พิมพ์หน้านี้ - ชีวิตนี้แสนสั้น

ชุมชน บ้านกลอนไทย ชุมชนสำหรับคนไทยผู้รักกลอน

บทประพันธ์กลอนและบทกวีเพราะๆ => กลอนธรรมะ+กลอนสอนใจ+กลอนธรรมชาติ+กลอนปรัชญา => ข้อความที่เริ่มโดย: สุวรรณ ที่ 15 สิงหาคม 2010, 04:14:PM



หัวข้อ: ชีวิตนี้แสนสั้น
เริ่มหัวข้อโดย: สุวรรณ ที่ 15 สิงหาคม 2010, 04:14:PM
ค้นนิยามวันรุ่งของพรุ่งนี้
ทุกชีวีต่างหมายจุดไฟฝัน
หวังลุกโชนโหมแรงแห่งชีวัน
เพื่อยามนั้นขวัญอาจผงาดยืน

แต่..ใครเลยจะรู้เล่าชีวิต
สั้นเพียงนิดขีดไว้ไม่อาจฝืน
อายุขัยสั้นลงทุกวันคืน
ทูตมรณะหยิบยื่นไม่รู้ตัว

เถิด..ทำดี เริ่มต้นนับแต่นี้
ทุกวินาทีที่ผ่านม่านสลัว
กอปรแต่ดี ดีตอบ มอบกับตัว
ลดความชั่วมัวหมองให้หมดลง

ชีวิตนี้พระท่านกล่าวว่าแสนสั้น
ให้ตั้งมั่นหมั่นสร้างอานิสงส์
ภาวนาพาจิตคิดปลดปลง
เร่งสร้างแต่กุศลผลบุญเทอญ.


หัวข้อ: Re: ชีวิตนี้แสนสั้น
เริ่มหัวข้อโดย: "สายธารศรัทธาธรรม" ที่ 15 สิงหาคม 2010, 07:49:PM
 
(http://widget.sanook.com/static_content/full/graphic/720c84cf26d7e9ce74e03a69194b5831_1209372919.gif)
                 
"ปลง"
พุทธองค์พร่ำสอนมวลมนุษย์
ให้รู้หยุดจุดคิดในสิ่งเห็น
ที่มีเกิดตั้งอยู่ทุกเช้าเย็น
ไม่ทันเข็ญดับไปอนิจา

หมั่นสร้างบุญทำทานการกุศล
โปรดชว่ยดลพ้นกรรมที่ทำมา
เมื่อลาลับจากไปได้นำพา
  ติดตัวมาเกิดใหม่ตามผลบุญ
---พลังศรัทธา---
(http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_008.gif)


หัวข้อ: Re: ชีวิตนี้แสนสั้น
เริ่มหัวข้อโดย: สุวรรณ ที่ 15 สิงหาคม 2010, 08:11:PM
อย่าหวังพึ่งรอยบุญทุนปางก่อน
ค่อยๆออมทบก้อนบุญนำหนุน
ทั้งชาตินี้ชาติหน้าไว้ค้ำจุน
ด้วยเพราะทุนความดีที่สร้างมา

ร้อยความดี ดีได้ ด้วยใจมั่น
จากพลังศรัทธานั้นหมั่นศึกษา
รสพระธรรมนำซึ้งซึ่งธรรมา
เชิญเถิดหนาน้องยาสร้างความดี


หัวข้อ: Re: ชีวิตนี้แสนสั้น
เริ่มหัวข้อโดย: "สายธารศรัทธาธรรม" ที่ 15 สิงหาคม 2010, 08:35:PM
 
ขอสาธุสุวรรณที่อวยพร
จำคำสอนรสธรรมสร้างความดี
ตัวพลังศรัทธาปลื้มเปรมปรี
ที่ยังมีสุวรรณต่อบทกลอน
นำวิชาปรัชญาที่เรียนมา
สร้างปัญญาใจตนไม่ขาดตอน
ด้วยแห่งรสพระธรรมไม่มีถอน
เป็นคำสอนสร้างตนรวยความดี
---พลังศรัทธา---
(http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_008.gif)


หัวข้อ: Re: ชีวิตนี้แสนสั้น
เริ่มหัวข้อโดย: สุวรรณ ที่ 15 สิงหาคม 2010, 08:47:PM
ไม่บังอาจคิดสอนพระธรรมหรอก
แต่หวังบอกรอยทานหว่านสุขี
การให้ธรรมเป็นทานสร้างการดี
ด้วยพระครูท่านชี้เห็นสมควร

ช่วงเวลาผ่านมาเพียงกาลหนึ่ง
อิ่มรอยธรรมเคยซึ้งซึ่งคิดหวน
นำมาเขียนบทกลอนสักกระบวน
เพียงชี้ชวน..อย่ารอให้ชีพวาย


หัวข้อ: Re: ชีวิตนี้แสนสั้น
เริ่มหัวข้อโดย: masapaer ที่ 15 สิงหาคม 2010, 08:58:PM
เมื่อชีวิตปลิดสั้นเท่านั้นแล้ว
คือดวงแก้วคอยแหลกแตกสลาย
อันกายหยาบคราบหม่นมิพ้นตาย
ค่าสิ่งหมายเหลือไว้คือใดกัน

เมื่อชีวิตผันสั้น ณ วันนี้
ชั่วชีพมีสิ่งใดใคร่ผกผัน
ซึ่งอาจเปลี่ยนชีวิตที่ติดพัน
กับโลกอันวุ่นวายในครรลอง

เมื่อสิ้นลมล้มซากกากชีวิต
สิ่งสถิตติดไว้ในทั้งผอง
คือสิ่งดีทีทำคอยย้ำกรอง
ให้เราตรองตัวตนค้นใจดู

จะเอาแก่นใดแน่แก่ชีวิต
ในทุกทิศของใจให้หยั่งรู้
เอาแง่คิดติดตั้งหยั่งตราชู
แล้วกรองใจให้อยู่คู่ธรรมา


 emo_82


หัวข้อ: Re: ชีวิตนี้แสนสั้น
เริ่มหัวข้อโดย: สุวรรณ ที่ 15 สิงหาคม 2010, 09:45:PM
อนิจจังล้วนแล้วแต่ไม่เที่ยง
จะหลบเลี่ยงเกี่ยงตายใช่หรือหนา
อายุขัยถึงกาลของเวลา
ก็ต้องดับสังขารลากันทุกคน

คงชั่วดีเหลือไว้ให้เขาขาน
ของรอยกรรมนำผ่านอ่านถึงผล
ที่กระทำให้เห็นกรรมของตน
ชั่วหรือดีมากล้นในโลกา


หัวข้อ: Re: ชีวิตนี้แสนสั้น
เริ่มหัวข้อโดย: ~..ผู้ได้รับบาดเจ็บ..~ ที่ 16 สิงหาคม 2010, 01:23:AM
เพราะสังคม ประเมินค่า ที่จนรวย

คนจึงสร้างเปลือกสวยไว้สวมใส่

หากสังคมวัดค่าที่ภายใน

คนจะสร้าง แต่จิตใจ ที่ใฝ่ดี


หัวข้อ: Re: ชีวิตนี้แสนสั้น
เริ่มหัวข้อโดย: เพรางาย ที่ 18 สิงหาคม 2010, 04:48:PM
เหมือนเส้นใยเบาบางกลางอากาศ
ชั่วขณะพลันขาดไม่คาดฝัน
จะมีลมหายใจไปกี่วัน
ยาวหรือสั้นอายุขัยใครล่วงรู้

ทุกลมเข้าลมออกบอกไม่เที่ยง
อย่าหลบเลี่ยงหน้าที่รีรออยู่
ภาพแสนงามจับจองเฝ้ามองดู
อาจพรากหายเพียงครู่ลืมหายใจ


หัวข้อ: Re: ชีวิตนี้แสนสั้น
เริ่มหัวข้อโดย: ณัฐชรี ที่ 19 สิงหาคม 2010, 11:47:AM
ชีวิตนี้แสนสั้นท่านรู้ไหม
อายุไขแสนสั้นท่านก็เห็น
กาลเวลาร้อนหนาวผ่านเช้า-เย็น
เราเกิดเป็นมนุษย์ได้...ใช้ให้คุ้ม


หัวข้อ: Re: ชีวิตนี้แสนสั้น
เริ่มหัวข้อโดย: หนุ่มน้อย...คอยรัก ที่ 19 สิงหาคม 2010, 12:05:PM
ชีวิตนี้แสนสั้นท่านรู้ไหม
อายุไขแสนสั้นท่านก็เห็น
กาลเวลาร้อนหนาวผ่านเช้า-เย็น
เราเกิดเป็นมนุษย์ได้...ใช้ให้คุ้ม

คำท่านเอ่ยเผยเตือนเพื่อนมนุษย์
ประหนึ่งยุทธวิธีการหนีหลุม
ชีวิตคนบนทางมองต่างมุม
ดีชั่วหุ้มห่อไว้...จริงไหมคน

จริงเหมือนท่านว่าเนาะ...

emo_12


หัวข้อ: Re: ชีวิตนี้แสนสั้น
เริ่มหัวข้อโดย: ตะวันฉาย ที่ 19 สิงหาคม 2010, 03:51:PM

...เมรุควันลอยกรุ่นยังอุ่นอยู่
เฝ้ามองดูคงถึงวันฉันสลาย
ชีพม้วยลงตรงดินสิ้นแล้วกาย
ทุกสิ่งวายมลายไปในธุรี

...มจุราชมารอขอชีวิต
กรรมลิขิตหรือบุญส่งปลงวิถี
วาสนาเราฝากหากพอมี
รั้งชีวีให้อยู่ต่อทอหลายวัน

...ขอชีวิตที่เหลือเจือจุนสร้าง
ปูแนวทางข้างหน้าพาสุขสัน
วิปัสสนากรรมฐานให้นานวัน
แผ่เมตตานั้นอย่าขาดให้หยาดไป

...วันนี้อยู่พรุ่งนี้ตายมลายสูญ
ใครเกื้อกูลบุญเราหากเผาไหม้
ทุกสิ่งว่างไร้ทางธรรมมานำใจ
หวังบุญไซร้ก็ไร้ค่าถ้าไม่ทำ...


หัวข้อ: Re: ชีวิตนี้แสนสั้น
เริ่มหัวข้อโดย: ปาระ ที่ 19 สิงหาคม 2010, 06:37:PM
ชีวิตคนแสนสั้นเหมือนควันหมอก
เมื่อแดดออกหมอกหายย่อมคลายหนี
คนเกิดมาชาติหนึ่งพึ่งทำดี
หาวิถีแห่งธรรมมานำใจ

เหมือนเทียนไขให้แสงแสดงสด
เดียวก็หมดแรงล้าพาใจไหว
มิรู้ว่าพรุ่งนี้อยู่ที่ใด
จะมีไหมวันใหม่ให้ได้ดู

จงเร่งทำวันนี้ให้ดีเถิด
พรุ่งนี้เกิดไปไม่ได้จะอดสู
อยู่กับสิ่งที่เป็นสิ่งที่รู้
อย่าไปอยู่กับฝันอันห่างไกล

อย่าย้อนลึกวันเก่าให้เศร้าจิต
หนึ่งชีวิตติดความหลังยังหวังใคร่
หลงจนลึกกันเกินต้องเดินไกล
แล้วเมื่อไรจะมารู้อยู่กับตน

เวลาเดินเคลื่อนผ่านกาลก็เปลี่ยน
สอบบทเรียนเวียนว่ายคลายสับสน
โอ้ชีวิตหนอชีวิตปุถุชน
ต้องดิ้นรนขวนขวายจนวายวาง


หัวข้อ: Re: ชีวิตนี้แสนสั้น
เริ่มหัวข้อโดย: บอม ซอง ดุ๊ก ที่ 19 สิงหาคม 2010, 11:25:PM

(http://crime.komchadluek.net/media/img/size1/2009/06/02/kdhagkkckagabbj6adbed.jpg)

แค่นับ1-10 ก็จบชีวิตที่ใช้อย่างประมาท

หนึ่งหัวใจที่กลั่นกล้า ร้องท้าทาย ชายเจ็ดคน ปนมึนเมา ทำกร้าวกร่าง
สองมือเขานั้นไม่ว่าง ซ้ายถือขวด ขวาถือปืน ยืนพูดพร่ำ พล่ามเป็นไฟ
สามหาวพร้อมกล่าวก้อง ท้าให้ลอง กับของขลัง "หนังกูเหนียว ไร้ระคาย"
สี่ทิศพิชิตชัย ป้องเหล่าร้าย ยันต์กันตาย  "กูสักไว้  เต็มแผ่นหลัง"
ห้า"ห้าห้าพวกตาขาว ช่างวอนตาย" ด้วยย่ามใจ เดินเข้าไส่ กายโอนเอน
หกขมำตีคะเมน ปืนกระเด็น เหล้ากระจาย เพราะเมามาย ร้องครวญคราง
เจ็ดชายหนุ่มสบโอกาส ปราดขย้ำ ด้วยความโกรธ กดมีดคม จมแผ่นหลัง
แปดเปลื้อนเลือดไหลหลั่ง ลมโรยริน สิ้นใจตาย ดับเพลิงไฟ ใต้ความเมา

เก้ายอดหรือร้อยยันต์ มิกันป้อง มิคุ้มหัว ใจมัวเมา คนเมามาย
สิบตัว สิบหัวใจ ยังน้อยไป ถ้าหากใช้ ด้วยประมาท  "ขาดสติ"

บอม ซอง ดุ๊ก   

(http://www.kaweeclub.com/link/11%20(107).gif)


หัวข้อ: Re: ชีวิตนี้แสนสั้น
เริ่มหัวข้อโดย: สุวรรณ ที่ 04 กันยายน 2010, 04:21:AM
มองโลกเรียบเยียบเย็นเห็นสงบ
เราต่างลบเรื่องราว,คาวชีวิต
ปลดอนธการมัวหมอง ไตร่ตรองจิต
แล้วนำพาชีวิต ลิขิตเดิน

สร้างสมบุญคุณคุ้มจนชุ่มฉ่ำ
ให้ธรรมนำชีวาน่าสรรเสริญ
ทิ้งสุขโศกโบกลาสิ่งพาเพลิน
นิ่งเผชิญเนินทุกข์ อย่าขลุกนาน

เพียงเท่านี้ดีแท้ ไม่แพ้พ่าย
หันบำรุงปรุงกาย-ใจ,เฉิดฉาน
กระทำดีเริ่มที่ใจได้แผ้วพาน
เปิดม่านมานแต่นี้ เถิด..เชิญทำดี