หัวข้อ: ๏ ไหน..ระฆังเคาะยกให้ถกนับ ๏ เริ่มหัวข้อโดย: คนสาธารณะ ที่ 03 กันยายน 2010, 10:46:AM ๏ ไหน..ระฆังเคาะยกให้ถกนับ ๏ ๐๒๐๙๕๓ ๏ สานกาย, กลึง..เกี่ยวรั้ง, กันพลั้งหลุด แรงโน้มนุชเพลงหน่วงคืนห้วงหนาว ในคืนมืดจันทร์มอดยังพรอดดาว ยินเสียงผ่าวลมผ่อนกรุ่นร้อนเกิน ๏ หากแต่ฝนร่วงผายจากปลายฟ้า ยังโอบกล่อมผืนนาครอบป่าเขิน ทั่วลุ่มดอนแอ่งที่ทั้งมีเนิน ก็ชุ่มเกินใจฝันที่หวั่นพอ ๏ คืนหนาวนอนฟังฝนที่หล่นพ่วง ในโซ่บ่วงแรงบุกที่คลุกต่อ- เพลงหวานแทรกเพลินรักที่ถักทอ ยังร่ำห่อ, จนหับไม่หลับ..แล้ว ๏ อา..สายกาล เกี่ยวฝากเพื่ออยากฝ่า- วงหรรษาภาพไล้ยังไม่แผ่ว คงแต่ลึก โลมธาตุ ในวาดแนว ลีลาแผ้ว ถางผากให้อยากชม ๏ ไหน..ระฆังเคาะยกให้ถกนับ ไร้ผู้จับสำเนียงและเสียงขรม หากมีแต่สายฝนช่วยหล่นพรม พร้อมการบ่มเสียงอุ่นให้กรุ่นอวล ๏ สานกาย, ซบ..พอซับสำทับทุก- อนู, ต่อ..ตั้งลุก..สนุกสรวล ไร้รูปแบบ..รสพร่ำ..หลากสำนวน ในคืนครวญ..ศัพท์หาย แห่ง..สายกาล ๐๐๒๖ ๐๓๐๙๕๓ ๏ ไหน..ระฆังเคาะยกให้ถกนับ ๏ [ไฟล์แนบถูกลบโดยผู้ดำเนินการ] หัวข้อ: Re: ๏ ไหน..ระฆังเคาะยกให้ถกนับ ๏ เริ่มหัวข้อโดย: avatar ที่ 03 กันยายน 2010, 12:34:PM ๐ เมื่อไอฝน โปรยปรายดังหมายว่า จะนำพา ขวัญคว้างกลางฟ้าชื่น มาผ่อนหนาว คราวฝนหล่นโครมครืน ไห้สะอื้น ชื่นฉ่ำ ดื่มด่ำ,ดาว ๐ แล้วห่มฝน ปนหมอกหนาวดอกไม้ สานอุ่นไอ โอนอ่อน เพื่อผ่อนหนาว สะท้านครืน ครืนโครมโหมเรื่องราว ฝ่าลมบน..ฝนกร้าว ..แล้ว..คราวนี้....๚ะ๛ หัวข้อ: Re: ๏ ไหน..ระฆังเคาะยกให้ถกนับ ๏ เริ่มหัวข้อโดย: ดิษฐา ที่ 03 กันยายน 2010, 02:25:PM ผ่านวสัตน์สั่นคลอน ทอดถอนหนัก ร่องรอยมัก ชักนำทำสั่นไหว ลาแล้วหนอรอกาลที่ผ่านไป ฤดูไหนใหม่เก่า ...ยังเฝ้ารอ หัวข้อ: Re: ๏ ไหน..ระฆังเคาะยกให้ถกนับ ๏ เริ่มหัวข้อโดย: กุลมาตา(singlemom99) ที่ 03 กันยายน 2010, 02:36:PM (http://img709.imageshack.us/img709/6325/lapf.jpg) เสียงระฆังหงั่งเหง่งวังเวงนัก คืนฝนพรำกระหน่ำรักจักเหือดหาย ป่านฉะนี้พี่นอนหนุนอุ่นเรือนกาย วาดลวดลายย้ายยักกับตักใคร เสียงระฆังดังแว่วจนแผ่วหาย ใจคะนึงถึงพี่ชายยังหมายให้ คืนฝนพรำนำรักจากห้วงใจ ทอถักใยสายรักจักหวนคืน หัวข้อ: Re: ๏ ไหน..ระฆังเคาะยกให้ถกนับ ๏ เริ่มหัวข้อโดย: avatar ที่ 04 กันยายน 2010, 11:51:AM ร้อยสายใยแห่งรักมิพักร้อย ยื่นสายสร้อยหยาดฟ้าจะคว้ายื่น ลืมหรือไรใครแกล้งหรือแสร้งลืม รอจนคลื่นฝนเลือนเหมือนแกล้งรอ หนีจากฝนคนหวั่นว่าขวัญหนี ก่อไมตรี สร้อยสาย มารายก่อ ท้อกระไรใจเอ๋ยมิเคยท้อ คงสานต่อสมานสมัครให้รักคง หัวข้อ: Re: ๏ ไหน..ระฆังเคาะยกให้ถกนับ ๏ เริ่มหัวข้อโดย: avatar ที่ 05 กันยายน 2010, 04:49:PM ๏ คว้าเพียงกายใจเหม่อเผลอยื่นคว้า ขมวาจา รานร้าว คราวรักขม ลมฝนพาพัดแผ่วแว่วสายลม ล้างอารมณ์ตรมตรอม...ก็ยอมล้าง ๏ แล้วจะเสริมเติมรักประจักษ์แล้ว สร้างสิ่งแพร้วพรรณรายยิ่งหมายสร้าง วางรอยร้าวท้อทดเพื่อปลดวาง เลือนรอยหมางจางหม่น..จนร้างเลือน หัวข้อ: Re: ๏ ไหน..ระฆังเคาะยกให้ถกนับ ๏ เริ่มหัวข้อโดย: แม่ค้าหน้าหวาน ที่ 08 กันยายน 2010, 02:50:PM (http://i374.photobucket.com/albums/oo185/khate-khate/mie013/m22.gif) หอบลมฝน...ปนเหงา...ในคราวนี้ สู่ฤดี...แห่งธาร...ในม่านหม่น คราวร่ำศัพท์...ครวญซึ้ง...ใครหนึ่งคน ว่ารักล้น...ปนเหงา...จึงเฝ้าครวญ ฝากเสียงแว่ว...เพียงคำ...ว่าย้ำมั่น ยังผูกพัน...หนักซึ้ง...คะนึงหวน ดวงกมล...จ่อมฝัน...เฝ้ารัญจวน มิเรรวน...เวียนวน...รักล้นทรวง ~แม่ค้าหน้าหวาน~ (http://i374.photobucket.com/albums/oo185/khate-khate/mie013/m22.gif) หัวข้อ: Re: ๏ ไหน..ระฆังเคาะยกให้ถกนับ ๏ เริ่มหัวข้อโดย: คนสาธารณะ ที่ 11 กันยายน 2010, 04:52:AM คารวะสวัสดิ์เผื้อน....กลอนไทย ๒๒๓๓ ๏ ฝนหยุดปรอยแล้วเพลงก็เร่งฝัน เพื่อกลบ,หวั่นเสียงหวอดที่พรอดหว่าน แข่งเสียงฝนกระหน่ำ,คู่ตำนาน เพลินขับขานเพลงเร้าที่เคล้าโลม ๏ จากความหนาวยังแนบ,ต้องแสบร้อน ฝนขาดตอนหยุดพร่ำกระหน่ำโหม แต่เพลงรักยังแกร่งเพราะแรงโบม เสียงประโคมยังศัพท์สำทับ,ทวน- ๏ ความฝันเพลินบรรเจิดยังเพลิดต่อ- การร่ายห่อสุขเหิมต่างเกริม,สวน- ความเงียบฝนโปรยผ่านที่ซ่านครวญ จึงอบอวลชมแอ่งที่แห่งเอม- ๏ สุขรอยต่อขอฝนหล่นเพิ่มนิด เพื่อจะปิดฉากครบให้จบเข้ม กับคู่ชิงศึกเริ่มเพื่อเติมเต็ม จนอิ่มเปรมใจปลั่งท่วมฝั่งพอ ๏ ฤาแต่เสียงต่างสร้อย,เพลงร้อยฝัน ทำนองฝั้นแรงผ่อนจนร้อน,ฝ่อ แต่หากโลม..ลึกปัก...ช่วงถักทอ จนเกือบท้อแรงถั่งช่วงฝั่งทาง ๏ เถิดขอฝนอีกคราซักห่าใหญ่ เพื่อกลบไล่เสียงร่ำที่ฉ่ำ,ผาง มาปิดความครื้นคึกในศึกคราง- ครวญเสียงต่างเพลงศัพท์...ในหับไพร ๚ะ๛ ๒๓๒๐ ๐๙๐๙๕๓ ทักทาย avatar คห.1, คห. 5, และคห. 7 สวัสดีขอรับ ขอบคุณขอบคุณที่แจมกลอนกันขอรับฝีมือพลิ้วไหวเลยนะขอรับ หทัยชนก คห.2, และคห. 6 ขอบใจน๊าหทัยฯ ฝีมือและความขยันไม่เคยหล่นนะนี่ อิอิ e-no คห. 3 สวัสดีพี่น้องอีโน ขอบคุณที่ทักทายแจมกันขอรับ กุลมาตา คห. 4 พี่น้องกุลมาตาสบายดีนะขอรับ ช่วงนี้ฝนชุก..ต้องซุกกายเพื่อหลบฝนขอรับ อิอิ แม่ค้าหน้าหวาน คห. 8 ฝีมือ..พัฒนา-พาถนัด..ตามลำดับน๊า รักษาสุขภาพด้วยนะขอรับ emo_73 หัวข้อ: Re: ๏ ไหน..ระฆังเคาะยกให้ถกนับ ๏ เริ่มหัวข้อโดย: avatar ที่ 27 ตุลาคม 2010, 07:31:AM ดูเถิด.ทำชม้อยชม้ายส่ง เหมือนบอกบ่งพงหับให้กลับไหว สะท้านตอบลอบเร้นสิ่งเป็นไป ก็กลบไกล่ไหวคราง..ที่กลางดวง อยากติดปีกกางร่อน..มิอ่อนล้า อยากจะฝ่าสายฝนที่หล่นร่วง อยากประทับครื้นครึกในศึกทรวง อยากจะหวงห่วงขวัญ..จนวันตาย หัวข้อ: Re: ๏ ไหน..ระฆังเคาะยกให้ถกนับ ๏ เริ่มหัวข้อโดย: "คำหวาน" ที่ 27 ตุลาคม 2010, 10:52:AM (http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_009.png) " เชียรคนสาธารณะ " คืนฝนพรำฉ่ำเย็นเหมือนเช่นฝัน ร้อยรำพันฝากรักสมัครสมาน ทั้งอิ่มเอมเปรมปรีที่เนิ่นนาน ทั้งชื่นบานกายใจไม่อยากพอ "คนสาธารณะ" ไม่ผละหนี ฝากวจีดาลดลขอฝนต่อ คืนฟ้าฉ่ำนำสุขคลุกเคล้าคลอ แรงโลมรอรัดรึงตรึงร่างแล ระฆังเคาะเหมาะเริ่มเติมแต่งรัก เสริมทอถักท่วงทีที่สุขแท้ โอบไออุ่นอิงแอบแนบดวงแด ต่อเติมแต่ติดตามยามตักตวง ผสมสุขคลุกเคล้าเข้าพรอดพร่ำ สอดเสียงนำระส่ำเห็นเป็นช่วงช่วง ฟ้าครางครืนโปรปรายให้ฉ่ำทรวง สายฝนร่วงรัวระฆังหลายครั้งเอย. (http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_009.png) (http://add.klonthaiclub.com/images/39raindrop6.jpg) หัวข้อ: Re: ๏ ไหน..ระฆังเคาะยกให้ถกนับ ๏ เริ่มหัวข้อโดย: สายใย ที่ 27 ตุลาคม 2010, 11:17:AM (http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_020.gif) เสียงระฆัง เคาะยก ให้ถกนับ สติกลับ ฉับพลัน ฝันสลาย อยากจะลบ รอยช้ำ เชือด ทำลาย หากห่วงคล้าย ใครหนึ่ง คนึงคอย จากฤทัยรันทดที่หมดหวัง ปลื้มประดังหลายเท่ากว่าเหงาหงอย โอ้เราเอ๋ยเคยจูบแต่รูปรอย รู้สักหน่อยน้อยใจ...จะ..ไม่ลา.... (http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_020.gif) หัวข้อ: Re: ๏ ไหน..ระฆังเคาะยกให้ถกนับ ๏ เริ่มหัวข้อโดย: avatar ที่ 28 ตุลาคม 2010, 04:52:AM หากระฆัง..เคาะยกตอนชกหมัด จะเร่งรัดหนึ่งชู้ให้รู้ว่า ความผูกพันทุกช่วงใช่ล่วงลา ยังล้นทรวงเสน่หา..ทุกคราไป จะแกล้งหลับตานอนแล้วซ่อนยิ้ม หลับตาพริ้มโอษฐ์รับประทับใหม่ รอระฆังเง่งหง่างอย่างร่ำไร เติมเชื้อไฟปราถนา..ในอารมณ์ emo_85 หัวข้อ: Re: ๏ ไหน..ระฆังเคาะยกให้ถกนับ ๏ เริ่มหัวข้อโดย: avatar ที่ 17 พฤศจิกายน 2010, 07:41:AM พลิกกายกลับรับขวัญวันอ้อนออด ประทับกอดประโลมสุขทุกห้วงสม เกลียวคลื่นซัดหาดทรายไล้สายลม มิอาจข่มเสียงคราง..จากกลางทรวง เสียงม้าศึกกึกก้องคะนองนัก เสียงเพลงรักตอกย้ำซ้ำเนิบหน่วง หาดทรายอิ่มลิ้มรับประทับดวง จนฝนร่วงลมต้อง..ต่างล่องลอย emo_73 หัวข้อ: Re: ๏ ไหน..ระฆังเคาะยกให้ถกนับ ๏ เริ่มหัวข้อโดย: สุนันยา ที่ 17 พฤศจิกายน 2010, 04:43:PM แวะมาอ่าน กานท์กลอน สะท้อนอก เห็นเขาถก คำอ้อน อ่อนฉะนี้ ไม่ถนัด จัดแต้ม แจมวลี สานอักษร กลอนศรี กวีงาม ขอเป็นผู้ เข้าชม นิยมอ่าน ถ้อยสราญ คนสาฯพาวาบหวาม งามอัดษร เอื้อนเอ่ย เฉลยตาม เป็นนิยาม หลากรส บทกวี "สุนันยา" สวัสดีค่ะ แวะมาทักทาย ฝากเนื้อฝากตัว...แต่ หัวใจไม่ฝากนะคะ มีคน รับฝากแล้วค่ะ....อิอิ หัวข้อ: Re: ๏ ไหน..ระฆังเคาะยกให้ถกนับ ๏ เริ่มหัวข้อโดย: avatar ที่ 17 พฤศจิกายน 2010, 08:01:PM ชื้นฉ่ำสายฝนพรมจากร่มเมฆ อุราเฉกเชือกเงื่อนมิเลื่อนถอย พันธนาการทรวงทุกช่วงรอย โหยละห้อยอาวรณ์..เกินผ่อนคลาย พริ้วลมเอนโอนไหวใจพลั้งเผลอ ยิ่งพร่ำเพ้ออารมณ์เกินข่มหาย อยากยื่นแขนโอบกอดพ่อยอดชาย ก่อนสานกายแนบชิด..ทั้งจิตใจ หัวข้อ: Re: ๏ ไหน..ระฆังเคาะยกให้ถกนับ ๏ เริ่มหัวข้อโดย: avatar ที่ 01 ธันวาคม 2010, 02:15:PM รัวระฆังดังก้องในห้องรัก ชื่นฉ่ำนักเสียงหวีดสังคีตกล่อม คราลมบนฝนร่ำต่างด่ำดอม สู่วิมานหวานหอม..ไม่ยอมร้าง หัวข้อ: Re: ๏ ไหน..ระฆังเคาะยกให้ถกนับ ๏ เริ่มหัวข้อโดย: อักษรารำพัน ที่ 01 ธันวาคม 2010, 05:39:PM รัวระฆังดังก้องในห้องรัก ชื่นฉ่ำนักเสียงหวีดสังคีตกล่อม คราลมบนฝนร่ำต่างด่ำดอม สู่วิมานหวานหอม..ไม่ยอมร้าง ๐ เสียงระฆังกังวานสะท้านจิต เคยสนิทชิดใกล้มิได้ห่าง วันนี้ช้ำค่ำครวญถึงนวลปราง ช่างเลือนลางทางฝันน่าหวั่นใจ ๐ เสียงครวญครางหง่างเหง่งวังเวงนัก ห้วงบ่วงรักมักช้ำทำไฉน น้ำไหลนองสองตาทุกคราไป หลงรักใครไม่สมภิรมย์ปอง..... หัวข้อ: Re: ๏ ไหน..ระฆังเคาะยกให้ถกนับ ๏ เริ่มหัวข้อโดย: avatar ที่ 12 ธันวาคม 2010, 06:10:PM ๐ เสียงครวญครางหง่างเหง่งวังเวงนัก ห้วงบ่วงรักมักช้ำทำไฉน น้ำไหลนองสองตาทุกคราไป หลงรักใครไม่สมภิรมย์ปอง..... emo_45 ก็เป็นเพียงแค่ฝันในวันนี้ หนาวฤดีครวญข่มอารมณ์หมอง ระฆังรัวหัวใจไร้ใครครอง แค่ร่ำร้องไหวหวาม..ไปตามนั้น emo_12เสียงครวญครางหง่างเหง่งวังเวงแว่ว ลมโบยแผ่วอาวรณ์ตอนหลับฝัน เผลอกอดก่ายปรารถนามานานวัน รอดวงขวัญมาเยือนทั้งเรือนกาย หัวข้อ: Re: ๏ ไหน..ระฆังเคาะยกให้ถกนับ ๏ เริ่มหัวข้อโดย: avatar ที่ 03 มกราคม 2011, 09:05:AM (http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_176.gif) เพลงระฆังกังวานหวานผ่าวแผ่ว ยังครวญแว่วรอหวนอย่าด่วนหาย ยังถวิลจินต์เร้นมิเว้นวาย อยากรำบายบอกความ..ไปตามนั้น หอมอะไรไหนเลยอยากเผยว่า หอมร้อยรจน์พจนา มาหมายมั่น อันหอมอื่นหมื่นฝันมาจำนรร มิเทียมทันหอมรัก...ประจักษ์ทรวง ขึ้นปีใหม่ระฆังยังดังก้อง ให้ประคองห้องหับประทับสรวง เพื่อโลดแล่นแดนรักพร้อมตักตวง มิโรยล่วงลาลับ..กับคืนวัน (http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_185.gif) หัวข้อ: Re: ๏ ไหน..ระฆังเคาะยกให้ถกนับ ๏ เริ่มหัวข้อโดย: avatar ที่ 12 มกราคม 2011, 02:43:PM เมื่อวันเคลื่อนเดือนผ่านจนกาลล่วง ใจทั้งดวงห่วงหาคราไร้ขวัญ เคยประโลมเคียงคู่อย่างรู้กัน หวนคิดถึงครานั้น..พลันอาวรณ์ เมื่อ..ระฆัง หลบเรา-ใต้เงาเมฆ อุราเฉกติดตรึงดึงด้วยศร ล้มกายข้างนทีสีทันดร ใจแทบขาดรอนรอน..แล้วตอนนี้ หัวข้อ: Re: ๏ ไหน..ระฆังเคาะยกให้ถกนับ ๏ เริ่มหัวข้อโดย: คนสาธารณะ ที่ 20 มกราคม 2011, 09:10:PM ๒๐๓๐ ๏ เพลงระฆังไหนเคาะเสนาะครั้ง หยุดรัวยังฝันอยู่เมื่อครู่ใหญ่ จึงสะดุดเพลงร่ำห้วงรำ,ไฟ- ผลาญหัวใจยามเริ่มเราเติมเพลิง ๏ เพลิงพลังแห่งรักที่หักร่วง ลงกลางช่วงเคลิ้มกลิ้งทุกสิ่งเหลิง ลีลาร่ายเพลงเลิศต้องเปิดเปิง หยุดรำเซิ้งเกมสุขกระตุกรัก ๏ รักหยุดเพลินเพียงครั้งระฆังลั่น เพิ่มความหวั่นไหวหวาดที่วาดตัก- ตวงแต่สุขเสริมต่างหนทางพัก นอนพำนักแนบพิงอิงอกนาง ๏ นางนวลร่ำเพลินหลุดสะดุดกึก ต่างสะอึกจังหวะไม่กระจ่าง กับอารมณรวนกร่อยไม่ปล่อยวาง เกือบสว่างจึงลุกเข้าคลุกโลม ๏ โลมแต่รักเราต่อมาคลอหลัก เพื่อหมุดปักเป็นหมัดเข้าฟัดโถม เปลี่ยนเพลงรุกรับจะเข้าประโคม- ต่อเป็นโหมหาญศึกเข้าคึกครวญ ๏ ครวญเพลงกรุ่นรักร้อนมาก่อนไก่ อรุณใหม่หมอกฝ่าซับนาสวน ยังชุ่มชื่นเย็นเรื่อกรุ่นเนื้อนวล หลังจากครวญหลับก่ายตื่นสายเกิน ๚๛ ๒๑๐๐ ๒๐๐๑๕๔ สวัสดีขอรับเพื่อนๆชาวกลอนไทย ต้องขออภัยยิ่งที่มิค่อยได้เข้ามาร่วมร่ายกลอนบ่อยนัก ขอรับ หัวข้อ: Re: ๏ ไหน..ระฆังเคาะยกให้ถกนับ ๏ เริ่มหัวข้อโดย: ohWOW ที่ 27 มกราคม 2011, 04:36:AM จะกี่ครั้งกี่คราวลมหนาวผ่าน จะเก็บรสความหวานให้นานเนิ่น จะย้อนรอยอารมณ์ที่ข่มเพลิน จะเชื้อเชิญเชยชิด..ทั้งจิตใจ ตะวันส่องห้องหอที่รอแดด ทอแสงแวดข่มฝนที่หล่นไหล เผยรังสีล้ำล่วงสู่ทรวงใน คล้ายเปลวเพลิงโลมไล้..หัวใจคน หัวข้อ: Re: ๏ ไหน..ระฆังเคาะยกให้ถกนับ ๏ เริ่มหัวข้อโดย: อักษรารำพัน ที่ 27 มกราคม 2011, 06:42:AM จะกี่ครั้งกี่คราวลมหนาวผ่าน จะเก็บรสความหวานให้นานเนิ่น จะย้อนรอยอารมณ์ที่ข่มเพลิน จะเชื้อเชิญเชยชิด..ทั้งจิตใจ ตะวันส่องห้องหอที่รอแดด ทอแสงแวดข่มฝนที่หล่นไหล เผยรังสีล้ำล่วงสู่ทรวงใน คล้ายเปลวเพลิงโลมไล้..หัวใจคน ๐ ต้องเข้าใจ..ในรัก..อย่างหนักแน่น ให้ลึกซึ้ง..ถึงแก่น..ยามแสนหม่น และต้องพร้อม..ยอมรับ..กับกมล ที่ทุกข์ทน..บนทาง..ที่ร้างใคร ๐ เมื่อเข้าใจ..ในรัก..ตระหนักค่า จะรู้ว่า..คราอก..ตอนหมกไหม้ ความเจ็บนั้น..มันแค่..รอยแผลใจ ความอาลัย..ไม่ช้า..ก็พร่าเลือน หัวข้อ: Re: ๏ ไหน..ระฆังเคาะยกให้ถกนับ ๏ เริ่มหัวข้อโดย: จ้อง เจรียงคำ ที่ 27 มกราคม 2011, 10:14:AM สักระฆังครั้งเคาะเสนาะเคลิ้ม อีกยกเพิ่มเริ่มเพลงบรรเลงเพื่อน จะกี่ยกถกยามความรักเยือน ยังยินเหมือนเกลื่อนหมายสหายมิตร ถึงอกเหน็บเจ็บหนาวอีกคราวหนอ ยังเพียรจ่อรอเจิมมาเพิ่มจิต หรือเข็ดคร้ามห้ามข่มพาล่มคิด ก็ยังพิศวาสพร้อม..สมยอมภักดิ์ emo_82 หัวข้อ: Re: ๏ ไหน..ระฆังเคาะยกให้ถกนับ ๏ เริ่มหัวข้อโดย: ohWOW ที่ 29 มกราคม 2011, 08:27:AM ถึงอกเหน็บเจ็บหนาวอีกคราวหนอ
ยังเพียรจ่อรอเจิมมาเพิ่มจิต หรือเข็ดคร้ามห้ามข่มพาล่มคิด ก็ยังพิศวาสพร้อม..สมยอมภักดิ์ (http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_003.gif) (http://www.klonthaiclub.com) ถึงอกเหน็บเจ็บหนาวกี่คราวครั้ง ชีพก็ยังรอเติมเพื่อเสริมหลัก จะพลิกฟื้น ถลาแล่นทั้งแดนรัก รอคนปักหลักส่ง..ตรงกลางดวง ในคืนหนาวฝนคลุมผ่านนุ่มเนื้อ อยากอุ่นเอื้อล้อมรุกทุกคราวช่วง ฟังเสียงครวญสันไหวจากในทรวง ยิ่งคล้ายแววห่วงหวง..จากดวงตา (http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_007.gif) (http://www.klonthaiclub.com) หัวข้อ: Re: ๏ ไหน..ระฆังเคาะยกให้ถกนับ ๏ เริ่มหัวข้อโดย: พรายม่าน ที่ 29 มกราคม 2011, 10:13:AM เสียงระฆังดังครวญอย่าด่วนคล้อย แสนละห้อยร้อยหวงยังห่วงหา ก่อนระฆังสั่งซ้ำเสียงอำลา ขอแก้วตาอย่าเลือนเหมือนระฆัง รอระฆังกังวาลผ่านเพลงเคาะ ส่งเสนาะเหมาะบรรเลงเป็นเพลงหวัง กับคืนคอยดอยหนาวร้าวภวังค์ ขอให้รู้ผู้อยู่หลัง ก็ยังรอ พรายม่าน สันทราย ๒๙.๐๑.๕๔ หัวข้อ: Re: ๏ ไหน..ระฆังเคาะยกให้ถกนับ ๏ เริ่มหัวข้อโดย: (ฟ้า) มารสุรา ที่ 29 มกราคม 2011, 01:54:PM เสียงระฆังดังหง่างอย่างผิวแผ่ว
วังเวงแว่วจับจิตใจให้หวนหา รักเริ่มแรกแทรกซึมทรวงดวงอุรา เอิบเอมอ้าอิ่มอกตกหลุมใจ สิ้นเสียงดังระฆังก้องร้องหมดยก โอ้นรกตกหลุมพรางร่างมอดไหม้ ถูกไฟรักเผาผลาญมาลย์ดวงใจ คงเหลือไว้ให้เห็นแต่แค่วิญญาณ emo_111 emo_79 emo_111 emo_79 emo_111 หัวข้อ: Re: ๏ ไหน..ระฆังเคาะยกให้ถกนับ ๏ เริ่มหัวข้อโดย: ohWOW ที่ 29 มกราคม 2011, 04:50:PM พิษรักคงครวญคำตามกำหนด เพื่อแต่งบทรอรักปักกลางฐาน ก่อนเร่งเร้าสื่อล่วง จากดวงมาน ให้ขับขานแทรกขวัญ..จนสั่นรัว อา ไออุ่น วับวามทั้งสามโลก มาหยอกล้อลมโบก กรรโชกยั่ว กระแทกโหมโครมครวญก่อนม้วนตัว แนบฟ้าหลัวตอบรับ..ในวับนั้น (http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_177.gif) (http://www.klonthaiclub.com) หัวข้อ: Re: ๏ ไหน..ระฆังเคาะยกให้ถกนับ ๏ เริ่มหัวข้อโดย: คนสาธารณะ ที่ 13 มีนาคม 2011, 01:56:AM ๐๑๔๔
๐ ระฆังขานขับล้า........ระโรยเสียง ฟังแว่วพอยินเพียง.......ผ่าวนั้น แรงรักห่มคลอเคียง.......เนาคู่ ยังอุ่นอวลอกฝั้น..........อีกฟื้นเพลงสนาน ๐ ลานรักเริงกรุ่นเรื้อ......รัง,ฝัน เพลินผับเรียมรังสรรค์....หล่อนซึ้ง ชายตรึงต่อเพลงอัน......เอมสุข ยังส่งนวลจนอึ้ง...........อิ่มพร้อมระฆังขาน ฯ ๐๑๕๔ ๑๓๐๓๕๔ " คนสาธารณะ " คิดถึงพี่น้องบ้านกลอนทุกๆท่านขอรับ |