หัวข้อ: ๏ ถามเถิดถึงความนัยจงไถ่ถาม ๏ เริ่มหัวข้อโดย: คนสาธารณะ ที่ 13 สิงหาคม 2010, 10:55:AM (http://www.bloggang.com/data/m/mandd/picture/1281581141.jpg)
๏ อาวรณ์อกเพียงว่าอุราร่ำ เพลงพลบค่ำดื่มฝากความอยากฝ่า- เพลิงรักแผดโลมผ่านเพียงม่านตา เพื่อหวังหน้าเรามั่นสัมพันธ์นาน ๏ หรือรูปรวงดาวแรมมาแต้มหม่น ให้หมองปนเศร้าเหม่อเมื่อเธอผ่าน ความปวดร้าวลึกฝังคงกังวาน ณ ห้วงกาลเคยขีดอดีตเรา ๏ จึงแต่ร่ำเสียงต่อมาคลอตอบ เพื่อส่งมอบความง่ายพอคลายเหงา ฝ่าแรงฝนลมผ่านแม้นานเนา มาบอกเล่าบางเรื่องอันเรืองรอง ๏ กับความฝันที่ใฝ่ถึงไกลโพ้น ยังปลอบโยนใจเปลี่ยวมั่นเกลียวสอง- เรามั่นในหลักไว้ซึ่งใฝ่ปอง สู่ห้วงของคำกล่าวเมื่อคราวนั้น ๏ ถามเถิดถึงความนัยจงไถ่ถาม ว่ากี่ความคำเอ่ยมาเปรยฝัน จากอดีต ที่ดื่มลึก ผนึกกัน ยังเปี่ยมปั้นรสเดิมเพื่อเสริมรส ๏ อาวรณ์อกเพื่ออุ่นให้กรุ่นอีก- ครา,ผ่านหลีกส่ายหลบเพียงซบ,จด- จำ,ความพลาด..ผิดพร่ำ..จึงร่ำพจน์ เพื่อปล่อยปลด,เพิ่มปรับ....สำหรับนี้ ๚ะ๛ ๐๙๓๙ ๑๒๐๘๕๓ หัวข้อ: Re: ๏ ถามเถิดถึงความนัยจงไถ่ถาม ๏ เริ่มหัวข้อโดย: ไพร พนาวัลย์ ที่ 14 สิงหาคม 2010, 04:54:AM เรารักกันชอบกันอย่างมั่นเหมาะ เพิ่มใจเพาะพอกพูนดุลย์วิถี กังขาใดใคร่รู้เพื่อดูดี เผยวจีตอบคำอย่างคนตรง ดั่งจะแผ่หัวใจให้เธอเห็น มิหลบเร้นสิ่งใดใฝ่ประสงค์ ให้ความจริงต่อกันอย่างบรรจง เพื่อปลดปลงปล่อยวางทางเคยเทียว ทางข้างหน้าถ้าถามยามสับสน ด้วยเหตุผลยลยินจินต์เฉลียว เราอาจต้องร่วมฝันวันกลมเกลียว จะร่วมเกี่ยวก้อยกันหรือกลับกลาย เราต่างมีอิสระทางความคิด ขอมิ่งมิตรเปิดรู้สู่ที่หมาย ต่างเชื่อมั่นในจิตติดใจกาย ฤาร่วมเป็นร่วมตายว่ายวัฏฏ์วน emo_55 "ปรางค์ สามยอด" หัวข้อ: Re: ๏ ถามเถิดถึงความนัยจงไถ่ถาม ๏ เริ่มหัวข้อโดย: คนสาธารณะ ที่ 14 สิงหาคม 2010, 11:56:PM ๏ ฤาแรงคำ..เพ้อครวญ..ที่ด่วนขับ- เสียงพร่ำศัพท์ เพลงกานท์ประสานวิถี เรียงแต่ร้อยบอกต่างบางวิธี ณ แห่งที่เคยร่ำถิ่นพำเนา ๏ โปรดเอ่ยปากปล่อยถามในความลึก ให้รู้สึกความหลังเมื่อครั้งเก่า เก็บรอยกรุ่นอิ่มเกินที่เพลินเรา- สองต่างเฝ้าเพลงชอบพร้อมตอบเติม สวัสดีขอรับ ท่าน ปรางค์ สามยอด ขอบคุณที่ร่วมวางกลอนที่ไพเราะครับ หัวข้อ: Re: ๏ ถามเถิดถึงความนัยจงไถ่ถาม ๏ เริ่มหัวข้อโดย: คนสาธารณะ ที่ 15 สิงหาคม 2010, 12:02:AM ๏ ณ แห่งห้วงหนึ่งใจของใครนี้
รอคำถามถ้อยถี่เพื่อมีเสริม เติมคำถาม,ตอบจะเพื่อประเดิม ฝากแรงเพิ่มฝันหลักเข้าปักรอย- ๏ ทาง,เก่ากรุ เก็บฝันเมื่อวันก่อน ที่ยังซ่อนใจอยากเข้าถากถอย ถกเพลงถั่งโถมถึงตะลึงลอย- ตาค้างปล่อยแรงสุดฝนหยุดพรำ สวัสดีขอรับ คุณ...ไม่รู้ใจ... ขอบคุณที่ร่วมแจม 2 กรอบ 4 บทขอรับ อ่านกลอนท่านแล้วเสมือนหนึ่งว่าน้อยใจจนไม่อยาถามเลยนะขอรับ อิอิ หัวข้อ: Re: ๏ ถามเถิดถึงความนัยจงไถ่ถาม ๏ เริ่มหัวข้อโดย: แม่ค้าหน้าหวาน ที่ 15 สิงหาคม 2010, 01:14:AM (http://www.tlcthai.com/webboard/data/156/1/28-07-2009/67240/comment/images/19?1281807961) (http://yamiejung3.webs.com/photos/AA2/7.gif) หทัยร้อน...ซ่อนบ่วง...ณ ทรวงใน หวีดหวิวใจ...ให้หวั่น...สะพรั่นหา อยากอิงแอบ...แนบสนิท...ชิดกายา ดั่งเหมือนว่า...ตกบ่วง...มัดดวงใจ ตกหลุมรัก...ดวงใจ...ยากไถ่ถอน ยังอาวรณ์...ย้อนคิด...จิตหวั่นไหว หทัยร้อน...ซ่อนเร้น...เป็นเช่นไร พึ่งประจักษ์...แก่ใจ...นัยนี้เอง (http://dl6.glitter-graphics.net/pub/926/926666cocr29uegf.gif) หัวข้อ: Re: ๏ ถามเถิดถึงความนัยจงไถ่ถาม ๏ เริ่มหัวข้อโดย: masapaer ที่ 15 สิงหาคม 2010, 09:40:AM (http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_087.gif) อยากรู้..แต่ไม่ (อยาก) กล้าถาม เรื่องอยากรู้..นะ..อยาก..ฝากคำถาม ให้ตอบความในคิดที่จิตเพ่ง แต่ไม่อยากเอ่ยความถามบรรเลง หวั่นใจเกรงคำตอบที่มอบมา อยากรู้นะมากมายไม่กล้าถาม กลัวข้อความสั่นใจไหวผวา อยากรู้ไม่อาจเอ่ยเปรยวาจา แอบประหวั่นอุรากลัวคาใจ อยากรู้นะหัวใจไม่กล้าเอ่ย กลัวสิ่งเปรยเผยคำน้ำตาไหล กลัวข้อความหลอกกล่อมหลอมเป็นไป หรือคำตอบหวามไหวไม่กล้าเดา อยากรู้บ้างเหมือนกันหวั่นเสมอ เคยละเมอเพ้อไกลในครั้งเหงา ไม่กล้าเอ่ยเปรยเสียงแม้เพียงเบา กลัวเธอลวงแม้เงา.. เศร้ากมล อยากจะรู้ดูค้นวนคำตอบ แอบลักลอบคะเนเล่ห์ฉงน เกิดคำถามมากมายใจวกวน แต่สบสนปนไว้ไม่กล้าเปรย เปรยนะเปรยหัวใจจงเปรยเถิด อย่าให้เกิดคำถามยากความเอ่ย คิดสันสนปนกลัวหมองมัวเลย จงเฉลยหัวใจอย่าให้ครวญ emo_47 (http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_087.gif) หัวข้อ: Re: ๏ ถามเถิดถึงความนัยจงไถ่ถาม ๏ เริ่มหัวข้อโดย: คนสาธารณะ ที่ 15 สิงหาคม 2010, 09:56:AM ๏ อา...โลมฝนตกผ่านเมื่อกาลนั้น
เพลงสวรรค์โปรยปลื้มพาดื่มด่ำ ฉากมืดทุมเสียงระทึกผนึกนำ จากพลบค่ำจวบสางแสงพร่างโพลน ๏ ฤา...แต่รอ..ถามเกริ่น..จนเนิ่นหน่วง แผ่วเสียงร่วง..แรงกร่อย..จนห้อยโหน เพลินลมผ่าวยามมอบ..คำปลอบโยน เพราะไหวโอนเอนกลับ..เพื่อรับคืน สวัสดีขอรับ คุณแม่ค้าหน้าหวานหวาน ขอบคุณยิ่งๆที่ร่วมวางกลอนถึง 2 คาถา ขอรับ และสวัสดีพร้อมขอบคุณทุกๆท่าน เมฆา..., สายใย, ปรางค์ สามยอด, กุลมาตา(singlemom99), แม่ค้าหน้าหวาน, ไม่รู้ใจ, masapaer, nara ที่แวะเข้ามาอ่านและให้คำชม เป็นแรงใจให้ขยันขึ้นอีกขอรับ หัวข้อ: Re: ๏ ถามเถิดถึงความนัยจงไถ่ถาม ๏ เริ่มหัวข้อโดย: กุลมาตา(singlemom99) ที่ 15 สิงหาคม 2010, 10:52:AM ให้ไถ่ถาม ความนัย จึงใคร่ถาม เป็นถ้อยความ คร้ามใจ ไยมิกล้า เพียงเลียบเลียบ เทียบเคียง เมียงมองมา สิอายฟ้า อายดิน ฤาจินต์ใน มีหญิงอื่น รื่นเรียง เคียงอยู่ก่อน แม้รุ่มร้อน รอนแรม มิแกมใกล้ ฤาตระหนก อกสั่น พรั่นผู้ใด ตัวคนเดียว เกี่ยวใคร ใคร่ถามมา หัวข้อ: Re: ๏ ถามเถิดถึงความนัยจงไถ่ถาม ๏ เริ่มหัวข้อโดย: สุดสาย ที่ 15 สิงหาคม 2010, 10:54:AM เรารักกัน..แน่ไหม..ใจฉันถาม มีใครคอย..ติดตาม..ยามสั่นไหว เธอเคยมี..ไหมเขา..ที่เอาใจ เธอเคยมี..ไหมใคร..ที่ห่วงใยเธอ เขาเป็นมาก..กว่าไหม..ใจดวงนั้น ให้มากกว่า..ความผูกพัน..ฉันเสนอ ให้มากกว่า..ฉันคนนี้..มีไหมเออ ถามความนัย..จากใจเธอ..ยามเผลอใจ ..nara.. (http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_030.gif) หัวข้อ: Re: ๏ ถามเถิดถึงความนัยจงไถ่ถาม ๏ เริ่มหัวข้อโดย: avatar ที่ 19 สิงหาคม 2010, 02:09:PM ไปแนบชิดอกอุ่นละมุนหรือ ? จึงได้สื่ความนัยมาไถ่ถาม จะตอบถ้อยกระไรจะได้ความ เมือนิยามว่าไว้ไม่ใช่เรา เก็บคำถามความนัยไร้คำตอบ ไว้ส่งมอบปลอบใจคลายร้อนเร่า ฝากสายลมห่มร่างอย่างแผ่วเบา ไปปลอบเจ้าขวัญเพ้อ ที่เหม่อคอย ยืดเวลาสำราญให้นานเนิ่น เพื่อเชื้อเชิญกมลคนเหงาหงอย หลั่งรินฝันสู่ใจไร้ริ้วรอย ร้อยสายสร้อยอักษรามากำนัล emo_49 [ไฟล์แนบถูกลบโดยผู้ดำเนินการ] หัวข้อ: Re: ๏ ถามเถิดถึงความนัยจงไถ่ถาม ๏ เริ่มหัวข้อโดย: คนสาธารณะ ที่ 19 สิงหาคม 2010, 02:27:PM ขออนุญาตขยายฟ้อนท์ของคุณ
AVATAR ให้ใหญ่ขึ้นขอรับจะได้อ่านง่ายๆ ไปแนบชิดอกอุ่นละมุนหรือ ? จึงได้สื่อความนัยมาไถ่ถาม จะตอบถ้อยกระไรจะได้ความ เมือนิยามว่าไว้ไม่ใช่เรา เก็บคำถามความนัยไร้คำตอบ ไว้ส่งมอบปลอบใจคลายร้อนเร่า ฝากสายลมห่มร่างอย่างแผ่วเบา ไปปลอบเจ้าขวัญเพ้อ ที่เหม่อคอย ยืดเวลาสำราญให้นานเนิ่น เพื่อเชื้อเชิญกมลคนเหงาหงอย หลั่งรินฝันสู่ใจไร้ริ้วรอย ร้อยสายสร้อยอักษรามากำนัล AVATAR หัวข้อ: Re: ๏ ถามเถิดถึงความนัยจงไถ่ถาม ๏ เริ่มหัวข้อโดย: คนสาธารณะ ที่ 19 สิงหาคม 2010, 04:32:PM ๏ หลาก..ร้อยคำถามไถ่ที่ไหลหลาก หลาย..ถ้อยพอเลี่ยงฝากเพื่ออยากถาม กับ..คำเกริ่น..ถกถ้อยที่ร้อยความ ใจ..จึงบ่ามบุ่มบอกเพื่อตอกคำ- ๏ ถาม..เถิดถ้า..คำนิยาม จะถามไถ่ ถึงความนัย คราวปลื้ม ยามดื่มด่ำ ด้วยแห่งพร่ำเพลินรสที่จดจำ เป็นลำนำบอกเล่าเรื่องเก่าเติม- สวัสดี มะสะแป ขอบใจมากมายขอรับ ที่ร่วมแจมถึง 6 คาถา หัวข้อ: Re: ๏ ถามเถิดถึงความนัยจงไถ่ถาม ๏ เริ่มหัวข้อโดย: คนสาธารณะ ที่ 19 สิงหาคม 2010, 04:36:PM ๏ พลังไฟพอกอุ่นให้กรุ่นอีก
คงหลายผีก..รวมใฝ่ที่ไหลเพิ่ม จากห้วงหาวหล่นหับมาจับเจิม ช่วยแต้มเสริม ใจช่วงหลุดบ่วงลอย ๏ ฝากแต่ฝันตอนพร่ำแห่งคำเพ้อ คงมึนเหม่อมองผ่านเหตุการณ์บ่อย- บ้างปลิดปลอบเบี่ยงเป็นหลบเฟ้นคอย จึงแต่พลอยเอ่ยพล่ามให้ถามมา กุลมาตา(singlemom99) สวัสดีขอรับ ขอบคุณยิ่งๆที่ร่วมแจมกลอน หลายวันเลยที่ข้าเจ้ามิได้เข้ามาตอบกระทู้ อิอิ หัวข้อ: Re: ๏ ถามเถิดถึงความนัยจงไถ่ถาม ๏ เริ่มหัวข้อโดย: คนสาธารณะ ที่ 19 สิงหาคม 2010, 04:40:PM ๏ ถึงเวลาทางลงเพื่อปลงปลด-
ทางลาดลดเลี้ยวชันก็ฟันฝ่า ฝันเพียงร้อย ร่ำพจน์รจนา ฝากกับสายลมปร่าที่ฝ้าฟาง ๏ หลาก..ความหวังเริ่มวาดที่หวาด,หว่าน เพลงกลอนขานขับกล่อมมิยอมห่าง ด้วยคำถามถกไถ่อย่าได้จาง ไปจากหว่างใจหวั่นที่พรั่นพรำ ๑๖๒๗ ๑๙๐๘๕๓ สวัสดีขอรับ คุณ nara ขอบคุณยิ่งๆที่แจมกลอนขอรับ หัวข้อ: Re: ๏ ถามเถิดถึงความนัยจงไถ่ถาม ๏ เริ่มหัวข้อโดย: ~..ผู้ได้รับบาดเจ็บ..~ ที่ 19 สิงหาคม 2010, 06:41:PM (http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_127.gif) ปากบอกว่าไม่รักแม้สักนิด ใจกลับคิดรักและหวงเฝ้าห่วงหา เสมือนโซ่ทองคล้องศัรทธา ปรารถนาความสุขคู่ร่วมกัน (http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_122.gif) (http://www.klonthaiclub.com/pic/fell_004.jpg) หัวข้อ: Re: ๏ ถามเถิดถึงความนัยจงไถ่ถาม ๏ เริ่มหัวข้อโดย: ดิษฐา ที่ 19 สิงหาคม 2010, 08:42:PM ด้วยคำถามยามนี้ มีมาถึง คำตอบหนึ่งพึ่งรู้ ที่สู้ฝัน เพียงเดียวดายใต้ฟ้า นภาจันทร์ ใจเพ้อปันผันแปร จึงแพ้มา คำถามย้ำพร่ำเพรื่อ น่าเบื่อยิ่ง วางใจอิง นิ่งนอนซ่อนดีกว่า ไม่ขอถามตามใจ ใครใคร่ลา ฤาตามหาล้าแล้ว ขอแจวไกล หัวข้อ: Re: ๏ ถามเถิดถึงความนัยจงไถ่ถาม ๏ เริ่มหัวข้อโดย: สุดสาย ที่ 19 สิงหาคม 2010, 09:03:PM ถ้าเราจบ ความนัย ให้ไถ่ถาม ถ้าถึงยาม ต้องห่าง วางได้ไหม เธอจะปล่อย ฉันลง ตรงที่ใด ฉันต้องซุก ข้างใจ ใครไหนกัน ถ้าเราห่าง ร้างกัน วันพรุ่งนี้ เธอคนดี มีไหม ใครในฝัน คนที่จะ ดูแล เทคแคร์กัน ทำหน้าที่ แทนฉัน ขวัญของใจ ถ้าเราจบ ความนัย ใจคงเหงา ความฝันเรา ที่เคยสวย ด้วยสดใส คงต้องอับ มืดมัว สลัวใจ คนอ่อนไหว มีแค่ฉัน ฝันเดียวดาย ..nara.. (http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_006.gif) หัวข้อ: Re: ๏ ถามเถิดถึงความนัยจงไถ่ถาม ๏ เริ่มหัวข้อโดย: คนสาธารณะ ที่ 22 สิงหาคม 2010, 09:48:AM ตอบท่าน AVATAR
๐ ฝนตกหนัก ตักนก ขอผกแนบ เนาเนินแอบ อุ่นนอน พาผ่อนหนาว ขอพำนัก พักนำ เพื่อด่ำ,ดาว- อันมืดยาว, นอนเหยียด พาเบียดโครม ๐ คือคืนฝน คนฝืน พาดื่นฝัน จึงรำพัน ตามเพลง บรรเลงโหม ฝันกับฝน เพลินรัก ยังตักโลม เสกมนต์โอม...เพลงคึก..ฝึกเครงครวญ..๚ะ๛ ๐๐๑๙ ๒๒๐๘๕๓ อรุณสวัสดีทุกๆท่านขอรับ มิได้เข้ามาตอบ2-3วันต้องขออภัยยิ่ง วันนี้เลยมีกลอนมาตอบท่านavatar ท่านเดียวก่อนขอรับ อิอิ หัวข้อ: Re: ๏ ถามเถิดถึงความนัยจงไถ่ถาม ๏ เริ่มหัวข้อโดย: avatar ที่ 23 สิงหาคม 2010, 05:41:PM หวนคำนึงถึงขวัญวันลาเลื่อน ใต้ดาวเดือนแรมร้างกลางวิถี นองน้ำตาไหลหยดรดพงพี ก้มหน้าหนีเดินห่างอย่างเข้าใจ หอมไอดินกลิ่นฝนหล่นวันนี้....... อยากจะรู้คนดีมีสุขไหม............ ทำงานหนักพักบ้างหรืออย่างไร.. พ้อหัวใจไถ่ถามยามไกลตา........ emo_85 หัวข้อ: Re: ๏ ถามเถิดถึงความนัยจงไถ่ถาม ๏ เริ่มหัวข้อโดย: avatar ที่ 24 สิงหาคม 2010, 07:41:AM ๐ ครืนครืนซ่า คราชื่น ในคืนฝน ราวต้องมนต์ ดลจิต ให้คิดฝัน สะท้านนัก ทักนานผ่านคืนวัน เมื่อไรขวัญ จะเจียด ให้เบียดโครม ๐ คือคนฝัน ครั้นฝืนก็ตื่นฝัน กี่รำพัน บรรเลงเป็นเพลงโหม ฝนพรมรักโรยรินกลิ่นประโคม อยากจะโน้ม รับขวัญทุกวันคืน .๚ะ๛ หัวข้อ: Re: ๏ ถามเถิดถึงความนัยจงไถ่ถาม ๏ เริ่มหัวข้อโดย: my smile ที่ 24 สิงหาคม 2010, 11:38:AM กลอนโดยคุณ avatar หวนคำนึงถึงขวัญวันลาเลื่อน ใต้ดาวเดือนแรมร้างกลางวิถี นองน้ำตาไหลหยดรดพงพี ก้มหน้าหนีเดินห่างอย่างเข้าใจ หอมไอดินกลิ่นฝนหล่นวันนี้....... อยากจะรู้คนดีมีสุขไหม............ ทำงานหนักพักบ้างหรืออย่างไร.. พ้อหัวใจไถ่ถามยามไกลตา........ emo_85 (http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_143.gif) ๐ ครืนครืนซ่า คราชื่น ในคืนฝน ราวต้องมนต์ ดลจิต ให้คิดฝัน สะท้านนัก ทักนานผ่านคืนวัน เมื่อไรขวัญ จะเจียด ให้เบียดโครม ๐ คือคนฝัน ครั้นฝืนก็ตื่นฝัน กี่รำพัน บรรเลงเป็นเพลงโหม ฝนพรมรักโรยรินกลิ่นประโคม อยากจะโน้ม รับขวัญทุกวันคืน .๚ะ๛ ขอขยายหน่อยน่ะค่ะ คนใกล้จะแก่อย่างหนูปวดสายตา แหะๆ ไม่ว่ากันน่ะค่ะ คุณ avatar กลอนเพราะ ๆ ต้องตัวใหญ่ใหญ่ หัวข้อ: Re: ๏ ถามเถิดถึงความนัยจงไถ่ถาม ๏ เริ่มหัวข้อโดย: สายใย ที่ 24 สิงหาคม 2010, 12:55:PM (http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_020.gif) อยากรู้ถึงความนัยจึงไถ่ถาม ว่าทุกยามสุขไหมหรือใจฝืน ยิ้มเริงร่าหรือว่าทนหยัดยืน จะแช่มชื่น,รื่นรมย์ หรือตรมใจ มีใครคอยเคียงข้างหรือยังเล่า จะโศกเศร้าจาบัลย์เหมือนกันไหม เพียงห่างเธอเพ้อพร่ำอยู่ร่ำไป ทั้งห่วงใย ครุ่นคำนึง คิดถึงนัก สายฝนหลั่ง ดังว่า ฟ้าร้องไห้ เหมือนความนัยใจหนึ่งที่ซึ้งหนัก มิกล้าเอ่ย เผยนัย น้ำใจภักดิ์ ขอแอบรักแอบซึ้ง เพียงหนึ่งนั้น (http://add.klonthaiclub.com/images/521397599p39febsh1r.gif) หัวข้อ: Re: ๏ ถามเถิดถึงความนัยจงไถ่ถาม ๏ เริ่มหัวข้อโดย: คนสาธารณะ ที่ 28 สิงหาคม 2010, 10:23:PM ตอบท่าน**ผู้ได้รับบาดเจ็บ
๏ เมื่อคำถาม..มาถก..ในยกแรก ใจเริ่มแปลกจิตป่วนสำนวนผ่าว ร้อยลำดับเรียงดื่นในคืนดาว- ที่เผยพราวลมผ่านซับลานทรวง ขอบคุณขอรับที่ร่วมแจม หัวข้อ: Re: ๏ ถามเถิดถึงความนัยจงไถ่ถาม ๏ เริ่มหัวข้อโดย: ทอฝัน ที่ 28 สิงหาคม 2010, 10:40:PM ...อยากถามเพียง...คำเดียว...มาเทียวทัก ค่าแห่งรักษ์...เกลียวกานท์...งานอักษร คือส่งเสริม...การศิลป์...กวินวอน หรือเพียงป้อน...ร่อนพร่ำ...ระบำใจ ...ศรัทธาท่วม...หลวมตัว...ระรัวจิต ขอเป็นศิษย์...ติดกับ...จะรับไหม หวังมีครู...เคียงค้ำ...นำฝันไกล จึงถามไถ่...นัยความ...มาตามตรง ......................//ทอฝันค่ะ หัวข้อ: Re: ๏ ถามเถิดถึงความนัยจงไถ่ถาม ๏ เริ่มหัวข้อโดย: คนสาธารณะ ที่ 28 สิงหาคม 2010, 11:10:PM e-no
ด้วยคำถามยามนี้ มีมาถึง คำตอบหนึ่งพึ่งรู้ ที่สู้ฝัน เพียงเดียวดายใต้ฟ้า นภาจันทร์ ใจเพ้อปันผันแปร จึงแพ้มา คำถามย้ำพร่ำเพรื่อ น่าเบื่อยิ่ง วางใจอิง นิ่งนอนซ่อนดีกว่า ไม่ขอถามตามใจ ใครใคร่ลา ฤาตามหาล้าแล้ว ขอแจวไกล ************************* ตอบ ท่านพี่น้อง e-no ๏ จึงหลากคำถามไถ่ที่ใจถัก ด้วยแห่งรักซ่อนสืบติดหลืบบ่วง คลำเงื่อนปมเปิดทางให้ว่าง,ทวง- คืน,ที่ห่วง หาคำ ตอบนำทาง ๏ ที่แห่งไหน หลายหับได้รับ-ตอบ คือส่งมอบเสียงมั่นไม่หวั่นหมาง เสียงอารมณ์อุ่นรัดเริ่มจัดวาง เติมความว่าง,วาดต่อให้พอเพียง ขอบคุณขอรับ นานเลยกว่าจะได้เข้ามาตอบ..ขออภัยยิ่งๆขอรับ หัวข้อ: Re: ๏ ถามเถิดถึงความนัยจงไถ่ถาม ๏ เริ่มหัวข้อโดย: คนสาธารณะ ที่ 28 สิงหาคม 2010, 11:15:PM ท่าน nara คห. 18
ถ้าเราจบ ความนัย ให้ไถ่ถาม ถ้าถึงยาม ต้องห่าง วางได้ไหม เธอจะปล่อย ฉันลง ตรงที่ใด ฉันต้องซุก ข้างใจ ใครไหนกัน ถ้าเราห่าง ร้างกัน วันพรุ่งนี้ เธอคนดี มีไหม ใครในฝัน คนที่จะ ดูแล เทคแคร์กัน ทำหน้าที่ แทนฉัน ขวัญของใจ ถ้าเราจบ ความนัย ใจคงเหงา ความฝันเรา ที่เคยสวย ด้วยสดใส คงต้องอับ มืดมัว สลัวใจ คนอ่อนไหว มีแค่ฉัน ฝันเดียวดาย ******************************* ตอบท่าน nara คห.18 ๏ ถึงทุกถาม ที่ถกในอก,ถั่ง- โถมความหวังเพียงสุขด้วยทุกเสียง- ที่บอกผ่านกลอนพร่ำกรุ่นสำเนียง มาร้อยเรียงคำเกริ่นที่เพลินกานท์ ๏ โอ..คำตอบ ที่เติม มาเสริมต่อ หามากพอกับถ้อย ที่ร้อยผ่าน เพราะเพลงยุทธ์ลึกล้ำดุจลำธาร ไหลเชี่ยว,ชาญ..เชิงรัก..ที่ถักแรง ๏ คือคำถาม ที่ถก..จากอกนั้น ยังหวาดหวั่นใจปร่าที่ล้าแปร่ง ตอบทุกถ้อยคำนี้ดั่งชี้แจง ในห้วงแห่ง..ใจถาม...จากความนัย ๒๓๐๐ ๒๘๐๘๕๓ สวัสดีขอรับ ขอบคุณยิ่งที่ร่วมแจมกันบ่อยๆครับ หัวข้อ: Re: ๏ ถามเถิดถึงความนัยจงไถ่ถาม ๏ เริ่มหัวข้อโดย: avatar ที่ 04 กันยายน 2010, 12:53:PM ๏ หนึ่งคำถามความนัยที่อยากถก หากหยิบยก ความส่งยังสงสัย หวั่นถ้อยคำชี้แจง จะแคลงใจ มิกล้าเอ่ย....ความนัย...ให้ใจรู้ ...................๏ .................... หัวข้อ: Re: ๏ ถามเถิดถึงความนัยจงไถ่ถาม ๏ เริ่มหัวข้อโดย: คนสาธารณะ ที่ 05 กันยายน 2010, 12:07:AM ตอบคุณ Avatar
คห. 20 - 21 และ 29 ขอรับ ขอบคุณที่ร่วมแจม..กลอนไพเราะขอรับ ๒๓๔๘ ๏ หวนคำนึงใจหากถ้าอยากหวน กลับคืน,ทวน..ทบก่อนจะย้อนกลับ นับวันเดือนปีผ่านแม้นานนับ ปลงสำทับใจผิดเพื่อปลิดปลง ๏ แล้วจึ่งเดินออกห่างหลายหว่างแล้ว ส่งการแผ้วผากสู่ประตูส่ง ลงกลอนลึกต่างร้องเสียงก้องลง แนวทางหลงหลากทางระหว่างแนว ๒๓๕๘ ๐๔๐๙๕๓ ว่าจะตอบทุกท่านให้หมดแต่ไม่ไหวขอรับง่วงมาก ตอนเช้าว่ากันต่อนะขอรับ อิอิ [ไฟล์แนบถูกลบโดยผู้ดำเนินการ] หัวข้อ: Re: ๏ ถามเถิดถึงความนัยจงไถ่ถาม ๏ เริ่มหัวข้อโดย: avatar ที่ 27 ตุลาคม 2010, 01:09:PM เมื่อความหมายบอกเรื่องอยู่เบื้องหน้า ก็เข้าใจปริศนา..ทุกคราที่ สบ-สัมผัส ละมุนอุ่นไมตรี ดังรายล้อมโลกนี้..ให้ปรีดา น้อมรับหนึ่งคำถามหวามรู้สึก ค่อยเผยผ่านส่วนลึก จนรู้ว่า ความผูกพันทุกช่วง ใช่ล่วงลา ยังล้นทรวงเสน่หา..ทุกคราไป หัวข้อ: Re: ๏ ถามเถิดถึงความนัยจงไถ่ถาม ๏ เริ่มหัวข้อโดย: ดิษฐา ที่ 27 ตุลาคม 2010, 02:02:PM ฤาสัมผัสความหมาย ดั่งคล้ายว่า ถ้อยวาจาเอื้อนเอ่ย เฉลยไข กระลักทรวงท่วมท้นจนล้นใจ จะหาไหนใดเปรียบ ฤาเทียบทัน เพียงคำถามยามนี้ มีเพียงหนึ่ง ประจักษ์ถึงทุกถ้อยดั่งรอยฝัน เฝ้าไถ่ถามความนัย ฤทัยพลัน มิอาจลั่นดั่งว่า วาจาลน ประทับทรวงล่วงล้ำ อยากย้ำเผย ใจเจ้าเอยเลยกลัว, รัว , สับสน ความนัยหนึ่งพึงพร่ำ เกินย้ำทน คำรักปนห่วงหวง จึงล่วงไกล |