หัวข้อ: คำสอนจากพระจันทร์ เริ่มหัวข้อโดย: note16026 ที่ 24 สิงหาคม 2010, 09:54:PM เวลาดึก นึกคึกใจ ในสุรา
เปิดวอดก้า เหลือค้างมา นานทับถม ริมระเบียง แก้วเป๊กใบ ไอฝนพรม นั่งมองชม เชยพระจันทร์ ครั่นครามใจ จันทร์เหตุใด ใยเฉิดฉาย พรายแพร้วเพริศ ส่องบรรเจิด เลิศนภา ได้อาศัย แสงจันทรืนวล ชวนใจเคลิ้ม เติมเมรัย คิดทันใด ใยยามรุ่ง ไร้เงาจันทร์ เอื้อมไปหัน หยิบlap top ถามอากู๋ ลองถามดู หายไปไหน จันทร์ของฉัน อากู๋บอก จันทร์ก็อยู่ ที่ของมัน สุริยัน พลันกลบแสง ไร้ตัวตน ในคืนที่มืดมนนั้น แสงจันทรืที่เล็ดรอดผ่านเมฆดำ ดูงดงาม แต่หากในยาม กลางวัน แม้นจันทร์จะส่องเต็มดวง ก็ไม่มีค่าอันใด ในแสงสุริยา ... รู้ได้ว่า สิ่งที่สำคัญนั้น บางที ไม่ได้มาจากคุณค่าตัวมันเอง .... สถานการณ์ สถานที่(ทำเล) และ จังหวะ สามารถเพิ่มคุณค่าจากที่มีอยู่เดิมได้มากมาย หากไม่มีสิ่งที่กล่าวข้างต้นแล้ว แม้ในตัวตนจะมีคุณค่าเพียงใด ก็ไม่ เกิดประโยชน์อันใด ... เฉกเช่นไทร้ พระจันทร์ ตอน กลางวัน หัวข้อ: Re: คำสอนจากพระจันทร์ เริ่มหัวข้อโดย: KungDekZa ที่ 25 สิงหาคม 2010, 09:59:PM ยามค่ำคืนฉันมองสู่ฟากฟ้า
อยู่ตรงหน้าดวงจันทร์ช่างหลงไหล สีนวลสวยเรียบเปรียบเหมือนผู้ใด ที่เป็นใครงามล้นเตะสายตา แต่เมื่อฉันเล่าเรียนจึงได้รู้ ดวงจันทร์หาใช่หรูเหมือนเปลือกหน้า ผิวขรุขระไม่เหมือนที่คิดมา สิ้นราคาวาดฝันมลายไป อันดวงจันทร์สอนเราให้รู้ว่า ถึงคนหน้าดีล้นน่าหลงใหล อาจมิใช่งามเท่าเทียบเคียงใคร ที่ดวงใจงามแท้ไร้มลทิน KungDekZa หัวข้อ: Re: คำสอนจากพระจันทร์ เริ่มหัวข้อโดย: เพรางาย ที่ 26 สิงหาคม 2010, 04:20:PM บางวันจันทร์กลม
แสงนวลชวนชม กระจ่างเวหา เมฆล้อมทรงกลด ปรากฏแก่ตา จันทร์สวยสูงค่า ดังราชินี บางวันจันทร คล้ายถูกบดซ่อน เหลือแสงริบหรี่ เหมือนเคียวเกี่ยวค้าง กลางฟ้าราตรี แต่ยังคงมี มนต์ซึ้งตรึงใจ เช่นความดีงาม อาจถูกมองข้าม เจ็บช้ำหมองไหม้ แต่มิอาจกลบ ลบความดีไป ดำรงคงไว้ ย่อมไม่อับจน |