พิมพ์หน้านี้ - .....ยังติดบ่วงเพลินถลำในค่ำคืน.....

ชุมชน บ้านกลอนไทย ชุมชนสำหรับคนไทยผู้รักกลอน

บทประพันธ์กลอนและบทกวีเพราะๆ => กลอนบอกรัก => ข้อความที่เริ่มโดย: คนสาธารณะ ที่ 09 มิถุนายน 2010, 11:44:PM



หัวข้อ: .....ยังติดบ่วงเพลินถลำในค่ำคืน.....
เริ่มหัวข้อโดย: คนสาธารณะ ที่ 09 มิถุนายน 2010, 11:44:PM

O ยังติดบ่วงเพลินถลำในค่ำคืน O


O ป่าฝนโปรยพลิ้วปรายสยายหยด
รินราดรดเม็ดหยาดมิขาดช่วง
ไอเย็นอบ,อุ่นหวังอยู่ทั้งปวง
ดังติดบ่วงเพลินถลำในค่ำคืน

O ยามค่ำดึกลมผ่อนตะลอนฝัน
ฟุ้งพราวอันจินตนาที่พาดื่น-
ดาดรุ้งเพชรพัดถึงตะลึงยืน
กระชากใจกลับชื่นในคืนพรำ-

O ฝน,ปรอยปรอยตกครั้งหลายจังหวะ
ตามสาระหลากมุมคือชุ่มฉ่ำ
เสริมลมป่าฝนโปรยเพื่อโรยบำ-
บวง,เพลงร่ำบอกคืนที่ตื่นตา

O คือ..คืนเริง..ไอรัก..ที่อุ่นลึก
ในยามดึก ยลโฉมประโลมฝ่า-
ฝันร่วมทางเราถวิลเพื่อจินตนา
ในคืนป่าฝนพรำที่ฉ่ำใจ

O เป็นระบำเพลงฝนที่ปนรัก
มีเบาหนักหน่วงลึกผนึกใส่
จังหวะฝนจังหวะลมผสมไป
พร้อมจังหวะรัก,ไล่สู่ใจเรา

O ป่าฝนโปรยปรายฉ่ำคืนค่ำที่
ยังคงมีคู่ปรับไม่อับเฉา
ถึงฟ้ามืดมองเห็นเป็นเงาเงา
แต่สองเราก็ผนึก..ในศึกนี้ ฯ


ณ. คืนฝนตก

[ไฟล์แนบถูกลบโดยผู้ดำเนินการ]


หัวข้อ: Re: .....ยังติดบ่วงเพลินถลำในค่ำคืน.....
เริ่มหัวข้อโดย: คนสาธารณะ ที่ 11 มิถุนายน 2010, 10:48:PM
หากลมฝน บนฟ้า คือข้าศึก
ต้องร้าวรึก ศึกหนัก แห่งศักดิ์ศรี
คงต้องฝืน ยืนซัด ทั้งปัฐพี
ด้วยไม่มี ที่ใด จะให้หลบ   ....(หทัยชนก)

คือฝนรักเปี่ยมรสที่สดชื่น
แห่งค่ำคืนฝนหลากมิอยากจบ-
ยังเพลินลึกแรงซับ ฉ่ำรับ..ซบ
เขื่อนทำนบเนินเขื่อนจะเคลื่อนแล้ว...


ขอบคุณ หทัยชนก ที่ร่วมแจมขอรับ




หัวข้อ: Re: .....ยังติดบ่วงเพลินถลำในค่ำคืน.....
เริ่มหัวข้อโดย: คนสาธารณะ ที่ 11 มิถุนายน 2010, 11:30:PM
หากลมฝน บนฟ้า คือข้าศึก
ต้องร้าวรึก ศึกหนัก แห่งศักดิ์ศรี
คงต้องฝืน ยืนซัด ทั้งปัฐพี
ด้วยไม่มี ที่ใด จะให้หลบ   ....(หทัยชนก)

คือฝนรักเปี่ยมรสที่สดชื่น
แห่งค่ำคืนฝนหลากมิอยากจบ-
ยังเพลินลึกแรงซับ ฉ่ำรับ..ซบ
เขื่อนทำนบเนินเขื่อนจะเคลื่อนแล้ว...(คนสาธารณะ)

ยืนเคว้งคว้าง พร่างพราย กลางสายฝน
เสียงอึงอล จนเพียง สำเนียงแผ่ว
น้ำล้นฝาย คล้ายเขื่อน ขับเคลื่อนแนว
ไร้วี่แวว แก้วพี่ ใจนี้ครวญ....(หทัยฯ)

แต่ลมฝากรับฝนที่หล่นพร่ำ
คงแต่ร่ำเติมรักไม่พักส่วน-
ที่เหลือขาดหลุดฝันให้รัญจวน
เพียงเสี้ยวส่วนหดไปยังไม่มี..........(คนสาฯ)


หัวข้อ: Re: .....ยังติดบ่วงเพลินถลำในค่ำคืน.....
เริ่มหัวข้อโดย: ดิษฐา ที่ 12 มิถุนายน 2010, 08:33:AM
หากลมฝน บนฟ้า คือข้าศึก
ต้องร้าวรึก ศึกหนัก แห่งศักดิ์ศรี
คงต้องฝืน ยืนซัด ทั้งปัฐพี
ด้วยไม่มี ที่ใด จะให้หลบ   ....(หทัยชนก)

คือฝนรักเปี่ยมรสที่สดชื่น
แห่งค่ำคืนฝนหลากมิอยากจบ-
ยังเพลินลึกแรงซับ ฉ่ำรับ..ซบ
เขื่อนทำนบเนินเขื่อนจะเคลื่อนแล้ว...(คนสาธารณะ)

ยืนเคว้งคว้าง พร่างพราย กลางสายฝน
เสียงอึงอล จนเพียง สำเนียงแผ่ว
น้ำล้นฝาย คล้ายเขื่อน ขับเคลื่อนแนว
ไร้วี่แวว แก้วพี่ ใจนี้ครวญ....(หทัยฯ)

แต่ลมฝากรับฝนที่หล่นพร่ำ
คงแต่ร่ำเติมรักไม่พักส่วน-
ที่เหลือขาดหลุดฝันให้รัญจวน
เพียงเสี้ยวส่วนหดไปยังไม่มี..........(คนสาฯ)

เมื่อฝนหล่น จนจาง ยังร้างหาย
หัวใจชาย ว่ายเวียน ย่อมเปลี่ยนสี
เมื่อรักเริ่ม เติมใจ ก็ใยดี
ไม่ถึงปี หนีหาย ดั่งสายลม.....(หทัยฯ).

พัดหนีหายกลายเป็นอื่นลืมแล้วสิ้น
คำลวงลิ้น ล่อหลอก กรอกยาขม
สายลมพัดกร่อนจิต ติดบ่วงตรม
ไม่สิ้นลม คำรักลืม เป็นอื่นไป.....(e-no)





หัวข้อ: Re: .....ยังติดบ่วงเพลินถลำในค่ำคืน.....
เริ่มหัวข้อโดย: คนสาธารณะ ที่ 12 มิถุนายน 2010, 10:01:AM
หากลมฝน บนฟ้า คือข้าศึก
ต้องร้าวรึก ศึกหนัก แห่งศักดิ์ศรี
คงต้องฝืน ยืนซัด ทั้งปัฐพี
ด้วยไม่มี ที่ใด จะให้หลบ   ....(หทัยชนก)

คือฝนรักเปี่ยมรสที่สดชื่น
แห่งค่ำคืนฝนหลากมิอยากจบ-
ยังเพลินลึกแรงซับ ฉ่ำรับ..ซบ
เขื่อนทำนบเนินเขื่อนจะเคลื่อนแล้ว...(คนสาธารณะ)

ยืนเคว้งคว้าง พร่างพราย กลางสายฝน
เสียงอึงอล จนเพียง สำเนียงแผ่ว
น้ำล้นฝาย คล้ายเขื่อน ขับเคลื่อนแนว
ไร้วี่แวว แก้วพี่ ใจนี้ครวญ....(หทัยฯ)

แต่ลมฝากรับฝนที่หล่นพร่ำ
คงแต่ร่ำเติมรักไม่พักส่วน-
ที่เหลือขาดหลุดฝันให้รัญจวน
เพียงเสี้ยวส่วนหดไปยังไม่มี..........(คนสาฯ)

เมื่อฝนหล่น จนจาง ยังร้างหาย
หัวใจชาย ว่ายเวียน ย่อมเปลี่ยนสี
เมื่อรักเริ่ม เติมใจ ก็ใยดี
ไม่ถึงปี หนีหาย ดั่งสายลม.....(หทัยฯ).

พัดหนีหายกลายเป็นอื่นลืมแล้วสิ้น
คำลวงลิ้น ล่อหลอก กรอกยาขม
สายลมพัดกร่อนจิต ติดบ่วงตรม
ไม่สิ้นลม คำรักลืม เป็นอื่นไป.....(e-no)

มีบางครั้งหลงผิดไปคิดอื่น
หญิงดาดดื่นมาสะกิดพาคิดใหม่
เลยหลงเพลินรอยยิ้มพริ้มละมัย
เพราะหัวใจอ่อนอ่อน...มันร้อนแรง......(คนสาฯ)


หัวข้อ: Re: .....ยังติดบ่วงเพลินถลำในค่ำคืน.....
เริ่มหัวข้อโดย: คนสาธารณะ ที่ 13 มิถุนายน 2010, 11:47:PM
มีบางครั้งหลงผิดไปคิดอื่น
หญิงดาดดื่นมาสะกิดพาคิดใหม่
เลยหลงเพลินรอยยิ้มพริ้มละมัย
เพราะหัวใจอ่อนอ่อน...มันร้อนแรง......(คนสาฯ)

เพียงแค่เห็น เป็นรัก  ยากหักจิต
จึงหลงผิด คิดแบบ กึ่งแอบแฝง
เพราะไม่ซึ้ง จึงแปลก ยากแจกแจง
รักจึงแกล้ง แฝงกาย จนคล้ายเลือน........(หทัยฯ)

เมื่อ ยักษ์ร้าย ย้ายรัก มาพักรบ
เวียน จนครบ จบเขียน คราเวียนเพื่อน
สู่ความเป็นรักแน่ไม่แชเชือน
จากคำเพื่อนสู่แฟนแนบแน่นนาน.........(คนสาฯ)


สัวสดีครับ คุณ e-no...ขอบคุณที่ร่วมแจมร่วมใจขอรับ อิอิ


หัวข้อ: Re: .....ยังติดบ่วงเพลินถลำในค่ำคืน.....
เริ่มหัวข้อโดย: ดิษฐา ที่ 14 มิถุนายน 2010, 12:12:AM
สัวสดีครับ คุณ e-no...ขอบคุณที่ร่วมแจมร่วมใจขอรับ อิอิ

ขอร่วมแจมแง้มบ้านเข้าทานทัก
มิตรเป็นยักษ์พักรบ เชิญขับขาน
อุ่นใจจิตคิดอีกที...ถ้าหนีงาน
มิตรจักรานพาลกินจะสิ้นใจ ...  emo_101


หัวข้อ: Re: .....ยังติดบ่วงเพลินถลำในค่ำคืน.....
เริ่มหัวข้อโดย: คนสาธารณะ ที่ 14 มิถุนายน 2010, 12:26:AM
ขอร่วมแจมแง้มบ้านเข้าทานทัก
มิตรเป็นยักษ์พักรบ เชิญขับขาน
อุ่นใจจิตคิดอีกที...ถ้าหนีงาน
มิตรจักรานพาลกินจะสิ้นใจ ........(e-no)

จากมิตรมิ่งเสริมใจมาใฝ่ฝัน
ทุกคืนวันขับกล่อมเพื่อล้อมใฝ่-
หาความอบอุ่นซับประทับใน
มาเสริมให้คึกครื้นระรื่นทรวง......(คนสาฯ)


หัวข้อ: Re: .....ยังติดบ่วงเพลินถลำในค่ำคืน.....
เริ่มหัวข้อโดย: คนสาธารณะ ที่ 14 มิถุนายน 2010, 09:28:AM
ขอร่วมแจมแง้มบ้านเข้าทานทัก
มิตรเป็นยักษ์พักรบ เชิญขับขาน
อุ่นใจจิตคิดอีกที...ถ้าหนีงาน
มิตรจักรานพาลกินจะสิ้นใจ ........(e-no)

จากมิตรมิ่งเสริมใจมาใฝ่ฝัน
ทุกคืนวันขับกล่อมเพื่อล้อมใฝ่-
หาความอบอุ่นซับประทับใน
มาเสริมให้คึกครื้นระรื่นทรวง......(คนสาฯ)

ก็เพราะยักษ์ พักรบ จึงพบรัก
ไม่จมปลัก  จากปม ที่ ถมถ่วง
จะเผาเรือน เพื่อนเรา  ก็เปล่ากลวง
ท่ามแดนสรวง ดวงแสน ยังแหงนมอง......(หทัยฯ)


เป็น นักร้อง-น้องรัก ยัง ปักเน้น-
ลอง มาเห็น-เม้นต์หา ไ ม่ ล้าหมอง
ครอง แต่งาม-ตามแง่ ใช่ แค่ตรอง
พา รักน้อง-ลองหนัก ไม่ พักลา................(คนสาฯ)



สวัสดีขอรับ
ท่าน   e-no
ท่าน หทัยฯ
และท่านผู้อ่านทุกๆท่าน
แจมกันหนุกหนานนะขอรับไม่ซีเรียสจ้า..อิอิ


โห้....คุณ หทัยฯ
เรียกอาจารย์เลยรึขอรับ
ยังมิกล้ายังมิกล้าขอรับ
งั้นเป็นจานใบ้หวยไปก่อนละกาน อิอิ งวดนี้
( 936...12...22...86 ) รับรองเจ๊ง 5555


หัวข้อ: Re: .....ยังติดบ่วงเพลินถลำในค่ำคืน.....
เริ่มหัวข้อโดย: ดิษฐา ที่ 14 มิถุนายน 2010, 12:18:PM
ก็เพราะยักษ์ พักรบ จึงพบรัก
ไม่จมปลัก  จากปม ที่ ถมถ่วง
จะเผาเรือน เพื่อนเรา  ก็เปล่ากลวง
ท่ามแดนสรวง ดวงแสน ยังแหงนมอง......(หทัยฯ)

เป็น นักร้อง-น้องรัก ยัง ปักเน้น-
ลอง มาเห็น-เม้นต์หา ไ ม่ ล้าหมอง
ครอง แต่งาม-ตามแง่ ใช่ แค่ตรอง
พา รักน้อง-ลองหนัก ไม่ พักลา................(คนสาฯ)

จะพักลา ช้านัก น้องจักกร่อย
ชะเง้อคอย พลอยเพ้อ ละเมอหา
แอบเสียบจ้อง มองเปรียบ ละเลียบมา
ขืนชักช้า ล้ารัก จะพักใจ


.... emo_31 emo_31..กว่าจะได้เกือบตาย..(อย่าเล่นอะไรยากนักสิ.. หุหุ  emo_23 emo_23)


หัวข้อ: Re: .....ยังติดบ่วงเพลินถลำในค่ำคืน.....
เริ่มหัวข้อโดย: คนสาธารณะ ที่ 15 มิถุนายน 2010, 10:00:PM
เพราะยักษ์ พักรบ จึงพบรัก
ไม่จมปลัก  จากปม ที่ ถมถ่วง
จะเผาเรือน เพื่อนเรา  ก็เปล่ากลวง
ท่ามแดนสรวง ดวงแสน ยังแหงนมอง......(หทัยฯ)

เป็น นักร้อง-น้องรัก ยัง ปักเน้น-
ลอง มาเห็น-เม้นต์หา ไ ม่ ล้าหมอง
ครอง แต่งาม-ตามแง่ ใช่ แค่ตรอง
พา รักน้อง-ลองหนัก ไม่ พักลา................(คนสาฯ)

จะพักลา ช้านัก น้องจักกร่อย
ชะเง้อคอย พลอยเพ้อ ละเมอหา
แอบเสียบจ้อง มองเปรียบ ละเลียบมา
ขืนชักช้า ล้ารัก จะพักใจ......................(e-no)

คราพิษปักใจป่วนต้องครวญ,ต่าง-
กับความห่างเมื่อก่อนเพลินตอนใฝ่
มาบัดนี้เขาหมางและร้างไกล
เพียงบางครั้งจึงได้...มาให้คลอ............(คราซนฯ)

สวัสดีครับ e-no
งั้นเล่นแบบง่ายๆดีกว่าเน๊อะ อิอิ

เอ..วันนี้หทัยฯไม่มาเลยฮิ


หัวข้อ: Re: .....ยังติดบ่วงเพลินถลำในค่ำคืน.....
เริ่มหัวข้อโดย: ดิษฐา ที่ 15 มิถุนายน 2010, 10:10:PM
เพราะยักษ์ พักรบ จึงพบรัก
ไม่จมปลัก  จากปม ที่ ถมถ่วง
จะเผาเรือน เพื่อนเรา  ก็เปล่ากลวง
ท่ามแดนสรวง ดวงแสน ยังแหงนมอง......(หทัยฯ)

เป็น นักร้อง-น้องรัก ยัง ปักเน้น-
ลอง มาเห็น-เม้นต์หา ไ ม่ ล้าหมอง
ครอง แต่งาม-ตามแง่ ใช่ แค่ตรอง
พา รักน้อง-ลองหนัก ไม่ พักลา................(คนสาฯ)

จะพักลา ช้านัก น้องจักกร่อย
ชะเง้อคอย พลอยเพ้อ ละเมอหา
แอบเสียบจ้อง มองเปรียบ ละเลียบมา
ขืนชักช้า ล้ารัก จะพักใจ......................(e-no)

คราพิษปักใจป่วนต้องครวญ,ต่าง-
กับความห่างเมื่อก่อนเพลินตอนใฝ่
มาบัดนี้เขาหมางและร้างไกล
เพียงบางครั้งจึงได้...มาให้คลอ............(คราซนฯ)

อันความห่างวางคู่เลยดูเหงา
คืนไร้เงาเฝ้าเสียง สำเนียงหนอ
จ้องกับจิตคิดอื่นใด ให้ใจพอ
พิษใดพ่อ..ขอถอน รัก สมัครลอง



หัวข้อ: Re: .....ยังติดบ่วงเพลินถลำในค่ำคืน.....
เริ่มหัวข้อโดย: คนสาธารณะ ที่ 15 มิถุนายน 2010, 11:38:PM
เพราะยักษ์ พักรบ จึงพบรัก
ไม่จมปลัก  จากปม ที่ ถมถ่วง
จะเผาเรือน เพื่อนเรา  ก็เปล่ากลวง
ท่ามแดนสรวง ดวงแสน ยังแหงนมอง......(หทัยฯ)

เป็น นักร้อง-น้องรัก ยัง ปักเน้น-
ลอง มาเห็น-เม้นต์หา ไ ม่ ล้าหมอง
ครอง แต่งาม-ตามแง่ ใช่ แค่ตรอง
พา รักน้อง-ลองหนัก ไม่ พักลา................(คนสาฯ)

จะพักลา ช้านัก น้องจักกร่อย
ชะเง้อคอย พลอยเพ้อ ละเมอหา
แอบเสียบจ้อง มองเปรียบ ละเลียบมา
ขืนชักช้า ล้ารัก จะพักใจ......................(e-no)

คราพิษปักใจป่วนต้องครวญ,ต่าง-
กับความห่างเมื่อก่อนเพลินตอนใฝ่
มาบัดนี้เขาหมางและร้างไกล
เพียงบางครั้งจึงได้...มาให้คลอ............(คราซนฯ)

อันความห่างวางคู่เลยดูเหงา
คืนไร้เงาเฝ้าเสียง สำเนียงหนอ
จ้องกับจิตคิดอื่นใด ให้ใจพอ
พิษใดพ่อ..ขอถอน รัก สมัครลอง.......(e-no)

ต้องจนทำ จำทน ดิ้นรนสู้
ด้วยไร้ครู รู้ใคร่ ใฝ่สนอง
ไร้คนไส ใครสน ทนประคอง
ไม่สมปอง สองปม ทับถมใจ...(หทัยฯ)

เห็นใคร  อยู่-ครูใหญ่ เคย ให้เข็น
ใฝ่ปอง เน้น-เป็นน้อง จึง พร่องไป
ใครหนอ รัก-หนักหล่อ เจ้า คลอไหน
เธอจึง ใฝ่-ใจผึ่ง แล้ว ถึงเจอ.............(คราซนฯ)




หัวข้อ: Re: .....ยังติดบ่วงเพลินถลำในค่ำคืน.....
เริ่มหัวข้อโดย: คนสาธารณะ ที่ 17 มิถุนายน 2010, 07:51:AM
อันความห่างวางคู่เลยดูเหงา
คืนไร้เงาเฝ้าเสียง สำเนียงหนอ
จ้องกับจิตคิดอื่นใด ให้ใจพอ
พิษใดพ่อ..ขอถอน รัก สมัครลอง.......(e-no)

ต้อง จนทำ จำทน ดิ้นรนสู้
ด้วย ไร้ครู รู้ใคร่ ใฝ่สนอง
ไร้ คนไส ใครสน ทนประคอง
ไม่ สมปอง สองปม ทับถมใจ.............(หทัยฯ)

เห็น ใคร  อยู่-ครูใหญ่ เคย ให้เข็น
ใฝ่ ปอง เน้น-เป็นน้อง จึง พร่องไป
ใคร หนอ รัก-หนักหล่อ เจ้า คลอไหน
 เธอ จึง ใฝ่-ใจผึ่ง แล้ว ถึงเจอ.............(คราซนฯ)

เพราะ รั้นนัก รักนั้น  จึงพลันหมอง
พวก น้องรัก  นักร้อง  เฝ้ามองเหม่อ
ไร้ หนทาง ห่างทน  รักปรนเปรอ
เพ้อ พร่ำเธอ เผลอทำ ฉันคร่ำครวญ.....(หทัยฯ)

จง ทอรัก ถักรอ  การต่อตั้ง
ให้ พาหวัง ฟังว่า  โปรดอย่าหวน-
คืน, วันเก่า เว้ากัน  ต่างรัญจวน
เรา จึงครวญ จวนครึ่ง  อีกหนึ่งครา.......(คราซนฯ)
 


หัวข้อ: Re: .....ยังติดบ่วงเพลินถลำในค่ำคืน.....
เริ่มหัวข้อโดย: คนสาธารณะ ที่ 17 มิถุนายน 2010, 11:00:PM
เพราะ รั้นนัก รักนั้น จึงพลันหมอง
พวก น้องรัก  นักร้อง เฝ้ามองเหม่อ
ไร้ หนทาง ห่างทน รักปรนเปรอ
เพ้อ พร่ำเธอ เผลอทำ ฉันคร่ำครวญ.....(หทัยฯ)

จง ทอรัก ถักรอ การต่อตั้ง
ให้ พาหวัง ฟังว่า โปรดอย่าหวน-
คืน, วันเก่า เว้ากัน ต่างรัญจวน
เรา จึงครวญ จวนครึ่ง อีกหนึ่งครา.......(คราซนฯ)

หมายสลัก ถักร้อย เป็น ถ้อยรัก
ด้วยใจภักดิ์ หักไร้ ให้รัก หา
คิดสอยดาว สาวดอย  ลอยธารา
แล้วคำหล้า ค่าล้ำ ก็ช้ำตรม............(หทัยฯ)

จง รัก, เถิด เลิศถัก ใช่,  จักหลง
ลม คลุก  ลง คงลุก จึง ลุกข่ม
จม ติด ความ ตามคิดให้ จิตตรม
หมาย  ครา  บ่ม ขมบ่า เพื่อ มาคลาย.......(คราซนฯ)


หวัดดีขอรับ หทัยฯ
ท่าน e-no สวัสดีขอรับ


หัวข้อ: Re: .....ยังติดบ่วงเพลินถลำในค่ำคืน.....
เริ่มหัวข้อโดย: ดิษฐา ที่ 18 มิถุนายน 2010, 12:18:AM
รักคงคล้ายกลายเปลี่ยนวนเวียนหนัก
จิตจมปรักหักเห คิดเทขาย
ไม่ริลองหมองตรม ระทมกาย
ยังไม่หน่าย บ่ายเบี่ยง ริเลี่ยงลอง


หัวข้อ: Re: .....ยังติดบ่วงเพลินถลำในค่ำคืน.....
เริ่มหัวข้อโดย: คนสาธารณะ ที่ 18 มิถุนายน 2010, 12:26:AM
รักคงคล้ายกลายเปลี่ยนวนเวียนหนัก
จิตจมปรักหักเห คิดเทขาย
ไม่ริลองหมองตรม ระทมกาย
ยังไม่หน่าย บ่ายเบี่ยง ริเลี่ยงลอง........(e-no)

ฤาจะรักเหนี่ยวรั้งไม่ยั้งหยุด
เกินจักฉุดใจอุ่นไม่ขุ่นหมอง
จงเริ่มต่อรักเติมมาเสริมครอง-
คู่เคียงกล่องดวงใจอย่าไหวคลอน.......(คราซนฯ)


ครับสวัสดี
ยามดึกครับ e-no


หัวข้อ: Re: .....ยังติดบ่วงเพลินถลำในค่ำคืน.....
เริ่มหัวข้อโดย: ดิษฐา ที่ 18 มิถุนายน 2010, 12:37:AM
รักคงคล้ายกลายเปลี่ยนวนเวียนหนัก
จิตจมปรักหักเห คิดเทขาย
ไม่ริลองหมองตรม ระทมกาย
ยังไม่หน่าย บ่ายเบี่ยง ริเลี่ยงลอง........(e-no)

ฤาจะรักเหนี่ยวรั้งไม่ยั้งหยุด
เกินจักฉุดใจอุ่นไม่ขุ่นหมอง
จงเริ่มต่อรักเติมมาเสริมครอง-
คู่เคียงกล่องดวงใจอย่าไหวคลอน.......(คราซนฯ)

อาจด้วยเพราะเสาะหาว่าไร้ผล
ขาดคนดลค้นคิด ลิขิตสอน
คราพบมัก รักคุด จึงหยุดนอน
เอนกายผ่อนรอนจิต ตัดสิทธิ์ไป

ในคืนนี้ไร้ดาว หรือพราวแสง
ไม่ขอแบ่งแข่งใจ ให้หม่นไหม้
ขออยู่ตัวชั่วครู่  นิ่งดูใจ
ซึมซับไว้ ในห่วงหา พาอาวรณ์


สวัสดียามดึกเช่นกันค่ะ ... นอนดึกกันจัง
ขอลาไปนอนแล้วจ๊ะ... ง่วงจนนั่งหาวแล้ว ... emo_12



หัวข้อ: Re: .....ยังติดบ่วงเพลินถลำในค่ำคืน.....
เริ่มหัวข้อโดย: คนสาธารณะ ที่ 18 มิถุนายน 2010, 10:03:AM
อาจด้วยเพราะเสาะหาว่าไร้ผล
ขาดคนดลค้นคิด ลิขิตสอน
คราพบมัก รักคุด จึงหยุดนอน
เอนกายผ่อนรอนจิต ตัดสิทธิ์ไป

ในคืนนี้ไร้ดาว หรือพราวแสง
ไม่ขอแบ่งแข่งใจ ให้หม่นไหม้
ขออยู่ตัวชั่วครู่  นิ่งดูใจ
ซึมซับไว้ ในห่วงหา พาอาวรณ์.........(e-no)

เถิดจงเริ่มเปิดรับกระชับแทรก
เพื่อไหวแหวกพบหวานดั่งกาลก่อน
เป็นแรงใจยามพรากบางฉากตอน
มาผิวผ่อนเพลินรักเข้าถักทรวง

หยุดการหยุดนิ่งไหว...เพื่อไปต่อ
หยุดการท้อถอยถดที่รดร่วง
สร้างแต่ความเปล่งปลั่งด้วยทั้งปวง
เพื่อแหวกบ่วงความเหงา...ทุกเช้าเย็น.........(คราซนฯ)


สวัสดีครับ
e-no
หทัยฯ
ผวนมากๆเดี๋ยวคุณe-noจะเครียดขอรับ อิอิ


หัวข้อ: Re: .....ยังติดบ่วงเพลินถลำในค่ำคืน.....
เริ่มหัวข้อโดย: คนสาธารณะ ที่ 05 กรกฎาคม 2010, 08:54:PM
๐ เถิดจงเริ่มเปิดรับกระชับแทรก
เพื่อไหวแหวกพบหวานดั่งกาลก่อน
เป็นแรงใจยามพรากบางฉากตอน
มาผิวผ่อนเพลินรักเข้าถักทรวง

๐ หยุดการหยุดนิ่งไหว...เพื่อไปต่อ
หยุดการท้อถอยถดที่รดร่วง
สร้างแต่ความเปล่งปลั่งด้วยทั้งปวง
เพื่อแหวกบ่วงความเหงา...ทุกเช้าเย็น ฯ

๐ ทิวแถบป่าเพลินปลุกเสียงอุกอ่วน
ซ่าสาดมวลไม้อื่นดูดื่นเห็น
เม็ดใสพร่างร่วงผ่านซ่านกระเซ็น
กระแตเต้นไต่หลบซบชายคา ฯ

๐ โลมฝนรักเพลินลึกในศึกรบ
มาบรรจบบรรเจิดพริ้มเพริศกว่า-
สิ่งใดอื่นร้อยอันที่พรรณนา
ฤาเลอค่าในคืนเราชื่นกัน

๐ เป็นสายฝนแห่งฝันในวันนี้
ด้วยคืนที่โถมถั่งทุกฝั่งฝัน
ระรอกคลื่นเกลียวขับกระชับพลัน-
พุ่งพวยหวั่นหวาดหวิวต่างพลิ้วเพลิน

๐ อา..ฝนรักเอมชื่นยังตื่นกลั้ว
ลมไหวรัวเย็นร่ำเราพร่ำเกริ่น
ให้คงอยู่ยืนยาวอย่าก้าวเดิน
เพราะอยากเพลินเพลงฉ่ำอย่างค่ำนี้.ฯ


หัวข้อ: Re: .....ยังติดบ่วงเพลินถลำในค่ำคืน.....
เริ่มหัวข้อโดย: ดิษฐา ที่ 05 กรกฎาคม 2010, 10:41:PM
เดินหอบหิ้ว ลิ้วลมคลายห่มหนาว
จันทร์นวลพราวเย้าหยอกคอยบอกชี้
ตามทางเดินเหินรัก นำชักที
สุขฤดี ปรีอิ่ม ทำพริ้มใจ


หัวข้อ: Re: .....ยังติดบ่วงเพลินถลำในค่ำคืน.....
เริ่มหัวข้อโดย: คนสาธารณะ ที่ 05 กรกฎาคม 2010, 11:30:PM
เดินหอบหิ้ว ลิ้วลมคลายห่มหนาว
จันทร์นวลพราวเย้าหยอกคอยบอกชี้
ตามทางเดินเหินรัก นำชักที่
สุขฤดี ปรีอิ่ม ทำพริ้มใจ          (e-no)

๐ เถิดสัญจรกลางใจเพื่อใฝ่ฝัน
ข้ามคืนวันสุขสนานดังหว่านไถ
เพื่อปลูกกล้าต้นรักอิ่มพักไอ-
อุ่นเอมใส่เสริมก่อช่วยต่อเติม-

๐ เต็มความชื่นตื่นเต้นจะเห็นรัก
ร่วมทางถักแรงถ่วงสร้างบ่วงเสริม-
สุขคงเป็นจริงนะถ้าประเดิม
ร่วมแรงเพิ่มรสฝันที่กลั่นเกลา

๐ ครวญเพลงรักพักค่ำในย่ำนี้
หวังคงมีใจมั่นกว่าวันเก่า
โอม..เพี้ยง ! ฝากจิตพร่ำผ่านลำเนา
เพื่อบอกเล่า..เรื่อง,อุ่น ที่กรุ่นทรวง !


หัวข้อ: Re: .....ยังติดบ่วงเพลินถลำในค่ำคืน.....
เริ่มหัวข้อโดย: ปางสีฝุ่น ที่ 06 กรกฎาคม 2010, 03:31:PM

ดั่งเมฆเทาเจ้าหุงและปรุงฝน
จะรินหล่นกี่หาบมิทราบห่า
พอลมพริ้วลิ่วพัดระบัดมา
จึ่งรู้ว่า.ค่ำนี้.มีฝนพรำ

หรือว่าฟ้าแสร้งสรวลสำนวนโศก
เร้าบางแหล่งบนโลกวิโยคถลำ
หรือชะล้างแผลพิษวิกฤติกรรม
ที่เคยซ้ำกระหน่ำเซาะกระเทาะทาง.


ข้าพเจ้าฯ..ไปไม่เป็นเสียแล้วสิ...

สบายดีนะท่านนะฯ.


หัวข้อ: Re: .....ยังติดบ่วงเพลินถลำในค่ำคืน.....
เริ่มหัวข้อโดย: คนสาธารณะ ที่ 08 กรกฎาคม 2010, 08:56:PM
- ในห้องเขาผ่านเงาฝน -

๏ ในห้องเขาเงาทุมสองหนุ่มสาว
สืบเรื่องราวรักป่ายยามสายฝน-
เรียงเม็ดหล่นเพลินหลั่งถึงฝั่งชล
เงาสองคนยังแนบเอินแอบอิง  ๚

๏ แสงไฟหรี่พอเลือนมองเพื่อนบ้าน
ไอเย็นผ่านยามผ่าวพอหนาวผิง
คงซบความอุ่นลึกผนึกพิง
อาบไอหญิง-ชายห่มช่วยข่มเย็น ๚

๏ ยินแต่เสียงฝนฟาดพาสาดกลั้ว
ถั่งแรงรัวโถมหนักเงารักเห็น
หญิงที่ชายคลอเคล้า,..ก่อนเขาเป็น-
คนเคยเช่นตอนนี้..แทนที่เรา  ๚

๏ ในห้องพักของเขาผ่านเงาฝน
เห็นดำหม่นชายใหม่ในที่เก่า
แสงพวยพุ่งผ่านเห็นทอเป็นเลา
แอบมองเขาใจหม่น..คืนฝนพรำ  ๚

๏ เถิดใจเอยโอมอ่านเหตุการณ์ออก
เงาเคลื่อนบอกโยงขยับกระชับ,ย่ำ-
เพลงยุทธ์รักแจ่มรส..ต้องจดจำ
ยามคืนร่ำฝนโลมเจ้าโหมใคร ๚

๏ ในห้องเขาเงาฝนพรูหล่นผ่าน
เป็นสายม่าน,เงาหม่นเขาคนใหม่
ด้วยเพลงรักหลั่งชื่นเหนืออื่นใด
แต่ห้วงใจเราหม่น..เหลือทนแล้ว.! ๚ะ๛