจัดแจงนำทัพกับราชบุตร นามมังฆ้องนรธาเก่งอาวุธ จงรีบรุดเดินทัพโดยฉับพลัน ๐ เล็งมะริดตะนาวศรีที่ด่านแรก ตีให้แหลกดั่งเนื้อเพื่อข่มขวัญ สองนายทัพรวมพลล้นแปดพัน ได้ฤกษ์ครันทัพหน้าก็ฝ่าเดิน (๒) ๐ ฝ่ายม้าเร็วแจ้งสารข่าวการศึก รีบผนึกส่งสารการแต่เนิ่น พระผ่านฟ้าเอกทัศน์ตรัสประเมิน ให้เร่งเชิญอำมาตย์ราชมนตรี ๐ แล้วบัญชารับสั่งเป็นการด่วน ตั้งกระบวนสองทัพรับหน้าที่ เกณฑ์ไพร่พลห้าพันอันฤทธี สองพระยานามนี้ที่โปรดปราน ๐ ให้ออกญายมราชชาติทแกล้ว คุมทัพใหญ่จัดแถวแววตระหง่าน พลกำลังสามพันขั้นปราการ สกัดย่านคับขันเขาบรรทัด ๐ ตั้งเจ้าคุณรัตนาฯข้าเลี้ยงเก่า คุมพลเล่าสองพันปันส่วนสัด เป็นทัพหนุนบุ๋นคละสารพัด ยามติดขัดช่วยณรงค์การสงคราม ๐ สำหรับกองทะลวงฟันผู้หาญศึก เจนห้าวฮึกการรบภพสยาม เชี่ยวชาญยุทธ์คงกะพันคนหวั่นนาม พลรวมความสี่ร้อยสบถ้อยที ๐ กองวิเศษไชยชาญคนขานก้อง พลอ่างทองกระเดื่องเรื่องศักดิ์ศรี ชื่อนาม"กองอาทมาต"ชาติชาตรี เกณฑ์กองนี้ไปทัพกับเจ้าคุณ ๐ ให้ท่าน"รองปลัดชู"ดูพลไพร่ อันเกรียงไกรกำกับอย่างทัพหนุน ตามพระยารัตนาฯพาสมดุลย์ เรื่องบู๊บุ๋นวางแผนแทนโองการ (๓) ๐ สองพระยาเดินทัพรับพม่า ต่างยาตราดำเนินเพลินทุกย่าน ทั้งเหล้ายาเสบียงเยี่ยงโอฬาร สุขดั่งบ้านมิเหมือนเคลื่อนไปรบ ๐ การสอดส่องตรวจตราหาถี่ถ้วน ผิดกระบวนพระยาฝ่าลืมกฎ เหตุไม่ชินงานใหญ่ใช้ลาภยศ จนกำหนดใกล้จุดยุทธ์ณรงค์ ๐ ทั้งสองทัพแยกย้ายหมายที่มั่น ทัพหลวงนั้นแผนผุดจุดประสงค์ หวังเดินทัพลัดเขาเพื่อเข้าตรง สู่เขตดงแดนมะริดติดตะนาวฯ ๐ พ้นผ่านเขาบรรทัดป่าชัฎรก ตื่นตะหนกทั้งสิ้นเมื่อยินข่าว ทั้งสองเมืองย่อยยับพับเรื่องราว พม่ากร้าวตีหักหนักเสียเมือง ๐ จึงสะดุดหยุดทัพปรับกลยุทธ์ รอหาจุดที่มั่นพลันเกิดเรื่อง ทัพมังระห้าวหาญชาญรุ่งเรือง พลครบเครื่องจู่โจมโหมเข้าตี ๐ ศึกรอบด้านกระหน่ำย่ำกลางทัพ ยากต้านรับปรับพหลจึงป่นปี้ พม่าชาญไพรพฤกษ์ศึกได้ที บดขยี้ทัพหลวงล่วงแตกยับ ๐ กองทัพหลวงปราชัยไปต่างทิศ สูญชีวิตยุทธภัณฑ์นั้นเป็นตับ ยิ่งตะวันเคลื่อนดวงลงล่วงลับ ศพราวกับป่าช้าต่างหน้าเบือน ๐ ครั้งออกญายมราชประมาทพ่าย ทัพหลวงแหลกเสียหายซากตายเกลื่อน กำลังพลถูกบั่นขวัญสะเทือน กลิ่นโลหิตคลุ้งเปื้อน-เถื่อน,แผ่นดิน ๐ มังมหานรธารุกล่าไล่ ยึดมะริดกุมไว้ได้หมดสิ้น ด่านสิงขร,ตะนาวศรีที่ได้ยิน กลายเป็นถิ่นพม่ายาตราทัพ ๐ ข่าวทัพหลวงอื้ออึงถึงทัพหนุน ท่านเจ้าคุณรัตนาฯหน้าเหงื่อขับ ไพร่พลมีสองพันยากยันรับ รบคู่ปรับไพรีที่แปดพัน ๐ ใจทหารร่วงไปใกล้ตาตุ่ม ไร้ควบคุมสดับข่าวคับขัน แผนสกัดซุ่มตีปรี่ทันควัน ลอบห้ำหั่นศัตรูผู้คุกคาม ๐ เฟ้นทหารไพร่กล้าขัดตาทัพ ไล่ลำดับฝีมือลือสยาม ไม่มีใครฝากชื่อระบือนาม น่าเกรงขามเท่ากองของท่าน"ชู" (มีต่อครับ) ระนาดเอก emo_12 (http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_024.gif) หัวข้อ: Re: "กองอาทมาต..ประวัติศาสตร์ต้องจารึก?" เริ่มหัวข้อโดย: ระนาดเอก ที่ 24 กันยายน 2010, 08:16:PM (http://www.gmwebsite.com/upload/thanadech.com/webboard/นายกองอาทมาต..jpg) (http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_024.gif) "กองอาทมาต..ประวัติศาสตร์ต้องจารึก?" (๔) ๐ กองกำลังอาทมาตพิฆาตศึก เชี่ยวชาญคึกชำนาญการต่อสู้ เวทคาถาคงกระพันรบพันตู บนหลังม้าหรือหมู่รู้วางกล ๐ จึงสั่งรองปลัดชูผู้เหี้ยมหาญ นำกำลังของท่านอันเข้มข้น ทหารม้าสี่ร้อยทยอยคน ทั้งดักปล้นลอบฆ่าพม่ามอญ ๐ ให้ท่านยกไปเถิดเปิดการรบ เดินทัพพลบค่ำนี้เข้าตีก่อน เราจะยกไปหนุนตะลุมบอน เป็นการทอนกำลังหยั่งไพรี ๐ รองปลัดรับสารบงการศึก สูดลมลึกเยี่ยงชาติราชสีห์ หัวใจเพชรห้าวหาญการราวี ร่างกูนี้ขอสนองปกป้องเมือง ๐ พลวิเศษไชยชาญผู้หาญกล้า ทั้งสี่ร้อยชีวากายาเขื่อง ล้วนผิวคล้ำกรำศึกฝึกเนืองเนือง เชี่ยวชาญเรื่องศาตราวิชามวย ๐ ต่างประจุอาคมเป่าพรมร่าง พุทธคุณเสริมสร้างทางจิตช่วย ผ้าประเจียดเสกย้ำฤทธิ์อำนวย ปลุกตะกรุดพร้อมด้วยดาบอาคม ๐ ทุกชีวิตเข้าใจในการศึก ต่างผนึกหลอมจิตคิดใคร่ข่ม ข้าศึกมากกลางเถื่อนหลากเงื่อนปม ต่างมิล้มความคิดปลิดไพรี ๐ ทั้งมีดสั้นดาบยาวลับวาววับ เพื่อรอสับศัตรูสู้ไม่หนี ปืน,ธนูคู่กายชายชาตรี เตรียมเพื่อกรีธาพลผจญรบ (๕) ๐ กำลังพลคนม้าฝ่าความมืด แสงจันทร์ชืดดาวพรายลับหายหลบ เคลื่อนจากกุยบุรีไม่มีคบ ร่างกลืนกลบพฤกษ์ไพรในค่ำคืน ๐ เร่งขับม้าตามทิศที่จิตหมาย เลียบหาดทรายสายลมพรมด้วยคลื่น ธงแม่กองสะบัดพัดกลมกลืน สติตื่นเกาะเกี่ยวทุกเสี้ยวกาล ๐ หยุดพักม้ายามสามติดตามข่าว หาดหว้าขาวดาษดื่นคลื่นทหาร ทัพมังระตั้งรอบริวาร กองเสบียงขนผ่านบ้านตะนาวฯ ๐ จึงสบช่องวางแผนแสนอาจหาญ หลอมกำลังเตรียมการสะท้านด้าว ทหารม้าทั่วถ้วนล้วนดาบวาว จู่โจมกร้าวกลางทัพลุยสับนาย ๐ อาศัยแรงม้าศึกผนึกรบ ชั้นเชิงดาบสยบกลบความพ่าย เร่งเข้าตีเช้าตรู่จู่โจมกาย เล็งเป้าหมายแม่ทัพดับชีพมัน ๐ หวังเปิดศึกดีร้ายใช้หลอกล่อ ทัพเจ้าคุณหนุนหนอต่อเข้าบั่น ตีตลบนอกในใคร่พร้อมกัน การศึกนั้นอาจจบเราพบชัย ๐ จบกลศึกปลัดชูผู้เจนจบ ต่างทวนทบรอบด้านด้วยการใหญ่ พอหายเหนื่อยขึ้นม้ามุ่งหน้าไป อ่าวหว้าขาวยามอุทัยเริ่มไขลำ (มีต่อครับ) ระนาดเอก emo_12 (http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_024.gif) หัวข้อ: Re: "กองอาทมาต..ประวัติศาสตร์ต้องจารึก?" เริ่มหัวข้อโดย: ระนาดเอก ที่ 25 กันยายน 2010, 11:39:PM (http://www.gmwebsite.com/upload/thanadech.com/webboard/นายกองอาทมาต..jpg) (http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_024.gif) "กองอาทมาต..ประวัติศาสตร์ต้องจารึก?" (๖) ๐ กองหัวใจพระกาฬเลือกผ่านเถื่อน ทยอยเคลื่อนกองม้าตั้งหน้าย่ำ- ลัดเลาะป่าทากายป้ายสีดำ สงบคำทะมึนกลืนหมู่พฤกษ์ ๐ พักกองม้าแต่ไกลใคร่หลบซุ่ม รอขยุ้มไพรีขยี้ศึก เปิบข้าวแห้งจากไถ้หัวใจคึก ต่างผนึกดวงจิตพิชิตชัย ๐ สังเกตทัพข้าศึกเป็นปึกแผ่น จึงวางแผนโจมตีที่ซุ้มใหญ่ เล็งจากเนินหาจุดสะดุดใจ ฉวยความไวเจาะเข้าเป้าตรงกลาง ๐ เพลาเช้าแสงอรุณกระตุ้นสาด มวลอากาศหมอกอิงเพิ่งทิ้งสาง ศัตรูยังหลับใหลไฟรบจาง โอกาสข้างเรานี้ปรี่ลงมือ ๐ วางตำแหน่งตัวหลักกองหัก-ปล้น หน้า,ซ้าย,ขวา,หลังล้นคนเชื่อถือ คอยสกัดศัตรูสู้รุกฮือ ป้องกองหน้าเพื่อยื้อคือฆ่านาย ๐ ส่วนพลสักห้าสิบหยิบปืนตั้ง คอยระวังเล็งเป้าตัวเข้าข่าย เด็ดชีพมันพลปืนยื่นความตาย เหล่าธนูซ่อนกายหมายซุ่มยิง ๐ เสร็จแล้วช่วยตีแทรกเปิดแหวกช่อง เพื่อนำร่องกองม้าลุยฝ่าวิ่ง ยามปลิดหัวเสร็จกิจสัมฤทธิ์จริง เพื่อฝากทิ้งอัปยศบทแพ้ภัย ๐ พลชาวอาทมาตชาติพยัคฆ์ ความจงรักภักดีที่เห็นได้ ต่างขบเขี้ยวเคี้ยวฟันมันผู้ใด สร้างจัญไรรุกล้ำทำอาจอง ๐ เข้ายื้อยุดปฐพีที่กูเกิด ก็ลองเถิดดาบกูรู้จะบ่ง จะฟันมันให้ยับดับชีพลง ที่ทะนงหยามหลู่พระภูบาล ๐ ลมหายใจสะท้อนไฟร้อนสุม ยื่นมือกุมกันไว้เหงื่อไคลซ่าน เราจะฝ่านรกศกตำนาน เพื่อลูกหลานจารึกศึกของเรา (มีต่อครับ) ระนาดเอก emo_12 (http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_024.gif) |